LOGINหลายวันผ่านไป
น้ำหวานนั่งทำบัญชีรายรับรายจ่ายที่เธอมักจะชอบทำเป็นประจำเพื่อที่จะรู้ว่าแต่ล่ะเดือนเธอต้องใช้จ่ายอะไรบ้าง หญิงสาวได้ทุนก็จริงแต่ค่าใช้จ่ายเธอก็ต้องหาเอง พ่อแม่เธอให้เงินเดือนเธอห้าพันอันที่จริงท่านถามว่าพอไหมไม่พอจะให้เพิ่มแต่คนตัวเล็กรู้ดีว่ารายได้พ่อแม่ของเธอเป็นยังไง แถมท่านก็มีอายุมากแล้วในเมื่อเธออยากมาเรียนที่นี่ก็ต้องรับผิดชอบตัวเองได้ หญิงสาวจึงไม่ได้เรียกร้องอะไรมากมาย เธอตัดสินใจว่าอยากหางานทำเพิ่มเติม คนตัวเล็กเห็น่าแถมมหาวิทยาลัยมีร้านรับพนักงานพาร์ทไทม์ไม่น้อยเลยแต่ส่วนใหญ่เป็นงานกลางวัน ตารางเรียนของเธอมันไม่ตรงกันอีก หญิงสาวจึงได้แต่คิดว่าจะทำงานอะไรดี
"ทำอะไรอยู่น่ะ"แก้มใสถามอย่างใส่ใจเมื่อเห็นเพื่อนนั่งเงียบมานานแล้ว
"อ้อ ทำรายรับรายจ่ายน่ะ"
"หึ สมกับเป็นนักศึกษาบัญชีจริงๆ"เพื่อนของเธอทำอะไรเป็นระเบียบและจริงจังมาก ขนาดค่าใช้จ่ายยังต้องมาจดทำบัญชีทุกวัน
"ไม่เกี่ยวเลยว่าต้องเรียนบัญชี คนไม่เรียนบัญชีก็ควรทำแบบนี้เราจะได้เก็บเงินได้"
"โห้ น่าสนใจแบบนี้เราจะทำบ้าง"
"ว่าแต่แก้มใสบ้านอยู่ที่นี่ไหม ไกลรึเปล่า"
"บ้านเราอยู่เชียงใหม่น่ะแต่เราพูดเหนือไม่เป็นนะ"เธอตอบด้วยท่าทีโก๊ะๆ ที่แก้มใสพูดเหนือไม่ได้เพราะเธอไม่ได้โตที่เชียงใหม่ไง หญิงสาวไปอยู่ต่างประเทศมาช่วงนึงตั้งแต่อายุสิบห้าจนจบไฮสคูลก่อนจะกลับมาอยู่เชียงใหม่แต่ก็พูดไม่เป็นอยู่ดีแต่ฟังออกนะ
"ก็ไกลน่ะสิทำไมมาเรียนไกลจัง"
"ก็มหาวิทยาลัยที่นี่ดีไง"ก็คงไม่ต่างจากเธอที่อยากเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยดีๆ แบบนี้
"ขอโทษนะถามได้ไหมว่าครอบครัวแก้มใสเป็นไงบ้าง"
"ถามได้สิ ถามเลยเราชอบคุย"ปกติมีแต่เธอที่คุยคนเดียวรู้สึกเหงามากๆ พอได้ยินว่าน้ำหวานอยากจะพูดคุยกับเธอคนตัวเล็กก็ดูตื่นเต้นไม่น้อยเลย ท่าทีของแก้มใสทำให้น้ำหวานนึกขำไม่น้อยเธอเริ่มชินกันนิสันแบบนี้ของอีกฝ่ายแล้ว
"ครอบครัวเป็นไงบ้างเหรอ ก็ทั่วไปนะบ้านเราขายชา"น้ำหวานพยักหน้ารับรู้คิดว่าที่บ้านของแก้มใสคงเปิดร้านน้ำชาอะไรพวกนี้แต่ความหมายของเพื่อนเธอคือเป็นเจ้าของไร่ชาที่ใหญ่ติดอันดับในประเทศเลยล่ะ
"แล้วน้ำหวานล่ะ"
"พ่อเรารับราชการไม่ได้ตำแหน่งใหญ่โตอะไรหรอก"
"พ่อดุเปล่า"
"ไม่นะพ่อใจดีแต่แม่ดุ"
"จริงเหรอ เราน่ะแม่ใจดีมากๆ แต่พ่อนี่สิดุเกิน"แค่นึกถึงใบหน้าของบิดาแก้มใสก็ทำหน้าสยองแล้ว ดุแต่เธอก็ชอบเอาแต่ใจพ่อของเธอพอเห็นเธอร้องไห้เสียใจก็ใจอ่อนแล้วแต่บางเรื่องท่านก็ไม่แพ้น้ำตาเธอหรอก ดุที่สุด
"ดุขนาดนั้นทำไมถึงได้มาเรียนไกลจังล่ะ"
"อยากรู้เหรอ"
"อยากรู้ดิ"น้ำหวานเริ่มทำหน้าสงสัยแล้วเมื่อเห็นท่าทีของเพื่อนที่ดูเจ้าเล่ห์ออกมาแบบนี้
"หนีมาไง"
"ห๊า! พูดจริงดิ"
"ล้อเล่น"แก้มใสหัวเราะชอบใจออกมาเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของเพื่อน แต่อันที่จริงเธอไม่ได้พูดเล่นเลยสักนิดเธอหนีมาจริงๆ มีแค่แม่ของเธอเท่านั้นที่รู้เรื่องและช่วยปกปิดให้ที่เธอทำแบบนี้เธอก็มีเหตุผลของเธอเหมือนกัน
"เธอนี่นะล้อเล่นอยู่เรื่อย"แต่ถามว่านิสัยของอีกฝ่ายเป็นแบบนี้ดีไหมเอาจริงๆ เธอก็ชอบนะรู้สึกว่าแก้มใสเป็นคนพูดมากที่ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกรำคาญเลย ปกติถ้าเป็นคนอื่นเธอคงไม่อยู่ฟังหรอก
"เฮ้อ"
"ถอนหายใจทำไมหรือว่าเบื่อเรา"แก้มใสถามขึ้นมาทันทีเพราะกลัวว่าเพื่อนจะเบื่อตนเองเหมือนที่ใครอีกคนเคยเบื่อเธอ
"เปล่า แค่คิดอยากหางานทำน่ะ"
"ค่าใช้จ่ายไม่พอเหรอ ยืมเราไหม"
"บ้า ไม่ยืม ฉันแค่ไม่อยากรบกวนครอบครัวมาก ในเมื่ออยากมาเรียนที่นี่ก็ต้องช่วยเหลือตัวเองให้ได้ ฉ้นเลยอยากหางานทำน่ะแต่งานก็มีแค่ตอนกลางวันที่พอทำได้"
"เรื่องตารางเรียนใช่ไหม"
"อืม ปีหนึ่งเรียนหนักจะตายไปไหนจะกิจกรรมอีก"
"ก็จริง ค่อยๆ หาเดี๋ยวก็หาได้"
"อืม ขอบใจนะ"สองสาวพูดคุยกันต่อพักใหญ่ก่อนจะแยกย้ายกันอยู่ใครอยู่มัน ส่วนใหญ่น้ำหวานก็มักจะอ่านหนังสือทบทวนบทเรียนก่อนนอน แก้มใสก็เล่นเกมส์ฟาร์มตามประสาของเธอ
อีกด้าน
วันนี้พวกเตชินท์นัดกันมาที่โต๊ะสนุกเกอร์ พวกเขามักจะเล่นเวลาว่าง แข่งกันขำๆ ไม่ได้จริงจังอะไร ปกติแล้วนอกจากไปที่ผับก็มีที่นี่อีกที่ที่พวกเขามา
"คืนนี้ไปต่อที่คิงบาร์ไหม"เหมันต์เอ่ยถามพร้อมกับมือที่ยกเบียร์ขึ้นมากระดกลงคอ
"คงไม่กูมีงานต้องทำต่อ"เตชินท์ตอบออกไป
"งานอะไร"
"เช็คของให้ป๊า"ครอบครองของชายหนุ่มทำธุรกิจหลายอย่างทั้งอสังหาริมทรัพย์ทั้งผลิตอะไหล่รถยนต์ ตั้งแต่ที่ขึ้นมหาลัยเตชินท์ก็เริ่มเรียนรู้งานถึงแม้เขาจะเที่ยวแต่ก็ไม่เคยลืมหน้าที่ตัวเอง
"มึงล่ะไอ้ลม"
"กูไม่ วันนี้พักพอดีแม่ให้กลับไปนอนบ้าน"
"ไอ้ลูกติดแม่"เหมันต์ว่าเพื่อนไม่ได้จริงจังอะไรมากนัก
"ไม่ใช่มึงที่ติดผู้หญิง"
"หึ ให้มันติดเถอะได้ข่าวว่าพอเรียนจบมันต้องแต่งงานกับคู่หมั้นมันแล้ว"เตชินท์พูดขึ้นอย่างกวนๆ เพราะรู้ดีว่าเรื่องนี้มันทำให้เหมันต์หงุดหงิดแค่ไหน
"มึงจะพูดทำไมไอ้เต นี่กูอุตส่าห์ลืมไปแล้ว"
"ลืมแล้วไงถึงเวลามึงก็ต้องแต่งไม่ใช่เหรอ ว่าแต่คู่หมั้นมึงเป็นไงบ้าง"
"ไม่รู้ไม่ได้สนใจ ป่านนี้อยู่ต่างประเทศมั้ง ผู้หญิงน่าเบื่อแบบนั้นกูไม่อยากนึกถึงหรอก"หลายปีแล้วที่เขาไม่ได้เจอหน้าผู้หญิงคนนั้น แค่นึกถึงก็ขนลุกแล้ว ท่าทีของเหมันต์ทำให้เตชินท์กับสายลมส่ายหน้าไปมาด้วยรอยยิ้มขบขัน
ชายหนุ่มทั้งสามแยกย้ายกันทางใครทางมันหลังจากไม่ได้ไปไหนกันต่อ ชีวิตของเตชินท์ก็เป็นประมาณนี้นอกจากเรียนก็ทำงานและก็ไปเที่ยวสนุกตามวัยรุ่นดีที่ครอบครัวของเขาไม่ได้ยุ่งวุ่นวายมากเพราะพวกท่านให้เขาได้ใช้ชีวิตขอแค่ไม่ทำให้พวกท่านผิดหวังก็พอ
อีกวันผ่านไป
ร่างเล็กของน้ำหวานวิ่งหน้าตั้งมาเรียนอีกวิชา วิชานี้แก้มใสไม่ได้เรียนกับเธอทำให้วันนี้คนตัวเล็กต้องมาคนเดียวแต่เพราะความลืมกลัวมาสายทำให้หญิงสาวไม่ทันได้ระวังเธอเผลอชนกับร่างใครอีกคนจนเกิดเสียงดังตุ๊บ ก่อนที่หญิงสาวจะเซล้มไปทับกับคนดังกล่าว
"เฮ้ย เดินยังไงว่ะ"
"ขอโทษค่ะ ขอโทษนะคะ"เธอรู้ว่าตัวเองรีบไปหน่อยเลยไม่ได้ระวังแบบนี้ หญิงสาวจึงรีบเอ่ยขอโทษออกไปแต่พอเธอเงยหน้าขึ้นมา ชายหนุ่มตรงหน้าที่ดูจะหงุดหงิดพอสมควรก็ชะงักไปเล็กน้อย เมื่อเห็นดวงตาของคนตัวเล็กที่สบเข้ากับเขาพอดี
"ไอ้เตเป็นไงบ้างว่ะ"เหมันต์ถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่ฉากโรแมนติกเหมือนที่ในละครบอกเลยสักนิดเพราะต่างคนน่าจะเจ็บพอสมควร
"ไม่เป็นไร"เตชินท์ตอบเพื่อนก่อนจะลุกขึ้น น้ำหวานเองก็เหมือนกัน เธอยกมือขอโทษอีกฝ่ายเพราะรู้สึกผิดจริงๆ
"เธอไม่เป็นไรนะ"
"เอ่อ ไม่ค่ะ ขอโทษอีกครั้งนะคะถ้าไม่มีอะไรแล้วขอตัวก่อนนะคะพอดีฉันกำลังรีบ"
"อืม"เตชินท์พยักหน้าทำให้น้ำหวานรีบเดินต่อ เธอไม่ได้วิ่งเหมือนตอนแรกเพราะรู้สึกเจ็บข้อเท้าเล็กน้อย คนตัวเล็กเอาแต่บ่นตัวเองที่รีบจนเกิดเรื่องแบบนี้ ไม่น่านอนดึกเลยมัวแต่คิดมากเรื่องหางานจนตื่นสาย
"มองอะไรว่ะ?"สายตาของเตชินท์ที่มองตามแผ่นหลังคนตัวเล็กทำให้เหมันต์เอ่ยถามอย่างจับผิด สายตาเจ้าเล่ห์ที่มองเพื่อนมันทำให้รู้กันว่าหมายถึงอะไร
"ตกหลุมรักรึไง"นานๆ จะเห็นเตชินท์มองตามสาวแบบนี้ ขนาดสายลมยังรู้สึกสงสัยไม่ต่างกันแต่แค่อีกฝ่ายไม่ค่อยพูดมากปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเหมันต์แทน
"หลุมรักพ่อง!"
"อ้าวก็เห็นมอง"
"มองไปงั้น จืดๆ แบบนั้นไม่ใช่สเปก"
"ครับ เชื่อครับผม"
"กวนตีน"เตชินท์นึกหมั่นไส้คำพูดของเพื่อนจึงด่ากลับไป พวกเขาพูดคุยกันแบบนี้เป็นประจำอยู่แล้วอาจจะมีคำหยาบกันบ้างแต่ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรกันเพราะรู้จักกันมานาน เป็นเพื่อนกันจนรู้ไส้รู้พุงกันหมดแล้ว
เตชินท์มายังร้านสะดวกซื้อ เขาเดินไปยังโซนขายผ้าอนามัยของผู้หญิงก่อนจะมองด้วยใบหน้าร้อนผ่าว เกิดมาไม่เคยมาซื้ออะไรพวกนี้เลยแต่ตอนนี้เขามาทำบ้าอะไรอยู่ก็ไม่รู้ ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมา ไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงชอบใช้แบบไหนเพราะมันมีหลายแบบหลายขนาดหลายกลิ่นอีกด้วยนั่นจึงทำให้เตชินท์หยิบมาหลายอัน ก่อนจะหาซื้อขนมซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปด้วย คนตัวสูงหลบสายตาพนักงานที่กำลังอมยิ้มอยู่คงจะขำที่เขามาซื้ออะไรพวกนี้สินะแต่คนตัวสูงพยายามไม่สนใจ หลังจากที่จ่ายเงินเสร็จเขาก็รีบออกมาทันทีก่อนจะแวะไปยังร้านขายยาขอซื้อยาแก้ปวดท้องประจำเดือนจากเภสัชกร“พี่เตชินท์ บังเอิญจังเลยคะ”เสียงริต้าเอ่ยทักทายเมื่อเห็นชายหนุ่มเดินออกมาจากร้านขายยา เธอเห็นรถเขาจึงรีบจอดรถมาทักทายอีกฝ่ายเพราะช่วงนี้ชายหนุ่มไม่ค่อยตอบข้อความเธอเลย“อืม”“พี่ไม่สบายเหรอคะ ถึงมาร้ายขายยา”“อืม ฉันไปก่อนนะมีธุระ”“เดี๋ยวสิคะ พี่เตชินท์จะไปคิงบาร์รึเปล่าคืนนี้ ริต้ามีนัดกับพวกเพื่อน พี่ไปด้วยกันไหมคะ”“ไม่”คำตอบสั้นๆ แต่ทำให้หญิงสาวรู้สึกเสียใจไม่น้อย เธอเคยหลับนอนกับอีกฝ่ายแล้วแท้ๆ แต่ทำไมชายหนุ่มถึงไม่สนใจใยดีเธอเลย หรือว่าครั้งนั้นเธอทำไม
คำถามในข้อความที่เตชินท์ส่งมาสร้างความงงงวยให้แก่หญิงสาวไม่น้อย เธอกำลังจะพิมพ์ถามกลับไปแต่ก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงรถหรูแล่นมาจอดทางด้านหลัง ทำให้คนตัวเล็กรีบหันไปมอง เจ้าของรถเปิดประตูลงมาด้วยอารมณ์หงุดหงิดไม่น้อยเลย“พะ พี่เตชินท์ พี่มาได้ไง”“ขึ้นรถ”“ฮะ เอ่อ หวานไม่ว่าง”เธอไม่พอใจแต่ก็พยายามพูดดีๆ ออกไปเพราะไม่อยากทะเลาะกับอีกฝ่ายในตอนนี้อีกอย่างเธอหิวข้าวจะตายอยู่แล้ว“ฉันไม่สน!”เตชินท์ไม่พูดเปล่าเขากระชากเรียวแขนของน้ำหวานบีบบังคับให้เธอขึ้นมาบนรถของเขา การกระทำของชายหนุ่มทำให้ใบหน้าสวยหวานเบ้ออกมาเล็กน้อยแต่ก็ยอมขึ้นไปบนรถของอีกฝ่ายปัง!เสียงประตูห้องสุดหรูของชายหนุ่มปิดลงดังลั่นตามอารมณ์หงุดหงิดของเจ้าของห้อง หญิงสาวที่ถูกพามาที่นี่เอาแต่ยืนสะดุ้งตกใจอยู่กลางห้องอย่างไม่เข้าใจว่าเธอไปทำอะไรให้เขาหงุดหงิดกันเขาถึงได้เป็นบ้าแบบนี้“ฉันถามว่าใคร!”เตชินท์หันหน้ามาจ้องมองคนตัวเล็กพร้อมกับเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ“พี่หมายถึงอะไรคะ”“หึ ไปยืนร่านกับใครฉันก็หมายถึงคนนั้นล่ะ”หัวคิ้วของน้ำหวานเป็นปมก่อนจะร้องอ๋อในใจเมื่อเข้าใจแล้วว่าผู้ชายคนนี้หมายถึงใคร แต่เธอไม่ได้ไปทำแบบที่
“ทำไมมาช้า แล้วนี่ใครว่ะ?”เป็นเหมันต์ที่เอ่ยถามหลังจากที่สายลมนั่งลงพร้อมดึงให้คนตัวเล็กที่ดูไม่เต็มใจอยากจะมาด้วยนั่งลงข้างๆ“นี่วันใหม่เพื่อนกู”คนถูกแนะนำว่าเพื่อนมีสีหน้าเรียบนิ่งพอสมควร“เพื่อน?”“เพื่อนสมัยเด็ก พอดีย้ายมาเรียนที่มหาวิทยาลัยเรา”“เพิ่งย้ายมาเหรอ”“อืม”สายลมครางตอบเพียงแค่นั้นแต่ทว่ามีหรือที่เพื่อนทั้งสองจะเชื่อว่าผู้หญิงข้างกายเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น สายลมเป็นยังไงมีหรือที่พวกเขาจะไม่รู้ปกติไม่เคยเห็นสนใจผู้หญิงคนไหน มีผู้หญิงมากมายเข้าหาแต่ทว่าสายลมก็ไม่เคยเล่นด้วย คนภาพนอกคิดว่าอีกฝ่ายเย็นชาเข้าถึงยากมันก็เป็นเรื่องจริงแต่ถ้าเป็นคนสนิทอีกฝ่ายก็ปกติ“เธอชื่อวันใหม่เหรอ เรียนคณะอะไร”“บริหาร”“แล้วรู้จักกับไอ้ลมมานานยัง”“นานแล้ว”วันใหม่ตอบแค่นั้นท่าทีของเธอเหมือนไม่อยากตอบเลยด้วยซ้ำ คนตัวเล็กขยับกายออกห่างจากเพื่อนเก่าแต่ก็ถูกสายตาดุๆ มองมา“จะขยับไปไหน”“ร้อน อึดอัด”“มากไหม?”สายลมถามออกไปด้วยใบหน้าบึ้งตึงเพราะรู้ดีที่คนตัวเล็กขยับตัวออกห่างเป็นเพราะอะไร“ฉันไม่ได้อยากมาด้วย”“แล้วใครสน?”“ลม จะเกินไปแล้วนะ”ตั้งแต่ที่เธอได้เจอเขาอีก เขาก็ทำเรื่องมากมายกับเธอบีบบัง
2 อาทิตย์ผ่านไปเตชินท์: มาหาฉัน ห้ามเกินครึ่งชั่วโมงเป็นอีกวันที่น้ำหวานได้รับข้อความจากรุ่นพี่หนุ่ม ตลอดหลายวันที่ผ่านมาเขาสั่งให้เธอไปหาทุกวันแทบไม่ให้เธอหยุดพัก คนตัวเล็กมีปฏิเสธแต่เขาก็ขู่เธอ ทำให้เธอต้องมาหาเขาอีกจนได้ ความสัมพันธ์ระหว่างน้ำหวานกับเตชินท์มีแค่เพื่อนๆ ของเขารู้และแก้มใส อยู่มหาวิทยาลัยถ้าหากบังเอิญเจอกันเราทั้งสองทำเหมือนไม่เคยรู้จักกันเลย เขาเดินผ่านเธอหันหนีไปอีกทางซึ่งมันก็ดีแล้วที่เป็นแบบนี้แต่บางครั้งการที่เธอได้ยินคำพูดของคนอื่นเกี่ยวกับชายหนุ่มมันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแย่“ทำไมมาช้า”ทันทีที่ใช้คีย์การ์ดเข้ามาในห้องสุดหรูน้ำเสียงไม่พอใจก็ถามขึ้นทันที“หวานทำรายงานก่อนมาค่ะ”เพราะเขาสั่งให้เธอแทนตัวเองแบบนี้เธอที่ไม่อยากมีปัญหาอะไรจึงพูดแทนตัวเองอย่างที่เขาต้องการ“อืม เดินมานั่งนี่”เขาตบลงข้างกายทำให้คนตัวเล็กเดินไปนั่งข้างๆ เขา“ทำหน้าไม่พอใจอะไร”“พี่จะให้หวานมาหาทำไมบ่อยจังคะ”“เบื่องั้นเหรอ”เธอไม่ตอบแต่ก็แสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าเบื่อหน่ายพอสมควร“หึ แต่ฉันยังไม่เบื่อเธอเลยนะ”เขาไม่พูดเปล่ายกมือขึ้นมาเกลี่ยเส้นผมของคนตัวเล็กเล่นไปมา“แล้วเมื่อไหร่กันคะ เมื
“หึ ปากเก่งแล้วเหรอ แบบนี้คงหายแล้วใช่ไหม?”เตชินท์พูดออกไปด้วยใบหน้าเจ้าเล่ห์แค่เห็นเธออยู่ตรงหน้าก็ทำให้เขามีความต้องการแล้ว หญิงสาวรีบส่ายหน้าไปมาทันที“ไม่ค่ะ ยังเอ่อยังไม่หาย”จากที่ตีฝีปากกับเขากลายเป็นว่าคนตัวเล็กไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีกเพราะกลัวว่าผู้ชายคนนี้จะทำอย่างที่พูด เตชินท์ไม่ยอมให้เธอกลับห้อง เขาสั่งอาหารให้มาส่งที่คอนโดก่อนจะมานั่งกินข้าวกับเธอ น้ำหวานรู้สึกกลืนแทบไม่ลง เธอไม่คิดเหมือนกันว่าทุกอย่างจะกลายมาเป็นแบบนี้ไปได้จากคนที่ไม่เคยรู้จักแต่ในยามนี้เธอต้องมาเป็นผู้หญิงลับๆ ของเขาอีกวันผ่านไปน้ำหวานขอร้องจนสามารถกลับมาที่ห้องของตัวเองได้ เธออาบน้ำแต่งตัวในชุดนักศึกษาก่อนจะไปเรียนตามปกติ ก่อนหน้านี้เธอติดต่อหาแก้มใสอีกฝ่ายบอกว่าต้องกลับเชียงใหม่จึงต้องหยุดเรียนในวันนี้ เธอไม่ได้ถามอะไรมากมายเพราะดูเพื่อนกำลังมีเรื่องต้องจัดการเธอจึงมาเรียนคนเดียว หญิงสาวแทบไม่พูดคุยกับใครมากมายเธอเรียนของเธอเสร็จก็เดินทางกลับมาที่หอเตชินท์: สองทุ่มมาที่คอนโดเสียงข้อความที่เธอไม่อยากเห็นถูกส่งมาที่เครื่องของเธอ หญิงสาวเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่นก่อนจะถอนหายใจออกมา เธอมองเพดานนิ่งสมองกำ
น้ำหวานแทบอ่อนแรงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เหมือนว่าเธอไม่มีทางเลือกอะไรเลยนอกจากยอมผู้ชายคนนี้ แต่เธอก็ไม่รู้ว่ามันจะนานแค่ไหนกับการที่ต้องมาอยู่ในฐานะของเล่นของเขาแต่ถ้าหากเธอไม่ยอมชีวิตที่สงบสุขของเธอจะเป็นยังไงต่อไป เขาร่ำรวยมีอำนาจมากกว่าครอบครัวเธอก็แค่คนธรรมดาเพราะแบบนี้มันทำให้หญิงสาวกลั้นใจถามเขาออกไป“นานแค่ไหนกับสถานะบ้าๆ นั้น”“หึ ฉันเป็นพวกขี้เบื่อ ไม่นานหรอกเล่นจนเบื่อเดี๋ยวทิ้งเอง”“ทำไมพี่ถึงได้เลวขนาดนี้คะ ฉันไม่เข้าใจจริงๆ”คำว่าเลวในครั้งนี้เล่นเอาหัวใจแกร่งกระตุกไม่น้อยเลยแต่ชายหนุ่มก็เหมือนไม่สนใจอะไรเขายักไหล่ยอมให้เธอด่าต่อไป“สรุป เอาไง”“หึ ถ้าฉันปฏิเสธพี่ก็คงทำเลวๆ กับฉันเหมือนที่ผ่านมา”เธอที่ไม่มีทางเลือกอะไรเลยจึงเอ่ยออกไป สายตายังคงมองชายหนุ่มด้วยความเกลียดชัง“เป็นผู้หญิงลับๆ ของฉันมันไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอก อยากได้เท่าไหร่ก็พูดมาเธอจะได้ไม่ต้องไปทำงานที่ผับนั้น”หึ ไม่เลวร้ายงั้นเหรอเขากล้าพูดออกมาได้ยังไงกัน ได้ในเมื่อเขาพูดแบบนี้เธอก็จะยอมรับข้อเสนอของเขา เธอยอมเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะเล่นไม่ซื่อด้วย กลัวว่าเขาจะรูปพวกนั้นไปปล่อยอย่างที่ขู่เอาไว้“ได้ ฉันยอมแต่พี่ก็

![friend zone รักร้ายนายเพื่อนสนิท [ 3P ]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)





