หน้าหลัก / โรแมนติก / กลรักปีนเกลียว / ตอนที่ 4 งั้นช่วยพี่หน่อยได้มั้ย?

แชร์

ตอนที่ 4 งั้นช่วยพี่หน่อยได้มั้ย?

ผู้เขียน: คุณน้ำอิง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-11-10 20:22:54

เช้าวันถัดมา ฝนที่มาไร่เป็นปกติ คราวนี้เธอไม่โวยวาย แต่เดินตรงเข้าไปในไร่มันของครอบครัวเธอที่อยู่ติดกับบ้านพักของเอก เธอกะจะไปนั่งสงบสติอารมณ์อยู่เงียบๆ

เอกที่กำลังนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เห็นฝนเดินถือถุงพลาสติกสีขาวเข้าไปในไร่ ก็เลิกคิ้วด้วยความสงสัย เขาเดินตามไปดู เห็นเธอกำลังก้มๆ เงยๆ อยู่ในร่องไร่มัน พอเขาเดินเข้าไปใกล้ๆ ก็เห็นว่าเธอถือถุงปุ๋ยที่มีรูรั่วอยู่ ทำให้ปุ๋ยหกออกมาเป็นทาง

"ให้พี่ช่วยไหม ตัวเล็ก?" เอกถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

ฝนสะดุ้งสุดตัว ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองอย่างไม่พอใจ "มาทำอะไรที่นี่! นี่มันพื้นที่ส่วนบุคคลนะ!"

"พี่เห็นเรากำลังลำบาก พี่ก็เลย..." เอกยังพูดไม่ทันจบ ฝนก็แทรกขึ้นมาทันที

"ฝน...ชื่อฝน ไม่ได้ชื่อตัวเล็ก! หนูแค่เดินเล่นเท่านั้นแหละ! ถอยไปเลยนะ" เธอตะคอกใส่ด้วยความหงุดหงิด

แต่เอกไม่สนใจ เขามองไปที่ถุงปุ๋ยที่มีรอยขาดและคราบดินที่ติดอยู่บนเสื้อยืดของฝน ก่อนจะยื่นมือมาช่วยถือถุงปุ๋ยที่เหลือให้ "ฝนคงห่วงคุณพ่อมากเลยสินะครับ ถึงต้องมาช่วยดูแลไร่ด้วยตัวเอง"

คำพูดของเอกทำให้ฝนชะงัก เธอไม่ได้ตอบอะไรกลับ แต่สายตาของเธอดูอ่อนลงเล็กน้อย

"แต่ฝนก็ควรจะระวังตัวหน่อยนะครับ" เอกพูดต่อขณะที่ช่วยเธอแบกถุงปุ๋ย "ในไร่มีแมลงเยอะแยะ ถ้าไม่ระวัง อาจจะโดนกัดเอาได้"

ฝนมองมือของเขาที่กำลังช่วยถือถุงปุ๋ย แล้วก็รู้สึกแปลกๆ ที่มีใครมาดูแลเธอแบบนี้ เอกไม่เหมือน "ตาลุงหื่นกาม" ที่เธอเคยคิดเลยสักนิด

"ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของหนู!" ฝนสะบัดมือออก แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะเอกจับถุงปุ๋ยไว้แน่น ก่อนที่เขาจะดึงถุงปุ๋ยให้เธอ แล้วเดินนำไป

"โอเค งั้นพี่ขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ ถ้าเกิดอะไรขึ้นในไร่ ก็ตะโกนเรียกพี่ได้นะพี่รีบวิ่งมาทันที" 

"อือ...อีกอย่างนึง จะฉัน จะหนู หรือจะฝน ก็แล้วแต่นะ อยากแทนตัวเองแบบไหน แต่พี่ชอบ คำว่า (ฝน) "เอกพูดทิ้งท้ายพร้อมกลับรอยยิ้มก่อนจะเดินห่างออกไป

ฝนที่ได้ยินคำพูด และสายตาแบบนั้นก็แอบเขินอยู่เล็กน้อยแล้วก็พึมพำกับตัวเอง พูดบ้าอะไรก็ไม่รู้ แล้วเธอก็ก้มหน้าก้มตาใส่ปุ๋ยมันของเธอ โดยไม่ได้สนใจอะไร 

ฝนมองเข้าไปหาเอกที่กำลังนั่งทำงานอยู่ แล้วอดสงสัยในใจไม่ได้ เธอจึงตะโกนถามเขาไปว่า

ฝน: "นึกยังไงถึงมาอยู่ในป่าแบบนี้? มันไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเลยนะ ร้านซักรีดก็ไม่มี ร้านสะดวกซื้อก็ไม่มี แล้วจะอยู่ยังไง"

เอกถอดแว่นวางไว้ที่โต๊าะทำงานแล้วลุกขึ้นเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าฝน เขาพูดด้วยรอยยิ้มอย่างใจเย็น:

เอก: "งั้นช่วยพี่หน่อยได้ไหม? พี่ไม่รู้ว่าร้านสะดวกซื้ออยู่ตรงไหน ต้องซื้ออะไรมาไว้ในตู้เย็นบ้าง...ตัวเล็กช่วยพี่หน่อยได้ไหม"

ฝน: "บอกแล้วไงว่าไม่ได้ชื่อ 'ตัวเล็ก' ชื่อ 'ฝน'!"

เอก: "โอเค งั้นฝนช่วยพี่ไปร้านสะดวกซื้อหน่อยได้ไหม? ที่ใกล้ที่สุดน่ะ"

ฝน: "ก็บอกแล้วไงว่าไม่มีร้านสะดวกซื้อ มีแต่ร้านค้าในชุมชน จะไปไหมล่ะ"

เอก: "ไปครับ!"

ฝน: "เดี๋ยวบอกทางให้ ไปเองแล้วกัน"

เอก: "ไปไม่ถูกหรอก ช่วยพาไปหน่อยได้ไหม"

ฝน: "เรื่องอะไร ฝนต้องพาคุณไป? ไม่ใช่หน้าที่สักหน่อย"

เอก: "จะ 'ไม่ใช่' ได้ยังไง นี่ก็เป็นเจ้าของบ้านเช่าไม่ใช่เหรอ? ไม่คิดจะบริการลูกบ้านหน่อยเหรอ"

ฝนยืนคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะยอม

ฝน: "ก็ได้...จะถือว่าทำบุญแล้วกัน กลัวจะอดตาย!"

พูดจบ ฝนก็ก้าวขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์ด้วยท่าทางที่ดูทะมัดทะแมงผิดจากผู้หญิงทั่วไป เอกที่ยืนดูอยู่ถึงกับอึ้ง

เอก: "เดี๋ยว...อย่าบอกนะว่าจะขี่มอเตอร์ไซค์ไป?"

ฝน: "ก็เออสิ! ถ้าไม่ขี่มอเตอร์ไซค์ไป จะให้นั่งราชรถไปหรือไง"

เอก: "หมายถึงว่าเอารถพี่ไปก็ได้"

ฝน: "ทำไม? ไม่กล้านั่งมอเตอร์ไซค์เหรอ หรือกลัวผมเสียทรง? ที่นี่เขาขี่มอเตอร์ไซค์กันทั้งนั้นแหละ รถยนต์น่ะมันลำบาก ขวางทางเขาเปล่าๆ เดี๋ยวไปติดหล่มอยู่กลางทางอีก มอเตอร์ไซค์นี่แหละง่ายสุดแล้ว...จะไปไม่ไป?"

เอก: "ปะ...ไปก็ได้"

เอกเดินมาที่มอเตอร์ไซค์แล้วก้าวขึ้นคร่อมเตรียมจะกอดเอวฝน แต่ฝนก็รีบหันมาห้ามไว้ก่อน:

ฝน: "จะทำอะไร?"

เอก: "ก็จะไปกับมอเตอร์ไซค์ไง ก็ต้องขึ้นรถสิ"

ฝน: "คุณนั่นแหละมาขับ ฝนเป็นผู้หญิงจะให้ขับได้ยังไง"

เอก: "ให้พี่ขับเหรอ? ..."

ฝน: "นี่ อย่าบอกนะว่าขับไม่เป็น? ให้ตายเถอะ! โธ่เอ๊ย เป็นผู้ชายยังไง ขับมอเตอร์ไซค์ก็ไม่เป็น"

เอก: "ขับเป็นครับ! แต่ไม่มั่นใจในรถของฝน"

ฝน: "ทำไม? รถฝนมันเป็นยังไง? นี่รู้ไหมว่าใช้มาตั้งแต่รุ่นพ่อเลยนะ! ฝนรักมันมาก เห็นเก่าๆ แบบนี้แต่เร็วอย่าบอกใครเชียว"

เอก: "งั้น...รบกวนให้ฝนขับได้ไหม? พี่ไม่มั่นใจว่าจะขับได้ กลัวจะทำให้รถแสนสวยน่ารักของฝนพัง"

ฝน: "เออ! ก็จริง! ฝนก็ไม่อยากให้ใครมาขับรถตัวเองหรอก เดี๋ยวรถฝนพังทำยังไง รุ่นนี้เขาเลิกผลิตแล้วด้วย"

เอกหัวเราะก่อนจะตัดสินใจก้าวขาขึ้นมอเตอร์ไซค์คันเก่าๆ ที่ดูไม่สมกับรูปร่างสูงใหญ่ของเขาเลย เขาใช้มือทั้งสองข้างจับที่ท้ายรถแน่นเพราะกลัวตก ภาพที่เห็นดูเก้ๆ กังๆ และน่าขัน ส่วนฝนก็บิดมอเตอร์ไซค์ออกไปด้วยความเร็วสูง แม้เสียงจะดังแต่ความเร็วไม่ได้พุ่งปรี๊ดตามเสียง เส้นทางเต็มไปด้วยหลุมบ่อ ทำให้เอกต้องกลั้นหายใจเป็นระยะๆ แต่ด้วยความชำนาญของฝน ก็ไม่ใช่ปัญหา

ณ ร้านขายของชำ

ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงร้านชำที่ใกล้ที่สุด เอกถอนหายใจด้วยความโล่งอก

จู่ๆ ป้าเจ้าของร้านชำก็เอ่ยทักฝนเสียงดังลั่น

ป้า: "อ้าว! อิหล่าฝนตินั่น มากับไผล่ะนั่น?" (อ้าว! หนูฝนเหรอนั่น มากับใครน่ะ?) 

ฝน: "อ๋อ คนเพิ่นมาเซาบ้านอยู่จ้าป้า" (อ๋อ เขามาเช่าบ้านอยู่น่ะค่ะป้า) 

ป้า: "ป๊าด! คือหล่อปานพระเอกเกาหลีแท้ล่ะ! ติดต่อให้ลูกสาวป้าแหน่น๊าาาา" (โห! ทำไมหล่อเหมือนพระเอกเกาหลีจังเลย! ฝากลูกสาวป้าหน่อยนะ) 

ฝน: "หล่อกะซ่างเถาะ เหยียบขี้ไก่กะบ่ฝ่อ บ่ต้องเอาไปเฮ็ดแนวด็อก!" (หล่อก็ช่างเถอะ เหยียบขี้ไก่ก็ไม่ฝ่อหรอก ไม่ต้องเอาไปทำพันธุ์หรอก!") 

เอกยืนทำหน้างงๆ กับคำพูดของฝนที่เป็นภาษาท้องถิ่น ซึ่งเขาก็พอจับใจความได้บ้างนิดหน่อย พอเห็นเอกทำหน้ามึน ฝนก็หันไปตะคอกใส่ทันที

ฝน: "อ้าวแนมอิหยัง! สิซื้ออีหยังกะฟ้าวแหม! เว้าแล้วยังมาแนมหน้าอีก!" (อ้าวมองอะไร! จะซื้ออะไรก็รีบไปซื้อสิ! พูดแล้วยังมามองหน้าอีก!) 

เอกสะดุ้งเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไปเลือกซื้อของใช้ส่วนตัวที่จำเป็นจนได้ของมาเต็มตะกร้า แต่พอถึงตอนจ่ายเงิน เขากลับหน้าซีดเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองมีแต่บัตรเครดิต ซึ่งร้านค้าในชุมชนไม่รับชำระ เขารีบหันไปกระซิบถามฝน

เอก: "ฝนมานี่หน่อยได้ไหม?"

ฝน: "อะไรอีกอ่ะ? ทำไมเรื่องมากอย่างนี้!"

ฝนเดินตรงไปที่โต๊ะคิดเงิน

เอก: "มีเงินให้ยืมก่อนไหม..."

ฝน: "นี่อย่าบอกนะว่ามาซื้อของแล้วไม่พกกระเป๋าสตางค์!"

เอก: "เปล่า...พี่ไม่มีเงินสด พี่ลืมคิดไปว่าร้านนี้จะไม่มีเครื่องรูดบัตร"

ฝน: "แล้วซื้อของหมดไปเท่าไหร่?"

เอก: "เกือบๆ พันน่ะ"

ฝน: "ก่อนมาที่นี่จำได้ไหมว่าฝนทำอะไรอยู่?"

เอก: "จำได้...ฝนกำลังใส่ปุ๋ยมัน"

ฝน: "ใช่ค่ะ! กำลังใส่ปุ๋ยมัน แล้วคุณคิดว่าฝนต้องพกเงินเป็นพันเพื่อมาใส่ปุ๋ยไหม? สมองมีก็คิดบ้างสิ!"

ฝนหันไปถามป้าเจ้าของร้าน:

ฝน: "ป้าสแกนจ่ายได้บ่?" (แสแกนจ่ายได้ไหม?) 

ป้า: "ได้ยุ" (ได้ ) 

เอกหันมาบอกฝนด้วยท่าทางเก้อเขิเอกหันมาบอกฝนด้วยท่าทางเก้อเขิน

เอก: "พี่ไม่ได้เอามือถือมา..."

ฝน: "อะไรของคุณเนี่ย! คุณเตรียมพร้อมอะไรบ้างไหมเนี่ย!"

ฝนบ่นพึมพำก่อนจะควักมือถือตัวเองออกมาสแกนจ่าย:

ฝน: "โอนคืนมาด้วยล่ะ น่าเบื่อจริงๆ ...ว่าแต่ อย่าลืมน้ำดื่มล่ะ ซื้อของใช้แต่ไม่มีน้ำดื่ม อดตายไม่รู้ด้วยนะ"

เอก: "อ๋อ ครับ พอดีน้ำดื่มมีอยู่ท้ายรถหลายแพ็ค...แล้วหิวอะไรไหมครับ เดี๋ยวพี่ไปหยิบให้"

ฝน: "จะไปหยิบแล้วมีเงินจ่ายไหม? จะถามเพื่ออะไร เงินก็ไม่มีสักบาทจะมาถามว่าหิวอะไรไหม...ตัวเองหิวก็บอกมาเถอะ"

ฝนเดินไปหยิบน้ำ 2 ขวดกับขนม แล้วสแกนจ่าย

ฝน: "อันนี้เลี้ยง ไม่ต้องโอนคืนนะ"

เอกรีบวิ่งตามฝนไปซ้อนท้ายรถเพื่อกลับบ้าน ระหว่างทางที่ดวงอาทิตย์กำลังจะตกดิน รถก็เกิดอาการกระตุกแล้วดับไปทันที

ฝน: "เอาแล้วไง! จะมาดับอะไรตอนนี้ โธ่เอ๊ย!"

เอกถึงกับหน้าเสีย เขารู้สึกไร้ค่าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เงินก็ไม่มี รถก็ต้องซ้อนท้ายผู้หญิง แถมรถยังมาเสียในที่ที่ไม่คุ้นเคย ในใจเริ่มคิดแล้วว่าตัวเองคิดผิดหรือคิดถูกที่มาใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ที่นี่:

ฝน: "เอ้า ลงสิ! รถมันดับแล้วจะมานั่งทำเพื่อ!"

เอก: "แล้วต้องทำยังไง?"

ฝน: "เข็นสิคะ! ต้องเข็นสิ! นี่อย่าบอกนะว่าจะให้ฝนเป็นคนเข็น สุภาพบุรุษค่ะ เห็นไหม!"

เอกก้มลงเอาของไปห้อยพะรุงพะรังที่แฮนด์รถ แล้วเริ่มเข็นมอเตอร์ไซค์เดินกลับบ้านพร้อมกับฝน

โธ่...หนุ่มหล่อสุดเพอเฟค ต้องกลายเป็นคนไร้ค่าในช่วงเวลา สถานที่ที่ไม่คุ้นเคยแบบนี้ ช่วยเป็นกำลังใจให้ลุงเอกหน่อยนะคะ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • กลรักปีนเกลียว   ตอนที่ 37 ตอนพิเศษ

    นพพลเริ่มสงสัยตอนไหน?เรื่องราวทั้งหมดต้องย้อนกลับไปในงานแต่งงานของฟ้า ลูกสาวคนกลางของนพพล ที่นั่นนพพลได้เจอกับเอกเป็นครั้งแรก และรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด เมื่อได้พูดคุยก็ยิ่งรู้สึกเอ็นดู เขาจึงแลกช่องทางการติดต่อกับเอกไว้เมื่อรู้ว่าเอกต้องย้ายมาทำงานที่สาขาต่างจังหวัดซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้าน นพพลจึงชวนเอกให้มาเช่าบ้านใกล้ๆ ซึ่งในตอนนั้นเขายังไม่ได้มีความสงสัยใดๆจนกระทั่งวันหนึ่ง ท่อน้ำที่บ้านแตก เอกได้เข้ามาช่วยซ่อมจนเสื้อผ้าเปียก นพพลจึงให้ฝนนำเสื้อมาให้เอกเปลี่ยน ขณะที่เอกถอดเสื้อ นพพลได้เห็นปานรูปใบหม่อนใต้ราวนมของเอก ซึ่งทำให้เขาตกใจและเริ่มสงสัยในตัวเอกอย่างมากหลังจากนั้น ในวันที่ฝนหมดสติและเอกโทรศัพท์ให้นพพลไปหาที่บ้าน ขณะที่เอกกำลังอุ้มฝนไปวางบนที่นอน นพพลได้แอบเข้าไปในห้องน้ำและเก็บเส้นผมรวมถึงแปรงสีฟันของเอกมา เพื่อนำไปตรวจ DNAนพพลจัดการเรื่องทั้งหมดด้วยตัวคนเดียว เพราะเขาไม่อยากให้ประทินต้องผิดหวังหากผลตรวจออกมาไม่ใช่พ่อลูกกัน เขาอยากจะแน่ใจก่อนถึงจะบอกทุกคน เขาพยายามหาโอกาสให้ประทินได้พบกับเอกที่เขื่อน และตั้งใจว่าจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ประทินฟัง แต่โชคร้ายที่นพพลกลับพลัด

  • กลรักปีนเกลียว   ตอนที่ 36 ความรักที่แบ่งบาน(ตอนจบ)

    บรรยากาศยามเช้าตรู่ ณ กระท่อมน้อยริมบึงกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง แสงแดดสีทองสาดส่องกระทบผิวน้ำเป็นประกายระยิบระยับ ดอกบัวสีชมพูและขาวพากันชูช่อบานรับแสงอรุณราวกับกำลังยิ้มทักทาย สายลมพัดเอื่อยๆ พากลิ่นหอมของดอกไม้ป่าลอยมาตามลม ผีเสื้อหลากสีโบยบินไปมาอย่างร่าเริง เถาไม้เลื้อยที่เคยดูโรยรากลับเขียวชอุ่มและมีดอกไม้เล็กๆ แซมอยู่ประปราย เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วดังแว่วมาจากป่า บรรยากาศโดยรอบอบอวลไปด้วยความสุขและความหวัง ราวกับธรรมชาติกำลังเยียวยาบาดแผลที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้บนเฉลียงไม้เล็กๆ ของกระท่อมกลางบึง ฝน นั่งอยู่คนเดียวในชุดสีขาวเรียบง่าย ใบหน้าของเธอดูสงบและผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สายตาของเธอมองไปยังผืนน้ำนิ่งๆ ที่สะท้อนเงาของท้องฟ้าสีคราม เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ รับเอาความสดชื่นจากธรรมชาติเข้าสู่ปอดอย่างเต็มที่ในวินาทีนั้นเอง อ้อมแขนแกร่งก็โอบเข้าที่เอวของเธอจากด้านหลังอย่างแผ่วเบา พร้อมกับกลิ่นหอมสะอาดของเสื้อเชิ้ตสีขาวที่คุ้นเคย เอก ยืนอยู่ด้านหลังของเธอด้วยใบหน้าหล่อเหลาที่ดูสมบูรณ์แบบ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรักที่ยากจะปิดบัง ทั้งคู่ทอดสายตามองยาวไปยังผืนน้ำเบื้องหน้าพ

  • กลรักปีนเกลียว   ตอนที่ 35 ความจริงที่เปิดเผย

    เปลือกตาสีไข่ค่อยๆ ขยับ ก่อนที่นิ้วกลางจะกระตุกขึ้นอย่างแผ่วเบา พลอยใสที่นั่งอยู่ข้างเตียงรู้ทันทีว่าเพื่อนของเธอกำลังจะฟื้น ฝนค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ เห็นพลอยใสนั่งอยู่ข้างๆ ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบห้องด้วยความสงสัยและความงุนงง ในใจเธอยังคงตั้งคำถาม "ฉันยังมีชีวิตอยู่เหรอ? ฉันยังไม่ตายอีกเหรอ?" ภาพสุดท้ายที่จำได้ก่อนหมดสติคือภาพของเอกกับแม่ที่อยู่ข้างๆฝนหันไปถามพลอยใส "ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? แล้วแกมาได้ยังไง?"พลอยใสไม่ตอบคำถามนั้น แต่กลับพูดขึ้นเสียงสั่นเครือ "ฝน แกเป็นอะไร ทำไมแกไม่บอกฉัน! ทำไมถึงคิดแบบนี้ได้ยังไง แกรู้ไหมว่าถ้าแกเป็นอะไรไป จะมีคนอีกตั้งหลายคนที่เสียใจ...ทำไมถึงคิดสั้นแบบนี้!" พลอยใสโผเข้ากอดเพื่อนรักที่กำลังอ่อนเพลียจนพูดอะไรไม่ออก มีเพียงน้ำตาที่ไหลอาบแก้มอย่างเงียบๆทันใดนั้น ฟ้าเปิดประตูเข้ามา "ฝน! เป็นยังไงบ้าง? พี่ได้ข่าวก็รีบมาเลย ทำไมทำแบบนี้ มีอะไรทำไมไม่บอกพี่!" ฟ้าโผเข้ากอดน้องสาวแล้วร้องไห้ ฝนร้องไห้ตามอีกครั้ง กอดพี่สาวด้วยความเสียใจกับเรื่องราวที่ตัวเองต้องเผชิญ เธอได้แต่ร้องไห้โดยไม่พูดอะไร พลอยใสทำได้เพียงลูบหลังปลอบใจ ก่อนจะหันไปมองฟ้าด้วยความไม่เข้า

  • กลรักปีนเกลียว   ตอนที่ 34 อำลาเพื่อมาเจอกัน

    ฝนกอดรองเท้าข้างน้อยของพ่อไว้แน่น ความรู้สึกเดียวที่เหลืออยู่คือความเจ็บปวด ด้วยความสิ้นหวัง รู้ตัวอีกที เธอก็ไปยืนอยู่ริมตลิ่งของเขื่อนชลประทาน สายตาเหม่อมองไปยังผืนน้ำกว้างที่นิ่งสงบ ราวกับกำลังรอคอยที่จะกลืนกินความเจ็บปวดทั้งหมดของเธอลงไป"พ่อ...หนูจะตามพ่อไป..." เธอพึมพำ น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าร่วงหล่นลงสู่พื้นดิน ความทรงจำที่เคยมีร่วมกับพ่อฉายชัดขึ้นในหัว ภาพที่พ่อเคยยิ้มให้เธอ เคยโอบกอดเธออย่างอบอุ่น และภาพที่พ่อบอกว่าเขาจะไม่มีวันทิ้งเธอไปไหนแต่ตอนนี้...พ่อไม่อยู่แล้ว...และคนที่เธอรักก็กำลังทำให้เธอเจ็บปวดที่สุดฝนค่อย ๆ ยื่นมือออกไป ปล่อยรองเท้าข้างน้อยของพ่อให้ร่วงหล่นลงสู่ผืนน้ำช้า ๆ ราวกับกำลังปล่อยความหวังสุดท้ายในชีวิตให้จมหายไปกับสายน้ำนั้น"ลาก่อน...ทุกอย่าง..."ในวินาทีนั้นเอง...เธอก็ตัดสินใจที่จะไม่ทนต่อความเจ็บปวดอีกต่อไป ร่างของเธอค่อย ๆ ก้าวเดินลงไปในน้ำอย่างเชื่องช้า น้ำที่เย็นเยียบไม่สามารถหยุดยั้งความรู้สึกที่ร้อนรุ่มในหัวใจได้ เธอเดินลึกเข้าไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งผืนน้ำค่อย ๆ กลืนร่างของเธอไปจนมิดและในตอนนั้นเอง...ทุกอย่างก็ดับลง...เธอรู้สึกเหมือนร่างกายลอยเคว้งคว้

  • กลรักปีนเกลียว   ตอนที่ 33 โลกที่พังทะลาย

    "ผมไม่เข้าใจเลยครับคุณอา ท่าทีของนวลในตอนนั้น..."นวล มองซ้ายมองขวา เนื่องจากเป็นสถานที่ที่ไม่ควรใช้เสียง นวลจึงรากเอกออกมา ยังบริเวณข้างนอกวอร์ด จาก สถานที่ ที่ห้ามรบกวนผู้ป่วยและ บุคลากรของโรงพยาบาลเอกมองหน้าอาด้วยความสับสน ทั้งที่เขาชื่อเอก แต่ทำไมทุกคนถึงเรียกเขาว่า 'นนท์' นนท์เป็นใคร แล้วเอกคือนนท์ นนท์คือเอกจริงหรือ? ความรู้สึกที่เหมือนมีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากลค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นในใจ"ภาพความทรงจำเมื่อ 28 ปีก่อนย้อนกลับมาฉายซ้ำในหัวนวล"วันนั้น เอก หรือ นนท์ ในวัยเด็กกำลังจะไปเยี่ยมน้องสาวคนใหม่ที่เพิ่งคลอดได้ไม่กี่เดือนพร้อมกับพ่อ ขณะที่พ่อกับอาขอตัวไปทำธุระ เอกจึงต้องอยู่กับนวลที่โรงพยาบาลนวลพาน้องสาวตัวน้อยมาฉีดวัคซีน เอกเลยตามมาด้วย แต่แล้วพ่อของเอกก็ขอตัวไปทำธุระอีก ปล่อยให้เอกอยู่กับนวลและน้องสาวตัวน้อยลำพังขณะที่นวลกำลังติดต่อชำระเงินค่าบริการโรงพยาบาล ก็มีหญิงสาวเสียสติคนหนึ่งเดินมาอุ้มน้องสาวตัวน้อยไป เธอคิดว่าเด็กคนนั้นคือลูกของตัวเองที่เพิ่งเสียชีวิตไปไม่นาน เอกเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งตามไปทันทีแต่ในระหว่างที่กำลังวิ่งตามออกไปนั้นเอง รถคันหนึ่งก็เฉี่ยวเข้าที่ร่างของเอ

  • กลรักปีนเกลียว   ตอนที่ 32 ในที่สุด...ก็เจอแล้ว

    ฝนตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดที่อบอุ่นของเอก เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาที่ยังคงหลับใหลอย่างมีความสุข รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างเงียบเชียบเพื่อไม่ให้รบกวนการนอนของเขาฝนเดินไปที่ระเบียงและมองออกไปยังวิวทะเลที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา เธอรู้สึกราวกับว่ากำลังอยู่ในความฝัน ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความสุข ความรัก และความอบอุ่นเข้ามาแทนที่ความเหงาที่เคยมีในใจมาตลอด ฝนยืนมองวิวอยู่นาน ก่อนที่วงแขนแข็งแรงของเอกจะเข้ามากอดเธอจากด้านหลัง พร้อมกับจุมพิตที่ท้ายทอยแผ่วเบา"ฝนไม่หนีไปจากพี่จริงๆ ด้วย..." เอกพึมพำด้วยเสียงแหบพร่าในยามเช้า ฝนจึงหันไปมองเขาแล้วซบหน้าลงกับแผงอกที่เปลือยเปล่าของเขาอย่างออดอ้อน"จะให้ฝนหนีไปจากความโรแมนติกของพี่เอกได้ยังไงคะ" เธอกระซิบตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส เอกหัวเราะในลำคออย่างพอใจ ก่อนจะกอดเธอไว้แน่นขึ้น"พี่รักฝนนะครับ""ฝนก็รักพี่เอกค่ะ...รักหมดหัวใจเลย"เอกก้มลงจูบฝนอย่างดูดดื่มอีกครั้ง เป็นการเริ่มต้นที่แสนโรแมนติกของทั้งคู่"พี่เอกคะ... กลับจากที่นี่ เราเข้าไปหาแม่ของฝนดีไหมคะ"เอกที่กำลังกอดเธออยู่จากด้านหลังคลายอ้อมกอดเล็กน้อย ก่อนจะหันมาสบตาเธออย่าง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status