Home / โรแมนติก / Unchosen เงารักกลางลวงใจ / บทที่ 1 เงาที่ถูกซื้อมา…เพื่อแทนที่ความทรงจำแสนเจ็บปวด

Share

บทที่ 1 เงาที่ถูกซื้อมา…เพื่อแทนที่ความทรงจำแสนเจ็บปวด

Author: MayaHurt.56
last update Last Updated: 2025-05-04 02:29:39

ฝนตก...อีกแล้ว

เหมือนในทุกคืนที่เธอรู้สึกว่าโลกนี้ไม่เหลือใคร

กรุงเทพฯ ยังคงเปียกปอนไปด้วยแสงไฟสลัว น้ำฝนไหลเป็นเส้นเล็ก ๆ บนกระจกบานใหญ่ของบาร์ลับชั้นดาดฟ้า “ลิโอจิน” กลิ่นเปียกชื้นผสมกับความหรูหราเบาบางของเหล้าวิสกี้และน้ำหอมแพง ๆ คลุ้งอยู่ในอากาศ

มีนา นั่งอยู่ตรงมุมหนึ่งของห้อง VIP มือของเธอกำแน่นรอบแก้วไวน์แต่ไม่ได้จิบสักหยด ริมฝีปากแตะแก้วเพียงเพื่อกลบอาการสั่นไหวของความรู้สึก แววตาของเธอไม่มองอะไรเลยนอกจากจอโทรศัพท์ที่ยังเปิดอยู่

พัทธดนย์ ควงคู่หมั้นเปิดตัวกลางงานแฟชั่นวีค”

ภาพข่าวบาดตา บาดลึกยิ่งกว่ามีดเล่มไหน เพราะผู้หญิงคนนั้น...ใส่นาฬิกาเรือนเดียวกับที่มีนาเคยใช้เงินเก็บทั้งปีซื้อให้เขา

เธอกดปิดหน้าจอ แล้วหันไปทางผู้จัดการบาร์ที่เดินเข้ามาเงียบ ๆ

“ที่นี่มีอะไร...ที่ลบความรู้สึกเจ็บปวดตอนนี้ได้ดีกว่าเหล้าไหม?” เธอถามเสียงแผ่ว เบาเสียจนแทบกลืนลงคอไม่หมด

ผู้จัดการหญิงยิ้มบางอย่างรู้ทัน เธอไม่พูดมาก เพียงยื่นแฟ้มหนังสือเล่มหนึ่งให้

มีนาเปิดแฟ้มอย่างเชื่องช้า จนกระทั่งมาถึงหน้า ๆ หนึ่ง... มือของเธอก็หยุดนิ่ง

ในรูปถ่าย ชายหนุ่มในชุดเชิ้ตดำยืนพิงผนังอย่างไม่ใส่ใจ แววตาในภาพเหมือนกับใครบางคนที่เธอรู้จัก...จนเกินไป

“No.13  ของลึกลับ”

นักศึกษาปี 4 วิศวกรรมศาสตร์ สูง 183 ซม. รอยปานสีแดงด้านซ้ายลำคอ

ปานแดง...

หัวใจเธอสั่นไหวอย่างไม่มีเหตุผล

“ฉันขอประมูลเขา เท่าไหร่ก็ได้”

บันไดวนแคบทอดลงสู่ห้องลับใต้บาร์ “ลิโอจิน”

มีนาเดินตามผู้จัดการลงไปอย่างเงียบเชียบ เสียงส้นรองเท้าสัมผัสพื้นหินอ่อนเย็นเยียบ ดังก้องในหูอย่างประหลาด ราวกับหัวใจของเธอที่เต้นอย่างไร้จังหวะ

ประตูบานหนักเปิดออกอย่างเงียบงัน เผยให้เห็นห้องสี่เหลี่ยมสีแดงเข้มที่ถูกแต่งด้วยม่านกำมะหยี่ พื้นไม้เนื้อแข็งขัดเงา โต๊ะไม้ยาวตั้งอยู่กลางห้อง แสงไฟสลัวจากโคมทองส่องลงบนโต๊ะเหมือนฉากในโรงละครลับ ๆ

ภายในห้องเงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจของคนชายหญิงนั่งเรียงรายประปราย ต่างมีแฟ้มอยู่ตรงหน้าเหมือนกันทุกคน ไม่มีการทักทาย ไม่มีคำถามมีนาเดินไปนั่งอย่างมั่นคงที่เก้าอี้ตัวท้ายสุดของโต๊ะ เธอไม่มองใคร และไม่อยากให้ใครมอง

ผู้จัดการเดินเข้ามาอย่างเป็นพิธี พลิกแฟ้มในมือของเธอขึ้นวางบนแท่นไม้ตรงกลางเวที

“คืนนี้ เรามีผู้เข้าร่วมใหม่หมายเลขสิบสาม... No.13  ‘ของลึกลับ’”

เสียงกระซิบดังแผ่วจากสองฝั่งโต๊ะ มีนาเงยหน้าเล็กน้อย สบตากับภาพที่ปรากฏบนหน้าจอเล็กตรงแท่นกลาง

ชายหนุ่มในชุดเชิ้ตสีเข้มยืนพิงผนังอย่างเฉยชา เขาไม่มองกล้อง ไม่แม้แต่จะยิ้ม ดวงตานั้นเย็นชา แต่มีประกายความเจ็บซ่อนอยู่ลึกสุดของม่านตา ไม่มีชื่อ ไม่มีประวัติแน่ชัด มีเพียงรหัส นักศึกษาปีสี่ และรอยปานสีแดงที่ต้นคอ

หัวใจของมีนาสะท้านวูบ เธอไม่รู้ว่ามันเป็นความเจ็บ ความหวัง หรือบาดแผลเก่าที่ปริร้าวขึ้นมาใหม่

เสียงผู้จัดการเริ่มเอ่ยตัวเลข

“เริ่มต้นประมูลที่หนึ่งแสนบาท…”

มือของผู้เข้าร่วมอีกฝั่งหนึ่งยกขึ้นตามปกติ

“หนึ่งแสน”

“สองแสน”

มีนาเงียบ จนกระทั่งเสียงเรียก “สามแสน” ดังขึ้น

เธอจึงลุกขึ้น และวาง “บัตรแบล็กการ์ด” ลงบนแท่นไม้กลางห้อง

น้ำเสียงของเธอแน่น หนักแน่นกว่าครั้งไหน“หนึ่งล้านบาท”

ห้องทั้งห้องเงียบกริบ ไม่มีเสียงท้าชิง มีแต่ความเงียบที่แน่นขนัด เหมือนทุกคนกำลังยอมแพ้ให้กับแววตาของผู้หญิงที่ดูเหมือนจะ “ไม่กลัวเจ็บอีกต่อไป”

เสียงไม้เคาะครั้งสุดท้ายดังขึ้น...

“ผู้หญิงท่านนี้ ชนะการประมูล No.13 ในราคา หนึ่งล้านบาท”

ไม่มีเสียงปรบมือ ไม่มีคำยินดี มีเพียงเสียงหัวใจของเธอ ที่เต้นอย่างสิ้นหวัง

เพราะเธอไม่ได้ซื้อใครสักคนเพื่อรัก แต่เธอกำลังจ่ายเงินล้าน เพื่อซื้อใครสักคน… ที่จะช่วยเธอลืม คนที่เธอรักจนเจ็บแทบตาย

ห้อง VIP 007

แสงไฟสีทองตกกระทบใบหน้าของมีนาอย่างอ่อนโยน เธอนั่งเงียบ ๆ บนโซฟากำมะหยี่หรูขณะรอใครบางคน เสียงฝนกระทบกระจกทำให้บรรยากาศในห้องเงียบเกินจะทน

ประตูเปิดออกเบา ๆ

ชายหนุ่ม ก้าวเข้ามาอย่างนิ่งสงบ เขาสวมหน้ากากครึ่งหน้า แต่แววตา การเดิน การหายใจ…มันคือพัทธดนย์

ไม่สิ…ไม่ใช่

“ผมสามารถเป็นใครก็ได้ ถ้านั่นคือสิ่งที่คุณต้องการ” น้ำเสียงของเขาเจ็บแปลบในอกเธอ

“คุณก็พูดเหมือนเขา” เธอพึมพำ “คนที่ฉันพยายามจะลืม…”มีนาเดินเข้าหาปลายนิ้วของเธอแตะเบา ๆ ที่คอของเขา ตรงนั้น…มีรอยปานแดงเล็ก ๆ เหมือนที่เด็กชายคนหนึ่งเคยมี เธอชักมือกลับทันควัน ราวกับไฟลวก

“คืนนี้...คุณไม่ต้องเป็นใครเลยก็ได้” เธอกล่าวเสียงแข็ง

“คุณแค่...อย่าเป็นเขา”

เขานิ่งฟัง ไม่พูด ไม่ขัด ไม่แตะต้อง

“คุณอยากพูดไหม?” เขาถามเบา ๆ

เธอหัวเราะในลำคอ น้ำเสียงปนสะอื้น

“พูดไปก็ไม่มีใครฟังหรอก...แต่คุณต่างออกไป คุณไม่จำเป็นต้องเข้าใจ”

เขานั่งลงฝั่งตรงข้าม เงียบ รอ มีนาเริ่มพูด

“ฉันรักเขามาสิบปี...แต่เขาไม่เคยเลือกฉันเลย...เขาให้คนอื่นใส่นาฬิกาที่ฉันซื้อให้ เขาประกาศหมั้นกับคนอื่นโดยไม่แม้แต่จะหันมามองฉัน”

ดนุยังคงฟัง ยังคงไม่พูดอะไร

“คุณรู้ไหม อะไรเจ็บที่สุด? คือการที่ฉันเป็นเพียงคนนอกสายตา เป็นแค่เศษฝุ่นในชีวิตของเขา…”มีนาเอนตัวลง

“ฉันแค่อยากลืม...ไม่อยากรู้สึก ไม่อยากจำ…”เธอหลับตาแน่น ก่อนพูดเสียงแผ่วเหมือนกระซิบ

“ขอแค่คืนนี้...ได้ไหม แค่คืนเดียวที่ไม่มีเขา”

ดนุนั่งนิ่ง

“คุณพูดเหมือนคนที่เคยถูกทิ้งมาตลอดชีวิต และผม...เข้าใจดี ว่าความเงียบ ความโดดเดี่ยวทรมานแค่ไหน”

มีนาเงยหน้ามองเขา น้ำตาคลอเบ้า เอ่ยถามเสียงแผ่ว 

“คุณรู้จักความเจ็บปวดด้วยเหรอ?”

“ผมไม่ได้แค่รู้จัก ผมอยู่กับมัน...ทุกวัน”น้ำเสียงเรียบนิ่งทว่าสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดในคำพูดนั้น

เธอไม่พูดอะไรอีกเขาก็ไม่ถาม ไม่มีการแตะต้อง ไม่มีเรื่องเซ็กซ์ ไม่มีการซื้อขายแบบที่เธอคาดคิด

มีแต่ “เงา” ที่เธอจ่ายเงินซื้อกลับนั่งอยู่ตรงนี้เงียบ ๆ เพื่อให้เธอหายใจได้หนึ่งคืน คืนนั้นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Unchosen เงารักกลางลวงใจ    ตอนที่ 6: เธอหายไปจากโลกของเขา

    บ่ายวันศุกร์ อากาศร้อนอบอ้าวปะทะกระจกใสของห้องเรียนคณะบริหาร ในมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง แสงแดดเจิดจ้า ทว่าในขณะเดียวกัน หัวใจของพัทธดนย์กลับมืดมนและสับสนวุ่นวายกับเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาเขานั่งอยู่แถวหลังสุด ปลายนิ้วเลื่อนไปบนหน้าจอโทรศัพท์ ที่ยังคงปรากฏชื่อเดิม...มีนา ข้อความล่าสุดที่เขาส่งไปเมื่อห้าวันก่อน ยังคงแสดงสถานะ "ยังไม่อ่าน" เช่นเดิมหลังจากวันนั้น วันที่เธอยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าคอนโดของเขา พร้อมกับเอ่ยคำที่เปลี่ยนแปลงทุกอย่างไปตลอดกาลว่า“ฉันชอบพี่”แต่เขากลับตอบกลับไปด้วยประโยคที่ทิ่มแทงหัวใจของเธอ“พี่ไม่ได้ชอบเรานะ พี่รักมีนาเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง”จากวันนั้น...มีนาก็หายไปจากวงโคจรชีวิตของเขา ไม่มีข้อความ ไม่มีโทรศัพท์ และไม่มีแม้แต่การอ่านข้อความจากไลน์เหมือนที่เคยพัทธดนย์ไม่อยากเชื่อว่าเธอบล็อกเขา แต่สัญญาณที่ได้รับมันชัดเจนยิ่งกว่าคำพูดใด ๆเธอ...หายไปจากชีวิตเขาแล้ว และเขาก็ไม่เข้าใจเลย...ว่าทำไมพัทธดนย์รู้จักมีนามาตั้งแต่ยังเด็ก ครอบครัวของเขาทำธุรกิจร่วมกับครอบครัวของเธอ ร้านอาหารของบ้านเขาเป็นพันธมิตรกับบริษัทจัดจำหน่ายวัตถุดิบของบ้านเธอมาเป็นเวลาหลายสิบปีแ

  • Unchosen เงารักกลางลวงใจ    บทที่ 5 ระยะปลอดภัยของหัวใจ

    บ่ายวันนั้น ห้องเรียนรวมขนาดกลางที่จัดไว้สำหรับคลาสกลุ่ม ถูกปรับอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่พอดีสบาย เสียงเครื่องปรับอากาศเบา ๆ แทรกอยู่ในบรรยากาศคล้ายกล่อมใจ ก่อนจะผสานกับเสียงปลายนิ้วที่พิมพ์ลงบนแป้นโน้ตบุ๊กของนิสิตคนแล้วคนเล่า คลอไปกับเสียงแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันจัดการงานกลุ่มซึ่งเด้งขึ้นบนจอ LED กลางห้อง ทั้งหมดนั้นสร้างความรู้สึกสงบแต่แฝงไว้ด้วยความวุ่นวายของวันที่ทุกอย่างดำเนินไปตามปกติมีนาเลือกนั่งชิดริมสุดของห้อง ติดกับผนังโปร่งแสงที่เปิดมุมมองสู่สวนเล็ก ๆ ระหว่างคณะ ข้างตัวเธอวางไอแพดไว้หนึ่งเครื่อง พร้อมชีทเรียนที่เพิ่งพิมพ์ออกมาจากระบบกลางของคณะไม่ถึงสิบนาทีหลังจากนั้น ดนุก็เดินเข้ามาในห้องเขาเห็นเธอตั้งแต่ก่อนก้าวผ่านประตูสแกนเข้าเรียน แต่ไม่ได้เดินตรงเข้าไปหาตามเคย หากเลือกนั่งอยู่แถวถัดหลังเธอหนึ่งแถวพอดี ทิ้งระยะไว้อย่างตั้งใจ ราวกับจะบอกเธอผ่านความเงียบว่า...เขาจะไม่ก้าวล้ำไม่มีคำทัก ไม่มีเสียงเรียก มีเพียงความรับรู้ที่วางตัวนิ่งอยู่ในบรรยากาศระหว่างกัน เป็นช่องว่างที่เขาเว้นไว้ เพื่อให้เธอได้หายใจอย่างเป็นอิสระมีนาเหลือบมองเขาผ่านเงาสะท้อนจากจอแท็บเล็ต ก่อนจะถอนหายใ

  • Unchosen เงารักกลางลวงใจ    บทที่ 4 ในวันที่ไม่กล้ารัก...แต่ไม่อาจลืม

    หลังจากวันนั้น...แม้มีนายังคงต้องเข้าเรียนตามปกติทุกวันเหมือนเดิม ทว่าเธอกลับไม่เคยย่างกรายผ่านใต้ตึกนั้นอีกเลยเธอเปลี่ยนที่นั่งในห้องเรียน เปลี่ยนเส้นทางเดิน ยอมอ้อมไกลกว่าเดิม เพียงเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ต้องสบตากับใครบางคน แม้แต่เวลาพัก เธอยังหลีกเลี่ยงคาเฟ่หน้าตึกซึ่งเคยเป็นมุมโปรดในทุก ๆ วันทุกสิ่งที่เธอทำ...เป็นเพียงความพยายามหลีกเลี่ยงผู้ชายคนหนึ่งไม่ใช่เพราะเธอเกลียดเขา แต่เพราะเธอไม่อยากรู้สึกอะไรอีก เธอไม่ต้องการให้หัวใจเต้นแรงเมื่อเห็นหน้าเขา ไม่อยากเผลอยิ้มเพียงเพราะความทรงจำ ไม่อยากยอมรับว่าบางอย่าง...ยังค้างคาอยู่ในใจยิ่งหลีกเลี่ยง...ยิ่งคิดถึงยิ่งไม่อยากเจอ...ใบหน้าเขายิ่งชัดเจนขึ้นทุกทีในหัวและทั้งหมดนั้น ทำให้เธอเหนื่อยเกินกว่าจะแบกรับไหวเหนื่อยกับการแสร้งว่าไม่เคยรู้จักกัน เหนื่อยกับการทำเป็นไม่รู้สึกอะไร ทั้งที่ในความจริง เขายังคงอยู่เต็มหัวใจของเธอ ไม่เคยเลือนหายไปไหนเลยสิ่งเดียวที่เธอไม่สามารถเปลี่ยนได้...คือหัวใจตัวเอง ที่ยังคงสั่นไหวทุกครั้งที่ได้ยินชื่อเขาด้านดนุเองก็นิ่งเงียบหลังจากวันนั้น ไม่ติดต่อ ไม่เข้าหา ไม่แม้แต่จะพูดอะไรเพิ่มเติม...ราวกับเขาเข้า

  • Unchosen เงารักกลางลวงใจ    บทที่ 3 ไม่ต้องการ

    หน้าอาคารเรียน ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ เต็มไปด้วยนักศึกษาที่นั่งจับกลุ่มใต้ร่มไม้บังแดด บ้างก็นั่งจิบกาแฟ บ้างเปิดโน้ตบุ๊ก พูดคุยเสียงดังสลับกับเสียงแจ้งเตือนจากแอปต่าง ๆ ที่เด้งขึ้นมาไม่หยุดบรรยากาศดูเหมือนเป็นวันธรรมดาวันหนึ่ง แต่ไม่ใช่สำหรับมีนามีนาเดินช้า ๆ เข้ามาในพื้นที่ที่เธอเคยคุ้น แต่ไม่เคยรู้สึกเป็นของตัวเองอีกเลยหลังจากวันนั้นเสื้อช็อปคณะตัวใหม่ที่เธอสวม ดูไม่เข้ากับบุคลิกนิ่ง ๆ ของเธอสักเท่าไหร่ ผมถูกมัดรวบไว้แบบไม่ตั้งใจ ใบหน้าเธอดูอิดโรยกว่าคนอื่นเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะนอนไม่พอ...แต่เพราะเธอนอนไม่หลับเลยเมื่อคืน“เจอหน้ากันอีกแล้วเหรอวะ...” เธอบ่นกับตัวเองเบา ๆ เมื่อสายตาเธอกวาดผ่านโต๊ะไม้ตัวยาวข้างต้นพิกุลหน้าตึก และเห็น เขา นั่งอยู่ตรงนั้นดนุในเสื้อโปโลคณะสีกรมท่าตัวเดิม ผมยุ่งนิด ๆ แบบที่เหมือนไม่ได้ตั้งใจแต่ดันดูดีแบบคนไม่พยายาม เขากำลังนั่งอ่านเอกสารอะไรบางอย่าง โดยมีเด็กปีหนึ่งสองสามคนนั่งอยู่ไม่ไกล คุยกันคิกคักเหมือนชื่นชมพี่ปีสี่สุดเท่มีนารีบหันหลังกลับ พยายามเลี่ยงเหมือนคนที่เห็นผีแล้วไม่อยากถูกมองเห็น แต่สายเกินไป“มีนา” เสียงของเขาไม่ได้ดังมาก แต่มันดังก้องในใ

  • Unchosen เงารักกลางลวงใจ    บทที่ 2 ไม่เคยลืม

    แสงแดดยามบ่ายคล้ายเจือจางลงในวันนั้น ท้องฟ้าสีเทาคลุมคล้ายฝนกำลังมาแต่ยังไม่ตก ลานกิจกรรมกลางคณะเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เสียงเรียกชื่อ เสียงแนะนำตัวปนเปกับเสียงดนตรีคลอเบา ๆ จากลำโพงด้านหลังเวทีไม้ที่ถูกตั้งขึ้นชั่วคราวมีนา ยืนอยู่ตรงขอบวงกลมกิจกรรม ในชุดเสื้อคณะสีเลือดหมูตัวเดิมจากสองปีก่อนเธอจำมันได้ดี...เธอเคยอยู่ตรงนี้...รอยยิ้ม เสียงหัวงเราะกับเกมรับน้อง โดนล้อชื่อเล่น โดนพี่ปีสามแกล้งให้บอกรักเพื่อนข้าง ๆ สารพัดกิจกรรมที่เคยทำให้เธอมีความสุขมากที่สุด เป็นอีกวันที่สดใสสำหรับเธอ และได้รับมิตรภาพใหม่ๆ รวมถึงรู้จักรุ่นพี่และได้รับการยอมรับในสังคมใหม่อีกด้วยตอนนั้น เธอรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบพร้อมโอบกอดเธอไว้ตอนนั้น...เธอมีรอยยิ้มตอนนี้...เธอกลับยืนเงียบ มองทุกอย่างเหมือนคนภายนอกที่กำลังเฝ้ามองตัวเองในอดีตไม่มีใครรู้ว่า... สองปีที่เธอหายไป ไม่ใช่การย้ายมหาลัยแต่เพราะโรคซึมเศร้ารุนแรงและภาวะว่างเปล่าที่เธอไม่สามารถควบคุมได้ ในช่วงเวลานั้นหัวใจของเธอแตกสลายจนกว่าจะเยียวยาให้เหมือนเดิมได้อีก ไม่มีใครรู้ว่าเธอต้องผ่านช่วงเวลาอันแสนโหดร้ายเพียงลำพังนั้นทรมานมากแค่ไหน มีเพียบหมอกับพยาบ

  • Unchosen เงารักกลางลวงใจ     บทที่ 1 เงาที่ถูกซื้อมา…เพื่อแทนที่ความทรงจำแสนเจ็บปวด

    ฝนตก...อีกแล้วเหมือนในทุกคืนที่เธอรู้สึกว่าโลกนี้ไม่เหลือใครกรุงเทพฯ ยังคงเปียกปอนไปด้วยแสงไฟสลัว น้ำฝนไหลเป็นเส้นเล็ก ๆ บนกระจกบานใหญ่ของบาร์ลับชั้นดาดฟ้า “ลิโอจิน” กลิ่นเปียกชื้นผสมกับความหรูหราเบาบางของเหล้าวิสกี้และน้ำหอมแพง ๆ คลุ้งอยู่ในอากาศมีนา นั่งอยู่ตรงมุมหนึ่งของห้อง VIP มือของเธอกำแน่นรอบแก้วไวน์แต่ไม่ได้จิบสักหยด ริมฝีปากแตะแก้วเพียงเพื่อกลบอาการสั่นไหวของความรู้สึก แววตาของเธอไม่มองอะไรเลยนอกจากจอโทรศัพท์ที่ยังเปิดอยู่“พัทธดนย์ ควงคู่หมั้นเปิดตัวกลางงานแฟชั่นวีค”ภาพข่าวบาดตา บาดลึกยิ่งกว่ามีดเล่มไหน เพราะผู้หญิงคนนั้น...ใส่นาฬิกาเรือนเดียวกับที่มีนาเคยใช้เงินเก็บทั้งปีซื้อให้เขาเธอกดปิดหน้าจอ แล้วหันไปทางผู้จัดการบาร์ที่เดินเข้ามาเงียบ ๆ“ที่นี่มีอะไร...ที่ลบความรู้สึกเจ็บปวดตอนนี้ได้ดีกว่าเหล้าไหม?” เธอถามเสียงแผ่ว เบาเสียจนแทบกลืนลงคอไม่หมดผู้จัดการหญิงยิ้มบางอย่างรู้ทัน เธอไม่พูดมาก เพียงยื่นแฟ้มหนังสือเล่มหนึ่งให้มีนาเปิดแฟ้มอย่างเชื่องช้า จนกระทั่งมาถึงหน้า ๆ หนึ่ง... มือของเธอก็หยุดนิ่งในรูปถ่าย ชายหนุ่มในชุดเชิ้ตดำยืนพิงผนังอย่างไม่ใส่ใจ แววตาในภาพเหมือนก

  • Unchosen เงารักกลางลวงใจ    บทนำ

    เวลาผ่านไปสิบปีกรุงเทพฯ ยังคงจอแจและเร่งรีบเหมือนเดิม แต่สำหรับมีนา ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้วหญิงสาวในวัยสามสิบปลาย ก้าวออกจากรถลีมูซีนสีดำหน้าศูนย์ประชุมแห่งหนึ่งใจกลางเมือง เธอสวมเดรสผ้าไหมสีครีมเรียบหรู ผมถูกรวบขึ้นหลวม ๆ เผยให้เห็นแววตาที่ผ่านทั้งน้ำตาและความสำเร็จมาแล้วนับไม่ถ้วนนี่ไม่ใช่แค่การเปิดตัวหนังสือเล่มใหม่ แต่คือ “การกลับบ้าน” ที่เธอหลีกเลี่ยงมาทั้งชีวิตหนังสือเล่มนั้นชื่อว่า เงารักกลางลวงใจ และในวันนี้…มันคือกระแสนิยายอันดับหนึ่งของประเทศภายในห้องประชุมหรู แสงไฟอบอุ่นสาดส่องเวทีที่จัดตกแต่งอย่างพิถีพิถัน เสียงปรบมือกึกก้องดังกระทบผนังห้องเมื่อพิธีกรกล่าวชื่อของเธอ มีนาเดินขึ้นเวที ยิ้มอย่างอ่อนโยน“ขอบคุณที่ยังรอฉันนะคะ”เธอกล่าวสั้น ๆ ขณะนั่งลงบนโซฟาสีเบจตรงกลางเวที ผู้ดำเนินรายการเริ่มถามถึงแรงบันดาลใจ เนื้อหา ความตั้งใจ คำถามที่เธอเตรียมตัวมาตอบทั้งหมดจนกระทั่ง มีหญิงสาวคนหนึ่งลุกขึ้นจากที่นั่งแถวหน้า เธอสวมแว่น มีหน้าตาเรียบร้อยแต่ดวงตาคมชัด นั่นอาจเป็นนักข่าว หรืออาจเป็นเพียงผู้อ่านที่กำลังแบกรักบางอย่างไว้เหมือนกับที่มีนาเคยทำ"ขอโทษนะคะ" หญิงสาวถาม "ฉันอยาก

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status