ครืด....ครืด.....
เสียงมือถือของชายหนุ่มเรียกเข้าทำให้คนที่กำลังจะกดโทรออกรีบกดรับสายทันที
"ฮัลโหลเทน"
(มาร์คกลับไทยด่วน ตาน้อยไม่โอเค) เทนตะโกนแข่งกับเสียงลมผ่านทางโทรศัพท์ ซึ่งบอกให้รู้ว่าตอนนี้เขากำลังขับมอเตอร์ไซค์อยู่
"ตาเป็นไงมั่ง" มาร์คลุกขึ้นยืนทันที
(กูไม่รู้กำลังไป) ตื๊ด! ตอบแค่นั้นเทนกดวางสายทันที พร้อมกับมาร์คลุกขึ้นแทบจะพุ่งออกจากห้องตรงไปที่ห้องทำงานของเพื่อนรักที่อยู่ตรงข้ามแต่ก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไปได้หันมาสั่งให้เอ็ดเวิร์ด เลขาหน้าห้องท่านประธานสาขาคนใหม่จองตั๋วเครื่องบินกลับไทยไฟล์ตที่ด่วนที่สุด
"ไอ้ศิ กูจะกลับไทยด่วนงานที่นี่มึงจัดการไปก่อนเลยนะ เอกสารมึงตรวจมึงเซ็นไปเลย กูยังไม่มีกำหนดกลับมา"
"อือ..." "โอเค" ศิลาครางในลำคองง ๆ แล้วเงยหน้ามองเพื่อน ซึ่งมาร์คก็รีบตัดบทแล้วเดินออกจากห้องไปทันที "อะไรของมันวะ?"
"คุณมาร์คครับคุณมาร์ค ตั๋วกลับไทยเร็วสุดอีก 3 วันครับ" เอ็ดเวิร์ดลุกขึ้นร้องตามหลังชายหนุ่ม
"ผมต้องการกลับวันนี้ เดี๋ยวนี้ คุณทำยังไงก็ได้ให้ผมได้กลับไทยภายในวันนี้ ถ้าทำไม่ได้ก็ลาออกไปซะ" มา
"ไม่ลำบากดีกว่าค่ะ ตรงนั้นมันพื้นที่ส่วนตัวพี่เค้า แล้วตั้งแต่ตาทรุดหนัก หนูก็ไม่ได้เข้าไปทำความสะอาดให้แล้ว หนูฝากกุญแจไว้ที่พี่โรมแล้วค่ะ" เด็กสาวพูดขึ้น "หนูขอเข้าบ้านนะคะ มีหลายอย่างที่หนูต้องทำ เสื้อผ้าตาบางส่วนยังเก็บไปทำบุญไม่หมด เดินทางกลับดี ๆ นะคะ สวัสดีค่ะแม่นารถ" น้ำหวานว่าพลางยกมือไหว้แล้วหันหลังเดินเข้าบ้านไปเหงา ๆ ท่ามกลางสายตาของผู้ใหญ่ที่มองตามอย่างเป็นห่วง ซึ่งหากสังเกตุให้ดีตั้งแต่งานศพของตาจนถึงวันเผา น้ำหวานจะพยายามอยู่ห่างจากมาร์คพอสมควรเพื่อรักษาระยะห่างอย่างให้เกียรติเพราะคิดว่าพี่ชายคนนี้กำลังมีแฟนและไม่เหมาะมากที่เธอจะสนิทเหมือนก่อน ก่อนที่จะได้รับอนุญาต (คือน้ำหวานรู้จักแฟนของโรมและภรรยาของเทนแล้วและพวกเธอก็รักน้ำหวานกับของขวัญเหมือนน้องสาวเธอเลยสบายใจที่จะยังสนิทกับพวกพี่ ๆ เหมือนเมื่อก่อนแต่กับมาร์คเธอยังไม่ได้เห็นแฟนของชายหนุ่มเธอเลยเกรงใจเป็นพิเศษ)"มาร์ค กูมีอะไรจะคุยกับมึง" โรมเอ่ยเสียงทุ้มพลางกอดคอมาร์คเดินออกมาที่รถที่จอดอยู่หน้าบ้านของเด็กสาว ในขณะที่เทนขอตัวกลับไปก่อน"ว่า..." "มึงกับน้องทะเลาะกัน?" โรมว่าขึ้นพลางมองหน้า
"อาบน้ำเสร็จแล้วออกไปกินข้าวกัน" มาร์คเอ่ยขึ้นขณะที่เดินขยี้ผมออกมาจากห้องน้ำแล้วเด็กสาวเดินสวนเข้าไป"ถ้าพี่หิวก็ออกไปกินเองเลยค่ะ หวานอยากนอน" เด็กสาวว่าพลางเดินเลี่ยงเข้าห้องน้ำ ทำให้ชายหนุ่มได้แต่มองตามหลังแล้วถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะหามือถือกดสั่งอาหารผ่านทางแอปพลิเคชันแล้วเดินเข้าไปในห้องนอนของเด็กสาวนั่งเปิดพัดลมเป่าผมที่เตียงนอนของเธอแล้วมองไปรอบ ๆ ห้องที่มีเพียงตู้เสื้อผ้าอันเล็ก เตียงเหล็ก 3 ฟุตครึ่งที่เขากำลังนั่งอยู่ โต๊ะไม้ตัวเล็กที่วางหนังสืออยู่ 2-3 เล่มและเครื่องสำอางอยู่ 3-4อย่างและกระเป๋าสตางค์แฮนด์เมดที่เธอใช้ประจำ พัดลมตั้งพื้น 14 นิ้วที่วางอยู่บนกล่องพลาสติกที่เขากำลังเปิดจ่อตัวเองอยู่แล้วถอนหายใจเบา ๆ พลางนึกสงสารเด็กสาวอย่างจับใจ "แล้วจะอยู่ยังไงคนเดียวเนี่ยหวาน?""พี่มาร์ค!" น้ำหวานอุทานอย่างตกใจพลางถอยหลังเมื่อเห็นมาร์คนั่งอยู่ที่ปลายเตียงแล้วหันมามองหน้าเธออย่างเดาความรู้สึกไม่ได้ ในขณะที่พัดลมถูกกดล็อกจ่อที่คนตัวโตด้วยเบอร์สูงสุด"เรียกซะลั่นบ้าน กลัวลืมชื่อพี่หรือไง" ชายหนุ่มเลิกคิ้วถามขณะยกผ้าขึ้นขยี้หัวให้รู้ว่าเขากำลังเป่าผมอยู่
รุ่งเช้ามาร์คพาน้ำหวานออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อเดินทางไปที่วัดพร้อมกับลุงกรณ์ โดยมีคุณปู่กับของขวัญและคุณนงนารถกับนิคมารออยู่ก่อน ส่วนโรมและเทนต่างเดินทางมาสบทบกันในภายหลัง มาร์คได้ว่าจ้างเรือลอยอังคารลำใหญ่พาทุกคนออกไปลอยส่งเถ้ากระดูกตาน้อยที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อเสร็จพิธีจึงพากันไปรับประทานอาหารที่ร้านที่ชายหนุ่มโทรจองไว้ก่อนหน้า ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ คุณนงนารถได้เอ่ยชวนเด็กสาวไปที่บ้านที่ต่างจังหวัดด้วยกันโดยอ้างว่าคุณย่าของมาร์คคิดถึง"แต่หนูอยากทำบุญให้ตาให้ครบ 15 วันค่ะ แล้วอีกอย่างไม่กี่วันหนูก็เปิดเทอมแล้วด้วย หนู...." คนตัวเล็กหาข้ออ้างอึกอัก"ข้างบ้านแม่นารถก็มีวัดลูก ปกติแม่นารถก็ใส่บาตรทุกวันอยู่แล้ว ที่นั่นมีวัดอีกหลายวัดทั้งสวยทั้งสงบให้หนูได้ทำบุญแล้วก็ฟังธรรมด้วยนะ แม่นารถจะพาหนูไปเอง" คุณนงนารถพยายามโน้มน้าวเด็กสาว"แต่ว่า..." "เอาน่า...น้องขวัญว่าหวานไปกับท่านเถอะ ได้ทำบุญหลาย ๆ วัดดีออกแล้วอีกอย่างเราไม่เคยไปนครนายกกันเลยนะ เอางี้... เดี๋ยวน้องขวัญกลับมาจากต่างจังหวัดกับคุณปู่น้องขวัญไปหา เราไปตะเวนทำบุญ 9 วัดกัน" ของขวัญช่วยพูดให้คุณนงนารถอ
"อ่อ... เดินเก่งซ่าได้แล้วว่างั้น" ชายหนุ่มเลิกคิ้วถามพลางกลั้นยิ้ม เขาดีใจมากที่คุณย่ากลับมาเดินได้อีกครั้งถึงแม้ต้องใช้ไม้เท้า 4 ขาค้ำยันก็ถือว่าแข็งแรงสมวัย 80 กว่า"เดินเก่งเชียวล่ะค่ะ บางวันยังชวนมัยกับพยาบาลเดินไปร้านเลยนะคะ ห้ามก็ไม่ฟัง กว่าจะถึงได้นั่งพัก 3 รอบ 4 รอบ" ละมัยคุยโวขึ้นมาทันที"เออ เห็นห้องรับรองข้างล่างเปิดทำความสะอาดใครจะมา""คุณตรีค่ะ เห็นโทรมาบอกคุณเนสเมื่อเช้าว่ากำลังจะมาเยี่ยมคุณย่า คุณเนสเลยสั่งทำความสะอาดห้องข้างล่าง ส่วนห้องข้างบนคุณนารถสั่งให้ทำไว้รอลูกสาว เห่อมาก... สั่งเปลี่ยนชุดเครื่องนอนยังไม่พอ เปลี่ยนผ้าม่านซะสวยหวานเลยเชียวค่ะ" ละมัยตอบพลางพูดถึงคุณนายของบ้านขำ ๆ"หึ ให้มาเยี่ยมแค่คุณผกาจริง ๆ เถอะ เออ...เดี๋ยวไปเอากระเป๋าเสื้อผ้าในรถผมไปไว้ที่ห้องด้วยนะทั้งหมดเลย" ชายหนุ่มครางในลำคออย่างรู้ทันพลางสั่งงานละมัยก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้อง เตรียมจะเดินไปที่รถมอเตอร์ไซค์คันเก่าของตัวเองเพื่อจะไปดูสวนหลังบ้าน (จะแอบไปดูคุณย่าน่ะแหละ แต่พี่ก็ฟอร์มนิดนึง >//<)"พี่มาร์ค..." เสียงแหลมเล็กดังมาจากหน้าบ้านทำเอาชายห
"แม่นารถสวัสดีค่ะ คุณอาตรี อาเดือน พี่ (หันไปมองหน้ามาร์คเชิงคำถามแต่ชายหนุ่มก็ยังนิ่ง) สวัสดีค่ะ" เด็กสาวทักทายพลางยกมือไหว้อย่างนอบน้อม"หวัดดีจ่ะ นี่พาเข้าบ้านแล้วเหรอมาร์ค ยังไม่จบ ม. 6 ไม่ใช่เหรอ" คุณเดือนแรมว่าพลางเหยียดยิ้มที่มุมปาก"นี่บ้านผม ผมจะให้ใครเข้าใครออกมันก็สิทธิ์ของผมไม่ใช่หรือครับ ถ้าไม่เกรงใจอาตรี ผมจะเชิญคุณเดือนแรมออกไปตอนนี้ก็ทำได้ อย่ามาทำกิริยาเหยียดหยามมนุษย์ในบ้านนี้เพราะที่นี่ไม่มีชนชั้น" มาร์คว่าขึ้นเสียงดังอย่างไม่พอใจที่อาสะใภ้มาว่าน้องรักคนเล็กของตัวเอง"มาร์ค คือ..." "คุณเดือนแรมอย่าพยายามยกลูกตัวเองเหนือลูกคนอื่นสิ สงสารอาตรีบ้าง หน้าจะเหลือไม่ถึง 2 เซ็นอยู่แล้ว" มาร์คสวนขึ้นนิ่ง ๆ เขาพอรู้ว่าทุกวันนี้คุณมนตรีกดดันแค่ไหนตั้งแต่มารับช่วงงานต่อจากพ่อตาและถูกภรรยากดดันมาตลอด แต่ที่เขายังทนเพราะเห็นแก่ลูกและเขาเป็นคนที่ไม่มีอะไรติดตัวมาเลยเหมือนคุณพ่อของมาร์คเขาจึงจำต้องยอม"น้านารถผมจะพาน้องเข้าสวน มียากันยุงมั้ยครับ" มาร์คหันไปพูดกับคุณนงนารถ"มีลูก มัยหายากันยุงมาให้คุณมาร์คหน่อย" ตอบพลางเรียกแม่บ้านหายังกันยุงให้ช
มาร์คกลับเข้ามาในบ้านหลังจากออกไปสงบสติอารมณ์เกือบครึ่งชั่วโมง น้ำหวานที่เข้าไปช่วยแม่บ้านเก็บทำความสะอาดโต๊ะหลังอาหารรีบวางจานที่กำลังเช็ดอยู่แล้วถือน้ำเย็น ๆ มายื่นให้"พี่มาร์คน้ำค่ะ" เด็กสาวยื่นแก้วน้ำให้พลางรับไอแพดกับมือถือที่มาร์คถือเข้ามามาถือไว้เอง มองมือถือตัวเองแล้วยิ้มกว้างขึ้นมาทันที "พี่มาร์คเปลี่ยนเคสมือถือให้หวานใหม่ด้วย ขอบคุณค่า..." เด็กสาวว่าอย่างตื่นเต้นพลางยกมือไหว้ที่ต้นแขนแกร่งแล้วมองมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาร์คเพิ่งซื้อให้เมื่อคราวก่อนอย่างดีใจ"ชอบมั้ย?" ชายหนุ่มพร้อมกับจับหัวคนขี้เห่อโยกยิ้ม ๆ"ชอบมาก... หวานกำลังหาเคสใหม่อยู่เลยค่ะ เคสเดิมมันบางมากแล้วช่วงที่ตาไม่สบายเราก็ไม่มีเวลาไปดูที่ห้างกัน จะสั่งออนไลน์ก็กลัวไม่ตรงปก แล้วคุณป้าเพิ่งซื้อให้น้องขวัญรุ่นเดียวกันนี่ตอนติดโควตาค่ะ หยิบผิดหยิบถูกกันประจำเลย" คนตัวเล็กตอบพลางยิ้มจนตาหยี"โทรไปหาไอ้โรมตามที่พี่สั่ง บอกมันให้ส่งมาภายใน 10 นาที พี่จะได้คุยธุระให้เสร็จจะได้รีบนอนพรุ่งนี้จะได้ไปบุญให้ตาแต่เช้า ตอนเย็นน้องขวัญจะมา พี่ว่าเราใส่บาตรตอนเช้าแล้วไปร้านน้านารถรอน้องขวั
บนห้องนอนชั้น 2 ของมาร์ค"พี่มาร์ค พี่โอเคมั้ย?" น้ำหวานนั่งลงข้าง ๆ แล้วพูดเสียงเบากับชายหนุ่ม"อืม..." มาร์คพยักหน้าแล้วมองหน้าเด็กสาวนิ่ง ๆ "กลัวพี่เหรอ?" คนตัวเล็กพยักหน้าทันที"คนเห็นแก่ตัวที่ทำคนอื่นเดือดร้อนมันต้องโดนแบบนี้แหละ พี่ไม่เคยพึ่งพาคนพวกนั้น ฉะนั้นพี่ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ" มาร์คให้เหตุผลเสียงทุ้มพร้อมกับรั้งหัวคนตัวเล็กมาพิงไหล่ลูบหัวเธอเบา ๆ ตามองพื้นห้องอย่างใช้ความคิด"แต่พี่มาร์คก็เสียงดังเกินไปนะ" "เอ้อ... เรากับคิตตี้นี่ยังไงวะ เสียงดังหน่อยไม่ได้เลยไปนอนเลยจะไปมั้ยวัดน่ะ" คนตัวโตแกล้งว่าเสียงเข้ม"งือ...อย่าดุสิ พรุ่งนี้น้องขวัญมาจะไล่ไปนอนกับพี่เนสเลยนะ""โห...นี่เพื่อนมากะไล่เจ้าของห้องหนีเลยเหรอ มานอนจะ 3 ทุ่มแล้วเนี่ย" ว่าพลางล้มตัวลงนอนไปก่อนแล้วรั้งบ่าคนตัวเล็กให้นอนลงข้าง ๆ"พี่มาร์ค... (หือ... มาร์คในลำคอเบา ๆ) ขอดูซีรีส์ซักตอนได้มั้ย" คนตัวเล็กว่าอ้อน ๆ"ให้เลือก... ว่าจะนอนเดี๋ยวนี้หรือจะให้พี่พาทำอย่างอื่นก่อนนอน""นอนค่ะ นอนแล้ว" เด็กสาวรีบมุดเข้าไปในผ้าห่มจนมิดหัวแล้ว
3 ปีต่อมาRo me Bar ชั้น 2 ห้อง VIP 1ร่างสูงโปร่งยืนทอดสายตามองลงมาที่ชั้น 1 ของร้านโซนแคชเชียร์พร้อมกับยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปากทุกครั้งที่กลับมาไทยเขาจะรู้สึกว่าเด็กคนนี้เติบโตขึ้นและเข้มแข็งขึ้นตามกาลเวลาที่หล่อหลอม จากเด็กสาวตัวเล็ก ๆ สดใสเจื้อยแจ้วช่างเจรจาในวันวานเป็นสาวสะพรั่งร่าเริงแจ่มใสและอ่อนหวานน่ารักอยู่ในคนเดียวกันอย่างลงตัว ร่างบางในชุดกางเกงขายาวรัดรูปสีดำมันวาวกับเกาะอกแต่งระบายขนนกด้านบนสีขาว ดูน่ารักและเซ็กซี่ ผมยาวดำขลับที่ถักเปียเรียบร้อยเสมอตั้งแต่วัยเด็กในคืนนี้เธอปล่อยยาวสยายจนถึงเอว ขนตางอนยาวที่มีอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถูกปัดมาสคาร่าให้งอนเด้งจนตาเธอกลมโตราวกับตาตุ๊กตาไม่มีผิด ริมฝีปากบางเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสดขับกับผิวขาวใสของเธออย่างน่าหลงใหล ใบหน้าที่แต่งแต้มเพียงลิปสติกแท่งเดียวและมาสคาร่าอีก 1 สามารถดึงดูดสายตาชายหนุ่มจนไม่อยากละสายตาไปทางไหน นานเท่าไหร่แล้วที่เขาบอกตัวเองเสมอว่านี่คือน้องนุ่งตามที่ตาน้อยเคยพูดยิ้ม ๆ ในคืนนั้น นานเท่าไหร่ที่เขาดูแลเธออยู่ห่าง ๆ อย่างหวังดีและห่วงใยในฐานะพี่ชายร่วมโลก ชายหนุ่มยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปากพลางก้มมองแก้วเจียรนัยใบสวย
3 ปีต่อมามหาบัณฑิตสาวสวยเดินหอบดอกไม้ช่อโตยิ้มร่าเข้ามาหาชายสูงวัยวันนี้ลุงปกรณ์มาตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับหญิงสาวเมื่อ 3 ปีก่อนเพื่อแสดงความยินดีกับมหาบัณฑิตคนใหม่และเพื่อนรักอย่างของขวัญ ซึ่งการมาของลุงกรณ์ในครั้งนี้ไม่ได้มาคนเดียว แต่เป็นการมาครอบครัวใหญ่ประกอบไปด้วยครอบครัวของมาร์คที่มากันครบและพาคุณย่าวัย80 กว่ามาด้วยและที่เซอร์ไพรส์คืออามนตรีที่บินตรงจากอเมริกาเช่นกัน และยังมีครอบครัวของศิลาและของขวัญที่มีประมุขของบ้านมาแสดงความยินดีกับหลานสาวทั้ง 2 และที่ขาดไม่ได้คือพี่ชายทั้ง 2 ของ 2 สาวและครอบครัว และเพื่อนรักไข่มุกที่มาพร้อมสามีและลูกสาวตัวน้อยวัยกำลังพูดคุยที่มาร์คค่อนข้างจะหลงมากตั้งแต่แรกเห็น ทั้งขออุ้มขอหอมดูหวงและโอ๋สุดพลังจนพ่อเด็กกลัวว่าจะไม่ได้ลูกคืนโดยการมาครั้งนี้เป็นการจัดการ2 สามีของ 2 สาวที่เช่าเครื่องบินเหมาลำทั้งมาและกลับไทยเพื่อไปฉลองปริญญาที่บ้านเกิดอีกรอบ"ที่รัก เป็นอะไรครับทำไมหน้าซีด ๆ หนูนอนไม่พอรึป่าว" มาร์คเอ่ยข้างหูภรรยาคนสวยที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ขณะที่เครื่องบินกำลังเหินฟ้ามุ่งสู่ประเทศบ้านเกิด"หวานเวียนหัว
"ตายแล้ว นี่อะไรกันเนี่ย" น้ำหวานอุทานตาโตเมื่อเดินเข้ามาในห้องพักของตัวเองแล้วเห็นถุงสินค้าแบรนด์ดังเกือบ 20 ถุงวางอยู่ที่โซฟาห้องนั่งเล่น หญิงสาวรีบวางกระเป๋าแล้วเดินไปหยิบถุงที่เล็กที่สุดมาเปิดแล้วต้องขมวดคิ้วเมื่อตรวจแล้วสินค้าทุกถุงถูกตัดป้ายราคาออกทั้งหมด ทำให้หญิงสาวต้องหอบของทุกถุงลงวางกับพื้นแล้วเปิดทีละถุงออกมากดดูราคาสินค้าทางช็อป"แปดแสน!" หญิงสาวอุทานตาโตกับราคากระเป๋าสะพายหนังอะไรซักอย่างสีดำใบกระทัดรัดที่เพียงพอแค่ใส่กระเป๋าสตางค์ใบสั้นของเธอกับมือถือหน้าจอ 6.7 นิ้ว ได้เท่านั้น"ตาย...ทำไมมันแพงขนาดนี้เนี่ย" หญิงสาวบ่นพึมพำแล้วเปิดกล่องรองเท้าผ้าใบที่คล้ายกันอยู่ 2 คู่เป็นของผู้ชายและของผู้หญิงแล้วเมื่อเช็คราคาและคำนวณเป็นเงินบาทไทยอย่างรวดเร็วก็ถึงกับหน้ามืด "คู่ละ 6 หมื่น! พี่มาร์คเป็นบ้าอะไรทำไมใช้เงินฟุ่มเฟือยขนาดนี้เนี่ย" แล้วหยิบกล่องที่บรรจุสูทตัวแพงที่มีรุ่นติดอยู่ที่ฝากล่องออกมาเสิร์ชหาราคาพร้อมกับคำนวณเป็นเงินไทยแล้วกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะค่อย ๆ ปิดกล่องอย่างเบามือ"ตัวละ สะ สะ สี่แสนเลยเหรอ แล้ว ๆ ๆ มี 3 กล่อง คุณพระ! อิหวานจะเป็นลม ใส่แล้วมั
เคเอส กรุ๊ป สาขาอังกฤษร่างบางเดินหน้างอเข้ามากระแทกก้นสวยลงที่เก้าอี้ด้านหลังของโต๊ะทำงานในห้องผู้ช่วยท่านประธานสาขา แล้วชำเลืองมองคนที่กำลังทำท่าอ่านเอกสารอย่างขมักขเม้นเหมือนไม่ได้รู้สึกว่าเธอเดินเข้ามาในห้อง"โปรเฟสเซอร์คะ หวานขอลางานครึ่งวันค่ะ" เสียงหวานว่าขึ้นอย่างแง่งอน"ไม่อนุญาตครับ วันนี้คุณน้ำหวานยังไม่ช่วยผมทำงานซักบรรทัดเลยนะครับ" เจ้าของห้องว่าขึ้นนิ่ง ๆ"งั้นเอางานมาค่ะหวานจะทำ ไม่ใช่ให้มานั่งเป็นตุ๊กตาเสียกบาลอยู่แบบนี้""จะทำตอนนี้เลยหรือครับ" ชายหนุ่มหันมามองหน้าสายตากรุ้มกริ่ม แล้วจ้องหน้าอกคู่สวยที่ดันเชิ้ตผ้าลื่นสีหวานอย่างเปิดเผย"หันไปเดี๋ยวนี้โปรเฟสเซอร์ ตามข้อตกลงของเราคือหวานจะลงไปอยู่กับพวกพี่ข้างล่างได้วันที่โปรเฟสเซอร์มีสอนนะคะ" คนสวยออกคำสั่งแล้วพูดถึงข้อตกลงร่วมกันหน้าบึ้ง ๆ"แต่ตามข้อตกลงของเรา คุณผู้ช่วยจะต้องขึ้นมาถ้าผมอยู่ที่ห้องนี่ครับ" ชายหนุ่มหันมาพูดยิ้ม ๆ แล้ววางปากกาในมือก่อนจะหันเก้าอี้ทั้งตัวมามองหน้าหญิงสาว"พี่มาร์ค... หวานอยากฝึกการตลาดน่ะ นะ...นะ นะ..." คนตัวเล็กลุกขึ้
"เอ่อ...อาตรีมาอยู่ที่นี่นานแล้วหรือคะ พี่มีนาไปตามหาที่บ้านแม่นารถหลายรอบเลยค่ะ ไปตามที่ร้านพี่โรมถามหนูตั้งหลายรอบ" หญิงสาวเอ่ยถามในขณะที่แม่บ้านตักข้าวใส่จานให้และเธอก็เผลอยกมือไหว้อย่างไทยจนแม่บ้านแอบยิ้มกับความน่ารักแรกเห็น"ก็มาตั้งแต่มาร์คให้มานั่นแหละ อามาอยู่ที่นี่ได้ 3 ปีกว่าแล้วล่ะ" อามนตรีตอบหญิงสาวยิ้ม ๆ"พี่มาร์คให้มา?" หญิงสาวทวนคำพลางมองหน้ามาร์คอึ้ง ๆ"เผอิญว่าไร่องุ่นของพ่อเพื่อนพี่ที่นี่ อยากแบ่งขายพี่เลยซื้อให้อาตรีดูแลต่อ" ชายหนุ่มตอบยิ้ม ๆ พลางตักอาหารวางใส่จานให้หญิงสาว"ซื้อไร่องุ่นที่นี่หรือคะ""ใช่ลูก มาร์คสร้างชีวิตใหม่ให้อาได้หลุดพ้นจากครอบครัวนั้น ตอนนี้อามีความสุขมากจนไม่อยากกลับไทยเลยล่ะ" อามนตรีตอบยิ้ม ๆ "แล้วพี่มีนอาเดือนล่ะคะ" "ก็ช่างเขาสิลูก 2 แม่ลูกนั่นไม่ได้เกี่ยวกับอาหรอก ลูกของอาจริง ๆ เป็นผู้ชายชื่อต้นกับตามเขาเสียตอนอนุบาลทั้งคู่ ส่วนมีนาเป็นลูกที่ติดท้องมาของเดือนแรม อามันก็แค่เด็กในไร่การศึกษาสูงที่สุดในตอนนั้นที่เจ้าของไร่บังคับให้แต่งงานกับลูกสาวเพื่อรักษาหน้าตาของตัวเองแล้วสวมหัวโขนให้อาทำงานเป็นลูกเขยทั้ง ๆ ที่จริง ๆ อามันก็แค่ลูกจ้างนั่
ช่วงบ่ายเกิดความโกลาหลกันขึ้น เพราะ 2 หลานสาวของคุณหญิงหายออกไปจากออฟฟิศ โดยไม่ได้ออกไปทานข้าวพร้อมกับคุณหญิง มาร์คไล่ดูกล้งวงจรปิดที่ออฟฟิศและของอพาร์ตเมนต์อย่างละเอียดเพื่อดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าช่วงที่ตนไม่อยู่แล้วสั่งให้เลขาเพื่อนเช็คทะเบียนรถแท็กซี่ที่ 2 สาวขึ้นไปอย่างร้อนรน ช่วงบ่ายหลังจากที่รู้ว่าคนทั้ง 2 เดินทางไปที่ไหน ศิลาได้เรียกพนักงานที่อยู่ไหนเหตุการณ์ที่เป็นสาเหตุให้ของขวัญตัดสินใจกลับบ้านขึ้นมาพบทุกคน ชายหนุ่มสั่งให้เอ็ดเวิร์ดจองตั๋วเครื่องบินไปอเมริกาไฟล์ตที่ด่วนที่สุด เพราะคนทั้งคู่ไม่ได้นำเอาสิ่งของอะไรติดตัวไปนอกจากกระเป๋าสตางค์และเอกสารการเดินทางทั้งมือถือยังถูกทิ้งไว้ที่โซฟาในห้องของน้ำหวานอย่างไม่ใยดี..........//..........เช้าตรู่ของประเทศสหรัฐอเมริการถลีมูซีนสนามบินวิ่งเข้ามาจอดหน้าบ้านสีขาวหลังเล็กน่ารักที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ไม่มากนัก2 คนก้าวลงจากรถแล้วเดินอาด ๆ เข้าบ้านอย่างคุ้นเคยเสียงฝีเท้าหนัก ๆ เดินตรงมาที่ครัวทำให้น้ำหวานเงยหน้าขึ้นมองหน้าแม่เพื่อนอย่างสงสัย"ใครมาแต่เช้าค่ะมี้"
Mark talkเมื่อคืนผมได้คุยกับผู้ร่วมทุนคนใหม่ของโครงการที่ฝรั่งเศสครับ ท่านบอกว่าผู้หญิงเขาไม่ได้ต้องการความรับผิดชอบ เขาต้องการความรัก อันนี้มันเป็นสิ่งเกินคาดหมายของผมมากจริง ๆ เพราะที่ผ่านมาผมจะคิดว่าการรับผิดชอบเป็นอะไรที่ทุกคนต้องการเสมอ ตอนที่ผมอยู่เมืองไทยการที่เราจะมีเซ็กส์กับผู้หญิงคนหนึ่ง สำหรับผมคือการยื่นเงินเป็นตัวเลขให้แล้วจบกันตรงนั้นผมคิดว่าเป็นแค่การซื้อขายหรือความรับผิดชอบในทางธุรกิจที่จะไม่ผูกมัดหรือผูกพันอะไรกัน แต่เมื่อผมมีอะไรกับน้องในคืนนั้น ผมพยายามจะขอรับผิดชอบโดยอ้างสิ่งที่เกิดขึ้นแบบไม่ยื่นจำนวนเงินหรือสิ่งที่เป็นตัวเลขให้ แต่ผมกลับนึกคำพูดหรือความหมายพวกนั้นไม่ออก จนได้มาคุยกับผู้ร่วมทุนท่านนี้ ท่านเหมือนเป็นผู้เขี่ยผงเล็ก ๆ ออกจากตาของผมทำให้เข้าใจว่าสิ่งที่ผมจะยื่นให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่เราอยากจะมีเขาอยู่ตลอดชีวิต มันไม่ใช่ความรับผิดชอบ แต่ สิ่งที่ผมควรยื่นให้เธอคือ ความรักแล้วท่านก็ใจดีมากครับที่ยอมให้เครื่องบินส่วนตัวมาส่งพวกผมเมื่อคืน ตลอดทางผมนึกหาคำพูดต่าง ๆ หาเหตุผลประกอบว่าทำไมน้องถึงไม่อยากให้ผมกล่าวถึงเรื่องนี้ จนผมได้คุยกับไอ้เทน ม
"ไม่เห็นว่าอะไรนี่ ท่านไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลยนะ คงเป็นปกติของอเมริกันชนน่ะ เพื่อน ๆ ของน้องขวัญเขาก็มีเซ็กส์กันตั้งแต่ไฮสคูลเยอะแยะไป แต่กับศิลา น้องขวัญก็คงแค่คู่นอนตอนกลางคืนตอนกลางวันเราก็เป็นเจ้านายลูกน้องกันปกติ""จ่ะ เจ้านายลูกน้อง เรียกไปนอนกลางวันซะทุกวันขนาดนั้น แหนะ ๆๆ อย่าบอกนะว่าบอสหิวกลางวันด้วยน่ะ" หญิงสาวชี้หน้าถามเพื่อนอย่างล้อเลียน *พี่มาร์คก็คงคิดกับเราแบบนี้สินะ มากกว่าพี่แต่ไม่ใช่ผัว*"บ้า ~ ช่วงนั้นป่วยจริง นอนกลางวันจริงจ่ะ แต่ต่อไปก็ไม่ได้นอนแล้วไงก็มาฝึกงานกับหวาน เอ้อ... เห็นศิลาพูดว่าคุณปู่สั่งให้หวานขึ้นมาฝึกงานกับพี่มาร์คนี่ พี่มาร์คบอกหรือยัง?" ของขวัญตอบเพื่อนพร้อมกับถามอย่างนึกขึ้นได้"ก็เกริ่นเมื่อคืนนิดนึงนะแต่นิดเดียวจริง ๆ แต่ยังไม่รู้อะไรคงต้องรอผู้ใหญ่สั่งอีกทีล่ะมั้ง แต่หวานอยู่แผนกนี้ก็สนุกนะ พี่ ๆ น่ารักดี" น้ำหวานว่ายิ้ม ๆ *จะให้ไปทำไมวะแค่นี้ก็หายใจไม่ได้แล้วมั้ย*"เมื่อวานพี่โอปอล์กระซิบบอกว่าระวังเอริน่าแผนกต้อนรับ นางปลื้มพี่มาร์คมาก 2 วันนี้พี่มาร์คกับท่านประธานไม่อยู่ ระวังโดนหยุมหัว" ของขวัญยื่นหน้าพูดกับเ
4 ทุ่มของวันเดียวกัน ชายหนุ่ม 2 คนเดินออกจากลิฟต์ของ อพาร์ตเมนต์ ศิลาต้องขมวดคิ้วแล้วดึงแขนเพื่อนอย่างนึกได้"เดี๋ยวมาร์ค มึงบอกว่าวันนี้น้องขวัญกับน้ำหวานจะกลับมานี่" พูดขึ้นพลางขมวดคิ้วแล้วหันมองห้องตรงข้ามของมาร์ค"เออ~ ว่ะ แล้วจะมาตอนไหนไม่เห็นโทรบอกให้ไปรับวะ กูลืมน้อง ๆ ไปแล้วนะเนี่ย" ว่าจบมาร์คก็ล้วงมือถือมากดโทรหาน้ำหวานทันที ซึ่งเสียงมือถือก็ดังแว่ว ๆ ออกมาจากห้องของหญิงสาว"มาถึงแล้วไง" ศิลาเอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินไปแตะคีย์การ์ดห้องตรงข้ามกับห้องของตัวเองเดินตรงเข้าไปในห้องนอนแล้วเดินออกมาที่หน้าห้องของน้ำหวานอีกครั้งก่อนจะแตะคีย์การ์ดเปิดประตูเข้าไปอุ้มร่างบางเดินออกมาที่ห้องตัวเองผ่านหน้าเพื่อนชาย ซึ่งมาร์คก็ได้แต่ยืนยิ้มส่ายหน้าขำ ๆ"เฮ้อ...มึงก็มึนเกินศิลา ยังดีที่น้องขวัญไม่โกรธกูนี่สิ ขนาดมายังไม่บอกกูเลยเฮ้อ" ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองแล้วเดินเปิดประตูเข้าไปที่ห้องตัวเองอย่างหงอย ๆ "เอาเหอะ...พรุ่งนี้ค่อยคุย" .............//..........4 ทุ่มของอีกวันวันนี้ทั้งวันมาร์คต้องออกไปพบลูกค้ากับศิลาที่ต่างเมืองชายหนุ่
ครืด.... ครืด....เสียงมือถือดังขึ้นทำให้คนกำลังนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยถึงกับสะดุ้งหันมาคว้ามือถือกดรับสายทันทีแบบไม่ได้ดูสายเรียกเข้า"สวัสดีค่ะ"(ตัวเล็ก)"คะ"(เป็นอะไรหรือเปล่า)"เปล่าค่ะ"(ศุกร์นี้ไปอเมริกากันนะ) เสียงปลายสายเอ่ยชวนพลางถอนหายใจเบา ๆ"ไปทำไมคะ"(น้องขวัญเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะ) คำบอกเล่าทำให้น้ำหวานถึงกับลุกขึ้นนั่งชันเข่าทันที"น้องขวัญเป็นหนักหรือคะ" เสียงเครือปนสะอื้นดังลอดไปตามสาย(พี่ก็ไม่รู้หรอก วันศุกร์เลิกงานเราไปกันนะพี่จองตั๋วไว้แล้ว)"แต่หวาน..."(ไปเถอะพี่จองตั๋วไปแล้ว) มาร์คเอ่ยสวนขึ้นทันที"ค่ะ"(กินข้าวรึยัง ออกไปกินข้าวกับพี่มั้ย) ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่องชวนคุย"เรียบร้อยแล้วค่ะ หวานจะนอนแล้ว แค่นี้นะคะ" ตื๊ด! ....mark talkตั้งแต่วันนั้นน้องก็พยายามหลบหน้าผมตลอดเลย คงงอนไปแล้วล่ะ ช่วงนี้ผมก็งานยุ่ง แต่จะว่ายุ่งแค่ช่วงนี้ก็ไม่ใช่ครับ เพราะงานผมก็แบบนี้มาตลอดอยู่แล้ว ยิ่งช่วงนี้ศิลามันไม่อยู่น้องขวัญที่กลับบ้า