เหตุการณ์เมื่อคืน...
@T88 Club
ผักบุ้งลูกสาวคนเดียวของบอสและแครอทจัดปาร์ตี้วันเกิดบนชั้นสองของผับ ซึ่งเจ้าของผับก็คือไฟท์หรือไฟท์เตอร์ลูกชายคนโตของกายและเฟิร์น
เจ้าของงานวันเกิดอยู่ในชุดมินิเดรสเกาะอกสีน้ำเงินเข้มกำลังเดินทักทายแขกที่เธอชวนมาร่วมงานปาร์ตี้ซึ่งเธอแบ่งออกเป็นสองโซนใหญ่ๆระหว่างเพื่อนในคณะฯ กับเพื่อนสนิทตั้งแต่วัยเด็ก
เมื่อรับแขกจนครบผักบุ้งจึงเดินกลับมานั่งร่วมโต๊ะกับเพื่อนในวัยเด็กของเธอ นำทัพลูกชายคนโตของแทนและน้ำหอมนั่งอยู่ข้างไอโกะแฟนสาวหมาดๆลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น ถัดไปคือฟีนน์ลูกชายคนเล็กของกายและเฟิร์น ส่วนโซฟาตัวยาวมีน้ำหวาน น้ำปั่นและส้มจี๊ดเพื่อนสนิทของน้ำปั่น
ทุกคนปาร์ตี้กันจนถึงเวลาเป่าเค้ก ใครที่เตรียมเค้กมาให้เจ้าของงานก็ถือขึ้นมาเซอร์ไพร์ด้วย สาวๆ ในโต๊ะที่ดื่มไปเยอะเริ่มหน้าแดงก่ำ พูดอะไรก็หัวเราะกันตลอดเวลา ชวนกันชะเง้อมองหนุ่มๆ ที่อยู่ชั้นล่างบ้างตามประสา
“ไฟท์”
เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงของชายหนุ่มเดินเข้ามาหาเจ้าของร้านที่โต๊ะ ใบหน้าหล่อคมคายสะกดสายตาของสาวๆ ทุกคนในงาน ผิวพรรณดูขาวสะอาดเหมือนอาบน้ำทุกสิบนาที สายตาคมกริบตวัดกลับมาสบตากับเด็กสาวตรงหน้าก่อนมุมปากหยักจะกระตุกขึ้น
ใบหน้ารูปไข่ นัยน์ตาหวานซึ้ง ริมฝีปากของเธอเป็นกระจับเล็กๆ ใบหน้าละม้ายคล้ายคลึงกับหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างกันแต่ความมั่นใจในแววตาต่างกันและผมสีน้ำตาลช็อกโกแลตของเธอมีหน้าม้าช่วยเสริมให้เธอดูน่ารักราวกับตุ๊กตาบาร์บี้
ผิวกายขาวเนียนอมชมพูบวกกับรูปร่างที่ดูอวบอิ่มกว่าอีกคนทำให้คุณหมอหนุ่มรู้สึกมันเขี้ยว คิดไว้ว่าถ้าเขาได้สัมผัสตัวของเธอคงจะนุ่มนิ่มน่าดู
น้ำหวานเกือบจะหยุดหายใจ เธอรู้สึกเหมือนมีพลังดึงดูดบางอย่างทำให้ไม่กล้าหันหน้าหนี ถ้าจะให้นิยามถึงผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงข้ามเธอคงต้องเลือกคำว่า ‘หล่อร้าย’ เขาหล่อมากแต่กลับดูอันตรายสุดๆ
“มาไม่บอกก่อนวะไอ้หมอ”
ไฟท์เตอร์ลุกขึ้นเดินเข้าไปหาเพื่อนสมัยมัธยมของเขาก่อนจะแยกย้ายกันไปเรียนคนละมหาวิทยาลัย ไฟท์เตอร์เข้าเรียนคณะบริหารธุรกิจที่มหาวิทยาลัยเอกชนส่วนอาคินสอบเข้าคณะแพทย์ของมหาวิทยาลัยรัฐบาลชื่อดัง
"ปกติกูก็ไม่เคยบอก"
อาคินตอบกลับในขณะที่เดินตามเพื่อนสนิทมายังโต๊ะว่างข้างๆกัน ไฟท์หันไปสั่งเครื่องดื่มกับพนักงานของร้านในขณะที่อาคินยังคงจ้องมองไปทางน้ำหวานอย่างสนอกสนใจ
"แต่วันนี้ไม่ปกติ กูปิดชั้นสองจัดงานวันเกิดให้ผักบุ้ง"
"น้องสาวของมึงอ่ะนะ"
เน้นย้ำคำว่าน้องสาวก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากแต่ก็ยังไม่ละสายตาไปจากหญิงสาวฝั่งตรงข้ามของเขา ไฟท์ไม่ได้สนใจประโยคที่โดนเพื่อนแซะมากนักเพราะเขาได้ยินบ่อยจนชิน
แต่สิ่งที่เขากำลังสนใจคือสายตาที่แสดงออกถึงความพึงพอใจของเพื่อนสนิทตัวเองมากกว่า ล็อกเป้าหมายชัดเจนขนาดนี้คงไม่ต้องเสียเวลาเดาให้ยาก
"ชอบ?"
ไฟท์เอ่ยถามสั้นๆพลางมองตามไปยังโต๊ะที่เขาเพิ่งลุกขึ้นออกมา เขารู้ว่าอาคินกำลังมองไปทางแฝดสาวแต่เป็นแฝดคนไหนนี่สิ
"อืม"
อาคินตอบรับในลำคอพร้อมกับยื่นมือออกไปรับแก้วทรงเตี้ยที่พนักงานส่งให้ เครื่องดื่มออนเดอะร็อกไหลลงลำคอแกร่งอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเขาจะเป็นหมอแต่ก็ไม่ได้รักสุขภาพมากขนาดนั้น เขายังคงมีการดื่มบ้างสูบบ้างเหมือนคนปกติทั่วไป
"คนกลาง?"
ไฟท์ทายว่าน้ำปั่นเพราะดูจากผู้หญิงส่วนใหญ่ที่อาคินเคยควง สาวเซ็กซี่ร้อนแรง ร่างเพรียวระหงราวกับนางแบบ
"ซ้าย"
"เฮ้ย! คนนี้อย่าดีกว่า"
แปลกใจไม่น้อยที่เป้าหมายคือน้ำหวาน ถ้าเป็นน้ำปั่นเขามั่นใจว่ายังไงก็คงจะรับมือเพื่อนสนิทเขาได้แน่ๆ แต่กลับน้ำหวาน ไฟท์คิดว่าเธอน่าจะไม่ทันความคิดเจ้าเล่ห์ของอาคินอย่างแน่นอน
"ทำไม หวง?"
ดวงตาคมตวัดกลับมามองคนข้างกายด้วยความสงสัยเพราะนอกจากผักบุ้ง น้องสาวไม่แท้ที่มันหวงยิ่งกว่าไข่ในหิน เขาก็ไม่เคยเห็นไฟท์สนใจใคร
"เป็นห่วงมากกว่าว่ะ" ไฟท์หันมองน้ำหวานก่อนจะหันกลับมาจ้องหน้าเพื่อนด้วยสายตาจริงจัง "น้ำหวานก็น้องสาวกูคนนึง น้องเป็นคนดีตามเกมคนอย่างมึงไม่ทันแน่ๆ"
"คนอย่างกูมันทำไม"
หัวเราะเบาๆในลำคอพลางเอ่ยถามทั้งๆที่รู้คำตอบอยู่แล้ว
"เหี้ยไง"
"มึงคนดี? ที่ตามเฝ้าผักบุ้งยิ่งกว่าหมาแม่ลูกอ่อน อย่าให้กูพูดต่อเลย"
ไฟท์ตั้งท่าจะปฏิเสธแต่คนที่ถูกเอ่ยถึงกลับเดินเข้ามาหาเสียก่อน ผักบุ้งชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นอาคินนั่งอยู่ที่โต๊ะ เธอรู้จักเขาเพราะสมัยมัธยมเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันและเขาก็เป็นเพื่อนสนิทไฟท์เตอร์แต่ไม่คิดว่าวันนี้เขาจะมางานวันเกิดของเธอด้วย
"สวัสดีค่ะพี่คิน ไม่คิดว่าจะมาด้วยนะคะ"
"พี่แค่เซ็งๆ แต่ก็สุขสันต์วันเกิดนะครับ"
"ขอบคุณค่ะ เชิญตามสบายนะคะ"
ผักบุ้งเดินเลี่ยงกลับไปนั่งในโต๊ะเดียวกับน้ำหวานเพราะคิดว่าเพื่อนสนิทน่าจะมีเรื่องคุยกันตามประสา
อาคินยังคงมองไปทางน้ำหวานอยู่ตลอดเวลาจนเธอเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขาอย่างจัง แสงไฟในผับสาดส่องผ่านดวงหน้าหวานในขณะที่เธอกำลังนั่งมองหน้าเขานิ่ง กลีบปากเรียวเม้มเข้าหากันอย่างประหม่าและเป็นเธอที่เลือกก้มหน้าลงไปคว้าแก้วเครื่องดื่ม
"หึ"
น่ารักน่าขย้ำขนาดนี้จะให้เขาปล่อยหลุดมือไปได้ยังไงกัน
"กูขอเตือนมึงอย่างจริงจังอีกครั้ง" ไฟท์ยังคงไม่ย่อท้อต่อการห้ามปรามเมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทของเขาคงไม่ปล่อยน้ำหวานไปง่ายๆแน่ "ถ้าไม่ได้คิดจะจริงจัง ก็อย่าเริ่ม"
คุณหมอหนุ่มยกแก้วเหล้าขึ้นจรดริมฝีปาก ปรายตามองไฟท์สลับกับน้ำหวานราวกับต้องการยั่วยุอารมณ์ของเพื่อนสนิท เมื่อเห็นว่าคนข้างๆยังคงมองเขาอย่างจริงจัง อาคินจึงหลุดหัวเราะออกมาอีกครั้ง
"เอาเป็นว่าตอนนี้กูไม่มีใคร"
"..." จ้องหน้านิ่ง
"ยกให้เป็นคนที่ชอบมากที่สุดจากที่เคยสนใจก็แล้วกัน"
แววตาซุกซนของอาคินทำให้ไฟท์ส่ายศีรษะอย่างอ่อนใจ เขารู้ว่าห้ามไปก็ไร้ประโยชน์ ถ้าวันไหนมันทำให้น้องสาวเขาเสียใจก็ภาวนาขอให้มันหลงรักน้องสาวเขาจนกินนอนไม่ได้ไปไหนไม่รอดก็แล้วกัน
นั่งดื่มกันสักพักสาวๆในโต๊ะก็พากันลุกขึ้นเดินไปทางห้องน้ำ ในขณะที่ไฟท์ลุกขึ้นเดินไปหาเจ้าของงานวันเกิด
ทางสะดวก…
ร่างสูงลุกขึ้นเดินตามหญิงสาวไปทางเดียวกันแต่เธอไม่ได้เข้าห้องน้ำบนชั้นสองเนื่องจากห้องน้ำหญิงเสียกะทันหัน เขาจึงเลี้ยวเข้าห้องน้ำชาย ล้างไม้ล้างมือเพื่อยืดเวลาไม่ให้ดูจงใจมากจนเกินไป
ตลอดทางที่ขาแกร่งก้าวลงบันไดมายังชั้นหนึ่ง สาวๆนักท่องราตรีบริเวณนั้นต่างหันมามองหน้าเขาอย่างไม่วางตาซึ่งเขารู้สึกชินกับสายตาแบบนี้ไปแล้ว
เดินตามลงมาถึงห้องน้ำชั้นล่างก็เห็นเป้าหมายของเขากำลังเดินออกไปทางข้างหลังร้าน คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย
เธอออกไปทำอะไรตรงจุดสูบบุหรี่ของร้าน
อาคินเดินฝ่าผู้คนที่กำลังยืนพ่นควันโขมงออกมาเรื่อยๆจนเจอกับร่างอรชรที่กำลังยืนสูดอากาศพลางเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
“มายืนทำอะไรคนเดียวตรงนี้ครับ”
เสียงที่ดังขึ้นจากข้างหลังทำให้น้ำหวานสะดุ้ง เธอยืนมองท้องฟ้าเพลินจนไม่ได้ยินเสียงคนเดินเข้ามา ก่อนจะหันกลับมาสบตากับเจ้าของเสียง
อาคินหยุดชะงักภาพตรงหน้าเชื่องช้าเหมือนมีคนกดเปลี่ยนโหมดสโลว์โมชั่น ดวงตาหวานซึ้งเป็นประกายระยับราวกับดาวบนท้องฟ้าลงมารวมตัวอยู่ในตาของเธอ
'น่ากินฉิบหายเลยว่ะ'
"เราโอเคใช่มั้ย"อาคินเอ่ยถามหลังจากที่ทั้งคู่ขึ้นมาอยู่บนเพ้นท์เฮ้าส์เรียบร้อยแล้ว ร่างสูงยืนซ้อนคนตัวเล็กที่กำลังเท้าคางมองท้องฟ้าอยู่ตรงระเบียงห้อง"โอเคค่ะ หวานแค่คิดอะไรนิดหน่อย"น้ำหวานตอบกลับพลางเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มบางๆให้คนพี่ เธอยังจำสายตาของพริ้งพลอยที่มองมาได้ดี สายตาของความมุ่งมั่นแต่ปิดซ่อนความเสียใจเอาไว้ไม่มิด ได้แต่หวังว่าบทเรียนราคาแพงครั้งนี้จะทำให้พริ้งพลอยเลือกที่จะรักตัวเองมากขึ้น"คิดอะไรครับ บอกพี่ได้มั้ย""ก็กำลังคิดว่า..." เว้นวรรคประโยคก่อนจะหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับคนพี่ ดวงตาคู่สวยซุกซนจนอาคินเกิดอาการมันเขี้ยว "คุณพริ้งพลอยเค้าปักใจรักอะไรพี่หมอมากขนาดนี้"เธอไม่รู้หรอกว่าพริ้งพลอยปักใจรักอะไรในตัวหมออาคิน แต่ถ้าถามเธอใช้เวลาสามวันก็คงจะบรรยายไม่หมด น้ำหวานกวาดสายตามองใบหน้าหล่อเหลาอย่างพินิจพิจารณา ใบหน้าที่ไม่ว่าเธอจะมองกี่ครั้งก็ยังหาข้อติติงไม่เจอ"เรื่องนั้นพี่ตอบไม่ได้หรอกครับ แล้วหวานไม่อยากรู้บ้างเหรอว่าอะไรที่ทำให้พี่ปักใจรักหวานมากขนาดนี้"อาคินจ้องมองคนในอ้อมแขนด้วยสายตากรุ้มกริ่ม เขาไม่อยากจะสนใจเรื่องของคนอื่นอีกแล้ว หลังจากนี้เขาอยากจะโฟกัสแค่เ
บ้านสินธปกรณ์บรรยากาศในห้องอาหารเต็มไปด้วยความชื่นมื่น วันนี้อาคินพาครอบครัวเข้ามารับประทานมื้อเย็นกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวสินธปกรณ์เพื่อจะได้คุยเรื่องการหมั้นหมายอย่างเป็นทางการชยทัตและแทนคุยกันเรื่องตลาดทองในช่วงสัปดาห์นี้ น้ำหอมกับธีรยากำลังคุยกันเรื่องสีมงคลที่ควรจะใช้ในงานหมั้นส่วนน้ำหวานกำลังเริ่มสอบสวนหมออาคิน"พวกเค้าสนิทกันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ"เธอขึ้นดอยไปแค่ไม่กี่เดือนทำไมดูเหมือนอะไรๆจะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วเหลือเกิน ยิ่งภาพที่แทนคุยกันอย่างสนิทสนมกับชยทัตเป็นอะไรที่หาดูได้ยากมาก"ไม่รู้สิครับ พี่ก็ขึ้นไปอยู่บนดอยกับเรานะ""ไม่ค่อยน่าไว้ใจเลยค่ะ""เดี๋ยวนี้ไม่ไว้ใจพี่แล้วเหรอ""เมื่อก่อนก็ไม่ไว้ใจค่ะ แค่ไม่ได้บอก"น้ำหวานหลุดหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นสีหน้าของคนพี่ที่มองมาทางเธออย่างคาดโทษ ดวงตาคู่สวยกวาดมองไปรอบๆโต๊ะก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ ถ้าถามว่าใครคือผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก เธอก็อยากจะส่งชื่อตัวเองเข้าชิงรางวัลเพราะนอกจากจะมีแฟนดี ครอบครัวแฟนดีแล้ว ทั้งสองครอบครัวยังเข้ากันได้ดีอีกด้วย"กับข้าวยังอร่อยเหมือนเดิมเลยนะคะ"ธีรยาเอ่ยชมหลังจากที่ทานอาหารเสร็
"หม่าม้าคะ หวานมีเรื่องจะปรึกษาค่ะ"น้ำหวานเดินเข้าไปหาน้ำหอมที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ในห้องนั่งเล่น เธอนั่งคิดนอนคิดเรื่องนี้มาตลอดทั้งคืน"เรื่องอะไรลูก"ผู้เป็นแม่หยิบรีโมตขึ้นมากดปิดโทรทัศน์ ดูเหมือนละครเรื่องนี้ของเธอจะดูไม่จบสักที กดเปิดดูปุ๊บลูกสาวก็มีเรื่องปั๊บตั้งแต่เมื่อวาน"เรื่องพี่หมอค่ะ"มองหน้าผู้เป็นแม่ด้วยสายตามุ่งมั่น ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องที่หมออาคินโทรมาเมื่อคืนให้ฟัง เขาทำให้เธอฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ อยากจะรู้ความจริงแต่ก็ยังไม่พร้อมที่จะคุยกับเขา"ม้าขอถามอะไรหน่อย เค้าเคยบอกรักหวานมั้ย นอกจากการกระทำต่างๆ ที่ผ่านมา ม้ายังไม่ได้ยินหวานเล่าให้ฟังเลยว่าเค้าบอกรักหวานตอนไหน"คำถามจากน้ำหอมทำให้เด็กสาวชะงักไป มากสุดก็คงผู้ว่าชอบเธอ แต่ไม่เคยมีคำสารภาพรักตรงๆ"ไม่เคยค่ะ""จากที่ม้าดูนะ ที่เค้าไม่บอกไม่ใช่เพราะว่าเค้าปากหนักหรอก แต่ก่อนหน้านี้เค้าไม่รู้ตัวต่างหากว่ามันเรียกว่าความรักตั้งแต่เมื่อไหร่""ทำไมม้าถึงคิดแบบนั้นคะ"คนที่ดูแพรวพราวและช่ำชองในเรื่องความรักอย่างเขาน่ะเหรอที่จะไม่รู้ใจตัวเอง แต่จะว่าไปตัวเธอก็ไม่ได้มั่นใจในความรู้สึกของตัวเองเท่าไหร่นักจนเกิ
วิชัยรับคำอย่างว่าง่าย เขาเปิดไฟเลี้ยวพลางส่องกระจกมองหลังแล้วเลี้ยวรถเข้าไปรถข้างๆ รถกระบะ 4 ประตู ISUZU D-Max Hi-Lander สีดำ"พี่หมอมีธุระเหรอคะ""แค่แป๊บเดียวครับ"ทันทีที่รถจอดสนิทอาคินก็ลงจากรถเดินเข้าไปหาพนักงานผู้ชายสองคนซึ่งนั่งรออยู่ข้างๆรถกระบะคันดังกล่าว"สวัสดีครับ ผมอาคินที่สั่งรถเอาไว้""อ่อ สวัสดีครับคุณลูกค้า" พนักงานหนุ่มทั้งสองคนรีบยกมือไหว้ทันที "ผมรบกวนคุณลูกค้าตรวจเช็ครถและเซ็นเอกสารตรงนี้ให้หน่อยนะครับ"อาคินเดินสำรวจรถคร่าวๆก่อนจะเซ็นเอกสารท่ามกลางความสงสัยของน้ำหวานกับวิชัยและความจริงก็กระจ่างเมื่อหมอหนุ่มเดินกลับมาพร้อมยื่นกุญแจรถให้ลุงวิชัย"รถคันใหม่ครับ ไว้ใช้งานในหมู่บ้านน่าจะสะดวกกว่า""มะ มะ หมอให้ลุงเหรอ"วิชัยเกิดอาการติดอ่างขึ้นมาทันที ไม่คิดว่าอาคินจะซื้อรถยนต์คันใหม่ป้ายแดงให้เขา มันมากเกินกว่าจะเขาจะรับไว้"ใช่ครับ คันที่ลุงขับอยู่นี่เลิกใช้ไปเถอะครับ มันไม่ปลอดภัยเลย"น้ำหวานมองคนตรงหน้าด้วยความอึ้งไม่แพ้กัน ก่อนจะระบายยิ้มออกมาบางๆ ถึงเขาจะดูเหมือนกับไม่ค่อยสนใจอะไรแต่จริงๆแล้วหมอหนุ่มเป็นคนที่ค่อนข้างจะใส่ใจคนรอบตัว"ลุงรับไว้ไม่ไหวหรอกครับ มันแ
ใบหน้าหล่อเหลาโน้มเข้าไปจูบปากที่บวมเจ่ออย่างอดใจไม่ไหว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเธอจุดไฟในตัวเขาได้เสมอ“แบบนี้ชอบไหม”อาคินกระซิบถามพลางยื่นมือลงไปจับล็อกเอวบางก่อนจะกระแทกท่อนเอ็นยักษ์เสยขึ้นไปจนมิดลำ หมอหนุ่มขยับกระชั้นถี่ตามความปรารถนาที่พุ่งขึ้นสูง เขาตอกอัดใส่เธออย่างเร่าร้อน สายตาคมเลื่อนขึ้นสบตากับดวงตาคู่สวยที่ตอนนี้ดูเลื่อนลอยพอๆกับสติ“แรงๆ แบบนี้ชอบมั้ยครับ”ถามพลางกระแทกกระทั้นตอกอัดใส่ร่องรักที่ฉ่ำแฉะ น้ำหวานที่ได้ยินคำถามก็หน้าแดงซ่านแต่ก็ยอมตอบกลับเขามาอย่างเอาอกเอาใจ“ชอบค่ะ...ชะ...ชอบมาก”ตอนนี้ความเสียวซ่านถาโถมใส่จนเธอไม่ทันตั้งรับ สัมผัสอันเกิดจากความรู้สึกซึ่งประสานเป็นหนึ่งเดียวกันนั้นสร้างความสุขได้อย่างล้นหลามปึก ปึก ปึก!เขาแทบจะบ้าคลั่งจนทนไม่ไหว!“อ๊า~...พี่หมอ”น้ำหวานครางเสียงหลงเมื่อมือใหญ่ช้อนลงใต้ก้นกลมกลึงแล้วจับเธอหมุนตัวกลับไปอีกฝั่งก่อนจะรั้งขาเธอขึ้นแนบอกจนตัวลอย อาคินเร่งจังหวะตอกอัดท่อนเอ็นใส่ร่องรักอย่างรุนแรง ดิบเถื่อนร่างบางจิกลงบนแขนแกร่งของเขาทั้งสองข้าง เพียงต้องการหาทางระบายความกระสันจากการกระทำที่รุนแรงของเขา “สะ...เสียวเกินไป”เมื่อร่า
"ว๊าย!"มือหนาสอดเข้าใต้รักแร้ร่างบางก่อนจะอุ้มขึ้นมานั่งบนตักของตัวเอง อาคินจัดการเลื่อนเบาะรถถอยหลังไปจนสุดก่อนจะรั้งท้ายทอยของน้ำหวานลงมาจูบจูบที่เริ่มต้นช้าๆ ปลุกเร้าความต้องการด้วยลิ้นที่แทรกเข้ามา ริมฝีปากนุ่มของทั้งสองแนบชิดคลอเคลียไม่ห่าง เธอพยายามแทรกปลายลิ้นไล้ไปตามส่วนต่างๆ ราวกับจะเอาคืนลิ้นของชายหนุ่มร่างกายของน้ำหวานสั่นเทิ้มด้วยความปรารถนาระหว่างที่ริมฝีปากแนบประกบ สัมผัสของเขามักจะทำให้หัวใจของเธออ่อนยวบลงทุกครั้ง"จูบกี่ครั้งก็ยังหวานเหมือนเดิมเลย"เสียงแหบพร่ากระซิบชิดใบหู ปลายลิ้นเล็มเลียติ่งหูแผ่วเบา ก่อนจะวกกลับมาที่ริมฝีปากอวบอิ่มจูบเร่าร้อนเริ่มขึ้นอีกครั้ง เรียวลิ้นอุ่นชื้นของทั้งคู่เกี่ยวกระหวัดรัดรึงอย่างไม่มีใครยอมใคร มือหนาเริ่มฟ้อนเฟ้นไปทั่วเรือนร่างเย้ายวน อุณหภูมิในร่างไต่ระดับขึ้นตามแรงกระตุ้น จนคนน้องรู้สึกวูบวาบขึ้นสมองปลายจมูกของเขาค่อยๆ ซุกไซ้ลงมาที่ซอกคอพร้อมกับลมหายใจถี่กระชั้น ฝ่ามือใหญ่ไล้ไปตามผิวเนื้อที่สั่นเทาน้อยๆ ก่อนจะเลื่อนลงไปตามสีข้าง เอว จนถึงระหว่างขา"อื้มมมม~"เสียงหวานครางในลำคอพลางยกแขนเรียวขึ้นคล้องคอแกร่ง น้ำหวานเคลิบเคลิ้มไป