“ยังไง…ยังไงก็ไม่ใช่คนแถวนี้” ข้าวหอมพึมพำแล้วส่ายหัวเบา ๆ โดยที่ตาก็ยังมองออกไปนอกร้านหนังสือ
ในหัวของหญิงสาวยังคงมีความฉงนใจอยู่ไม่น้อยกับผู้ชายแปลกหน้าทั้งสองคนที่เข้ามาในร้านของเธอ เพราะดูยังไงก็ไม่ใช่คนทั่วไปที่จะมาอยู่ในตรอกซอกซอยแบบนี้แน่ ๆ โดยเฉพาะผู้ชายที่มีใบหน้าหล่อร้ายพร้อมรอยสักที่เข้ามาในร้านของเธอพร้อมกับมีดในมือ…ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่
นี่ฉันยังปลอดภัยอยู่ไหมนะ?
ผู้ชายสองคนนั้นเล่นเดินสำรวจไปจนทั่วร้านแถมอีกคนยังรู้ห้องลับของเธออีกต่างหาก ดูไม่น่าไว้ใจเลยแม้แต่คนเดียว…
หญิงสาวรูปร่างเพรียวบางส่ายหัวอีกครั้งไล่ความคิดเป็นกังวลของตัวเองก่อนจะเดินไปกดล็อกประตูทางเข้าของร้าน และปิดไฟทั้งหมดภายในร้านให้ดับลงเหลือไว้เพียงไฟตามชั้นวางหนังสือที่ยังคงส่องเข้าสินค้าภายในร้านของเธอ ทำให้ร้านหนังสือวินเทจแห่งนี้ไม่ได้มืดสนิทจนดูน่ากลัว
คนตัวเล็กหันมองทั่วร้านเพื่อเช็กความเรียบร้อยอีกครั้งแล้วถึงได้เดินไปที่ม่านสีขาวนวลสะอาดตาเพื่อจับเลิกมันขึ้นให้เห็นประตูอีกบานที่ซ่อนอยู่ มือบางหยิบกุญแจอีกดอกไขประตูเปิดเข้าไปเพื่อเดินขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวของเธอ ขาเรียวก้าวเดินไปตามบันไดวนจนขึ้นมาถึงยังชั้นที่เป็นห้องนอน เธอมองประตูห้องนอนของตัวเองอยู่ชั่วครู่พลันถอนหายใจออกมากับเรื่องราวแปลก ๆ ในวันนี้แล้วถึงได้เปิดประตูเดินเข้าห้องนอนของตัวเองไป
ทันทีที่ร่างอ้อนแอ้นเข้ามาภายในห้องนอนของตัวเองเรียบร้อย เธอก็ไม่รอช้ารีบปลดเปลื้องเสื้อผ้าแล้วตรงไปยังห้องน้ำเพื่ออาบน้ำสระผม และชำระล้างร่างกายให้สะอาดสดชื่นขึ้น ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงสาวสวยก็กลับออกมาในชุดกระโปรงพร้อมนอน เธอมองไปที่โต๊ะตัวเล็กข้างเตียงที่มีหนังสือวางทิ้งอยู่สามสี่เล่มก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูห้องแล้วเดินออกไปด้านขวามือของบ้านชั้นบนที่เป็นห้องครัวขนาดกลาง ข้าวหอมตรงไปหยิบนมสดมาเทใส่แก้วแล้วส่งมันเข้าไมโครเวฟเพื่ออุ่นนมให้พอร้อนแล้วเดินตรงกลับเข้าห้องนอนอีกครั้งเมื่อเธอได้ในสิ่งที่ต้องการ
คนตัวเล็กถือแก้วเซรามิกในมือเดินเข้ามาภายในห้องนอนโดยไม่ลืมที่จะหยิบหนังสือที่เธออ่านค้างไว้ติดมือมาด้วยแล้วสาวเท้าเดินไปที่มุมโปรดปรานภายในห้องของตัวเอง ก้นกลมกลึงหย่อนตัวลงนั่งตรงมุมหน้าต่างบานโค้งที่ถูกออกแบบให้อยู่ตรงกับหัวมุมถนนพอดีเฉกเช่นเดียวกันกับร้านหนังสือของเธอ ดวงตากลมสวยมองทอดออกไปด้านนอกในยามค่ำคืนที่แสนจะเงียบสงบ ถนนภายในซอยไม่มีรถวิ่งผ่านในเวลานี้หญิงสาวเลยเห็นแต่หลังคาบ้านเรือนตัดกับเส้นขอบฟ้าสีดำสนิทที่มีดาวส่องแสงประกายระยิบระยับผสมกลมกลืนไปกับแสงจันทร์
ใบหน้าสวยก้มลงอ่านหนังสือที่ถืออยู่ในมือพร้อมกับจิบนมอุ่นร้อนไปพลาง ๆ อย่างเพลิดเพลิน เธอใช้เวลาดื่มด่ำกับตัวหนังสือและความเงียบสงบอยู่พักใหญ่แล้วถึงได้ส่งตัวเองเข้านอนใต้ผ้าห่มผืนหนา เป็นการจบวันแบบที่หญิงสาวชอบมันมากที่สุดและทำเป็นประจำทุกคืน…
06:30น.
ร่างเล็กค่อย ๆ ขยับบิดตัวไปมาอยู่ใต้ผ้านวมเมื่อถึงเวลาที่ร่างกายของเธอจะตื่นขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติในยามเช้า โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งนาฬิกาปลุกเลยสักครั้งเดียว ข้าวหอมเลิกผ้าห่มออกจากตัวแล้วใช้แขนยันตัวเองลุกขึ้นมานั่งหลังตรงเพื่อเรียกสติให้เข้าครบถ้วน แล้วถึงได้ลุกขึ้นยืนเต็มสองเท้าตรงไปที่หน้าต่างบานโค้งกลางห้องเป็นที่แรก เธอมองนกน้อยสองตัวที่มักจะมาเกาะตรงหน้าต่างด้านนอกของห้องเธอเป็นประจำด้วยความอิจฉา เพราะมันชอบมาพลอดรักให้ดูจนคนที่โสดมาตลอดยี่สิบสามปีอดตาร้อนไม่ได้
ขนาดนกยังมีคู่ แล้วทำไมฉันถึงไม่มีใครเลยนะ…
ปากอวบอิ่มคลี่ยิ้มบาง ๆ พร้อมกับส่งนิ้วเรียวไปแตะลูบกระจกประหนึ่งกำลังหยอกล้อกับนกน้อยสองตัวนอกหน้าต่าง เธอมองดูพวกมันครู่หนึ่งแล้วถึงได้ไปเข้าห้องน้ำเพื่อเตรียมตัวเปิดร้านในเช้าวันนี้
ด้วยความที่หญิงสาวตื่นเร็วกว่าทุกวัน ทำให้วันนี้เธอลงมาเปิดร้านไวขึ้นกว่าเวลาปกติเกือบหนึ่งชั่วโมง คนตัวเล็กนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานในชุดกระโปรงระบายตามสไตล์ที่เธอชอบ ส่วนมือก็คอยส่งขนมปังปิ้งทาแยมสับปะรดเข้าปากเป็นระยะระหว่างที่กำลังเปิดระบบของร้านเพื่อเช็กออเดอร์การสั่งซื้อในแต่ละวัน โดยมีเสียงของจอสี่เหลี่ยมขนาดกลางที่ถูกแขวนไว้เหนือหัวดังเคล้าไปกับเสียงการขบเคี้ยวขนมปังปิ้งของเธอ
หญิงสาวไล่สายตามองรายชื่อหนังสือที่เธอต้องทำการจัดส่งภายในวันนี้อย่างละเอียดจนลืมเคี้ยวขนมปังที่คาอยู่ในปาก เธอต้องใช้สมาธิพอสมควรเพราะหนังสือบางเรื่องก็มีมากกว่าหนึ่งเล่มที่ถูกออกแบบมาให้คล้ายคลึงกันจนแทบแยกไม่ออก มือเรียวกดพรินต์ลิสต์หนังสือออกมาโดยไม่ลืมที่จะกดสั่งหนังสือออกใหม่จากสำนักพิมพ์ต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน เพื่อให้ร้านของเธอมีหนังสือใหม่อัปเดตให้ลูกค้าได้เลือกซื้อเลือกเช่าอยู่เสมอ
~ ข่าวเด่นประจำวันนี้คงหนีไม่พ้นเรื่ององค์กรมาเฟียระดับสูงอย่าง ฮอปกินส์ และ แบรดลีย์ ที่ถูกรายงานว่าได้เข้ามาภายในประเทศของเราพร้อมกันถึงสององค์กร เพื่อแย่งอาณาเขตการปกครองธุรกิจสีเทา…ซึ่งข่าวนี้ได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นความจริง เลยอยากให้ประชาชนทุกท่านระมัดระวัง ~
เสียงผู้ประกาศข่าวหญิงที่เพิ่งดังออกมาจากจอดิจิตอลดึงความสนใจให้ใบหน้าสวยละสายตาออกมาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเธอได้แทบจะทันที
ฮอปกินส์ กับ แบรดลีย์ อย่างนั้นหรอ…
หญิงสาวคิดในใจพลันนิ้วเรียวก็คลิกเมาส์กดเปิดหน้าต่างใหม่แล้วพิมพ์ชื่อสองกลุ่มมาเฟียลงในช่องค้นหาด้วยความรวดเร็ว เธอไล่สายตามองข้อมูลต่าง ๆ ที่แสดงขึ้นมาบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้าอย่างละเอียด แต่ก็มีแค่ข้อมูลคร่าว ๆ ขององค์กรเพียงเท่านั้น ไม่มีรายละเอียดเชิงลึกหรือโฉมหน้าของหัวหน้าองค์กรเลยแม้แต่น้อย
แล้วแบบนี้จะระวังยังไงล่ะ เล่นไม่มีข้อมูลอะไรที่จำเพาะให้รู้ได้ด้วยซ้ำ…
ข้าวหอมคิดสับสนภายในใจจนคิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเป็นปม เพราะตอนนี้เธอรู้เพียงแค่ว่าฮอปกินส์ และแบรดลีย์เป็นสองกลุ่มมาเฟียตระกูลใหญ่ที่กำลังคานอำนาจกัน และไม่มีใครกล้าต่อกรกับสององค์กรนี้
มาเฟียอย่างนั้นหรอ? ก็ต้องโหดมาก ๆ เลยสิ แล้วบ้านเมืองฉันทำไมอยู่ดี ๆ ถึงได้ดูอันตรายขนาดนี้กันล่ะ
“ข้อมูลอะไรก็ไม่มี แล้วจะให้ระวังยังไง…”
เสียงหวานพึมพำออกมาโดยที่ตาก็ยังจ้องไปที่ผู้ประกาศข่าวสาวในจอไม่กระพริบ
“ช่างมันละกัน ยังไงมาเฟียกลุ่มใหญ่ขนาดนั้นก็คงไม่มาอยู่ในตรอกซอกซอยแถวบ้านฉันหรอก”
เธอพูดออกมาคนเดียวพร้อมให้เหตุผลที่ดูสมเหตุสมผลที่สุดสำหรับตัวเอง พอคิดได้แบบนั้นหญิงสาวเจ้าของร้านเลยละสายตาออกจากโทรทัศน์ตรงหน้าแล้วหันมาสนใจงานของตัวเองต่อพร้อมกับจัดการกับอาหารเช้าของเธอให้หมดไปพร้อม ๆ กัน
เท้าเรียวไถลเก้าอี้ล้อเลื่อนของตนเองให้ถอยไปด้านหลังแล้วถึงได้ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงหลังจากได้ลิสต์รายชื่อหนังสือทั้งหมดที่ต้องจัดส่งภายในวันนี้แล้ว รองเท้าคัชชูหนังสีน้ำตาลเข้มแบบมีส้นเดินช้า ๆ ไปที่ชั้นหนังสือมุมด้านหน้าของร้าน พลันดวงตาเรียวสวยก็ไล่สายตาหาชื่อหนังสือที่อยู่ภายในลิสต์แล้วใช้นิ้วเกี่ยวเอาหนังสือเล่มสีน้ำเงินกรมท่าออกมาถือไว้ มือบางจับปากกาติ๊กเครื่องหมายถูกลงบนกระดาษสี่เหลี่ยมสีขาวเพื่อเป็นสัญลักษณ์บอกให้ตัวเองรู้ว่าเธอได้หยิบมันมาแล้ว
“หื้ม…?”
ในขณะที่สาวเจ้าของร้านกำลังเดินก้ม ๆ เงย ๆ เพื่อหาหนังสือในแต่ละชั้นวางอยู่นั้น เธอก็ได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังซ่อมหรือทุบอะไรบางอย่างดังขึ้นมา จนใบหน้าสวยต้องหันไปมองหาต้นตอของเสียง แต่ไม่ทันที่เธอจะได้สงสัยนานเสียงนั้นก็เงียบลง หญิงสาวเลยหันมาสนใจกับการหาหนังสือบนชั้นต่อเพราะคิดว่าคงมีช่างมาซ่อมสายไฟหรือก่อสร้างอะไรอยู่แถวนี้
วี้ดดด วี้ดดดด!
“เอ๋?”
ร่างเล็กในชุดกระโปรงที่กำลังนั่งยอง ๆ อยู่บนขาของตัวเองหันไปมองตามเสียงที่ดังคล้ายสว่านกำลังทำงาน เสียงของมันดังชัดขึ้นกว่าครั้งก่อนหน้าจนใบหน้าสวยฉายแววความสงสัยออกมาอีกครั้ง เพราะมันดูอยู่ใกล้ประหนึ่งดังมาจากด้านในร้านของเธอ…
ปึงงง !
หญิงสาวลุกขึ้นยืนทันทีที่ได้ยินเสียงของการกระชากอะไรบางอย่างดังลั่นขึ้นมา และเธอเริ่มจะแน่ใจว่าเสียงเมื่อสักครู่นั้นเกิดขึ้นภายในบ้านของเธออย่างแน่นอน ขาเรียวก้าวฉับ ๆ เดินกลับมาที่เคาน์เตอร์กลางร้านอีกครั้งแล้ววางหนังสือในมือลงบนโต๊ะพลางเอียงหูฟังเสียงอย่างตั้งใจ
เสียงนั่นดังมาจากหลังชั้นหนังสือภายในห้องลับหนิ…
คิ้วสวยขมวดเป็นปมก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปหลังเคาน์เตอร์เพื่อหยิบเอากุญแจดอกเล็กที่อยู่ในลิ้นชักออกมา ข้าวหอมมองกุญแจในมือแล้วเดินตรงไปที่กล่องดนตรีอย่างไม่ลังเล เธอสอดลูกกุญแจเข้าไปในรูเล็ก ๆ แล้วบิดมันช้า ๆ พร้อมกับเปิดฝากล่องดนตรีให้อ้าออก ชั้นหนังสือตรงหน้าก็เริ่มเคลื่อนตัวไปตามกลไกที่พ่อของเธอทำเอาไว้ทันที