เข้าสู่ระบบบทที่7
วันนี้ช่วงบ่ายผมไม่มีเรียนเพราะอาจารย์ยกคลาส ผมเลยถือโอกาสนี้เพื่อที่จะไปสืบหาความจริงเรื่องพี่นักรบกับไอ้พี่แมค และไหนจะคนที่ชื่อปาล์มนั้นอีก ว่าจริงๆ แล้วเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ ซึ่งคนที่จะให้คำตอบผมได้ดีที่สุดคือ ไอ้พี่แมค แต่ปัญหาคือ ผมไม่รู้ว่าไอ้พี่มันเรียนอยู่คณะไหนนี่แหละ และวันนี้ไอ้กาวก็ไม่มาเรียนเพราะท้องเสียอีก
ไอ้เพื่อนเวรนี่ไม่เคยอยู่เวลาต้องการความช่วยเหลือเลยจริงๆ
วันนี้ผมเลยต้องไปสืบและเสือกแค่คนเดียว
“อ้าวน้องจอมทัพ เลิกเรียนแล้วเหรอจ๊ะ?” อยู่ๆ พี่วุ้นก็เดินเข้ามาทัก
“อ้อ ครับ พอดีวันนี้อาจารย์ยกคลาส”
“สบายเลยล่ะสิ”
“ครับ คือพี่วุ้นครับ ผมมีเรื่องจะถาม”
“เรื่องอะไรจ๊ะ”
“คือผมอยากรู้ว่าพี่แมคเรียนคณะไหนเหรอครับ”
“แมคเหรอ เรียนคณะเดียวกับนักรบนั่นแหละ น้องจอมทัพมีอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าครับ แค่ถามเฉยๆ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
ผมมาถึงคณะสถาปัตย์ ด้วยสภาพเหงื่อท่วมตัว ก็อย่างที่บอกว่าคณะของผมกับคณะของพี่นักรบอยู่ไกลกันมาก และตอนนี้ก็เป็นเวลาบ่ายด้วย แดดกำลังแรงได้ที่เลย ผมเลยหาที่นั่งใต้ถุนตึกเพื่อพักเหนื่อย แต่ก็ต้องหาที่ที่ลับสายตาผู้คนหน่อย เพราะไม่อยากให้พี่นักรบมันมาเจอ
เพราะถ้าพี่นักรบมันรู้ว่าผมมาที่คณะ มีหวังผมโดนบ่นหูชาแน่ ยิ่งถ้ารู้ว่าผมมาที่นี่เพราะเรื่องเมื่อวานด้วยแล้ว ผมจะต้องโดนมันบ่นไปอีกเป็นเดือนๆ ดีไม่ดีอาจโดนพี่มันโกรธเอาด้วยซ้ำ
คือผมอยากรู้เรื่องระหว่างพี่นักรบกับไอ้พี่แมคมาก แต่ถ้าถามพี่นักรบยังไงเสียผมก็ไม่ได้คำตอบอยู่ดี ผมรู้จักพี่มันมาทั้งชีวิต ยังไงพี่นักรบมันก็ไม่ยอมให้ผมรู้เรื่องที่มันไม่สบายใจหรอก
แต่ความอยากรู้ของผมมันไม่เข้าใครออกใครไง คือผมเป็นคนที่อยากรู้อะไรแล้วคือต้องรู้ให้ได้ เรื่องนี้ก็เหมือนกัน ผมจะต้องรู้ความจริงทั้งหมดให้ได้วันนี้
“มาหากูถึงนี่เลยเหรอ?” เสียงอันแสนจะคุ้นหูเอ่ยขึ้น
ผมเงยหน้ามองคนตรงหน้าที่เดาได้ไม่ยากว่าใคร แต่ที่สงสัยคือมันรู้ได้ไงวะว่าผมมาหามัน
“ละเมอเหรอครับ ใครมาหาพี่? ผมมาหาพี่นักรบ” นี่คือการแถครับ แถไว้ก่อนพี่สอนไว้
“มึงไม่ได้มาหาพี่มึงหรอก มึงมาหากูนี่แหละ” แล้วพี่แมคมันก็นั่งลงที่ม้านั่งฝั่งตรงข้ามกับผม
“แล้วทำไมผมต้องมาหาพี่ด้วย?”
“เพราะมึงอยากรู้เรื่องเมื่อวาน และกูก็รู้ว่าพี่มึงไม่เคยเล่าอะไรให้มึงฟังด้วย กูพูดถูกไหม?” สมแล้วที่เคยเป็นเพื่อนรักพี่นักรบ รู้จักพี่ผมดีพอๆ กับผมที่เป็นน้องแท้ๆ เลย
“ถ้าจะรู้ดีขนาดนี้ ก็เล่ามาเลยเถอะจะได้ไม่ต้องถามเยอะ”
“ง่ายไปไหม? อยู่ดีๆ จะให้กูเล่าเรื่องสำคัญขนาดนั้น มันก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนกันหน่อย”
เออ กูลืมไปว่ากูกำลังพูดอยู่กับใคร คนที่กวนตีนตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแบบไอ้พี่แมค คงไม่เล่าให้ฟังง่ายๆ หรอก
“พี่จะให้ผมแลกกับอะไร”
“มึงอยากรู้หนึ่งเรื่อง ก็ต้องแลกมาหนึ่งอย่าง”
โห! มึงเอาไตกูไปเลยเถอะ เพราะสิ่งที่กูอยากรู้ไม่ใช่แค่หนึ่งเรื่องแน่ๆ
“โถ่ ยังไงผมก็เป็นน้องเพื่อนรักพี่นะ อย่าเขี้ยวดิ”
“มึงลืมไปแล้วเหรอว่าเมื่อวานพี่มึงบอกว่าไง มันบอกว่าไม่เคยมีเพื่อนแบบกู” โอเค กูเข้าใจ
“เพราะฉะนั้นมึงก็คือคนอื่นสำหรับกู แต่ถ้าอยากเป็นมากกว่าคนอื่นกูก็ยินดีนะ” มึงยิ้มเจ้าเล่ห์อีกแล้วนะไอ้พี่แมค
“ก็ได้ ในฐานะที่ผมเป็นคนอื่น” กูไม่ยอมเป็นมากกว่าคนอื่นสำหรับมึงแน่ไอ้พี่แมค
“ผมจะทำตามข้อตกลงก็ได้ อยากรู้หนึ่งเรื่องต้องแลกหนึ่งอย่าง”
“ตามนั้น”
“เรื่องแรก คือผมอยากรู้ว่าคนที่ชื่อปาล์มเป็นใคร และเกี่ยวข้องอะไรกับพี่นักรบ”
“มึงถามเกินหนึ่งเรื่องนะ สรุปมึงจะแลกสองอย่างภายในวันนี้เลยใช่ไหม?”
แหม! กูกะจะเนียนสักหน่อย เสือกรู้ทันอีก
“โอเค เรื่องแรกของวันนี้ก็แล้วกัน คนที่ชื่อปาล์มเป็นใคร”
บทที่30“มานั่งเป็นหมาหงอยอะไรอยู่ตรงนี้” เสียงที่แสนจะคุ้นหูเอ่ยถามขึ้น เสียงที่ผมไม่ได้ยินมันมาสักพักหนึ่งแล้ว“มาถึงก็กวนประสาทเลยนะพี่” พี่แมคมันนั่งลงข้างๆ กับผมที่ตรงบันไดหน้าคณะของพี่มันนั่นแหละ ซึ่งผมมารอพี่นักรบกลับบ้านเหมือนทุกวันทั้งที่ปกติพี่นักรบจะไปรับผมที่คณะเอง แต่วันนี้ผมแค่รู้สึกอยากจะเดินออกกำลังกายเฉยๆ ก็เลยบอกกับพี่มันว่าจะมารอที่คณะ“มึงก็ลามปามกูไม่เปลี่ยนเลยนะ ไม่เจอกันไม่กี่วันไม่น่ารักขึ้นเลย” พี่มันว่าใครมันจะไปน่ารักเท่าน้องรหัสของพี่ล่ะ เห็นหน้าพี่มันแล้วโคตรจะหงุดหงิดเลยให้ตายเถอะ“สรุปมึงมาทำอะไรที่คณะกูเนี่ย อย่าบอกนะว่ามาหากู นี่คิดถึงกูขนาดนี้เลยเหรอ?” พี่แมคมันส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาให้“ใครคิดถึงพี่? อย่ามามั่ว อีกอย่างผมจะมารอใครก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพี่สักหน่อย”“เนี่ย เมื่อไหร่จะทำตัวน่ารักกับกูเหมือนที่ทำกับไอ้วุ้นมันบ้าง““ก็พี่วุ้นเขาไม่ได้กวนประสาทเหมือนพี่นี่ ในเมื่อผมไม่น่ารักก็ไม่ต้องมายุ่ง” ผมบอกก่อนที่จะลุกขึ้น ในเมื่อผมมันไม่น่ารักก็ไม่ต้องมายุ่ง ต่างคนต่างอยู่ก็แล้วกัน“แล้วนี่มึงจะไปไหน”“เรื่องของผม” ผมบอกแล้วก็เดินหนีพี่มันมา“จอมทัพ ม
บทที่29หนึ่งอาทิตย์ต่อมา“ช่วงนี้พี่แมคมันไม่มาตามตอแยมึงแล้วเหรอวะจอม” ไอ้กาวที่นั่งกินข้าวเที่ยงอยู่ด้วยกันกับผมเอ่ยถาม“ถามกู แล้วกูจะไปถามใคร? คิดก่อนพูดบ้างสิ” ผมตอบมันไป แต่ช่วงนี้ผมไม่เจอไอ้พี่แมคมันเลยจริงๆ ก็ตั้งแต่หลังจบงานเฟรชชี่เมื่ออาทิตย์ก่อนโน้น พี่มันก็หายตัวไปเลย ไม่มาตามวอแวเหมือนแต่ก่อน“แล้วมึงจะอารมณ์สียใส่กูทำไมเนี่ย? กูก็แค่ถามดีๆ ไหม?”“กูก็ตอบปกติไหม?”“ปกติมากมั้ง” มันสวนกลับ“อย่ามาหาเรื่องกูได้ป่ะ รีบแดกไปเลยมึงน่ะ” อากาศร้อนๆ แบบนี้ยังจะมาพูดจากวนประสาทกันอีก โคตรจะหงุดหงิดเลย“จอมทัพ” เสียงเรียกของน้ำชาที่ดังเข้ามา ก่อนที่เจ้าตัวจะนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ กันกับผม พร้อมกับเพื่อนๆ ของเธออีกสองคน ทำให้ผมหันความสนใจไปที่น้ำชาแทนไอ้กาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน “น้ำชา มากินข้าวเหรอ?”“ใช่ เรามาหาเพื่อนที่อยู่คณะนี้น่ะ ก็เลยมากินข้าวกันที่นี่เลย”“นี่กาวเพื่อนเราเอง” ผมแนะนำให้น้ำชารู้จักกับไอ้กาว ส่วนทางน้ำชาเองก็แนะนำเพื่อนของตัวเองที่มาด้วยให้พวกผมรู้จัก“เสียดายที่ปริมไม่ได้มาด้วย ไม่อย่างนั้นจะได้ทำความรู้จักกับจอมทัพเอาไว้”“ปริมเหรอ?” ชื่อเหมือนคนที่พ
บทที่28วันนี้ผมจะได้เจอกับพี่ปาล์มเสียที เพราะเมื่อวานพี่ปาล์มเพิ่งจะบินกลับมาจากอังกฤษ แล้วก็เคลียร์เรื่องต่างๆ กับพี่นักรบจนเข้าใจกันดีแล้ววันนี้พี่นักรบเลยอยากให้ผมกับพี่ปาล์มได้รู้จักกันเอาไว้ เลยนัดกันออกมากินข้าว แล้วก็อาจจะหากิจกรรมอย่างอื่นทำต่อ เช่นดูหนัง แล้วก็เดินซื้อของกัน“ได้เจอตัวจริงเสียที ไดยินแต่ชื่อมานานละ” พี่ปาล์มบอก เมื่อเรามาถึงที่ร้านอาหารกันแล้ว“พี่ปาล์มหมายควาว่ายังไงครับ”“ก็แมคมันมาบ่นถึงให้ฟังอยู่เป็นประจำตั้งแต่มัธยมแล้ว ส่วนคนนี้ก็เอาแต่หวงน้อง” ประโยคหลังพี่ปาล์หันไปพูดกับพี่นักรบ“เลยไม่เคยมีใครได้เจอน้องจอมเลยจนกระทั่งเข้ามหาลัย ฯ นันแหละ เพื่อนในกลุ่มถึงได้เจอตัวจริงที่ไม่ได้มาแต่ชื่อเหมือนที่ผ่านมา”“ก็ไอ้แมคมันพูดมาก น่ารำคาญจะตาย” พี่นักรบมันว่า“รำคาญ หรือว่าหวงน้อง?” พี่ปาล์มหันไปพูดประชดใส่พี่มัน พี่นักรบมันเลยไม่พูดต่อสุดท้ายก็มีคนที่ปราบพี่มันอยู่จนได้นะ“ว่าแต่พี่แมคพูดถึงผมว่ายังไงเหรอครับ” อันนี้คือสิ่งที่ผมอยากรู้ เพราะคนอย่างไอ้พี่แมคมันไม่น่าจะพูดถึงผมในทางที่ดีแน่“แมคมันมาเล่าว่าน้องจอมน่ารัก ตะมุตะมิ น่าบีบแก้มที่สุด แล้วมันใช้เส
บทที่27ช่วงเย็น หลังจากที่การประกวดดาวเดือนสิ้นสุดลง และผู้ที่ครองตำแหน่งดาวเดือนของปีนี้ก็ได้แก่คณะสถาปัตย์ของพี่นักรบกับพี่แมคในงานมีการจัดบูทต่างๆ เอาไว้มากมาย มีทั้งการเล่นเกมต่างๆ การขายของจากบรรดานักศึกษาแต่ละคณะ“อยากกินอะไรไหม“ พี่แมคเอ่ยถาม หลังจากที่เราทั้งสองคนเดินกันจนทั่วงาน ซึ่งไม่รู้ว่าพี่มันไม่คิดที่จะอยู่กับพวกเพื่อนของตัวเองบ้างหรือไง จนไอ้กาวที่ตอนแรกก็เดินอยู่กับผมดีๆ ตอนนี้มันก็ขอกลับไปก่อนแล้ว แถมมันยังแชทมาบ่นอีกว่าพี่แมคอยู่ด้วยแล้วมันเกร็ง ทำตัวไม่ถูกก็พี่แกเล่นเอาแต่มองมันตาขวางแบบนั้น เป็นใครก็เกร็งกันทั้งนั้นไหมล่ะ“ไม่ล่ะ ผมยังไม่ค่อยหิว เดี๋ยวค่อยหาอะไรกินตอนกลับพร้อมพี่นักรบ””พี่มึงก็น่าจะดึกนั่นแหละ กูได้ข่าวว่าทางคณะจะพาน้องๆ ไปเลี้ยงฉลองที่ได้ตำแหน่งกันด้วย ดูแล้วกูอาจจะต้องไปส่งมึงแทน“”แล้วพี่ไม่ต้องไปกับพวกเขาเหรอ“”กูไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประกวดสักหน่อย แต่พี่ของมึงน่ะเกี่ยวเต็มๆ เลยต้องไปกับเขาแบบเลี่ยงไม่ได้” พอพี่แมคพูดจบ ก็มีสายเข้าจากพี่นักรบ ว่าวันนี้อาจจะต้องกลับดึก พี่มันชวนให้ไปงานเลี้ยงกับพวกพี่ๆ เขา แต่ผมเห็นว่าไม่ค่อยรู้จักกั
บทที่26วันนี้พี่นักรบต้องออกจากบ้านตั้งแต่เช้า เพื่อที่จะไปเตรียมงาน เฟรชชี่ไนท์ที่จะจัดขึ้นในช่วงเย็น ซึ่งผมเองก็ต้องไปเหมือนกัน เพียงแต่ว่าผมจะตามไปทีหลังเพราะผมเองก็ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมอะไรมากนอกจากขึ้นสแตนเชียร์และพี่นักรบก็เห็นว่าวันนี้ไอ้กาวมันจะมารับเอง พี่มันก็เลยไม่ว่าอะไรที่ผมจะขอตามไปทีหลัง ไม่ได้ไปพร้อมพี่มันตั้งแต่เช้าเสียงกดกริ่งหน้าบ้านดังขึ้น ซึ่งไอ้กาวมันคงจะมาถึงแล้วนั่นแหละ ผมจึงรีบวิ่งออกไปอย่างไว เดี๋ยวมันจะด่าเอาได้ว่าต้องมารอผมแต่งตัว ไอ้นี่มันปากแจ๋วเสียด้วยแต่เมื่อผมมาถึงหน้าบ้าน กลับไม่คุ้นกับรถที่มาจอดที่รั้วหน้าบ้านเอาเสียเลย เพราะนั่นไม่ใช่รถของไอ้กาว“ยืนมองอยู่ได้ จะขึ้นมาไหม?” เมื่อคนที่อยู่ในรถลดกระจกลง ผมถึงได้รู้ว่าคนที่อยู่ภายในรถไม่ใช่ไอ้กาว แต่เป็นไอ้พี่แมค เพราะรถที่พี่มันขับมาคนละคันกับที่เคยมาส่งผมที่บ้านครั้งนั้น ผมเลยไม่คุ้น“ทำไมเป็นพี่ล่ะ”“ก็กูว่าง เลยจะมารับมึงไง กูเห็นนักรบมันไปตั้งแต่เช้าละ”“แต่ผมนัดเพื่อนเอาไว้แล้วนะพี่ คงจะไม่รบกวนพี่ดีกว่า”“เพื่อนมึงไปมหาลัยฯ แล้ว”“หมายความว่าไงวะพี่ แล้วพี่รู้ได้ยังไงว่าไอ้กาวมันไปมหาลัยฯ แล
บทที่25วันนี้ถือเป็นวันแรกในรอบหลายอาทิตย์ที่พี่นักรบมันมีเวลามากินข้าวเช้ากับผม แต่พี่มันพาผมมากินข้าวที่โรงอาหารของคณะของพี่มันนะ ไม่ใช่ที่คณะของผมคือผมไม่เขาใจว่าพี่มันจะลำบากย้อนไปย้อนมาเพื่อที่จะต้องไปส่งผมที่คณะทำไม ในเมื่อโรงอาหารที่คณะของผมมันถึงก่อนที่จะไปคณะของพี่มันด้วยซ้ำแต่พี่มันอ้างว่าข้าวหมูแดงที่คณะของมันอร่อยนักอร่อยหนา ก็เอาตามที่พี่มันสบายใจเลยก็แล้วกัน“หวัดดีครับน้องจอม” อยู่ๆ เสียงของพี่แมคมันก็เอ่ยขึ้น แล้วก็มานั่งแหมะอยู่ที่เก้าอี้ข้างๆ กันกับผม พร้อมกับแก้วนมเย็นปั่นมาวางตรงหน้าอีกหนึ่งแก้ว“กูซื้อมาฝาก”“อะไรของมึง น้องจงน้องจอมอะไร อย่ามาทะลึ่ง” ส่วนนี่ก็เป็นเสียงของพี่นักรบมัน“โห แตะไม่ได้เลยนะ กูก็เรียกน้องจอมอย่างที่ไอ้วุ้นมันเรียก”“แต่เจตนามันไม่เหมือนกัน”“มึงก็คิดมาก กูก็แค่เอ็นดูน้องมึงเหมือนน้องเหมือนนุ่ง”“สาบาน!”“ไม่ ทำไมกูต้องสาบาน”“ชิ!”“แล้วตกลงวันนี้ต้องไปดูน้องดาวเดือนอีกหรือเปล่า”“ไม่แล้ว วันนี้กูไม่ว่าง เพราะติดทำงานที่ต้องส่งอาจารย์ชิ้นสุดท้าย ว่าแต่มึงเถอะทำเสร็จแล้วใช่ไหม ถึงได้ไปสิงอยู่แต่กับน้องกูที่คณะ อย่าคิดว่ากูไม่รู้นะว่ามึ







