หน้าหลัก / แฟนตาซี / Undisclosure / ภารกิจกระชับมิตร

แชร์

ภารกิจกระชับมิตร

ผู้เขียน: Jes/JinMingZin/Quendaya
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-23 11:06:28

“ที่นี่มีไว้ทำอะไรกันแน่”

ทีวีจอแบนบนโต๊ะแสดงรายละเอียดข้อมูลสุขภาพ ทั้งน้ำหนัก ส่วนสูง วันเกิด กรุ๊ปเลือด ระดับคอเลสเตอรอล ความดันโลหิต และอื่น ๆ เจ้าหน้าที่สาวสวมชุดเครื่องแบบสีขาวคล้ายนางพยาบาล (ขาวอีกละ!) คาดผ้าปิดปากสีเขียว เธอเอ่ยชมเบนด้วยน้ำเสียงสูงปรี๊ดว่าสุขภาพของเขาดีอย่างน่าเหลือเชื่อ

“คุณครับ ที่นี่คือที่ไหนกันแน่ เอาไว้ทำอะไร”

เธอดึงแขนข้างที่สวมนาฬิกาแล้วอธิบายวิธีการใช้งาน อุปกรณ์ตัวนี้สามารถบันทึกข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขาได้หมด โดยหากกดปุ่มแสดงรายละเอียดจะขึ้นเป็นจอโฮโลแกรม มันยังแสดงเวลาล่าสุดที่เขาสูบบุหรี่ครั้งสุดท้าย ใช่แล้ว ครั้งสุดท้าย เพราะห้องนั้นติดตั้งเครื่องดักจับควันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อเล็กซ์อกหักยับเยิน

“สรุปที่นี่เอาไว้ทำไรวะ บอกมาสักทีสิเว้ยเฮ้ย”

“คนต่อไป! อเล็กซานเดอร์ โวลคอฟ”

เก้าอี้เลื่อนไปข้างหน้าโดยอัตโนมัติ จากนั้นตัวเบาะกระเด้งขึ้นผลักเขาออกจากที่นั่งโดยปริยาย เบนกระเด็นล้มลงออกมานอกห้อง คำถามที่เขาถามไปเมื่อครู่ นอกจากจะไม่ได้รับคำตอบแล้ว ตัวเองยังนอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้น

เบนลูบก้นตัวเอง เขายืนรออเล็กซ์ไม่นาน ร่างสูงเดินออกมาต่างจากเขาที่ถูกผลักไล่ เพื่อนของเขายิ้มกว้าง “สุขภาพของคุณดีจนน่าทึ่งจริง ๆ ค่ะ ทั้งที่ต้นกัญชาแทบขึ้นในปอดคุณแล้ว ให้ตายเถอะ” เขาทำเสียงสูงล้อเลียนเสียงโซปราโนของเจ้าหน้าที่สาวคนนั้น ทั้งสองหัวเราะดังลั่น

“ฉันถามเธอเกี่ยวกับที่นี่ แต่เธอเมินซะนี่” เบนเล่า เขาเดินเตะอากาศไปมา มือทั้งสองข้างเก็บเข้ากระเป๋ากางเกง

“เออ ได้ยิน”

อเล็กซ์กลับมาเป็นตัวของตัวเองได้อย่างน่าทึ่ง หน้าตาสดใส เนื้อตัวสะอาดสะอ้าน ไม่ใช่ไอ้ขี้ยาที่เอาแต่เก็บตัวเพ้อฝันอยู่ในห้องนั้น เขาไม่แน่ใจว่าควรขอบคุณเครื่องตรวจจับควันหรือไม่ อย่างน้อย เบนได้เพื่อนสนิทคืนมา แค่นี้เขาควรจะพอใจแล้วล่ะมั้ง เมื่อเบนถามอเล็กซ์ว่าทำไมถึงเปลี่ยนใจ เขาเผยเพียงแค่ว่า “เจอเพื่อนใหม่เมื่อไม่กี่วันก่อนน่ะ” เบนอยากรู้จะตายว่าคนคนนั้นคือใคร เพราะอเล็กซ์บอกเพียงแค่นี้ ไม่ยอมอธิบายต่อ และเมื่อเพื่อนมีความลับ เขาไม่อาจข่มตานอนหลับได้เพราะความสงสัยผุดขึ้นมาซ้ำ ๆ อยู่ในหัว

“พวกเราจะทำอะไรต่อดี” เขาถามเพื่อน

“นายไม่ไล่ล่าผู้หญิงแล้วเหรอ”

คนที่ถูกแซวกลอกตา “คนส่วนใหญ่ยังอยู่ตรวจสุขภาพกันอยู่เลย จะให้ฉันไปหาที่ไหนล่ะ แล้วฉันก็ไม่ได้บ้าผู้หญิงขนาดนั้นด้วย เออ แล้วไอ้เพื่อนใหม่นี่ใคร” เขาแย้มถามทุกครั้งที่นึกออก เผื่ออเล็กซ์จะเผลอหลุดมาสักคำ

“เฮ้ พวกนาย รอก่อน” ซาร่าห์มาพอดี เธอขัดจังหวะได้ถูกเวลาเสียจริง

สาวผมบลอนด์โบกมือร่าเริง เธอเปลี่ยนไปเหมือนกัน จากดอกไม้ที่ใกล้เหี่ยวเฉา บัดนี้กลายเป็นดอกกุหลาบที่กลับมาเบ่งบาน ไม่นานมานี้ เธอเพิ่งตัดสินใจคบหากับเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ไม่หรอก พวกเขาไม่ใช่แฟนกัน หญิงสาวไม่ได้คิดจะสร้างสายสัมพันธ์รักโรแมนติกจริงจังอะไรแบบนั้น เด็กหนุ่มคนนั้นชื่อ เวด มิลเลอร์ ซาร่าห์เล่าว่ามันเป็นการเล่นสวมบทบาทฆ่าเวลา หากจะมีเกมใดที่น่าสนุกสำหรับมนุษย์ถ้ำที่ยังคงความเป็นอารยชนก็คงเป็นเกมนี้ เธอทำตัวเหมือนย้อนเวลากลับไปในสมัยยังเรียนในโรงเรียน ผูกมิตรกับเพื่อนของเขา แล้วไปอยู่กลุ่มนั้น แม้เกมสวมบทบาทจะเป็นแค่บทบาทสมมติ อย่างไรก็ตาม เขาไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ซาร่าห์มีความสุขมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา และแม้เธอยืนกรานว่ามันไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่จริงจัง แต่เธอไม่มาหาเบนอีกเลย ซาร่าห์รักษาสัญญากับอเล็กซ์ว่าจะทิ้งระยะห่างกับเบน และเธอก็ทำตามนั้น แน่นอน เขาย่อมหงุดหงิด

“ว่าไงครับคุณผู้หญิง” เขาทักเธอกลับ

“ไปเล่นบาสเกตบอลด้วยกันเถอะ เบน หยุดก่อน (หล่อนยกมือห้าม) ฟังก่อน ฉันจะแนะนำพวกนายให้รู้จักกับเพื่อนใหม่ของฉัน พวกเขาน่ารักและตลกมาก เชื่อฉันเถอะ พวกเราจะมีเพื่อนมากขึ้น ไม่ใช่เกาะกันเองเหมือนไม่มีใครคบแบบนี้”

เราไม่คบใครต่างหาก “ไม่อยากจะเชื่อเลย แม่สาวซาร่าห์หันไปคบกับพวกเด็ก ๆ ซะแล้ว สรุปแล้ว เธอกับเด็กคนนั้นคบกันจริงจังแล้วใช่ไหม”

หญิงสาวมองตาเขียวปั๊ด “แน่นอนว่าใช่ แน่นอนว่าไม่ใช่ อยากได้คำตอบแบบไหนล่ะ แล้วแต่นายคิดก็แล้วกัน ฉันไม่สนหรอกว่าจะนายจะมองยังไง หรือเห็นเป็นเรื่องไร้สาระขนาดไหน แต่รู้ไว้เถอะ พวกเราต้องเข้าสังคมและผูกมิตรกับคนอื่นได้แล้ว ฉันพยายามเหมือนกัน เห็นไหม ไม่แย่เลย แถมตอนนี้ยังมีเพื่อนสาวไว้คุยเม้าท์มอยเรื่องของผู้หญิง พวกเราจะอยู่กันแบบนี้ไปตลอดไม่ได้หรอกนะ”

เบนไม่แปลกใจ “ฉันเห็นเธอหอบหิ้วกระเป๋าเครื่องสำอางออกจากห้อง เล่นแต่งตัวกับเพื่อนผู้หญิงของเธอเหรอ ทำตัวเป็นเด็กเล็กไปได้ อายุเท่าไรกันแล้ว”

“เรื่องของเธอน่า” อเล็กซ์ขัดพลางตบบ่าของเขาให้เพลาปากลง มืออีกข้างปิดปากตัวเองที่กำลังหาวหวอดๆ นึกว่าพอออกจากห้องนั้นนายจะนอนเต็มอิ่มมากขึ้นแล้วนะ “อีกอย่าง ฉันเห็นด้วยกับซาร่าห์ นายอยากให้ฉันออกจากห้องนั้น ก็นี่ไง ออกมาแล้ว อย่างที่ซาร่าห์ว่า พวกเราต้องมีเพื่อน จะอยู่ปลีกวิเวกไม่ได้หรอก ที่นี่นะ นามสกุลไม่ได้ดึงดูดเพื่อนให้เข้ามาเองเหมือนเมื่อก่อน”

ซาร่าห์ดีดนิ้ว “อเล็กซ์คนเดิมกลับมาแล้วสินะ ใช่ รู้ไหม ฉันสามารถคุยกับเพื่อนพวกผู้หญิงเรื่องเสื้อผ้า แฟชั่น พวกเธอชอบกรุสมบัติของฉันมากเลยด้วย นั่งแต่งหน้า สร้างเทรนด์ใหม่ ๆ ฉันมีกิจกรรมงอกเงยให้ทำเยอะแยะ พวกนายก็ทำได้เหมือนกัน การมีเพื่อนมันไม่ได้ยากขนาดนั้นหรอก”

“เดี๋ยวนะ สร้างเทรนด์ใหม่งั้นเหรอ”

สาวบลอนด์ม้วนผมคลอเคลียใบหน้าตัวเอง “ถ้าเราต้องอยู่ที่นี่ตลอดไป อย่างน้อย ฉันควรจะเป็นคนที่สร้างอิทธิพลให้กับคนในนี้มากกว่าเป็นผู้ตามไม่ใช่เหรอ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน สังคมแบบไหน ถ้ามีอำนาจในมือก็ล้วนดีทั้งนั้นแหละ” เธอประกบมือทั้งสองข้างไว้ด้วยกัน “อ้อ ฉันรู้แล้วว่าจะชวนนายยังไง ในกลุ่มของฉันมีเด็กสาวสวยตั้งสองคน น่ารักแล้วก็นิสัยดี ฉันรู้ว่านายชอบอะไรแบบนี้”

“ซาร่าห์ ถ้าเพื่อนของเธอทั้งน่ารักและนิสัยดี ฉันว่าเธอไม่ควรแนะนำเพื่อนให้หมอนี่รู้จักนะ” อเล็กซ์ท้วง ส่ายหัวไปมา

หล่อนเอามือทาบอก “จริงสิ...ฉันผิดเอง ลืมที่ฉันพูดเมื่อกี้ก็แล้วกันนะเบน”

“นี่นายเป็นเพื่อนฉันหรือเปล่า” เบนติง อเล็กซ์ได้แต่ยิ้ม ทำมึน

เบนทำหน้าเหม็นเบื่อใส่คนทั้งสอง พวกเขาคงยังไม่ทราบว่าเพื่อนตัวเองรู้จักสาวน้อยทั้งสองในกลุ่มนั้นแล้ว สองคนนั้นจะเป็นใครไม่ได้นอกจาก แม่แบมบี้กับจอมสร้างเรื่องเทสซ่า

“นายอยากเข้ากลุ่มแบบนั้นเหรอ”

อเล็กซ์ผงกศีรษะหงึก ๆ “อื้อ ฉันไม่รู้จะทำอะไรเป็นพิเศษอยู่แล้ว บางที พวกเราคงต้องปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตบ้างแล้วล่ะ”

ซาร่าห์ฉีกยิ้ม “ถูกต้อง เป็นการตัดสินใจที่ถูกที่สุดแล้ว แต่ว่าพวกเราต้องรอให้คนอื่นตรวจสุขภาพเสร็จก่อน ถ้างั้น อีกสักชั่วโมงค่อยเจอกันนะ พวกนายมาที่สนามบาสเลย อย่าลืม” เธอว่า ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป แต่ท่าทางกรีดกรายราวกับกำลังเริงระบำ

อเล็กซ์และเบนสบตาแล้วยิ้มให้กันตามประสาผู้ชาย ทั้งสองต่างรู้สึกเหมือนกันว่าเธอร่าเริงขึ้นมาก และความมีชีวิตชีวานี้เองทำให้บรรยากาศรอบข้างพลอยสดชื่นไปด้วย ซาร่าห์เป็นผู้หญิงที่สวยน่ามองมากเป็นทุนเดิม พอเห็นกิริยาท่าทางแบบนี้ สองหนุ่มเลยกระปรี้กระเปร่าไปตามกัน ดอกไม้ที่กำลังเบ่งบานล้วนแต่งแต้มบรรยากาศได้ดีเสมอ

เพื่อนรักทั้งสองฆ่าเวลาด้วยการไปดูหนังโรแมนติกงี่เง่า แต่พอเริ่มเรื่องไปไม่ถึงสิบนาที เบนผล็อยหลับ จนอเล็กซ์ต้องปลุกด้วยการเขย่าตัว

“อะไรวะ”

“นัดไง” เพื่อนชี้นิ้วไปที่นาฬิกา

“ทำไมกระตือรือร้นจังวะ” หนุ่มดวงตาสีอำพันถอนหายใจแล้วลุกตาม

“อ้าว ภารกิจของพวกเราไง สร้างมิตร”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • Undisclosure    ทักษะพัฒนา

    กลุ่มกบฏบางกลุ่มต้องการทำลายนิวโฮป จึงไม่ใช่ทุกกลุ่มที่ยินดีอ้าแขนต้อนรับพวกเขา และข้อสำคัญคือ พวกเขาจะติดต่อคนเหล่านี้ได้อย่างไร จะรู้ได้อย่างไรว่ากลุ่มไหนตอบโจทย์ที่พวกเขาต้องการไม่มีใครตอบได้ แม้แต่บลูก็จนแต้ม เขาเพียงแค่อยากอยู่ที่นี่ ใกล้กับหลุมศพน้องชาย“ไมเคิล ฉันว่าไม่ปกตินะ” จอห์นปลุกสติของเขาอีกครั้งสายฟ้าของอเล็กซ์ฟาดซัดต้นไม้แถบนั้นเป็นจุณทีเดียวนับสิบต้น ขณะเดียวกันกระแสไฟฟ้าแล่นเป็นวงรอบตัวเขา อาคุสะเริ่มตื่นตัว ออร่าสีเขียวและเหลืองแผ่ออกไป“อเล็กซิส ถอยออกไป!” เป็นอเล็กซ์ที่ตะโกนเตือนแฟนสาว “ฉันคุมมันไม่ได้!”“แย่ละ” ไมเคิลกับจอห์นวิ่งเข้าไปอเล็กซิสควบคุมมวลน้ำเพื่อดับไฟ แต่กระแสไฟฟ้าของคนรักยังแล่นออกมาเรื่อย ๆ จนเธอเริ่มหาที่หลบไม่ได้ เขาหาทางจะเข้าไปช่วยฝาแฝด ตอนนี้แทบมองไม่เห็นอเล็กซ์เพราะมีแต่กระแสไฟฟ้าพัวพันรอบตัวเทสซ่าหวีดร้องขึ้นมา เธอกับอาคุสะจับมือกันแน่น พื้นดินบริเวณนั้นสั่นสะเทือน เขาสบตากับจอห์น ใช่ แผ่นดินไหว แต่...ฝีมือธรรมชาติหรือสัญชาตญ

  • Undisclosure    ตัดสินใจไม่ได้

    ทุกคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ที่แท้นาฮีมานาไม่ได้คิดจะให้พวกเขากลับนิวโฮปแต่แรก ไมเคิลหันไปมองพวกเพื่อน ๆ เทสซ่านั้นคิ้วขมวดจนเป็นปม เธอนั่งกอดอกหลังตรงแล้วเม้มปากแน่น หากแต่ไหล่สั่น ขณะที่คนอื่นถกเถียงกัน อเล็กซิสก็นั่งเท้าคางใช้ความคิด ไมเคิลสัมผัสความรู้สึกร่วมของคนในนี้ได้อย่างหนึ่ง นั่นคือความเศร้าเมื่อรู้ว่าจะไม่ได้กลับบ้าน หรืออาจจะไม่มีวันได้กลับ“ถ้าหาก...ถ้าหากเราทำให้เมเคอร์เข้าใจได้ว่าพวกเราไม่เป็นภัย พวกเราเป็นชาวนิวโฮป อยากปกป้องบ้านเหมือนกัน ถ้าเราทำให้เขาเห็นจุดยืนของพวกเราว่าไม่ได้เป็นภัยต่อไลบราเรีย ต่อโลก...” ไมเคิลเลิกคิ้ว เพราะเทสซ่าพูดเหมือนอเล็กซิสเปี๊ยบ“ฉันคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยเทสซ่า เมเคอร์ไม่มีวันให้กองกำลังกับพวกเธอแน่”“ฉันไม่ได้หมายถึงกองกำลัง ฉันหมายถึงตัวพวกเราเอง ถ้าเขามองว่าพวกเราเป็นภัย ทำไมไม่มองว่าพวกเราเป็นอาวุธให้พวกเขาได้”“เทสซ่าพูดถูก” เซนว่า “ทหารสามคนนั้นก็เป็นกลุ่มเสี่ยง”“ลูเซียนบอกว่าเพราะพวกเขาเป็นชาวไลบราเรียนอยู่ก่อนแล้ว ทั้งยังถ

  • Undisclosure    มองหาบ้านใหม่

    มีเพียงสิ่งลมเขย่ากิ่งไม้ไปมา แสงสีแดงริบหรี่จนแทบเลือนหายไป ความมืดย่างกรายแทนที่ แต่ดวงตาสีน้ำเงินของอเล็กซิสกลับสว่างไสว ช่างเหมือนกับดวงตาคู่นั้นที่คอยจ้องเขายามค่ำคืน ไมเคิลในวัยเด็กมีอาการตื่นตระหนกบ่อยครั้ง และลูก้าเป็นคนปลอบเขา ถึงแม้เขาไม่เคยล่วงรู้เรื่องแฝดอีกคน แต่เพราะดวงตาของเธอเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาอยากอยู่ใกล้เธอ ในยามนี้เขาอ่านความคิดเธอออก ผ่านแววตาและสีหน้า ทั้งคู่ไม่คิดว่าลูเซียนโกหก อย่างไรก็ตามยังคิดว่าอีกฝ่ายบอกไม่หมด ความปรารถนาดีมีบางอย่างเคลือบแฝง ผลงานของลูเซียนคือเครื่องมือที่ฆ่าโนเอลและเบน เขาไม่มีวันให้อภัย เพียงแต่ว่า พวกเขาจะต้องชั่งใจให้ได้ว่าการเชื่อฟังลูเซียนจะเป็นประโยชน์มากกว่าเพิกเฉยหรือไม่เขารู้ว่าอเล็กซิสเสียใจ เธอบอกน้องชายคนนี้เสมอว่านิวโฮปจะเป็นบ้านใหม่ของพวกเขา“อเล็กซิส ไมเคิล” หญิงสาวผมสีดำเรียกสติฝาแฝดทั้งสอง “กลับกันเถอะ มืดแล้ว”“เดี๋ยว...” เขาชะลอเธอรอฟัง แต่เป็นพี่สาวของเขาที่พูด“ถ้าคุณอยากให้พวกเราคล้อยตามลูเซียน คุณต้องบอกมาให้หมดว่าคุณกับเขารู้จักกัน

  • Undisclosure    คำเตือนของลูเซียน

    ดวงตาสีแดงกลอกไปมาราวกับดูแคลนคำพูดของพวกเขา “ผมหวังดี ที่พวกเขากลับไปไม่ใช่เพราะถอย แต่จะกลับมาอีกครั้งพร้อมกับกองทหารและอาวุธมากมาย เมเคอร์ไม่ปล่อยพวกคุณแน่นอน เขาไม่อยากยืดเยื้อ และคราวนี้ได้คงใช้วิธีดึงอาร์คาเดียมาช่วย ทั้งนิวโฮปก็เจอปัญหา ดังนั้นถ้ากำจัดพวกคุณได้เร็วเท่าไร ฝ่ายทหารจะโฟกัสกลับนิวโฮปได้ดีขึ้น”“เกิดอะไรกับนิวโฮป” อเล็กซิสซักทันที “เมเคอร์...เจ้าชายเมเคอร์ใช่ไหม ที่คุณว่า”ลูเซียนพยักหน้า “ใช่ ตำแหน่งเขาสูงกว่าผม ถ้าคุณสังเกตคำนำหน้า ผมเป็นลอร์ด เขาถือตำแหน่งเจ้าชาย เมเคอร์ต้องการทำลายกลุ่มเสี่ยง เขาเห็นว่าพวกคุณเป็นภัย” ชายอัลบิโนขยับตัว มีภาพยานสงครามฝูงหนึ่งปรากฏขึ้น เขาชี้ไปที่รูปพวกนี้ “นี่คือสิ่งที่พวกคุณจะเจอ ในดิสก์แผ่นนี้ ผมมอบโลเคชันให้พวกคุณหนีไปหลบภัย รับรองว่าไม่มีใครเข้าไปยุ่งกับที่นี่ได้ เมื่อสถานการณ์ในนิวโฮปดีขึ้น ผมจะหาทางทำให้เมเคอร์เปลี่ยนใจ”“คุณมีพลังจิตไม่ใช่หรือ คุณควบคุมจิตใจเขาได้...” อเล็กซิสว่า“ถ้าผมทำได้ผมทำไปนานแล้ว” แต่สาย

  • Undisclosure    นัดหมาย

    แดดสนธยาส่องผ่านร่มไม้จนเกิดลำแสงสีทองเป็นริ้ว คนสามคนเดินย่ำเท้าไปตามใบไม้แห้ง ลมเย็นโชยสลับผสานกับลมร้อนในตอนกลางวัน เวลากำลังผลัดเปลี่ยนเข้าสู่ช่วงกลางคืน“คุณแน่ใจใช่ไหมว่าไม่ใช่กับดัก” อเล็กซิสถามยายแม่มด (และพักนี้ไมเคิลมักใช้คำนี้บ่อย เพราะไอ้นิสัยชอบรู้เรื่องมากมายแต่ไม่ยอมเล่าให้หมดของนาฮีมานาทำให้เขารำคาญ) “เราจับโดรนสอดแนมมาได้สามวัน แล้ววันนี้เขาก็เรียกแค่พวกเราแค่สามคน ทำไมต้องเป็นคุณ ทำไมต้องเป็นพวกเรา”“เขาไม่ชอบคนเยอะ อาจเป็นเพราะพวกเธอเห็นหน้าเขาแล้วมั้ง แต่ฉันเชื่อว่ามันเป็นจุดประสงค์ดี”เธอมั่นใจอะไรในตัวคนคนนี้กัน คนที่สามารถแฝงตัวอยู่ในกลุ่มเมื่อไรก็ได้เพียงแค่ควบคุมสมองไม่ให้มองเห็น สามารถปรับเปลี่ยนความคิดใครก็ได้ แล้วจะเชื่อใจนาฮีมานาได้อย่างไร ไมเคิลสงสัยนัก“ผมไม่คิดอย่างนั้นนะ” เขาโพล่ง “ลูเซียนเป็นหัวหน้าทีมวิจัย คุณรู้หรือเปล่าว่าพวกเราผ่านอะไรมาบ้างกับงานของทีมวิจัย เราต้องเสียอะไรบ้างกับงานของเขา”“ฉันรู้ดี” นาฮีมานาตอบโดยไม่หันมามอง เ

  • Undisclosure    ผิดพลาด

    เช้าวันต่อมา บอร์ญ่ายังคงเป็นคนมาเสิร์ฟอาหาร และบราวน์ไม่เข้ามาอีกเลย เขานั่งนับวันตั้งแต่โดนจับจึงนึกได้ว่านี่คือวันศุกร์ เจ้าของบ้านคงออกไปทำงาน ดังนั้นทั้งวัน เขาเอาแต่ทบทวนสิ่งที่ชายคนนั้นบอก“ตัวตนที่ยังหลงเหลือ” เจสซี่ไม่มีความรู้เรื่องสมองของมนุษย์ คงจะดีกว่านี้ถ้าเขาโทรหาไบรซ์หรือคาเลบได้ ความทรงจำของมนุษย์ถูกลบได้หรือเปล่า สมองของมนุษย์ทำงานอย่างไร“ไลบราเรียน...เอไลโต” เขาท่อง “ฟุตบอล ออสโล่”เมื่อถึงมื้ออาหารเย็น แคดมันเดินเข้ามา อาหารเย็นวันนี้มีเพียงแซนด์วิชกับน้ำเปล่า และช็อกโกแลตบาร์สองแท่ง เมื่ออีกฝ่ายวางถาด เขาเอื้อมไปจับข้อมือ“เวด”แคดมันสะบัดออกจนน้ำหกกระจาย ดวงตาที่มีสีฮาเซลอ่อนกว่าจ้องกลับมา แววตาคู่นี้ขึงขังดุดันและพร้อมจะเอาเรื่องได้ตลอดเวลา“นายจำอเล็กซิสได้ไหม”“หุบปาก”“ออสโล่ เด็กหนุ่มผมสีแดงใบหน้าตกกระ เกิดอะไรขึ้นกับเขา”“หุบปาก!”“ซานโบซ่า!”มือข้างขว

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status