Home / แฟนตาซี / Undisclosure / ไร้ปาฏิหาริย์

Share

ไร้ปาฏิหาริย์

last update Last Updated: 2025-02-12 15:21:33

อากาศวันนี้สดใส ปกติแล้วท้องฟ้าในหน้าร้อนมักเป็นแบบนี้เสมอ ปลอดโปร่งปราศจากเมฆสีดำ มีเพียงปุยเมฆสีขาวช่วยแต่งแต้มลวดลายบนพื้นนภาสีฟ้า เธอรู้สึกราวกับว่าไม่ได้เห็นท้องฟ้าแบบนี้มาเป็นแรมปี เหมือนวันเวลาที่ผ่านมา เธอเอาแต่นั่งจ้องเพดานโล่ง ๆ อยู่ในห้องขัง ไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน แสงอาทิตย์ด้านนอกเจิดจ้า โชคดีที่มีลมเย็นสบายพัดผ่าน แสงสีทองจึงทำได้เพียงส่งไออุ่นมากกว่าทำให้บรรยากาศร้อนอบอ้าว เพราะลมได้บรรเทาความร้อนไปแล้ว

“Head homeward, little bird,

Fly up high, Thou art free,

Misery is no more,

Time means not to thee”

“ทำไมฉันถึงได้ยินเสียงคนร้องเพลง มีคณะประสานเสียงของโรงเรียนมาด้วยเหรอ”

“เปล่า ครอบครัวโรมูลเลอร์ขอให้คณะประสานเสียงจากในโบสถ์มาร้องเพลงที่นี่ ร้องให้กับเด็กที่ตาย พวกเขาคิดว่า วิธีนี้จะช่วยนำพาจิตวิญญาณของเธอไปยังที่ที่ควรไป”

“ไม่เคยได้ยินอะไรแบบนี้เลยแฮะ”

ไบรซ์ยักไหล่ขึ้น “จะให้พวกเขาทำอะไรเพื่อคนตายล่ะ พวกเราไม่รู้วิธีสื่อสารกับวิญญาณสักหน่อย ถ้ามีจริงอะนะ อย่างน้อยก็คงช่วยให้พ่อแม่ของเด็กที่ตายสบายใจขึ้น”

“ซอนย่า”

“หือ”

“ชื่อของเด็กคนนั้น” อเล็กซิสบอก

“อ้อ”

เพราะอย่างนี้นี่เอง ทุกคนถึงสวมชุดดำกันหมด เธอมองออกไปข้างนอก เห็นคนคุ้นเคยมากมายรออยู่ ทั้งครอบครัวของเธอและครอบครัวของเพื่อนร่วมชะตากรรม พวกเขากำลังรออยู่ รอส่งคนที่ตัวเองรักเดินทางไปยังสถานที่ที่ไม่มีใครรู้ว่าคือที่ไหน อย่างน้อยยังมีเพลงส่ง เพราะการเดินทางครั้งนี้คงไม่ต่างไปจากการเดินทางของซอนย่าเท่าไรนัก

“งานศพมีเมื่อไหร่”

“พรุ่งนี้...เธอยิ้มอะไรของเธอ”

อเล็กซิสสั่นหัวไหว ๆ “เปล่าซะหน่อย”

ไบรซ์โยนข้าวของของน้องสาวลงบนโต๊ะ ไม่สนว่าของข้างในจะพังหรือไม่ พออารมณ์ขึ้นก็มักมีปฏิกิริยารุนแรง “คิดว่าพวกเขาร้องเพลงให้เธอเหรอไง นี่มันเพลงสำหรับคนตายแล้วต่างหาก เธอไม่ได้จะไปตายสักหน่อย น้องสาวของพี่ไม่ใช่คนอ่อนแอคิดอะไรแบบนั้น”

พี่จะรู้ไหมว่าแค่ขยับก็ปวดจะแย่แล้ว ฉันไม่ได้แข็งแกร่งสักหน่อย อ่อนแอจะตาย “ต่างกันตรงไหนล่ะ”

“อย่าพูดแบบนี้นะ”

พอเห็นน้ำใส ๆ คลอเบ้าตาพี่สาว อเล็กซิสเลยรู้สึกผิด

“ขอโทษ” อเล็กซิสผละจากขอบหน้าต่าง “ขอโทษ พี่หายโกรธได้ไหม”

ไบรซ์ถอนหายใจ โทสะเมื่อครู่ดับลงแทบจะในทันที เธอคงไม่ได้อยากจะมีอารมณ์ทะเลาะกับน้องหรอก จึงเปลี่ยนเรื่องพูดด้วยการหยิบอัลบั้มรูปให้ดู “นี่ พี่ทำมาให้ เลือกแต่รูปที่เธอดูดีทั้งนั้นเลยนะ”

“ถ้าอย่างนั้น...ต้องมีมากกว่าอัลบั้มเดียวแล้วล่ะ”

พี่สาวจึงยิ้มออกมาได้ “แล้วพี่ก็ใส่เสื้อแจ็กเกตตัวโปรดของเธอทุกตัวมาให้หมดแล้ว ทั้งหมดอยู่ในนี้”

อเล็กซิสสำรวจข้าวของของตัวเอง ไบรซ์แพ็กกระเป๋ามาให้ครบหมดทุกอย่าง มีทั้งเครื่องเล่นซีดี แผ่นซีดีวงโปรด และหนังสือบางเล่ม “พี่รอบคอบเสมอเลยน้า” เด็กสาวชม เธอหยิบเจ้าเครื่องเล่นซีดีให้ดู ไบรซ์ยิ้มภูมิใจแต่ขอบตากลับแดงก่ำ เธอจ้องมาที่น้องสาวอยู่ตลอด

“ตอนนี้พวกเธออยู่ไหนคะ”

“ใครล่ะ สาวน้อย พูดเร็ว ๆ สิ” เฮลก้าเร่งราวกับกลัวคนจับได้ว่าคุยกับผู้ต้องหา

“ครูโดบี้ส์กับน้องสาวของเธอค่ะ”

“สองคนนั้นถูกตัดสินประหารชีวิต ตอนนี้ถูกนำตัวไปเมืองหลวงเพื่อเตรียมขั้นตอนต่อไป”

อเล็กซิสสลัดบทสนทนาเก่าออกไป เธอยื่นม้วนกระดาษให้ไบรซ์ ก่อนหน้านี้ได้ขอปากกาและดินสอมาจากเฮลก้า หลังจากเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงในสถานีตำรวจ ตำรวจสาวจึงปฏิบัติกับเธอด้วยท่าทีที่เป็นมิตรมากขึ้น อเล็กซิสจึงถือโอกาสวาดรูปมากมายฆ่าเวลาเพื่อมอบให้กับ

เจ้าชาร์ลี และแม้มันจะต้องแลกมากับอาการเจ็บแขนเวลาขยับก็ตาม

“รูปวาดช้างและก็ตัวอื่น ๆ เจ้าลิงบ่นว่าอยากวาดเป็น ให้เขาเวลาถามหาก็แล้วกัน จะได้นึกถึงฉัน”

อเล็กซิสยังหยิบกระเป๋าเครื่องสำอางของตัวเองออกไปจากกระเป๋าเดินทางด้วย เธอยื่นของสะสมที่เคยมองว่าล้ำค่าให้กับพี่สาว “ฉันไม่ต้องใช้ของพวกนี้แล้วนะ”

“นี่มันสมบัติสุดหวงของเธอเลยนะ”

อเล็กซิสยิ้มบาง ๆ “ไม่แล้ว พี่เอาไปใช้เถอะ ดูแลตัวเองให้ดีด้วยล่ะ พี่รู้ตัวไหมว่าสวยจะตาย แต่งตัวซะบ้าง”

“ก็ในเมื่อพี่สวยแล้ว เธอจะให้พี่แต่งหน้าอีกทำไมล่ะ” ไบรซ์เลิกคิ้ว

“ใช่ แต่พี่ก็ยังต้องการตัวช่วยอีกนิด จะได้แจ้งเกิดกับเขาบ้าง”

ไบรซ์ไม่ตอบ อเล็กซิสยืนนับขวดน้ำหอมที่พี่สาวยังอุตส่าห์ใส่มาให้ด้วย เธอเลือกแต่กลิ่นที่ชอบและขาดไม่ได้ ส่วนที่เหลือส่งคืนกลับ เด็กสาวเพิ่งรู้ว่าตัวเองใช้เงินฟุ่มเฟือยพอสมควรเลยทีเดียว เธอยังคงรักข้าวของพวกนี้มาก และยังอยากเห็นตัวเองมีโอกาสเดินบนแค็ตวอล์กดัง ๆ สักแห่ง ฝันเฟื่องเป็นบ้า แค่จะได้กลับไปใส่ชุดสวย ๆ เดินเที่ยวกับเอโลดี้ก็ไม่มีวันนั้นแล้ว

รถตู้ตำรวจจอดรออยู่ด้านนอก รวมทั้งครอบครัวของเธอที่ยืนรออยู่ด้วย เพราะวันนี้เป็นวันที่เธอต้องไปจากที่นี่ ทางการเพิ่งประกาศวันเดินทางเมื่อวานนี่เอง แม่ถึงกับเป็นลมสองรอบ ครั้งแรกตอนที่แม่เห็นอเล็กซิสในสภาพบอบช้ำทั้งตัว ส่วนครั้งที่สอง ก็เมื่อพวกตำรวจประกาศวันเดินทางนั่นแหละ

น้ำตาของไบรซ์ไหลออกมาเป็นสายอาบโหนกแก้ม ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเร็วเกินไป มันเป็นสัปดาห์ที่น่าสะพรึงกลัวจริง ๆ ยังรวมถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของครอบครัวเดวิส ครอบครัวมิลเลอร์ ครอบครัวเจสเซ่นส์ และครอบครัวคาร์เตอร์ พวกเขากำลังจะสูญเสียสมาชิกไปครอบครัวละหนึ่งคน อเล็กซิสไม่ได้ร้องไห้ เธอคิดว่าเธอร้องมามากพอแล้ว

อเล็กซิสหยิบเสื้อแจ็คเกตมาสวมทับ “รู้น่าว่าฤดูร้อน แต่พี่อย่าแซวก็แล้วกัน ฉันต้องใส่ทับไว้” ไบรซ์ไม่ได้ว่าหรือแซวอะไร เพราะน้องสาวจำเป็นต้องใส่เสื้อแขนยาวปกปิดรอยช้ำบนแขน รอยพวกนี้ยังไม่หายดี เด็กสาวไม่ชอบเห็นรอยน่าเกลียดบนตัว

“พวกผู้หญิงใช้เวลานานเสมอเลยนะ” เสียงของเจสซี่ดังขึ้นมาจากด้านหลัง เขาเพิ่งเข้ามาดูว่าทำไมสองพี่น้องถึงเช็กของนานเหลือเกิน “เพื่อนของเธออยู่กับครอบครัวกันหมดแล้ว แต่พวกเธอกลับมาแอบคุยกับสองคน มันใช่เหรอ ไม่แฟร์สำหรับคนอื่นเลย”

เธอเห็นเขาแอบกำหมัดแน่น พยายามทำตัวเข้มแข็ง ทำตัวเป็นพี่ชายขี้บ่น แต่พวกพี่น้องเดวิสล้วนมีความคล้ายกันอย่างหนึ่ง นั่นคือแสดงละครไม่เก่งเอาเสียเลย สีหน้าของเจสซี่บ่งบอกว่าเจ็บปวด อเล็กซิสอ่านออกได้อย่างชัดเจน เจสซี่สู้อุตส่าห์ร่ำเรียนกฎหมายด้วยจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือคน ความรู้และทักษะที่จะนำมาช่วยเหลือเหยื่อที่ไม่ได้รับความยุติธรรม น่าตลกที่เขากลับช่วยน้องสาวตัวเองไม่ได้ เจสซี่พิจารณารอยช้ำตรงลำคอของน้อง อเล็กซิสยังคงยืนกรานว่าเธอสบายดี

“อย่ามองแต่ภายนอก ฉันสบายดีน่า” 

“อ้อเหรอ สภาพเหมือนตุ๊กตาถูกรถบรรทุกทับ”

“บ้าน่า ก็แค่รอยช้ำนิดหน่อย”

“บาดแผลมันอยู่ในดวงตาเธอต่างหาก ยัยน้องเล็ก” เขาวางมือลงบนศีรษะน้องสาว “จำได้ไหม ที่พวกเราเคยคุยกันเรื่องทุนการศึกษา แล้วพี่พูดถึงการรู้เท่าทันระบบ”

“จำได้แม่นเลย”

“เธอต้องรู้เท่าทันคนอื่นเข้าไว้นะ พี่ไม่อยู่กับเธออีกแล้ว ปกป้องเธอไม่ได้ เธอต้องดูแลตัวเองให้มาก รู้จักปกป้องตัวเองให้ดี สัญญากับพี่ก่อนว่าเธอจะไม่เป็นอะไร สัญญากับพี่เธอจะไม่เอาตัวเองไปตกอยู่สถานการณ์แบบนั้นอีกแล้ว เธอห้ามไว้ใจใครง่าย ๆ อย่าคาดหวังว่าจะมีคนมาช่วยเธอ สัญญากับพี่ ยัยตัวเล็ก จนกว่าเราจะได้พบกันอีกครั้ง” เจสซี่เว้นไปพักหนึ่งแล้วสบตากับเธอ “ระหว่างนี้ พี่จะทำทุกอย่างให้เธอกลับมาให้ได้”

อเล็กซิสมองพี่ชายสลับกับพี่สาว จากนั้นพยักหน้า “อื้อ พ่อสอนไม่ให้พวกเราพูดโกหกนี่นา ไม่ให้พวกเราสัญญาพร่ำเพรื่อทั้งที่ทำไม่ได้ แต่ฉันขอสัญญากับพี่ เพราะฉันไม่อยากเจออะไรแบบนั้นอีกแล้ว และก็อยากจะกลับมาเจอทุกคนด้วย”

“เยี่ยม นี่สิ น้องของพี่ต้องแบบนี้”

“ของทุกอย่างครบแล้วล่ะ พวกเราออกไปข้างนอกกันได้แล้ว” ไบรซ์เตือนพลางชำเลืองมองเวลา

เจสซี่กอดเธอแน่น ซ่อนใบหน้าที่กำลังสะอึกสะอื้นไว้ในอ้อมกอด “ไม่เอาน่า ไม่ร้องนะ รู้ไหมว่าฉันต้องกลั้นน้ำตามากขนาดไหน” อเล็กซิสบอก ก้อนน้ำตาจุกอยู่ในคอ เธอคิดว่ามันหมดไปแล้วเสียอีก บางที ถ้าหากเธอร้องไห้อีกรอบ สงสัยครั้งนี้น้ำตาคงออกมาเป็นเลือด

 อ้อมกอดของเจสซี่อบอุ่นและพร้อมที่จะปกป้องน้องของเขาทุกคน เขาก็เหมือนกับไบรซ์ คล้ายกับคุณพ่อคนที่สอง แต่เป็นคุณพ่อที่หัวร้อนและเป็นพี่ชายที่แสนดีมาก “พวกเราต้องการเธอนะ ครอบครัวพวกเราต้องมีเธอ ยัยน้องเล็กของพี่” แล้วเขาก็ปล่อยตัวเธอ “บ้าชิบ ตาเป็นอะไรวะ ถ้าพวกเธอบอกคนอื่นว่าพี่ร้องไห้ พี่จะฆ่าพวกเธอทิ้งทั้งคู่”

อเล็กซิสเช็ดน้ำตาให้พี่ชาย พวกเขาหัวเราะโดยไม่มีสาเหตุ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ต้องควบคุมไม่ให้เขื่อนน้ำในดวงตาพังทลาย และเธอก็ไม่อยากเห็นใคร โดยเฉพาะแม่ ร้องไห้ออกมาอีก ยัยน้องเล็ก เจสซี่ชอบเรียกเธอแบบนี้ก่อนที่ชาร์ลีจะเข้ามาเป็นน้องเล็กสุดในบ้าน พี่น้องทั้งสามโอบกอดกันเป็นครั้งสุดท้าย เธอไม่เคยเบื่อที่จะกอดพวกเขาเลยสักครั้ง

อเล็กซิสหอมแก้มพี่ทั้งสอง พวกเขาเดินออกมาในที่สุด

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • Undisclosure    การจากลา

    สิ่งแรกที่เธอเห็นคือรถตู้ตำรวจที่จอดรออยู่ แม้ว่ามันจะจอดไกลจากจุดที่เธอยืนอยู่มากก็ตาม แต่เพราะว่าเธอเห็นครอบครัวโรมูลเลอร์อยู่แถวนั้นด้วย สายตาเลยเหลือบไปเห็นเจ้าพาหนะที่จะพาเธอไปยังสถานที่หนึ่ง เมื่อพ่อแม่ของซอนย่าเห็นอเล็กซิส พวกเขาโน้มคอลงเหมือนจะกล่าวทักทาย และรีบเดินจากไปสองวันหลังจากเกิดเหตุการณ์นั้น บรูซกับคาเมรอนถูกส่งตัวไปยังศาลปกครองที่เมืองฟิวเจอร์ริสติก เมโทรโพลิสทันที เมืองเดียวกับที่นางพยาบาลสตีเว่นและครูโดบี้ส์ถูกส่งตัวไปสำเร็จโทษ อเล็กซิสได้ยินมาว่าสามีของเธอพาลูก ๆ ตามไปด้วย น่าสงสารทั้งคุณโดบี้ส์ และลูก ๆ ของพวกเขา เด็ก ๆ ยังเล็กเกินกว่าที่จะสูญเสียแม่ส่วนตัวฉัน ก็ยังเด็กเกินไปที่จะสูญสิ้นทุกอย่าง เธอไม่เคยลืมใบหน้าของซอนย่าในตอนนั้นเลย ผิวของเธอไหม้เกรียม ทำให้บางส่วนปริลอกออกมาจนเห็นเนื้อสดสีแดงข้างใน ดวงตาทั้งสองข้างไหม้ดำ ไม่ว่าเธออยากจะลืมภาพนั้นเท่าไร แต่อเล็กซิสรู้ดีว่าใบหน้าตอนตายของซอนย่าจะติดตัวเธอไปตลอด ยกเว้นแต่ว่า ลมหายใจเธอจะดับสิ้น“ลูกอยากได้อะไรเพิ่มหรือเปล่า” พ่อถาม เขายืนรออยู่กับแม่และเ

    Last Updated : 2025-02-12
  • Undisclosure    ปฐมกาลครั้งใหม่

    เขามองเธอแป๊บเดียวแล้วผลักเธอขึ้นรถ จากนั้นไปช่วยเฮลก้าจัดการกับเวด ทั้งสองช่วยกันลากเด็กหนุ่มขึ้นรถอย่างทุลักทุเล เป็นงานหินสำหรับพวกเขามาก เพราะเวดนั้นตัวโตกว่าคนทั้งคู่ และที่สำคัญ เขาขืนตัวสุดกำลัง “โอ๊ย ให้เวลามากกว่านี้หน่อยสิ ปล่อยสิวะ ไปไกล ๆ เลยแม่ง” แต่สุดท้ายเวดก็ถูกผลักเข้ามาจนได้ แถมยังล้มทับอเล็กซิสกับออสโล่ที่อยู่ข้างในด้วยเบลินดาเข้ามาเป็นคนสุดท้าย เธอเดินเข้ามาด้วยตัวเอง ไม่ต้องให้ใครลากเข้ามา ท่าทางสงบลงมากกว่าวันที่ถูกตัดสินว่ากระทำผิด เธอเป็นคนเดียวที่บอกลาทุกคนด้วยท่วงท่าสงบนิ่งและสง่างามกว่าใครเพื่อนประตูรถค่อย ๆ ปิดลงและพวกเขายังคงพยายามมองหาครอบครัวตัวเอง เมื่อประตูถูกปิดสนิท พวกเขาได้ยินแต่เสียงเรียกเท่านั้น“นี่...ฉันคิดว่าที่ผ่านมากำลังฝันอยู่เลยนะเนี่ย แบบหลับยาวเป็นอาทิตย์อะไรแบบนั้น” เวดสารภาพ “คิดว่า...มันต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดสักอย่างแหง ๆ ...”“ฉันอยากให้ใครสักคนตบหน้าฉันแรง ๆ แฮะ ฉันมันคนขี้เซา แม่ต้องตบหลังทุกครั้งเลยเพื่อปลุกให้ตื่น” ออสโล่เสริม หัวเราะเสียงแห้ง

    Last Updated : 2025-02-12
  • Undisclosure    โลกในกล่อง

    ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งเช็กซองบุหรี่ที่บรรจุอยู่ในกระเป๋าทรงดัฟเฟิลทำจากหนังแท้อย่างดี ตัวกระเป๋าเป็นรุ่นพรีเมี่ยมออกแบบโดยดีไซเนอร์ชื่อดัง ฟลาเวีย นีโร พอนับหมดแล้วพบว่ายังเหลืออยู่ครบยี่สิบซอง เทียบจากครั้งก่อน แสดงว่าไม่มีใครขโมยไป“นับทำไมวะ ใช้ไม่ได้อยู่ดี”เจ้ากระเป๋าใบนี้ถูกนำมาใช้เฉพาะกิจเพื่อเก็บแพ็กบุหรี่ยี่ห้อ ‘เบสต์ อามี’ ที่เขาหวงแหน มันเป็นยี่ห้อบุหรี่ที่ดีที่สุดในโลกก็ว่าได้ (ถึงแม้ว่าจะยัดไส้พิเศษก็ตาม) มันเข้าคู่กับไฟแช็กแฮนด์เมดที่ทำจากทองคำขาวบริสุทธิ์ตกแต่งด้วยเพชรรูปไข่ขนาดเล็กรายล้อม บนตัวไฟแช็กมีอักษรย่อสลัก ‘บี.อาร์.’ เขาอยากจุดบุหรี่ขึ้นสูบเหลือเกิน อยากเห็นบุหรี่ในมือค่อย ๆ มอดไหม้พร้อมกับสูดควันศักดิ์สิทธิ์เข้าปอด แต่เมื่อนึกถึงผลที่จะตามมา เขาจำต้องเก็บมันไว้ในกระเป๋าเสื้อแทน หนทางที่จะได้สูบมันอีกครั้งอาจจะยังมีอยู่...หรือไม่มีวันนั้นแล้วก็ได้ พอคิดแบบนี้ เขาถอนหายใจด้วยความเสียดายของถ้าเลือกได้ เบนอยากสูบบุหรี่ให้หมดไปมากกว่าทิ้งมันไว้แบบนี้ บุหรี่พวกนี้ไม่สมควรถูกเก็บไว้ประหนึ่งของดูต่างหน้าในพ

    Last Updated : 2025-02-12
  • Undisclosure    หนุ่มขี้เซา

    เบนไม่มีโอกาสเห็นท้องฟ้าสีครามอีกเลยตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ เขาลุกขึ้น เก็บถาดแล้วทิ้งลงในกล่องที่เขียนแจ้งว่า ‘ถังขยะ’ จากนั้นเดินตามกลุ่มเด็กทั้งสามไป เขาอยากรู้จักเด็กคนนั้นตรงข้ามห้องอาหารมีจอสีดำขนาดยักษ์ติดอยู่ตรงกำแพง แต่ไม่มีข้อความอะไรประกาศทิ้งไว้ หรือพูดให้ถูกก็คือ หน้าจอนั้นดำมืดตั้งแต่วันที่เขาเข้ามาอยู่ที่นี่แล้วรัฐบาลใช้สถานที่แห่งนี้จัดโปรแกรมบำบัดสำหรับกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มต้องสงสัย ทว่าผู้คนที่อยู่ในนี้เรียกว่า ‘หอพัก’ ไม่มีการรักษาใด ๆ ทั้งนั้น ไม่มีพนักงาน หมอ หรือเจ้าหน้าที่เลยสักคน ไม่มีแม้แต่ตารางเวลากำหนดกิจกรรมต่าง ๆ พวกเขาทั้งหมดอาศัยอยู่กันอย่างอิสระ ทว่าเป็นอิสระในเชิงพิลึก ก็แค่สามารถทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจภายในคุกประหลาดแห่งนี้มากกว่าหอพักแห่งนี้เปรียบเสมือนกับชุมชนขนาดย่อม คนที่อยู่อาศัยสามารถใช้สิ่งอำนวยความสะดวกได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ สปา ฟิตเนสยิม สนามกีฬา ผับ เลานจ์ โรงภาพยนตร์ขนาดเล็กที่มักเล่นหนังโรแมนติกสมัยรุ่นคุณย่าคุณยาย เรียกได้ว่ามีทุกสิ่งที่สามารถพบเจอในโรงแรมหรู ยกเว้นแต่ว่าไม่มีห้องสมุดแ

    Last Updated : 2025-02-12
  • Undisclosure    กัญชามิตร

    “เออ ไม่มีน่ะสิ”พวกเขาหยุดอยู่หน้าประตูโลหะสีดำ มันเป็นสีดำ เพราะอย่างนี้นี่เอง ห้องนี้จึงโดดเด่นขึ้นมาจากห้องอื่น เพราะสีที่ต่างกับที่อื่นทำให้เบนรู้สึกถูกใจขึ้นมาทันที แม้ยังไม่เห็นว่าข้างในเป็นอย่างไรก็ตาม สีดำเป็นสีคลาสสิกและสะท้อนรสนิยม เพราะสีดำมีสไตล์ในตัวมันเองอเล็กซ์เปิดประตูนำเข้าไป ดวงตาสีดำเปิดประกายเจิดจ้าขึ้นทันทีที่ก้าวเข้ามาอยู่ในห้องเหมือนเด็กที่เห็นของเล่นถูกใจ ที่แท้ ห้องนี้คือห้องท้องฟ้าจำลองขนาดใหญ่ ทรงกลม มีโปรเจ็คเตอร์ตั้งอยู่ตรงกลางห้อง พร้อมกับที่นั่งรอบกำแพงจำนวนสิบที่ ท้องฟ้าจำลองยามค่ำคืนอวดดวงดาวนับพันที่กำลังส่องแสงระยิบระยิบ ตรงข้ามกับอเล็กซ์ เบนกลับผิดหวังที่มันเป็นท้องฟ้าจำลอง เพราะเขาไม่ใช่คนที่สนใจดูดาวพวกนี้เลย ทั้งความเงียบและท้องฟ้ามืด ๆ ดาวอะไรก็ไม่รู้ เบนไม่รู้สึกว่ามันน่าตื่นเต้น เขายอมอยู่ในห้องฉายภาพยนตร์ที่มีแต่หนังโรแมนติกเก่า ๆ เล่าเรื่องราวความรักน้ำเน่ายังดีกว่า อเล็กซ์เดินวนไปวนมา จ้องมองท้องฟ้าข้างบนด้วยท่าทางครึกครื้น“นี่นะเหรอ...ที่ที่นายบอกว่าเจ๋ง”“เดี๋ยวสิวะ อ

    Last Updated : 2025-02-12
  • Undisclosure    สวนอีเดน

    เสียงเพลงในเลานจ์ดังพอสมควร แม้ดนตรีจะเป็นแจ๊สแต่ก็ออกมาจากตู้เพลง หาใช่ฝีมือนักดนตรีไม่ ครั้งแรกที่เธอเข้ามาที่นี่อดทึ่งและประหลาดใจไม่ได้เมื่อเห็นทุกสิ่งทุกอย่างขับเคลื่อนอัตโนมัติ ปราศจากหุ่นยนต์หรือแรงงานมนุษย์คอยควบคุม หรืออาจจะอยู่เบื้องหลัง มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายคอยปรนเปรอ ทุกอย่างเหมือนดีกว่าที่คิดไว้ อย่างน้อยเธอยังมีเพื่อน ทว่าความเหงาไม่ได้ทุเลาลงเลยหากอยากฟังเพลงอะไร อยากดื่มอะไร เพียงใช้ปลายนิ้วสัมผัสหน้าจอหรือออกคำสั่งด้วยเสียง ไม่กี่วินาทีของที่สั่งก็ถูกนำมาเสิร์ฟ เธอเคยเห็นเทคโนโลยีแบบนี้แค่ในหนังเท่านั้น รัฐบาลโกหกประชาชนไว้หลายอย่าง พวกเขาปิดกั้นความรู้ไม่ให้ชาวนิวโฮปเข้าถึงดั่งอดัมกับอีฟ ทุกคนอยู่ในโลกอนาคต แต่กลับใช้ชีวิตเหมือนคนในยุคก่อน และความจริงที่เธอรับรู้ในตอนนี้อาจเป็นเพียงความจริงเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของความจริงทั้งหมดก็ได้ไม่มีใครให้คำตอบหรืออธิบายข้อสงสัยอะไรทั้งสิ้น คนที่ถูกจับทั้งหมดถูกทิ้งให้ใช้ชีวิตอยู่ในเกาะปลีกวิเวกสุดหรู อเล็กซิสเฝ้าถามตัวเองว่า ที่นี่มีไว้ทำอะไรกัน เธอไม่รู้ว่ามันอยู่ไกลกว่าบ้านหรือเปล่า หรือว่าอยู่ใน

    Last Updated : 2025-02-12
  • Undisclosure    เพื่อนใหม่

    “หวัดดี พวกนาย!” เทสซ่าเดินเข้ามา สวยเด่นมาแต่ไกล พอมาถึงก็เอามือเท้าเอว ส่วนอีกข้างเกาะขอบเก้าอี้ไว้ เทสซ่าสวมเสื้อสายเดี่ยวสีดำครึ่งตัวกับกางเกงทหารสีกากี ศีรษะของเธออยู่ประมาณหูของอเล็กซิส“ได้เวลาพอดีเลย ลุยเลยเพื่อน!” เวดเชียร์เมื่อพวกพี่น้องโธมัสโผล่มาเทสซ่าอายุสิบเก้า เป็นเพื่อนคนแรกของพวกเขา เธอทำตัวเหมือนกับเป็นเจ้าของที่นี่ คอยให้คำแนะนำและพาเดินชมรอบ ๆ จนพวกอเล็กซิสรู้ว่าที่ไหนเป็นอะไรบ้าง พวกเทสซ่าแทบจะเป็นประชากรกลุ่มแรกเลยก็ว่าได้ เพราะอยู่ที่มาก่อนเด็กซานโบซ่าราว ๆ สามอาทิตย์ เธอเล่าว่า ตอนแรกมีคนไม่เยอะเท่าไรนัก แต่เมื่อมีหน้าใหม่เข้ามาเรื่อย ๆ ที่นี่ก็เริ่มแน่นขึ้นอย่างที่เห็น“อเล็กซิสจ๊ะ ฉันแอบเห็นเธอถามหาจอห์น ลีลอยด์ที่โรงหนังด้วยนะ ถ้าพวกฉันไม่เห็นเขา ก็ไม่มีใครเห็นแล้วล่ะ เชื่อเถอะ” เทสซ่าว่า สายตามองไปยังเสื้อแจ๊กเกตของเพื่อนสาว “ตัวนี้ก็สวยจัง”ส่วนอีกสองคนที่อยู่ข้างหลังเทสซ่าคือ มินนี่และโนเอล มินนี่เป็นน้องเล็กสุด อายุสิบเจ็ดปี แม้จะเป็นพี่น้องกัน แต่มินนี่ไม่เหมือนเทสซ่า เด็กสาว

    Last Updated : 2025-02-12
  • Undisclosure    คนที่ปรับตัวได้

    วินาทีที่อเล็กซิสหันไปมอง เด็กคนนั้นมองกลับมาอย่างรวดเร็ว มันเป็นความรู้สึกที่ประหลาด เขามักจะมองกลับมาเร็วเสมอเหมือนรู้สึกตัวตลอดเวลาว่ามีคนมองอยู่ รูปลักษณ์ของเขาดึงดูดสายตาของอเล็กซิสได้สนิท ทั้งผมสีเงินและดวงตาสีฟ้าเข้ม สีหน้าของเขาเหมือนกับกระจกสะท้อนสีหน้าของอเล็กซิสเช่นกัน เธอสอดสงสัยไม่ได้ว่าเขามีเรดาร์ติดตัวหรืออย่างไร ในเมื่อเขาสามารถจับสายตาคนได้ตลอด เธอจำเด็กหนุ่มคนนี้ได้ตั้งแต่วันแรกที่มาถึงที่นี่ พวกเขาเหมือนรู้จักกันมาก่อน อันที่จริง ควรใช้คำว่า พอคุ้นหน้าคุ้นตามากกว่า“เด็กคนนั้น” โนเอลพึมพำ “เขาไม่คุยกับใครเลย พวกเราพยายามจะเป็นเพื่อนกับเขา แต่เขากลับอยากอยู่คนเดียว เป็นเด็กที่แปลกจริง ๆ ไม่มีใครรู้ชื่อเขาเลยด้วย”“ไมเคิล” อเล็กซิสตอบ“เธอรู้จักเขาเหรอ” เวดถาม เริ่มกระวนกระวายขึ้นมาทันที“อื้อ เราเคยเจอกันนานพอสมควร ฉันว่าเขาน่าจะเป็นคนขี้อายมาก ๆ ...หรือไม่ก็ ไม่ชอบเข้าสังคม ไม่สิ ไม่ชอบคน”“แล้วไปรู้จักกันตอนไหน”“ตอนที่ไปเทสต์หน้ากล้อง”

    Last Updated : 2025-02-12

Latest chapter

  • Undisclosure    ก้าวที่หนึ่ง

    บลูรู้แล้วว่าเขาได้อยู่กลุ่มบี แต่ต้องลุ้นว่าตัวเองจะได้อยู่หน่วยไหน และสุดท้าย “บลู เทอร์นเนอร์” เขาตบบ่าเพียซและโอลิแวนเพื่อไปเข้ากับหน่วยรุก ชายหนุ่มจงใจเดินผ่านลูกบ้านสาวตาน้ำเงิน เธออยู่กลุ่มบีกับเขา แต่น่าจะเป็นหน่วยสนับสนุน สีหน้าเด็กสาวบ่งบอกว่าประหลาดใจเมื่อเห็นบลู แค่นั้นเขาพอใจกลุ่มของเขาจะบุกตึกร้าง ซึ่งบลูไม่รู้ว่ามันคือที่ไหนเพราะไม่ได้เข้าอบรมเหมือนคนอื่น แม้เขาเคยเห็นราซาในสภาพเมืองที่มีชีวิตมาก่อนเมืองร้าง แต่ในเมื่อมันเป็นเมืองร้าง ตึกทุกแห่งย่อมร้างผู้คน รถถังเคลื่อนทัพนำไปก่อน ภายในใจเริ่มปล่อยวางเมื่อเห็นว่าพวกทหารเป็นฝ่ายห้อมล้อมกลุ่มอาสา หาได้ปล่อยให้พวกเขาเป็นแนวหน้าไม่ แม้จะอยู่ในหน่วยรุก พวกเขายังรอฟังคำสั่งจากหัวหน้าหน่วยอยู่ดี และพวกทหารจะเป็นฝ่ายเปิดคอยระแวดระวังให้ก่อน กลุ่มอาสามาเพิ่มกำลังให้จริงดังคำเชิญชวน บลูค่อนข้างเหงานิดหน่อยเพราะโอลิแวนและเพียซอยู่แถวหลัง ๆ แม้บางคนเขารู้จักแต่แค่เพียงผิวเผิน บลูจึงผูกสัมพันธ์กับรีเวอร์ที่เป็นหนึ่งในกลุ่มต้องสงสัยไม่กี่คนในหน่วยนี้ เขาเรียกว่าไรดี การต่อสู้คราวนั้นก่อให้เกิดมิตรภาพได้ ด

  • Undisclosure    จัดกลุ่ม

    “ถ้างั้นเลือกสักอย่างเผื่อไว้” เจ้าหน้าที่กดปุ่มบนโต๊ะ ตัวแผ่นพลิกขึ้นเผยให้เห็นคลังอาวุธข้างใน ทว่าแม้บลูจะพอเดาได้ว่าอันไหนปืน อันไหนมีด แต่เขาใช้ไม่เป็นเลยสักอัน จึงสุ่มเลือกมีดสั้นด้ามหนาขึ้นมา มันมีลักษณะเหมือนมีดพกธรรมดา เขาถนัดของเบสิก“อันนี้สามารถเสียบไว้ใต้แขน”ชายหนุ่มหงายแขนตัวเองขึ้น เห็นที่เสียบเล็ก ๆ ซ่อนอยู่ “ใช้ยังไงเหรอ”ทหารหนุ่มจับมีดแล้วตวัด ใบมีดโผล่ออกมา “เหมือนมีดพกก็จริง” เขาตวัดกลับ ใบมีดกลับเข้าไปข้างใน บลูจ้องตาไม่กะพริบ เมื่อใช้นิ้วโป้งกดตรงสัน ใบมีดโค้งโผล่ออกมาจากปลายทั้งสองด้าน และเมื่อมันถูกเขวี้ยงออกไปกลับแล่นกลับมาหาเจ้าของคล้ายกับบูมเมอแรงนั่นเอง “ลองดู”บลูมองมีดในมือแล้วตวัดไปตวัดมา จากนั้นลองใช้แบบบูมเมอแรง อุปกรณ์นั้นใช้ง่าย อาจเป็นเพราะมันมีระบบอัตโนมัติติดตั้งเอาไว้ให้ ไม่จำเป็นต้องใช้ความเชี่ยวชาญมากนัก“มีสองที่ ก็เอาไปสอง” เขาหงายมือแล้วเสียบมีด จากที่ตัวเบาก็เริ่มพะรุงพะรังขึ้นนิดหน่อย “หมดแล้วใช่ไหม” เขาถาม&ldqu

  • Undisclosure    ทดลองอาวุธ

    หน้าประตูเหล็กสีดำ นายทหารสองนายยืนประจำการเฝ้าอยู่ พวกเขามองไปรอบ ๆ แปลกใจที่ไม่เห็นกลุ่มคนเลยทั้งที่นาฬิกาบ่งบอกเวลาว่าเพิ่งเจ็ดโมงยี่สิบเจ็ดนาที ในใจบลูหวาดกลัวว่ามันอาจเป็นกลลวง และเอมอนอาจตกอยู่ในอันตรายจึงปรี่เข้าไปหาเจ้าหน้าที่ทั้งสอง พอเห็นชายสองคนตรงเข้ามา ทั้งสองนายพร้อมใจกันยกมือให้พวกเขาหยุด “อาสาสมัครใช่หรือไม่ ทำไมเพิ่งมาเอาป่านนี้”“พวกเราไม่ได้ลงทะเบียน” เขาตอบ “พวกเขาไปกันแล้วเหรอ”ทั้งสองคนมองหน้ากัน คนหนึ่งพยักหน้า ชี้นิ้วโป้งไปทางประตู “เตรียมตัวอยู่ข้างใน ถ้างั้นพวกนายก็กลับไปซะ”“เดี๋ยว” อีกคนยั้งเพื่อนไว้ ทำมือบอกพวกเขาให้รอตรงนี้ทหารคนนั้นทาบมือกับบานประตู แผ่นเหล็กเลื่อนลงเผยให้เห็นช่องทึบข้างใน บลูจะชะโงกหน้าดู แต่เมื่อเห็นอีกคนที่เฝ้าอยู่เหล่มองก็ก้มหน้า ไม่กี่วินาทีต่อมา “บอกชื่อพวกนายมา” เขาเงยหน้าขึ้นสบตากับริงโก้ แล้วตอบไป“บลู เทอร์นเนอร์”“โบธิสต้า ซานโดวอล”นั่นคือจริงของริงโก้ เขาไม่รู้ที่มาว่าทำไมชายคนนี

  • Undisclosure    พี่ชายปากแข็ง

    บลูสลัดมือแล้วเช็ดเสื้อชายหนุ่ม เวลาเขาอยู่ข้างริงโก้ทีไรรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นมนุษย์บอบบางที่พยายามล้มช้างแมมมอธ พอโดนแกล้งคืน ริงโก้ฮึดฮัด บลูยิ่งหัวเราะสะใจ “ฝากที่เหลือด้วยนะจ๊ะที่รัก” แล้วคว้าลังเบียร์เดินออกไปเลย ใครจะอยู่ฟังคำสบถแสลงหูเล่าดาดฟ้ากลายเป็นที่ประจำของบลูไปเสียแล้ว มือหนึ่งดีดฝาไฟแช๊ก อีกมือหยิบบุหรี่ ปากคาบแล้วจุดลมเย็นพัดผ่านร่าง หากไม่ได้สวมเสื้อแจ็กเกตกันหนาวคงสะท้านน่าดู ไม่ทันที่เขาจะหย่อนก้นลงบนม้านั่ง เอมอนเปิดประตูเหล็กอย่างแรง มือหนึ่งถือกล่องกระดาษ อีกข้างถือแผ่นพับกระดาษ “เล่นกันไหม”“เออ จัดเลย”น้องชายกางตารางกระดาษลงบนโต๊ะ เทของข้างในออกจากกล่อง มันเป็นฝาขวดที่เขาสะสม จากนั้นวางมันลงแทนหมากบนตาราง “ยัยเด็กนั่นเป็นไงบ้างล่ะ”เอมอนแบมือ เขาส่งซองบุหรี่ให้ “อย่างที่ริงโก้ว่า เธอใช้ยาระงับอาการ ตอนริงโก้เคาะเลยเปิดให้ไม่ได้ ตอนนี้เดสก็ทดลองถอนพิษให้อยู่” ชายหนุ่มหยุดคิด “แต่ไม่น่าจะทำได้”ดูเหมือนว่าความล้มเหลวทำให้เอมอนเลิกโลกสวย “แ

  • Undisclosure    กลุ่มเทอร์เนอร์

    เครื่องหมักเนยผสมกระเทียม มะนาว และผักชีลอยฟุ้งส่งความหอมละมุนผสมเปรี้ยว กลิ่นตลบผสานกับเนื้อแซลมอนบนกระทะร้อนส่งเสียงฉู่ฉ่าชวนให้น้ำลายสอ ด้านหลังโอลิแวน ไฟในเตาอบส่องสว่างฉายให้เห็นเนื้อหมูสันในอบกับมันฝรั่งหั่นเต๋าคละเคล้ากับเครื่องเทศมากมาย ส่วนผู้ปรุงแต่งสวมผ้ากันเปื้อนสีส้มอ่อน มือจับชามและทัพพีคลุกน้ำสลัด มีเพียซ ลูกมือคอยหั่นมะเขือเทศเป็นแว่นอยู่ข้างกาย ระหว่างนั้นเอมอนวางผ้าปูเตรียมมีด ส้อมและแก้ว แต่ละคนล้วนปิดปากเงียบ ไม่พูดคุยกัน หมกมุ่นกับเรื่องในใจบลูเห็นดังนั้นจึงถามขึ้น “พรุ่งนี้ไปกันกี่โมง” ตั้งใจทำลายความเงียบและปลุกทุกคนออกจากภวังค์ เขาเขยิบก้นนั่งบนเก้าอี้ริมข้างเคาท์เตอร์บาร์“เจ็ดโมง” เอมอนวางแก้วเปล่าลงข้างหน้าพี่ชาย “หรือจะเอาเบียร์”“น้ำนี่แหละ” บลูตอบ “เจ็ดเลยเหรอวะ โคตรเช้า”เมื่อเดสซิเรเดินเข้ามา ไอ้น้องบ้าผู้หญิงไม่รอช้าบริการหญิงสาวทันที เธอนั่งมุมโต๊ะ จากนั้นริงโก้เข้ามาเป็นคนสุดท้าย เลือกนั่งข้างบลู สายตามองถาดเนื้อหมูในเตาอบ พอโอลิแวนวางชามสลัดลงตรงกลาง หนุ่มร่างใหญ่ยืดตัวขึ้นตักแบ่งใส่จานตัวเองทันที บลูฟังเดสซิเรทวนกำหนดการสำหรับวันพรุ่งนี้ พวกเหล่าอ

  • Undisclosure    จงอยู่ห่างคนยียวน

    สาวผมแดงนั่งมองพวกเขาอยู่บนเตียง ผ้าห่มคลุมร่างกายเปลือยเปล่าเพราะเสื้อผ้าถูกถอดออกทิ้งไว้บนพื้น อเล็กซิสกระตุกแขนไมเคิลที่ยืนแข็งเป็นท่อนไม้ เธอส่งยิ้มให้เด็กหนุ่มมากกว่าแสดงออกว่าโกรธ “อยากร่วมด้วยเหรอ” เสียงของหล่อนแหบกระเส่าจงใจยั่วอีกฝ่าย สุดท้ายอเล็กซิสลากไมเคิลออกไปได้สำเร็จไมเคิลมองหน้าเธอ ใบหน้าแดงก่ำ “ฉันคิดว่าเธอถูกทำร้าย” แล้วชี้ไปที่บลูชายหนุ่มชี้หน้าตัวเอง “ฮะ ถูกทำร้าย?” จากนั้นระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น จากที่โมโหดูจะพอใจมากกว่า “ขอโทษที่รุนแรงจนนายตกใจ แต่ช่วยไม่ได้เพราะลีลาชั้นมันเผ็ดร้อน” เขาตบไหล่ชายหนุ่ม แต่ไมเคิลมีกะใจเบี่ยงตัวออก“คือ...บลู ไมเคิลค่อนข้างจะสับสนนิดหน่อย ฉันขอโทษจริง ๆ เขาไม่ได้ตั้งใจ” อเล็กซิสแก้ตัวให้เพื่อนและพยายามมองแค่หน้าของบลู ปกติแล้วเขาไม่ใช่ผู้ชายในแบบที่เธอชอบ หรือตรงสเป็ก แต่หุ่นของเขานี่มัน...หน้าอกชายหนุ่มยังคงสั่นไปตามแรงหัวเราะ “พูดจริงดิ เพื่อนเธอไม่รู้จักเสียงเมื่อกี้เหรอ เอ แล้วที่อยู่ในห้องกันสองคนทำอะไรกันวะ” เขาหันไป

  • Undisclosure    ไมเคิลผู้ใสซื่อ

    ไมเคิลพยายามทำตัวเป็นปกติ เขามานอนเล่นในห้องเธอตั้งแต่สี่โมงเย็น เพราะในห้องตัวเองเต็มไปด้วยอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และสามหนุ่มไอทีอย่างโคดี้ เรมี กับอาคุสะที่พยายามถอดรหัสเข้าเครื่องให้ได้ ทอยซิตี้ไม่ใช่เมืองพักตากอากาศ หากพวกเขาไม่ดื่มหรือชมลานประลองก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรอีก ทั้งสองคุยกันว่าจะหางานทำช่วงเย็นดีไหม อย่างน้อยอาจแก้เบื่อแถมได้ชิปนิดหน่อย ไมเคิลเคยลองทำแล้วออกมาและอาจจะกลับเข้าไปใหม่วันนี้จึงผ่านไปอย่างช้า ๆ สำหรับทั้งสองคน บางครั้งเธอนั่งจดบันทึกอยู่ เขาจะเริ่มเข้ามากระแซะ หลายครั้งเธออยากให้ตัวเองคล้อยตามแต่มันมีบางอย่างที่ทำให้เธอหยุด สัมผัสของไมเคิลไม่ได้ทำให้เธอใจสั่น ทั้งที่หน้าตาและรูปร่างเป็นต่อ อาจเป็นเพราะแววตาของเขาแสดงความอยากรู้อยากเห็นมากกว่าต้องการจริง ๆ และอาจเป็นเพราะเขาทำให้เธอรู้สึกกึ่ง ๆ ระหว่างออสโล่กับลิ้ตเติ้ลชาร์ลีมากเกินไป ความใกล้ชิดของพวกเขายิ่งกว่าก่อนอเล็กซ์จะตีจากเสียอีก แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องนอนตัก กอด หรือถูกเนื้อต้องตัว พวกเขาไม่เคยไปไกลเกินกว่านี้ ถ้าไม่นับจูบทดลองคราวนั้นและสุดท้าย เด็กหนุ่มมักผล็อยหลับบนตักเธอเสมอ ไมเคิลชอบให้เธอเ

  • Undisclosure    คำสารภาพหรือลวง?

    คำสุดท้ายแรงเหมือนตบหน้าโดยไม่ใช่มือ แววตาหยิ่งผยองเมื่อครู่กลายเป็นหวาดหวั่น และเมื่ออเล็กซิสเห็นเงาตัวเองในดวงตาคู่นั้นก็ตกใจไม่แพ้กัน ความเกลียดชังในตัวเธอส่งผ่านออกมาจนเห็นชัดผ่านเงาสะท้อน และแม้แต่ตัวเองยังแทบรับไม่ได้กับใบหน้านั้น ดวงตาเธอเหลือบมองเทสซ่าและรีเวอร์ที่ยังคุยกันดี ไม่มีทะเลาะ จึงจับตัวมินนี่เลื่อนออกไป ให้ตัวเองมีช่องว่างปลีกตัวมินนี่ไม่สนใจ เธอเขยิบตัวแล้วก้าวไปเกาะกำแพงข้างหน้าแทน สายตาจดจ่ออยู่ที่พี่สาวตัวเองมากกว่าคนรอบข้าง เวลานี้อเล็กซิสไม่สนใจแล้วว่าต้องรอเทสซ่าหรือไม่ แต่ฉวยโอกาสนี้กลับเขต ใบหน้าอาฆาตเมื่อครู่ยังติดอยู่ในหัว“ฉันไม่เคยอยากให้พวกเขาตาย”เท้าเธอหยุดกะทันหัน เบลินดาเดินตามมา “เวดยังไม่ตาย” เธอสวน หันกลับไปเผชิญหน้ากับผู้ที่มาจากที่เดียวกัน “เธอไม่เคยขอโทษ ไม่เคยรู้สึกผิด ตลอดเวลาฉันเห็นเธอลอยหน้าลอยตาราวกับตัวเองเป็นเหยื่อ...”“เพราะฉันเป็นเหยื่อ” เด็กสาวตรงหน้ากำหมัดแน่น มือทั้งสองข้างสั่นอเล็กซิสหัวเราะ “กล้าพูด”“เหยื่อของผองเพื่อ

  • Undisclosure    ไม่ให้อภัย

    “โอ้” ทำไมเราต้องรู้เรื่องที่ไม่ควรรู้ด้วยนะ เธอเหลือบมองเพื่อนสาวอีกที สองคนนั้นยังหัวเราะคิกคัก ไม่รู้ตัวว่ามีคนกล่าวถึง “หมอนั่นไม่ได้เป็นโรคจิตใช่ไหม” เธอถาม เพราะมินนี่ไม่เคยเก็บความลับของพี่สาวอยู่มินนี่ส่ายหัว “รีเวอร์น่ารักจะตาย ไม่กวนประสาทเหมือนโคดี้ด้วย เขาเป็นผู้ใหญ่ โนเอลก็ชอบ” แววตาสีฟ้าอ่อนสลดลงเมื่อนึกถึงพี่ชายที่จากไป อเล็กซิสลุกขึ้นกอดเธอเป็นการปลอบโยน “ถ้าเขาไม่หายไปและไม่ทำให้เทสซ่าเสียใจก็ดี แต่มันไม่ได้แปลว่าฉันเชียร์เขาแทนโคดี้นะ” เด็กสาวเงยหน้าทำตาปริบ ๆ ถึงแม้เธอค่อนข้างประหลาดไปสักหน่อย แต่เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่เอ็นดูน้องเล็กของพวกโธมัสคนนี้อเล็กซิสยิ้ม “ฉันรู้”เธอมองรีเวอร์อีกครั้ง ครั้งนี้เขารู้ตัวจึงเดินหายไป เธอไม่เคยรู้เรื่องเขาเลย ไม่แน่ใจว่าเทสซ่าจะมีปฏิกิริยาอย่างไรกับแฟนเก่า แต่ภาวนาว่าอย่าให้มีเรื่องขัดข้องใจกับแฟนปัจจุบันก็คงดี อเล็กซิสถอนหายใจ เธอนึกถึงวันที่อเล็กซ์เจอเธอแอบอยู่หลังถังขยะข้างตึกที่พักไมเคิล สติตกอยู่ใต้อำนาจฤทธิ์ยา ถึงแม้เธอไม่อาจตอบได้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status