Share

บทที่ 6

last update Last Updated: 2025-10-22 14:52:10

หลังจากประตูถูกปิดลง ความเงียบกลับเข้ามาแทนที่อีกครั้ง แต่บรรยากาศในห้องไม่ได้สงบลงตาม มันเต็มไปด้วยไออุ่นจากแรงสัมผัสที่ยังอบอวลอยู่ในอากาศ หัวใจและความรู้สึกของไอริสที่ยังคงสั่นระรัว

เธอยังยืนอยู่ตรงนั้น พิงประตูที่เพิ่งถูกปิดลง ลมหายใจร้อนและกลิ่นอายจากเขายังติดซึมอยู่ตามผิวของเธอ

มือบางค่อย ๆ ยกขึ้นแตะแผ่วเบาที่ริมฝีปากของตัวเอง ความรู้สึกชาหนึบยังคงไม่จางหายจากรอยสัมผัสนั้น

“คนบ้า บ้าที่สุด”

เธอพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ราวกับต้องการกลบเกลื่อนความรู้สึกที่กำลังพวยพุ่งอยู่ในอก ทั้งสับสน ร้อนรุ่ม และ…อยากเข้าไปใกล้เขามากกว่านี้อีก แต่ก่อนที่เธอจะจัดการความรู้สึกของตัวเองให้เข้าที่ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นเบา ๆ

“น้องไอครับ จะลงมาข้างล่างได้รึยัง”

เสียงเขาไม่ได้เร่งร้อน แต่แฝงไปด้วยปลายเสียงที่ขบขัน เหมือนรู้ดีว่าเธอคงยังตั้งหลักไม่ได้

สายตาคมมองเธออย่างใจเย็น แต่มีรอยยิ้มบาง ๆ ติดมุมปากเหมือนเคย รอยยิ้มที่ทำให้เธออยากจะหนีไปหลบมุมให้ไกลที่สุด แต่ขาเจ้ากรรมกลับก้าวตามเขาลงบันไดไปแทน

“ระวังตัวไว้ให้ดีนะคะ”

ร่างบางเดินตามหลังเขาลงบันได ช้า ๆ พร้อมกับพูดพึมพำด้วยเสียงแผ่วเบา แต่เป็นการเอื้อนเอ่ยที่เหมือนกับเตือนตัวเองมากกว่าบอกคนตัวโต

“ถ้าหมายถึงคืนนี้…พี่เต็มใจ เปิดประตูรอให้น้องไอ ย่องเข้าห้องพี่ทุกคืนแน่นอนครับ”

เขาตอบกลับเสียงดังราวกับต้องการจะเปล่าประกาศให้ทุกคนได้ยินอย่างรวดเร็วโดยไม่หันมามอง จนไอริสแทบอยากเอาหน้ามุดหนีเข้ากำแพงด้วยความรู้สึกอับอาย

เมื่อก้าวลงมาถึงชั้นล่าง พิณเพลงเดินเข้ามาหาไอริสทันที ด้วยรอยยิ้มและสายตาที่กำลังล้อเลียน แต่ก็ยังดีที่เพื่อนสนิทของเธอไม่พูดอะไรออกมาให้เขินอายไปมากกว่านี้

“ตกลงใครมาเหรอ”

“พวกพี่ปีสี่วิศวะนะ”

ไอริสมองตามไปก่อนจะชะงักเล็กน้อย ชายหนุ่มในชุดช้อปสีน้ำเงินนั่งอยู่ตรงกลางร้านอยู่หลายคน พร้อมกับคนตัวสูงที่เดินเข้าไปทักทาย

“น้องไอ~”

เสียงหวานใสดังไกลมาก่อนตัว แต่ไอริสจำได้ดีว่าเป็นเสียงของพวกรุ่นพี่ในสายรหัส อย่างพี่ซีลีน รุ่นพี่ปีสี่จากคณะเดียวกันในหญิงสาวตัวเล็กในชุดเสื้อเชิ้ตโอเวอร์ไซซ์สบาย ๆ แต่กลับดูเซ็กซี่เย้ายวนกำลังเดินตรงเข้ามาหา พร้อมโบกมือให้เธออย่างร่าเริง ถัดมาเป็นพี่บอมพี่รหัสปีสอง ที่มีใบหน้ายิ้มละไม และบุคลิกที่คุ้นเคยจนให้ความรู้สึกอบอุ่นแบบพี่ชาย

“โอ้ ร้านใหม่ใหญ่เหมือนกันนะเนี่ย จะเปิดร้านวันไหนครับสุดสวย”

บอมพูดพลางมองไปรอบ ๆ ร้าน ก่อนจะหันมายิ้มให้ไอริส พร้อมกับวางฝ่ามือหนาไว้บนศีรษะคนตัวเล็กแล้วยีผมเบา ๆ

“พี่ ๆ รู้ได้ไงคะ ว่าไอย้ายร้าน”

“เรานั่นแหละมีอะไรทำไมถึงไม่บอกให้พวกพี่ช่วย ถ้าพี่ไม่ถามจากพิณเพลงจะรู้ไหมว่าน้องในสายกำลังลำบาก”

“ขอบคุณนะคะ แต่ไอเกรงใจ”

ไอริสบอกกับอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มอ่อน ๆ มันเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและเกรงใจ จึงไม่ได้บอกใครเพราะกลัวจะไม่อยากไปรบกวน

“ไม่เป็นไร ๆ วันนี้พี่เลยพาแรงงานชายหนุ่มสุดหล่ออย่างนายบอมมาช่วยจัดร้าน ใช้งานได้เต็มที่”

“เรื่องใช้งานแรงงานบอกพี่มาได้เลย ว่าแต่มีของให้ขนมั้ย ไหนล่ะ กล่องไหนก่อนดี?”

“พี่บอม พี่ซีลีน ขอบคุณนะคะ”

ไอริสยิ้มกว้างอย่างดีใจ พูดคุยหยอกล้อด้วยความสนิทสนมคุ้นเคย

“งั้นช่วยไอ เอาของเข้าร้านหน่อยนะคะ”

“ได้เลยครับผม”

มือเล็กโบกไปที่กล่องอุปกรณ์ที่วางกองอยู่ บอมไม่รอช้า ยกกล่องขึ้นอย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะเอ่ยห้ามคนตัวเล็ก เมื่อเห็นว่าไอริสกำลังจะมาช่วยเขายกของ พร้อมกับทำท่าเบ่งกล้ามให้ดูว่าเขาแข็งแรงมาก แค่นี้สบาย

“หนูไม่ต้องยกหรอก เดี๋ยวพี่จัดการเอง ขืนจับของหนัก เดี๋ยวมือนิ่ม ๆ พังหมด ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผู้ชายร่างบ๊อปอายแบบพี่จัดการเอง”

คำพูดและท่าทางที่พี่รหัสเธอทำ เรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มจากไอริส รวมถึงทุกคนได้เป็นอย่างดี แต่กลับไปสะดุดกับสายตาของใครบางคนที่ยืนอยู่ไม่ไกล

ซันยืนพิงผนังแถวเคาน์เตอร์ มือกอดอก ดวงตาคมจ้องภาพตรงหน้า โดยไม่แม้แต่จะปิดบังสายตา ริมฝีปากที่เคยยิ้มเย้าแหย่ตอนอยู่กับไอริส บัดนี้กลับขบเม้มแน่นจนเห็นสันกรามชัด

คนตัวโตยืนมองเงียบ ๆ ไม่ได้พูดอะไร แต่สายตาคมกลับมองไล่ตามทุกการเคลื่อนไหวของเธอกับชายหนุ่มที่เพิ่งเข้ามาใหม่โดยเฉพาะเวลาที่อีกฝ่ายยกกล่อง คอยหยิบจับสิ่งของอยู่ใกล้ตัวเธอ หรือโน้มตัวพูดคุยกันอย่างสนิทสนม

“เดี๋ยวพี่ถือให้ ไอไปจัดของตรงเคาน์เตอร์นั่นเลย”

เสียงของบอมดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะเอื้อมมือช่วยหยิบของส่งให้ไอริส แต่การหมุนตัวที่ผิดจังหวัดทำให้ร่างบางต้องถอยหลังออกไปไม่ให้ชนกัน จนเธอเดินเซไปชนอกอีกฝ่ายที่ยืมจ้องเธอกับพี่รหัสไม่วางตา

“เอ่อ...พี่บอมถอยหลังมาเกือบชนกันเลยค่ะ”

เธอพูดพลางหัวเราะเก้อ ๆ และนั่นก็ยิ่งทำให้สายตาของซันหรี่ลง ซันเบนหน้าหลบไปอีกทาง ก่อนจะเดินกระแทกเท้าเล็กน้อยกลับขึ้นไปหลังร้านโดยไม่พูดอะไร ทิ้งไว้แค่บรรยากาศบางอย่างที่หนักอึ้งพาดกลางอากาศ

พิณเพลงที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ กระตุกยิ้มน้อย ๆ มองตามร่างสูงที่เดินจากไป แล้วกระซิบเบา ๆ ข้างหูไอริส

“เอ๊ะ…ดูท่าหนุ่มวิศวะของแกจะไม่ค่อยปลื้มพี่บอมเท่าไหร่นะ?”

“พูดอะไรของแกพิณเพลง...หยุดคิดเลยนะ”

ไอริสตอบกลับเสียงเบา หน้าเริ่มแดงขึ้นเล็กน้อยอย่างห้ามไม่อยู่ แต่พอเธอหันกลับไปมองก็พบว่าเขาไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว ภายในใจของเธอแอบรู้สึกถึงบางอย่างโดยเฉพาะอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของร่างแกร่ง

เสียงพูดคุยและหัวเราะเฮฮาจากชั้นล่างยังคงดังขึ้นต่อเนื่อง แต่อีกฝั่งหนึ่งทางหลังร้านกลับเงียบลงชั่วครู่ ซันเดินเข้ามาด้านใน พร้อมวางของที่พวกเพื่อนช่วยกันขนขึ้นมาลงแรง ๆ เหมือนต้องการระบายอะไรบางอย่างไปกับเสียงกระแทกนั้น

“มึงกระแทกแรงขนาดนั้น กล่องไม่พังก่อนเหรอวะ”

เสียงของลม หนึ่งในกลุ่มเพื่อนเอ่ยดังขึ้นขำ ๆ ก่อนเจ้าตัวจะเดินตามเข้ามาจากทางด้านหลัง

“หรือมึงกำลังหงุดหงิดอะไร?”

ซันไม่ตอบในทันที เพียงแต่ถอนหายใจยาวอย่างเบื่อหน่าย เขาทรุดตัวลงนั่งกับโซฟาเก่า ๆ ปล่อยศีรษะพิงพนัก แล้วมองเพดานด้วยแววตาที่บอกไม่ชัดว่ากำลังเหนื่อย…หรือหงุดหงิดอะไรกันแน่

“เมื่อกี้กูเห็นนะ ไอ้รุ่นพี่นั่นมันยืนใกล้เด็กของมึงแนบชิดจนจะสิงกันอยู่แล้ว”

เสียงแหบทุ้มจากไนท์ เพื่อนอีกคนที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนกล่องลัง เอ่ยขึ้น หวังปั่นหัวเพื่อนตัวเองให้ร้อนรุ่มยิ่งกว่าเดิม

“ไม่ใช่เด็กกู”

ซันยกมือขึ้นลูบใบหน้าตัวเองแรง ๆ ราวกับอยากสะบัดอะไรบางอย่างออกจากหัว ก่อนจะหัวเราะในลำคอเบา ๆ แล้วตอบเสียงเรียบ แต่แฝงไปอารมณ์ขุ่นเคือง

“ก็แค่เด็ก…ดื้อ ๆ คนหนึ่ง”

เขาเอ่ยเสียงเบาแต่ชัดเจนพอให้ทุกคนได้ยิน แต่สายยังมองออกไปตามเสียงหัวเราะของคนตัวเล็กที่ดังอยู่หน้าร้าน

“ถ้าไอ้หน้าอ่อนได้ไปก็ไม่ซีเรียสใช่ป่ะ”

“มะ ไม่เห็นจะต้องซีเรียสอะไรเลย กูแค่เล่น ๆ แก้เบื่อไปงั้นแหละ”

“หึ แล้วกูจะจำไว้”

เดย์เลิกคิ้วสูง มองสีหน้าของเพื่อนตัวเองที่พยายามทำให้ดู ‘ไม่รู้สึก’ แต่แววตากลับไม่ได้สอดคล้องกับคำพูดเลยแม้แต่น้อย

“ถ้าเล่น ๆ ทำไมตอนเห็นเด็กนั้นยิ้มกับคนอื่น หน้ามึงถึงหงิกขนาดนั้นวะ?”

ซันเบนหน้าหนี ทำเป็นไม่สนใจคำพูดนั้น เขาหยิบขวดน้ำขึ้นมาจิบอย่างเนือย ๆ แต่ไม่ได้หลบเลี่ยงไปทั้งหมด สีหน้าเขาแม้จะเรียบนิ่ง แต่แววตากลับติดคล้ายหงุดหงิดเล็กน้อยอยู่ลึก ๆ

“ก็แค่…รำคาญสายตา”

เขาตอบเรียบ ๆ พร้อมวางขวดน้ำลงดัง กึก

“เด็กอะไร ยิ้มให้ใครก็ง่าย พูดเพราะกับใครก็ง่าย จะให้กูจริงจังกับอะไรแบบนี้เหรอ”

คนตัวโตเริ่มส่งเสียงโวยวาย กลบเกลือนอาการของตัวเองที่เริ่มจะหลุดออกมาทีละน้อย หลังจากโดนเพื่อน ๆ ตัวดีปั่นหัวไม่หยุด

“เอ้อ…ก็ไม่ต้องจริงจัง” ลมหัวเราะ

“แต่กูว่า…มึงอะ กำลังจริงจังอยู่แบบไม่รู้ตัว”

ซันมองหน้าเดย์ก่อนจะนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วเหยียดยิ้มที่มุมปากแบบฝืน ๆ

“กูเนี่ยนะ? จริงจังกับเด็กนั่น?”

เขาหัวเราะสั้น ๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืน ยกมือขึ้นลูบท้ายทอย

“ก็แค่ของเล่น…น่ารักดีตอนทำท่าจะหนี แต่ก็วิ่งกลับมาให้กอดเองทุกที”

“แน่ใจนะว่ามึงยัง ‘เล่น’ อยู่?”

เป็นเสียงของไนท์ดังขึ้นแทน แต่คราวนี้กลับเจือปนด้วยความจริงจัง ซันไม่ตอบ เขาหันหลังให้เพื่อน แล้วเดินออกไปที่ริมหน้าต่างก่อนจะพ่นควันสีขาวออกมา หวังจะใช้นิโคตินดับอารมณ์ที่ร้อนรุ่ม และสับสนอยู่ในใจ

ร่างสูงไม่ได้ตอบคำถามของเพื่อนสนิท เขายังคงยืนนิ่งอยู่ในภวังค์ ปล่อยให้สายลมยามบ่ายปะทะใบหน้า แล้วทอดสายตามองออกไปหน้าร้าน ยิ่งเห็นไอริสยิ้มกว้างขณะพูดคุยกับรุ่นพี่ของเธอ ใจของเขามันก็เต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ถึงจะบอกตัวเองว่าไม่คิดอะไร แต่ดูเหมือนหัวใจกลับไม่ยอมเชื่อฟัง

“ก็แค่เด็กดื้อเปล่าว่ะ มีอะไรสำคัญให้จริงจังกัน”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กรุ่นรักไอริส   บทที่ 65

    บ้านสวนคาเฟ่ไอริสแสงแดดยามเช้าส่องลอดผ่านม่านไม้เลื้อยที่เกาะระแนงด้านหน้า เสียงลมพัดผ่านใบไม้ดังแผ่วเบาอย่างอ่อนโยน กลิ่นหอมของกาแฟคั่วสดผสมกับกลิ่นวานิลลาอ่อน ๆ ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศเหมือนทุกเช้าที่ผ่านมาร่างเล็กในเดรสผ้าฝ้ายสีขาวบางเบานั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์ไม้ เธอลูบหน้าท้องกลมเบา ๆ อย่างเผลอไผล ก

  • กรุ่นรักไอริส   บทที่ 64

    ซันมองเข้าไปในดวงตาสวยคู่นั้นก็จะเลื่อนมือข้างหนึ่งมาตรึงข้อมือเรียวของเธอไว้เหนือศีรษะ กดแผ่นหลังบางแนบกับผนังเย็น ก่อนจะโน้มตัวลงมาประกบริมฝีปากอย่างร้อนแรงเรียวลิ้นหนาสอดเข้ามาหยอกล้อในโพรงปากนุ่มราวกับหลงใหลในรสหวานที่ไม่มีวันพอ รสจูบของเขาอ่อนโยนแต่ก็เร่าร้อนราวกับไฟฝ่ามือร้อนผ่าวลูบไล้ไปตามร

  • กรุ่นรักไอริส   บทที่ 63

    Dragon Clubภายใต้แสงไฟสลัวและเสียงดนตรีที่ดังกระหึ่ม “Dragon Club” ยังคงคึกคักไม่ต่างจากทุกคืน ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาใช้บริการกันแน่นขนัด ทั้งบนฟลอร์และรอบบาร์เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเร่าร้อนและแอลกอฮอล์ที่ลอยคลุ้งในอากาศบนโซฟาหนังริมกระจกบานใหญ่ ร่างสูงในเสื้อเชิ้ตสีเข้มที่ปลดกระดุมไว้เพียงครึ่งเผย

  • กรุ่นรักไอริส   บทที่ 62

    หลังจากช่วงเวลาแห่งความปีติยินดีผ่านไปเพียงไม่นาน ซันเอ่ยกับ ไอริสเบา ๆ“ไปบ้านสวนกันนะ พี่มีอะไรจะให้”เขาไม่รอให้เธอถามอะไรอีก มือหนาเลื่อนมากุมมือเล็ก ๆ นั้นไว้ ก่อนจะพาไปขึ้นรถ แล้วขับรถพาเธอมาจนถึงบ้านสวน ในบ่ายที่แสงแดดกำลังนวลพอดีแต่เมื่อรถเลี้ยวมาถึงทางเข้า เธอกลับต้องเบิกตากว้างด้วยความตก

  • กรุ่นรักไอริส   บทที่ 61

    สองปีต่อมาเสียงประกาศชื่อบัณฑิตดังก้องอยู่ภายในหอประชุมใหญ่ บรรดานักศึกษาในชุดครุยสีดำขลิบทองทยอยเดินขึ้นเวทีตามลำดับรายชื่อ หนึ่งในนั้นคือหญิงสาวร่างบางเจ้าของดวงตากลมโตที่ในวันนี้ดูโดดเด่นไม่แพ้ใครผมยาวสลวยถูกรวบขึ้นอย่างเรียบร้อย ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบา ทว่าเปล่งประกาย ใต้ครุยสถาปั

  • กรุ่นรักไอริส   บทที่ 60

    มือเรียวบางเริ่มบีบครีมกะทิมะพร้าวเป็นวงกลมบนเนื้อเค้กให้สูงขึ้นเล็กน้อย โดยเว้นพื้นที่ตรงกลางเอาไว้ราดซอสตะโก้เผือกที่เตรียมแล้ว จากนั้นก็บีบครีมกะทิลงไปอีกชั้นตามด้วยเนื้อเค้กที่แบ่งไว้ ก่อนจะบาดครีมกะทิมะพร้าวสีขาวละมุนรอบเนื้อเค้กให้เรียบ ตกแต่งหน้าเค้กด้วยซอสตะโก้เผือก ปิดท้ายด้วยการนำเอาไข่แดง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status