Masuk
"น้ำหวานตื่นได้แล้วเดี๋ยวก็ไปเรียนสายหรอก"เสียงปลุกของแก้มใสเพื่อร่วมคณะแถมยังเป็นรูมเมทเธออีกด้วย ทำให้คนตัวเล็กที่กำลังหลับฝันดีสะดุ้งขึ้นมา อันที่จริงเธอตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้แล้วแต่ดูเหมือนว่าแก้มใสจะกลัวเธอตื่นสายจริงๆ
"น้ำหวาน~~~!"
"โอ๊ยยยยตื่นแล้วๆ ไม่ต้องปลุกแล้ว"คนถูกปลุกอ้าปากหาวหวอดๆ ก่อนจะบิดกายไปมา เธอมองเพื่อนร่วมห้องที่เจอกันตั้งแต่วันย้ายเข้าหอแถมยังเรียนห้องเดียวกันอีกด้วย แก้มใสเป็นคนนิสัยดีเลยพูดคุยรู้เรื่องการที่เธอได้รู้จักเพื่อนคนนี้นับว่าเป็นโชคดีเหมือนกัน
"รีบไปไหนเนี่ย"
"รีบดีกว่าสายนะ เร็วไปอาบน้ำเถอะฉันแต่งหน้าต่อก่อน"
"เคๆ"น้ำหวานพยักหน้าตอบก่อนจะลุกขึ้นเดินไปอาบน้ำ
น้ำหวานเป็นนักศึกษาปี1ในมหาลัยชื่อดังแห่งนี้ เธอเป็นเด็กทุนของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ครอบครัวของเธออยู่ต่างจังหวัดพื้นฐานทางบ้านไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากมายแต่ก็ไม่ได้ยากจน ถือว่าอยู่ในระดับปานกลางเพราะบิดาของเธอรับราชการส่วนแม่เป็นแม่ค้าขายขนม น้ำหวานเป็นลูกคนเดียวของบ้านการที่มาเรียนที่นี่คนตัวเล็กต้องอ้อนพวกท่านอยู่นานกว่าเธอจะได้มา
หญิงสาวเป็นคนนิสัยนิ่งๆ ถ้าไม่สนิทคือไม่พูดคุยอะไรเลย ใครๆ มักมองเธอว่าเป็นคนโลกส่วนตัวสูงแต่มันก็คงจริงอย่างที่ใครๆ ว่าเพราะเธอไม่ค่อยอยากจะยุ่งเกี่ยวกับใครมากมายนักอารมณ์เบื่อสังคมยุ่งมากก็ยิ่งปวดหัว เธอชอบความสงบสุขมากกว่า
"เธอแต่งหน้าไหม?"แก้มใสหันหน้ามาถามพร้อมสำรวจใบหน้าของเพื่อนใหม่ที่อยู่ห้องเดียวกัน น้ำหวานเป็นผู้หญิงที่น่าตาสวยใช้ได้เลยแต่ผู้หญิงคนนี้มักจะไม่แต่งหน้าแถมยังชอบทำหน้านิ่งๆ อีก
"ไม่อ่ะ ทาแป้งฝุ่นก็พอ"
"อะไรอ่า เธอรู้ไหมว่าเธอสวยมากนะแต่งหน้าอีกนิดหนุ่มๆ ในมอคงมาต่อแถวจีบกันยาว"
"ไม่เป็นแบบนั้นก็ดีแล้ว ไปได้ยังหิวแล้ว"
"เคๆ เสร็จแล้วๆ"ก่อนเข้าเรียนเธอทั้งสองจะแวะทานอาหารเช้าหน้ามหาวิทยาลัยก่อน ส่วนใหญ่เป็นข้าวไข่เจียวบุฟเฟ่ต์ไม่ก็โจ๊กหมูเด้งราคาไม่แพงแถมอร่อยอีกด้วย สีหน้าของแก้มใสดูตื่นเต้นไม่น้อยเลยที่ได้กินอะไรพวกนี้ มันทำให้น้ำหวานมองอย่างนึกแปลกใจก่อนจะอมยิ้มออกมากับท่าทางของเพื่อน
หลังจากที่กินอะไรกันเสร็จสองสาวก็พากันเดินไปขึ้นรถรางของมหาวิทยาลัยก่อนจะขึ้นตึกเรียนของพวกเธอ ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยปีแรกก็นับว่ามีอะไรให้ทำอยู่หลายอย่างโดยเฉพาะกิจกรรมต่างๆ ที่เด็กปีหนึ่งต้องทำ มันทั้งเหนื่อยทั้งสนุกปนเปกันไปแต่ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์อย่างนึง
อีกด้าน
รถสปอร์ตคันหรูแล่นเข้ามาจอดหน้าตึกวิศวะก่อนที่ร่างสูงเกินร้อยแปดสิบห้าจะก้าวขาลงจากรถ เตชินท์หนุ่มหล่อพ่อรวยวิศวะโยธาปีสามที่ใครๆ ต่างก็รู้จักชายหนุ่มเป็นอย่างดี เขาเป็นหนุ่มฮอตที่ทางเพจมหาลัยชอบถ่ายรูปเขาไปลงอยู่ตลอดเวลาทำให้เกิดการปราบปลื้มในตัวชายหนุ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
"มากันนานแล้วเหรอ?"ร่างสูงมาหยุดที่โต๊ะหินอ่อนที่เดิมที่เก่าของพวกเขาที่มักจะมานั่งรอกันตรงนี้หากยังไม่ขึ้นตึกไปเรียน
"เพิ่งมาถึง มึงล่ะเมื่อคืนได้ข่าวไปกับน้องเจนเป็นไง"เหมันต์เพื่อนในกลุ่มเอ่ยถามเนื่องจากเมื่อคืนพวกเขาไปดื่มกันที่ผับก่อนจะแยกย้ายทางใครทางมันและนิสัยอย่างเตชินท์ที่ไม่เคยว่างเว้นกับเรื่องสาวๆ นั้นก็เหมือนเดิม เขาเห็นเพื่อนออกไปกับน้องเจนดาวคณะนิเทศศาสตร์ปีก่อน
"ก็ไม่ไง"
"หึ ไอ้เสือร้ายแบบมึงคงไม่รอด"
"ไม่ถูกใจรึไง?"เป็นสายลมเพื่อนอีกคนของเตชินท์เอ่ยขึ้นอย่างรู้ทันนิสัยของเพื่อนสนิทที่มีสีหน้าเรียบเฉยเมื่อเอ่ยถึงรุ่นน้องสาว
"เออ เลิกพูดได้ยังขึ้นเรียนสักทีเถอะ"เตชินท์ไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีก เขาลุกขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปในตึก ภาพของทั้งสามคนที่เดินเข้าไปในลิฟท์ทำให้สาวๆ ที่เห็นถึงกับรีบยกกล้องมาถ่ายรูปในความสุดฮอตของกลุ่มรุ่นพี่วิศวะกลุ่มนี้
"หล่อมากแม่ พี่เตชินท์เท่สุดๆ พี่เหมันต์พี่สายลมก็ดี"
"ฉันชอบพี่เตชินท์ที่สุดแล้วเมื่อคืนเห็นอยู่ที่ผับคิงบาร์หล่อมาก"
"โชคดีชะมัดที่ได้เจอหน้าพวกพี่เขาตั้งแต่เช้าแบบนี้มีกำลังใจเรียนล่ะ"คำพูดของสาวๆ ที่เอ่ยตามหลังรุ่นพี่หนุ่มที่เดินผ่านหน้าไปก่อนจะอัพรูปลงโซเชียลอย่างปราบปลื้มอีกฝ่าย ถ้าเป็นรูปถ่ายชื่นชมไม่มีอะไรเสียหายพวกชายหนุ่มก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอก ถ้าทำอะไรเกินขอบเขตพวกเขาถึงจะจัดการ
"กรี๊ดรูปพี่เตชินท์"เสียงของเพื่อนร่วมชั้นพูดขึ้นหลังจากที่อาจารย์มาสั่งงานก็เดินออกไปข้างนอกแล้ว
"ไหนๆ อร๊ายไม่ได้เจอหน้าเลย หล่อเนาะ"
"พี่เหมันต์ก็เท่"คำพูดของผู้หญิงในห้องทำให้แก้มใสที่กำลังจดงานชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะมองน้ำหวานที่ไม่มีท่าทีจะสนใจอะไรเลย
"ไม่เห็นเท่ตรงไหนเลย"แก้มใสพึมพำ
"หืม? เธอว่าอะไรเหรอ"น้ำหวานหันหน้าไปถามเมื่อได้ยินอะไรแว่วๆ มาจากปากของเพื่อน
"ปะ เปล่าไม่มีอะไร"
"เสร็จยัง เราเขียนเสร็จแล้วนะ"
"อะไรน่ะ เร็วชะมัด เธอเนี่ยจะเรียนเก่งเกินไปแล้วนะ"แก้มใสทำแก้มป่องออกมาเธอชอบน้ำหวานเพื่อนของเธอก็คือความเรียนเก่งนี่แหละ
"อะไรเล่า ไม่ได้เก่งอะไรเลยคิดเลขง่ายๆ"คนได้ยินว่าคิดเลขง่ายๆ ตาโตขึ้น เธอปวดหัวตึบๆ เพื่อนบอกว่าง่ายยอมใจจริงๆ
"ยอมใจเธอจริงๆ"แก้มใสรีบทำงานของตัวเองก่อนที่อาจารย์จะให้ส่งในคาบ
ไม่นานสักเท่าไหร่นักสองสาวก็เดินกันมายังโรงอาหารก่อนจะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงนักศึกษาสองกลุ่มกำลังทะเลาะกันอยู่ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องใหญ่ไม่น้อยเลย
"เมื่อคืนแกใช่ไหมที่ไปยุ่งกับพี่เตชินท์ของฉัน!"
"ของแกงั้นเหรอ หึพี่เตชินท์ไม่ใช่ของแกแต่เป็นของฉันต่างหาก"
"นังเจน!"
"ทำไม หรือรับความจริงไม่ได้"
"มึงใจเย็นๆ อย่ามีเรื่องกันเดี๋ยวเป็นเรื่อง"เพื่อนทางฝั่งเจนสะกิดบอกหญิงสาวใบหน้าสวยที่จ้องมองฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่คิดยอม เหตุการณ์ที่เห็นทำให้น้ำหวานเดาได้ว่าเป็นเรื่องอะไรเธอไม่ชอบอะไรแบบนี้การทะเลาะกันเรื่องผู้ชายเธอไม่ชอบจริงๆ อีกอย่างที่นี่คือมหาวิทยาลัยเรามีหน้าที่เรียนแทนที่จะเรียนไป
"น้ำหวาน เราว่าไปกินข้าวที่อื่นดีกว่าไหม เจอแบบนี้ไม่อยากกินเลย"แก้มใสกระซิบบอกทำให้น้ำหวานพยักหน้าเห็นด้วย อีกอย่างเธอมีเรียนอีกทีคือตอนบ่ายสองเหลือเวลาอีกเยอะจึงตกลงว่าจะไปกินข้าวที่ร้านป้าหน้ามหาวิทยาลัยค่อยกลับไปนอนเล่นที่หอก่อน
"เอ๊ะ กลุ่มพี่เหมันต์นี่น่า"แก้มใสพึมพำหลังจากที่มองเห็นกลุ่มวิศวะคนดังกำลังเดินไปยังรถคันหรูที่จอดอยู่
"ใครเหรอ?"
"เอ่อ ก็ต้นเหตุที่ทำให้พวกผู้หญิงเมื่อกี้ทะเลาะกันไง"น้ำหวานที่ได้ยินอย่างนั้นก็มองไปทางกลุ่มรุ่นพี่ที่ยินพิงรถสูบบุหรี่อยู่ ท่าทางของพวกเขาเท่ก็จริงแต่ไม่ใช่แบบที่เธอชอบอะไรแต่อย่างใด สูบบุหรี่ในรั้วมหาวิทยาลัยเนี่ยนะ
"เธอรู้จักเหรอ"
"ก็เห็นในเพจมหาวิทยาลัย เธอเห็นคนนั้นไหมที่ยืนอยู่ข้างรถสปอร์ตสีดำเท่ๆ น่ะ นั่นอ่ะพี่เตชินท์ หล่อรวยสาวๆ หลงกันตรึมแต่จะบอกว่าหล่อทั้งกลุ่มก็ไม่ผิดหมายถึงในสายตาคนอื่นนั้น ฉันว่าก็เฉยๆ โดยเฉพาะผู้ชายที่ถกแขนเสื้อน่ะ"น้ำหวานมองตามคำพูดของเพื่อน
"ชื่อเหมันต์ไม่เห็นจะหล่อตรงไหน อีกคนชื่อสายลมคนนี้เหมือนจะดีที่สุดในกลุ่ม นิ่งๆ ไม่อะไรกับใครมาก"
"อ้อ เราไม่รู้จักเลย"
"ไม่แปลกใจที่เธอไม่รู้จักตั้งแต่เรารู้จักเธอมา เธอแทบไม่สนใจใครเลยจ๊ะ"
"ก็ไม่รู้จะสนใจทำไม อีกอย่างเรามีเรื่องที่สนใจอยู่แล้ว"เรื่องที่น้ำหวานหมายถึงไม่ใช่อะไรเลยนอกจากเรื่องเรียน
"ก็ดีแล้ว เป็นเพื่อนกับเธอสบายใจจริงๆ น่ารักที่สุด"
"อะไรเล่ามาชมทำไมเนี่ย"
"อิอิ น้ำหวานเพื่อนรักของเรา"
"หยุดๆ ขนลุก"น้ำหวานเดินหนีแก้มใสก็ตามเกาะแขนก่อนที่สองสาวจะหยอกล้อตามประสา เสียงหัวเราะทำให้เตชินท์ที่สูบบุหรี่อยู่มองเล็กน้อยเขาไม่ได้สนใจอะไรก่อนจะพูดคุยกับเพื่อนต่อ
เตชินท์มายังร้านสะดวกซื้อ เขาเดินไปยังโซนขายผ้าอนามัยของผู้หญิงก่อนจะมองด้วยใบหน้าร้อนผ่าว เกิดมาไม่เคยมาซื้ออะไรพวกนี้เลยแต่ตอนนี้เขามาทำบ้าอะไรอยู่ก็ไม่รู้ ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมา ไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงชอบใช้แบบไหนเพราะมันมีหลายแบบหลายขนาดหลายกลิ่นอีกด้วยนั่นจึงทำให้เตชินท์หยิบมาหลายอัน ก่อนจะหาซื้อขนมซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปด้วย คนตัวสูงหลบสายตาพนักงานที่กำลังอมยิ้มอยู่คงจะขำที่เขามาซื้ออะไรพวกนี้สินะแต่คนตัวสูงพยายามไม่สนใจ หลังจากที่จ่ายเงินเสร็จเขาก็รีบออกมาทันทีก่อนจะแวะไปยังร้านขายยาขอซื้อยาแก้ปวดท้องประจำเดือนจากเภสัชกร“พี่เตชินท์ บังเอิญจังเลยคะ”เสียงริต้าเอ่ยทักทายเมื่อเห็นชายหนุ่มเดินออกมาจากร้านขายยา เธอเห็นรถเขาจึงรีบจอดรถมาทักทายอีกฝ่ายเพราะช่วงนี้ชายหนุ่มไม่ค่อยตอบข้อความเธอเลย“อืม”“พี่ไม่สบายเหรอคะ ถึงมาร้ายขายยา”“อืม ฉันไปก่อนนะมีธุระ”“เดี๋ยวสิคะ พี่เตชินท์จะไปคิงบาร์รึเปล่าคืนนี้ ริต้ามีนัดกับพวกเพื่อน พี่ไปด้วยกันไหมคะ”“ไม่”คำตอบสั้นๆ แต่ทำให้หญิงสาวรู้สึกเสียใจไม่น้อย เธอเคยหลับนอนกับอีกฝ่ายแล้วแท้ๆ แต่ทำไมชายหนุ่มถึงไม่สนใจใยดีเธอเลย หรือว่าครั้งนั้นเธอทำไม
คำถามในข้อความที่เตชินท์ส่งมาสร้างความงงงวยให้แก่หญิงสาวไม่น้อย เธอกำลังจะพิมพ์ถามกลับไปแต่ก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงรถหรูแล่นมาจอดทางด้านหลัง ทำให้คนตัวเล็กรีบหันไปมอง เจ้าของรถเปิดประตูลงมาด้วยอารมณ์หงุดหงิดไม่น้อยเลย“พะ พี่เตชินท์ พี่มาได้ไง”“ขึ้นรถ”“ฮะ เอ่อ หวานไม่ว่าง”เธอไม่พอใจแต่ก็พยายามพูดดีๆ ออกไปเพราะไม่อยากทะเลาะกับอีกฝ่ายในตอนนี้อีกอย่างเธอหิวข้าวจะตายอยู่แล้ว“ฉันไม่สน!”เตชินท์ไม่พูดเปล่าเขากระชากเรียวแขนของน้ำหวานบีบบังคับให้เธอขึ้นมาบนรถของเขา การกระทำของชายหนุ่มทำให้ใบหน้าสวยหวานเบ้ออกมาเล็กน้อยแต่ก็ยอมขึ้นไปบนรถของอีกฝ่ายปัง!เสียงประตูห้องสุดหรูของชายหนุ่มปิดลงดังลั่นตามอารมณ์หงุดหงิดของเจ้าของห้อง หญิงสาวที่ถูกพามาที่นี่เอาแต่ยืนสะดุ้งตกใจอยู่กลางห้องอย่างไม่เข้าใจว่าเธอไปทำอะไรให้เขาหงุดหงิดกันเขาถึงได้เป็นบ้าแบบนี้“ฉันถามว่าใคร!”เตชินท์หันหน้ามาจ้องมองคนตัวเล็กพร้อมกับเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ“พี่หมายถึงอะไรคะ”“หึ ไปยืนร่านกับใครฉันก็หมายถึงคนนั้นล่ะ”หัวคิ้วของน้ำหวานเป็นปมก่อนจะร้องอ๋อในใจเมื่อเข้าใจแล้วว่าผู้ชายคนนี้หมายถึงใคร แต่เธอไม่ได้ไปทำแบบที่
“ทำไมมาช้า แล้วนี่ใครว่ะ?”เป็นเหมันต์ที่เอ่ยถามหลังจากที่สายลมนั่งลงพร้อมดึงให้คนตัวเล็กที่ดูไม่เต็มใจอยากจะมาด้วยนั่งลงข้างๆ“นี่วันใหม่เพื่อนกู”คนถูกแนะนำว่าเพื่อนมีสีหน้าเรียบนิ่งพอสมควร“เพื่อน?”“เพื่อนสมัยเด็ก พอดีย้ายมาเรียนที่มหาวิทยาลัยเรา”“เพิ่งย้ายมาเหรอ”“อืม”สายลมครางตอบเพียงแค่นั้นแต่ทว่ามีหรือที่เพื่อนทั้งสองจะเชื่อว่าผู้หญิงข้างกายเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น สายลมเป็นยังไงมีหรือที่พวกเขาจะไม่รู้ปกติไม่เคยเห็นสนใจผู้หญิงคนไหน มีผู้หญิงมากมายเข้าหาแต่ทว่าสายลมก็ไม่เคยเล่นด้วย คนภาพนอกคิดว่าอีกฝ่ายเย็นชาเข้าถึงยากมันก็เป็นเรื่องจริงแต่ถ้าเป็นคนสนิทอีกฝ่ายก็ปกติ“เธอชื่อวันใหม่เหรอ เรียนคณะอะไร”“บริหาร”“แล้วรู้จักกับไอ้ลมมานานยัง”“นานแล้ว”วันใหม่ตอบแค่นั้นท่าทีของเธอเหมือนไม่อยากตอบเลยด้วยซ้ำ คนตัวเล็กขยับกายออกห่างจากเพื่อนเก่าแต่ก็ถูกสายตาดุๆ มองมา“จะขยับไปไหน”“ร้อน อึดอัด”“มากไหม?”สายลมถามออกไปด้วยใบหน้าบึ้งตึงเพราะรู้ดีที่คนตัวเล็กขยับตัวออกห่างเป็นเพราะอะไร“ฉันไม่ได้อยากมาด้วย”“แล้วใครสน?”“ลม จะเกินไปแล้วนะ”ตั้งแต่ที่เธอได้เจอเขาอีก เขาก็ทำเรื่องมากมายกับเธอบีบบัง
2 อาทิตย์ผ่านไปเตชินท์: มาหาฉัน ห้ามเกินครึ่งชั่วโมงเป็นอีกวันที่น้ำหวานได้รับข้อความจากรุ่นพี่หนุ่ม ตลอดหลายวันที่ผ่านมาเขาสั่งให้เธอไปหาทุกวันแทบไม่ให้เธอหยุดพัก คนตัวเล็กมีปฏิเสธแต่เขาก็ขู่เธอ ทำให้เธอต้องมาหาเขาอีกจนได้ ความสัมพันธ์ระหว่างน้ำหวานกับเตชินท์มีแค่เพื่อนๆ ของเขารู้และแก้มใส อยู่มหาวิทยาลัยถ้าหากบังเอิญเจอกันเราทั้งสองทำเหมือนไม่เคยรู้จักกันเลย เขาเดินผ่านเธอหันหนีไปอีกทางซึ่งมันก็ดีแล้วที่เป็นแบบนี้แต่บางครั้งการที่เธอได้ยินคำพูดของคนอื่นเกี่ยวกับชายหนุ่มมันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแย่“ทำไมมาช้า”ทันทีที่ใช้คีย์การ์ดเข้ามาในห้องสุดหรูน้ำเสียงไม่พอใจก็ถามขึ้นทันที“หวานทำรายงานก่อนมาค่ะ”เพราะเขาสั่งให้เธอแทนตัวเองแบบนี้เธอที่ไม่อยากมีปัญหาอะไรจึงพูดแทนตัวเองอย่างที่เขาต้องการ“อืม เดินมานั่งนี่”เขาตบลงข้างกายทำให้คนตัวเล็กเดินไปนั่งข้างๆ เขา“ทำหน้าไม่พอใจอะไร”“พี่จะให้หวานมาหาทำไมบ่อยจังคะ”“เบื่องั้นเหรอ”เธอไม่ตอบแต่ก็แสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าเบื่อหน่ายพอสมควร“หึ แต่ฉันยังไม่เบื่อเธอเลยนะ”เขาไม่พูดเปล่ายกมือขึ้นมาเกลี่ยเส้นผมของคนตัวเล็กเล่นไปมา“แล้วเมื่อไหร่กันคะ เมื
“หึ ปากเก่งแล้วเหรอ แบบนี้คงหายแล้วใช่ไหม?”เตชินท์พูดออกไปด้วยใบหน้าเจ้าเล่ห์แค่เห็นเธออยู่ตรงหน้าก็ทำให้เขามีความต้องการแล้ว หญิงสาวรีบส่ายหน้าไปมาทันที“ไม่ค่ะ ยังเอ่อยังไม่หาย”จากที่ตีฝีปากกับเขากลายเป็นว่าคนตัวเล็กไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีกเพราะกลัวว่าผู้ชายคนนี้จะทำอย่างที่พูด เตชินท์ไม่ยอมให้เธอกลับห้อง เขาสั่งอาหารให้มาส่งที่คอนโดก่อนจะมานั่งกินข้าวกับเธอ น้ำหวานรู้สึกกลืนแทบไม่ลง เธอไม่คิดเหมือนกันว่าทุกอย่างจะกลายมาเป็นแบบนี้ไปได้จากคนที่ไม่เคยรู้จักแต่ในยามนี้เธอต้องมาเป็นผู้หญิงลับๆ ของเขาอีกวันผ่านไปน้ำหวานขอร้องจนสามารถกลับมาที่ห้องของตัวเองได้ เธออาบน้ำแต่งตัวในชุดนักศึกษาก่อนจะไปเรียนตามปกติ ก่อนหน้านี้เธอติดต่อหาแก้มใสอีกฝ่ายบอกว่าต้องกลับเชียงใหม่จึงต้องหยุดเรียนในวันนี้ เธอไม่ได้ถามอะไรมากมายเพราะดูเพื่อนกำลังมีเรื่องต้องจัดการเธอจึงมาเรียนคนเดียว หญิงสาวแทบไม่พูดคุยกับใครมากมายเธอเรียนของเธอเสร็จก็เดินทางกลับมาที่หอเตชินท์: สองทุ่มมาที่คอนโดเสียงข้อความที่เธอไม่อยากเห็นถูกส่งมาที่เครื่องของเธอ หญิงสาวเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่นก่อนจะถอนหายใจออกมา เธอมองเพดานนิ่งสมองกำ
น้ำหวานแทบอ่อนแรงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เหมือนว่าเธอไม่มีทางเลือกอะไรเลยนอกจากยอมผู้ชายคนนี้ แต่เธอก็ไม่รู้ว่ามันจะนานแค่ไหนกับการที่ต้องมาอยู่ในฐานะของเล่นของเขาแต่ถ้าหากเธอไม่ยอมชีวิตที่สงบสุขของเธอจะเป็นยังไงต่อไป เขาร่ำรวยมีอำนาจมากกว่าครอบครัวเธอก็แค่คนธรรมดาเพราะแบบนี้มันทำให้หญิงสาวกลั้นใจถามเขาออกไป“นานแค่ไหนกับสถานะบ้าๆ นั้น”“หึ ฉันเป็นพวกขี้เบื่อ ไม่นานหรอกเล่นจนเบื่อเดี๋ยวทิ้งเอง”“ทำไมพี่ถึงได้เลวขนาดนี้คะ ฉันไม่เข้าใจจริงๆ”คำว่าเลวในครั้งนี้เล่นเอาหัวใจแกร่งกระตุกไม่น้อยเลยแต่ชายหนุ่มก็เหมือนไม่สนใจอะไรเขายักไหล่ยอมให้เธอด่าต่อไป“สรุป เอาไง”“หึ ถ้าฉันปฏิเสธพี่ก็คงทำเลวๆ กับฉันเหมือนที่ผ่านมา”เธอที่ไม่มีทางเลือกอะไรเลยจึงเอ่ยออกไป สายตายังคงมองชายหนุ่มด้วยความเกลียดชัง“เป็นผู้หญิงลับๆ ของฉันมันไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอก อยากได้เท่าไหร่ก็พูดมาเธอจะได้ไม่ต้องไปทำงานที่ผับนั้น”หึ ไม่เลวร้ายงั้นเหรอเขากล้าพูดออกมาได้ยังไงกัน ได้ในเมื่อเขาพูดแบบนี้เธอก็จะยอมรับข้อเสนอของเขา เธอยอมเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะเล่นไม่ซื่อด้วย กลัวว่าเขาจะรูปพวกนั้นไปปล่อยอย่างที่ขู่เอาไว้“ได้ ฉันยอมแต่พี่ก็







