Home / แฟนตาซี / Undisclosure / แขกที่ไม่ได้รับเชิญ

Share

แขกที่ไม่ได้รับเชิญ

last update Last Updated: 2025-02-12 13:32:21

“โอ๊ะ ขอโทษนะ” เสียงแหบ ๆ นั้นปลุกเธอให้ตื่นจากความทรงจำเก่า ๆ เด็กหนุ่มผมแดงสวมเสื้อยืดเรียบ ๆ กับกางเกงยีนเก่า ๆ พยายามทรงตัว เขาถือเบียร์สองแก้ว “มันมืด...คือ”

“ไม่เป็นไร ๆ ไม่เจ็บหรอก” เธอบอก ปัดน้ำตาออกจากแก้ม

เขามองหน้าอเล็กซิสที่มีคราบน้ำตา แววตาบ่งบอกว่าเห็นใจ

“ไม่เป็นไร ไม่ใช่เพราะนายชนหรอก อย่าคิดมาก” เธอบอก กะจะเดินออกจากสถานที่หลบภัยชั่วคราวแห่งนี้

“เธอไม่เป็นอะไรแน่นะ” เขาถามโดยไม่ยอมสบตา มันเป็นบุคลิกของเขาเอง ออสโล่ค่อนข้างขี้อาย

“ไม่เลย ทำไมนายมาคนเดียว คริสติน่าอยู่ไหนล่ะ” เธอถาม ออสโล่เป็นเพื่อนร่วมชั้นในวิชาเลข และเป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมชิงทุนเหมือนกัน

“ก็...ฉันมากับคริสติน่านั่นแหละ แต่คนที่เธอแอบชอบมาคุยกับเธอ ฉันก็เลย....” พวกเขายิ้มให้กันอย่างเข้าใจ เขาจึงไม่ต้องอธิบายต่อ ออสโล่เป็นเด็กหนุ่มรูปร่างสันทัด เขามีดวงตาสีน้ำตาลอ่อนและใบหน้าตกกระ

“ฉันได้ยินมาว่าเธอสอบติดที่เดลฟี ยินดีด้วยนะ” เขาว่า

เพื่อนคนนี้เป็นคนเดียวที่ไม่สนใจเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับเดวี่และจูน ไม่แม้แต่จะเอ่ยถึงมัน

“ขอบใจ แล้วนายล่ะ”

“ติดวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมที่อีสท์แลนด์”

“เจ๋งนะนั่นนะ” เธอมองไปรอบ ๆ เพื่อนแต่ละคนต่างไล่ตามความฝัน ส่วนเธอหมกมุ่นอยู่กับปัญหาในใจตัวเอง หน้าของเดวี่ปรากฏขึ้นมาในหัวอีกครั้งพอพวกเขาคุยกันเรื่องเรียนต่อ อเล็กซิสจำได้ว่าเดวี่เคยอยากเรียนต่อทางด้านวิทยาศาสตร์หรือไม่ก็ธุรกิจ แต่เพราะถูกชวนให้ไปเล่นเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพกับสโมสรแห่งหนึ่งเสียก่อน เดวี่ดีใจมากและตัดสินใจเลือกสายนี้แทน อเล็กซิสยังจำภาพตัวเองกับจูนคอยเชียร์เขาตรงอัฒจันทร์ได้เป็นอย่างดี หลังจากจบการแข่งขันและโรงเรียนได้ถ้วยรางวัล เธอวิ่งลงสนามไปหาเขา แล้วพวกเขาก็จูบกันเพื่อฉลองให้กับชัยชนะเหมือนกับในหนัง

ยัยบ้า เลิกคิดถึงสองคนนั้นสักทีสิ!

เสียงดนตรีเงียบลงแต่เสียงคนยังดังอยู่ คงมีใครสักคนเล่นเกมท้าทายบางอย่างอยู่ข้างนอกแน่ ๆ

“พรุ่งนี้ ฉันคิดว่าคงเห็นชื่อเธอแน่ ๆ” ออสโล่เดา อเล็กซิสสั่นหัวอย่างถ่อมตัว แม้ลึก ๆ ยินดีกับคำพูดนั้นและดีใจที่เขาชวนคุยเรื่องนี้ต่อ หลังจากที่คุยกับเจสซี่เรื่องทุน ความมั่นใจในตัวดิ่งลงไปจนสุด แต่พอฟังออสโล่พูดแบบนี้ ความมั่นใจเลยกลับเพิ่มขึ้นมาอีก “ตอนที่สัมภาษณ์ฉันทำได้แย่มากเลย พวกเขาไม่สนใจฉันเลย” ออสโล่เล่า

“เหรอ แต่ก็ไม่แน่หรอกนะ” เธอพยายามไม่พูดเรื่องตัวเองเพื่อให้เขารู้สึกแย่ เพราะตอนสัมภาษณ์ พวกกรรมการดูชอบเธอมาก บางที เธออาจจะยังมีโอกาส บางทีเจสซี่คิดผิด เธออาจจะได้ทุนก็ได้

“เออนี่ ฉันมาคนเดียวเหมือนกัน พวกเราเข้าไปในงานพร้อมกันไหม จะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอก” เธอชวนเพราะไม่อยากนั่งกับทีม เพราะพวกเธอจะต้องยกเรื่องเดวี่กับจูนมาพูดอีกแน่ ๆ อเล็กซิสตัดสินใจเลือกคุยแต่กับออสโล่ดีกว่า เพราะว่าเขาไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเหมือนกับคนอื่น และไม่ทำให้เธออึดอัด อเล็กซิสรู้ว่าเพื่อนทุกคนหวังดีกันทั้งนั้น แต่เธอแค่ไม่อยากได้ยินอะไรเกี่ยวกับสองคนนั้นอีกแล้ว

“ดีสิ เอ้อ เอาเบียร์ไหม” เขายื่นแก้วเบียร์แก้วหนึ่งให้เธอ

“นายดื่มทีละสองแก้วตลอดเลยเหรอ”

“บ้าน่า ของคริสติน่า จนฉันเห็นเธอคุยกับ...”

“อ้อ เข้าใจแล้ว” อเล็กซิสรับไว้

พวกเขาเดินกลับไปยังสระว่ายน้ำ ทุกคนกำลังส่งเสียงเชียร์ปีเตอร์ เลย์ตัน ที่กำลังเดินบนน้ำอยู่ เวดนั่งอยู่บนเก้าอี้ไลฟ์การ์ดกำลังอัดวิดีโอ เห็นชัด ๆ ว่ามีแผ่นกระจกอยู่ใต้น้ำ

“เหมือนเขากำลังเดินอยู่บนน้ำจริง ๆ นะ” ใครสักคนว่า

“ใช่ไหมล่ะ พรุ่งนี้ทุกคนต้องฮือฮาแน่” เวดคาดการณ์ เขาดื่มจนหน้าแดงก่ำไปทั้งหน้า

เห็นแผ่นกระจกชัดออกจะตาย พวกนายเมาหนักแล้วนะ

อเล็กซิสกับออสโล่ไม่ค่อยสนใจมายากลงี่เง่าเท่าไร

เธอมองขึ้นไปบนท้องฟ้าสีดำ วินาทีนั้น อเล็กซิสตระหนักดีแล้วว่าเธอไม่มีอารมณ์ที่จะร่วมงานปาร์ตี้ต่อไปจริง ๆ ในหัวของเธอมีแต่เรื่องเดวี่กับจูน เธอไม่ควรอยู่ในงานนี้ ทั้งที่ตัวเองยังไม่พร้อมจะทำอย่างอื่น มันเป็นเรื่องยากที่จะทำตัวเหมือนปกติ เธอต้องการเวลาในการสงบจิตใจ

“ขอโทษนะออสโล่ แต่ฉันคิดว่าฉันกลับดีกว่า” เธอบอกเพื่อน

“ได้ ให้ฉันไปส่งบ้านนะ” ดวงตาของเขาบ่งบอกว่าเข้าใจเป็นอย่างดี ซึ่งหมายความว่าไม่มีใครพลาดข่าวเรื่องของเธอจริง ๆ

“นายใจดีมากเลยนะ แต่ไม่เป็นไรหรอก ฉันเอาจักรยานมา ขอบคุณนะออสโล่ บายก่อนละกัน ตื่นเต้นจังเลย พรุ่งนี้จะประกาศผลแล้วนี่นา ภาวนาให้พวกเราได้นะ”

 “อเล็กซ์ เธอดูไม่ตื่นเต้นเลย ฉันกำลังจะไปเหมือนกัน ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวกลับเป็นเพื่อน คริสติน่าไม่ต้องการฉันแล้วล่ะ” เขาพยักพเยิดไปทางเพื่อนสาว อเล็กซิสจึงเห็นว่าเธอกำลังหัวเราะร่วนอยู่กับคนที่แอบปิ๊ง เพียงแวบหนึ่งที่เธอจับสีหน้าของออสโล่ได้ทัน เขาค่อนข้างเจ็บปวดที่เห็นสองคนนั้นอยู่ด้วยกัน ดวงตาสีน้ำตาลของเขาบ่งบอกว่าตัวเองคิดกับคริสติน่าเกินกว่าเพื่อน

ปัญหาเดียวกัน ปัญหาความรัก

ทั้งสองกำลังจะเดินออกจากงาน ทันใดนั้น  เสียงไซเรนดังราวกับฟ้าผ่าทำลายความสนุกในงานปาร์ตี้ทันที ทุกคนหยุดทำกิจกรรมทุกอย่าง เวดเรียกคนรับใช้ทุกคนให้เอาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาเสพติดออกไป ออสโล่กับอเล็กซิสรีบวิ่งไปที่ประตูแต่สายไปเสียแล้ว พวกตำรวจล้อมคฤหาสน์ของเวดไว้หมดแล้ว ปฏิบัติการรวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบ

 “แย่แน่ ๆ แม่เอาฉันตายแน่” ออสโล่รำพัน อเล็กซิสได้ยินเสียงเวดด่าใครก็ไม่รู้ที่บังอาจแจ้งตำรวจ

“ชะตากรรมพวกเราไม่ต่างกัน ให้ตายเถอะ ฉันต้องฟังพ่อกับพี่ชายบ่นทั้งวันแน่”

อเล็กซิสคิดว่าเธอกลับบ้านดึกแน่ ๆ และพ่อกับเจสซี่คงต้องมารับเธอที่สถานีตำรวจ เพราะพวกเขาต้องตรวจหาสารเสพติดก่อน เด็กสาวหามือถือของพ่อ แต่พบว่าตัวเองดันลืมเอามา

เจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศผ่านโทรโข่งเสียงดังว่า “ขณะนี้พวกเธออยู่ภายใต้การจับกุม พวกเราจะพาพวกเธอไปที่สถานีตำรวจ อย่าขัดขืน”

อเล็กซิสเห็นเวดรีบรุดเข้าไปหาพวกเขา แม้หน้าจะยังแดง แต่สติยังคงดีอยู่ “ขอโทษนะครับ ให้ผมอธิบายหน่อยเถอะ พวกเราอยู่ในสายตาผู้ใหญ่ตลอด เดี๋ยวคุยกับพ่อผมนะครับ”

เป็นครั้งแรกที่เธอมีโอกาสเห็นพ่อของเวดตัวจริง คุณมิลเลอร์เหมือนกับลูกชายราวกับแกะ แค่เป็นเวดที่ดูมีอายุมากขึ้น ผมสีบลอนด์ ตัวสูง และหล่อเหลา เขาวิ่งตรงไปยังนายตำรวจทั้งที่อยู่ในชุดนอน พยายามจะเจรจาแทนลูกชาย

“ไม่มีข้อโต้แย้งครับผม เด็กทุกคนต้องไปกับพวกเรา งานเลี้ยงเลิกราแล้ว เรามีหมายจับพิเศษ” เจ้าหน้าที่ในชุดเครื่องแบบสีน้ำเงินกรมท่าทำหน้าตาย ประกาศว่าพวกเขามีสิทธิคุมตัววัยรุ่นทั้งหมดในที่นี้ “หมายจับภายใต้อำนาจกฎหมายรัฐบัญญัติ 2966 ครับ”

“อะไรนะ!” นายมิลเลอร์อึ้งจนพูดไม่ออก

ทุกคนยกมือขึ้นปิดปาก ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงถูกกฎหมายชิ้นนี้เล่นงานเข้า อย่างน้อยอาจเป็นเพื่อนบ้านรำคาญเสียงดังแล้วแจ้งตำรวจไม่ใช่หรือ

“หูฉันมีปัญหาหรือเปล่า ฉันได้ยินว่าพวกเขาพูดถึงรัฐบัญญัติ 2966” ออสโล่ถามย้ำ

อเล็กซิสพยักหน้า “หูของนายปกติดี”

แม้จะเป็นวันหนึ่งในฤดูร้อน แต่ลมในยามค่ำคืนนั้นเย็น อเล็กซิสถอนหายใจ นี่มันไม่เกี่ยวกับการตรวจหาสารเสพติดเสียแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Undisclosure    ยานลำเลียง

    มือและเท้าเย็นเยียบขึ้นมา แต่บลูพยายามปั้นสีหน้าให้เป็นปกติ ยิ่งเห็นทุกคนในห้องนี้ต่างมีสีหน้าเคร่งเครียดแต่ยังไม่ถึงขั้นตื่นตระหนกก็ยิ่งสะกดกลั้นไว้ข้างใน แม้ภายในใจไม่รู้ว่าจะจัดการกับความรู้สึกไหนก่อนระหว่างกลัวตายกับสูญเสีย“พวกนั้นว่าไง แล้วเจ้าคนที่คุมหุ่นยนต์ได้ล่ะ”เมลิสซ่าส่ายหน้า “เด็กคนนั้นใช้พลังไม่ได้ แต่พวกเขาดูจะจัดการกับของพวกนี้ได้บ้าง” เธอหลิ่วตาไปทางอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่รายล้อม “โคดี้พยายามจะปลดล็อกระเบิด ส่วนเรมีกำลังรวบรวมข้อมูลกับดักในตึกนี้ทั้งหมด แล้วก็เร็กกี้...” หญิงสาวถอนหายใจโล่งอก “เขาเคยทำงานในศูนย์วิศกรรมการบินและอวกาศของฟิวเจอร์ริสติกเลยพอจับจุดอะไรได้บ้าง ที่ฉันทำได้คือหาอะไรก็ได้ที่จะพอให้พวกมีมันสมองคิดออก เพราะคนอย่างฉัน แค่เปิดเครื่องยังงง”“ยาน?” ริงโก้ไม่แน่ใจนัก “เราจะหนีด้วยยานเหรอ”“อื้อ” เมลิสซ่าพยักหน้า “มันเป็นวิธีเดียวนี่”“แล้วคนอื่นล่ะ” เดสซิเรถามขึ้น “ยังมีคนกระจายอยู่ทุกเขต ซ่อนตัว หาท

  • Undisclosure    หาทางรอดครั้งที่??

    เทสซ่านิ่งงันไปพักหนึ่งก่อนสมองจะทำงานใหม่ เธอกลืนน้ำลายแล้วถามอีกครั้ง “ถ้าอย่างนั้น พวกนั้นจะระเบิดตึกนี้...หรือทอยซิตี้?”แม้เป็นคนพูดเอง แต่เมื่อมันออกจากปากไปแล้ว เลือดในกายกลับเย็นวาบลงจนขนลุกไปหมด อเล็กซิสหน้าซีดลง สีหน้าแสดงออกว่ากำลังใช้สมองวิเคราะห์หนัก“เราต้องบอกลู” เทสซ่าสรุป ถ้าจะนับคนที่มีมันสมองดีเลิศ นอกจากเรมี อเล็กซิส และโคดี้แล้ว เธอนึกถึงลู หญิงสาวค่อนข้างเจ้าแผนการและมีประสบการณ์มากกว่า น่าจะเข้าใจตัวเลขนี้ได้ดีกว่า“บางที...” เรมีรุดเข้าไปที่โต๊ะแสตนเนอร์ อเล็กซิสเบี่ยงตัวเดินออกมาให้เขาจัดการ หน้าจอปรากฏข้อมูลต่าง ๆ ขึ้นมามากมาย เทสซ่าสบตากับรีเวอร์ แววตาของเขาเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังไม่ถึงกับยอมแพ้3:24:34เทสซ่าจ้องมันราวกับว่าเธอจะมีพลังจิตสะกดให้หยุดได้...พลังจิต “โคดี้!” นึกได้แล้วก็หุนหันวิ่งออกไปแม้จะหลับสนิทไปไม่กี่ชั่วโมง แต่โคดี้ใช้พลังหนักหน่วงมากระหว่างอยู่นอร์ธ เลือดกำเดาออกถึงสองครั้ง และเมื่อครู่เด็กหนุ่มก็ไม่ได้อยู่ในห้อง มีเพียง

  • Undisclosure    โดนหลอก

    บลูวิ่งตรงไปหาเพียซ เหมือนเขาพยายามจะพูด แต่ดูเหมือนสูดอากาศเข้าปอดมากกว่า เลือดไหลทะลักออกมาจากอก เดสซิเรย่อตัวข้าง ๆ ขณะที่โอลิแวนผลักบลูออกไป“ไม่เป็นไร เพียซ อดทนหน่อย ฉันจะทำให้นายไม่เจ็บ” แต่เสียงหญิงสาวสั่น “นายต้องอดทน ฉันจะพานายไปหาหมอ”หมอหรือพวกนั้นตายหมดแล้วบลูสบตากับเอมอนและริงโก้ พวกเขาส่ายหน้าเหมือนไม่อยากยอมรับความจริง ยังไม่อยากจะเชื่อ แค่เสี้ยววินาทีแค่นั้น“แกแม่งอึดจะตาย!” เขาหัวเราะออกมา “อดทนอีกนิดเว้ย” แต่ประโยคหลังเสียงกลับสั่น คำพูดที่ออกมาเสแสร้งสิ้นดี ในอกมีช่องว่างขยายเป็นวงกว้าง มือของเขาสั่นเพียซยกมือห้ามไม่ให้เดสซิเรใช้พลัง เขารู้ตัว...เขารู้ว่ามันสายไปแล้ว ต่อให้เธอใช้พลังให้เขาไม่รู้สึกเจ็บปวด แต่เลือดที่ไหลออกมาไม่มีวันหยุด บาดแผลฉกรรจ์เกินไป “รีบ...เตือน...” มือนั้นตกลงข้างตัว ดวงตาสีฟ้าของเขาไม่ได้จับจ้องกับสิ่งใดอีก มันขาดประกายแห่งชีวิตไปแล้ว“ไม่ ๆ” โอลิแวนประคองศีรษะแฟนหนุ่มแนบอก เขาพูดอยู่คำเดียว “ไม่ ๆ”

  • Undisclosure    สูญเสียอีกเท่าไร

    ไม่ใช่ครั้งแรกที่บลูเข้าไปข้างใน ศูนย์บัญชาการกลางก็เหมือนศูนย์รวมข้อมูล หากมีปัญหาอะไร ต้องการสอบถามเรื่องใดก็มาที่นี่ แต่เขาคุ้นชินกับสถานที่ยามเปิดไฟสว่างจ้าไม่ใช่มืดและรกร้าง มีเจ้าหน้าที่ประจำการทุกจุดหรือแม้แต่เสียงอัตโนมัติ ลิฟต์ข้างในยังใช้การได้แต่ไม่มีใครยอมขึ้น พวกเขาเลือกใช้บันได บางห้องเปิดทิ้งไว้ บางห้องปิดล็อกแน่นหนาบลูเดินวนไปวนมาอยู่บนชั้นสาม ยังไม่มีวี่แววของสิ่งมีชีวิต หรือว่าพวกนั้นหนีไปหมด แล้วเสียงเมื่อกี้ล่ะ? เขาเดินวนอยู่รอบห้องที่น่าจะเป็นส่วนสำนักงาน โต๊ะทำงานถูกแบ่งออกเป็นส่วน ๆ กั้นด้วยกระจกขุ่นขนาดประมาณอก แต่ละโต๊ะวางคอมพิวเตอร์จอบางเฉียบ หน้าจอปิดสนิท บนโต๊ะไม่มีเอกสารใด ๆ เลย เหลือไว้เพียงข้าวของเล็ก ๆ เช่นแก้วกาแฟ ปากกา แล้วก็สมุดจด รอบห้องล้อมไปด้วยกำแพงกระจกขุ่น ตรงมุมเพดานมีกล้องวงจรปิด เขาเห็นเดสซิเรแตะไปที่หน้าจอแล้วผงะ“มีอะไร”“ตัวเลข” เธอชี้ไปที่หน้าจอ คอมพิวเตอร์ของที่นี่มีขนาดเล็กบาง บางครั้งหน้าจอก็โปร่งแสง บางครั้งขุ่นมัว เดสซิเรใช้นิ้วปาดทีเดียว หลังจอที่ขุ่นอยู่ก็ปรากฏตัวเลขขึ้นให้ท

  • Undisclosure    บุกถิ่นศัตรู

    ไอ้พวกไร้สมอง หัวกลวง!ก่อนหน้านี้ปืนในมือยังจ่อเล็งไซบอร์ก เวลานี้ปลายกระบอกกลับหันใส่พวกเดียวกัน พวกสมองน้อยตะโกนอ้อนวอนขอให้กลุ่มต่อต้านคุกเข่าวางอาวุธ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง บลูไม่รู้ว่าตัวเองสบถไปกี่คำ แต่มันอาจจะมากกว่าตลอดชีวิตที่เขาเคยสบถใส่รูปของพ่อที่ตายไป เขาแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเพียงได้ยินนิทานหลอกเด็ก นักโทษบางคนกลับหลงเชื่อคำพูดผู้คุม หาได้ไตร่ตรองถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาไม่“พวกมึงบ้าไปแล้วหรือไงวะ กะอีแค่เสียงตามสายบอกว่าถูกรางวัล!” เขาตะโกนต่อ “แล้วแม่งก็เชื่อ สัตว์ กูอยู่มาห้าปียังไม่เคยได้สิทธิพิเศษนี้เลย”“แต่พวกเราไม่ได้อยากสู้แต่แรก” นั่นคือเหตุผลของคนโง่กูก็ไม่ได้อยากสู้หรอก ห่า เขามองหน้ามนุษย์ลิงแต่ละตัว บลูไม่ได้อยากให้สถานการณ์มาถึงจุดนี้ ไฟ ควัน ไหนยังจะเลือดและคนตาย อากาศก็หนาวเหน็บถึงกระดูก ยังมาเจอกับสภาวะล่มสลาย แต่มันก็สายเกินกว่าจะกลับไปยืนฝั่งไม่หือไม่อือ ห้าปีในทอยซิตี้สอนให้เขารู้จักทิ้งความหวังแล้วสร้างขึ้นมาเอง ก่อนหน้านี้ความหวังของเขาคือใช้ชีวิตอ

  • Undisclosure    หลอกล่อ

    เสียงตามสายเหมือนเสียงแสตนเนอร์ อเล็กซิสจำได้ดีทีเดียว นอกจากทรอยแล้ว เจ้าหน้าที่เธอคลุกคลีด้วยมากที่สุดก็คือเขา“เราไม่ทันตั้งตัวเลย กลุ่มเสี่ยง...พวกคุณพัฒนาไปมากเหลือเกิน มากจนอันตราย มากจนเราไม่อาจต้านทาน แต่พวกคุณก็ยังจำเป็น ยังต้องอยู่ เอชโอวันหมายถึงอาการผิดปกติ คุณอาจจะมองว่ามันเป็นความพิเศษ แต่ก็ดูสิ่งที่พวกคุณทำกับทอยซิตี้ ทั้งหมดตอกย้ำว่าทำไมกลุ่มเสี่ยงต้องอยู่ในนี้ ทำไมพวกเราต้องหาคำตอบ ทำไมพวกเราต้องหาทางรักษา”“บลา บลา” โคดี้ตะโกน “พวกมันพยายามเจรจาโว้ย”“แล้วกลุ่มต้องสงสัยที่ไม่แสดงอาการเล่า พวกคุณยอมรับได้หรือ จู่ ๆ คนกลุ่มหนึ่งก็ทำลายทุกสิ่ง ทำลายชีวิตสงบสุข ทั้งที่อีกไม่กี่เดือน พวกเรารวบรวมรายชื่อผู้ที่อาศัยในทอยซิตี้ในฐานะกลุ่มต้องสงสัยจนไม่อาจเป็นกลุ่มเสี่ยงไว้ อีกไม่กี่เดือน รายงานฉบับนี้จะถูกส่งไปยังทางการ และเมื่อนั้น เราจะส่งพวกคุณกลับบ้าน...”อเล็กซิสกลืนน้ำลาย เธอเข้าใจแล้วว่าพวกเขาต้องการอะไร“อย่าไปฟัง” ใครคนหนึ่งตะโกน แต่ปืนในมือบางคนตกลงข้างตัว หลายคนตกตะลึงก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status