เอวารับปากกามาด้วยมือที่สั่นเทา เธอจ้องมองเอกสารสัญญาที่วางอยู่บนโต๊ะกาแฟ พยายามจะเซ็นชื่อลงไปในช่องว่าง แต่ก็ทำไม่ได้ มือของเธอสั่นจนไม่สามารถจับปากกาไว้ได้ เธอรู้ว่าถ้าเธอเซ็นชื่อลงไปแล้ว...ชีวิตของเธอจะต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล
"เธอสั่นทำไม?" หัสดินถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา "เธอเสียใจที่ตัดสินใจแล้วอย่างนั้นเหรอ?" "ไม่ค่ะ" เอวาตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "ดิฉันแค่...แค่กลัว" "ไม่ต้องกลัว" หัสดินเอื้อมมือมาจับมือเธอที่ถือปากกาไว้ ก่อนจะช่วยประคองมือเธอให้เซ็นชื่อลงไปในช่องว่าง "เธอทำถูกแล้ว...เธอจะได้รับทุกอย่างที่เธอต้องการ...และแม่ของเธอก็จะรอด" เอวารู้สึกเหมือนถูกสะกดจิต เธอปล่อยให้เขาควบคุมมือของเธอให้เซ็นชื่อลงไปในสัญญา และเมื่อเซ็นชื่อเสร็จแล้ว...เธอก็รู้สึกเหมือนถูกกระชากวิญญาณออกจากร่าง เธอรู้สึกเหมือนตัวเองไม่ใช่ตัวเองอีกต่อไปแล้ว "เรียบร้อย" หัสดินพูดด้วยน้ำเสียงที่พอใจ "ยินดีด้วยนะ...เธอได้กลายเป็นภรรยาของฉันอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว" เอวานิ่งอึ้งไปในทันที เธอจ้องมองใบหน้าคมคายของเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความว่างเปล่า เธอรู้สึกเหมือนหัวใจของเธอกำลังถูกบดขยี้จนละเอียดเป็นผง "ตอนนี้...เธอเป็นของฉันแล้วนะ" หัสดินพูดด้วยน้ำเสียงที่เย้ายวน พร้อมกับก้มลงมาจูบเธอที่หน้าผากอย่างแผ่วเบา เป็นจูบที่ไม่ได้มีความรักเลยแม้แต่น้อย แต่เป็นจูบที่เต็มไปด้วยความรู้สึกของการเป็นเจ้าของ จูบที่ทำให้เอวารู้สึกเหมือนถูกตีตราว่าเป็น "สิ่งของ" ของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ เธอหลับตาลงด้วยความเจ็บปวด เธอรู้ว่าตอนนี้ชีวิตของเธอได้เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ เธอได้ก้าวเข้ามาอยู่ในโลกที่แสนมืดมิดและเต็มไปด้วยอำนาจของเขาแล้วจริงๆ เธอจะต้องทนอยู่ในกรงขังนี้ไปจนกว่าจะถึงวันที่แม่ของเธอจะหายดี...หรือจนกว่าเธอจะตายจากไป... การแต่งงานตามกฎหมายที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและไร้ซึ่งความรักนั้น ทำให้เอวาต้องย้ายเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์หรูของหัสดินทันที คฤหาสน์ที่ใหญ่โตมโหฬารตั้งอยู่บนพื้นที่ส่วนตัวขนาดใหญ่และถูกล้อมรอบด้วยรั้วเหล็กสูงใหญ่ราวกับป้อมปราการ มันเป็นสถานที่ที่สวยงามและดูราวกับมาจากในเทพนิยาย แต่สำหรับเอวาแล้ว มันก็คือ "กรงขัง" ดีๆ นี่เอง เมื่อมาถึงคฤหาสน์ เอวาถูกนำไปที่ห้องนอนของเธอ ห้องนอนที่ใหญ่โตกว่าห้องเช่าของเธอทั้งห้องเสียอีก ภายในห้องมีเฟอร์นิเจอร์ครบครัน ตกแต่งด้วยโทนสีขาวสะอาดตา มีเตียงขนาดคิงไซส์ตั้งอยู่กลางห้อง พร้อมกับหน้าต่างบานใหญ่ที่เผยให้เห็นวิวสวนสวยๆ ภายในบริเวณคฤหาสน์ แต่ถึงแม้ว่าห้องจะสวยงามและสะดวกสบายเพียงใด เอวาก็ยังคงรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเพียงแค่แขกแปลกหน้าที่ไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของอะไรเลย เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเพียงแค่ตุ๊กตาที่ถูกนำมาวางไว้ในห้องนี้เพื่อรอคำสั่งจากเจ้าของเท่านั้น หัสดินเข้ามาในห้องนอนของเธอในเย็นวันนั้น เขาในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ไม่ได้ติดกระดุมเม็ดบนออกดูแตกต่างจากเขาในชุดสูทสีดำที่เธอเคยเห็นอย่างสิ้นเชิง เขานั่งลงบนโซฟาหนังสีขาวตัวใหญ่ในห้อง พร้อมกับจ้องมองเธอด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา "เธอคงจะยังไม่คุ้นเคยกับที่นี่สินะ" เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ "ค่ะ" เอวาตอบด้วยน้ำเสียงที่เบาหวิว "ไม่ต้องห่วง...เธอจะคุ้นเคยกับที่นี่ในไม่ช้า" เขายิ้มเล็กน้อย "ฉันจะให้เธอใช้ชีวิตอยู่ที่นี่...โดยที่ไม่ต้องทำงานอะไรเลย...เธอจะกิน เธอจะนอน เธอจะทำอะไรก็ได้ตามใจ...แต่มีข้อแม้ว่าเธอจะต้องอยู่ในคฤหาสน์นี้ตลอดเวลา" เอวาเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความไม่เข้าใจ "คุณหมายความว่ายังไงคะ" "ฉันหมายความว่าเธอจะไม่มีสิทธิ์ที่จะออกไปจากคฤหาสน์นี้โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน" หัสดินตอบด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา "และเธอจะไม่มีสิทธิ์ที่จะไปติดต่อกับใครก็ตามที่อยู่นอกคฤหาสน์นี้...รวมถึงเพื่อนและครอบครัวของเธอด้วย" คำพูดของเขาทำให้เอวาตกใจจนแทบจะพูดไม่ออก "แต่...แต่แม่ของดิฉัน..." "แม่ของเธอจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดจากทีมแพทย์และพยาบาลที่ดีที่สุดของโรงพยาบาลฉัน" หัสดินพูดขัดขึ้น "เธอไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงอะไรเลย...เธอแค่ทำตามหน้าที่ของเธอในฐานะภรรยาของฉันก็พอ" "หน้าที่...ของภรรยา" เอวาพึมพำกับตัวเองด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวด "ใช่" หัสดินตอบ "หน้าที่ของเธอคือ...การเป็นของฉัน...ในทุกๆ เรื่องที่ฉันต้องการ" เขาลุกขึ้นยืนและเดินเข้ามาประชิดตัวเธอ "เธอพร้อมที่จะเป็นของฉันหรือยังเอวา" เอวาก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว เธอรู้สึกได้ถึงอันตรายที่แผ่ออกมาจากตัวเขาอย่างรุนแรง เธอรู้ว่าเธอไม่มีทางเลือก และเธอจะต้องยอมจำนนต่อเขาในทุกๆ เรื่อง "ค่ะ...ดิฉันพร้อมค่ะ" เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ หัสดินยิ้มพอใจ "ดีมาก" เขาเอื้อมมือขึ้นมาเชยคางเธอเบาๆ ก่อนจะก้มลงมาจูบเธอที่ริมฝีปากอย่างดูดดื่มและรุนแรง เป็นจูบที่ไม่ได้มีความรักเลยแม้แต่น้อย แต่เป็นจูบที่เต็มไปด้วยความรู้สึกของการเป็นเจ้าของ จูบที่เต็มไปด้วยอำนาจที่ทำให้เอวารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะจมหายไปในห้วงน้ำที่แสนมืดมิด เธอพยายามจะต่อต้าน แต่ก็ทำไม่ได้ ร่างกายของเธอไร้เรี่ยวแรงจนแทบจะยืนไม่ไหว เธอปล่อยให้เขาล่วงเกินเธอไปจนกระทั่งทุกอย่างจบลง... หลังจากนั้น...หัสดินก็ลุกขึ้นยืนและเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้เอวานอนอยู่บนเตียงเพียงลำพังด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดและสิ้นหวัง เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปแล้วจริงๆ เธอได้กลายเป็นเพียงแค่ "สิ่งของ" ที่ไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือกอะไรได้เลย... เอวารู้สึกเหมือนตัวเองได้ถูกขังอยู่ใน "กรงทอง" ที่สวยงาม แต่กลับไร้อิสระโดยสิ้นเชิง เธอไม่สามารถติดต่อกับใครได้เลย ไม่สามารถออกไปไหนได้ และไม่สามารถทำอะไรได้เลยหากไม่ได้รับอนุญาตจากหัสดิน เธอได้กลายเป็นเพียงแค่ "นกในกรง" ที่ต้องทำตามคำสั่งของเจ้าของไปจนกว่าจะถึงวันที่เธอจะตายจากไป...หรือจนกว่าแม่ของเธอจะหายดี... และในคืนนั้น...เอวาก็หลับไปด้วยความทุกข์ระทมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน วันเวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า เอวาต้องใช้ชีวิตอยู่ในคฤหาสน์ที่แสนกว้างขวางและเงียบเหงา เธอไม่มีอะไรจะทำนอกจากนอนอ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ หรือเดินเล่นในสวนที่ใหญ่โตราวกับสวนสาธารณะ เธอพยายามหาหนทางที่จะหลบหนีออกจากที่นี่ แต่ก็ไม่มีหนทางไหนเลยที่จะทำได้ คฤหาสน์แห่งนี้ถูกล้อมรอบด้วยรั้วไฟฟ้าสูงใหญ่ และยังมีบอดี้การ์ดคอยเฝ้าอยู่ตลอดเวลา เธอเหมือนถูกขังไว้ใน "กรงทอง" ที่ไร้ซึ่งทางออกจริงๆ หัสดินจะกลับมาที่คฤหาสน์ในตอนเย็นทุกวัน เขาจะเข้ามาในห้องนอนของเธอในทุกๆ คืน เขาจะโอบกอดเธออย่างอ่อนโยนก่อนจะล่วงเกินเธอไปอย่างร้อนแรงและรุนแรง เอวาพยายามจะต่อต้าน แต่ก็ทำไม่ได้ เธอรู้ว่าการต่อต้านมีแต่จะทำให้เธอเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น เธอได้แต่ปล่อยให้เขาล่วงเกินเธอไปจนกระทั่งทุกอย่างจบลง... วันหนึ่ง...ขณะที่เอวากำลังนั่งอยู่ในห้องสมุดของคฤหาสน์ หัสดินก็เดินเข้ามาหาเธอ เขาในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมเม็ดบนออกดูแตกต่างจากเขาในชุดสูทสีดำที่เธอเคยเห็นในตอนแรกอย่างสิ้นเชิง เขายิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นเธอ "เธอชอบอ่านหนังสือเหรอ" เขาถาม "ค่ะ" เอวาตอบด้วยน้ำเสียงที่เบาหวิว "ดี...เพราะฉันชอบผู้หญิงฉลาด" เขานั่งลงตรงข้ามกับเธอ "เธอเรียนคณะอะไรนะ" "อักษรศาสตร์ค่ะ" "ดี" หัสดินยิ้ม "ถ้าเธออยากได้หนังสือเล่มไหนอีกก็บอกฉันได้นะ ฉันจะซื้อมาให้เธอทุกเล่มที่เธอต้องการ" เอวานิ่งอึ้งไปในทันที เธอไม่คิดว่าเขาจะใจดีกับเธอถึงเพียงนี้ "ขอบคุณค่ะ" เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ หัสดินลุกขึ้นยืนและเดินเข้ามาประชิดตัวเธอ "ฉันไม่ได้ต้องการคำขอบคุณจากเธอ" เขาเอื้อมมือขึ้นมาเชยคางเธอเบาๆ "สิ่งที่ฉันต้องการจากเธอคือ...ความรัก" เอวาตกใจจนแทบจะพูดไม่ออก "ความรัก?" "ใช่...ฉันต้องการให้เธอรักฉัน" หัสดินพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอำนาจ "เธอจะรักฉันไม่ได้เลยงั้นเหรอเอวา" "ดิฉัน...ดิฉันไม่เข้าใจว่าคุณพูดอะไรคะ" เอวาตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "เธอก็แค่รักฉัน...เหมือนที่ฉันรักเธอ" เขาก้มลงมาจูบเธอที่ริมฝีปากอย่างดูดดื่มและร้อนแรงอีกครั้ง จูบที่ไม่ได้มีความรักเลยแม้แต่น้อย แต่เป็นจูบที่เต็มไปด้วยความรู้สึกของการเป็นเจ้าของ จูบที่ทำให้เอวารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะจมหายไปในห้วงน้ำที่แสนมืดมิดทันใดนั้น...ก็มีชายชุดดำสองคนเดินเข้ามาในห้อง แล้วลากเอวาออกไปจากห้องโถงใหญ่!"ไม่นะ!" หัสดินตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว "พวกแกจะทำอะไร!"หัสดินรีบลุกขึ้นจากโซฟาแล้ววิ่งเข้าไปหาเอวาอย่างรวดเร็ว แต่ก็ถูกชายชุดดำอีกคนเข้ามาขวางไว้ "อย่ายุ่งนะครับคุณดิน" ชายชุดดำพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา"พวกแกจะทำอะไรภรรยาของฉัน!" หัสดินตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว "พวกแกจะทำอะไร!""ผมไม่ได้ทำอะไรหรอกนะ" นายใหญ่พูดด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ "ผมแค่อยากจะให้คุณเห็นว่า...คุณควรจะทำอย่างไรดีกับธุรกิจของคุณ"ทันใดนั้น...ก็มีชายชุดดำอีกคนเดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับถาดที่เต็มไปด้วยเข็มฉีดยา!"ไม่นะ!" หัสดินตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว "พวกแกจะทำอะไร!"หัสดินพยายามจะวิ่งเข้าไปหาเอวาอีกครั้ง แต่ก็ถูกชายชุดดำอีกคนเข้ามาขวางไว้ "อย่ายุ่งนะครับคุณดิน" ชายชุดดำพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาหัสดินไม่สนใจคำพูดของชายชุดดำเลยแม้แต่น้อย เขากระโดดเข้าใส่ชายชุดดำอย่างรวดเร็ว แล้วชกเข้าที่ใบหน้าของชายชุดดำอย่างรุนแรง! ชายชุดดำล้มลงไปกองกับพื้นอย่างหมดสภาพ หัสดินรีบวิ่งเข้าไปหาเอวาอย่างรวดเร็ว แล้วชกเข้าที่ใบหน้าของชายชุดดำที่กำลังจะฉีดเข็มฉ
รถยนต์คันหรูของ แดเนียล แล่นไปตามท้องถนนในมหานครที่สว่างไสวด้วยความเร็วสูง แต่ในหัวใจของ เอวา กลับมืดมิดและเต็มไปด้วยพายุที่โหมกระหน่ำ เธอได้แต่นั่งร้องไห้อยู่ในรถอย่างหมดอาลัยตายอยาก ภาพของ หัสดิน ที่กำลังจะไปทำสัญญาซื้อขายธุรกิจที่อันตรายที่สุดในชีวิตเพื่อแลกกับชีวิตของแม่ของเธอมันเหมือนภาพยนตร์ที่ฉายซ้ำไปมาอยู่ในหัวของเธอเอวารู้สึกผิดและรู้สึกเสียใจมากที่เธอได้ทำให้เขาต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ เธอไม่เคยคิดว่าผู้ชายอย่างหัสดินจะยอมทำอะไรที่อันตรายขนาดนี้เพื่อเธอเลยแม้แต่น้อย"คุณแดเนียลคะ...พาหนูไปหาคุณดินเดี๋ยวนี้" เอวาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "หนู...หนูต้องไปหยุดเขาให้ได้""แต่คุณเอวาครับ...มันอันตรายนะครับ" แดเนียลพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล "นายใหญ่เป็นคนอันตราย...ถ้าคุณไป...คุณอาจจะเป็นอันตรายได้""หนูไม่กลัวหรอกค่ะ" เอวาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ "หนูรู้ว่าหนูจะต้องทำอะไร"แดเนียลเงียบไปในทันที เขาเข้าใจดีว่าเอวาเป็นคนอย่างไร เธอเป็นคนที่มีความกล้าหาญและไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ เขาขับรถออกไปจากโรงพยาบาลแล้วขับตรงไปยังคฤหาสน์ของนายใหญ่ทันทีในขณะที่เขากำลังขับรถไปที่คฤหาสน
ในค่ำคืนที่ท้องฟ้าไร้ดวงดาว หัสดิน ขับรถยนต์คันหรูของเขาเข้าไปจอดเทียบหน้าคฤหาสน์ของ นายใหญ่ แห่งตระกูลวรวิทย์อย่างสง่างาม แม้ภายนอกจะดูเยือกเย็นและน่าเกรงขาม แต่ภายในใจของเขากำลังร้อนรุ่มด้วยความโกรธแค้นที่อัดแน่น เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อทำธุรกิจอย่างที่นายใหญ่คาดหวัง แต่เขามาเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับสิ่งที่พวกมันทำไว้กับ เอวา และครอบครัวของเธอ!ทันทีที่หัสดินก้าวลงจากรถ ก็มีชายชุดดำสองคนเดินเข้ามายืนขนาบข้างเขาอย่างเงียบๆ พวกมันเป็นลูกน้องของนายใหญ่และกำลังรอให้เขาเดินเข้าไปในคฤหาสน์ หัสดินไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปในคฤหาสน์อย่างไม่เกรงกลัวภายในคฤหาสน์เต็มไปด้วยความหรูหราอลังการ มีรูปภาพและรูปปั้นโบราณวางประดับอยู่ทั่วบริเวณ และที่ห้องโถงใหญ่...มีชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟา เขาในชุดสูทสีขาวดูสง่างามและน่าเกรงขามอย่างที่เธอเคยเห็นในครั้งแรก เขากำลังยกแก้วไวน์ขึ้นจิบอย่างไม่รีบร้อน"สวัสดีครับคุณดิน" ชายชราคนนั้นทักทายหัสดินด้วยรอยยิ้ม "ผมก็ว่าแล้วว่าคุณจะต้องมาหาผม""นายท่าน" หัสดินตอบกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว "ผมมาที่นี่ไม่ได้มาเพื่อทำธุรกิจ...แต่ผมมาเพื่
หลังจากพาเอวาออกมาจากโรงพยาบาลและกลับมาที่คฤหาสน์ หัสดิน ก็ไม่ได้สนใจเธออีกเลย เขาทิ้งเธอไว้ในห้องนอนเพียงลำพัง แล้วเดินลงมาที่ห้องทำงานของเขาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมและเต็มไปด้วยความโกรธ เขาไม่รู้ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ แม่ของเอวา อาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งๆ ที่ทีมแพทย์ที่ดีที่สุดก็ดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาหัสดินหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วโทรหา หมอวิน ทันที "อาการของแม่เอวาเป็นยังไงบ้าง" เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา"ผมขอโทษนะครับคุณดิน" หมอวินตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเสียใจ "ผมพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ดูเหมือนว่า...หัวใจของท่านจะอ่อนแอลงเรื่อยๆ""เป็นไปได้ยังไง" หัสดินถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัย "ฉันให้ทีมแพทย์ที่ดีที่สุดไปดูแล...ทำไมอาการถึงทรุดลง"หมอวินเงียบไปในทันที เขาไม่รู้จะตอบหัสดินอย่างไรดี "ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ...แต่ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากล""ไม่ชอบมาพากลเหรอ" หัสดินถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง "แกหมายความว่ายังไง""ผมรู้สึกเหมือน...เหมือนมีใครบางคนพยายามที่จะทำลายการรักษาของท่านครับ" หมอวินตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "ยาที่ผมสั่งให้ท่านก
เช้าวันรุ่งขึ้น... เอวา ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้งในอก เธอแทบไม่ได้หลับเลยทั้งคืนจากเหตุการณ์เมื่อวาน เธอลุกขึ้นจากเตียงอย่างช้าๆ แล้วเดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่ มองเห็นแสงอาทิตย์อ่อนๆ ที่เริ่มสาดส่องเข้ามาในห้อง แต่แสงสว่างนั้นไม่ได้ช่วยให้จิตใจของเธอดียิ่งขึ้นเลยแม้แต่น้อยเธอทำธุระส่วนตัวและแต่งตัวด้วยชุดที่ดูสุภาพเรียบร้อยที่สุดเท่าที่เธอมี ในขณะที่เธอกำลังสวมเสื้อผ้าอยู่นั้น เธอก็เห็นรอยฟกช้ำและรอยแดงที่ปรากฏอยู่บนร่างกายของเธอ เธอใช้มือลูบเบาๆ แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอีกครั้ง เธอรู้สึกเหมือนร่างกายและจิตใจของเธอได้ถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดีเมื่อเธอเดินลงไปที่ชั้นล่าง เธอก็เห็น หัสดิน ยืนรออยู่ตรงหน้าคฤหาสน์ เขาในชุดสูทสีดำดูสง่างามและน่าเกรงขามอย่างที่เธอเคยเห็นในครั้งแรก เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ผายมือไปที่รถยนต์คันหรูที่จอดรออยู่ เอวาขึ้นรถไปกับเขาอย่างเงียบเชียบ รถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวไปตามท้องถนนในมหานครที่แสนวุ่นวาย เอวาได้แต่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพตึกรามบ้านช่องที่สลับกันไปมาดูพร่าเลือนจนแยกแยะไม่ออก เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง แต่โลกที
รถยนต์คันหรูของ หัสดิน แล่นเข้ามาจอดเทียบหน้าคฤหาสน์ด้วยความเร็วสูง ทันทีที่รถหยุดนิ่ง เอวา ก็ถูกลากลงจากรถอย่างรุนแรง เธอสะดุดล้มลงกับพื้น แต่หัสดินไม่สนใจ เขาไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง เขาเดินตรงเข้าไปในคฤหาสน์ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่เต็มไปด้วยความโกรธที่คุกรุ่นอยู่ในอกเอวาพยายามลุกขึ้นยืนด้วยร่างกายที่บอบช้ำ เธอรู้สึกเหมือนร่างกายทั้งร่างไม่มีเรี่ยวแรงเลยแม้แต่น้อย แต่เธอก็ต้องฝืนใจลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามหลังเขาเข้าไปในคฤหาสน์อย่างช้าๆ เธอเดินตามหลังเขาไปจนถึงห้องโถงใหญ่ เธอเห็นหัสดินเดินขึ้นบันไดไปยังห้องทำงานของเขาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมเมื่อหัสดินหายลับไปจากสายตา เอวาก็เดินเข้าไปหา ป้าสร้อย แม่บ้านที่ดูแลคฤหาสน์แห่งนี้มาตั้งแต่สมัยที่เธอยังเป็นเด็กเล็กๆ "ป้าสร้อยคะ...คุณดินยังโกรธอยู่ใช่ไหมคะ" เธอถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือป้าสร้อยมองดูเอวาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสารและห่วงใย "คุณดินไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะหนูเอวา...ตั้งแต่หนูมาอยู่ที่นี่ คุณดินก็เปลี่ยนไปมาก"คำพูดของป้าสร้อยทำให้เอวาน้ำตาไหลออกมาอย่างเงียบๆ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้ทำให้หัสดินต้องเสียใจ แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกเลยแม