แชร์

บทที่ 2

ผู้เขียน: ชะนีติดมันส์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-27 21:13:33

บ่ายคล้อยของวันต่อมา.. พวกเธอเป็นคนทำงานกลางคืน และเวลากลางวันคือเวลานอน กว่าจะตื่นมาอีกทีก็ตอนที่ตั้งนาฬิกาปลุกไว้

โอ๊ยตายแล้วกว่าจะกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอีก ลืมตั้งนาฬิกาใหม่เลย

ข้าวปุ้นรีบเก็บของส่วนตัวที่นำมาเมื่อคืนนี้ใส่กระเป๋า แล้วก็ลงมาแจ้งกับทางพนักงานว่าเธอจะออกแล้ว ห้องทุกห้องของแขกเมื่อคืนนี้ทางเจ้าบ่าวเป็นคนรับผิดชอบ แต่ก่อนออกก็ต้องไปเช็คเอาท์ออกก่อน

"ขอโทษนะคะคุณชื่ออะไรคะ"

"ชื่อข้าวปุ้นค่ะ ต้องยื่นบัตรด้วยไหมคะ"

"ไม่ต้องหรอกค่ะ ถ้าคุณชื่อข้าวปุ้นเชิญทางนี้ก่อนนะคะ"

"ค่ะ..?" ถึงแม้จะสงสัยแต่ข้าวปุ้นก็ยอมเดินตามพนักงานไป

พนักงานพาเธอเข้ามานั่งอยู่ในห้องรับรองแขก และบอกว่าให้นั่งรอก่อนเดี๋ยวจะมีคนมาหา

หน้าห้องรับรองแขกในเวลาต่อมา..

"คนที่มาขอพบผมอยู่ที่ไหน"

"รออยู่ในห้องรับรองแขกค่ะ"

"ใครเหรอ"

"คุณอัคคีเข้าไปดูเถอะค่ะ" ว่าแล้วพนักงานก็เดินกลับไปประจำจุดทำงานของตัวเอง

คล้อยหลังพนักงานอัคคีก็เปิดประตูเข้าไปในห้องรับรองแขกชั้นหนึ่งของโรงแรม

"??"

"......." ข้าวปุ้นหันไปมองก็เห็นว่าเป็นผู้ชายคนนั้น เขามีอะไรจะคุยกับเรา หรือเรื่องงานที่จะให้มาช่วย แต่มันใช่เวลาไหมเพราะถ้าช้ากว่านี้เธอต้องไปทำงานสายแน่

"พนักงานบอกว่าคุณมีอะไรจะคุยกับผมเหรอ"

ข้าวปุ้นยังไม่ทันได้ถามอีกฝ่ายก็ถามมาก่อน เราอยากคุยกับเขาตอนไหนเนี่ย เขาเองไม่ใช่หรือที่บอกให้พนักงานพาเรามารออยู่ห้องนี้?

"มีอะไรที่พูดไม่ได้หรือเปล่า" อัคคีเห็นอีกฝ่ายเอาแต่เงียบแถมยังมองหน้าเขา

ที่ข้าวปุ้นมองเพราะสงสัยเขาความจำสั้นเหรอ ถ้าไม่ใช่แบบนั้นแล้วมันเรื่องอะไร ..ฉับพลันนั้นข้าวปุ้นก็นึกอะไรขึ้นมาได้ อย่าบอกนะว่าเป็นฝีมือแม่ระย้าอีกแล้ว

โอ๊ยฉันจะบ้าตาย ถ้าครั้งนั้นไม่เพราะแกล้งบอกว่าสนใจผู้ชายคนอื่น ระย้าก็คงจะสงสัยว่าเธอกับตุนท์มีความสัมพันธ์กัน ข้าวปุ้นเลยตัดปัญหาบอกว่าสนใจอัคคี และมันก็เป็นต้นเหตุของเรื่องวุ่นวายทั้งหมด รวมถึงตอนที่เธอเสียจูบให้กับอัคคีในห้องพิเศษนั้นด้วย

"คือฉัน..ฉัน.."

"ผมมีเวลาไม่มาก ถ้ายังนึกไม่ออกค่อยเอาไว้คุยวันหลัง" ชายหนุ่มพูดพลางดันตัวลุกขึ้นพร้อมกับติดกระดุมเสื้อสูทเตรียมที่จะออกไป

"ฉันอยากจะคุยเรื่องงานค่ะ" ถ้าไม่พูดอะไรออกมาสักหน่อยเดี๋ยวก็หาว่าอยากเจอหน้าเขามากจนใช้แผนให้เขาเข้ามาหาในห้องนี้

"เรื่องงาน?"

"ใช่ค่ะเรื่องงานที่คุณจะให้ฉันมาช่วย"

"เรื่องนั้นถ้าคุณพร้อมตอนไหนก็เข้ามาได้เลย สถานที่อยู่ด้านหลังของโรงแรม"

"...ค่ะ"

"ยังมีอะไรอีกไหม"

"ไม่มีแล้วค่ะ" พูดจบร่างเล็กก็ยันตัวลุกขึ้นแล้วสาวเท้าก้าวเดินนำหน้าออกจากห้องรับรองแขก จะให้เขาออกก่อนไม่ได้ เพราะถ้าไม่งั้นเธอต้องเสียหน้ามากกว่านี้แน่

ตุ๊บ..

"โอ๊ย" แต่เพราะรีบเกินเท้าของเธอเลยชนเข้ากับขอบประตู

"ซี๊ดดด"

"เป็นอะไรไหม" อัคคีเดินเข้ามาใกล้กำลังจะก้มลงไปดูเท้าข้างที่ชนขอบประตูเมื่อครู่

"ไม่เป็นไรค่ะ" เจ็บไม่เท่าไรหรอกแต่อายนี่สิโอ๊ยจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนเนี่ย เดินมาอย่างมั่นใจแต่เตะขอบประตูสะงั้น

อัคคีมองตามแผ่นหลังของหญิงสาวที่พยายามเดินให้ปกติที่สุด เตะจนได้ยินเสียงมีหรือที่จะไม่เจ็บ

มาถึงรถข้าวปุ้นก็รีบขับออกไป ใช้เวลานานมากกว่าจะมาถึงบ้าน คิดว่ายังไงวันนี้ก็คงเข้างานไม่ทันหรอก เธอเลยไลน์ไปแจ้งภาณุก่อนกลัวว่าจะมีคนถามหา ภาณุก็คือผู้ช่วยของนเรศวร

"มาก็ดีแล้ว ฉันจะให้เอาผ้าไปร้านซักแห้งหน่อย ชุดนี้เพิ่งได้มา" ว่าแล้วเกตุแก้วก็ส่งชุดนั้นให้กับข้าวปุ้น เกตุแก้วก็คือแม่เลี้ยงของทรงอัปสรเอง และเป็นแม่แท้ๆ ของออมสิน ตอนนี้ออมสินย้ายออกไปอยู่กับสามีแล้ว สามีของเธอก็คือเจ้าเวหาเพื่อนในกลุ่มเดียวกับนเรศวร

"ทำไมไม่ให้คนรถเอาออกไปล่ะคะ"

"ไหนๆ เธอก็จะออกจากบ้านอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ แล้วนี่ไปไหนมาทำไมถึงเพิ่งกลับ"

"ไปร่วมงานแต่งเพื่อนมาค่ะ"

"ช่างเถอะฉันไม่อยากจะรู้หรอก และพรุ่งนี้ต้องนำชุดกลับมาด้วยนะ ตอนเย็นฉันมีงานเลี้ยงที่โรงแรม"

"...ค่ะ" ต้องกัดฟันตอบรับไป เธอกลับเช้ามืดร้านซักแห้งก็ยังไม่เปิด ถ้ารอรับชุดมีหวังไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันพอดี

หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จข้าวปุ้นก็ขับรถออกมา เธอมีรถอยู่คันหนึ่ง ทีแรกทรงอัปสรจะซื้อให้แต่ข้าวปุ้นบอกว่าแค่ดาวน์ให้ก็พอเดี๋ยวเธอหาเงินส่งค่างวดเอง เพราะเงินครอบครัวนี้ที่เลี้ยงดูเธอมาก็หมดไปไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไรแล้ว

ร้านประจำที่นายหญิงคนใหม่ใช้บริการอยู่คนละทางกับที่ทำงาน ถ้าไปแวะร้านนั้นเธอต้องใช้ถนนอีกเส้นเพื่อไปทำงาน ว่าเส้นหลักติดแล้วเส้นนี้ติดยิ่งกว่าอีก

มาถึงข้าวปุ้นก็เริ่มทำงานเลย วันนี้คู่บ่าวสาวป้ายแดงไม่มาทำงานเธอต้องรับงานทั้งหมดคนเดียว แต่ก็ยังดีที่ภาณุช่วยอีกแรง

"คุณข้าวคะลูกค้ามีปัญหาค่ะ" ปัญหาจากลูกค้ามีทุกวันอยู่แล้ว แต่ส่วนมากหัวหน้าจะเป็นคนจัดการ วันนี้หัวหน้าไม่อยู่สักคนข้าวปุ้นเลยต้องไปเคลียร์ให้

"ทำไมที่นี่บริการชุ่ยจังเลย" มาถึงลูกค้าก็โวยวาย

"ทางเราต้องขออภัยด้วยนะคะ เดี๋ยวจะเปลี่ยนอาหารใหม่ให้ค่ะ"

"แล้วอย่าคิดเงินล่ะ"

"อาหารที่ทำให้มาผิดไม่คิดค่ะ" เธอหมายถึงว่าทางร้านจะรับผิดชอบแค่อาหารที่เสิร์ฟผิด

"เสิร์ฟอาหารผิดต้องเลี้ยงไม่ใช่เหรอ"

"ใครบอกคะ"

"คราวก่อนยัง.." ลูกค้ากำลังจะพลั้งปากพูดออกไป เพราะคราวก่อนโกหกไปว่าตัวเองแพ้อาหารทะเลแล้วได้กินฟรี

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • hot love พิษรักเพลิงอัคคี   บทที่ 140 ตอนจบ

    Hot love พิษรักรังสิมันต์ บทที่ 140 ตอนจบ"ได้ยินแม่บอกว่าคุณยังไม่ทานข้าวเที่ยงเหรอ"แพรไหมพยักหน้าตอบไม่ใช่แค่ข้าวเที่ยงหรอกข้าวเช้ายังทานไม่ค่อยลงเลยด้วยความเป็นหมอเขาเลยสอบถามอาการของเธอให้แน่ใจ ว่าเธอมีอาการแพ้ท้องแบบไหนเพราะการแพ้ท้องมีหลายแบบ พอรู้ถึงอาการของเธอแล้วรังสิมันต์เลยเข้าไปในตัวเมืองเพื่อจัดยามาให้เธอทานก่อน และหาอาหารบำรุงครรภ์มาเตรียมไว้ให้เธอในระหว่างที่เขาทำเรื่องวันต่อมา.."แม่เก็บของทำไมคะ" แพรไหมเปลี่ยนเสื้อผ้านักศึกษาออกมาเตรียมจะไปเรียนแล้วก็เห็นว่าแม่กำลังเก็บของ"เราจะย้ายไปอยู่กรุงเทพฯไงลูก""ย้าย?""คุณหมอยังไม่บอกเราเหรอ""ยังไม่บอกค่ะ" เมื่อคืนนี้กินยาที่เขาให้ไปง่วงนอนมากเลยหลับ ตอนที่เธอหลับรังสิมันต์ออกมาปรึกษาแม่เรื่องนี้ ทั้งสองเลยตกลงว่าจะไปอยู่ที่นั่น แต่ก่อนนางอาจจะยังลังเลอยู่แต่ตอนนี้มีหลานเล็กๆ แถมหลานอีกคนก็กำลังจะเกิด นางจะเอาแต่ความคิดตัวเองเป็นใหญ่ไม่ได้แล้ว"แล้วพี่หมอล่ะลูก""ตอนนี้เข้าห้องน้ำอยู่ค่ะ"ไม่นานรังสิมันต์ก็ออกมาจากห้องเห็นแม่ของเธอกำลังเก็บของอยู่พอดี"ตอนเช้าผมจะพาแพรไปคุยเรื่องเรียนก่อนนะครับ ช่วงสายๆ เดี๋ยวผมมาช่วยเก

  • hot love พิษรักเพลิงอัคคี   บทที่ 139

    Hot love พิษรักรังสิมันต์ บทที่ 139 >>{"สวัสดีครับคุณแม่ ผมนึกว่าแพร"} {"เมื่อกี้ยัยแพรก็อยู่ตรงนี้แหละ แต่ตอนนี้เข้าไปอ้วก"}>>{"แพรเป็นอะไรครับ?"} {"ตาหมอมีธุระด่วนจะคุยกับน้องไหมล่ะ"}>>{"พอดีว่าพรุ่งนี้ผมต้องเดินทางไปสัมมนาที่ต่างประเทศครับเลยอยากจะคุยกับแพรก่อน ว่าแต่วันนี้แพรทานอะไรบ้างครับ"} เขาวินิจฉัยเธอผ่านทางโทรศัพท์ เพราะคนที่จะอาเจียนได้มีหลายปัจจัย แต่ก็ไม่เป็นผลดีต่อร่างกายทั้งนั้นเลย ร่างกายถึงได้ขับของพวกนั้นออกมา {"วันนี้น้องไปเรียนแม่ไม่รู้ว่าที่มหาวิทยาลัยทานอะไรบ้างเดี๋ยวรอน้องออกมาก่อนนะลูก"}ไม่นานแพรไหมก็ออกมาแม่เลยบอกว่าคุณหมอรอสายอยู่ {"ค่ะคุณหมอ"}>>{"แพรมีอาการเป็นยังไงบ้าง"} {"เวียนหัวคลื่นไส้ค่ะ"}>>{"มีอาการเวียนหัวร่วมด้วยเหรอ? เป็นมากี่วันแล้ว"} {"หลายวันแล้วค่ะ แต่เป็นๆ หายๆ"}>>{"ไปหาหมอหรือยัง"} {"ทีแรกแพรนึกว่าอาการนี้มันจะหายไปแล้วเลยไม่ได้ไปหาหมอค่ะ"}>>{"ประจำเดือนเดือนนี้มาหรือยัง"} ประโยคต่อมาของคำถามทำให้แพรไหมถึงกับชะงัก {"เกี่ยวอะไรกับประจำเดือนคะ"}>>{"ตอบผมมาก่อน"} {"ยังไม่มาเลยค่ะ"}>>{"เดือนสุดท้ายมาวันที่เ

  • hot love พิษรักเพลิงอัคคี   บทที่ 138

    Hot love พิษรักรังสิมันต์ บทที่ 138เช้าวันต่อมา.."สายแล้ว" มือหนาเอื้อมไปบีบจมูกเธอเบาๆ เพื่อเป็นการปลุกให้ตื่น"อืม" นอกจากจะไม่ตื่นแล้วเธอยังคงฝังใบหน้าลงกับแผ่นอกของเขาแนบแน่นขึ้น"วันนี้วันศุกร์ต้องไปเรียนไม่ใช่เหรอ""ไม่ไป" เสียงงัวเงียเปล่งออกมาเบาๆ โดยที่ไม่ได้ขยับเขยื้อน"ไม่ไปไม่ได้""ถ้ากลับมากลัวไม่เจอคุณหมอ""ผมจะอยู่ที่นี่จนกว่าแม่จะกลับมา""จริงหรือคะ" จากที่งัวเงียอยู่เมื่อครู่ดูสดใสขึ้นมาทันทีทันใด"จริงสิ""ถ้าแพรไปเรียนคุณหมอก็เหงาสิคะ""ไม่เป็นไรหรอก"เขาไม่เป็นไรแต่เรานี่สิจะไม่ใจขาดก่อนเหรอ ยิ่งรู้ว่าเขารออยู่ที่บ้านเธอรู้ว่าตัวเองต้องคิดถึงเขามากแน่เลยแต่แพรไหมก็ต้องไปเรียนเดี๋ยวเขาหาว่าเกเรรังสิมันต์ขับรถของแม่มาส่งเธอที่มหาวิทยาลัย เพราะเขาไม่ได้เอารถมาด้วย ตอนมาที่นี่ก็ให้รถที่สนามบินมาส่ง"คุณหมอลงไปด้วยกันไหมคะ""ไปได้เหรอ" เขากลัวว่าเธอจะอายเพื่อนในมหาวิทยาลัยที่มีแฟนอายุเยอะกว่า"ไปได้สิคะ" อยากจะอวดแฟนใจจะขาดอยู่แล้ว พอลงจากรถแพรไหมก็ควงแขนของคุณหมอเดินเข้ามาที่คณะ"แพร?" มีเพื่อนหลายคนที่รู้จักคุณหมอ แต่ก็มีอีกหลายคนที่ไม่รู้จัก "คนนี้เหรอคุณหมอสุดหล

  • hot love พิษรักเพลิงอัคคี   บทที่ 137

    ตุ๊บ! อยู่ดีๆ ร่างของจิรายุก็กระเด็นออกจากประตู"กรี๊ดด" สาวๆ สองคนที่ยืนรอลุ้นอยู่ด้านหลังตกใจกรีดร้องเสียงดัง เพราะคิดว่าขโมยขึ้นบ้านจริงๆ ส่วนจิรายุที่เป็นทัพหน้าตอนนี้กองอยู่กับพื้นหน้าประตูบ้านชั้นบน"โอ๊ยย" มีไม้ในมือแท้ๆ แต่ก็ทำอะไรมันไม่ได้"ใคร! ออกมานะ" แพรไหมที่เข้าไปพยุงจิรายุตะโกนเข้าไปในบ้าน บอกให้คนที่ทำร้ายเพื่อนออกมาจากที่ซ่อนจังหวะเดียวกันนั้นเจ้าของเท้าที่ถีบจิรายุก็เผยโฉม"คุณหมอ?" แพรไหมแทบขยี้ตาดูอีกรอบว่าเธอมองถูกหรือเปล่า หรือคิดถึงเขามากจนมองโจรเป็นเขา"ผมเอง" ตอนที่พูดสายตาเขามองมือเธอที่กำลังพยุงไอ้ผู้ชายคนนั้นลุกขึ้นอยู่"คุณหมอจริงๆ ด้วย" แพรไหมรีบปล่อยมือแล้วตรงเข้าไปหาเขา "คุณหมอมาได้ยังไงคะ""นั่งเครื่องมา""แล้วคุณหมอรู้จักบ้านของแพรได้ยังไงคะ" นอกจากรู้จักบ้านแล้วเขาต้องมีกุญแจบ้านเธอด้วยถึงจะเข้ามาได้แบบนี้"เจอแม่ที่โรงพยาบาล" ตอนที่พูดเขายังคงมีท่าทีไม่สบอารมณ์สายตายังคงมองไปดูไอ้คนที่มันสำออยอยู่ที่จริงจิรายุไม่ได้สำออยหรอกใครเจอเข้าไปก็ต้องจุกกันบ้างแหละ"จิเธอเป็นอะไรไหม" พอนึกได้ว่าลืมเพื่อนแพรไหมกำลังจะหันกลับไปถามแต่ถูกมือหนาโอบเข้ามาก่อนจะ

  • hot love พิษรักเพลิงอัคคี   บทที่ 136

    Hot love พิษรักรังสิมันต์ บทที่ 136เพราะแบบนี้แหละเขาถึงยังไม่บอกเรื่องการประเมิน กลัวว่าเธอจะไม่สบายใจ เพราะผลการประเมินคะแนนของเธอได้มากที่สุดและเรื่องนี้อาจารย์ก็ปล่อยไปไม่ได้ เพราะนักศึกษาข้องใจกับการให้คะแนน แถมคนที่ให้คะแนนก็เป็นคนรักของคนที่ได้คะแนนสูงสุดด้วยทางอาจารย์เลยต้องโทรติดต่อกลับไปที่โรงพยาบาล ว่าพอจะให้เหตุผลเรื่องการให้คะแนนได้ไหม หรือถ้าให้เหตุผลไม่ได้ก็จะขอให้ทางโรงพยาบาลแก้คะแนนตามความเหมาะสม ไม่อยากให้มีผลกระทบต่อการฝึกงานของนักศึกษาเลยแต่พออาจารย์ได้รับรู้ถึงเหตุผลนั้นแล้ว รวมถึงคลิปที่ทางคุณหมอรังสิมันต์เตรียมไว้ให้ ก็ได้นำหลักฐานนั้นเข้ามาแจ้งกับนักศึกษาที่รังสิมันต์ไม่บอกเหตุผลตั้งแต่แรกเพราะเขาอยากกลั่นกรองคนในชีวิตของเธอด้วย ถ้าทุกคนยอมรับโดยไม่มีข้อกังขานั่นหมายถึงเพื่อนแท้เพื่อนแท้จะไม่แอบแทงข้างหลังกัน และเพื่อนแท้ก็ต้องมองเห็นว่าเธอช่วยเพื่อนมากแค่ไหน แต่คนที่กล้ามีข้อสงสัยนั่นหมายถึงเห็นแก่ตัวมากหวังแต่ได้อยู่ฝ่ายเดียวหลังจากที่อาจารย์นำหลักฐานการให้คะแนนเข้ามาบอกนักศึกษาที่สงสัยเสร็จแล้วทุกคนก็เงียบ เพราะมันก็เป็นจริง แบบที่คุณหมอให้เหตุผลมาว่า

  • hot love พิษรักเพลิงอัคคี   บทที่ 135

    Hot love พิษรักรังสิมันต์ บทที่ 135เช้าของวันต่อมา.. รังสิมันต์ไม่ได้บอกเธอหรอกว่าผลการประเมินของเธอได้เท่าไร แต่เขาก็ได้จนเสร็จเพราะถึงแม้เธอจะไม่ทำต่อเขาก็ทำเองได้ ..ที่ไม่บอกกลัวเธอจะคิดมากและแพรไหมก็เข้าใจ ในเมื่อเขาบอกไม่ได้ก็ไม่เป็นไรเพราะถึงยังไงเดี๋ยวก็คงไปรู้ที่มหาวิทยาลัยเองมาถึงโรงพยาบาลนักศึกษาฝึกงานก็ถูกเรียกตัวให้มาพูดคุยกัน เพราะพรุ่งนี้แล้วที่ทุกคนต้องเดินทางกลับ"สวัสดีครับ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการฝึกงานนี้จะช่วยให้นักศึกษาทุกท่านได้เรียนรู้การใช้ชีวิตนอกรั้วมหาวิทยาลัย""นอกจากจะหล่อแล้วแถมคำพูดคำจายังกินใจอีก""อย่าปลื้มมากนั่นผัวเพื่อน""เราก็มาฝึกงานที่นี่เป็นเดือนๆ ทำไมไม่เจอเหมือนยัยแพรเลย""แกได้ยินสุภาษิตไหมที่ว่าแข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แต่มาแข่งบุญวาสนามันแข่งกันไม่ได้หรอกนะ""ถ้านักศึกษาเรียนจบแล้วใครต้องการอยากมาสายอาชีพนี้ โรงพยาบาลแห่งนี้ยินดีต้อนรับนะครับ""จริงหรือคะคุณหมอ ดีจังเลยค่ะ""ผลการประเมินผมได้ส่งอีเมลไปทางมหาวิทยาลัยให้แล้วนะครับ"นักศึกษาทุกคนต่างก็กล่าวคำขอบคุณก่อนจะแยกย้ายไปแผนกที่รับผิดชอบ ส่วนมากวันนี้เป็นวันร่ำลาพี่ๆ ที่ช่วยกันฝึกสอน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status