ผมตื่นขึ้นมาบนเตียงนอนด้วยนาฬิกาชีวิต มึนงงเล็กน้อย มองออกไปรอบๆ ห้องๆ อย่างแปลกใจ ก่อนจะกระเด้งตัวขึ้นจากที่นอน วิ่งไปที่ห้องนั่งเล่น แย่ละ…
แต่พอวิ่งไปถึงแล้วก็ต้องชะงัก ไฟถูกปิดทั้งหมด ทีวี แอร์ ทุกอย่างหยุดการทำงาน ความอบอุ่นของห้อง ทำให้รู้ว่ามันถูกปิดไปนานมากแล้ว ผมยืนกะพริบตาปริบๆ อยู่กลางห้อง ก่อนจะค่อยๆ เดินไปนั่งลงบนโซฟา ครุ่นคิดเรื่องเมื่อคืน ผมดูซีรีส์อยู่ ผมจำได้ ผมอาจจะง่วงมาก ถึงได้เข้าไปนอนในห้อง แต่มั่นใจมากพอว่าตัวเองไม่ได้เดินปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าพวกนี้แน่
“หรือจะมีผีว่ะ?” บ่นพึมพำเบาๆ กับตัวเอง ไม่หรอก นี่มันตึกพึ่งสร้างนะ ห้องก็ราคาแพง ใช่ห้องถูกๆ ซะที่ไหน ไม่น่าใช่หรอก หรือผมละเมอไปปิดว่ะ ขมวดคิ้วครุ่นคิดอย่างหนัก ก่อนที่จะ ช่างแม่ง....
พอคิดได้ดังนั้นก็เลยลุกขึ้น ไปอาบน้ำแต่งตัว เตรียมไปเรียน ออกมาทำอาหารเช้าทาน พอทานเสร็จก็จัดการล้างเก็บให้เรียบร้อย ก่อนจะขับรถไปที่มหาลัย พอไปถึงผมก็ยังคงนั่งครุ่นคิดถึงเรื่องนั้นอยู่ จะช่างแม่งมันก็ได้แหละ แต่สงสัยไง เออ ช่างแม่งก็ได้.... คิดพลางสะดุ้งเมื่อมีคนตบลงที่บ่าหนักๆ จนต้องหันหน้าไปมอง
“เป็นห่าอะไร นั่งเหม่ออยู่นั่น” ไอ้ซันนั่นเองที่มานั่งข้างๆ
“เปล่า กูแค่กำลังคิด”
“คิดอะไร?”
“มึงมาห้องกู มึงว่ามันมีอะไรแปลกๆ ไหมว่ะ” ผมลองถามหยั่งเชิงดูก่อน
“ก็ไม่นี่?”
“อืม” ผมตอบรับในลำคอ
“มีอะไรรึเปล่า?”
“ไม่แน่... ไม่แน่ใจว่ะ”
“อะไรที่แปลก? คนเอากันข้างห้อง? ของหาย? ผีหลอก? หรืออะไร”
“อาจจะ... ผีมั้ง”
“ฮึฮึ เชิญพระเข้าห้องรึยังละ”
“มีอยู่ในห้องนอน”
“อ้อออออ งั้น... เมื่อคืนหลับสบายดีไหมละ”
“อ่อ ก็ดีนะ เออว่ะ หลับสบายจนไม่สะดุ้งตื่นเลย หรือกูต้องเชิญพระไว้ที่ห้องนั่งเล่นด้วยว่ะ กูต้องเอาไปไว้ในห้องครัวด้วยไหม? ห้องน้ำล่ะ??”
“พอเลย พระท่านไม่อยากดูมึงเปลือยหรอกนะ” ไอ้ซันว่าพร้อมกับยีหัวผมเบาๆ ก่อนจะขยับเข้ามาใกล้ๆ พูดด้วยเสียงกระซิบข้างใบหู
“พระท่านไม่อยากหรอก แต่กูอยาก”
“.......”
“.......”
“หะ หะ เหี้ยเถอะ อะไรของมึงเนี้ย” พูดพลางหันสะบัดหน้าไปอีกทาง อะไรวะ ทำไมแม่งร้อนขนาดนี้ มึงจะอบคนให้ตายทั้งห้องเลยรึไง ร้อนจนเหงื่อออกไปหมดแล้วเนี้ย หัวใจก็เต้นซะเร็ว ร้อนซะกูจะเป็นลมแล้วโว้ยยยยยย ได้แต่โทษฟ้าโทษฝน โทษลมโทษอากาศ
จนกระทั่งเพื่อนๆ มากันจนครบรวมถึงไอ้เพชรด้วยนะครับ ที่ไอ้ซันมันเรียกชวนให้มานั่งด้วยกัน และคนสุดท้ายที่มาก็คือไอ้นาย ขาเป๋มาเชียวแล้วท่าทางอาการที่ซีดเซียวนั้นอีกละ โดนมาแน่ๆ บอกเลย ฮะๆ
“เดี๋ยวกูมานะ” ผมหันไปพยักหน้าให้ไอ้ซันที่กำลังลุกขึ้น เดินออกจากห้องเรียนไป ผมก็ไม่ได้ถามอะไร คิดว่ามันคงจะเข้าห้องน้ำ แต่ไม่ใช่ครับ มันกลับมาพร้อมกับดอกกุหลาบสีแดงสดในขวดแก้วใบใส 2 ชิ้น ก่อนจะยื่นให้ผมอันหนึ่ง ของมันอันหนึ่ง ไม่ต้องเดาเลย พี่เทคผมแน่ๆ
“พี่รู้ว่ามันไม่ค่อยเหมาะที่ซื้อดอกกุหลาบมาให้ แต่ตอนที่เห็นพี่คิดถึงน้องเบสเลยครับ หวังว่าจะชอบนะ”
ผู้ชาย?? กับดอกไม้?? มันจะเหมาะหรอว่ะ อะไรทำให้พี่เขาดลใจซื้อมาว่ะ ผมละงงใจพี่แกจริงๆ ของไอ้ซันก็มีการ์ดนะครับ ด้วยความเร็วแสง ผมแย่งจากมือของมันมาอ่านดูบ้าง
“ขอบคุณที่คอยช่วยนะครับคุณซัน ชอบไหมครับ?”
พอได้อ่านผมก็ยู่ปาก ก่อนจะส่งคืนให้ มองดอกกุหลาบในโหลแก้วอย่างเซ็งๆ ไม่ต่างจากไอ้ซันเท่าไหร่
“มึงคิดเหมือนกูใช่ไหม? B1”
“เออ คิดเหมือนมึงนั่นแหละ B2”
“สิ้นคิด/ปัญญาอ่อน” ผมกับไอ้ซันพูดออกมาพร้อมกัน ก่อนจะถอนหายใจ แต่แล้ว โทรศัพท์ของไอ้ซันก็ดังขึ้นอีกครั้ง มันก็ลุกเดินออกไปอีก ไอ้ซันหายไปพักหนึ่ง ก่อนจะกลับมาพร้อมกาแฟและชานมในมือ ขนมอีกนิดหน่อย จากร้านดังประจำมหาลัย
“อะ พี่เทคมึงเขาขอแก้ตัว” พูดพลางวางชานมกับถุงขนมไว้บนโต๊ะ ไอ้วุฒิกับไอ้นายหันมามองอย่างสนใจในทันที ต่างจากไอ้เพชรที่นั่งมองเอื่อยๆ ไร้ความสนใจพวกผมทั้ง 4 สี่คนที่กำลังขยับตัวยุกยิ้กไม่หยุด
ในวันนั้นเราก็เรียนๆ เล่นๆ กันไปนั่นแหละครับ พอเสร็จก็แยกย้ายกันกลับ ผมเองก็กลับไปนอนทันทีเช่นกัน พอตื่นแล้วก็ลุกมาทำข้าวกิน อาบน้ำแต่งตัว ใส่ชุดนอน ออกมานั่งดูซีรีส์ที่โซฟา ต่อจากตอนที่ค้างเมื่อวาน แอบระแวงหน่อยๆ แต่ก็พยายามปัดความคิดด้านลบทิ้งไป เริ่มดูหนังต่อ จนเวลาล่วงเข้าวันใหม่ จนเกือบจะตี 2 อยู่แล้ว ผมนั่งลุ้นตัวเกร็ง เมื่อพระเอกกำลังระวังตัวสุดๆ มือหนึ่งถือปืน อีกมือถือไฟฉาย ส่องไปในความมืดของห้องใต้ดิน ที่คนร้ายโรคจิตแอบซ่อนตัวอยู่
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด
เสียงที่ดังขึ้นทำให้ผมพยายามมองหาต้นเสียง แต่ว่ามันเงียบลงไปแล้ว ลมหายใจหอบกระชั้นขึ้นอีกนิดอย่างลุ้นระทึก
แกร๊ก!
แอ๊ดดดดดดดดดดดด
ในคราวนี้ผมสันหลังแข็งเกร็งเย็นวาบ มองไปที่ประตูห้องนอน ห้องน้ำ ห้องเก็บของ 3 ประตูที่เรียงอยู่ใกล้ๆ กัน แต่ก็ไม่พบประตูบานไหนเปิดออกแม้แต่น้อย จึงค่อยๆ หันไปมองที่ประตูห้องครัว ซึ่งแง้มอยู่เล็กน้อย และดวงไฟที่กำลังเปิดสว่าง
ซ่าาาาา
เอี๊ยดดดด
พรึ่บ!
ผมนั่งหันหน้ากลับมามองหน้าจอดังเดิม นั่งนิ่งๆ ตัวเริ่มสั่นหน่อยๆ อย่างควบคุมไม่อยู่ ไม่กล้าแม้แต่จะลุกไปดูว่าในห้องนั้นมี
ใคร
หรือ
อะไร
ที่กำลังใช้งานอยู่
แซ่ก แซ่ก แซ่ก
หัวใจผมเต้นกระหน่ำรัว จนเหมือนหัวใจจะวาย เมื่อเกิดเสียงอะไรสักอย่างดังขึ้นข้างหลัง
ตุ้บ!!!
“ทำไมไม่นอน”
“เหี้ย!!!!”
ผลั๊ก!!!
“โอ้ย!”
ผมต่อยออกไปทันทีเมื่อมีบางสิ่งทาบทับที่ด้านหลัง จนทำให้สะดุ้งแล้วมือลั่น จนคนที่โดนหงายลงไปนอนที่พื้นพร้อมกับเสียงร้อง ผมเบิ่งตาโต รีบวิ่งไปกดสวิตช์ไฟเพิ่มความสว่างในห้องทันที
พรึ่บ!
“ต่อยกูทำไมเนี้ย” ไอ้ซันนั่งอยู่ที่พื้น มือจับคางของตัวเองไว้
“กะ กะ ก็ ก็มึงทำกูตกใจ.... มึงอะผิด” ผมอุบอิบบอก ก็มันผิดจริงๆ นี่น่า มีที่ไหนที่มาดึกๆ ดื่นๆ มาเงียบๆ ไม่ให้สุ้มให้เสียง แถมยังแอบเข้าห้องผมด้วย อ๊ะ
“นี่มันเข้าห้องกูได้ไง??” ถามอย่างแปลกใจ กะพริบตาปริบๆ อย่างงุนงง ทั้งๆ ที่ควรจะถามตั้งนานแล้ว แต่พึ่งจะนึกได้ซะนี่
“ก็มึงบอกรหัสกูมา” ไอ้ซันยันตัวลุกขึ้น ปีนไปนั่งบนโซฟา ก่อนจะเริ่มปลดกระดุมเสื้อออกจากตัว ทำให้ชุดนักศึกษาสีขาวถูกแหวกออกกว้าง เผยให้เห็นหน้าท้องเป็นลอนสวย และไรขนนิดๆ กำลังนั่งเอาเท้ายันกับโต๊ะตัวเล็กด้านหน้า
“อ้อออออ ตอนไหนวะ???” ขมวดคิ้วถาม งงหนักยิ่งกว่าเดิม
“ตอนที่มึงหายหัวแล้วไปเจอกูในร้านสะดวกซื้อไง มึงบอกให้กูตามขึ้นมาทีหลัง แล้วบอกรหัสเอาไว้น่ะ”
“อ้อ เออ เหมือนจะใช่” ผมตอบก่อนจะเดินไปนั่งบนโซฟาข้างๆ กัน ไอ้ซันก็เอาแขนวางพาดไว้ที่พนักพิง ผมกดให้ซีรีส์ย้อนกลับเล็กน้อย เพราะเรื่องวุ่นๆ เมื่อครู่ ก่อนจะนึกขึ้นได้ แล้วถามมันอีกครั้ง
“แล้วตกลงมึงมาทำไม?”
“มาไม่ได้?”
“เปล่า ไม่ได้บอกว่าไม่ได้ แค่สงสัยว่ามึงมีอะไรถึงมาหาดึกๆ ดื่นๆ ไม่กลับห้องกลับหอไปพักผ่อนว่ะ”
“กูกำลังพักผ่อนอยู่ อีกอย่าง ถ้ากูบอกว่าอยากมานอนกับมึงละ” ไอ้ซันหันมาบอกผม จ้องมองนิ่งๆ แต่แววตานั้นกลับมีความอบอุ่นปรากฏอยู่
“ทำไมต้องมานอนกับกูด้วยละ” ผมถามพร้อมกับหันหน้าหนี ไอ้ซันเอื้อมมือมาบีบต้นคอของผมจากด้านหลัง
“ก็ถ้ากูไม่แวะมาดู พ่อมึงจ่ายค่าไฟอานแน่ เปิดแม่งหมดซะทุกอย่างทุกห้อง อีกอย่างก็ เป็นห่วงมึงด้วยนั่นละ ข้างล่าง..... เป็นไงบ้าง”
“ก็... เกือบจะหายแล้วละ มึงไม่ต้องห่วงหรอก”
“งั้น.... ทำอีกได้ไหม” คำถามของไอ้ซันทำให้ผมชะงักกึก เมื่อมันขยับเข้ามาใกล้ๆ ใบหน้าโน้มลงต่ำ จนผิวแก้มรับรู้ถึงลมหายใจร้อนๆ ทำให้ไม่กล้าหันไปมองหน้ามันได้แต่นั่งอยู่นิ่งๆ ก่อนจะตอบคำถามด้วยคำถาม
“มะ มึงถามอะไรของมึง”
“หึ งั้นกูจะถือว่านั่นเป็นคำตอบ”
จ๊วบบบบบ
ไอ้ซันมันจับคางของผมให้หันหน้าไปหา ก่อนจะประกบริมฝีปากลงมาทันที ดูดดึงเร่าร้อน แถมยังเร่งผมยิกๆ ด้วยลิ้นร้อนที่พยายามเข้ามาในโพรงปากอย่างดื้อดึง จนต้องยอมเปิดปากออก รับลิ้นหนาๆ เข้ามาภายใน
จุ๊บ จุ๊บ จ๊วบบบ
“อืม”
“อื้อออ”
รู้สึกเหมือนกับตัวจะลอยเลยครับ โคตรรู้สึกดี ฟินอะ ทำไงดีครับ ฮือออ โคตรดีเลย ปลายนิ้วร้อนๆ ไต่ไปตามตัว บีบคลึงไปทั่วกาย ก่อนจะค่อยๆ แกะกระดุมเสื้อออก แล้วเข้ามาสัมผัสผิวเนื้อสีขาวที่มีรอยรักปรากฏอยู่จางๆ จนกระทั่งไปสะกิดเม็ดเล็กบนยอดอก จนคนที่โดนสัมผัสสะดุ้งเฮือก
“อ๊ะ”
ปึก!
ผมดันตัวไอ้ซันออกอย่างรุนแรง มือทั้งสองยันอกของมันไว้ ไอ้ซันทำหน้าไม่เข้าใจปะปนไปกับความทรมาน ตาเยิ้มมองหน้าผมนิ่งๆ ผมได้แต่ก้มหน้า หอบหายใจเหนื่อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองไอ้ซันหน้าตื่น ร้องบอกทันที
“กูง่วงแล้ว มึงดูไปนะ ไปละ!!” พูดจบก็รีบวิ่งเข้าห้องนอนตัวเอง ปิดประตูดัง ปัง! ก่อนจะพิงหลังกับบานประตูยกมือขึ้นลูบหัวใจของตัวเอง
“เพื่อนกัน เราเพื่อนกัน พวกเราเป็นเพื่อนกัน” พึมพำสะกดจิตตัวเอง ไม่ให้ทำอะไรเลยเถิดมากกว่านี้ ก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงบนเตียงหลังใหญ่ ซุกหน้าลงกับหมอน ฝากความร้อนที่ใบหน้า ให้ซึมลงไปกับหมอน
แกร๊ก!
เสียงไอ้ซันที่เปิดประตูเข้ามา แต่ไม่ได้เข้ามาหาผมนะครับ มันเข้าห้องน้ำแทน แล้วเสียงน้ำไหลก็ดังขึ้น ผมนอนฟังด้วยหัวใจระทึก กลัวว่ามันจะทำอะไรแปลกๆ ออกมาอีก จนกระทั่งมันอาบเสร็จแล้วมาล้มตัวลงนอนที่ข้างๆ กัน ทำให้ผมเด้งตัวขึ้นนั่งทันที หันหน้าเข้าหามันแทน
“ทำไมไม่ไปนอนห้องมึงละ”
“มึงดูเวลาด้วย ว่ามันกี่โมงกี่ยามแล้ว จะให้กูถ่อขับรถกลับไปอีกรึไง”
“แต่ แต่มึงก็ต้องไปเอาพวกหนังสือเรียน ชุดนักศึกษาอยู่ดีไม่ใช่รึไง”
“เออ แต่กูอยากนอนก่อน มึงมีปัญหารึไง?”
“เปล๊า ไม่มี ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ”
“ไม่มีก็ดี มานอนได้แล้ว” ไอ้ซันดึงแขนข้างหนึ่งของผม จนทำให้ตัวไถลนอนลงบนเตียงนุ่ม ไอ้ซันขยับตัวอีกนิดหน่อย เป็นอันเข้าที่เข้าทาง เข้าทางมันนะครับ!!!
ไอ้ซันมันจับให้ผมนอนซุกอกมัน แขนข้างหนึ่งต่างหมอนให้ผม ส่วนแขนอีกข้างก็โอบรัดเอวให้เข้าไปแนบชิด จนหน้าท้องชิดติดกับหน้าท้อง ต้นขารับความร้อนรุ่มจากผิวกายของมันได้ชัดเจน แล้วไหนจะไอ้แท่งๆ ที่กำลังทิ่มผมอยู่นี่อีกละ!!!
“ไอ้ซัน ไม่ต้องกอดก็ได้มั้ง” ร้องประท้วงพลางพยายามดันตัวออกจากวงแขน แต่มันกลับรัดแน่นขึ้น ก่อนจะตอบออกมาเบาๆ
“กูติดหมอนข้าง” ไอ้ซันพูดพร้อมกับใช้มือลูกหัวผมเบาๆ เป็นการกล่อมนอน มือข้างที่ผมใช้หนุนนอนนั่นแหละครับ
“นอนซะ ดึกแล้ว หรือมึงจะดิ้นๆ หนีก็ได้ ถ้าอยากออกกำลังกายรอบดึก” น้ำเสียงของไอ้ซันไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ เลย จะมีก็แต่สัมผัสบนศีรษะที่อ่อนโยนเท่านั้น และเพราะคำพูดของมันทำให้ผมยอมนอนนิ่งๆ พยายามไม่ขยับไปโดน
อะไรๆ
ให้มากนัก เพราะสัมผัสที่อ่อนโยน คอยลูบศีรษะของผมอยู่ตลอด ทำให้ลดความเกร็งเครียดของกล้ามเนื้อลงอย่างช้าๆ ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ นานแล้วครับ ที่ไม่ได้รับความอ่อนโยนแบบนี้ ก่อนจะค่อยๆ หลับลงไปในที่สุด
ในเช้าวันถัดมาไอ้ซันก็ตื่นออกไปแต่เช้า เพราะต้องไปเปลี่ยนชุด รวมถึงเอาชีทวิชานั้นๆ มา ผมว่าที่ผมสงสัยว่ามีผี ผมได้ข้อสรุปแล้วล่ะครับ ผีไอ้ซันนี่แหละผมว่า ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจการกระทำของมันสักเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่มันบอกว่าจะเป็นเพื่อน แต่เพื่อนกันเขาทำแบบนี้หรอว่ะ มากอด มาหอม มาจูบ งี้หรอ แถมยังชวนทำหน้าซื่อตาใส เหมือนเป็นเรื่องธรรมดา นี่มันไม่ใช่แล้วมั้ง??
คิดพลางขับรถไปด้วย จนกระทั่งมาถึงมหาลัย เรื่องนี้ก็ยังคงวนเวียนอยู่ ไม่หายไปไหน พอไอ้ซันมา มันก็ยกมือขึ้นขยี้หัวผมเล็กน้อยแล้วผละออกไป นอกนั้นก็ทำตัวปกติ ไม่ได้มีท่าทีอะไร จนทำให้ผมงง
วันนี้ไอ้นายมาด้วยสภาพซีดเซียว แถมยังมาสายตั้ง 30 นาที และเหมือนจะเป็นไข้ด้วยครับ ตัวร้อนไปหมด บอกให้มันกลับไปก่อนก็ไม่ยอม จนกระทั่งเรียนคาบเช้าเสร็จ ไอ้นายก็อาการยังไม่ดีขึ้นดีเลย พวกผมเลยโทรหาคนรักมัน ให้มารับตัวกลับไป
Rrrrrrrrrr Rrrrrrrrr
“พี่ใช่ผัวไอ้นายไหมครับ” ไอ้ซันเอ่ยปากถามปลายสาย และเพราะเขาเป็นพี่นี่แหละ มึงจะไปถามเขาแบบนั้นได้หรอ!! ผมตบกบาลไอ้ซันไปฉาดใหญ่ ก่อนที่จะแย่งโทรศัพท์มาคุยเอง
“โอ้ยยย ไอ้สัส ตบมาได้” ไอ้ซันครวญคราง ทำหน้ามุ่ยขัดใจ
“พี่ใช่พี่เนมไหมครับ” ผมเอ่ยถามปลายสาย ซึ่งอีกฝ่ายก็ตอบรับกลับมา
[ครับ มีอะไรหรอครับ]
“พอดีไอ้นายมันไม่สบาย ตัวร้อนมากเลยครับ พี่มารับมันไปหน่อยได้ไหม พวกผมมีเรียนต่อช่วงบ่าย ถ้าให้ไปส่งคงจะไม่ทัน”
[นายเป็นไข้หรอครับ]
“ครับ”
[เดี๋ยวพี่รีบไปนะ รอแป๊บหนึ่ง]
“ครับ”
[อีก 10 นาทีพี่จะถึง พี่รบกวนเราเฝ้านายไว้ให้พี่ก่อนนะ เดี๋ยวพี่รีบไป]
“ได้ครับ” ผมตอบรับกลับไป แล้วช่วยกันพยุงไอ้นายให้ลงไปรอที่ด้านล่างของตึก บอกเพื่อนๆ ไปพลาง ว่าพี่เขาจะมาใน 10 นาที ซึ่งพี่เขาก็มาใน 10 นาทีจริงๆ ครับ ไอ้นายนอนฟุ้บหน้าลงกับโต๊ะไม่ได้สติ โดยที่มีพวกผมดูแลให้อยู่ ก่อนจะเกิดเสียงกรี้ดดังขึ้น เมื่อรถของพี่เนมมาจอดอยู่ตรงหน้า เพราะความหรูหราราคาแพงของมัน ทำให้สาวๆ กรี้ดออกมา และรบกวนการนอนพักของไอ้นายจนเจ้าตัวขมวดคิ้ว ผมก็ลูบเส้นผมมันเบาๆ กล่อมให้มันนอนหลับ
“ขอบใจมากนะที่ดูแลให้”
“ครับ พี่พามันไปเถอะ” พี่เขาอุ้มไอ้นายขึ้นแนบอก ทำให้มีสาวๆ กรี้ดขึ้นอีกครั้ง พี่เขาเดินตรงเร็วรี่ พวกผมก็ตามไปทันที เปิดประตูรถให้ อำนวยความสะดวก ยกมือสวัสดีบอกลาอีกฝ่าย แอบหันไปมองไอ้วุฒิหน่อยๆ มันก็อาจจะยังคงเจ็บๆ อยู่บ้าง แต่เดี๋ยวก็คงจะหาย เพราะพอมันละสายตามันก็หันไปคุยกับไอ้เพชรแทน ก่อนที่พวกเราจะยกพลไปกินข้าวแล้วเข้าเรียนต่อในทันที
ผมแวะซื้อของสดที่ซูเปอร์ อยากกินเป็ดปักกิ่ง หมี่ซั่ว กุ้งผัดซอส กับปลานึ่งซีอิ้ว พอได้ของมาครบแล้วก็มุ่งตรงกลับคอนโด เริ่มทำอาหารทันที สุดท้ายก็โทรหาไอ้ซันอยู่ดี ก็นะ ผมสนิทกับมันที่สุดนี่ มันก็รับปากว่าจะมาตอนหัวค่ำ ผมก็เอาฝาปิดอาหารเอาไว้ นั่งไขว่ห้างดูหนังที่โซฟา ผมติดซีรีส์จริงๆ นะครับ ซีรีส์ฝรั่งด้วย ชอบแนวสืบสวนสอบสวน พวกหมอพวกตำรวจ สนุกดีครับ
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด
แกร๊ก!
“เมื่อไหร่มึงจะดูไอ้เรื่องนี้จบสักทีว่ะ” เสียงไอ้ซันนำมาก่อนตัวเลยครับ ผมก็ยังคงนั่งดู ไม่ได้หันไปแต่อย่างใด
“มี 5 ซีซัน ซีซันละ 25 – 30 ตอน กูพึ่งจะดูซีซัน 3 เอง” ตอบพลางกดหยุด แล้วเดินตามไปสมทบกับไอ้ซัน ที่ตอนนี้หยิบถ้วยมาตักข้าวสองจานรอไว้แล้ว พร้อมแก้วน้ำ 2 ใบ และช้อนส้อม ผมก็ทรุดตัวนั่งลง ก่อนจะเริ่มทานทันที
“อะนี่ กุญแจกับคีย์กาดร์” พูดพลางยื่นส่งให้ อีกฝ่ายก็รับไปด้วยความสนใจ
“จะดีหรอครับคุณหนูเบส ไม่กลัวผมปล้ำรึไง”
“เอาคืนมาเลยนะมึง” พูดพลางกระดิกนิ้วเรียกขอคืน ไอ้ซันถือกุมเอาไว้ แสดงท่าทางออกมาราวกับสาวน้อยที่กำลังจะถูกแย่งของรักอย่างสะดีดสะดิ้ง
“ไม่นะ อันนี้ของน้องซันนี่ อร๊ายยยยย”
“ตอแหล แล้วแต่งตัวแบบนี้จะไปไหนวะ?” ผมชวนคุยไปพลางๆ เมื่อไอ้ซันมันใส่ยืดแขนสั้นสีเทา ใส่สร้อยคอที่เป็นแผ่นเหล็ก ที่ข้อมือใส่กำไลสีดำเป็นยางๆ หลายๆ เส้น กางเกงยีนส์สีดำ ขาดเข่า
“จะไปอ่อยสาว” มันพูดพร้อมกับทานข้าวไปด้วย ทำให้ผมสะอึก ไม่น่าถามเลยกู ก่อนจะแสร้งว่า เออ หรอ ขอให้ได้ขอให้โดน แล้วทานข้าวต่อ แม้ว่าความอร่อยจะหายไปหมดแล้วก็ตาม
พอทานเสร็จไอ้ซันก็รับหน้าที่ล้างเก็บเข้าชั้น ผมเองก็ไปอาบน้ำแต่งตัว สวมใส่ชุดนอน ในตอนที่กำลังอาบน้ำอยู่ ไอ้ซันก็ตะโกนร้องบอก ว่าจะไปแล้วนะ พร้อมกับเสียงปิดประตู
พลั่ก!!
ผมต่อยเข้าที่กำแพงห้องน้ำอย่างแรง มือกำแน่นจนสั่น ก่อนจะพูดความคิดในใจออกมา
“โอ๊ยยย เหี้ยเอ้ยยย เจ็บเว้ยยย” ได้แต่ยกมืออีกข้างมากุมข้างที่เจ็บเอาไว้ พร้อมๆ กับสะบัดมือไป ทำไมในทีวีแม่งชกเอาๆ จนมือแตกได้ว่ะ แม่งงง โคตรเจ็บ คิดพลางยกมือที่สั่นๆ ขึ้นดู ปรากฏรอยแดงจนทำให้หน้าเบ้ ก่อนจะรีบอาบน้ำแล้วเข้านอน ไม่ดูแม่งแล้ว ผมนอนเขี่ยโทรศัพท์ไปมาอีกนิดหน่อย แล้วจึงเข้านอนจริงๆ ในเวลาราวๆ 5 ทุ่ม
แกร๊ก!
“อืม”
“ฮึฮึ ลักหลับซะดีมั้ง จะน่ารักไปไหนวะ”
จุ๊บ
เอ๋?“อื้อ”ฮะ?“อืม”หืออออออ?“อ่า”หน่าหนิ!?!?!?!?พั่บ! พั่บ! พั่บ! พั่บ!อะ อะไร?? มันเป็นแบบนี้ได้ไง?? งงไปดิครับ!!!“ร้องสิ...... เหมือนวันนั้น”“อะ มะ มึง จะให้ อึก กูร้อง อะ อะไร”“อ่า สงสัย กูคงต้องกรอกเหล้าเข้าปากมึงบ้างแล้วมั้ง? ซี้ดดดด”“อ๊ะ อะไรของมึงเนี้ย” ตอนนี้ผมถูกกดให้นอนอยู่ใต้ร่างของไอ้ซันครับ หัวเข่าทั้งสองข้างโดนมันจับดันจนชิดอก ทำให้ช่องทางรักลอยเด่น และมีแก่นกายของมันกระแทกกระทั้นเข้าออกอย่างเมามัน ต่างจากผมเนี้ย อ๋อแดกและใบ้กินโดยสมบูรณ์ จับต้นชนปลายไม่ถูกเลยทีเดียว“เหนื่อยว่ะ ขยับดิ๊” ไอ้ซันว่าพร้อมกับยกตัวผมขึ้นทั้งๆ ที่ยังเชื่อมติดกัน จัดให้ผมนั่งทับแก่นกายของมัน และมันเองก็จับขยับโยกเอวผมไปด้วยเบาๆ“อะ หะ หะ เหี้ยเถอะ กูจุก อยากก็ทำ
เพี้ยะ!“ถ้าไม่รักจะมาคบกันทำไมว่ะ!!!” ใบหน้าหล่อร้าย มาดนิ่ง หันสะบัดตามแรงตบกระทบ จนใบหน้าขาวๆ นั้นขึ้นรอยฝ่ามือชัดเจน เขาทำเพียงมองตอบกลับไปด้วยใบหน้านิ่งๆ เฉยชา และไร้ความรู้สึก แตกต่างจากหญิงสาวตรงหน้าที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ มือกำแน่น ตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า มองจ้องอย่างเจ็บแค้นและโกรธเคือง“เสียชาติเกิด!! ไอ้หน้าตัวเมีย!!” อีกฝ่าตะโกนด่าดังลั่นอีกครั้ง ซึ่งเขาเองก็ทำเพียงยืนมองอยู่เฉยๆ ยอมรับคำกล่าวหา ไม่เถียงอะไรออกไปสักคำ“จบแล้วใช่ไหม กูจะได้ไปสักที” พูดพลางหันหลัง ก้าวเดินจากมา ไม่มีความอาลัยอาวรณ์ใดๆ ทั้งสิ้น ต่างจากคนที่ด้านหลังกรีดร้องเป็นเจ้าเข้า“ไอ้เบส!! กูขอให้มึงอกหัก!! ไม่สมหวังในความรัก!!! น้ำหน้าอย่างมึงเขาไม่เอามึงหรอก!! อีวิปริต!! อีผิดเพศ!!! ขอให้มึงตกนรกทั้งเป็น!!! กรี้ดๆ ๆ ๆ ๆ ๆ” เขาเดินก้าวจากมาช้าๆ พร้อมๆ กับคิดในใจไปด้วยว่าไม่ต้องแช่งกูหรอก แค่ตอนนี้กูก็ตกอยู่ในสถานะนั้นแล้ว....ย้อนกลับไปเมื่อ 12 ปีก่อน.....“ไอ้อ้วน!!! ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ ไอ้ลูกหมู!!! ไอ้ขี้มูกกรัง!!” เด็กชายตัวน้อยนั่งลงกับพื้นทรายในสวนสาธารณะ ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่กับที่ ยกแขนป้อมๆ นั้นขึ้นปาดน้ำตาตั
“แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก”“อึก แฮ่ก แฮ่ก”ตุ้บ!ผมนอนทิ้งตัวบนพื้นที่มีเสื่อโยคะปูเอาไว้อยู่ ใบหน้าหันมองออกไปที่ผืนน้ำสีฟ้าสดใส ลมหายใจหอบกระชั้นถี่ระรัว เป็นผลพวงที่มาจากการฟิตออกกำลังกาย อย่างที่รู้กันว่าแต่เดิมผมนั้นเป็นเด็กอ้วนคนหนึ่ง จะให้ทำยังไงได้ละ ก็อาหารการกินของที่ต่างประเทศนั้นมันไม่เหมือนที่ไทยนี่ ส่วนใหญ่ที่ได้ทานอยู่บ่อยๆ ก็เป็นพวกแป้ง เนื้อ นม ไข่ และขนมปัง มันก็คงไม่แปลกที่ผมจะตัวอ้วนกลมตุ้ยนุ้ยตั้งแต่เด็กถ้าถามว่าผมกลับมามีหุ่นที่ฟิต กระชับ และเฟิร์มทั้งตัวได้ยังไง ก็ต้องยกความดีความชอบให้เพื่อนคนสำคัญ ที่มันจับผมลากออกไปเล่นนอกบ้านทุกวัน แถมการเล่นแต่ละอย่างของมันก็ไม่ใช่จะสนุกสนานสำหรับผม แต่กับมันก็คงจะใช่ ผมคิดพลางขนลุกชันไปทั่วทั้งตัว เมื่อคิดถึงการละเล่นในสมัยก่อน“ไอ้เบส มึงดูนี่! แม่งโคตรน่ารักอ้ะ!”“ออกไปนะ!!! ซัน!! เบสไม่เล่น!!” เขาตะโกนร้องบอกคนที่ด้านหลัง วิ่งหนีสุดชีวิต เมื่ออีกฝ่ายจับคางคกตัวตะปุ่มตะป่ำ พยายามจะยื่นมาตรงหน้าให้เขาได้ดู เพราะเจ้าตัวนั้นดันไปเห็นมันกระโดดเข้ามาในบ้านของตัวเอง และจับมาอวดให้เขาดูตรงหน้า ซึ่งทันทีที่เขาได้เห็นก็ร้องลั่น วิ่งหนีอย่
วันนี้ผมตื่นแต่เช้า พอเวลา 8 โมงก็ให้คนขับรถไปส่งที่มหาลัย โดยไม่ลืมที่จะแวะรับเอาเพื่อนสนิทไปด้วย เพราะไหนๆ ก็ต้องไปที่คณะด้วยกันอยู่แล้ว หากแต่...“อ้าว เบส มาทำอะไรแต่เช้าละลูก”“อ๊ะ ก็วันนี้พวกรุ่นพี่เขานัดให้ไปทำกิจกรรมรับน้องนี่ครับ”“อ้อ งั้นแม่ฝากขึ้นไปปลุกซันทีนะ ยังไม่ลงมาเลย” ผมได้แต่สูดลมหายใจเข้าออกอย่างพยายามข่มกลั้นอารมณ์ เดินมุ่งตรงขึ้นไปที่ห้องนอนของเพื่อนสนิท พอเปิดประตูเข้าไปทำให้กำหมัดจนแขนสั่นระริกอย่างอดทน เชื่อได้เลยว่าถ้าหากในมือผมมีไม้เรียว มันคงจะสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ อยากจะฟาดลงไปที่ผิวเนื้อขาวๆ ของคนที่กำลังนอนเปลือย สวมใส่เพียงกางเกงบ็อกเซอร์นั้นอย่างไม่ยั้งมือ“ซัน!! มึงจะไปไหม รับน้องน่ะห๊ะ!!”โครม!!ฝ่าเท้างามๆ ขาวๆ ยันโครมเข้าที่สีข้างของคนที่กำลังนอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว จนมันกลิ้งตกเตียงในสภาพที่มึนๆ งงๆ สับสนกับชีวิตว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองบ้าง“ไปอาบน้ำ กูให้เวลา 15 นาที ไม่เสร็จกูจะทิ้งมึงไว้นี่” ผมพูดพร้อมๆ กับพลิกข้อมือตรวจดูเวลา ในตอนที่กำลังจะหันหลังออกจากห้อง ไอ้คนหัวไฟมันก็ชูมือขึ้นน้อยๆ บอกด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ดวงตาปรือปรอยจะปิดลงอีกครั้ง“
วันนี้วันรับน้องวันสุดท้ายแล้วครับ ผมกับไอ้ซันไอ้วุฒิก็ยังคงเกาะกันเหนียวแน่นเช่นเดิม ไอ้ซันมันก็ไล่คุยไล่ถาม สนิทกับคนนั้นทีคนนี้ที แต่ก็ได้แค่คุยแหละครับ ไม่ได้คนในกลุ่มเพิ่มมาเลยสักคน ผมก็อยู่เรื่อยๆ เอื่อยๆ ของผมไป ส่วนไอ้ซันก็ม่อสาวไปเรื่อย งานรับน้องวันสุดท้ายก็ไม่ค่อยมีอะไรมากมายซักเท่าไหร่ มีประกวดดาวเดือน ซึ่งพวกผมทั้ง 3 คนก็ถูกทาบทามตัวไปประกวดนะ แต่ไม่มีใครยอมตกลงประกวดเลยนี่สิอ้อ มีการโหวตเลือกประธานรุ่นด้วย และเพราะไปซันมันไปเต๊าะเขาไว้ทั่ว ทำให้เป็นที่รู้จักของทั้งรุ่น หวยก็เลยออกที่มันเต็มๆ พอได้เป็นประธานรุ่นแล้วมันก็โดนพวกพี่ๆ เขาบังคับให้เป็นสมาชิกสโมต่อด้วยเลย เพื่อที่ว่าเวลามีงานอะไรจะได้กระจายข่าวให้เพื่อนๆ ในรุ่นรับรู้ โดยที่มันเองก็ออกไปพูดประโยคหล่อๆ เพื่อขอบคุณเพื่อนๆ ที่เลือกมันให้ทำหน้าที่นี้ ด้วยคำพูดที่ว่า“ขอบคุณนะครับพวกเพื่อนเอี้ย ที่หาภาระมาให้กูครับ” พูดพร้อมฉีกยิ้มหวานๆ ก้มหัวลงหน่อยๆ แต่ก็เรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนๆ ได้ดี ไม่มีใครถือโทษโกรธมันแม้แต่น้อยหลังจากนั้นจึงเป็นกิจกรรมบายศรี รับขวัญน้องๆ เข้าสู่ครอบครัวบริหาร ก็ผูกข้อไม้ข้อมือ ขอพรกันไป แ
อ่า ช่างเป็นฝันที่แสนดี....หรอว่ะ?!?!ภาพเด็กชายตัวเล็กจ้ำม้ำ นั่งเล่นอยู่ที่สวนดอกไม้ โดยที่มีเพื่อนตัวเล็กอีกคนนั่งอยู่ข้างกัน ในขณะที่เขานำดอกไม้ชนิดต่างๆ มาบีบคั้นน้ำสีสวยออกมาจากดอกไม้แต่ละชนิด แล้วใช้มันต่างสีวาดบนกระดาษสีขาวนวล แต่เพื่อนอีกคนกลับนั่งจับเอาหนอนและแมลงนั้นใส่รวมกันไว้ในแก้วใบเล็ก อย่างสนุกสนาน“เบสๆ มึงดู” เด็กชายตัวเล็กยื่นแก้วมาตรงหน้า ทำให้เด็กชายตัวกลมใบหน้าซีดเผือดสี เมื่อเห็นไส้เดือนดิ้นไปมา หนอนไต่อยู่ที่ขอบแก้ว ตัวด้วงเดินเหยียบย้ำอยู่ด้านบน และมดที่ถูกกัดกินจากแมลงชนิดต่างๆ ที่เขาไม่รู้จัก“ซัน ไม่เอา คุณเบสไม่เล่น” เด็กน้อยร้องปฏิเสธ พร้อมกับดันมือเพื่อนออกไปให้ห่างๆ ตัว“มึงดูดิ น่ารักจะตายเนี้ย ดูๆ” อีกฝ่ายคะยั้นคะยอ ชี้ชวนให้มองลงไปในแก้วอีกครั้ง หากแต่เขาเบือนหน้าหนี ไม่อยากมองดูอีกต่อไป“ไม่เอา”“น่า ดูหน่อย อีกนิดหนึ่ง”“ไม่เอา”“นิดหนึ่งก็ได้ ดูดิ”“คุณเบสบอกว่าไม่เอาไง!!!”เด็กชายตัวกลมร้องบอกพร้อมกับปัดแก้วใบเล็กนั้น จนหลุดจากมือของเพื่อนสนิทที่กำลังถืออยู่ และแมลงเหล่านั้นก็ร่วงลงสู่ตัวเขาจนหมด เขาจึงก้มลงช้าๆ เห็นแมลงตัวจิ๋ว หนอน และไส้เดือน
ในเช้าวันถัดมาผมก็ขับรถไปเรียนในวันแรก ซึ่งพี่ๆ เขาก็นัดใต้ตึกเหมือนเดิมแหละครับ เห็นบอกว่าจะพาไปดูห้องเรียน สอนดูรหัสห้องอะไรพวกนั้น มันก็มีบ้างบางวิชาที่เราต้องเรียนกับคนอื่นต่างคณะ ผมกับไอ้ซันมาถึงในเวลาไล่เลี่ยกันครับ โดยที่ผมมาถึงก่อน ส่วนมันก็ไปนั่งต่อแถวข้างหลัง หันไปกระซิบกระซาบกับเพื่อนคนหนึ่งที่ผมไม่เคยเห็นหน้า คนๆ นั้นหน้าตาน่ารักเลยทีเดียว ดวงตากลมโต เส้นผมสีน้ำตาลอ่อน สีเดียวกับนัยน์ตาของเขา ตัวเล็กผอมบาง เหมือนเด็กอายุ 14 15 ทั้งๆ ที่พวกเราทุกคนต่างอายุ 18 19 กันทั้งนั้นพวกพี่ๆ เขาพาเราไปเดินดูห้องเรียนเมื่อเวลา 9 โมง ส่งเราเข้าห้อง กลุ่มของเราก็ได้สมาชิกใหม่มาเพิ่ม 1 คน คือนายน่ารักคนนั้นนั่นเอง ชื่อเจ้านายครับ เห็นบอกว่ามาไม่ทันช่วงรับน้อง พวกเราก็เลยไม่เคยเห็นเขามาร่วมกิจกรรมเลยสักครั้ง เขาน่ารักนะ เข้ากับคนง่าย ขี้อาย หน้าตาน่ารัก พวกเพื่อนๆ มองกันเป็นแถว แถมยังชอบออดอ้อนอีกด้วย เหมือนเด็กเลยครับสิ่งหนึ่งที่สังเกตเห็นได้ง่ายคือไอ้วุฒิครับ อาการแปลกไปตั้งแต่ที่เห็นหน้าของเจ้านายแล้ว ขอจับจองพื้นที่ข้างตัวของเจ้านาย ไม่ค่อยได้คุยอะไรมากหรอก เอาแต่จ้องหน้าเจ้านายอยู่น
“กูไปละ”“เออ ขอบใจที่มาส่ง” ไอ้ซันพยักหน้าน้อยๆ แล้วค่อยๆ เคลื่อนรถออกไป ผมเองก็มองตามด้านหลังของรถไปจนสุดสายตา ก่อนจะหมุนตัว เดินเข้ามาภายในตึก มุ่งตรงขึ้นห้องของตัวเอง จำง่ายดีครับ ชั้น 25 ห้อง 25 แตะบัตรเข้าห้องไปช้าๆ ก่อนจะเริ่มลงมือถอดเสื้อผ้าตามมา มือถอดเสื้อนอกทิ้งไปอย่างไม่ไยดี จับโยนลงตะกร้าผ้า ตามมาด้วยเสื้อเชิ้ตข้างใน กางเกง และบ็อกเซอร์ ก่อนจะก้าวขายาวๆ ไปที่ห้องน้ำ เปิดสายน้ำให้รินรดศีรษะ แล้วยืนนิ่งๆ ใต้สายน้ำนั้นผมหลับตาพลางปัดหยาดน้ำออกจากใบหน้า คิดอะไรในหัวนิดหน่อย แล้วจึงเริ่มต้นอาบน้ำจริงๆ จังๆ พออาบเสร็จก็มาล้มตัวนอนบนเตียง โดยที่สวมใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเล่น เลื่อนดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย ก่อนจะหยุดอยู่ที่ภาพๆ หนึ่ง ไม่มีคำบรรยายอะไรเลยครับ และผมคงจะปล่อยผ่านไป ถ้าภาพๆ นั้นไม่ใช่ผมภาพที่ผมยืนหันหลัง ถ้าจะบอกให้ถูกคือเดินมากกว่า ถูกถ่ายไว้โดยไอ้ซัน ผมว่ามันก็คงจะถ่ายหลังจากที่แลกเบอร์กันเสร็จนั่นแหละครับ แต่ก็ไม่มีอะไรมากกว่านั้น เพื่อนเก่าๆ ก็พากันคอมเม้นบ้าง ทักทายบ้างตามประสา ผมก็ทำเพียงกดหัวใจไป แล้วออกจากแอพ จะไม่กดได้ไง ก็ภาพตัวเองนี่ค
เอ๋?“อื้อ”ฮะ?“อืม”หืออออออ?“อ่า”หน่าหนิ!?!?!?!?พั่บ! พั่บ! พั่บ! พั่บ!อะ อะไร?? มันเป็นแบบนี้ได้ไง?? งงไปดิครับ!!!“ร้องสิ...... เหมือนวันนั้น”“อะ มะ มึง จะให้ อึก กูร้อง อะ อะไร”“อ่า สงสัย กูคงต้องกรอกเหล้าเข้าปากมึงบ้างแล้วมั้ง? ซี้ดดดด”“อ๊ะ อะไรของมึงเนี้ย” ตอนนี้ผมถูกกดให้นอนอยู่ใต้ร่างของไอ้ซันครับ หัวเข่าทั้งสองข้างโดนมันจับดันจนชิดอก ทำให้ช่องทางรักลอยเด่น และมีแก่นกายของมันกระแทกกระทั้นเข้าออกอย่างเมามัน ต่างจากผมเนี้ย อ๋อแดกและใบ้กินโดยสมบูรณ์ จับต้นชนปลายไม่ถูกเลยทีเดียว“เหนื่อยว่ะ ขยับดิ๊” ไอ้ซันว่าพร้อมกับยกตัวผมขึ้นทั้งๆ ที่ยังเชื่อมติดกัน จัดให้ผมนั่งทับแก่นกายของมัน และมันเองก็จับขยับโยกเอวผมไปด้วยเบาๆ“อะ หะ หะ เหี้ยเถอะ กูจุก อยากก็ทำ
ผมตื่นขึ้นมาบนเตียงนอนด้วยนาฬิกาชีวิต มึนงงเล็กน้อย มองออกไปรอบๆ ห้องๆ อย่างแปลกใจ ก่อนจะกระเด้งตัวขึ้นจากที่นอน วิ่งไปที่ห้องนั่งเล่น แย่ละ…แต่พอวิ่งไปถึงแล้วก็ต้องชะงัก ไฟถูกปิดทั้งหมด ทีวี แอร์ ทุกอย่างหยุดการทำงาน ความอบอุ่นของห้อง ทำให้รู้ว่ามันถูกปิดไปนานมากแล้ว ผมยืนกะพริบตาปริบๆ อยู่กลางห้อง ก่อนจะค่อยๆ เดินไปนั่งลงบนโซฟา ครุ่นคิดเรื่องเมื่อคืน ผมดูซีรีส์อยู่ ผมจำได้ ผมอาจจะง่วงมาก ถึงได้เข้าไปนอนในห้อง แต่มั่นใจมากพอว่าตัวเองไม่ได้เดินปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าพวกนี้แน่“หรือจะมีผีว่ะ?” บ่นพึมพำเบาๆ กับตัวเอง ไม่หรอก นี่มันตึกพึ่งสร้างนะ ห้องก็ราคาแพง ใช่ห้องถูกๆ ซะที่ไหน ไม่น่าใช่หรอก หรือผมละเมอไปปิดว่ะ ขมวดคิ้วครุ่นคิดอย่างหนัก ก่อนที่จะ ช่างแม่ง....พอคิดได้ดังนั้นก็เลยลุกขึ้น ไปอาบน้ำแต่งตัว เตรียมไปเรียน ออกมาทำอาหารเช้าทาน พอทานเสร็จก็จัดการล้างเก็บให้เรียบร้อย ก่อนจะขับรถไปที่มหาลัย พอไปถึงผมก็ยังคงนั่งครุ่นคิดถึงเรื่องนั้นอยู่ จะช่างแม่งมันก็ได้แหละ แต่สงสัยไง เออ ช่างแม่งก็ได้.... คิดพลางสะดุ้งเมื่อมีคนตบลงที่บ่าหนักๆ จน
ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วทั้งแผ่นหลังทำให้ผมบดเบียดกายเข้าหาอย่างวางใจ จนลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารินรดบนกระหม่อมทำให้ต้องปรือตามอง เมื่อคืนผมนอนคนเดียว.....ใครวะ!!!คิดพลางลืมตาโตหันกลับไปมองคนที่นอนซ้อนอยู่ข้างหลังในทันที จนใบหน้ามีระยะห่างเพียงลมหายใจกั้น ใบหน้าหล่อเหลาคมคาย จมูกโด่งเป็นสัน ดวงตาคมเข้มกำลังปิดพริ้ม ริมฝีปากหนา สันกรามชัดเจน ราวกับภาพวาดของเทพบุตร แสงสีทองของดวงอาทิตย์ตกกระทบกับเส้นผมสีส้ม จนส่องประกายยิ่งกว่าเหมือนกับเจ้าชายในเทพนิยายที่กำลังหลับใหล นอนหลับพักผ่อนผมกะพริบตามองอย่างุนงง เมื่อไม่รู้ว่าคนตรงหน้านี้เข้าห้องมาได้ยังไง เข้ามาตั้งแต่ตอนไหน แล้วทำไมถึงเลือกที่จะมานอนกับผม แทนที่จะนอนห้องของตัวเอง แต่ก็ปัดความคิดนั้นทิ้งไป ขยับเข้าไปใกล้อีกนิด แตะริมฝีปากเข้าหากันเล็กน้อย แล้วจึงซุกตัวลงในอ้อมแขน ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ และหัวใจที่เต้นกระหน่ำรัว ซุกหน้าเข้ากับอกกว้างนั้นอีกนิด คนที่กำลังกอดอยู่ขยับแขนเข้ามากอดรัดให้มากขึ้น พร้อมกับจับผ้ามาห่มให้ โดยที่ไม่ได้ลืมตาขึ้นมอง แต่มันกลับทำให้ผมสงสัย ว่ามันตื่น
Rrrrrrrrrr Rrrrrrrrrrrr“อืมมมม”Rrrrrrrrrrr Rrrrrrrrr“หนวกหู.......”Rrrrrrrrrrr Rrrrrrrrr“อื้อออออ”Rrrrrrrrrrr Rrrrrrrrr“โว้ยยยยยยย รำคาญจริง!!!”ติ้ด![ไอ้ซัน! ไอ้สัส! มึงอยู่ไหนเนี้ยยยย]“โอ้ยยย เสียงดังฉิบหาย มึงจะโวยวายทำไมวะ”[ไอ้ควาย! มึงนัดเพื่อนมาทำงานเนี้ย แล้วมึงพึ่งตื่นหรอวะ!!!] เสียงไอ้วุฒิพูดด้วยความโมโหดังลอดออกมาจากโทรศัพท์แผ่วๆ“.......”“เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยย” คนที่กำลังนอนก่ายกอดอยู่ที่ด้านหลัง เด้งตัวออกแล้วผุดลุกขึ้นนั่งทันที ทำให้ช่องทางรักที่ถูกเชื่อมติดเอาไว้เมื่อตอนก่อนจะหลับฝันไป หลุดออกอย่างรุนแรง จนเกิดเสียงร้องดังออกมาจากคนที่กำลังนอนอยู่ข้างกัน“โอ๊ย!!!” เพราะความเจ็บนั้นปลุกผมให้ตื่นขึ้นจากนิทรา แต่ความรู้สึกแรกที่ลืมตาข
สุดท้ายผมก็พาตัวเองเข้ามาอยู่ในที่อโคจรจนได้ สายตากวาดมองไปรอบๆ หามุมสงบๆ สักที่นั่งลง ก่อนจะสั่งเหล้ามา 1 ขวด และกับแกล้มอีกนิดหน่อย ระหว่างที่นั่งรอก็ปลดกระดุมเสื้อสูทออกจากตัว โยนพาดไว้ที่พนักพิง ดึงรั้งเนกไท ก่อนจะโยนไปในทิศทางเดียวกัน ปลดกระดุมคอบนออก 2 เม็ด ยกฝ่ามือขึ้นเสยเส้นผมสีดำสนิทของตัวเองพอแก้วใบเล็กถูกวางลงตรงหน้าพร้อมกับขวดเหล้าราคาแพง ผมก็จัดการเทลงใส่แก้ว ยกดื่มขึ้นทันที ไม่มีอารัมภบทใดๆ ทั้งสิ้น นั่งดื่มเพียงลำพัง ในมุมมืดของร้าน อาหารที่สั่งมาไม่มีการแตะต้องใดๆ สิ่งที่ขยับเคลื่อนไหวมีเพียงแก้วใบเล็ก ขวดเหล้า และผู้ที่เป็นเจ้าของซึ่งครอบครองโต๊ะในมุมอับสายตาเท่านั้นผมนั่งดื่มไปเรื่อยๆ จนดวงตาฉ่ำเยิ้ม เนิ่นนานเท่าไหร่ไม่อาจทราบได้ แต่ก็นานพอให้ปริมาณแอลกอฮอลล์ในร่างกายพุ่งขึ้นสูงจนเกินขีดจำกัดในการควบคุมสติสัมปชัญญะ ในตอนนี้ปริมาณน้ำสีอำพันในขวดเหล้าใบสวยลดลงมากกว่าครึ่งขวด ทำให้คนที่เดินเข้าร้านมาด้วยมาดที่หล่อ เนี๊ยบ และดูดี กลายเป็นคนที่ดูขี้เมาในทันที ใบหน้าหล่อคมคายฟุ้บลงกับโต๊ะ นอนอย่างเกียจคร้าน แต่มือก็ยังคงรินเหล้าใส่แก้วอย่างต
ร้อน....อึดอัด....ขยับไม่ได้.....ผมปรือตาขึ้นช้าๆ เมื่อความรู้สึกราวกับร่างทั้งร่างถูกตรึงไว้อยู่กับที่ แสงสว่างที่ส่องผ่านหน้าต่างบานใส ทะลุผ้าม่านสีขาวเข้ามา ทำให้ต้องหรี่ตามอง ก่อนที่จะพยายามหันหน้าหลบอีกครั้ง แต่แล้วก็ต้องชะงัก เมื่อตัวของผมถูกกักเอาไว้ภายใต้วงแขนของใครบางคน ทำให้ผมยกมันขึ้นช้าๆ ก่อนจะหันหน้าไปมองชายรูปร่างสูงใหญ่ รูปกายกำยำสมกับความเป็นบุรุษเพศ นอนซ้อนอยู่ที่ด้านหลัง วงแขนกอดก่ายผมเอาไว้ จนรัดแน่น ผิวเนื้อที่สัมผัสแนบชิดทำให้เกิดความรู้สึกร้อนผะผ่าว เส้นผมสีส้มอิฐนั้นแลดูยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง ที่โคนเส้นผมถูกแซมด้วยสีดำสนิทขึ้นมาอีกเล็กน้อย แสดงถึงความแตกต่างของสีที่ปรากฏออกมาอย่างชัดเจน ดวงตาคมเข้มกำลังปิดสนิท หลับตาพริ้มอย่างสบายใจ จมูกโด่งเป็นสันรับเข้ากับใบหน้าที่เรียวยาว ริมฝีปากหนา ที่พอรวมเข้ากับใบหน้ากลับดูดีจนน่าตกใจมือของผมไล้ไปบนอากาศตามโครงหน้า โดยที่ไม่ได้โดนผิวเนื้อของคนที่กำลังหลับอยู่แม้แต่น้อย ไม่กล้าที่จะสัมผัส หวาดกลัวความรู้สึก กลัวว่ามันจะปะทุออกมา
วันนี้ผมมีเรียนช่วงบ่ายครับ ตื่นสายได้เต็มที่ พอตื่นแล้วก็นอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงอย่างเกียจคร้าน จนเมื่อเหลือเวลาอีก 2 ชั่วโมง ก็ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว ขับรถตรงไปมหาลัย แวะทานข้าวอีกนิดหน่อย แล้วจึงเข้าห้องเรียนของตัวเองพอไปถึง ไอ้ซันมันก็ฟุ้บหน้านอนหลับอยู่ก่อนแล้ว ผมก็นั่งลงที่ข้างๆ มัน เท้าคางนั่งมองเส้นผมสีส้มที่ระไปกับพื้นโต๊ะเรียน ก่อนที่ผมจะนอนตะแคงหันข้าง นอนมองมันนิ่งๆกรี้ดดดดดดดดดดดดดเสียงกรีดร้องดังขึ้น จากที่เบาๆ คนสองคน กลับกลายเป็นกลุ่มก้อน และขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ไอ้ซันหลุดออกจากนิทรา ผมเองก็ผุดตัวไปดูที่หน้าต่างเช่นกัน อยากรู้ว่าสาวๆ เขากรี้ดอะไร อย่างไม่รู้ตัว ไอ้ซันเองก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้เช่นกัน จุดประสงค์เดียวกับผม เพราะแขนของมันค้ำยันขอบหน้าต่างเอาไว้ ยืนซ้อนหลังของผมอีกชั้น จนเหมือนว่ามันกำลังโอบกอดผมจากด้านหลัง และผมกำลังมองหน้ามันในระยะประชิด ทำให้ผมรีบก้มหน้าลงทันที ต่างจากไอ้ซันที่ไม่ได้สนใจอะไร สายตามองลงไปที่เบื้องล่าง จนเมื่อคนๆ หนึ่งเดินเข้าตึกมา เสียงกรี้ดเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อฝั่ง
K : สวัสดีครับS : ใครครับ?K : ไม่บอกได้ไหมครับ แต่ผมมีเรื่องจะขอรบกวนคุณนะS : ผมหรอ ให้ช่วยอะไรครับ?K : ไม่ทราบว่าเพื่อนสนิทของคุณชอบอะไรเป็นพิเศษไหมครับ ผมเป็นพี่เทคของเขาS : คนไหนละครับ เพื่อนผมมีเยอะแยะK : น้องเบส.....S : อ้อ มันชอบของอร่อยครับ เท่านั้นแหละ ผมดีใจนะที่คุณเริ่มหันมาสนใจมันบางK : ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ครับ พอดีผมยุ่งๆ อยู่ ถ้ายังไง ผมอาจจะขอรบกวนคุณเพื่อสอบถามนะครับ แล้วก็อาจจะฝากของผ่านคุณ ไปให้น้องเบสด้วยS : ไม่เป็นไรครับ ผมยินดีK : แล้วคุณชอบทานอะไรไหมครับ ถือว่าผมติดสินบนก็แล้วกัน....หลังจากที่พี่ท็อปบอกว่าจะตามหาพี่เทคให้ มันก็มีความคืบหน้าจริงๆ นะครับ เพราะหลังจากนั้น 2 – 3 วัน ไอ้ซันก็เดินถือกล่องขนมอะไรสักอย่างมาด้วย ยื่นให้ผมตรงหน้า ผมก็มองมันอย่างงงๆ พร้อมกับถามออกไปเบาๆ ว่าให้เนื่องในโอกาสอะไร มันก็บอกว่ามีคนฝากเอามาให้ เป็นของที่มาจากพี่เทคพอผมถามว่ามันรู้จักคนๆ นั้นไหม มันก็บอกว่าไม่รู้จัก พร้อมกับนั่งลงข้างๆ แล้วหยิบกล่องขนมแบบเดียวกันออกมานั่งทานไปพลาง“อร่อยไหมว่ะ”“ลองแดกดูสิครับ” ผมยู่ปากอย่างขัดใจนิดๆ ก่อนจะเปิดกล่องของตัวเองออกดูบ้าง มากา
“สวัสดีครับ” ผมยกมือสวัสดี ก่อนจะไล่สายตามองไปที่บุคคลที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว มีป๊า ม๊า และอีกฝั่งคือ......อ้าว?“สวัสดีครับ” ผมเอ่ยทักอีกครั้ง พร้อมกับผงกหัวไปด้วย ยกมือสวัสดีคุณลุงและพี่ท็อป รุ่นพี่ที่คณะของผมเอง“นั่งสิ” ป๊าของผมเอ่ยบอกเบาๆ ทำให้ผมทรุดตัวลงนั่งอย่างงงๆ จะไม่งงได้ไงครับ ปกติมันต้องเป็นงานดูตัวอะไรแบบนี้ไม่ใช่หรอ ผมต้องพบกับหญิงสาวที่ส่งสายตาหยาดเยิ้ม หรือไม่ก็ก้มหน้าก้มตาด้วยความเขินอายไม่ใช่หรอ ไม่ใช่สายตาที่มองมาด้วยความเอ็นดูแบบนี้??? พอผมนั่งลงได้ ลุงจรัญก็เอ่ยชวนคุยทันที“ลุงคงทำให้ตกใจสินะ ถึงได้ตั้งใจหนีแบบนั้นน่ะ” ลุงจรัญพูดยิ้มๆ ต่างจากผมที่ผงกหัวขึ้น เงยหน้ามองทันที เลยไปทางพี่คม แล้ววกกลับมาที่ป๊าของตัวเอง“ฮึฮึ ตาท็อปก็อยู่ในรถด้วยนะ ตั้งใจจะรับมาทีเดียวนั่นแหละ เห็นตาท็อปบอกว่าพอเจอหน้าพี่เลี้ยงก็วิ่งหนีเลยหรอ”“อ่อ” ป๊าไม่ได้พูดอะไรออกมา ยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบนิดๆ ต่างจากม๊าที่หัวเราะเบาๆ“พี่ไม่คิดจะชวนเบสมาดูตัวหรอกนะครับ” พี่ท็อปพูดขึ้น แล้วยกยิ้มเอ็นดูส่งมาให้“อ่อ แหะๆ ครับ”“พอดีพี่ได้ข่าวมาว่าตอนรับน้อง เบสไม่มีพี่เทคมาสนใจเลยใช่ไหมครับ ให้พี่ช่วยหาใ