Compartir

สัญญา

last update Última actualización: 2025-02-12 15:17:11

วันต่อมา ครอบครัวของวัยรุ่นทั้งสี่ได้รับคำสั่งอนุญาตให้เข้าเยี่ยม เอโลดี้มาพร้อมกับครอบครัวอเล็กซิสและเอาแต่ร้องไห้อย่างเดียว เพื่อนซี้ของเธอเอาแต่โทษตัวเองที่เป็นสาเหตุให้

อเล็กซิสถูกจับและถูกกล่าวหาว่าเป็นกลุ่มต้องสงสัย อเล็กซิสต้องใช้เวลาอยู่พอสมควรเพื่อปลอบไม่ให้เอโลดี้รู้สึกผิด ทั้งที่เธอควรจะเป็นฝ่ายได้รับการปลอบโยนมากกว่า พ่อของเธอพูดกับเอโลดี้ว่า ถึงแม้อเล็กซิสไม่อยู่ในงานปาร์ตี้ ลูกสาวของเขาก็จะโดนจับอยู่ดี เพราะคำสารภาพของแมรี่ สตีเว่น (หรือพูดให้ถูกคือ ถูกบังคับให้สารภาพ) ทำให้พวกตำรวจไปตามจับเด็กที่ถูกแก้ประวัติเพิ่ม

“หนังสือพิมพ์ลงข่าวว่า นักเรียนหัวกะทิแห่งซานโบซ่าข้องเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่รู้ว่าเขียนข่าวมั่วซั่วแบบนั้นได้ยังไง” เจสซี่บ่น

“พวกนักข่าวก็คงถูกบังคับให้เขียนรายงาน ไม่ได้ตั้งใจหรอกลูก” พ่ออธิบาย เขาเข้าใจสถานการณ์มากกว่าลูกชาย

“อย่างน้อยก็ไม่มีชื่อพวกเราในนั้นใช่ไหม”

“ไม่มี ถ้ามีพี่จะฟ้อง”

“พี่พูดเหมือนคุณมิลเลอร์เลย!”

อเล็กซิสสังเกตเห็นว่าแม่และไบรซ์ไม่ค่อยพูดค่อยจา แม่กับไบรซ์ไม่ใช่คนที่จัดการกับความรู้สึกได้เก่งเท่าไร ทั้งสองนั่งเงียบ มองอเล็กซิสกับเจสซี่คุยกัน อีกมุมก็มีเสียงร้องไห้ของเอโลดี้ดังคลออยู่ตลอด แม้แต่พ่อกับเจสซี่ยังดูอ่อนล้ามากราวกับไม่ได้นอนมาหลายวัน พวกเขาคงพยายามทุกวิถีทางแล้วเพื่อจะช่วยเธอออกไปจากที่นี่ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ตัวเจสซี่เองเหมือนขาดความมั่นใจไปเลยเมื่อเทียบกับเมื่อสองวันก่อน อย่างว่า ไม่มีใครคาดคิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นกับเธอ ในเมื่อ จู่ ๆ อเล็กซิสกลายเป็นผู้กระทำผิดทางกฎหมายและเป็นภัยต่อประเทศชาติเสียอย่างนั้น

“ทุกคนทำหน้าซังกะตายอย่างกับพวกซอมบี้เลยนะ” เธอพยายามจะมีอารมณ์ขัน แต่เท่าที่เคยเล่นมุกมา มุกนี้ฝืดที่สุด

“พี่ต้องจากพวกเราไปเหรอครับ” เจ้าชาร์ลีถาม เด็กชายเป็นคนเดียวที่ไม่มีท่าทางหดหู่เหมือนคนอื่น อาจเป็นเพราะชาร์ลียังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจว่าพี่สาวของเขาไม่มีวันกลับไปหาเขาอีกแล้ว ไม่มีวันสอนเขาวาดรูป พาเขาไปรับประทานไอศกรีมและพิซซ่า และเล่นกับเขาอีก ไม่มีวันนั้นอีกแล้ว

“พี่เขาจะต้องกลับมา” ไบรซ์พูด พี่สาวโถมตัวเข้ากอดจนเธอหายใจแทบไม่ออก “ใช่ไหม เธอจะกลับบ้านกับพวกเราใช่ไหม”

สองสาวนอนห้องเดียวกันมาตั้งสิบห้าปี ทั้งไบรซ์และอเล็กซิสเป็นทั้งพี่น้องและเพื่อนสนิท จนวันหนึ่ง เหลือเพียงคนเดียวที่ต้องนอนอย่างเดียวดาย มันเป็นความรู้สึกที่แย่เกินกว่าจะจินตนาการความโดดเดี่ยวนี้ได้

“พี่...หายใจไม่ออกแล้ว” อเล็กซิสขอร้องเบา ๆ ความพยายามที่จะสกัดกั้นเจ้าก้อนน้ำตาเหมือนพยายามจะกั้นกระแสน้ำหลาก เจ้าชาร์ลีก็อีกคน เขาจ้องมองเธอเขม็ง เพราะอเล็กซิสยังไม่ตอบสักที

“พี่จะพยายามนะ เจ้าลิง” พี่สาวตอบ เด็กชายจึงพอใจ

“คุณรู้เรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า” แม่ของเธอถามขึ้นหลังจากที่นั่งเงียบมานาน แต่เธอถามพ่อ ไม่ใช่อเล็กซิส “คุณรู้ว่าแมรี่ป้อนข้อมูลเท็จใช่ไหม”

คาเลบพยักหน้า รู้สึกผิด

“แล้วคุณก็ปล่อยให้เธอทำแบบนั้นเหรอ”

“ไม่มีใครผิดหรอกค่ะ” เด็กสาวแทรกซึ่งทันก่อนที่แม่จะพูดอะไรต่อ เธอไม่อยากให้พ่อกับแม่ทะเลาะกันต่อหน้าทุกคน แถมยังในเวลาแบบนี้อีก พวกเขาไม่เคยทะเลาะกันเลยสักครั้งตั้งแต่เธอเข้ามาเป็นลูกสาวบ้านเดวิส ความเศร้ากลืนกินความรู้สึกดีไปจนหมด ถึงกระนั้น อเล็กซิสไม่อยากให้เกิดบรรยากาศลุกเป็นไฟจากการทะเลาะเบาะแว้งภายในครอบครัว เพราะเวลาที่จะอยู่ด้วยกันมันน้อยลงทุกวินาที และทุกวินาทีมีค่าสำหรับเธอ

“พวกตำรวจบอกว่าจะประกาศวันเดินทางภายในพรุ่งนี้ อเล็กซ์ พี่ขอโทษนะ พี่ช่วยเธอไม่ได้เลย พี่มันไม่ได้เรื่อง ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง”

“บอกแล้วไงว่าไม่มีใครผิด” อเล็กซิสย้ำ จากนั้นจึงดึงแขนของไบรซ์ออกจากคอได้สำเร็จ มิเช่นนั้นเธอคงขาดอากาศตาย

เบียนน่าวกกลับมาถามเจสซี่อีกรอบว่าเขาจะหาทนายฝีมือดีได้หรือไม่ และพวกเขาต้องนั่งฟังเจสซี่อธิบายไปเรื่อย ๆ (รอบที่เท่าไร เธอจำไม่ได้) สำหรับกฎหมายรัฐบัญญัติปี 2966 ผู้กระทำผิดและถูกตัดสินว่าเป็นกลุ่มต้องสงสัยว่าจะเป็นกลุ่มเสี่ยงจะไม่สามารถหาทนายมาช่วยแก้ต่างให้หลุดพ้นจากข้อกล่าวหาได้ กฎหมายเล่มนี้ยังไม่อนุญาตให้อุทธรณ์อีกด้วย ดังนั้นคำตัดสินถือว่าเป็นอันสิ้นสุดแล้ว ตลอดสองชั่วโมง พวกเขานั่งถกเถียงเรื่องข้อกฎหมาย ความเป็นไปได้ที่อเล็กซิสจะถูกปล่อยตัว และระบบรัฐ ช่วงนาทีสุดท้าย เบียนน่าไม่อาจควบคุมอารมณ์ให้นิ่งได้ เธอร้องไห้ตัดพ้อเจสซี่ ขอร้องให้เขาหาวิธีช่วยอเล็กซิส เจสซี่จำเป็นต้องพาแม่ออกไปก่อนที่พวกตำรวจจะพาเธอออกไปเองด้วยวิธีการป่าเถื่อน

อเล็กซิสมองไปยังนาฬิกาที่ติดอยู่ในห้อง หมดเวลาเข้าเยี่ยมแล้ว เด็กสาวส่งยิ้มให้พ่อ พยายามจะทำตัวเข้มแข็งในสายตาเขา

“พรุ่งนี้พวกเราจะมาเยี่ยมลูกอีก ดูแลตัวเองนะสาวน้อย” พ่อบอกแล้วจูบหน้าผากลูกสาว ไบรซ์กับเอโลดี้ทำแบบเดียวกัน ส่วนเจ้าชาร์ลียืนรอไม่ยอมไป “พี่สัญญาว่าต้องกลับมานะ ผมอยากวาดรูปช้างเป็น พี่วาดเก่งที่สุดแล้ว เจสซี่พยายามจะสอนเหมือนกัน แต่ฝีมือของเขาโคตรห่วยเลย”

“ชาร์ลี ไปเรียนคำพูดแบบนี้มาจากใครเนี่ย” อเล็กซิสร้องแล้วอุ้มเขามานั่งบนตัก

“ผมได้ยินเจสซี่ชอบพูดว่า ระบบห่วย ๆ มีแต่คนระยำบริหาร”

อเล็กซิสหลับตา สั่นหัวช้า ๆ ควรมีใครสักคนสอนพี่ชายให้รู้จักใช้คำพูดเวลามีเด็กอยู่ด้วย “มันหยาบคายรู้ไหม พี่ไม่สัญญากับเราหรอกนะเจ้าลิงน้อย แต่พี่จะพยายาม ตกลงไหม”

อเล็กซิสไม่ได้ให้สัญญากับชาร์ลี เพราะเธอรู้ดีว่าเธอจะผิดสัญญาแน่นอน เพียงหอมแก้มกลมของเจ้าน้องชาย พ่อเคยสอนว่า อย่าให้สัญญากับใครถ้ารู้ว่าตัวเองทำไม่ได้ อเล็กซิสทำตามคำพ่อสอนเสมอ

เจ้าชาร์ลีกระโดดลงจากตักและหันมาโบกมือพร้อมกับรอยยิ้มสดใสก่อนออกไปหาครอบครัวที่รออยู่ข้างนอก เพราะกุญแจล็อกข้อมือเธอให้อยู่กับโต๊ะหรอก อเล็กซิสเลยได้แต่มองพวกเขาเดินออกไป แต่ในใจนั้นอยากตามไปด้วยจะแย่

วันนั้น กลุ่มเพื่อนและคุณครูที่โรงเรียนมาเยี่ยมพวกเด็กที่ถูกจับเช่นกัน อเล็กซิสเริ่มเห็นใจเบลินดาอยู่บ้างที่ถูกบอยคอต เพราะทุกคนขอเข้าพบแค่กับเด็กสามคนเท่านั้น มีเพียงเพื่อนไม่กี่คนที่มาเยี่ยมเบลินดา พวกเพื่อน ๆ ในโรงเรียนยกโขยงกันมายกทีม อย่างเช่น ทีมเชียร์ลีดเดอร์ ชมรมฟุตบอล ชมรมบาสเกตบอล ชมรมดาราศาสตร์ และคนอื่น ๆ เดวี่มาพร้อมกับชมรมฟุตบอล ส่วนจูนหรือ เธอหายตัวไปจากเมืองแล้วมั้ง แม้แต่แม่ของจูนที่ค่อนข้างสนิทสนมกับครอบครัว

อเล็กซิสยังไม่แม้แต่ติดต่อมาเพื่อแสดงความเห็นอกเห็นใจสักนิด

ถ้าเธอมาหาฉัน ฉันจะลืมทุกอย่าง ให้อภัยทุกอย่าง อเล็กซิสคิดถึงเพื่อนสนิทคนนี้ ถึงแม้ความขัดแย้งของทั้งคู่ได้ทำลายมิตรภาพที่ยาวนานจนยากจะซ่อมกลับมาเหมือนเดิม แถมบาดแผลที่จูนทำยังคงเจ็บเบา ๆ แต่เพราะอเล็กซิสรู้ว่าชาตินี้คงไม่มีวันได้เจอกันอีกแล้ว จึงอยากลาจากกันแบบดี ๆ มากกว่า อีกเหตุผลหนึ่ง ในเมื่อจูนเป็นคนหยิบมีดแทงหลังอเล็กซิส เธออยากให้เพื่อนเป็นคนดึงมันออก แล้วทั้งสองจะได้เริ่มต้นกันใหม่ เหมือนเริ่มต้นจากศูนย์ อันที่จริง ลึก ๆ แล้ว อเล็กซิสเพียงแค่อยากให้จูนขอโทษแค่นั้นเอง นี่คือสิ่งที่เธอต้องการมากที่สุด

อเล็กซิสถูกพาตัวออกจากห้องเยี่ยมก่อนคนอื่น เธอยืนรออีกสามคนที่กำลังเดินมาสมทบ นายตำรวจบรูซยืนอยู่ข้าง ๆ ตบบ่าเธอเบา ๆ เหมือนต้องการปลอบใจ

“เดี๋ยวพรุ่งนี้หนูก็ได้เจอพวกเขาใหม่ อย่าเศร้าไปเลย”

เธอพยักหน้า รู้สึกดีที่อย่างน้อยก็ยังมีคนใจดีหลงเหลืออยู่บ้าง “หนูขอถามเพียงแค่คำถามเดียวได้ไหมคะ”

“ถามมาเลยแม่หนู”

เด็กสาวยิ้มโล่งอกที่นายตำรวจคนนี้ไม่ได้เย็นชาเหมือนอีกสองคนที่เธอเจอบ่อยครั้ง

“พวกเราจะต้องทำอะไรบ้างเมื่อเข้าโปรแกรมบำบัด คุณพอทราบไหมคะ”

บรูซถอนหายใจ “ฉันตอบคำถามนี้ไม่ได้หรอกนะสาวน้อย เพราะว่าฉันไม่รู้จริง ๆ ขอโทษนะ”

“ไง” เวดทักเมื่อเดินมาถึง

“กลับได้แล้ว” นายตำรวจนำทาง พวกเขาเดินผ่านกลุ่มแอนโธนี่ที่กำลังจะเดินไปยังห้องสอบสวน

“โชคดีนะพวกนาย!” เวดตะโกนบอก พวกนั้นจึงหันมามองเขาทั้งกลุ่มเพราะไม่เข้าใจความหมายของเวด

“เดินต่อไป!” ตำรวจสาวผมทองเร่งแล้วชี้นิ้วมาที่เวด เตือนเขาไม่ให้พูดอะไรอีก

อเล็กซิสมองดูเด็กกลุ่มนั้นหายเข้าไปในห้องที่ว่า

“นายมันร้ายจริง ๆ” เธอศอกใส่เพื่อน

“ก็แค่เตือนเอง” เวดอ้าง

“หยุด หยุดเดี๋ยวนี้”

อเล็กซิสหันกลับไปยังห้องนั้น ดูเหมือนจะเกิดเรื่องอลหม่านขึ้นด้านใน มีเสียงกรีดร้องดังลอดออกมา เธอได้ยินเสียงพวกตำรวจตะโกนบอกใครสักคนให้หยุดทำการบางอย่าง ส่วนพวกเด็ก ๆ ที่เหลือต่างร้องโวยวาย พวกอเล็กซิสยืนมองอย่างอกสั่นขวัญหาย

“กลับ ๆ กลับเข้าห้องขังเดี๋ยวนี้” บรูซออกคำสั่ง แต่เด็กทุกคนยังคนยืนทื่อ ไม่ให้ความร่วมมือ มือของเขาหยิบวิทยุสื่อสารออกจากเอว

“เราต้องการกำลังเสริม มาที่ห้องสอบสวน ย้ำคำสั่ง เราต้องการกำลังเสริม มาที่ห้องสอบสวน!”

Continúa leyendo este libro gratis
Escanea el código para descargar la App

Último capítulo

  • Undisclosure    หยุดยั้ง

    “แต่คุณบอกว่ามันจะใช้คุณเป็นตัวประกัน” ไมเคิลเถียง“ใช่ ตัวฉัน เพียงแค่ร่างกายที่ยังมีลมหายใจ”อเล็กซิสเข่าอ่อนจนทรุดตัวลง ก้มหน้าซ่อนสะอื้นลงกับตักหญิงสาว นาฮีมานาอาจไม่ใช่แม่ของกลุ่มเสี่ยง แต่เปรียบเหมือนกับผู้ใหญ่หรือไม่ก็พี่สาวที่พวกเขารู้สึกสบายใจเวลาเห็นเธอ เปรียบดั่งต้นไม้ที่ให้ร่มเงาทางจิตใจ“แต่ว่า...ก่อนจะออกไป ฉันมีเรื่องจะขอร้อง”เมื่อนั้นเธอจึงเงยหน้าขึ้น นาฮีมานาจับมืออเล็กซิสกับไมเคิล“เผาทุกอย่างในนี้”ทั้งสองพยักหน้า“ถ้าเห็นอะไร ทำใจไว้นะ แต่ฉันคิดว่าอย่าปล่อยไปเลย พวกเขายังไม่รับรู้อะไรหรอก”ทว่าประโยคหลังนั้น ทั้งสองไม่เข้าใจ นาฮีมานาคะยั้นคะยอให้พวกเขาออกไปจากที่นี่อีกครั้ง มืออีกข้างหยิบปืนที่พวกนั้นทิ้งไว้ เธอพยักหน้าให้ทั้งสองเห็นว่าไม่เป็นไร“พวกเธอไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว ไปเถิด”“เหลืออีกห้านาที”นาฮีมานาไม่ต้องการให้พวกเขามอง หรือรับรู้ ทั้งสองจึงเดินออกไปหน้าลิฟต์ ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นจึงได้ยิน

  • Undisclosure    จุดจบของผู้อยู่มานาน

    “พาตัวเธอมา” เธอหันไปสั่งเพื่อนร่วมงานหรือลูกน้อง อเล็กซิสไม่มีวันรู้ไม่ถึงหนึ่งนาทีได้ คนของอาร์คาเดียจึงประคองนาฮีมานาออกมา เธออยู่ในสภาพอิดโรย ผมสีดำยุ่งเหยิง แก้มที่ตอบอยู่แล้วลึกลงไปราวกับผิวหนังปกคลุมเพียงโครงกระดูก เธอออกจากกลุ่มไปก่อน อเล็กซิสไม่รู้เลยว่าหญิงสาวโดนจับไปเมื่อไร“ได้โปรด เราพาเธอมาแล้ว”“เหลืออีกสิบนาที” พวกเขามองหน้ากันอย่างตื่นตระหนกเพราะกลัวหนีไม่ทัน“ทำไม ที่นี่จะระเบิดหรือ”พวกเขาส่ายหน้า ทั้งสองไม่เชื่อ แต่เมื่อเห็นนาฮีมานาพยักหน้าให้มั่นใจว่าเป็นเรื่องจริง อเล็กซิสจึงหันไปพยักหน้ากับไมเคิล เขาจึงบอกให้คนที่เหลือออกไป ทั้งหมดทิ้งอาวุธแล้วรีบวิ่งหนี บางคนแย่งกันออกไปจนมีเสียงโวยวายล้มลุกคลุกคลาน ส่วนพวกเขารีบไปประคองนาฮีมานาที่ถูกทิ้งลงกับพื้น“มานา...”หญิงสาวสบตากับทั้งสองแล้วยกมือจับแก้มคนทั้งคู่ เพียงสัมผัสอเล็กซิสกลับรู้สึกสบายตัว อากาศปวดตามตัวและที่หน่วงอยู่ในท้องก็อันตรธานหายไปทันใด เมื่อเธอมองไมเคิลจึงเห็นว่าบาดแผลบนใบหน้

  • Undisclosure    ไม่มีการต่อรอง

    “เหลืออีกยี่สิบนาที”สิ่งที่อเล็กซิสเกลียดที่สุดคือการไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน และเกิดอะไรขึ้น แม้เข้าใจจุดประสงค์ของผู้ลักพาตัว แต่ไม่สามารถรู้ได้ว่าตัวการเป็นใคร ทั้งสองยืนมองนักวิทยาศาสตร์วิ่งหนีออกจากตึกจากบานหน้ากระจกขนาดใหญ่บนชั้นลอยเปิดสู่โถงด้านล่าง ประตูทางออกนั้นไม่ได้เปิดออกไปแล้วเห็นด้านนอก แต่ไปยังลิฟต์ที่เคลื่อนตัวขึ้นไปด้านบน โถงด้านล่างกินพื้นที่ถึงห้าชั้น มันกว้างใหญ่ พวกเขาวิ่งหนีขึ้นลิฟต์ บ้างแย่งกัน แต่เพราะจำนวนมีจำกัดจึงไม่อาจขนส่งคนออกไปได้ทันทีแต่ก็ทำให้เธอรู้ว่าทั้งหมดอยู่ใต้ดินขณะนั้นไมเคิลปรายตามองทีมรักษาความปลอดภัยที่อยู่ด้านล่าง พวกเขาไม่ได้สวมชุดทหารสีเทาแต่เป็นสีน้ำตาล ในมือถือปืนเลเซอร์ขนาดใหญ่เล็งมาแต่ยังไม่ได้ยิง หรือพูดไม่ถูกคือไม่กล้ายิงเพราะกลัวผลโต้ตอบที่รุนแรงกว่า อีกกลุ่มคอยอพยพและจัดระเบียบ พวกเขามองขึ้นมาอย่างหวาดผวา ส่วนเธอกับไมเคิลมองลงไปด้วยสายตาว่างเปล่า“ปล่อยไปเถอะ เราต้องการเพียงมานา”อเล็กซิสไม่ได้ใจดี เธอแค่ไม่อยากเสียเวลาไมเคิลพยักหน้าแต่สายตายังจับจ้อง

  • Undisclosure    ทำลาย

    แม้สายตาจะคอยชำเลืองมองแฝดที่ยืนจังก้าอยู่ด้านหน้าประตูรอให้พวกมันเข้ามา อเล็กซิสใช้เวลานี้เรียกข้อมูลขึ้นมาเรื่อย ๆ นอกจากจะเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของพวกเขาแล้ว พวกมันต้องการเซลล์ไข่ของเธอและสเปิร์มของแฝดเพื่อผสมเทียม สมมติฐานของคนพวกนี้นั่นคือ เธอและไมเคิลเป็นกลุ่มเสี่ยงคู่เดียวที่สามารถให้กำเนิดทายาทที่มีลักษณะพิเศษได้ เหมือนอย่างที่ลูก้าและเจมม่าเคยให้กำเนิดคนทั้งสอง เนื่องจากกลุ่มเสี่ยงคนอื่นล้วนมีภาวะมีบุตรยากหรืออาจจะถึงขนาดไร้ประสิทธิภาพที่จะมีทายาทเลยก็ว่าได้เพื่ออะไร ผลิต...ผลิตกองทัพผู้มีพลังพิเศษด้วยตัวเองหรือปัญหาคือ เธออยากรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง เอไลโตทั้งหมด หรือบางคน? ที่แน่ ๆ พวกมันใช้คาเรลที่สมควรถูกประหารชีวิตไปแล้วปลอมตัวเป็นไมเคิลมากหลอกเธอเสียงฝีเท้ามากมายมาเป็นโขยงโดยที่แฝดชายยืนรออยู่ อเล็กซิสถอยห่างจากโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน“อยู่เฉย ๆ” คนข้างนอกตะโกนเข้ามา “อย่าขยับไม่อย่างนั้นพวกเราจำเป็นต้องยิง!”ชายหนุ่มผมเงินหัวเราะดูแคลนคนข้างนอก พริบตาเดียวเปลวเพลิงลุกโถมเข้าใส่ประตูด้านหน้า ทีมรักษาความป

  • Undisclosure    ละเลงเลือด

    ความเงียบกลับมาปกคลุมอีกครั้งพร้อมกับสภาพเครื่องมือล้มระเนระนาด รวมทั้งจานที่บรรจุเซลล์ไข่แตกละเอียด เพียงเธอมอง ของเหลวในนั้นแห้งเหือดตรงมุมขวาของห้องมีกล้องวงจรปิดอยู่ อเล็กซิสยกมือขึ้นทำท่าบิด มันแตกแล้วตกลงมา เพียงเท่านั้นเธอรีบลุกออกจากเตียงเพื่อไปหาไมเคิล แต่เพียงขยับก็เจ็บหน่วงที่ท้อง สุดท้ายกลั้นใจหยิบผ้าคลุมมาพันตัวแล้วเดินไปหาน้องชาย มันไม่ได้เจ็บมากนัก แต่แปลบ ๆ หน่วง ๆ เหมือนเวลาที่เธอเคยมีประจำเดือน“ไมเคิล” เธอจับแก้มที่มีแผลไหม้แล้วสงสารจับใจ ใบหน้าของเขาคือของขวัญล้ำค่าที่ไม่ว่าใครก็อยากจะถนอมดูแล แล้วดูตอนนี้สิ อเล็กซิสดึงเครื่องรัดออกแล้วสวมกอดคนที่นอนอยู่แน่นเพื่อให้เขาฟื้นตัว “ไมเคิล ตื่นสิ ไมเคิล”ชายหนุ่มส่งเสียงครางอือ ๆ เบา ๆ เธอถอนตัวขึ้นมาเพื่อรอให้เขาฟื้น เขาเริ่มขยับริมฝีปาก “รอ...”“ไม่ต้องรอ” เธอบอกพลางกุมมือเขาแน่น น้ำตาเอ่อขึ้นมาเมื่อมองแฝดชายราวกับเห็นร่างของซีโน่ที่กำลังจะตาย “ตื่นขึ้นมา ฉันจะปกป้องนายเอง”เขากะพริบตาก่อนจะลืมตามอง ดวงตาสีฟ้าเข้มสบกับของเ

  • Undisclosure    แหกคุก

    มีกี่เรื่องที่ทำให้คนเราฝันร้าย แต่เมื่อตื่นเหมือนกับโผล่ขึ้นผิวน้ำปีศาจในความทรงจำล้วนมีมากหน้าหลายตา และกลุ่มแรกมีชื่อว่าคาเมรอนกับบรูซ ยังดีที่โชคยังเข้าข้าง ต่างกับตอนนี้ที่ตกอยู่ในเงื้อมมือปีศาจใต้หน้ากาก หมดสิ้นอิสรภาพโดยสิ้นเชิงสติไปไหน เหตุใดจึงรู้สึกล่องลอย บางครั้งตื่นตัว บางครั้งไม่รู้สึกมันมากันเป็นกลุ่ม จับร่างของอเล็กซิสขึงเพื่อเอาบางสิ่งจากกาย หากขัดขืนดิ้นรนก็จะได้รับความเจ็บปวดสาหัสจนไม่อาจขยับได้ไปหลายนาที คงเป็นเพราะกายหยาบนี้ทนทานต่อยาสลบจึงตื่นเร็วเกินไป แต่ต่อให้ทนได้เพียงใดก็ไม่ได้แปลว่าไม่เจ็บปวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมรุกล้ำเข้ามาเสียงกรีดร้องอ้อนวอนขอให้พวกมันหยุดไม่เป็นผล แม้เมื่อมันได้สิ่งที่ต้องการก็ยังไม่ปล่อยอเล็กซิสกับไมเคิลไป พวกมันเอาขาหยั่งออกแล้วปล่อยให้ขาเธอนอนเหยียดยาวโดยมีเครื่องล็อกตรึงไว้ไม่ให้ขยับ“พวกแกต้องชดใช้” เสียงที่ตะโกนออกไปกลั่นออกมาจากความแค้นที่อยู่ลึกสุด แต่กลับฟังดูอ่อนแอเกินกว่าจะขู่ให้ผู้ใดกลัว ตรงกันข้ามกลับเรียกเสียงหัวเราะขำขันแทนเธอหันไปมอง

Más capítulos
Explora y lee buenas novelas gratis
Acceso gratuito a una gran cantidad de buenas novelas en la app GoodNovel. Descarga los libros que te gusten y léelos donde y cuando quieras.
Lee libros gratis en la app
ESCANEA EL CÓDIGO PARA LEER EN LA APP
DMCA.com Protection Status