Share

บทที่ 7

last update Last Updated: 2025-02-21 05:33:45

7

ความซวยมาเยื่อนถึงที่

(มีภาพประกอบ)

(เลิกคลาส)

"โอเค เดี๋ยวครูจะให้เลิกคลาสก่อนเวลาสามสิบนาทีนะ" อาจารย์วิลเลี่ยมเงยหน้าขึ้นถามทุกคนอีกครั้ง

"เพราะวันนี้คณะวิศวะเรามีนัดรวมตัวกันที่ลานกิจกรรม เรื่องการรับน้องปีหนึ่ง" อาจารย์วิลเลี่ยมปิดหนังสือลงก่อนจะเดินตรงเข้ามาหยุดตรงหน้าพวกเราทั้งห้าคน

"ถ้าจะเข้าวิศวะแค่ย้ายหน่วยกิจอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องรับรุ่นด้วย" อาจารย์พูดขึ้นกับเพอร์ซุสก่อนจะกดปิดจอโปรเจคเตอร์ด้วยรีโมท

"ทุกคนกลับได้เลย ยกเว้นพิมพ์ตะวัน ครูจะคุยเรื่องงานเด็กทุนปีนี้น่ะ" อาจารย์วิลเลี่ยมเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ พร้อมกับหยิบแฟ้มเอกสารขึ้นมารอ

"งั้นเจอกันหน้าลานรับน้องนะ พวกกูไปดูดบุหรี่ก่อน" อาร์เดลหันมาบอกกับฉัน และใช้หางตามองทางเพอร์ซุสเล็กน้อย

ก่อนที่พวกมันทั้งสี่คนจะลุกจากโต๊ะ พร้อมกับสะพายกระเป๋าเดินนำออกจากห้องไปจนหมด เหลือแค่เพอร์ซุสที่ยังคงนั่งเปิดชีทเรียนอ่านไปคร่าว ๆ ก่อนจะเก็บใส่กระเป๋าและเดินออกไปเป็นคนสุดท้าย

ฟุ่บ! แผ่นกระดาษตารางชั่งโมงทุนที่ฉันต้องทำให้กับทางมหาลัย ซึ่งก็จะเป็นพวกกิจกรรมแทบจะทุกกิจกรรมของมหาลัยเลย ไม่ว่าจะจัดเตรียมงานประชุม รับน้อง หรือกีฬาสี เด็กทุนล้วนแต่ต้องรับผิดชอบทั้งหมด

(อย่างที่รู้กันดี..โลกนี้ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรี ๆ)

(ค่าเทอมปีละห้าถึงหกแสน แค่ทำงานง่าย ๆ แบบนี้ถือว่าคุ้มมากแล้วจริง ๆ สำหรับเด็กทุนเรียนเต็มจำนวนเช่นฉัน)

"อันนี้คือตารางชั่วโมงทุนอัปเดตจากห้องทะเบียนนะ ชั่วโมงทุนปีนี้กับเวลาเรียนค่อนข้างคาบเกี่ยวกันเยอะเลยนะ"

"ปีนี้อาจจะเหนื่อยหน่อย" อาจารย์วิลเลี่ยมพูดขึ้นเพราะท่านคือคนที่เซ็นชื่อลงบนใบก่อนจะยื่นให้ฉัน

"ขอบคุณค่ะอาจารย์ หนูจะตั้งใจทำอย่างเต็มที่" ฉันยกมือไหว้อาจารย์วิลเลี่ยมไป ถึงแม้ท่านจะดุแต่ในความดุ ความเนี๊ยบก็ล้วนแต่มีความหวังดีมอบให้นักศึกษาทุกคนเสมอจริง ๆ

หลังจากคุยเรื่องชั่วโมงทุนเสร็จ ฉันก็เดินสะพายกระเป๋าออกมาจากห้อง เตรียมจะเดินตรงไปลานกิจกรรม

ฟุ่บ!! ทันทีที่ปิดประตูห้องเลคเซอร์ หัวใจก็แทบจะวายเลยจริง ๆ เพราะ..

"ชะเชี้ยยย!!" ฉันเอามือลูบอกตัวเองด้วยความตกใจ เมื่อเจอเพอร์ซุสยืนกอดอก รออยู่ก่อนแล้ว

"คนเถื่อน ๆ อย่างเธอเนี่ย..ไม่น่าตกใจอะไรง่าย ๆ เลยนะ" เขาพูดขึ้นพร้อมกับก้าวขาเดินตรงหน้าของฉัน

"มีอะไรกับฉันอีกละ?" ฉันเลิกคิ้วถามกลับไปอย่างหัวเสีย

"ห๊ะ??" ไอ้ฝรั่งหัวทองเบิกตาโตขึ้นมาทันที

"มีอะไรกับเธออะนะ?" ร่างสูงมองฉัน พร้อมกับประสานมือเข้าด้วยกันและทำท่าทางแปลก ๆ แบบประสานและเอาส้นมือชนกันเน้น ๆ

"อะ..ไอ้บ้า!!" ฉันรีบดึงมือของไอ้เสาไฟฟ้าลงทันที เพราะกลัวคนอื่นที่เดินผ่านไปผ่านมาจะเข้าใจผิดเอา

"โอ๊ย!! มันไม่ได้หมายความแบบนั้นโว้ย หมายถึง...มีปัญหา มีธุระ .แบบนายน่ะ....มี...ห่าอะไรกับฉันอีก?" ฉันเกาหัวตัวเองซ้ำ ๆ ก่อนจะรีบพูดแก้ไปทันควัน

(นี่เขาไม่เข้าใจภาษาไทย หรือฉันที่พูดภาษาไทยไม่ถูกต้องวะ)

ฟุ่บ!! ร่างสูงยกรองเท้าที่เต็มไปด้วยคราบโคลนจากรอยเท้าเปื้อน ๆ ของฉัน ไม่รวมกับรอยหมึกซึมที่เลอะเต็มรองเท้าสีขาวล้วนแบรนด์ดังที่ราคาเกือบเจ็ดหมื่นจริง ๆ เท่าที่เสิร์ชหาจากในเน็ตมากับไอ้ออโต้

(รองเท้าบ้าอะไรวะเจ็ดหมื่น ไม่ต้องขายไต ชดใช้เลยเหรอไง) ฉันหน้าเสียเล็กน้อย และทำได้แค่พึมพำในใจ

"แล้วไง?" ก่อนจะปากเก่งสู้ไปก่อน แม้ว่าใจจะเต้นตุบ ๆ ๆ แทบจะหลุดออกมาเลย

"เธอจะ..ชดใช้ยังไง?" เขาเลิกคิ้วถามกลับมาเสียงกวน ๆ ก่อนจะยื่นรองเท้ามาแทบจะฟาดใส่หน้าของฉันอยู่แล้ว

"ทำไมฉันต้องรับผิดชอบด้วย ก็นายยื่นเท้ามาเอง..ฉันไม่เห็นก็เลยเหยียบไป" ฉันข่มความกลัวไว้ในใจและเงยหน้าตอบกลับอย่างสู้สายตา

"เอางี้..อะ..ฉันให้นายทำคืนก็ได้" ฉันยื่นรองเท้าผ้าใบสีขาวของตัวเอง ที่ใส่มาสามปีแถมซักจนขาวสะอาดชนิดที่ยี่ห้อหลุดไปเป็นชาติไปตรงหน้าของเขา

"เหยียบสิ..หรืออยากจะละเลงปากกาอะไรก็เชิญเลย" ฉันยื่นปลายเท้าของตัวเองไปตรงหน้าของเขา

"นี่! ฉันไม่มีเวลาเล่นกับเธอหรอกนะ" เขาจ้องหน้าฉันอย่างเอาเรื่อง

ฟุ่บบบ!! พร้อมกับยัดรองเท้าผ้าใบของตัวเองให้กับฉัน

"ถ้าเธอไม่มีจ่ายคืน ก็เอาไปซักให้สะอาดซะ"

"แต่ถ้าทำไม่ได้ก็..เอาเงินมาเจ็ดหมื่น"

"กะ..ก็ได้..แหมรอยแค่นี้เองทำเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต!" ฉันรีบตอบกลับไปทันที

แม้รู้ดีว่ามันแทบไม่มีทางเป็นไปได้เลยเพราะหมึกซึมมันซึมลึกเข้าไปในเนื้อของผ้าใบแล้วจริง ๆ

(งื้อ ๆ ๆ พระเจ้าช่วยด้วย ๆ)

"มีธุระแค่นี้ใช่ไหม? เดี๋ยวฉันจะได้รีบเอากลับไปซักมาคืนให้!" ฉันตอบไปแบบเสียงแข็ง ๆ ก่อนจะเดินหันหลังเตรียมจะไปหาที่ซักรองเท้าให้หมอนี่ ก่อนที่คราบจะฝั่งลึกไปกว่านี้

หมับ!! ยังไม่ทันที่ฉันจะเดินไปไหนได้ มือหนาของเขาก็คว้าไหล่ของฉันเอาไว้อีกครั้ง

"เดี๋ยว"

"อะไรอีก?" ฉันขมวดคิ้วหันไปถามด้วยเสียงเอื้อม ๆ

"..ถอดรองเท้าของเธอมา" เขาเหลือบตามองลงไปที่รองเท้าของฉัน

"อะไรนะ?" ฉันยิ่งงงหนักกว่าเดิม

"เธอนี่หูหนวกรึไง..ฉันบอกว่าถอดรองเท้าเธอมา ฉันจะใส่" ร่างสูงโน้มตัวเข้ามาดึงหูของฉันไปพูดใกล้ ๆ

"นายจะบ้ารึไง เท้าฉันเล็กกว่าเธอเป็นเท่าเลย ถ้านายมาใส่รองเท้าฉัน..รองเท้าฉันก็พังพอดี?" ฉันส่ายหน้าอย่างไม่เอาด้วยแน่ ๆ

"แล้วเธอจะให้ฉันเดินเท้าเปล่า ไปรับน้องรึไง?" เขาเอียงคอถามด้วยสีหน้าจริงจังเหมือนกดดันฉันไปในตัว

"…เออ ๆ ๆ ...เอาไป" ฉันทำได้แค่ยืนกำหมัดแน่น ก่อนจะก้มลงถอดรองเท้าตัวเองให้กับเขาไป

เพอร์ซุสยิ้มออกมาและสอดเท้าของเขาเข้าไปในรองเท้าคู่เล็กของฉัน ซึ่งแม้ว่ามันจะเข้าไปได้แค่ครึ่งเท้าแต่เขาก็ยิ้มออกมาอย่างหน้าระรื่น เหมือนดีใจที่ได้แกล้งฉันคืน

"ไอ้.." ฉันแทบอยากจะปารองเท้าใส่หัวหมอนี่จริง ๆ แต่คดีเก่าที่ยังไม่เคลียร์มันเยอะมากซะจนกลัวจะโดนทวงค่าเสียหายอยู่เหมือนกัน

"ตั้งสติหน่อย ๆ พิมพ์ตะวัน ๆ เธอไม่ได้รวย ๆ " ฉันพยายามหายใจเข้าและออกเพื่อข่มความโกรธเอาไว้ ไม่ให้พลั้งพลาดทำอะไรที่ขาดสติอีก

ฉันก้มมองนาฬิกาก่อนจะรีบบิดมอเตอร์ไซต์กลับไปที่หอพักนักศึกษา ที่อยู่ติดกับมหาลัย เพื่อแช่รองเท้าของไอ้ฝรั่งจอมหื่นลงในกะละมังซักผ้าก่อน

พร้อมกับเทผงซักฟอกแทบจะเกือบทั้งถุง ทั้งขยี้ รวมถึงนั่งภาวนาให้คราบหมึกมันหลุดออกมา

แต่นั่งซักขยี้ ๆ ๆ ซ้ำจนมือแทบหัก คราบปากกามันก็ไม่ยอมหลุดออกเลยจริง ๆ

"ซวยแน่ ๆ ๆ " ฉันทำได้แค่นั่งทุบหัวตัวเองซ้ำ ๆ

อื้อ ๆ ๆ (เสียงโทรศัพท์)

((ออโต้) )

"ฮัลโหลมึง.." ฉันกดรับสายมันไปทันที

(ไอ้พิมพ์ มึงอยู่ไหนเนี่ย..รับน้องจะเริ่มแล้ว)

"เออ ๆ อีกห้านาทีกูไป" ฉันรีบเปิดน้ำล้างมือและแช่รองเท้าของเขาไว้ แต่คิดแล้วว่ายังไงก็คงซักให้ขาวสะอาดตามเดิมไม่ได้แน่ ๆ

"เฮ่อ! ซื้อของก็อปให้แทนได้ไหมวะ?" ฉันนั่งคิดมาตลอดทางที่บิดมอเตอร์ไซต์กลับมาที่มหาลัย

ลานกิจกรรม

มหาลัย อเธน่า

"คณะเราอยู่กันแบบพี่แบบน้อง ในวันที่คุณก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวิศวะ" รุ่นพี่ปีสี่โฆษกประจำคณะประกาศออกไมค์ ขณะที่พวกรุ่นน้องทุกคนนั่งเข้าแถวกันอย่างเป็นระเบียบ

"โปรดจงรู้เอาไว้ว่าเราคือครอบครัว"

"มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน"

"และต่อให้พวกคุณจะผ่านการเข้าค่ายรับน้องของทางมหาลัย ไม่ได้หมายความว่าพวกผมจะรับคุณเข้ารุ่น"

"ทำเนียบรุ่นของเรา ใครก็รู้ว่าโหดมากแค่ไหน..ดังนั้นผมขอถามอีกครั้งว่ามีใครจะถอดใจไหม?"

"ไม่มี!!" รุ่นน้องทุกคนตะโกนตอบ

"มีไหม..ไม่ได้ยิน??" รุ่นพี่ปีสี่เอ่ยถามซ้ำอีกครั้ง

"ไม่มี!!" รุ่นน้องก็ตะเบิดตอบกลับอย่างสุดเสียง

"แจกผ้าพันคอ!" รุ่นพี่ปีสี่คนเดิมหันมาบอกกับทางพวกปีสาม ซึ่งเราก็เอาผ้าพันคอคำว่า โซตัส

"โซตัส SOTUS" รุ่นพี่ปีสี่พูดขึ้นพร้อมกับสั่งให้ ปีสามเดินเข้าไปช่วยกันผูกผ้าพันคอให้กับรุ่นน้องปีหนึ่ง เหมือนเป็นการต้อนรับพวกเขาเข้าสู่คณะ

ซึ่งคณะของเราจะให้ความเคารพในลำดับชั้นปี มาก ๆ ดังนั้นพี่ปีสี่สั่งอะไรรุ่นน้องก็ต้องทำตาม

การผูกผ้าพันคอเป็นหน้าที่ของรุ่นพี่ปีสาม แต่การมอลเกียร์รุ่นถึงจะเป็นหน้าที่ของพี่ปีสี่ หรือชั้นปีที่สูงที่สุด

"Seniority ให้ความเคารพต่อรุ่นพี่ ผู้ที่อาวุโสกว่า"

"Order เคารพในคำสั่ง และกฎระเบียบวินัย"

"Tradition สืบสานประเพณีที่ส่งต่อ ๆ กันมา"

"Unity ความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียว"

"Spirit จิตวิญญาณ และความเห็นใจ มีน้ำใจ ช่วยเหลือกันและกัน"

"กูจองน้องคนนั้น" ไอ้ออโต้รีบเดินไปหยุดตรงหน้าแถวของสาวน้อยหน้าใสวัยคนหนึ่งทันที

"หน้าหมอซะจริง" ฉันยังไม่ได้ด่ามันก็วิ่งจู๊ดตรงไปหาน้องเขาแล้ว

วิศวะเราก็มีผู้หญิงเรียนอยู่เหมือนกันนะ แต่แค่มีน้อยมาก ๆ เท่านั้นเอง ปีละไม่ถึงสิบคน จากทั้งคณะที่มีเกือบ ๆ ร้อยคนได้

ในตอนที่ฉันกำลังเลือกหาน้องปีหนึ่งที่ว่าง ๆ เผื่อจะเดินไปผูกผ้าพันคอให้ แว๊บหนึ่งฉันก็นึกสงสัยขึ้นมาเหมือนกันว่าคนอย่างเพอร์ซุส จะมาร่วมกิจกรรมแบบนี้มั้ยนะ เพราะยังไงซะเขาก็ถือเป็นรุ่นพี่ปีสี่ แถมยังมาจากคณะที่เป็นอริกับเราอีกด้วย

"มองหาฉันเหรอ?" แต่แล้วร่างสูงเป็นฝ่ายเดินตรงเข้ามาหาฉันแทน

(เจอหน้าหมอนี่ทีไร..มีแต่เรื่องซวย ๆ ทุกทีจริง ๆ )

"ฉันจะมองหานายทำไมไม่ทราบ?" ฉันเงยหน้าถามกลับไปอย่างกวน ๆ

"ผูกผ้าผัดคอให้ฉัน" ร่างสูงเดินมาหยุดตรงหน้าของฉัน

"ทำไมฉันต้องผูกให้นายด้วยไม่ทราบฮะ?" ฉันกอดอกถามกลับอย่างถือไพ่เหนือกว่า

"เพราะฉันไม่รู้จักใครเลย นอกจากเธอ" เขาก้มหน้าลงมองฉันอย่างกดดัน

"หึ..งั้นก็ฝันไปเถอะฉันจะเก็บผ้าพันคอนี้ไว้ ผูกให้กับรุ่นน้องปีนะ.. (หนึ่ง)

"ก็ได้..งั้นฉันจะเดินไปบอกเพื่อนทั้งสี่ตัวของเธอ ว่าเราเคยจูบ"

ฟุ่บ! ฉันรีบกระชากคอเสื้อของเขาก้มลงมาใกล้ ๆ และจ้องหน้าอย่างเอาเรื่อง

"ถ้านายพูดเรื่องนั้นกับใครละก็....ฉันจะทำทุกทางให้นายเรียนคณะนี้ไม่ได้เลยคอยดู"

"น่ากลัวจัง.." เขาตอบกลับอย่างหน้าตาย

"บอกเลยว่าจะเป็นวิศวะ ไม่ง่ายหรอกนะ..ยิ่งย้ายมาจากบริหารแล้วเนี่ย ฝันไปเถอะว่าคนในคณะจะต้อนรับนาย"

ฉันก็รีบผูกผ้าพันคอให้ไปแบบลวก ๆ
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • MAKE A MISTAKE พลั้งพลาดรัก | เพอร์ซุส   บทที่ 239

    ช่วงที่พิมพ์ตะวันตั้งครรภ์ ทางครอบครัวของเพอร์ซุสตื่นเต้นกันเอามาก ๆ กับหลานคนแรกคุณอาพอชเช่ น้องชายของเพอร์ซุส ได้ซื้อของเตรียมไว้ให้หลานไม่หยุดหย่อน ขณะที่คุณปู่หรือพ่อของเพอร์ซุส ก็ยิ่งเห่อหลานไม่แพ้กัน ทั้งสองคนช่วยกันเลือกของใช้สำหรับทารก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ของเล่น หรือแม้แต่ของตกแต่งห้องเด็

  • MAKE A MISTAKE พลั้งพลาดรัก | เพอร์ซุส   บทที่ 238

    "ตั้งกล้องแล้ว ๆ เข้าไปในเฟรมได้..พี่ไพลอทขยับอีกนิด ๆ" เพียงฟ้าตั้งกล้องไว้ และจัดมุมองศาต่าง ๆ ตามสไตล์สาวจากนิเทศ เมื่อทุกคนอยู่ในเฟรมครบแล้วเธอก็รีบวิ่งเข้ามาสมทบทั้งหกคนยืนเรียงกันหน้ามหาลัยอเธน่า ที่ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความรักของทั้งสามคู่พวกเขาต่างยิ้มกว้างและจับมือกันแน่น เพอร์ซุสยืนข้าง

  • MAKE A MISTAKE พลั้งพลาดรัก | เพอร์ซุส   บทที่ 237

    อาหารมื้อกลางวันนั้นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและการพูดคุยสนุกสนาน ทั้งสามคู่ลิ้มลองอาหารสเปนที่อร่อยและเป็นเอกลักษณ์ ในช่วงเวลานั้นพวกเขาลืมความเหนื่อยล้าและความเครียดจากการทำงานไปเสียหมดเมื่อถึงเย็น พวกเขาตัดสินใจไปเยี่ยมชมสวนรีไทโร (Retiro Park) ซึ่งเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่และสวยงามของมาดริด ท่ามกลางแ

  • MAKE A MISTAKE พลั้งพลาดรัก | เพอร์ซุส   บทที่ 236

    ตอนรักมากเป็น..พิเศษ(มีภาพประกอบ) _______________"ฉันก็คิดถึงนาย..คิดถึงมาก ๆ เลย" พิมพ์ตะวันพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ขณะที่มือของเธอลูบหลังเขาเบา ๆ เพื่อปลอบโยนความเหนื่อยล้าของเขาทั้งสองคนยืนกอดกันอยู่ท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายลงมา เพอร์ซุสดึงคนตัวเล็กเข้ามาจูบอย่างแนบแน่นอย่างไม่สนใจสายตาของใครทั้

  • MAKE A MISTAKE พลั้งพลาดรัก | เพอร์ซุส   บทที่ 235

    คนที่คิดถึงเธอ...นั่งมองฟ้าและคิดถึงวันเก่า..กี่ราตรีที่เลยผ่าน..แต่ละคืนช่างยาวนาน ..ทุกนาทีมันนาน ดั่งชั่วนิรันดร์...มีคนคิดถึงเธอ...เขามีแค่เธอยามตื่นหลับฝัน ..ทรมานเหลือเกิน ....เมื่อไรจะวันนั้นวันที่เธอจะกลับมา..วันที่ได้อยู่ข้างกันดอกไม้ที่รอฝน..ก็เหมือนคนทางนี้ที่รอเธอ______________

  • MAKE A MISTAKE พลั้งพลาดรัก | เพอร์ซุส   บทที่ 234

    ตอนจบ (อ่านจบกดรีวิวให้ พิมพ์เพอร์กันเยอะ ๆ นะคะ อ้อน ๆ )120สิ้นสุดการรอคอย(มีภาพประกอบ) _______________(สี่เดือนต่อมา)ทางด้านของเพอร์ซุส(บทสนทนาทางโทรศัพท์ ที่คุยได้แค่เสียงเท่านั้น เพราะสัญญาณไม่ดีขนาดที่จะวิดีโอคอล)"หลังกลับงานที่สเปนเสร็จ....ฉันขอไปหาเธอนะ" เพอร์ซุสพูดอย่างเหงา ๆ"ขอเจอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status