Home / แฟนตาซี / Undisclosure / บทสนทนา

Share

บทสนทนา

last update Last Updated: 2025-02-08 11:59:58

30 ปีต่อมา

ปี 3012 เขตซานโบซ่า

“ขอให้เดตวันนี้ราบรื่นนะ อีริน” คุณหมอกล่าวอวยพรนางพยาบาลคนหนึ่งในทีม พวกเขาเพิ่งเปลี่ยนชุดผ่าตัดเป็นชุดเครื่องแบบปกติเสร็จ

“ขอบคุณค่ะคาเลบ ตื่นเต้นจังเลย กลับก่อนนะคะ”

พอเห็นอีรินถลันวิ่งออกไป คนอื่นยิ่งพยายามสะกดกลั้นไม่ให้หัวเราะออกมา

คาเลบหันไปจับมือและกล่าวขอบคุณสมาชิกคนอื่นในทีม ก่อนที่พวกเขาจะกลับไปยังห้องทำงานของแต่ละคน

การผ่าตัดประสบความสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี เมื่อทีมแพทย์สามารถนำช้อนออกมาจากท้องของผู้ป่วยได้ ถึงแม้ว่าตอนนี้ ยังไม่มีใครทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าเหตุใดช้อนเจ้ากรรมจึงไหลผ่านหลอดอาหารลงสู่ท้องของคนไข้ได้ก็ตาม

คาเลบ เดวิส วัยสี่สิบห้าปีเป็นคุณหมอประจำอยู่ที่โรงพยาบาลซานโบซ่า ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็กในเมืองขนาดย่อม เขตซานโบซ่าอยู่ในรัฐอิดริน่า ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของสหพันธรัฐนิวโฮป เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่สงบสุขมาก ผู้คนส่วนใหญ่จึงรู้จักค่าหน้าค่าตากันเป็นอย่างดี อย่างคนไข้ที่คาเลบเพิ่งผ่าตัดเอาช้อนออกมาก็เป็นเจ้าของร้านอาหารที่เปิดขายอยู่ใจกลางตัวเมือง ร้านของเขาตั้งมานานหลายปี บริหารกิจการจากรุ่นสู่รุ่น

เคสผ่าตัดแบบนี้ไม่ค่อยมีมาให้เห็นหรือเกิดขึ้นบ่อยนัก สิ่งที่ทำให้เจ้าหน้าที่หัวหมุนก็คือพวกคนไข้ที่ชอบคิดว่าตัวเองป่วยใกล้ตายมากกว่า ซึ่งในความเป็นจริง คนไข้เหล่านี้ยังห่างไกลจากมือยมทูตมากนัก คาเลบไม่กล้ายอมรับออกมาตรง ๆ ว่าสิ่งที่ทำให้เขากระชุ่มกระชวยก็คือเวลามีเคสผ่าตัดด่วนหรือผ่าตัดใหญ่ แต่มันก็มาพร้อมกับความรู้สึกผิดที่ยินดีต่อความเจ็บป่วยของคนไข้เหล่านี้ด้วย

บนผนังห้องหลังเก้าอี้ประจำตัว คาเลบได้แขวนรูปภาพประดับไว้มากมาย หนึ่งในนั้นเป็นรูปของนายมาคาริโอ เดลกาโด ผู้ว่าการเขตซานโบซ่า จากในรูปจะเห็นว่า ท่านผู้ว่ากำลังตัดริบบิ้นเปิดงานฉลองโรงพยาบาลที่ได้รับการบูรณะ เนื่องจากโรงพยาบาลซานโบซ่าได้รับงบสำหรับซ่อมแซม (ยื่นขอไปราวสามปีได้) รูปนี้มีอายุสองปีแล้ว คาเลบยืนอยู่ข้างหลังผู้ว่าโดยที่ตากำลังมองไปยังสิ่งอื่นที่ไม่อยู่ในรูป (และเขาจำไม่ได้แล้วว่าตัวเองมองอะไร) ผิวสีทองแดงเปล่งประกายอันเนื่องจากแสงแดดที่ตกกระทบกับเหงื่อ คาเลบมีรูปร่างสูงผอมจึงยืนเด่นกว่าคนอื่น พอลูกสาวของเขาเห็นรูปนี้ พวกเธอจะพูดว่า พ่อของพวกเธอหล่อจริง ๆ พร้อมกับหัวเราะคิกคักกันสองคน เขารู้ทันทีว่าพวกเธอกำลังล้อเลียนเขาอยู่ เพราะรูปก็บอกอยู่โต้ง ๆ ว่าคาเลบทำหน้าซึมกะทือขนาดไหน

ถัดจากรูปผู้ว่าการเขต ยังมีมีรูปของประธานาธิบดีจอร์จิน่า ลอว์เลนซ์ หญิงสาวผู้มีผมสีแดงแถมยังตัดสั้นกุด เป็นรูปที่ทุกหน่วยงานรัฐต้องมีติดประดับไว้ทุกที่ ส่วนรูปอื่น ๆ ข้างเคียงคือรูปครอบครัวของเขาเอง

“ลาก่อนยุคสมัยแห่งความหวาดกลัว ประชาชนชาวนิวโฮปทุกท่าน เรามาเฉลิมฉลองให้แก่ความรุ่งโรจน์แห่งอิสรภาพครั้งใหม่ สันติภาพชั่วนิรันดร์ และความยุติธรรมที่แท้จริงกันเถิด”

อิสรภาพครั้งใหม่...งั้นหรือ ช่างเป็นการเลือกคำที่ฉลาดเสียจริง เธอหมายความว่าอย่างไรกันแน่กับคำว่า ‘อิสรภาพครั้งใหม่’ คาเลบนึกสงสัยในคำโฆษณาชวนเชื่อของท่านประธานาธิบดีลอว์เลนซ์เหลือเกิน ข่าวสมัยนี้ต่างแสดงให้เห็นว่าโลกเผชิญกับปัญหารุมเร้ามากมาย แต่ประชาชนกลับถูกชักจูงให้เอาแต่หมกมุ่นแต่ข่าวไร้สาระ ทุกวัน คาเลบจะได้ยินข่าวการก่อการร้ายแถบชายแดน ปล้น ลักขโมย อยู่ในมุมเล็ก ๆ ขณะที่หัวข้อที่สื่อให้ความสำคัญกลับเป็นเรื่องของคนดังออกเดตกับคนนั้นคนนี้ อิสรภาพเป็นเพียงคำสวยหรูที่เอาไว้ลวงคนเท่านั้น ในเมื่อคนเรามีทางเลือกจำกัด

คาเลบชายตามองที่ขอบประตู เห็นเงาคนผ่านช่องว่างตรงนั้น เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อบุคคลดังกล่าวเปิดประตูเข้ามาโดยไม่ขออนุญาต คนคนนี้ชอบทำกิริยาไม่มีมารยาทอยู่ตลอด

แขกที่เข้ามาเป็นหญิงสาวที่ดูดีมากคนหนึ่ง เธอสวมชุดพยาบาลสีขาวสะอาดส่งกลิ่นหอมของน้ำยาปรับผ้านุ่มผสมผสานกับกลิ่นน้ำหอม ผมสีบลอนด์สว่างถูกมัดเป็นมวยต่ำ ดวงตาสีเขียวหยกจับจ้องที่เขาอย่างหมายมั่น เธอเป็นหนึ่งในพยาบาลของที่นี่ และเป็นเพื่อนเก่ามานานแสนนาน..อันที่จริง คำว่าเพื่อนอาจเป็นคำที่คาเลบสงวนไว้เพียงคนเดียว สำหรับเธอ ชื่อเสียงในสังคมโรงพยาบาลไม่ค่อยดีเท่าไรนัก เพราะเธอชอบเล่นหูเล่นตากับเพื่อนร่วมงานเพศชายไปทั่ว ปั่นหัวพวกเขา จากนั้นก็หักอกให้หักดังเป๊าะ คาเลบเป็นหนึ่งในภารกิจที่เธอทำไม่สำเร็จเสียที แม้เธอจะรู้ว่าเขาแต่งงานแล้วก็ตาม เธอไม่เคยสนใจข้อเท็จจริงนี้เลย

นางพยาบาลมองคุณหมอด้วยสายตาที่ค่อนข้างแสดงออกชัดเจน กิริยาที่ทำให้เขาอึดอัด คาเลบจึงมองเธอตอบด้วยสายตาตำหนิแทน เขาไม่ชอบเล่นเกมเด็ก ๆ แบบนี้

“อะไรกัน ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะคะ นี่ฉันเข้ามาเพื่อคุยเรื่องลูกสาวของคุณต่างหาก นี่ไง ในนิตยสารเล่มนี้ ฉันเห็นลูกคุณด้วย อยากรู้ด้วยว่าเรื่องทุนการศึกษาเป็นอย่างไรบ้าง เธอชนะหรือเปล่า” เสียงของเธอบ่งบอกว่าตื่นเต้นเอามากเลยทีเดียว

หญิงสาวเปิดนิตยสาร ‘ฟาม (Femme) ให้เขาดู คาเลบเห็นเด็กสาวหน้าตาสะสวยหลายคนสวมกางเกงยีนยี่ห้อ ‘เล็กซี่’ ซึ่งเป็นยี่ห้อเสื้อผ้ายอดฮิตในหมู่วัยรุ่นช่วงนี้ สายตาของเขาจับอยู่ที่เด็กสาวผมสีน้ำตาลอ่อน ผู้ซึ่งมีเม็ดไพลินสีน้ำเงินส่องประกายอยู่ในดวงตา ด้วยรูปลักษณ์หน้าตาแบบนี้ ก่อนหน้าที่คาเลบและเบียนน่าจะพาเธอเข้ามาเป็นสมาชิกครอบครัว พวกพนักงานในศูนย์รับเลี้ยงเด็กเรียกนางฟ้าตัวน้อยว่า ‘แองเจล่า’ แต่ตอนนี้เธอกลายมาเป็น ‘อเล็กซิส’ ของพวกเขาแล้ว

“เธอสวยจริง ๆ นะคาเลบ สวยขึ้นทุกครั้งที่เจอเลย”

“อืม ลูกสาวผมสวยจริง ๆ นั่นแหละ” คาเลบไม่อาจซ่อนความภาคภูมิใจไว้ข้างในได้ เขาคุ้นชินกับคำชมของคนอื่นที่มักชื่นชมลูกทุกคนอยู่เสมอ

“ยินดีด้วยนะคะ คุณพ่อยอดเยี่ยมประจำปี ไม่สิ ทุกปีเลยต่างหาก ฉันว่านะ” หล่อนขยิบตา

คาเลบส่ายหัวอย่างถ่อมตัว “คุณก็พูดเกินไป เด็ก ๆ เก่งและฉลาดด้วยตัวของเขาเอง พระเจ้าทรงมอบพรอันประเสริฐและล้ำค่าให้กับพวกเขา เบียนน่ากับผมต่างหากที่เหมือนกับถูกรางวัล เป็นโชคดีของพ่อแม่อย่างพวกเรามากกว่า”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Undisclosure    แจ้งข่าว

    “พ่อยังไม่กลับ และฉันกำลังจะไปรับชาร์ลี” เธอว่า จูนเพิ่งสังเกตเห็นว่าหญิงสาวสวมกระเป๋าสะพายเตรียมออกจากบ้าน ไบรซ์ไม่รอคำตอบ เธอปิดล๊อกบ้านแล้วลากจักรยานคันที่อเล็กซิสชอบใช้ออกมา พี่สาวของอดีตเพื่อนสนิทเดินผ่านไปโดยไม่แม้แต่จะมองกลับ เหมือนเจสซี่ ครอบครัวเดวิสเกลียดเธอไบรซ์ขี่จักรยานออกไปอย่างรวดเร็ว จูนมองตามจนหญิงสาวหายไปจากสายตาจึงเดินเข้าไปใกล้ตัวบ้าน มองผ่านหน้าต่างกระจกเห็นห้องรับแขกคุ้นตา ภาพของอเล็กซิสและตัวเองนั่งคุยกันบนโซฟาตัวนั้นคล้ายปรากฏให้เห็นตรงหน้าเหมือนกำลังดูโฮมวิดีโอ เธอคิดถึงวันเวลาที่จูนตัวน้อยสามารถวิ่งเล่นในบ้านหลังนี้ราวกับเป็นบ้านของตัวเอง เธอมีเพื่อน มีคุณลุงคุณป้าที่เอ็นดูเธอ เจสซี่และไบรซ์ที่ยังดีต่อเธอ ตั้งแต่กลับมายังซานโบซ่า เธอเห็นเงาของตัวเองและอเล็กซิสอยู่แทบทุกมุมเธอได้อ่านโน้ตแผ่นนั้นไหม เธอขยำมันทิ้งหรือเปล่า หลายครั้งพยายามคิดหาเหตุผลกับการกระทำของตัวเอง แต่นอกจากความสะใจที่ได้แล้ว เธอไม่ได้ภูมิใจกับมันเลย เธอไม่ได้ชอบเดวี่ด้วยซ้ำ เขามองเธอเหมือนที่ผู้ชายมอง เขาไม่ได้ชอบเธอเหมือนที่ชอบอเล็กซิส เธอไม่ไ

  • Undisclosure    เผชิญหน้า

    เมื่อเธอละสายตาจากชายหนุ่มที่เดินออกไปก็สบตากับน้องชายของเขา นิโคไลมองเธอตาใส จากนั้นเผยอยิ้มนิด ๆ จูนยิ้มตอบแล้วรีบรับประทานให้หมด นิโคไลยังคงนั่งอยู่ แต่ไม่ลุกไปไหน“ขอโทษนะคะ เมื่อคืน...ฉันได้ยินคุณวลาดิเมียร์พูดถึงเรื่องคนที่ทำให้คุณ...เอ่อ ไม่ได้กลับไปเรียน ใช่หรือเปล่าคะ” เธอรู้ว่ามันเป็นคำถามของคนสอดรู้ แต่นั่นแหละ เธออยากรู้จริง ๆ ยิ่งเจสซี่ถูกจับไปแบบนี้ เธอต้องการรู้ทุกเรื่องนิโคไลยังคงยิ้ม “เมื่อคืนก่อนครับ คุณนึกว่าตัวเองหลับไปไม่กี่ชั่วโมงหรือ”จูนเอะใจ “เอ๋?”“คุณหลับทั้งวันเลย รู้สึกสดชื่นบ้างไหมครับ”เธอนึกถึงที่วลาดิเมียร์เล่า มิน่าเจสซี่ถึงถูกพากลับมาแล้ว “ฉันหลับนานขนาดนั้นเลยเหรอคะ”“เหมือนเจ้าหญิงนิทรา...จริง ๆ วลาดให้สาวใช้ขึ้นไปปลุก แต่คุณเขวี้ยงหมอนใส่เธอ”หญิงสาวหน้าร้อนไปหมด แม้น้ำเสียงของชายหนุ่มไม่ได้บ่งบอกว่าตำหนิติเตียน แต่ขบขันมากกว่า “ฉันคงลืมไปไม่ใช่บ้าน...” เจสซี่ชอบแกล้งเวลาเธอนอน ดังนั้นเธอจึงติดนิสัยเขวี้ยงหมอนใส่เ

  • Undisclosure    รับผิดชอบ

    “มันจับเจสซี่เพราะต้องการเตือนพวกเรา”“ผมรู้!” แม้สีหน้าสงบ แต่น้ำเสียงของเขากร้าวขึ้น “เราดึงเขาเข้ามาทำงาน ผมเป็นห่วง ผมแค่ให้คนคอยดูว่าบราวน์เคลื่อนไหวอย่างไร พาเจสซี่ไปไหน หรือจัดการอย่างไร แต่ผมไม่ได้ให้พวกเขาเข้าไปช่วย ผมรู้ว่าผมกำลังทำอะไร” วลาดิเมียร์ย้ำ “มันอาจจะขัดกับความคิดของพ่อ แต่เจสซี่ทำงานให้พวกเราแล้วเขาก็ตั้งใจ เขาเป็นคนของผม!”“เราตกลงแล้ว เจสซี่ยอมรับแล้ว ฉันเตือนเขาแล้วด้วยซ้ำ!” โวลคอฟวัยกลางคนยกมือห้ามไม่ให้บุตรชายพูด “ฟังนะ ฉันไม่ได้อยากจะใจร้ายอะไร แต่เราจะเสียทั้งหมดไปไม่ได้! สั่งให้พวกเขากลับมา ไม่ต้องไปเฝ้าบราวน์”จูนมองสลับไปมา แต่วลาดิเมียร์ยืนนิ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “คนพวกนั้นเป็นคนของผม รับฟังผมคนเดียว”“แก...” ผู้เป็นพ่อกัดฟันกรอด ดูเหมือนท่าที่แข็งขืนของลูกชายทำให้เขาทำตัวไม่ถูก“พ่อ!” นิโคไลโพล่งออกมาดังลั่น เมื่ออีกฝ่ายหันมา เขาก็เหล่มาทางจูน หญิงสาวนั่งไหล่เกร็ง มือกำกระโปรงแน่น“คุณจอยซ์” วลา

  • Undisclosure    domestic violence

    จูนตื่นจากภวังค์ เธอคิดว่าจะใช้เวลานานกว่านี้ อาจเป็นเพราะยังดึกมาก ถนนโล่ง มีเพียงคันนี้คันเดียว รถแท็กซี่จอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ออกแบบแนวร่วมสมัย เนื่องจากรู้สึกผิดที่สงสัยว่าคนขับเป็นคนของรัฐบาล เธอจึงให้ทิปไปห้าเรล เขายิ้มหน้าบาน แถมยังอุ้มประคบประหงมกระเป๋าเดินทางของเธอราวกับลูก แต่กระนั้นเมื่อรถจากไป มันก็ถูกทิ้งให้เปียกปอนท่ามกลางสายฝน รวมทั้งผู้โดยสารคนนี้ฝนยังคงตกลงมา แต่เธอไม่สนใจ จูนมองหาสวิตช์สำหรับกดกริ่งแต่หาไม่เจอ จึงเอาแต่ชะเง้อมองผ่านประตูใหญ่ มองลอดไปเห็นตัวบ้าน บางห้องยังเปิดไฟอยู่ มันไม่มืดนักเพราะมีแสงไฟจากสวนและหน้าประตู สักพักมีเสียงออกมาจากอินเตอร์โฟน“มาหาใครครับ”“ฉันมาหาคุณวลาดิเมียร์ โวลคอฟ”“เรื่องด่วนหรือครับ จากไหนครับ เวลาแบบนี้ด้วย”“ฉันจูน จอยซ์ แฟนของเจสซี่ เดวิส เลขาของคุณวลาดิเมียร์ ใช่ค่ะ ฉันมีเรื่องด่วนมาก”ประตูเปิดออกอัตโนมัติ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งพาเธอไปนั่งรอในที่ร่ม มันเป็นห้องสี่เหลี่ยมที่มีเพียงโต๊ะกับเก้าอี้โล่ง ๆ เหมือนเป็นห้

  • Undisclosure    One-sided love

    ตีสามครึ่งว่ากันว่าเป็นเวลาของซาตาน ตอนเด็ก จูนหวาดกลัวช่วงนี้มาก แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดเธอมักตื่นนอนแล้วพบเข็มนาฬิกาชี้เลขนี้เสมอ มันมาพร้อมกับอาการปวดห้องน้ำถึงขีดสุด แต่ไม่กล้าพอเดินออกจากห้อง ไม่กล้าแม้แต่ยื่นเท้าออกจากผ้าห่ม เด็กน้อยจูนมุดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มจนหลับไปอีก และตื่นมาพร้อมกับที่นอนเปียกชื้นตีสามครึ่งในอีกสิบกว่าปีต่อมา จูนยืนอยู่หน้าสถานีรถไฟ มันไม่น่ากลัวอีกต่อไปเมื่อมีคนพลุกพล่าน แม้จะดึกแค่ไหน แต่ฟิวเจอร์ริสติกไม่เคยหลับใหล ทว่าทุกย่างก้าวกลับทำให้หวนนึกถึงกลางดึกในวัยเด็ก ครั้งนี้จูนกล้าเดินออกจากผ้าห่มพร้อมกับกระเป๋าสัมภาระ แต่ตลอดเวลากลับรู้สึกว่ามีสายตาจับจ้อง ปีศาจที่มีดวงตาสีฟ้า ไรลี่ย์ บราวน์มือขวาสั่นตลอด เธอจึงเปลี่ยนมือซ้ายลากกระเป๋า มีเด็กสาวสองคนแบกเป้เดินผ่าน เธอได้ยินทั้งสองคนซุบซิบกัน“นั่นจูน จอยซ์หรือเปล่า”“ใครอะ ไม่เห็นรู้จัก”“ดาราเด็กน่ะ”หญิงสาวรีบเดินไปหน้าสถานีรอแท็กซี่ ต่อคิวได้ไม่นานก็เรียกได้คันหนึ่ง พอปิดประตูรถฝนตกลงมาพอดี ผู้คนแถวนั้นแตกฮือรีบหนีเข้าที่ร่

  • Undisclosure    อัลบิโน

    ไมเคิลยืนกอดอกพักขาไว้ข้างหนึ่ง คอเอียงไปทางขวาเวลาใช้หมกมุ่นอยู่กับความคิดในหัว พอเธอเดินออกมา เขาเงยหน้าขึ้นทันที“เธอเห็นเขาเหมือนฉันใช่ไหม”อเล็กซิสพยักหน้าทันที“เขามีตาสีแดง” น้องชายกอดอกแน่น “ฉันไม่เคยเห็นคนตาสีแดง แล้วเขา...เขายืนดูเฉย ๆ ฉันถามก็พูดไม่ออก แต่ได้ยินเสียงเขาในหัว...เวลานั้นจะขยับตัวไม่ได้จนกว่า...”“...จนกว่าจะมีคนช่วยดึงสติ”ทั้งสองพยักหน้าให้กัน อเล็กซิสจึงเฉลยเรื่องผิวของผู้ชายคนนั้น “ฉันคิดเว่าเขาเป็นคนผิวเผือก แล้วก็มีพลังจิตเอาไว้สื่อสารคน”“โทรจิตเหรอ แล้วผิวเผือกคืออะไร”ผู้เป็นพี่พยักหน้าก่อนจะอธิบายเรื่องผิวของชายคนนั้นก่อน “...แต่ฉันไม่เข้าใจ ทำไมมีแค่ฉันกับนายที่เห็น แล้วเขาเป็นใคร เขาไม่ทำร้ายพวกเรา แถมยังช่วยเหลือด้วย ถึงแม้จะแค่เสียงเตือนก็เถอะ”ทั้งสองไม่คิดว่าคนคนนั้นเป็นผีหรือวิญญาณ เธอเห็นเงา และสัมผัสได้ว่าเขามีตัวตน แต่ความสามารถของเขาคืออะไรกันแน่ และต้องการอะไรเย็นวันนั้น หลังจา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status