บนห้องนอนชั้น 2 ของมาร์ค
"พี่มาร์ค พี่โอเคมั้ย?" น้ำหวานนั่งลงข้าง ๆ แล้วพูดเสียงเบากับชายหนุ่ม
"อืม..." มาร์คพยักหน้าแล้วมองหน้าเด็กสาวนิ่ง ๆ "กลัวพี่เหรอ?" คนตัวเล็กพยักหน้าทันที
"คนเห็นแก่ตัวที่ทำคนอื่นเดือดร้อนมันต้องโดนแบบนี้แหละ พี่ไม่เคยพึ่งพาคนพวกนั้น ฉะนั้นพี่ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ" มาร์คให้เหตุผลเสียงทุ้มพร้อมกับรั้งหัวคนตัวเล็กมาพิงไหล่ลูบหัวเธอเบา ๆ ตามองพื้นห้องอย่างใช้ความคิด
"แต่พี่มาร์คก็เสียงดังเกินไปนะ" "เอ้อ... เรากับคิตตี้นี่ยังไงวะ เสียงดังหน่อยไม่ได้เลย ไปนอนเลยจะไปมั้ยวัดน่ะ" คนตัวโตแกล้งว่าเสียงเข้ม
"งือ...อย่าดุสิ พรุ่งนี้น้องขวัญมาจะไล่ไปนอนกับพี่เนสเลยนะ"
"โห...นี่เพื่อนมากะไล่เจ้าของห้องหนีเลยเหรอ มานอนจะ 3 ทุ่มแล้วเนี่ย" ว่าพลางล้มตัวลงนอนไปก่อนแล้วรั้งบ่าคนตัวเล็กให้นอนลงข้าง ๆ
"พี่มาร์ค... (หือ... มาร์คในลำคอเบา ๆ) ขอดูซีรีส์ซักตอนได้มั้ย" คนตัวเล็กว่าอ้อน ๆ
"ให้เลือก... ว่าจะนอนเดี๋ยวนี้หรือจะให้พี่พาทำอย่างอื่นก่อนนอน"
"นอนค่ะ นอนแล้ว" เด็กสาวรีบมุดเข้าไปในผ้าห่มจนมิดหัวแล้ว
3 ปีต่อมาRo me Bar ชั้น 2 ห้อง VIP 1ร่างสูงโปร่งยืนทอดสายตามองลงมาที่ชั้น 1 ของร้านโซนแคชเชียร์พร้อมกับยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปากทุกครั้งที่กลับมาไทยเขาจะรู้สึกว่าเด็กคนนี้เติบโตขึ้นและเข้มแข็งขึ้นตามกาลเวลาที่หล่อหลอม จากเด็กสาวตัวเล็ก ๆ สดใสเจื้อยแจ้วช่างเจรจาในวันวานเป็นสาวสะพรั่งร่าเริงแจ่มใสและอ่อนหวานน่ารักอยู่ในคนเดียวกันอย่างลงตัว ร่างบางในชุดกางเกงขายาวรัดรูปสีดำมันวาวกับเกาะอกแต่งระบายขนนกด้านบนสีขาว ดูน่ารักและเซ็กซี่ ผมยาวดำขลับที่ถักเปียเรียบร้อยเสมอตั้งแต่วัยเด็กในคืนนี้เธอปล่อยยาวสยายจนถึงเอว ขนตางอนยาวที่มีอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถูกปัดมาสคาร่าให้งอนเด้งจนตาเธอกลมโตราวกับตาตุ๊กตาไม่มีผิด ริมฝีปากบางเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสดขับกับผิวขาวใสของเธออย่างน่าหลงใหล ใบหน้าที่แต่งแต้มเพียงลิปสติกแท่งเดียวและมาสคาร่าอีก 1 สามารถดึงดูดสายตาชายหนุ่มจนไม่อยากละสายตาไปทางไหน นานเท่าไหร่แล้วที่เขาบอกตัวเองเสมอว่านี่คือน้องนุ่งตามที่ตาน้อยเคยพูดยิ้ม ๆ ในคืนนั้น นานเท่าไหร่ที่เขาดูแลเธออยู่ห่าง ๆ อย่างหวังดีและห่วงใยในฐานะพี่ชายร่วมโลก ชายหนุ่มยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปากพลางก้มมองแก้วเจียรนัยใบสวย
ชายหนุ่มค่อย ๆ ลุกจากเตียงแล้วเดินไปหยิบมือถือของเด็กสาวที่ชาร์จแบตอยู่บนหัวเตียงเดินออกจากห้องอย่างเงียบเชียบแล้วจัดการโหลดแอปบางแอปที่เธอมีในเครื่องเดิมลงเครื่องใหม่ ย้ายซิม ลงทะเบียน แอปโซเซียลต่าง ๆ ให้เรียบร้อย (เครื่องเดิมพี่ก็เป็นคนลงให้เลยรู้รหัสผ่านหมดเลย) แล้วเอากลับไปใส่ไว้ในกระเป๋าของเด็กสาว ส่วนเครื่องเดิมจัดการปิดเครื่องแล้วเอาใส่กระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองไว้ ก่อนจะกลับเข้ามาที่ห้องนอนแล้วล้มตัวลงนอนข้างเด็กสาว ก่อนจะค่อย ๆ สอดแขนข้างที่มีแผลเข้าใต้เอวอย่างจงใจให้เลือดที่ยังซึมอยู่ติดที่ผ้าปูที่นอนหลายจุดแล้วดึงแขนออก ลุกขึ้นหยิบทิชชูเช็ดเลือดที่แขนทิ้งลงในตะกร้า ใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีทึบไม่ติดกระดุมแล้วนอนลงไปใหม่สอดแขนเข้าที่ใต้คอคนหลับอีกครั้ง รั้งร่างบางเข้ามาแนบอกเบา ๆ ก่อนจะลงกดจมูกลงที่หน้าผากแล้วยิ้มที่มุมปากน้อย ๆ มองคนหลับที่พลิกตัวมากอดตอบอย่างลืมตัว"หึ... ตัวเล็กเอ๊ยจะรู้มั้ยว่าเป็นพี่น่ะ คงคิดว่าเป็นน้องขวัญล่ะสิถึงได้กอดแน่นขนาดนี้" ชายหนุ่มพึมพำเบา ๆ แล้วค่อย ๆ ลูบบั้นท้ายสำรวจชุดนอนผ้าแพรลื่น ๆ ของหญิงสาวที่ปรากฎว่าปราศจากชั้นในชิ้นล่างและเดาได้ว่าน่าจะไม่ม
มหาวิทยาลัย Bร่างบางในชุดนักศึกษาที่ถูกระเบียบตั้งแต่เล็บมือยันรองเท้าก้าวเข้ามานั่งลงที่โต๊ะไม้ยาวใต้อาคารคณะบริหาร ฝั่งตรงข้ามกับเพื่อนแล้วมองหน้าเพื่อนสาวนิ่ง ๆ ด้วยสีหน้ากังวล"เป็นพรือหลาว พรสิ" ไข่มุก สาวใต้ตาคมเพื่อนใหม่ของหญิงสาวเงยหน้ามองเพื่อนงง ๆ กับหน้าสวยบึ้งตึงและแววตาเชิงกังวลของเพื่อน"ไข่มุก ... หวานมีอะไรจะพูดแต่เรื่องนี้ห้ามให้น้องขวัญรู้เรื่องเด็ดขาด" น้ำหวานพูดขึ้นพลางจ้องหน้าเพื่อน"น้องขวัญรู้ไม่ได้?" "อือ (พยักหน้ายืนยันสีหน้าจริงจังขั้นสุด) เรื่องนี้มันเซนซิทิฟมากเดี๋ยวเราจะเล่าให้น้องขวัญฟังเอง โอเคมั้ย""เค...ว่ามาเลย หนูมุกจะเหยียบให้มิดเหมือนตีนจมทรายเลย สัญญาที่สุด" ไข่มุกว่าสีหน้าจริงจังพอกันในขณะที่มือด้านหลังแอบไขว้นิ้วไว้ไม่ให้เพื่อนเห็น"ก่อนอื่น หวานมีอะไรจะถามมุกมากมายก่ายกองมหาศาลอภิมหาศาล...""เดี๋ยว ๆๆ เอาแค่มากมายนี่ก็ตอบไม่ไหวแล้วนะ จะก่ายกองมหาศาลอภิมหาศาลด้วย ไม่ได้..." ไข่มุกเพื่อนสาวที่รู้จักกันตอนขึ้นปี 1 เบรกเพื่อนซะคนหลายคำถามอ้าปากค้าง "เอางี้ ก่อนถาม เกริ่นนำมาก่อน"...
"นี่แกพกยาคุมใส่กระเป๋าแบบนี้เลยเหรอ" น้ำหวานว่าตาโต *รู้เว้ยว่ามีแฟนแล้วแต่ไม่คิดว่าจะพกแบบนี้นี่หว่า*"โอ๋ย... เรียนยังไม่จบ ก็พกบ้างสิคะ เรียนก็ต้องเรียน ผัวก็ต้องตามใจด้วยค่ะแล้วต่อไปหวานก็ต้องพกเข้าใจมั้ย เผื่อพี่มาร์คแกแอบกลับไทยมาอีก" ว่าพลางขับรถออกถนนกลับทางเดิม"คงไม่กลับมาอีกมั้งอีกตั้งหลายเดือนกว่าจะประชุมประจำปี ถึงตอนนั้นเรานอนกับน้องขวัญแล้วอีกอย่างเราคิดว่าคงแค่วันไนท์อะแก จบแล้วคือจบ""ว่าได้เหรอ ของเคยกินนะจ๊ะ แล้วถ้าผู้เขาเคยกินเขาก็ต้องกินค่ะ ถ้าเราไม่ให้เขากิน เขาก็ไปหากินทางอื่นได้ค่ะ แล้วพี่มาร์คของคุณพรสิ จากในรูป (ที่เธอเคยเห็นอะนะ) หล่อ สูง ขาว ยาว ใหญ่ ขนาดนั้น การศึกษาเริ่ด โปรไฟล์เป็นที่ต้องการของตลาดขนาดนั้น เล่นตัวก็ได้แห้วค่ะคุณ ถึงพรสิจะสวย หวาน เอ๋อ... (อันนี้ชมเพื่อนนะคะ >///<) แต่ถ้าไม่ตามใจผู้ก็บินค่ะ เอ๊า... กินยาซะสิ จะถึงประตูมหาลัยแล้วเนี่ย จะนั่งสวยมึนอยู่ทำไมก่อน" ไข่มุกร่ายยาวพลางหันมาเน้นให้เพื่อนกินยาที่เธอให้"อะ...อ๋อ กิน ๆ กินก็กิน" ว่าพลางแกะยาใส่ปากแล้วหันไปหยิบขวดน้ำข้างประตูมาเปิดดื่มพลางมอง
ติ๊ง!เสียงไลน์แจ้งเตือนขณะที่น้ำหวานกับของขวัญกำลังนั่งรถกลับบ้านโดยของขวัญเป็นคนขับทำเอาน้ำหวานสะดุ้งจนเพื่อนสาวหันมามองหน้าP mark พี่ซักผ้าปูที่นอนให้แล้วนะ พี่ขึ้นเครื่อง 6 โมงเย็นWhan ค่ะP mark ถ้าไม่สบายก็อย่าลืมกินยานะ หน้าซีด ๆ นะเรา (อ่านแล้ว)" เฮ้อ... อยู่อังกฤษทำยังกับอยู่รังสิตไปได้ คิดจะโผล่ก็โผล่ ต๊กใจโหม้ดหลาว" น้ำหวานพึมพำพลางถอนหายใจแรงจนเพื่อนมองหน้า"ใครน่ะ""พี่มาร์คน่ะ บอกว่าจะขึ้นเครื่อง 6 โมงนี่ก็คงอยู่แอร์พอร์ตแล้วมั้ง" คนตัวเล็กพยายามตอบเพื่อนอย่างปกติ"เมื่อคืนเราไม่อยู่หวานนอนคอนโด?" ของขวัญว่าขึ้นนิ่ง ๆ"อือ" น้ำหวานพยักหน้า"อยู่กับพี่มาร์ค?" "อือ" น้ำหวานพยักหน้าอีกรอบ"เฮ้อ... หมดห่วงไป เมื่อคืนพี่เจ้าบอกว่าหวานดื่มกับพวกอาร์มี่คณะศิลป์ น้องขวัญเป็นห่วงแทบแย่ กลัวเมาแล้วนอนคนเดียว แล้วพี่มา
ครืด...ครืด.....เสียงมือถือที่เธอเพิ่งเปิดเสียงเมื่อ 10 นาทีที่แล้วดังขึ้น ทำให้น้ำหวานหันมองหน้าเพื่อนรักพลางถอนหายใจเบา ๆ"อื้อ ... ต้องคนสั่งมาลัยแน่ ๆ เลย วันนี้หวานเหนื่อยไม่อยากรับออเดอร์แล้วนะ" คนสวยบ่นพึมพำอย่างงอแงแต่จำใจล้วงมือถือออกมาเพื่อกดรับสาย"ฮัลโหลค่ะ" เสียงอ่อย ๆ เหนื่อย ๆ ดังออกไปตามสาย ทำเอาปลายสายอยากเห็นหน้าอ้อน ๆ ตอนนี้ขึ้นมาทันที(เป็นอะไร ทำไมฟังดูเหนื่อยขนาดนั้น) เสียงทุ้มดังมาจากปลายสายทำเอาคนตัวเล็กตาโตยืดตัวตรงขึ้นมาทันที"พี่มาร์ค!" น้ำหวานเรียกชื่อปลายสายเสียงดังจนเพื่อน ๆ มองหน้า เกือบ2 เดือนแล้วตั้งแต่มาร์คกลับลอนดอน นี่เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มโทรมาหาเธอ นอกจากการส่งข้อความมาถามข่าวคราวบ้างเป็นบางครั้งเท่านั้น(ก็เออน่ะสิ ทำไม อุทานตกใจเหมือนเห็นพี่ยืนอยู่ต่อหน้างั้นแหละ) มาร์คตอบขำ ๆ กับความตกใจเกินเบอร์ของเด็กสาว"แล้ว...แล้วแล้ว พี่มาร์คโทรหาหวานมีอะไรหรือเปล่าคะ หรือจะมาประชุมแล้วคะ ช่วงนี้หวานยังไม่ได้ไปทำความสะอาดห้องเลยหวานต้องอ่านหนังสือสอบ งั้น...งั้นเดี๋ยวหวานไปทำให้น
"รวย เรียนเก่งน่ะไม่เถียงแต่หล่อนี่มุกว่าพี่มาร์คหล่อกว่านะ พี่มาร์คหุ่นนักกีฬา สมาร์ทกว่า ตัวใหญ่กว่า แต่พี่ทัชออกแนวคุณชายสะอาดเหมือนคุณชายหมอในละครผู้ดีน่ะ" ไข่มุกว่าพลางมองหน้าเพื่อนแถมแอบเชียร์พี่ชายร่วมโลกของเพื่อนไปด้วย"หวานว่าเราเบรกเรื่องนี้แล้วกลับไปเยียวยาร่างกันดีกว่านะ วันนี้ไม่มีออเดอร์ พรุ่งนี้ไม่มีสอบ วันนี้เราไปนอนที่คอนโดพี่มาร์คกันดีกว่า อาทิตย์ก่อนน้องขวัญเปิดเหล้าพี่มาร์คไว้ขวดนึงไม่ใช่ เราไปจัดการให้เรียบร้อยกันดีมะ" น้ำหวานปรึกษาเพื่อนซน ๆ *ไม่เมาที่ร้าน เมามันที่ห้องก็ได้วะ คลังพี่มาร์คมีเยอะ ชิ อย่ามาขู่หวานให้ยาก* หญิงสาวคิดในใจแล้วยิ้มพร้อมกับยักคิ้วให้เพื่อน"ความคิดดีงั้นเราสั่งหมูกระทะไปกินที่ห้องเลยได้มะ ไม่ต้องไปนั่งกินที่ร้าน" ของขวัญว่าขึ้น ซึ่ง 2 เพื่อนก็พยักหน้าเห็นด้วยทันที"งั้นแยกย้ายเจอกันที่คอนโดเลย เดี๋ยวมุกบอกแฟนก่อนว่าวันนี้มุกจะไปนอนกับหวานที่คอนโด พอดีเลยวันนี้แฟนมุกขึ้นวอร์ด" ไข่มุกว่ายิ้ม ๆ แล้วต่างพากันลุกออกจากโต๊ะแยกย้ายกันไปที่รถ..............//..........Mark part
"น้องไม่กลัวศิลาค่ะคุณปู่ แต่น้องกลัวเหงา" ของขวัญพูดสวนขึ้นทันที"ถ้ากลัวเหงาก็ให้หนูหวานไปด้วยกันสิ หนูหวานอยากไปฝึกงานกับคิตตี้มั้ยลูก" คุณปู่ตอบหลานสาวพลางเอ่ยถามเพื่อนของเธอยิ้ม ๆ แล้วแอบชำเลืองสบตากับลูกสะใภ้อย่างมีแผน"ไม่ไหวมั้งคะคุณปู่ เงินเก็บหนูคงไม่พอค่าตั๋วไปกลับหรอกค่ะ อย่าว่าแต่ค่าใช้จ่าย 4 เดือนเลย" *ก็อยากไปหรอกแต่เงินนี่สิแค่อยู่ไทยไม่รับออเดอร์พวงมาลัยนี่ก็ลำบากอยู่นะ แล้วไปอยู่เมืองนอก โห... ไม่กินขนมปังคลุกเกลือเลยเหรอ* น้ำหวานคิดในใจพลางแอบถอนหายใจเบา ๆ"เอางี้สิ ปู่จะให้เงินเดือนเหมือนตอนพี่มาร์คเค้าไป พอฝึกจบปู่จะให้ทุนหนูต่อโทที่นั่นไปด้วยดีมั้ยลูก ก็เหลือแค่ฝึกงานไม่ติดอะไรไม่ใช่หรือไง" คุณปู่เสนอให้ยิ้ม ๆ"คุณปู่จะให้ทุนหนูเรียนจริง ๆ หรือคะ" น้ำหวานพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น"ปู่ให้ได้ลูก แต่ไม่ฟรีหรอกนะเพราะต้องเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยเหมือนพี่มาร์คเค้า ตอนนี้ก็จบดอกเตอร์ไปแล้วแถมเป็นอาจารย์สอนพิเศษที่มหาลัยที่นู่นด้วย มันก็ดีกว่าไม่ใช่หรือลูก" คุณปู่หันมาพูดกับเด็กสาวอย่างอ่อนโยน ท่านสงสารเด็กคนนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วเพราะน้ำหว
3 ปีต่อมามหาบัณฑิตสาวสวยเดินหอบดอกไม้ช่อโตยิ้มร่าเข้ามาหาชายสูงวัยวันนี้ลุงปกรณ์มาตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับหญิงสาวเมื่อ 3 ปีก่อนเพื่อแสดงความยินดีกับมหาบัณฑิตคนใหม่และเพื่อนรักอย่างของขวัญ ซึ่งการมาของลุงกรณ์ในครั้งนี้ไม่ได้มาคนเดียว แต่เป็นการมาครอบครัวใหญ่ประกอบไปด้วยครอบครัวของมาร์คที่มากันครบและพาคุณย่าวัย80 กว่ามาด้วยและที่เซอร์ไพรส์คืออามนตรีที่บินตรงจากอเมริกาเช่นกัน และยังมีครอบครัวของศิลาและของขวัญที่มีประมุขของบ้านมาแสดงความยินดีกับหลานสาวทั้ง 2 และที่ขาดไม่ได้คือพี่ชายทั้ง 2 ของ 2 สาวและครอบครัว และเพื่อนรักไข่มุกที่มาพร้อมสามีและลูกสาวตัวน้อยวัยกำลังพูดคุยที่มาร์คค่อนข้างจะหลงมากตั้งแต่แรกเห็น ทั้งขออุ้มขอหอมดูหวงและโอ๋สุดพลังจนพ่อเด็กกลัวว่าจะไม่ได้ลูกคืนโดยการมาครั้งนี้เป็นการจัดการ2 สามีของ 2 สาวที่เช่าเครื่องบินเหมาลำทั้งมาและกลับไทยเพื่อไปฉลองปริญญาที่บ้านเกิดอีกรอบ"ที่รัก เป็นอะไรครับทำไมหน้าซีด ๆ หนูนอนไม่พอรึป่าว" มาร์คเอ่ยข้างหูภรรยาคนสวยที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ขณะที่เครื่องบินกำลังเหินฟ้ามุ่งสู่ประเทศบ้านเกิด"หวานเวียนหัว
"ตายแล้ว นี่อะไรกันเนี่ย" น้ำหวานอุทานตาโตเมื่อเดินเข้ามาในห้องพักของตัวเองแล้วเห็นถุงสินค้าแบรนด์ดังเกือบ 20 ถุงวางอยู่ที่โซฟาห้องนั่งเล่น หญิงสาวรีบวางกระเป๋าแล้วเดินไปหยิบถุงที่เล็กที่สุดมาเปิดแล้วต้องขมวดคิ้วเมื่อตรวจแล้วสินค้าทุกถุงถูกตัดป้ายราคาออกทั้งหมด ทำให้หญิงสาวต้องหอบของทุกถุงลงวางกับพื้นแล้วเปิดทีละถุงออกมากดดูราคาสินค้าทางช็อป"แปดแสน!" หญิงสาวอุทานตาโตกับราคากระเป๋าสะพายหนังอะไรซักอย่างสีดำใบกระทัดรัดที่เพียงพอแค่ใส่กระเป๋าสตางค์ใบสั้นของเธอกับมือถือหน้าจอ 6.7 นิ้ว ได้เท่านั้น"ตาย...ทำไมมันแพงขนาดนี้เนี่ย" หญิงสาวบ่นพึมพำแล้วเปิดกล่องรองเท้าผ้าใบที่คล้ายกันอยู่ 2 คู่เป็นของผู้ชายและของผู้หญิงแล้วเมื่อเช็คราคาและคำนวณเป็นเงินบาทไทยอย่างรวดเร็วก็ถึงกับหน้ามืด "คู่ละ 6 หมื่น! พี่มาร์คเป็นบ้าอะไรทำไมใช้เงินฟุ่มเฟือยขนาดนี้เนี่ย" แล้วหยิบกล่องที่บรรจุสูทตัวแพงที่มีรุ่นติดอยู่ที่ฝากล่องออกมาเสิร์ชหาราคาพร้อมกับคำนวณเป็นเงินไทยแล้วกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะค่อย ๆ ปิดกล่องอย่างเบามือ"ตัวละ สะ สะ สี่แสนเลยเหรอ แล้ว ๆ ๆ มี 3 กล่อง คุณพระ! อิหวานจะเป็นลม ใส่แล้วมั
เคเอส กรุ๊ป สาขาอังกฤษร่างบางเดินหน้างอเข้ามากระแทกก้นสวยลงที่เก้าอี้ด้านหลังของโต๊ะทำงานในห้องผู้ช่วยท่านประธานสาขา แล้วชำเลืองมองคนที่กำลังทำท่าอ่านเอกสารอย่างขมักขเม้นเหมือนไม่ได้รู้สึกว่าเธอเดินเข้ามาในห้อง"โปรเฟสเซอร์คะ หวานขอลางานครึ่งวันค่ะ" เสียงหวานว่าขึ้นอย่างแง่งอน"ไม่อนุญาตครับ วันนี้คุณน้ำหวานยังไม่ช่วยผมทำงานซักบรรทัดเลยนะครับ" เจ้าของห้องว่าขึ้นนิ่ง ๆ"งั้นเอางานมาค่ะหวานจะทำ ไม่ใช่ให้มานั่งเป็นตุ๊กตาเสียกบาลอยู่แบบนี้""จะทำตอนนี้เลยหรือครับ" ชายหนุ่มหันมามองหน้าสายตากรุ้มกริ่ม แล้วจ้องหน้าอกคู่สวยที่ดันเชิ้ตผ้าลื่นสีหวานอย่างเปิดเผย"หันไปเดี๋ยวนี้โปรเฟสเซอร์ ตามข้อตกลงของเราคือหวานจะลงไปอยู่กับพวกพี่ข้างล่างได้วันที่โปรเฟสเซอร์มีสอนนะคะ" คนสวยออกคำสั่งแล้วพูดถึงข้อตกลงร่วมกันหน้าบึ้ง ๆ"แต่ตามข้อตกลงของเรา คุณผู้ช่วยจะต้องขึ้นมาถ้าผมอยู่ที่ห้องนี่ครับ" ชายหนุ่มหันมาพูดยิ้ม ๆ แล้ววางปากกาในมือก่อนจะหันเก้าอี้ทั้งตัวมามองหน้าหญิงสาว"พี่มาร์ค... หวานอยากฝึกการตลาดน่ะ นะ...นะ นะ..." คนตัวเล็กลุกขึ้
"เอ่อ...อาตรีมาอยู่ที่นี่นานแล้วหรือคะ พี่มีนาไปตามหาที่บ้านแม่นารถหลายรอบเลยค่ะ ไปตามที่ร้านพี่โรมถามหนูตั้งหลายรอบ" หญิงสาวเอ่ยถามในขณะที่แม่บ้านตักข้าวใส่จานให้และเธอก็เผลอยกมือไหว้อย่างไทยจนแม่บ้านแอบยิ้มกับความน่ารักแรกเห็น"ก็มาตั้งแต่มาร์คให้มานั่นแหละ อามาอยู่ที่นี่ได้ 3 ปีกว่าแล้วล่ะ" อามนตรีตอบหญิงสาวยิ้ม ๆ"พี่มาร์คให้มา?" หญิงสาวทวนคำพลางมองหน้ามาร์คอึ้ง ๆ"เผอิญว่าไร่องุ่นของพ่อเพื่อนพี่ที่นี่ อยากแบ่งขายพี่เลยซื้อให้อาตรีดูแลต่อ" ชายหนุ่มตอบยิ้ม ๆ พลางตักอาหารวางใส่จานให้หญิงสาว"ซื้อไร่องุ่นที่นี่หรือคะ""ใช่ลูก มาร์คสร้างชีวิตใหม่ให้อาได้หลุดพ้นจากครอบครัวนั้น ตอนนี้อามีความสุขมากจนไม่อยากกลับไทยเลยล่ะ" อามนตรีตอบยิ้ม ๆ "แล้วพี่มีนอาเดือนล่ะคะ" "ก็ช่างเขาสิลูก 2 แม่ลูกนั่นไม่ได้เกี่ยวกับอาหรอก ลูกของอาจริง ๆ เป็นผู้ชายชื่อต้นกับตามเขาเสียตอนอนุบาลทั้งคู่ ส่วนมีนาเป็นลูกที่ติดท้องมาของเดือนแรม อามันก็แค่เด็กในไร่การศึกษาสูงที่สุดในตอนนั้นที่เจ้าของไร่บังคับให้แต่งงานกับลูกสาวเพื่อรักษาหน้าตาของตัวเองแล้วสวมหัวโขนให้อาทำงานเป็นลูกเขยทั้ง ๆ ที่จริง ๆ อามันก็แค่ลูกจ้างนั่
ช่วงบ่ายเกิดความโกลาหลกันขึ้น เพราะ 2 หลานสาวของคุณหญิงหายออกไปจากออฟฟิศ โดยไม่ได้ออกไปทานข้าวพร้อมกับคุณหญิง มาร์คไล่ดูกล้งวงจรปิดที่ออฟฟิศและของอพาร์ตเมนต์อย่างละเอียดเพื่อดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าช่วงที่ตนไม่อยู่แล้วสั่งให้เลขาเพื่อนเช็คทะเบียนรถแท็กซี่ที่ 2 สาวขึ้นไปอย่างร้อนรน ช่วงบ่ายหลังจากที่รู้ว่าคนทั้ง 2 เดินทางไปที่ไหน ศิลาได้เรียกพนักงานที่อยู่ไหนเหตุการณ์ที่เป็นสาเหตุให้ของขวัญตัดสินใจกลับบ้านขึ้นมาพบทุกคน ชายหนุ่มสั่งให้เอ็ดเวิร์ดจองตั๋วเครื่องบินไปอเมริกาไฟล์ตที่ด่วนที่สุด เพราะคนทั้งคู่ไม่ได้นำเอาสิ่งของอะไรติดตัวไปนอกจากกระเป๋าสตางค์และเอกสารการเดินทางทั้งมือถือยังถูกทิ้งไว้ที่โซฟาในห้องของน้ำหวานอย่างไม่ใยดี..........//..........เช้าตรู่ของประเทศสหรัฐอเมริการถลีมูซีนสนามบินวิ่งเข้ามาจอดหน้าบ้านสีขาวหลังเล็กน่ารักที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ไม่มากนัก2 คนก้าวลงจากรถแล้วเดินอาด ๆ เข้าบ้านอย่างคุ้นเคยเสียงฝีเท้าหนัก ๆ เดินตรงมาที่ครัวทำให้น้ำหวานเงยหน้าขึ้นมองหน้าแม่เพื่อนอย่างสงสัย"ใครมาแต่เช้าค่ะมี้"
Mark talkเมื่อคืนผมได้คุยกับผู้ร่วมทุนคนใหม่ของโครงการที่ฝรั่งเศสครับ ท่านบอกว่าผู้หญิงเขาไม่ได้ต้องการความรับผิดชอบ เขาต้องการความรัก อันนี้มันเป็นสิ่งเกินคาดหมายของผมมากจริง ๆ เพราะที่ผ่านมาผมจะคิดว่าการรับผิดชอบเป็นอะไรที่ทุกคนต้องการเสมอ ตอนที่ผมอยู่เมืองไทยการที่เราจะมีเซ็กส์กับผู้หญิงคนหนึ่ง สำหรับผมคือการยื่นเงินเป็นตัวเลขให้แล้วจบกันตรงนั้นผมคิดว่าเป็นแค่การซื้อขายหรือความรับผิดชอบในทางธุรกิจที่จะไม่ผูกมัดหรือผูกพันอะไรกัน แต่เมื่อผมมีอะไรกับน้องในคืนนั้น ผมพยายามจะขอรับผิดชอบโดยอ้างสิ่งที่เกิดขึ้นแบบไม่ยื่นจำนวนเงินหรือสิ่งที่เป็นตัวเลขให้ แต่ผมกลับนึกคำพูดหรือความหมายพวกนั้นไม่ออก จนได้มาคุยกับผู้ร่วมทุนท่านนี้ ท่านเหมือนเป็นผู้เขี่ยผงเล็ก ๆ ออกจากตาของผมทำให้เข้าใจว่าสิ่งที่ผมจะยื่นให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่เราอยากจะมีเขาอยู่ตลอดชีวิต มันไม่ใช่ความรับผิดชอบ แต่ สิ่งที่ผมควรยื่นให้เธอคือ ความรักแล้วท่านก็ใจดีมากครับที่ยอมให้เครื่องบินส่วนตัวมาส่งพวกผมเมื่อคืน ตลอดทางผมนึกหาคำพูดต่าง ๆ หาเหตุผลประกอบว่าทำไมน้องถึงไม่อยากให้ผมกล่าวถึงเรื่องนี้ จนผมได้คุยกับไอ้เทน ม
"ไม่เห็นว่าอะไรนี่ ท่านไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลยนะ คงเป็นปกติของอเมริกันชนน่ะ เพื่อน ๆ ของน้องขวัญเขาก็มีเซ็กส์กันตั้งแต่ไฮสคูลเยอะแยะไป แต่กับศิลา น้องขวัญก็คงแค่คู่นอนตอนกลางคืนตอนกลางวันเราก็เป็นเจ้านายลูกน้องกันปกติ""จ่ะ เจ้านายลูกน้อง เรียกไปนอนกลางวันซะทุกวันขนาดนั้น แหนะ ๆๆ อย่าบอกนะว่าบอสหิวกลางวันด้วยน่ะ" หญิงสาวชี้หน้าถามเพื่อนอย่างล้อเลียน *พี่มาร์คก็คงคิดกับเราแบบนี้สินะ มากกว่าพี่แต่ไม่ใช่ผัว*"บ้า ~ ช่วงนั้นป่วยจริง นอนกลางวันจริงจ่ะ แต่ต่อไปก็ไม่ได้นอนแล้วไงก็มาฝึกงานกับหวาน เอ้อ... เห็นศิลาพูดว่าคุณปู่สั่งให้หวานขึ้นมาฝึกงานกับพี่มาร์คนี่ พี่มาร์คบอกหรือยัง?" ของขวัญตอบเพื่อนพร้อมกับถามอย่างนึกขึ้นได้"ก็เกริ่นเมื่อคืนนิดนึงนะแต่นิดเดียวจริง ๆ แต่ยังไม่รู้อะไรคงต้องรอผู้ใหญ่สั่งอีกทีล่ะมั้ง แต่หวานอยู่แผนกนี้ก็สนุกนะ พี่ ๆ น่ารักดี" น้ำหวานว่ายิ้ม ๆ *จะให้ไปทำไมวะแค่นี้ก็หายใจไม่ได้แล้วมั้ย*"เมื่อวานพี่โอปอล์กระซิบบอกว่าระวังเอริน่าแผนกต้อนรับ นางปลื้มพี่มาร์คมาก 2 วันนี้พี่มาร์คกับท่านประธานไม่อยู่ ระวังโดนหยุมหัว" ของขวัญยื่นหน้าพูดกับเ
4 ทุ่มของวันเดียวกัน ชายหนุ่ม 2 คนเดินออกจากลิฟต์ของ อพาร์ตเมนต์ ศิลาต้องขมวดคิ้วแล้วดึงแขนเพื่อนอย่างนึกได้"เดี๋ยวมาร์ค มึงบอกว่าวันนี้น้องขวัญกับน้ำหวานจะกลับมานี่" พูดขึ้นพลางขมวดคิ้วแล้วหันมองห้องตรงข้ามของมาร์ค"เออ~ ว่ะ แล้วจะมาตอนไหนไม่เห็นโทรบอกให้ไปรับวะ กูลืมน้อง ๆ ไปแล้วนะเนี่ย" ว่าจบมาร์คก็ล้วงมือถือมากดโทรหาน้ำหวานทันที ซึ่งเสียงมือถือก็ดังแว่ว ๆ ออกมาจากห้องของหญิงสาว"มาถึงแล้วไง" ศิลาเอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินไปแตะคีย์การ์ดห้องตรงข้ามกับห้องของตัวเองเดินตรงเข้าไปในห้องนอนแล้วเดินออกมาที่หน้าห้องของน้ำหวานอีกครั้งก่อนจะแตะคีย์การ์ดเปิดประตูเข้าไปอุ้มร่างบางเดินออกมาที่ห้องตัวเองผ่านหน้าเพื่อนชาย ซึ่งมาร์คก็ได้แต่ยืนยิ้มส่ายหน้าขำ ๆ"เฮ้อ...มึงก็มึนเกินศิลา ยังดีที่น้องขวัญไม่โกรธกูนี่สิ ขนาดมายังไม่บอกกูเลยเฮ้อ" ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองแล้วเดินเปิดประตูเข้าไปที่ห้องตัวเองอย่างหงอย ๆ "เอาเหอะ...พรุ่งนี้ค่อยคุย" .............//..........4 ทุ่มของอีกวันวันนี้ทั้งวันมาร์คต้องออกไปพบลูกค้ากับศิลาที่ต่างเมืองชายหนุ่
ครืด.... ครืด....เสียงมือถือดังขึ้นทำให้คนกำลังนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยถึงกับสะดุ้งหันมาคว้ามือถือกดรับสายทันทีแบบไม่ได้ดูสายเรียกเข้า"สวัสดีค่ะ"(ตัวเล็ก)"คะ"(เป็นอะไรหรือเปล่า)"เปล่าค่ะ"(ศุกร์นี้ไปอเมริกากันนะ) เสียงปลายสายเอ่ยชวนพลางถอนหายใจเบา ๆ"ไปทำไมคะ"(น้องขวัญเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะ) คำบอกเล่าทำให้น้ำหวานถึงกับลุกขึ้นนั่งชันเข่าทันที"น้องขวัญเป็นหนักหรือคะ" เสียงเครือปนสะอื้นดังลอดไปตามสาย(พี่ก็ไม่รู้หรอก วันศุกร์เลิกงานเราไปกันนะพี่จองตั๋วไว้แล้ว)"แต่หวาน..."(ไปเถอะพี่จองตั๋วไปแล้ว) มาร์คเอ่ยสวนขึ้นทันที"ค่ะ"(กินข้าวรึยัง ออกไปกินข้าวกับพี่มั้ย) ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่องชวนคุย"เรียบร้อยแล้วค่ะ หวานจะนอนแล้ว แค่นี้นะคะ" ตื๊ด! ....mark talkตั้งแต่วันนั้นน้องก็พยายามหลบหน้าผมตลอดเลย คงงอนไปแล้วล่ะ ช่วงนี้ผมก็งานยุ่ง แต่จะว่ายุ่งแค่ช่วงนี้ก็ไม่ใช่ครับ เพราะงานผมก็แบบนี้มาตลอดอยู่แล้ว ยิ่งช่วงนี้ศิลามันไม่อยู่น้องขวัญที่กลับบ้า