Home / โรแมนติก / Unchosen เงารักกลางลวงใจ / บทที่ 1 ผู้ชายที่ซื้อด้วยล้าน

Share

Unchosen เงารักกลางลวงใจ
Unchosen เงารักกลางลวงใจ
Author: MayaHurt.56

บทที่ 1 ผู้ชายที่ซื้อด้วยล้าน

Author: MayaHurt.56
last update Huling Na-update: 2025-05-04 02:29:39

ฝนตก...อีกแล้ว

เหมือนดั่งทุกค่ำคืนที่เธอรู้สึกว่าโลกทั้งใบไม่หลงเหลือใครอีก

กรุงเทพฯ ยังชุ่มด้วยสายฝน ภายใต้แสงไฟสีส้มหม่นที่สะท้อนเป็นเงารางบนกระจกใสของบาร์ลับบนชั้นดาดฟ้า "ลิโอจิน"  ละอองฝนบาง ๆ ไหลย้อยเป็นทางลงบนบานกระจก กลิ่นอับชื้นของฝนเจือปนอยู่กับกลิ่นหวานขมของวิสกี้ และความหรูหราบางเบาจากน้ำหอมราคาแพงที่ลอยคลุ้งในอากาศ

มีนา นั่งอยู่เงียบ ๆ ที่มุมหนึ่งของห้องรับรองวีไอพี มือเรียวของเธอกำแน่นรอบแก้วไวน์สีแดงเข้ม แต่กลับไม่เคยยกจิบแม้เพียงหยดเดียว ริมฝีปากของเธอเพียงแตะแก้วไวน์ราวกับต้องการกลบความสั่นไหวภายใน สายตาไม่ได้มองสิ่งใดเลยนอกจากหน้าจอโทรศัพท์ที่ยังคงเปิดค้างไว้

ณภัทร ควงคู่หมั้นเปิดตัวกลางงานเลี้ยงของบริษัท”

ข่าวพาดหัวแทงลึกยิ่งกว่าคำพูดใด ภาพในข่าวทำให้ใจเธอชาวาป เพราะหญิงสาวในภาพนั้น...สวมนาฬิกาเรือนเดียวกับที่เธอเคยใช้เงินเก็บทั้งปีเพื่อซื้อให้เขา มีนาแตะปุ่มปิดหน้าจออย่างแน่นิ่ง ก่อนจะหันไปยังผู้จัดการบาร์ที่เดินเข้ามาโดยไม่มีเสียง

“ที่นี่มีอะไร...ที่ลบความรู้สึกเจ็บปวดตอนนี้ได้ดีกว่าเหล้าไหม?” เธอเอ่ยถามด้วยเสียงแผ่วเบา จนแทบกลืนหายไปในลำคอ

ผู้จัดการหญิงยิ้มบาง อย่างรู้ทัน ไม่เอื้อนเอ่ยคำใด เพียงแค่ยื่นแฟ้มหนังเล่มหนึ่งมาให้

มีนารับไว้ เปิดแฟ้มอย่างเชื่องช้า จนกระทั่งสายตามาหยุดอยู่ที่หน้าใดหน้าหนึ่ง มือของเธอก็หยุดนิ่งไป...

ภาพถ่ายในแฟ้มเผยให้เห็นชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตสีดำ ยืนพิงผนังด้วยท่าทีไม่ใส่ใจนัก ทว่าดวงตาของเขาในภาพนั้น เหมือนใครบางคนที่เธอรู้จัก...จนเกินไป

"No.13 ของลึกลับ"

นักศึกษาปี ๔ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สูง ๑๘๓ เซนติเมตร มีรอยปานสีแดงที่ต้นคอด้านซ้าย

ปานแดง

หัวใจของเธอสั่นไหวโดยไร้เหตุผล

“ฉันขอประมูลเขา...เท่าไหร่ก็ได้”

บันไดวนแคบทอดลึกลงสู่ห้องลับใต้บาร์ “ลิโอจิน”

มีนาเดินตามผู้จัดการลงไปอย่างเงียบงัน เสียงส้นรองเท้าของเธอกระทบพื้นหินอ่อนเย็นเยียบ ดังสะท้อนอยู่ในโสตประสาทราวกับเสียงหัวใจของเธอที่เต้นไร้จังหวะ ประตูบานหนักเปิดออกอย่างแผ่วเบา เผยให้เห็นห้องสี่เหลี่ยมทึบที่ตกแต่งด้วยม่านกำมะหยี่สีแดงเข้ม พื้นไม้เนื้อแข็งขัดเงาวาววับ โต๊ะไม้ยาวทอดตัวอยู่กลางห้องรับแสงจากโคมไฟสีทองที่แขวนอยู่เหนือศีรษะ ราวกับฉากหนึ่งในโรงละครลับ

ภายในห้องเงียบงันจนได้ยินแม้แต่เสียงลมหายใจเบา ๆ ของชายหญิงที่นั่งอยู่ประปรายสองฝั่งโต๊ะ แต่ละคนมีแฟ้มเอกสารวางอยู่ตรงหน้า ไม่มีการทักทาย ไม่มีคำถาม ไม่มีแม้แต่เสียงกระซิบของความสงสัย มีนาเดินไปนั่งอย่างมั่นคงที่เก้าอี้ตัวท้ายสุด เธอไม่มองใคร และไม่ต้องการให้ใครมองตอบ

ผู้จัดการหญิงเดินเข้ามาด้วยท่าทีสงบนิ่ง พลิกแฟ้มในมือแล้ววางลงบนแท่นไม้ตรงกลางห้อง

“คืนนี้...เรามีผู้เข้าร่วมใหม่หมายเลขสิบสาม ‘No.13 ‘ ’ของลึกลับ’

เสียงกระซิบแผ่วเบาดังจากทั้งสองฝั่งของโต๊ะ มีนาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย สบตากับภาพชายหนุ่มที่ปรากฏอยู่บนจอขนาดเล็กกลางแท่น

ชายหนุ่มในชุดเชิ้ตสีเข้มยืนพิงผนังอย่างเฉยชา ไม่มองกล้อง ไม่ยิ้ม ดวงตานิ่งงัน เย็นเยียบ แต่ในความเย็นชานั้น มีแววบางอย่างที่คล้ายกับความเจ็บซ่อนอยู่ลึกสุดของม่านตา

เขาไม่มีชื่อ ไม่มีประวัติแน่ชัด มีเพียงรหัส นักศึกษาปีสี่ และรอยปานสีแดงที่ต้นคอ

หัวใจของมีนาสะท้านวูบ เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่กำลังแล่นเข้ามานั้นคือความเจ็บ ความหวัง หรือบาดแผลเก่าที่กำลังปริแตกขึ้นมาอีกครั้ง

เสียงผู้จัดการหญิงเริ่มต้นกระบวนการ

“เริ่มต้นประมูลที่หนึ่งแสนบาท...”มือของผู้ร่วมประมูลฝั่งตรงข้ามยกขึ้นอย่างเป็นจังหวะ

“หนึ่งแสน”

“สองแสน”

มีนาเงียบ ไม่ไหวติง จนกระทั่งเสียงเรียก “สามแสน” ดังขึ้น

เธอจึงลุกขึ้นอย่างมั่นใจ เดินตรงไปยังแท่นไม้กลางห้อง วาง "บัตรแบล็กการ์ด" ลงอย่างชัดเจน

เสียงของเธอดังชัด หนักแน่นกว่าครั้งไหน ๆ

“หนึ่งล้านบาท”

ห้องทั้งห้องเงียบกริบ ไม่มีเสียงท้าชิง ไม่มีแม้แต่เสียงกระซิบ มีเพียงบรรยากาศแน่นขนัดที่อบอวลไปด้วยแรงกดดัน ทุกคนต่างเงียบ...เหมือนยอมจำนนต่อแววตาของผู้หญิงที่ดูเหมือนจะ “ไม่กลัวความเจ็บปวดอีกต่อไป”

เสียงไม้เคาะดังขึ้น เป็นสัญญาณปิดการประมูล

“ผู้หญิงท่านนี้ ชนะการประมูล No.13 ในราคา หนึ่งล้านบาท”

ไม่มีเสียงปรบมือ ไม่มีคำยินดี มีเพียงเสียงหัวใจของเธอ...ที่เต้นอย่างสิ้นหวัง เพราะเธอไม่ได้ซื้อใครสักคนเพื่อรัก

แต่เธอกำลังจ่ายเงินล้าน เพื่อซื้อใครบางคน... ที่จะช่วยเธอลืมคนที่เธอรักจนเจ็บแทบตาย

ห้อง VIP 007

แสงไฟสีทองนวลอ่อนตกกระทบลงบนใบหน้าของมีนาอย่างแผ่วเบา เธอนั่งนิ่งอยู่บนโซฟากำมะหยี่หรูหรา ภายในห้องที่เงียบเสียจนได้ยินเพียงเสียงฝนกระทบกระจกอย่างต่อเนื่อง ราวกับกล่อมให้หัวใจที่หนักอึ้งได้หยุดพัก

ประตูเปิดออกเบา ๆ ชายหนุ่มก้าวเข้ามาเงียบงัน เขาสวมหน้ากากครึ่งหน้า ทว่ากิริยา การก้าวเดิน ลมหายใจ...ทุกอย่างเหมือณภัทรจนใจเธอสั่นไหว

ไม่สิ...ไม่ใช่เขา

“ผมสามารถเป็นใครก็ได้ ถ้านั่นคือสิ่งที่คุณต้องการ” เสียงของเขาทำให้บางสิ่งในอกเธอเจ็บวาบ

“คุณก็พูดเหมือนเขา...” เธอพึมพำ “คนที่ฉันพยายามจะลืม...” มีนาเดินเข้าใกล้ ปลายนิ้วแตะเบา ๆ ที่ลำคอของเขา บริเวณนั้น...มีรอยปานแดงจาง ๆ เหมือนกับเด็กชายคนหนึ่งที่เธอเคยรู้จัก เธอสะดุ้งและชักมือกลับทันที ราวกับแตะต้องไฟร้อน

“คืนนี้...คุณไม่ต้องเป็นใครเลยก็ได้” เสียงของเธอเรียบแข็งราวกับไร้ความรู้สึก

“คุณแค่...ทำให้ฉันมีความสุข”

“ความสุขที่ ...ทำยังไงก็ได้”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • Unchosen เงารักกลางลวงใจ    ตอนที่ 91: คำสารภาพจากอำภา

    ข่าวใหญ่ระเบิดขึ้นมาโดยไม่มีใครตั้งตัว... มันเริ่มต้นจากสำนักข่าวออนไลน์เล็กๆ แห่งหนึ่งที่ได้รับไฟล์ข้อมูลนิรนามซึ่งถูกเข้ารหัสไว้อย่างแน่นหนา นักข่าวหนุ่มคนหนึ่งใช้เวลาทั้งคืนในการถอดรหัสไฟล์นั้น... และสิ่งที่เขาค้นพบก็ทำให้เขาแทบหยุดหายใจมันคือหลักฐานชุดสุดท้ายที่หน่วยเงาของดนุรวบรวมไว้ก่อนที่จะยุติบทบาทลง... คือจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่หายไปของโศกนาฏกรรมตระกูลพัชรลักษณ์ทั้งเส้นทางการเงินที่โยงใยไปยังบุคคลลึกลับ, คลิปเสียงบทสนทนาทางโทรศัพท์ที่ถูกบันทึกไว้ในอดีต, และคำให้การของพยานที่เคยถูกข่มขู่ให้ปิดปาก... หลักฐานทั้งหมดชี้ไปที่บุคคลคนเดียวกัน... คนที่ไม่มีใครเคยคาดคิดอำภา... อดีตภรรยาของพัชรลักษณ์ และผู้หญิงที่ณภัทรเรียกว่า ‘แม่’ มาทั้งชีวิตภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ข่าวนี้ก็แพร่กระจายไปทั่วทุกสำนักสื่อ พาดหัวข่าวตัวใหญ่ปรากฏขึ้นบนทุกแพลตฟอร์ม: ‘อำภา: นางพญาหลังม่านเลือด?’, ‘เปิดโปงจิ๊กซอว์ตัวสุดท้าย: เบื้องหลังโศกนาฏกรรมตระกูลพัชรลักษณ์’, และ ‘จากเหยื่อ... สู่ผู้สมรู้ร่วมคิด?’สังคมตกอยู่ในความสับสน... ภาพลักษณ์ของหญิงสูงศักดิ์ที่น่าสงสารและถูกสามีกดขี่ บัดนี้ได้พังทลายลงในชั่ว

  • Unchosen เงารักกลางลวงใจ    ตอนที่ 90: มนุษย์ธรรมดาในโลกที่ไม่ธรรมดา

    ความเย็นเยียบของห้องเก็บศพที่แผนกนิติเวชกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของดนุไปแล้ว เขากำลังใช้ผ้าชุบแอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดเตียงสแตนเลสที่ว่างเปล่าอย่างเงียบๆ การทำงานบริการสังคมของเขาที่นี่คือการเผชิญหน้ากับความตายในรูปแบบที่สงบและเป็นธรรมดาที่สุด... มันคือการมอบเกียรติครั้งสุดท้ายให้กับร่างไร้วิญญาณที่ไม่เคยมีใครแสดงความอาลัยท่ามกลางความเงียบนั้นเอง... โทรศัพท์มือถือของเขาก็สั่นขึ้นเบาๆ ในกระเป๋ากางเกงมันเป็นอีเมลฉบับหนึ่งที่ถูกส่งมาถึงเขาโดยตรง... คำเชิญจากรายการออนไลน์เล็กๆ ที่ชื่อว่า “เราคือคนที่เปลี่ยนได้ไหม”ดนุเหลือบมองชื่อรายการและรายละเอียดคร่าวๆ ด้วยสายตาที่ว่างเปล่า... ‘รายการสนทนาเชิงลึกที่จะเชิญบุคคลที่เคยผ่านจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตมาพูดคุยถึงการเดินทางภายใน’... เขาไม่มีความปรารถนาที่จะกลับไปอยู่ใต้แสงไฟหรือตอบคำถามของใครอีกแล้ว โลกใบนั้นมันได้ตายไปจากเขาแล้ว... เขาจึงกดลบอีเมลนั้นทิ้งไปในทันทีแต่ในคืนนั้นเอง... ขณะที่เขากำลังนั่งอ่านรายงานความคืบหน้าของเด็กๆ ในโครงการทุนการศึกษา ‘ชีวิตใหม่’ ที่ออฟฟิศของมูลนิธิ เขาก็ได้เปิดอ่านจดหมายจากเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่พ่อของ

  • Unchosen เงารักกลางลวงใจ    ตอนที่ 89: ทางเดินใหม่ใต้แสงแด

    ดนุลืมตาตื่นขึ้นก่อนที่แสงแรกของวันจะมาถึง เขานั่งนิ่งๆ อยู่บนระเบียงไม้ของ ‘เรือนเยียวยา’ ปล่อยให้สายลมเย็นๆ ของภาคเหนือลูบไล้ใบหน้า ในความเงียบสงบยามเช้า เขานึกย้อนไปถึงชีวิตที่ผ่านมา... ชีวิตที่เคยอยู่ในเงามืด, ชีวิตที่ขับเคลื่อนด้วยความแค้น, และชีวิตที่เพิ่งจะค้นพบความหมายที่แท้จริง เขานึกถึงคำพูดสุดท้ายของลุงกร... ‘พอได้แล้วกับการทำลาย... จากนี้ไป จงใช้ชีวิตเพื่อเยียวยา’ วันนี้... คือวันแรกของการ ‘สร้าง’ อย่างเป็นทางการแสงแดดในวันนั้นดูสว่างและอบอุ่นกว่าวันไหนๆ ทุ่งนาสีเขียวขจีรอบเรือนเยียวยาต้องแสงจนกลายเป็นสีทองอร่าม สายลมที่พัดผ่านนำพาเอากลิ่นหอมของดอกไม้และเสียงหัวเราะของผู้คนให้ลอยไปทั่วบริเวณวันนี้คือวันเปิดศูนย์เรือนเยียวยาอย่างเป็นทางการงานถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายและเป็นกันเอง ไม่มีพิธีรีตองที่หรูหรา ไม่มีนักการเมืองหรือสื่อมวลชนกระแสหลัก มีเพียงผู้หญิงจากทั่วทุกสารทิศที่เดินทางมาที่นี่... ผู้หญิงที่เคยมีบาดแผล, ผู้หญิงที่กำลังมองหาความหวัง และผู้หญิงที่พร้อมจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ พวกเธอนั่งพูดคุยกันบนเสื่อที่ปูไว้ตามลานดิน แลกเปลี่ยนเรื่องราวและมอบรอยยิ้มให้แก่กันและกัน

  • Unchosen เงารักกลางลวงใจ    ตอนที่ 88: วันที่ไม่มีตระกูล 

    เช้าวันนั้นที่ ‘เรือนเยียวยา’ ดนุไม่ได้ตื่นขึ้นมาเพื่อทำความสะอาดหรือเตรียมอาหารเหมือนเช่นทุกวัน แต่วันนี้เขามีภารกิจที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิตรออยู่ เขาสวมเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวที่เรียบง่ายที่สุดและกางเกงสีเข้ม ขับรถกระบะคันเก่าที่ใช้ในมูลนิธิออกเดินทางไปยังตัวอำเภอเพียงลำพังถนนหนทางที่เขาขับผ่านเต็มไปด้วยภาพชีวิตที่แสนจะธรรมดา... เด็กนักเรียนปั่นจักรยานไปโรงเรียน, ชาวบ้านที่ตั้งแผงขายของในตลาดเช้า, และข้าราชการที่กำลังเดินทางไปทำงาน... มันคือภาพที่เขาเคยเห็นมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่เคย ‘มอง’ อย่างแท้จริง วันนี้... ทุกอย่างกลับดูคมชัดและมีความหมายอย่างน่าประหลาดสำนักงานเขตในบ่ายวันนั้นอบอ้าว เสียงพัดลมเพดานหมุนเอื่อยๆ เจ้าหน้าที่นั่งทำงานอยู่หลังเคาน์เตอร์ด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย ผู้คนเดินเข้าออกทำธุรกรรม... มันคือสถานที่ราชการที่แสนจะธรรมดา แต่สำหรับดนุแล้ว... วันนี้คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตเขานั่งรออยู่บนเก้าอี้พลาสติกอย่างสงบเสงี่ยม ไม่รีบร้อน ไม่หงุดหงิด เขาเพียงแค่มองดูทุกอย่างรอบตัว เขามองเห็นแม่คนหนึ่งที่กำลังปลอบลูกน้อยที่ร้องไห้งอแง, เห็นชายชราที่กำลังค่อยๆ บรรจงประทับล

  • Unchosen เงารักกลางลวงใจ    ตอนที่ 87: เด็กชายในเงา

    เสียงออดเลิกเรียนคาบเช้าดังขึ้นบาดหู ณภัทรสะดุ้งเล็กน้อยกับความดังของมัน เขาหันไปมองภาพนักเรียนที่กำลังทยอยเดินออกจากห้องเรียนกันอย่างจอแจ เสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะดังสะท้อนไปทั่วทางเดินของอาคารเรียนที่ดูเก่าแก่แต่สะอาดสะอ้านของโรงเรียนมัธยมเล็กๆ แห่งหนึ่งนอกกรุงเทพฯเขายืนนิ่งอยู่หน้าต่างห้องพักครูที่อบอ้าว ในมือยังคงถือแก้วกาแฟที่เย็นชืดไปแล้ว เขาไม่ได้แตะต้องมันเลยตลอดหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา เขาเพียงแค่ยืนมองและรับฟัง... พยายามทำความคุ้นเคยกับโลกใบใหม่ที่เขาเลือกเดินเข้ามาด้วยตัวเองหลังจากการแถลงข่าวครั้งประวัติศาสตร์ครั้งนั้น... เขาก็ได้ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง ทั้งตำแหน่ง ความมั่งคั่ง และเกียรติยศจอมปลอมของตระกูลพัชรลักษณ์ เขาใช้เวลาพักใหญ่จัดการเรื่องกฎหมายและช่วยถ่ายโอนข้อมูลต่างๆ ให้กับโครงการ ‘ฟอกระบบ’ ของดนุ ก่อนจะตัดสินใจเลือกเส้นทางของตัวเอง... เส้นทางที่ไม่มีใครคาดคิดเขาไม่ได้หันไปเล่นการเมืองเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เหมือนที่เคยคิดไว้ แต่เขาเลือกที่จะกลับมาสู่จุดเริ่มต้นที่เล็กที่สุด... นั่นคือการเป็น ‘ครู’ณภัทรเริ่มต้นงานใหม่ในฐานะอาจารย์พิเศษสอนวิชา

  • Unchosen เงารักกลางลวงใจ    ตอนที่ 86: ผีเสื้อในสวนดอกไม้

    ก่อนที่ประตูแกลเลอรีจะเปิดในเย็นวันนั้น มีนายืนอยู่กลางห้องที่เงียบสงัดเพียงลำพัง แสงไฟสีนวลถูกปรับให้ส่องกระทบผลงานแต่ละชิ้นอย่างลงตัว พื้นไม้ขัดมันสะท้อนเงาของเธออย่างเลือนราง เธอยกข้อมือซ้ายขึ้นมา... นิ้วโป้งลูบไล้ไปบนรอยสักรูปผีเสื้อเบาๆ มันคือเครื่องเตือนใจ... คือแผนที่การเดินทางที่ผ่านมาทั้งหมดของเธอสายลมแรกของฤดูใบไม้ร่วงในกรุงเวียนนาพัดพาความเย็นที่สดชื่นมาพร้อมกับเสียงระฆังจากโบสถ์ที่อยู่ห่างไกลออกไป ประตูแกลเลอรีเปิดออก ผู้คนเริ่มทยอยเข้ามา... ทั้งนักวิจารณ์ศิลปะ, นักศึกษา, จิตแพทย์ที่เธอรู้จักจากคลาสเรียน, และผู้คนทั่วไปที่สนใจในชื่อนิทรรศการที่เรียบง่ายแต่กลับสะดุดใจ“Wounds and Wings” มีนาถอยกลับไปยืนเงียบๆ ที่มุมหนึ่งของห้อง เฝ้ามองผู้คนที่เคลื่อนตัวไปตามผนังสีขาวสะอาดอย่างช้าๆ บรรยากาศในแกลเลอรีเต็มไปด้วยความเงียบที่ให้เกียรติ มีเพียงเสียงฝีเท้าเบาๆ และเสียงกระซิบกระซาบเป็นครั้งคราว เธอเห็นบางคนหยุดยืนนิ่งอยู่หน้าภาพวาดเป็นเวลานาน, บางคนยกมือขึ้นปิดปากด้วยความสะเทือนใจ, บางคนหันไปกอดคนที่มาด้วยเบาๆ... เธอรู้สึกว่าความเจ็บปวดส่วนตัวของเธอ บัดนี้ได้กลายเป็นภาษาสากลที่ทุ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status