Beranda / แฟนตาซี / Undisclosure / ไร้ปาฏิหาริย์

Share

ไร้ปาฏิหาริย์

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-12 15:21:33

อากาศวันนี้สดใส ปกติแล้วท้องฟ้าในหน้าร้อนมักเป็นแบบนี้เสมอ ปลอดโปร่งปราศจากเมฆสีดำ มีเพียงปุยเมฆสีขาวช่วยแต่งแต้มลวดลายบนพื้นนภาสีฟ้า เธอรู้สึกราวกับว่าไม่ได้เห็นท้องฟ้าแบบนี้มาเป็นแรมปี เหมือนวันเวลาที่ผ่านมา เธอเอาแต่นั่งจ้องเพดานโล่ง ๆ อยู่ในห้องขัง ไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน แสงอาทิตย์ด้านนอกเจิดจ้า โชคดีที่มีลมเย็นสบายพัดผ่าน แสงสีทองจึงทำได้เพียงส่งไออุ่นมากกว่าทำให้บรรยากาศร้อนอบอ้าว เพราะลมได้บรรเทาความร้อนไปแล้ว

“Head homeward, little bird,

Fly up high, Thou art free,

Misery is no more,

Time means not to thee”

“ทำไมฉันถึงได้ยินเสียงคนร้องเพลง มีคณะประสานเสียงของโรงเรียนมาด้วยเหรอ”

“เปล่า ครอบครัวโรมูลเลอร์ขอให้คณะประสานเสียงจากในโบสถ์มาร้องเพลงที่นี่ ร้องให้กับเด็กที่ตาย พวกเขาคิดว่า วิธีนี้จะช่วยนำพาจิตวิญญาณของเธอไปยังที่ที่ควรไป”

“ไม่เคยได้ยินอะไรแบบนี้เลยแฮะ”

ไบรซ์ยักไหล่ขึ้น “จะให้พวกเขาทำอะไรเพื่อคนตายล่ะ พวกเราไม่รู้วิธีสื่อสารกับวิญญาณสักหน่อย ถ้ามีจริงอะนะ อย่างน้อยก็คงช่วยให้พ่อแม่ของเด็กที่ตายสบายใจขึ้น”

“ซอนย่า”

“หือ”

“ชื่อของเด็กคนนั้น” อเล็กซิสบอก

“อ้อ”

เพราะอย่างนี้นี่เอง ทุกคนถึงสวมชุดดำกันหมด เธอมองออกไปข้างนอก เห็นคนคุ้นเคยมากมายรออยู่ ทั้งครอบครัวของเธอและครอบครัวของเพื่อนร่วมชะตากรรม พวกเขากำลังรออยู่ รอส่งคนที่ตัวเองรักเดินทางไปยังสถานที่ที่ไม่มีใครรู้ว่าคือที่ไหน อย่างน้อยยังมีเพลงส่ง เพราะการเดินทางครั้งนี้คงไม่ต่างไปจากการเดินทางของซอนย่าเท่าไรนัก

“งานศพมีเมื่อไหร่”

“พรุ่งนี้...เธอยิ้มอะไรของเธอ”

อเล็กซิสสั่นหัวไหว ๆ “เปล่าซะหน่อย”

ไบรซ์โยนข้าวของของน้องสาวลงบนโต๊ะ ไม่สนว่าของข้างในจะพังหรือไม่ พออารมณ์ขึ้นก็มักมีปฏิกิริยารุนแรง “คิดว่าพวกเขาร้องเพลงให้เธอเหรอไง นี่มันเพลงสำหรับคนตายแล้วต่างหาก เธอไม่ได้จะไปตายสักหน่อย น้องสาวของพี่ไม่ใช่คนอ่อนแอคิดอะไรแบบนั้น”

พี่จะรู้ไหมว่าแค่ขยับก็ปวดจะแย่แล้ว ฉันไม่ได้แข็งแกร่งสักหน่อย อ่อนแอจะตาย “ต่างกันตรงไหนล่ะ”

“อย่าพูดแบบนี้นะ”

พอเห็นน้ำใส ๆ คลอเบ้าตาพี่สาว อเล็กซิสเลยรู้สึกผิด

“ขอโทษ” อเล็กซิสผละจากขอบหน้าต่าง “ขอโทษ พี่หายโกรธได้ไหม”

ไบรซ์ถอนหายใจ โทสะเมื่อครู่ดับลงแทบจะในทันที เธอคงไม่ได้อยากจะมีอารมณ์ทะเลาะกับน้องหรอก จึงเปลี่ยนเรื่องพูดด้วยการหยิบอัลบั้มรูปให้ดู “นี่ พี่ทำมาให้ เลือกแต่รูปที่เธอดูดีทั้งนั้นเลยนะ”

“ถ้าอย่างนั้น...ต้องมีมากกว่าอัลบั้มเดียวแล้วล่ะ”

พี่สาวจึงยิ้มออกมาได้ “แล้วพี่ก็ใส่เสื้อแจ็กเกตตัวโปรดของเธอทุกตัวมาให้หมดแล้ว ทั้งหมดอยู่ในนี้”

อเล็กซิสสำรวจข้าวของของตัวเอง ไบรซ์แพ็กกระเป๋ามาให้ครบหมดทุกอย่าง มีทั้งเครื่องเล่นซีดี แผ่นซีดีวงโปรด และหนังสือบางเล่ม “พี่รอบคอบเสมอเลยน้า” เด็กสาวชม เธอหยิบเจ้าเครื่องเล่นซีดีให้ดู ไบรซ์ยิ้มภูมิใจแต่ขอบตากลับแดงก่ำ เธอจ้องมาที่น้องสาวอยู่ตลอด

“ตอนนี้พวกเธออยู่ไหนคะ”

“ใครล่ะ สาวน้อย พูดเร็ว ๆ สิ” เฮลก้าเร่งราวกับกลัวคนจับได้ว่าคุยกับผู้ต้องหา

“ครูโดบี้ส์กับน้องสาวของเธอค่ะ”

“สองคนนั้นถูกตัดสินประหารชีวิต ตอนนี้ถูกนำตัวไปเมืองหลวงเพื่อเตรียมขั้นตอนต่อไป”

อเล็กซิสสลัดบทสนทนาเก่าออกไป เธอยื่นม้วนกระดาษให้ไบรซ์ ก่อนหน้านี้ได้ขอปากกาและดินสอมาจากเฮลก้า หลังจากเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงในสถานีตำรวจ ตำรวจสาวจึงปฏิบัติกับเธอด้วยท่าทีที่เป็นมิตรมากขึ้น อเล็กซิสจึงถือโอกาสวาดรูปมากมายฆ่าเวลาเพื่อมอบให้กับ

เจ้าชาร์ลี และแม้มันจะต้องแลกมากับอาการเจ็บแขนเวลาขยับก็ตาม

“รูปวาดช้างและก็ตัวอื่น ๆ เจ้าลิงบ่นว่าอยากวาดเป็น ให้เขาเวลาถามหาก็แล้วกัน จะได้นึกถึงฉัน”

อเล็กซิสยังหยิบกระเป๋าเครื่องสำอางของตัวเองออกไปจากกระเป๋าเดินทางด้วย เธอยื่นของสะสมที่เคยมองว่าล้ำค่าให้กับพี่สาว “ฉันไม่ต้องใช้ของพวกนี้แล้วนะ”

“นี่มันสมบัติสุดหวงของเธอเลยนะ”

อเล็กซิสยิ้มบาง ๆ “ไม่แล้ว พี่เอาไปใช้เถอะ ดูแลตัวเองให้ดีด้วยล่ะ พี่รู้ตัวไหมว่าสวยจะตาย แต่งตัวซะบ้าง”

“ก็ในเมื่อพี่สวยแล้ว เธอจะให้พี่แต่งหน้าอีกทำไมล่ะ” ไบรซ์เลิกคิ้ว

“ใช่ แต่พี่ก็ยังต้องการตัวช่วยอีกนิด จะได้แจ้งเกิดกับเขาบ้าง”

ไบรซ์ไม่ตอบ อเล็กซิสยืนนับขวดน้ำหอมที่พี่สาวยังอุตส่าห์ใส่มาให้ด้วย เธอเลือกแต่กลิ่นที่ชอบและขาดไม่ได้ ส่วนที่เหลือส่งคืนกลับ เด็กสาวเพิ่งรู้ว่าตัวเองใช้เงินฟุ่มเฟือยพอสมควรเลยทีเดียว เธอยังคงรักข้าวของพวกนี้มาก และยังอยากเห็นตัวเองมีโอกาสเดินบนแค็ตวอล์กดัง ๆ สักแห่ง ฝันเฟื่องเป็นบ้า แค่จะได้กลับไปใส่ชุดสวย ๆ เดินเที่ยวกับเอโลดี้ก็ไม่มีวันนั้นแล้ว

รถตู้ตำรวจจอดรออยู่ด้านนอก รวมทั้งครอบครัวของเธอที่ยืนรออยู่ด้วย เพราะวันนี้เป็นวันที่เธอต้องไปจากที่นี่ ทางการเพิ่งประกาศวันเดินทางเมื่อวานนี่เอง แม่ถึงกับเป็นลมสองรอบ ครั้งแรกตอนที่แม่เห็นอเล็กซิสในสภาพบอบช้ำทั้งตัว ส่วนครั้งที่สอง ก็เมื่อพวกตำรวจประกาศวันเดินทางนั่นแหละ

น้ำตาของไบรซ์ไหลออกมาเป็นสายอาบโหนกแก้ม ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเร็วเกินไป มันเป็นสัปดาห์ที่น่าสะพรึงกลัวจริง ๆ ยังรวมถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของครอบครัวเดวิส ครอบครัวมิลเลอร์ ครอบครัวเจสเซ่นส์ และครอบครัวคาร์เตอร์ พวกเขากำลังจะสูญเสียสมาชิกไปครอบครัวละหนึ่งคน อเล็กซิสไม่ได้ร้องไห้ เธอคิดว่าเธอร้องมามากพอแล้ว

อเล็กซิสหยิบเสื้อแจ็คเกตมาสวมทับ “รู้น่าว่าฤดูร้อน แต่พี่อย่าแซวก็แล้วกัน ฉันต้องใส่ทับไว้” ไบรซ์ไม่ได้ว่าหรือแซวอะไร เพราะน้องสาวจำเป็นต้องใส่เสื้อแขนยาวปกปิดรอยช้ำบนแขน รอยพวกนี้ยังไม่หายดี เด็กสาวไม่ชอบเห็นรอยน่าเกลียดบนตัว

“พวกผู้หญิงใช้เวลานานเสมอเลยนะ” เสียงของเจสซี่ดังขึ้นมาจากด้านหลัง เขาเพิ่งเข้ามาดูว่าทำไมสองพี่น้องถึงเช็กของนานเหลือเกิน “เพื่อนของเธออยู่กับครอบครัวกันหมดแล้ว แต่พวกเธอกลับมาแอบคุยกับสองคน มันใช่เหรอ ไม่แฟร์สำหรับคนอื่นเลย”

เธอเห็นเขาแอบกำหมัดแน่น พยายามทำตัวเข้มแข็ง ทำตัวเป็นพี่ชายขี้บ่น แต่พวกพี่น้องเดวิสล้วนมีความคล้ายกันอย่างหนึ่ง นั่นคือแสดงละครไม่เก่งเอาเสียเลย สีหน้าของเจสซี่บ่งบอกว่าเจ็บปวด อเล็กซิสอ่านออกได้อย่างชัดเจน เจสซี่สู้อุตส่าห์ร่ำเรียนกฎหมายด้วยจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือคน ความรู้และทักษะที่จะนำมาช่วยเหลือเหยื่อที่ไม่ได้รับความยุติธรรม น่าตลกที่เขากลับช่วยน้องสาวตัวเองไม่ได้ เจสซี่พิจารณารอยช้ำตรงลำคอของน้อง อเล็กซิสยังคงยืนกรานว่าเธอสบายดี

“อย่ามองแต่ภายนอก ฉันสบายดีน่า” 

“อ้อเหรอ สภาพเหมือนตุ๊กตาถูกรถบรรทุกทับ”

“บ้าน่า ก็แค่รอยช้ำนิดหน่อย”

“บาดแผลมันอยู่ในดวงตาเธอต่างหาก ยัยน้องเล็ก” เขาวางมือลงบนศีรษะน้องสาว “จำได้ไหม ที่พวกเราเคยคุยกันเรื่องทุนการศึกษา แล้วพี่พูดถึงการรู้เท่าทันระบบ”

“จำได้แม่นเลย”

“เธอต้องรู้เท่าทันคนอื่นเข้าไว้นะ พี่ไม่อยู่กับเธออีกแล้ว ปกป้องเธอไม่ได้ เธอต้องดูแลตัวเองให้มาก รู้จักปกป้องตัวเองให้ดี สัญญากับพี่ก่อนว่าเธอจะไม่เป็นอะไร สัญญากับพี่เธอจะไม่เอาตัวเองไปตกอยู่สถานการณ์แบบนั้นอีกแล้ว เธอห้ามไว้ใจใครง่าย ๆ อย่าคาดหวังว่าจะมีคนมาช่วยเธอ สัญญากับพี่ ยัยตัวเล็ก จนกว่าเราจะได้พบกันอีกครั้ง” เจสซี่เว้นไปพักหนึ่งแล้วสบตากับเธอ “ระหว่างนี้ พี่จะทำทุกอย่างให้เธอกลับมาให้ได้”

อเล็กซิสมองพี่ชายสลับกับพี่สาว จากนั้นพยักหน้า “อื้อ พ่อสอนไม่ให้พวกเราพูดโกหกนี่นา ไม่ให้พวกเราสัญญาพร่ำเพรื่อทั้งที่ทำไม่ได้ แต่ฉันขอสัญญากับพี่ เพราะฉันไม่อยากเจออะไรแบบนั้นอีกแล้ว และก็อยากจะกลับมาเจอทุกคนด้วย”

“เยี่ยม นี่สิ น้องของพี่ต้องแบบนี้”

“ของทุกอย่างครบแล้วล่ะ พวกเราออกไปข้างนอกกันได้แล้ว” ไบรซ์เตือนพลางชำเลืองมองเวลา

เจสซี่กอดเธอแน่น ซ่อนใบหน้าที่กำลังสะอึกสะอื้นไว้ในอ้อมกอด “ไม่เอาน่า ไม่ร้องนะ รู้ไหมว่าฉันต้องกลั้นน้ำตามากขนาดไหน” อเล็กซิสบอก ก้อนน้ำตาจุกอยู่ในคอ เธอคิดว่ามันหมดไปแล้วเสียอีก บางที ถ้าหากเธอร้องไห้อีกรอบ สงสัยครั้งนี้น้ำตาคงออกมาเป็นเลือด

 อ้อมกอดของเจสซี่อบอุ่นและพร้อมที่จะปกป้องน้องของเขาทุกคน เขาก็เหมือนกับไบรซ์ คล้ายกับคุณพ่อคนที่สอง แต่เป็นคุณพ่อที่หัวร้อนและเป็นพี่ชายที่แสนดีมาก “พวกเราต้องการเธอนะ ครอบครัวพวกเราต้องมีเธอ ยัยน้องเล็กของพี่” แล้วเขาก็ปล่อยตัวเธอ “บ้าชิบ ตาเป็นอะไรวะ ถ้าพวกเธอบอกคนอื่นว่าพี่ร้องไห้ พี่จะฆ่าพวกเธอทิ้งทั้งคู่”

อเล็กซิสเช็ดน้ำตาให้พี่ชาย พวกเขาหัวเราะโดยไม่มีสาเหตุ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ต้องควบคุมไม่ให้เขื่อนน้ำในดวงตาพังทลาย และเธอก็ไม่อยากเห็นใคร โดยเฉพาะแม่ ร้องไห้ออกมาอีก ยัยน้องเล็ก เจสซี่ชอบเรียกเธอแบบนี้ก่อนที่ชาร์ลีจะเข้ามาเป็นน้องเล็กสุดในบ้าน พี่น้องทั้งสามโอบกอดกันเป็นครั้งสุดท้าย เธอไม่เคยเบื่อที่จะกอดพวกเขาเลยสักครั้ง

อเล็กซิสหอมแก้มพี่ทั้งสอง พวกเขาเดินออกมาในที่สุด

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • Undisclosure    หยุดยั้ง

    “แต่คุณบอกว่ามันจะใช้คุณเป็นตัวประกัน” ไมเคิลเถียง“ใช่ ตัวฉัน เพียงแค่ร่างกายที่ยังมีลมหายใจ”อเล็กซิสเข่าอ่อนจนทรุดตัวลง ก้มหน้าซ่อนสะอื้นลงกับตักหญิงสาว นาฮีมานาอาจไม่ใช่แม่ของกลุ่มเสี่ยง แต่เปรียบเหมือนกับผู้ใหญ่หรือไม่ก็พี่สาวที่พวกเขารู้สึกสบายใจเวลาเห็นเธอ เปรียบดั่งต้นไม้ที่ให้ร่มเงาทางจิตใจ“แต่ว่า...ก่อนจะออกไป ฉันมีเรื่องจะขอร้อง”เมื่อนั้นเธอจึงเงยหน้าขึ้น นาฮีมานาจับมืออเล็กซิสกับไมเคิล“เผาทุกอย่างในนี้”ทั้งสองพยักหน้า“ถ้าเห็นอะไร ทำใจไว้นะ แต่ฉันคิดว่าอย่าปล่อยไปเลย พวกเขายังไม่รับรู้อะไรหรอก”ทว่าประโยคหลังนั้น ทั้งสองไม่เข้าใจ นาฮีมานาคะยั้นคะยอให้พวกเขาออกไปจากที่นี่อีกครั้ง มืออีกข้างหยิบปืนที่พวกนั้นทิ้งไว้ เธอพยักหน้าให้ทั้งสองเห็นว่าไม่เป็นไร“พวกเธอไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว ไปเถิด”“เหลืออีกห้านาที”นาฮีมานาไม่ต้องการให้พวกเขามอง หรือรับรู้ ทั้งสองจึงเดินออกไปหน้าลิฟต์ ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นจึงได้ยิน

  • Undisclosure    จุดจบของผู้อยู่มานาน

    “พาตัวเธอมา” เธอหันไปสั่งเพื่อนร่วมงานหรือลูกน้อง อเล็กซิสไม่มีวันรู้ไม่ถึงหนึ่งนาทีได้ คนของอาร์คาเดียจึงประคองนาฮีมานาออกมา เธออยู่ในสภาพอิดโรย ผมสีดำยุ่งเหยิง แก้มที่ตอบอยู่แล้วลึกลงไปราวกับผิวหนังปกคลุมเพียงโครงกระดูก เธอออกจากกลุ่มไปก่อน อเล็กซิสไม่รู้เลยว่าหญิงสาวโดนจับไปเมื่อไร“ได้โปรด เราพาเธอมาแล้ว”“เหลืออีกสิบนาที” พวกเขามองหน้ากันอย่างตื่นตระหนกเพราะกลัวหนีไม่ทัน“ทำไม ที่นี่จะระเบิดหรือ”พวกเขาส่ายหน้า ทั้งสองไม่เชื่อ แต่เมื่อเห็นนาฮีมานาพยักหน้าให้มั่นใจว่าเป็นเรื่องจริง อเล็กซิสจึงหันไปพยักหน้ากับไมเคิล เขาจึงบอกให้คนที่เหลือออกไป ทั้งหมดทิ้งอาวุธแล้วรีบวิ่งหนี บางคนแย่งกันออกไปจนมีเสียงโวยวายล้มลุกคลุกคลาน ส่วนพวกเขารีบไปประคองนาฮีมานาที่ถูกทิ้งลงกับพื้น“มานา...”หญิงสาวสบตากับทั้งสองแล้วยกมือจับแก้มคนทั้งคู่ เพียงสัมผัสอเล็กซิสกลับรู้สึกสบายตัว อากาศปวดตามตัวและที่หน่วงอยู่ในท้องก็อันตรธานหายไปทันใด เมื่อเธอมองไมเคิลจึงเห็นว่าบาดแผลบนใบหน้

  • Undisclosure    ไม่มีการต่อรอง

    “เหลืออีกยี่สิบนาที”สิ่งที่อเล็กซิสเกลียดที่สุดคือการไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน และเกิดอะไรขึ้น แม้เข้าใจจุดประสงค์ของผู้ลักพาตัว แต่ไม่สามารถรู้ได้ว่าตัวการเป็นใคร ทั้งสองยืนมองนักวิทยาศาสตร์วิ่งหนีออกจากตึกจากบานหน้ากระจกขนาดใหญ่บนชั้นลอยเปิดสู่โถงด้านล่าง ประตูทางออกนั้นไม่ได้เปิดออกไปแล้วเห็นด้านนอก แต่ไปยังลิฟต์ที่เคลื่อนตัวขึ้นไปด้านบน โถงด้านล่างกินพื้นที่ถึงห้าชั้น มันกว้างใหญ่ พวกเขาวิ่งหนีขึ้นลิฟต์ บ้างแย่งกัน แต่เพราะจำนวนมีจำกัดจึงไม่อาจขนส่งคนออกไปได้ทันทีแต่ก็ทำให้เธอรู้ว่าทั้งหมดอยู่ใต้ดินขณะนั้นไมเคิลปรายตามองทีมรักษาความปลอดภัยที่อยู่ด้านล่าง พวกเขาไม่ได้สวมชุดทหารสีเทาแต่เป็นสีน้ำตาล ในมือถือปืนเลเซอร์ขนาดใหญ่เล็งมาแต่ยังไม่ได้ยิง หรือพูดไม่ถูกคือไม่กล้ายิงเพราะกลัวผลโต้ตอบที่รุนแรงกว่า อีกกลุ่มคอยอพยพและจัดระเบียบ พวกเขามองขึ้นมาอย่างหวาดผวา ส่วนเธอกับไมเคิลมองลงไปด้วยสายตาว่างเปล่า“ปล่อยไปเถอะ เราต้องการเพียงมานา”อเล็กซิสไม่ได้ใจดี เธอแค่ไม่อยากเสียเวลาไมเคิลพยักหน้าแต่สายตายังจับจ้อง

  • Undisclosure    ทำลาย

    แม้สายตาจะคอยชำเลืองมองแฝดที่ยืนจังก้าอยู่ด้านหน้าประตูรอให้พวกมันเข้ามา อเล็กซิสใช้เวลานี้เรียกข้อมูลขึ้นมาเรื่อย ๆ นอกจากจะเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของพวกเขาแล้ว พวกมันต้องการเซลล์ไข่ของเธอและสเปิร์มของแฝดเพื่อผสมเทียม สมมติฐานของคนพวกนี้นั่นคือ เธอและไมเคิลเป็นกลุ่มเสี่ยงคู่เดียวที่สามารถให้กำเนิดทายาทที่มีลักษณะพิเศษได้ เหมือนอย่างที่ลูก้าและเจมม่าเคยให้กำเนิดคนทั้งสอง เนื่องจากกลุ่มเสี่ยงคนอื่นล้วนมีภาวะมีบุตรยากหรืออาจจะถึงขนาดไร้ประสิทธิภาพที่จะมีทายาทเลยก็ว่าได้เพื่ออะไร ผลิต...ผลิตกองทัพผู้มีพลังพิเศษด้วยตัวเองหรือปัญหาคือ เธออยากรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง เอไลโตทั้งหมด หรือบางคน? ที่แน่ ๆ พวกมันใช้คาเรลที่สมควรถูกประหารชีวิตไปแล้วปลอมตัวเป็นไมเคิลมากหลอกเธอเสียงฝีเท้ามากมายมาเป็นโขยงโดยที่แฝดชายยืนรออยู่ อเล็กซิสถอยห่างจากโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน“อยู่เฉย ๆ” คนข้างนอกตะโกนเข้ามา “อย่าขยับไม่อย่างนั้นพวกเราจำเป็นต้องยิง!”ชายหนุ่มผมเงินหัวเราะดูแคลนคนข้างนอก พริบตาเดียวเปลวเพลิงลุกโถมเข้าใส่ประตูด้านหน้า ทีมรักษาความป

  • Undisclosure    ละเลงเลือด

    ความเงียบกลับมาปกคลุมอีกครั้งพร้อมกับสภาพเครื่องมือล้มระเนระนาด รวมทั้งจานที่บรรจุเซลล์ไข่แตกละเอียด เพียงเธอมอง ของเหลวในนั้นแห้งเหือดตรงมุมขวาของห้องมีกล้องวงจรปิดอยู่ อเล็กซิสยกมือขึ้นทำท่าบิด มันแตกแล้วตกลงมา เพียงเท่านั้นเธอรีบลุกออกจากเตียงเพื่อไปหาไมเคิล แต่เพียงขยับก็เจ็บหน่วงที่ท้อง สุดท้ายกลั้นใจหยิบผ้าคลุมมาพันตัวแล้วเดินไปหาน้องชาย มันไม่ได้เจ็บมากนัก แต่แปลบ ๆ หน่วง ๆ เหมือนเวลาที่เธอเคยมีประจำเดือน“ไมเคิล” เธอจับแก้มที่มีแผลไหม้แล้วสงสารจับใจ ใบหน้าของเขาคือของขวัญล้ำค่าที่ไม่ว่าใครก็อยากจะถนอมดูแล แล้วดูตอนนี้สิ อเล็กซิสดึงเครื่องรัดออกแล้วสวมกอดคนที่นอนอยู่แน่นเพื่อให้เขาฟื้นตัว “ไมเคิล ตื่นสิ ไมเคิล”ชายหนุ่มส่งเสียงครางอือ ๆ เบา ๆ เธอถอนตัวขึ้นมาเพื่อรอให้เขาฟื้น เขาเริ่มขยับริมฝีปาก “รอ...”“ไม่ต้องรอ” เธอบอกพลางกุมมือเขาแน่น น้ำตาเอ่อขึ้นมาเมื่อมองแฝดชายราวกับเห็นร่างของซีโน่ที่กำลังจะตาย “ตื่นขึ้นมา ฉันจะปกป้องนายเอง”เขากะพริบตาก่อนจะลืมตามอง ดวงตาสีฟ้าเข้มสบกับของเ

  • Undisclosure    แหกคุก

    มีกี่เรื่องที่ทำให้คนเราฝันร้าย แต่เมื่อตื่นเหมือนกับโผล่ขึ้นผิวน้ำปีศาจในความทรงจำล้วนมีมากหน้าหลายตา และกลุ่มแรกมีชื่อว่าคาเมรอนกับบรูซ ยังดีที่โชคยังเข้าข้าง ต่างกับตอนนี้ที่ตกอยู่ในเงื้อมมือปีศาจใต้หน้ากาก หมดสิ้นอิสรภาพโดยสิ้นเชิงสติไปไหน เหตุใดจึงรู้สึกล่องลอย บางครั้งตื่นตัว บางครั้งไม่รู้สึกมันมากันเป็นกลุ่ม จับร่างของอเล็กซิสขึงเพื่อเอาบางสิ่งจากกาย หากขัดขืนดิ้นรนก็จะได้รับความเจ็บปวดสาหัสจนไม่อาจขยับได้ไปหลายนาที คงเป็นเพราะกายหยาบนี้ทนทานต่อยาสลบจึงตื่นเร็วเกินไป แต่ต่อให้ทนได้เพียงใดก็ไม่ได้แปลว่าไม่เจ็บปวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมรุกล้ำเข้ามาเสียงกรีดร้องอ้อนวอนขอให้พวกมันหยุดไม่เป็นผล แม้เมื่อมันได้สิ่งที่ต้องการก็ยังไม่ปล่อยอเล็กซิสกับไมเคิลไป พวกมันเอาขาหยั่งออกแล้วปล่อยให้ขาเธอนอนเหยียดยาวโดยมีเครื่องล็อกตรึงไว้ไม่ให้ขยับ“พวกแกต้องชดใช้” เสียงที่ตะโกนออกไปกลั่นออกมาจากความแค้นที่อยู่ลึกสุด แต่กลับฟังดูอ่อนแอเกินกว่าจะขู่ให้ผู้ใดกลัว ตรงกันข้ามกลับเรียกเสียงหัวเราะขำขันแทนเธอหันไปมอง

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status