LOGINศรายุทธให้คนที่ไว้ใจได้เอารถไปส่งให้บัวบงกชที่บ้าน เขาสั่งให้เรื่องนี้เป็นความลับสูงสุดไม่ให้คนของเขาบอกเรื่องบัวบงกชให้ใครรู้ โดยเฉพาะสินีนาถเพราะไม่อยากให้เธอคิดมากและเป็นกังวล เพราะจิตใจผู้หญิงยากที่จะเข้าใจอาจนำพาเรื่องร้ายมาในภายหลังได้
บัวบงกชรับรถจากคนของศรายุทธมาเธอก็ยิ่งรู้สึกติดหนี้บุญคุณเขามากขึ้นเรื่อยๆ คิดว่ายิ่งเอากับเขามากเท่าไร เธอก็จะหลุดจากเขาได้ยากขึ้นเท่านั้น เธอจึงตั้งใจว่าจะขอเขาเท่าที่ต้องใช้จ่ายจริงๆ และไม่ฟุ่มเฟือย เพื่อตอนที่เธอไปจากเขาจะได้ไม่รู้สึกผิดมากนัก ถึงจะใช้ร่างกายเข้าแลก แต่ความสุขสบายที่เธอได้รับนั้นมันมากเกินกว่าคนที่ตัดสินใจทำอาชีพอย่างเธอจะได้รับ
บัวบงกชขับรถไปที่มหาวิทยาลัยแล้วจอดไว้ที่คณะอื่นเพราะไม่อยากให้เพื่อนเห็น เธอทำเรื่องยื่นฝึกงานที่บริษัทของศรายุทธตามที่เขาบอก โดยมีเพื่อนบางคนเห็นเธอลงชื่อบริษัทเลิศประจักษ์เป็นอันดับแรกต่างก็เตือนเธอว่าที่นี่ไม่รับนักศึกษาฝึกงาน เพราะงานที่นั่นมีความลับสูง เสี่ยงให้คนภายนอกล่วงรู้ข้อมูลไม่ได้
บัวบงกชอ่านหนังสือติวสอบกับเพื่อนๆ จนถึงช่วงเวลาบ่ายแก่ๆ เธอก็ขอตัวกลับเพราะไม่มีเรียนต่อ แล้วเดินแยกไปขึ้นรถของเธอที่จอดเอาไว้ ก่อนจะขับกลับบ้านเพื่อไปเตรียมอาหารซึ่งศรายุทธบอกว่าต่อไปนี้จะมาทานอาหารเย็นกับเธอทุกวัน
ศรายุทธมาถึงในตอนเย็น วันนี้เขาเหนื่อยล้าและไม่มีอารมณ์กับเรื่องอย่างว่า บัวบงกชจึงได้แต่บีบนวดคลายเมื่อยให้เขาเท่านั้น โดยใส่ชุดนางพยาบาลที่เขาเคยเอาให้
“คุณยุทธคะ คือว่าสัปดาห์หน้าบัวต้องสอบ แล้วพอดีว่าประจำเดือนของบัวก็จะมาแล้วด้วย บัวเลยจะขอพักเรื่องบนเตียงสักหนึ่งสัปดาห์ได้หรือเปล่าคะ” เธอขอร้องเขาเสียงเบา กลัวว่าจะพูดไม่เข้าหูเขา
“อืม ได้สิ แต่ว่าฉันก็จะมาทานข้าวด้วยทุกวันอยู่ดี” ศรายุทธบอกเธอ แล้วหลับตานั่งให้เธอนวดอย่างผ่อนคลาย
“งั้นต่อไปวันไหนบัวไม่ใส่ชุดที่ฉันเอามาให้ แปลว่าวันนั้นบัวไม่พร้อมก็แล้วกัน” ศรายุทธบอกเธอแล้วลุกขึ้นบิดตัวไปมาแล้วหันมามองบัวบงกชที่ช่างเอาใจและมักเกรงกลัวเขาอยู่เสมอ
“ทำไมเวลาขออะไรจะพูดอะไรต้องทำเสียงเบาเหมือนกลัวฉันขนาดนั้น ฉันน่ากลัวมากนักหรือไง” ศรายุทธถามเธอแล้วยิ้มบางๆ
บัวบงกชไม่รู้ว่าทำไมวันนี้เขาถึงอารมณ์ดีนัก หรือว่าปกติเขาก็เป็นอย่างนี้เพียงแต่เธอไม่เคยเจอเขาในมุมนี้มาก่อน
“คือว่าบัวกลัวว่าจะพูดไม่เข้าหูคุณค่ะ แล้วอีกอย่างบัวก็ไม่เคยเป็น เอ่อ.. เมียเก็บของใคร เลยไม่รู้ว่าจะวางตัวแบบไหน คุณถึงจะพอใจ และไม่โกรธบัว” บัวบงกชบอกเขาตามซื่อ
“เธอน่ารักจริงๆ เลยบัว ฉันโชคดีจริงๆ ที่ได้เธอมาเป็นของฉัน” ศรายุทธบอกแล้วหอมแก้มบัวบงกชฟอดใหญ่ ก่อนจะโอบกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขน มันทำให้เธอรู้สึกดีกับอ้อมกอดนี้มาก นอกจากกอดรัดกันบนเตียงแล้ว นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เขากอดเธอด้วยความอบอุ่น
“เธอเหมือนเมียฉันมาก อยู่กับเธอทำให้ฉันสบายใจเหมือนอยู่กับพิชญ์ พิชญ์ของฉันน่ารักและอ่อนโยน ช่างเอาใจ แต่เรื่องบนเตียงไม่ว่าให้ทำอะไรพิชญ์ก็ยอมฉันหมด เหมือนกับเธอ” ศรายุทธอธิบาย บัวบงกชเลยเข้าใจทันทีว่าตอนนี้เขากำลังคิดเอาว่าเธอเป็นภรรยาของเขาอยู่ เป็นตัวแทนยามที่เขาคิดถึงเธอเท่านั้น ไม่ได้ชอบเธอจริงๆ
‘บ้าไปแล้วเรา เขาแค่เห็นเราเป็นตัวแทนเมียของเขา เกือบคิดเข้าข้างตัวเองแล้วไหมล่ะบัว’ บัวบงกชเตือนสติตัวเอง ไม่ให้หัวใจถลำลึกไปมากกว่านี้
*********************
เวลาผ่านไปหลังจากนั้นหลังจากที่บัวบงกชสอบปลายภาคเสร็จแล้ว ในคืนวันเสาร์ของสัปดาห์นั้นศรายุทธก็ยิ้มอย่างดีใจเมื่อเห็นว่าบัวบงกชใส่ชุดแม่บ้านญี่ปุ่นไว้รอเขา มันเป็นชุดเมดโลลิต้าที่น่ารักและเย้ายวนเอามากๆ
“วันนี้นายท่านต้องการให้บัวรับใช้อะไรเป็นพิเศษไหมคะ” เธอถามเขาเสียงหวาน
“วันนี้อยากให้มาอาบน้ำ ถูหลังให้หน่อย” ศรายุทธบอกเธอแล้วมองชุดที่เธอใส่ไม่วางตา
“งั้นทานข้าวก่อนนะคะ ให้อาหารย่อย แล้วเราไปลงอ่างกันนะคะนายท่าน” บัวบงกชสวมบทบาทสาวใช้ได้น่ารักมากกว่าเซ็กซี่จนศรายุทธอดขำไม่ได้
“นายท่านหัวเราะอะไรคะ” เธอถามเขาเสียงเง้างอน
“ก็ดูทำท่าทางน่ารักเข้าสิ ใครจะไปอดยิ้มได้” ศรายุทธบอกแล้วคว้าตัวเธอมานั่งตักหอมแก้มซ้ายขวาไม่หยุด
“พอเถอะค่ะ บัวแก้มช้ำไปหมดแล้ว แบบนี้บัวรู้สึกผิดจัง กะจะยั่วให้คุณมีอารมณ์ กลับกลายเป็นว่าเล่นตลกให้คุณดูซะงั้น” บัวบงกชบอกแล้วทำแก้มป่อง
ตอนนี้เธอไม่ค่อยเกรงกลัวเขาเหมือนตอนแรกๆ แล้ว เพราะรู้แล้วว่าศรายุทธชอบให้เธอทำอะไร และเอาใจเขาแบบไหน
“น่ารักแบบนี้ก็ดี ฉันชอบ” ศรายุทธบอกแล้วหันหน้าเธอให้เอี้ยวมาจูบกับเขา
โทรศัพท์ของศรายุทธดังขึ้น เขากดตัดสาย แล้วก็จูบเธอต่อ มือเขากำลังล้วงเข้าไปใต้กระโปรง แต่ก็โดยขัดจังหวะจากเสียงโทรศัพท์อีกรอบจนศรายุทธหมดอารมณ์ แล้วกดรับสายนั้นอย่างหงุดหงิด
“ว่าไง” ศรายุทธพูดเสียงแข็ง
“เอ่อ คุณยุทธคะ คือคุณนาถเป็นลมแล้วตกบันไดค่ะ”
ศรายุทธตกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่แม่บ้านโทรมารายงานเขา
“แล้วนาถเป็นอย่างไรบ้าง” เขาถามด้วยความเป็นห่วง เพราะสินีนาถก็ถือว่าเป็นคนในครอบครัวคนหนึ่ง
“ตอนนี้ให้พักฟื้นที่ห้องค่ะ ตกบันไดแค่สองขั้น พวกเราเลยคิดว่าไม่น่าเป็นอะไรมาก แต่ว่ามีไข้นิดหน่อยและเพ้อหาแต่คุณยุทธค่ะ” แม่บ้านรายงานตามที่เห็น
“งั้นฉันจะกลับไปเดี๋ยวนี้” ศรายุทธบอกแล้วหันมาจูบลาบัวบงกชด้วยความเสียดาย
บัวบงกชโล่งใจที่วันนี้เขายังไม่ได้มีอะไรกับเธอ เธอเองก็เพลียมาทั้งสัปดาห์เพราะการสอบ อยากนอนพักผ่อนแต่หัวค่ำบ้าง แต่ก็อดสงสัยว่าคนที่ศรายุทธเป็นห่วงคือใคร แล้วก็ได้แต่ทอดถอนหายใจว่าคงเป็นคนสำคัญ อาจจะเป็นคนรักของเขา ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่รีบกลับไปทั้งที่กำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มอย่างนี้
เมื่อคิดได้อย่างนั้น หัวใจก็เจ็บปวดขึ้นมาหน่อยๆ ที่รู้ว่าตัวเองเป็นแค่เมียเก็บ นางบำเรอ หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่ไม่มีวันเป็นตัวจริงของใครสักคนขึ้นมาได้
*********************
ศรายุทธกลับมาก็ตรงไปที่ห้องของสินีนาถ เธอมีไข้อ่อนๆ และใช้ประโยชน์จากอาการไข้ ในการแกล้งเป็นลมแล้วทิ้งตัวนอนที่บันได ให้คนมาเห็นเพื่อที่จะได้โทรรายงานศรายุทธ
“นาถเป็นอย่างไรบ้าง ฟื้นหรือยัง” ศรายุทธถามแม่บ้านที่กำลังเช็ดตัวให้สินีนาถ
“ตอนนี้ไข้ลดลงแล้วค่ะ เลิกเพ้อไปพักหนึ่งแล้ว” แม่บ้านรายงานแล้วยกอ่างใส่น้ำออกไป ปล่อยให้ศรายุทธดูแลสินีนาถ เพราะฟังจากประโยคที่เพ้อหานายจ้างหนุ่ม เธอเลยทึกทักเอาเองว่าทั้งสองคนนั้นแอบมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันแล้ว ซึ่งมันก็เป็นแผนอย่างหนึ่งของสินีนาถ ที่อยากประกาศตัวให้คนในบ้านคิดว่าเธอเป็นมากกว่าน้องสาวของอดีตภรรยาของศรายุทธ
“พี่ยุทธ ยังไม่กลับหรือคะ นาถรอพี่ยุทธทานข้าวทุกวันเลย ทำไมพี่ยุทธใจร้ายกับนาถแบบนี้” สินีนาถแกล้งเพ้อเสียงสั่นอย่างน่าเห็นใจ ศรายุทธเข้าไปนั่งข้างๆ แล้วจับมือเธอมากุมเอาไว้
“นาถ ตื่นได้แล้ว พี่มาแล้ว” เขาบอกเธอ
“พี่ยุทธขา พี่ยุทธมาแล้ว นาถรักพี่ยุทธเหลือเกิน ทำไมพี่ยุทธไม่รักนาถบ้าง” เธอเพ้อต่อแล้วทำท่าว่ายังไม่ฟื้น
“นาถ นาถ” ศรายุทธบอกแล้วยื่นไปตบแก้มเธอเบาๆ ก้มหน้าลงไปเรียกเธอใกล้ๆ
“พี่ยุทธ” สินีนาถเอ่ยชื่อเขา ลืมตาขึ้นแล้วทำตาปรือเหมือนว่าเธอยังคงไม่ได้สติ
“นาถฝันอยู่ใช่ไหมคะ พี่ยุทธอยู่ตรงนี้กับนาถ พี่ยุทธมาหานาถแล้ว” เธอพึมพำออกมาเสียงเบาแล้ว โน้มหน้าเขาลงมาจูบ
ศรายุทธตกใจที่น้องสาวของอดีตภรรยาทำอย่างนั้น เขาดันตัวออก แล้วสินีนาถก็กระถดหนีด้วยความตกใจ
“นี่นาถไม่ได้ฝันไปหรือคะ” เธอแกล้งพูดด้วยน้ำเสียงที่ตกใจแล้วยกผ้าห่มปิดครึ่งหน้า แกล้งทำเป็นว่าเธออับอายอยู่ เพื่อแสดงให้ศรายุทธรู้ว่าเธอมีใจให้กับเขาถึงขั้นเพ้อหาและจูบเขาเพราะว่าเธอแค่ฝันไป
ศรายุทธลำบากใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น เขารู้มาตลอดว่าสินีนาถคิดอย่างไรกับเขา และทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเรื่อยมา แต่ครั้งนี้เขาคงทำเป็นไม่รู้ไม่ได้แล้ว เพราะคนตรงหน้าแสดงออกอย่างชัดเจนจนเขาไม่สามารถแกล้งทำเป็นไม่รับรู้ต่อไปได้อีก
*********************
ศรายุทธกลับถึงบ้านก็เป็นเวลาดึกแล้ว ช่วงนี้เขาเขาไม่เห็นสินีนาถมารอต้อนรับเขากลับบ้านเหมือนอย่างเคยก็รู้สึกสบายใจขึ้น ที่อย่างน้อยก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดใจมากเหมือนอย่างเคยหลังจากที่สินีนาถพูดเปิดใจกับเขาตอนนั้น เขายอมรับว่ายิ่งอยากกลับบ้านให้น้อยลง เพราะลำบากใจที่จะเจอเธอแล้วต้องคอยทำเหมือนว่าไม่รับรู้อะไร ทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่เต็มอกว่าเธอคิดอย่างไรสินีนาถขออนุญาตให้มีเพื่อนผู้ชายมาหาเธอที่บ้าน นั่นเป็นการดีที่จะทำให้เธอได้เปิดใจให้คนอื่นบ้าง เขายินดีสนับสนุนเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ลึกๆ ในใจอยากให้เธอรีบแต่งงานแล้วย้ายออกไปด้วยซ้ำ เพราะเธอไม่ใช่ญาติของเขาโดยตรง และพ่อแม่ของศรายุทธเองก็เคยเตือนเรื่องนี้กับเขาแล้วว่ามันไม่เหมาะสมแต่ติดตรงที่ว่าสิริพิชญ์ฝากให้เขาดูแลสินีนาถ เธอถึงยังอยู่ที่นี่ได้ในฐานะน้องสาวของสิริพิชญ์ เพราะศรายุทธไม่อยากเสียคำพูดที่ให้ไว้กับอดีตภรรยาของเขา“พี่ยุทธเพิ่งมาหรือคะ” สินีนาถถามขึ้นขณะเดินลงบันได“อืม แล้วนาถลงมาทำอะไรดึกๆ ดื่นๆ” ศรายุทธถามเธอ“นาถลงมาอุ่นนมดื่มค่ะ พอดีนอนไม่ค่อยหลับ” สินีนาถบอกแล้วยิ้มให้เขา ก่อนจะขอตัวไปที่ห้องครัวศรายุทธมองตามแล้วถอนหายใจอย
บัวบงกชที่นอนคิดมากทั้งคืนเพราะศรายุทธไม่พอใจเธอก็มาทำงานตามปกติ เธอหันซ้ายหันขวากลัวว่าจะเจอผู้ชายคนนั้นอีก เพราะศิรินุชบอกว่าเธอให้ฝ่ายบุคคลแจ้งเตือนเขาไปแล้วว่าไม่ให้ทำเรื่องอย่างนั้นอีก บัวบงกชเลยกลัวว่าเขาจะโกรธแล้วยิ่งหาเรื่องเธอบัวบงกชก้าวเข้าไปในลิฟต์ ประตูกำลังจะปิดแต่ก็มีมือมาขวางเอาไว้ก่อน ประตูเลยเปิดออกอีกครั้ง เป็นชายหนุ่มคนเมื่อวานอย่างที่เธอกลัว“พี่ไปด้วยคนสิครับ” เขาบอกแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และดูไม่เป็นมิตรสำหรับบัวบงกชเขากดปิดลิฟต์แล้วก็มีมือใครบางคนมาขวางเอาไว้อีกรอบ เป็นศรายุทธที่ขวางประตูลิฟต์นั้น เขาไม่อยากเชื่อว่าเขาจะมาแอบดักรอเธอขึ้นลิฟต์ และพอเจอพนักงานหนุ่มจอมตื้อแอบรอเธออยู่ก่อนหน้านี้ เขาก็ยิ่งแทบทนไม่ไหว แต่ถ้าจะรังแกพนักงานตัวเล็กๆ ก็คงดูไม่ดีอย่างที่บัวบงกชบอก เขาเลยต้องอดทนและทำตัวให้นิ่ง“ผมไปด้วยคนสิ” เขาพูดเสียงเรียบ แล้วก้าวเข้าไปในลิฟต์บัวบงกชดีใจที่อย่างน้อยก็มีศรายุทธอยู่ในลิฟต์ด้วย ถึงจะกังวลเรื่องที่เขากำลังโกรธเธออยู่ แต่ก็อุ่นใจที่เขาอยู่ตรงนี้“วันนี้ท่านประธานมาเช้าจังเลยนะคะ” บัวบงกชพูดกับเขา“พอดีอยากลองเข้างานเช้าดู เผื่อว่าจะได้เห็
ตลอดระยะที่บัวบงกชมาฝึกงานที่บริษัทของศรายุทธ ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่มีใครสนใจเธอเลย แต่เพราะเธอทำงานอยู่หน้าห้องของศรายุทธจึงไม่มีใครกล้าแวะเวียนเข้ามาจีบ เพราะชั้นที่บัวบงกชอยู่นั้นมีแต่ระดับผู้บริหารนั่งอยู่ทั้งนั้นดังนั้นเวลาที่บัวบงกชเดินเข้ามาในบริษัทและกำลังขึ้นลิฟต์เท่านั้นที่เป็นนาทีทองของคนที่สนใจเธอ“สวัสดีครับ” เสียงทักทายดังขึ้นขณะที่บัวบงกชอยู่ในลิฟต์กับเขาเพียงลำพัง“สวัสดีค่ะ” บัวบงกชตอบกลับและยิ้มให้ตามมารยาท เธอไม่เคยสังเกตเลยว่าชายหนุ่มนั้นแอบสนใจตั้งแต่วันแรกที่เธอมาทำงานแล้ว“ชื่อน้องบัวใช่หรือเปล่าครับ” เขาถามเธอ“ค่ะ” บัวบงกชตอบตามมารยาท ในใจลุ้นอยากให้ประตูลิฟต์รีบเปิดเพราะไม่อยากสนทนากับเขานานๆ เกรงว่าศรายุทธรู้แล้วจะไม่พอใจเธอเข้าตอนนี้ทางบ้านของเธอกำลังเดือดร้อนหนัก จากที่เคยคิดว่าจะไม่ขอเงินจากเขา แต่ว่าก็ไม่สามารถทำได้แล้วในตอนนี้ และเธอต้องทำตัวดีให้มากๆ ไม่ให้เขาต้องไม่พอใจเธอ“น้องบัวมีแฟนหรือยังครับ” เขาถามเธอตรงๆ เป็นนัยให้รู้ว่าอยากจะจีบเธอ“มีแล้วค่ะ” บัวบงกชโกหกออกไป ประตูลิฟต์เปิดออกชั้นที่ชายคนนั้นกด แต่เขาก็กดปิดประตู ไม่สนใจว่าจะเข้าทำงานทันเวลาหร
บัวกงกชมารายงานตัวกับฝ่ายบุคคลของเลิศประจักษ์กรุ๊ปแล้วถูกส่งตัวให้ไปหาเลขานุการของศรายุทธศิรินุชคือสาวใหญ่วัยสี่สิบห้าปีที่เป็นเลขานุการของศรายุทธที่ทำงานกับเขามาตั้งแต่บิดาของเขายังไม่วางมือจากตำแหน่งประธานบริหารศิรินุชพอใจที่บัวบงกชใส่กระโปรงนักศึกษาที่ไม่รัดรูปและยาวคลุมเข่า ซึ่งหาได้ยากในสมัยนี้ เธอสอนวิธีจัดตารางงาน วิธีการดูตารางเวลานัดหมาย และขั้นตอนการนำเอกสารไปให้ศรายุทธเซ็น รวมถึงวิธีชงกาแฟให้ศรายุทธด้วยว่าเขาดื่มกาแฟประเภทไหน และควรเสิร์ฟเวลาไหนบ้าง“ท่านประธานปกติจะเข้างานไม่เกินเก้าโมงเช้า กาแฟถ้วยแรกเสิร์ฟตอนสิบเอ็ดโมง บ่ายสอง กับสี่โมงเย็นตามลำดับ” ศิรินุชอธิบายกับบัวบงกช เธอพยักหน้าเรียนรู้งานได้อย่างรวดเร็วศรายุทธเดินเข้ามาพร้อมกับผู้ติดตามอีกสองคน เขามองหน้าบัวบงกชด้วยสีหน้าที่ดูเคร่งขรึมและเป็นทางการกว่าปกติ แล้วพยักหน้าทักทายศิรินุชเบาๆ ก่อนจะเข้าห้องไปกับผู้ติดตาม เพื่อคุยธุระของเขาศิรินุชรอจนผู้ติดตามของศรายุทธออกมาจากห้อง เธอก็เคาะห้องสามที ก่อนจะเปิดประตูพาบัวบงกชไปแนะนำตัว“ท่านประธานคะ นี่บัวบงกช เป็นเด็กฝึกงานที่จะมาฝึกงานในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาค่ะ ดิฉันจะใ
ศรายุทธมองสินีนาถที่นั่งพิงหัวเตียง เอาผ้าห่มปิดหน้าด้วยความเขินอาย แล้วกำลังนึกหาคำพูดอะไรสักอย่างในสถานการณ์อย่างนี้“ดีขึ้นหรือยัง” เขาถามเธอ“ค่ะ ดีขึ้นแล้ว” เธอตอบเขาเสียงเบา แกล้งหลบตาเขาด้วยความเขินอาย“เมื่อกี๊นาถคงเพ้อเพราะพิษไข้ งั้นคืนนี้เดี๋ยวพี่ให้คนมานอนเป็นเพื่อนนะ เผื่อเกิดอะไรขึ้นจะได้พาไปหาหมอทัน” ศรายุทธบอกด้วยความห่วงใย“แล้วนาถตกบันได้ด้วยนี่ เป็นอะไรมากหรือเปล่า” ศรายุทธถามต่อเมื่อเห็นว่าสินีนาถไม่ได้พูดอะไร“นาถตกบันได้ด้วยหรือคะ แต่ว่าไม่ได้เจ็บตรงไหนเลย คงไม่เป็นอะไรมั้งคะ” สินีนาถบอกยังไม่เลิกทำน้ำเสียงว่าเธอเขินอายเขา“งั้นพี่ไปตามเด็กมาอยู่เป็นเพื่อนนะ” ศรายุทธบอกแล้วทำท่าจะลุกออกไป“พี่ยุทธคะ ไหนๆ เรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้ว พี่ยุทธคงรู้แล้วว่านาถคิดอย่างไรกับพี่ยุทธ” สินีนาถเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้น หลังจากที่ศรายุทธพยายามที่จะไม่พูดถึงมันเขานิ่งเงียบไป แล้วนั่งลงที่เดิม เพื่อฟังสิ่งที่สินีนาถจะพูด“นาถรักพี่ยุทธค่ะ รักมานานแล้ว และนาถก็บอกตรงๆ เลยนะคะ ว่านาถอยากให้พี่ยุทธรักนาถตอบบ้าง นาถอยากดูแลพี่ยุทธเหมือที่พี่พิชญ์ดูแล อยากทำให้พี่ยุทธมีความสุขเหมือนที่พี่พิชญ์
ศรายุทธให้คนที่ไว้ใจได้เอารถไปส่งให้บัวบงกชที่บ้าน เขาสั่งให้เรื่องนี้เป็นความลับสูงสุดไม่ให้คนของเขาบอกเรื่องบัวบงกชให้ใครรู้ โดยเฉพาะสินีนาถเพราะไม่อยากให้เธอคิดมากและเป็นกังวล เพราะจิตใจผู้หญิงยากที่จะเข้าใจอาจนำพาเรื่องร้ายมาในภายหลังได้ บัวบงกชรับรถจากคนของศรายุทธมาเธอก็ยิ่งรู้สึกติดหนี้บุญคุณเขามากขึ้นเรื่อยๆ คิดว่ายิ่งเอากับเขามากเท่าไร เธอก็จะหลุดจากเขาได้ยากขึ้นเท่านั้น เธอจึงตั้งใจว่าจะขอเขาเท่าที่ต้องใช้จ่ายจริงๆ และไม่ฟุ่มเฟือย เพื่อตอนที่เธอไปจากเขาจะได้ไม่รู้สึกผิดมากนัก ถึงจะใช้ร่างกายเข้าแลก แต่ความสุขสบายที่เธอได้รับนั้นมันมากเกินกว่าคนที่ตัดสินใจทำอาชีพอย่างเธอจะได้รับ บัวบงกชขับรถไปที่มหาวิทยาลัยแล้วจอดไว้ที่คณะอื่นเพราะไม่อยากให้เพื่อนเห็น เธอทำเรื่องยื่นฝึกงานที่บริษัทของศรายุทธตามที่เขาบอก โดยมีเพื่อนบางคนเห็นเธอลงชื่อบริษัทเลิศประจักษ์เป็นอันดับแรกต่างก็เตือนเธอว่าที่นี่ไม่รับนักศึกษาฝึกงาน เพราะงานที่นั่นมีความลับสูง เสี่ยงให้คนภายนอกล่วงรู้ข้อมูลไม่ได้ บัวบงกชอ่านหนังสือติวสอบกับเพื่อนๆ จนถึงช่วงเวลาบ่ายแก่ๆ เธอก็ขอตัวกลับเพราะไม่มีเรียนต่อ แล้วเดินแยกไปขึ







