นาถนารีทราบว่าท่านชายนคเรศทรงหยิ่งในเกียรติยศและศักดิ์ศรีขององค์เองมากแค่ไหน และแน่นอนว่าท่านชายของเธอจะต้องไม่มีวันยอมให้หม่อมกดขี่ท่านด้วยอำนาจเงินเด็ดขาด เธอเชื่อว่าถึงจะทรงเษกสมรสไปแล้วท่านชายก็ไม่มีทางทอดทิ้งเธออย่างแน่นอนและนั่นคงเป็นเรื่องดีที่ท่านจะเสกสมรสกับหญิงสาวที่ร่ำรวยเงินทอง เพราะหมายถึงเงินทองเหล่านั้นจะส่งผ่านมาจนถึงมือของเธออีกทอดหนึ่งนั่นเอง
ความจริงท่านชายยังมีพระอนุชาฝาแฝดอีกองค์หนึ่ง ที่ใคร ๆ ต่างเรียกท่านว่าท่านชายธัญ หรือ หม่อมเจ้าธเนศวร วิษณุรังสรรค์ พระอนุชานั้นถึงแม้จะมีพระพักตร์ไม่ผิดเพี้ยนกับพระเชษฐาแต่กลับแตกต่างกันไปเกือบทุกเรื่อง ท่านธัญถือได้ว่าเป็นเพลย์บอยขนานแท้ ทรงมีคู่ควงมากมายแต่ที่ทำให้นาถนารีรู้สึกเจ็บใจก็คือท่านชายธัญไม่เคยชอบเธอเลย แม้หน้าของเธอท่านชายพระอนุชาก็ยังไม่เคยเหลียวแลด้วยซ้ำทั้งที่พระเชษฐาทั้งหลงและรักเธอจนไม่เหลือพระเนตรไว้ชำเลืองแลสาวใด สองพระองค์ช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
วังวิษณุรังสรรค์
พระตำหนักวิษณุรังสรรค์ปลูกสร้างแบบเก่า ฐานเป็นอิฐถือปูนแบ่งเป็นสองชั้นสร้างจากไม้สักทั้งหลังบนเนื้อที่หลายสิบไร่ที่ปลูกทั้งไม้ดอกไม้ประดับและไม้ยืนต้นนานาพันธ์ให้ความร่มรื่นบนผืนหญ้าสีเขียวขจีล้อมรอบตัวตำหนัก ท่านชายนคเรศเพิ่งทรงเสด็จกลับหลังล่ำลาคนรักเรียบร้อยและทรงกำลังจะก้าวพระบาทขึ้นบันไดเพื่อผ่านไปยังห้องบรรทมหากไม่ทรงได้ยินพระสุรเสียงของอนุชาร้องทักขึ้นเสียก่อน
“เจ้าพี่เพิ่งกลับจากบ้านนาถนารีอย่างนั้นสิหม่อม”
“ใช่ แล้วนายล่ะ ทำไมวันนี้ถึงอยู่บ้านได้ หรือว่าสาว ๆ ในสังกัดหมดซะแล้ว” ท่านชายนัฏทรงหมุนองค์กลับมารับสั่งตอบพระอนุชาด้วยพระสุรเสียงเรียบเรื่อย
“หึหึ หม่อมไม่ใช่เจ้าพี่จะได้รักเดียวใจเดียวอยู่กับนาถนารี”
“นาถสวยกว่าสาว ๆ ของนายรวมกันเสียอีกแล้วพี่จะมัวไปมองคนอื่นอีกทำไม”ท่านนัฏแย้มสรวลพลางยกพระขนงทอดพระเนตรอนุชา
“ว้า เจ้าพี่กับหม่อมนี่นอกจากมีหน้าตาเหมือนกันแล้ว อย่างอื่นเราแตกต่างกันสิ้นเชิง ทั้งนิสัย มุมมองผู้หญิงก็ไม่เหมือนกัน หม่อมไมเห็นว่านาถนารีจะสวยที่ตรงไหน ก็แค่รู้จักเสริมเติมแต่งให้ดูดีแค่นั้น”
ท่านธเนศวรทรงไหวพระอังสาอย่างไม่เห็นด้วยกับรับสั่งของพระเชษฐา ท่านไม่เคยเห็นด้วยกับรับสั่งของเชษฐาที่ว่านาถนารีงามพร้อมราวกุลสตรีแต่ก็ไม่ทรงสามารถเปลี่ยนพระทัยท่านนัฏให้เห็นพ้องกับท่านได้
“ฮึฮึ อย่างนั่นก็ดีแล้วเพราะฉันไม่เห็นว่าจะเป็นเรื่องดีถ้าต้องเหมือนนายไปซะทุกอย่าง” ท่านนคเรศแย้มพระสรวลรับ
“แล้วเจ้าพี่จะตัดสินพระทัยเรื่องพินัยกรรมยังไงกระหม่อม”
ท่านชายนคเรศไม่ทรงรับสั่งตอบพระอนุชาเพราะองค์เองยังทรงคิดไม่ตกเช่นกันกับปัญหาพินัยกรรม ทว่าในฐานะหัวหน้าราชสกุล ท่านจึงไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบ แต่จะให้ทรงยอมรับหญิงสาวที่ไม่พบหรือแม้แต่เห็นหน้ากันมาก่อนโดยไม่รู้สึกอันใดเลยกับการแต่งงานครั้งนี้ก็คงเป็นไปไม่ได้
ข้อมูลที่ทรงทราบมีเพียงแค่ชื่อของเธอ ชินานาง อัครเกตุ บุตรสาวคนเล็กของนายจรัญ พระสหายในพระชนก จะว่าท่านไม่เคยเห็นชินานางก็ไม่เชิงนัก เพราะใคร ๆ ก็ต้องรู้จักนักธุรกิจสาวคนเก่ง และเธอเองก็เป็นที่สนใจของบรรดานักข่าวทำให้ทรงได้ทอดเนตรหญิงสาวผ่านสื่อต่าง ๆ มาบ้าง แต่ก็หาได้ใส่ทัยเป็นเหตุให้ทรงจำเธอไม่ได้แม้แต่หน้าตา
“อยากให้หม่อมช่วยไหมเจ้าพี่”
“นายจะช่วยอะไรได้”
“ได้สิหม่อมในเมื่อไม่มีใครจำได้แน่ว่าหม่อมไม่ใช่เจ้าพี่ ถ้าเราจะสลับตัวกัน”
“สลับตัว”ท่านนคเรศรับสั่งแปลกพระทัย
“หม่อมยังไม่มีคนรัก ถ้าต้องแต่งงานกับชินานางก็คงจะไม่เป็นไร เธอคงไม่ทำให้ชีวิตหม่อมเปลี่ยนแปลงอะไรมากนักมันคงไม่แตกต่างอะไรกับตอนที่หม่อมยังเป็นโสดสักเท่าไหร่หรอกกระมัง” ท่านชายธันทรงไหวพระอังสาแสดงความไม่ใส่พระทัย ทั้งยังทรงรับสั่งง่าย ๆ
“นายพูดจริงหรือธัน” ท่านชายนัฏถามด้วยสุรเสียงตื่นเต้นเมื่อทรงมองเห็นทางออก
“หม่อมพูดจริง”
ท่านชายธเนศวรทรงรับสั่งพลางกระซิบแผนการกับพระเชษฐา ซึ่งท่านชายนคเรศก็ทรงรับฟังด้วยความพอพระทัย ความอึดอัดหนักในหทัยเบาลงดั่งยกภูเขาออกจากอก ทรงเริ่มดำเนินตามแผนการของพระอนุชาทันที...
ขณะเดียวกันชินานางใช้ความพยายามทื้งหมดเพื่ออ้อนวอนขอร้องบิดาที่จะให้เธอเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับหม่อมเจ้านคเรศ แต่ดูเหมือนบิดาจะไม่ฟังเสียงเธอเลย ถึงอย่างนั้นคนอย่างชินานางก็ไม่มีวันยอมถูกบังคับง่ายๆ เช่นนี้ แผนการหนีจึงเริ่มต้นขึ้น
ใช่!!...เธอจะต้องหนี
“เราต้องหนี เรื่องอะไรจะยอมถูกจับคลุมถุงชนกันง่ายๆ ล่ะ”
ชินานางพึมพำเบา ๆ กับตัวเองพร้อมกับเก็บของทุกอย่างที่จำเป็นใส่กระเป๋าเป้ใบกะทัดรัดก่อนจะเก็บซ่อนไว้ใต้เตียงอย่างดีเพื่อไม่ให้แม่นมของเธอสงสัย วันนี้เธอจะต้องหนีออกจากบ้าน อย่างน้อยก็หนีไปตั้งหลักเสียก่อนที่บิดาจะมัดมือเธอชกด้วยการจัดงานหมั้นระหว่างเธอกับท่านชายนคเรศอย่างที่ท่านเคยเกริ่น ๆ เอาไว้ว่า หลังหมั้นแล้วหนึ่งเดือนถัดจากนั้นจะจัดพิธีอภิเษกสมรสซึ่งเธอไม่มีวันยอมให้มันเป็นแบบนั้นแน่
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูแค่เพียงเบา ๆ ก็ทำให้เธอสะดุ้งเพราะความตกใจสุดตัว ชินานางรีบลุกขึ้นดึงผ้าคลุมเตียงนอนให้ทิ้งชายลงบังกระเป๋าที่ซุกซ่อนไว้ข้างใต้อย่างรวดเร็วก่อนจะถลันตัวลุกยืนว่องไว
“คุณพระนางนอนหรือยังค่ะ”
เสียงนมแจ่ม แม่นมที่เป็นคนเลี้ยงโชติรสและเธอในวัยเยาว์ตั้งแต่ครั้งมารดาของพวกเธอยังมีชีวิต ซึ่งทั้งเธอและพี่สาวให้ความนับถือและรักนมแจ่มรองมาจากบิดาของพวกเธอเอง
เสียงนมแจ่ม แม่นมที่เป็นคนเลี้ยงโชติรสและเธอในวัยเยาว์ตั้งแต่ครั้งมารดาของพวกเธอยังมีชีวิต ซึ่งทั้งเธอและพี่สาวให้ความนับถือและรักนมแจ่มรองมาจากบิดาของพวกเธอเอง“ยังค่ะนม สักครู่นะคะ พระนางขอเวลาแต่งตัวเดี๋ยวค่ะ”ชินานางร้องตอบพร้อมกับรีบจัดแจงข้าวของที่รื้อค้นไว้จนกระจัดกระจายรอบห้องเข้าที่อย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันกลับมามองอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าทุกอย่างถูกจัดเก็บไว้พ้นสายตานมแจ่มดีแล้วจึงเดินมาเปิดประตูรับหญิงชราที่ยืนรออยู่หน้าห้อง“ทำอะไรอยู่คะ นมรออยู่นานแล้ว”นมแจ่มถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนยามก้าวเข้ามาในห้องของคุณหนูที่เธอเลี้ยงมาแต่เล็กแต่น้อยพร้อมกับทอดสายตาเอ็นดูมองชินานางด้วยความรักใคร่“นางเพิ่งอาบน้ำเมื่อสักครู่ค่ะ แต่งตัวเรียบร้อยก็รีบเปิดประตูให้นมนี่ไงคะ” ชินานางกอดเอวแม่นมพร้อมยิ้มประจบ“คุณหนูสบายใจขึ้นบ้างหรือยังคะเรื่องท่านชายนคเรศ” นมแจ่มทอดน้ำเสียงถามอย่างอ่อนโยนพร้อมกับโอบกอดคุณหนูที่นางรักไม่ต่างกับเลือดในอก“นมจะให้นางสบายใจได้ยังไงคะ ในเมื่อมันเป็นความสุขของนางทั้งชีวิตเลยนะคะ” ใบหน้านวลหมองลงทันที ดวงตาคู่งามแสดงความไม่สบายใจผ่านออกมาให้ได้เห็นอย่างช่วยไม่ได้“ม
นาถนารีทราบว่าท่านชายนคเรศทรงหยิ่งในเกียรติยศและศักดิ์ศรีขององค์เองมากแค่ไหน และแน่นอนว่าท่านชายของเธอจะต้องไม่มีวันยอมให้หม่อมกดขี่ท่านด้วยอำนาจเงินเด็ดขาด เธอเชื่อว่าถึงจะทรงเษกสมรสไปแล้วท่านชายก็ไม่มีทางทอดทิ้งเธออย่างแน่นอนและนั่นคงเป็นเรื่องดีที่ท่านจะเสกสมรสกับหญิงสาวที่ร่ำรวยเงินทอง เพราะหมายถึงเงินทองเหล่านั้นจะส่งผ่านมาจนถึงมือของเธออีกทอดหนึ่งนั่นเองความจริงท่านชายยังมีพระอนุชาฝาแฝดอีกองค์หนึ่ง ที่ใคร ๆ ต่างเรียกท่านว่าท่านชายธัญ หรือ หม่อมเจ้าธเนศวร วิษณุรังสรรค์ พระอนุชานั้นถึงแม้จะมีพระพักตร์ไม่ผิดเพี้ยนกับพระเชษฐาแต่กลับแตกต่างกันไปเกือบทุกเรื่อง ท่านธัญถือได้ว่าเป็นเพลย์บอยขนานแท้ ทรงมีคู่ควงมากมายแต่ที่ทำให้นาถนารีรู้สึกเจ็บใจก็คือท่านชายธัญไม่เคยชอบเธอเลย แม้หน้าของเธอท่านชายพระอนุชาก็ยังไม่เคยเหลียวแลด้วยซ้ำทั้งที่พระเชษฐาทั้งหลงและรักเธอจนไม่เหลือพระเนตรไว้ชำเลืองแลสาวใด สองพระองค์ช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงวังวิษณุรังสรรค์พระตำหนักวิษณุรังสรรค์ปลูกสร้างแบบเก่า ฐานเป็นอิฐถือปูนแบ่งเป็นสองชั้นสร้างจากไม้สักทั้งหลังบนเนื้อที่หลายสิบไร่ที่ปลูกทั้งไม้ดอกไม้ประดับและไ
เธอใช้เวลาเพียงเดือนเดียวก็สามารถทำให้ท่านชายติดบ่วงเสน่หาของเธอได้ เธอสามารถทำให้ทรงตัดสินพระทัยขอคบหาดูใจกับตนเองได้สำเร็จ นาถนารีเป็นผู้หญิงที่รู้จักวางตัวได้ดีเมื่ออยู่ต่อหน้า พระพักตร์ การวางตัวอย่างเหมาะสมทำให้ทรงเข้าพระทัยว่าเธอเป็น กุลสตรีที่น่ารัก เมื่อต้องเสด็จกลับเมืองไทย ท่านชายจึงมาขอพบเธอถึงที่พัก ในวันนั้นเธอทำทีอาวรณ์ในตัวท่านมากจนทำให้ราชนิกุลหนุ่มยิ่งทรงปลาบปลื้มพระทัยเมื่อทรงทราบว่าเธอเองก็รู้สึกไม่ต่างกับที่ทรงรู้สึกต่อเธอเช่นกันท่านชายทรงประทานจุมพิตเธอเป็นครั้งแรกในคืนนั้นพร้อมคำสารภาพรักอันอ่อนหวานที่เธอยังจำได้ไม่มีวันลืมถึงความรู้สึกตื่นเต้นในครั้งนั้น ความปีตีภูมิใจในชัยชนะของตนเองที่สามารถกุมพระหทัยหม่อมเจ้าผู้มีศิริโฉมไว้ในมือสำเร็จ แม้จะทราบว่าฐานะของราชสกุลวิษณุรังสรรค์ไม่ได้มั่นคงเท่าไรนัก แต่เธอก็ยังเข้าใจว่าท่านคงมีทรัพย์สินมากพอที่จะเลี้ยงครอบครัวได้แบบสบาย ๆ ในขณะที่ท่านชายก็ทรงทราบอยู่แล้วว่าฐานะทางบ้านของเธอไม่สู้จะดีนักแต่ไม่ทรงสนพระทัย ยังทรงรักและให้คำมั่นสัญญาว่าจะแต่งงานกับเธอ ซึ่งนาถนารีจำคำสัญญานั้นได้เป็นอย่างดีเสียงฝีเท้าเบา ๆ
“หนูไม่เข้าใจว่าทำไม พ่อถึงต้องอยากให้หนูเป็นหม่อมของท่านนัก ทั้งที่หนูเพิ่งจะอายุ 25 เองนะคะ ทำไมพ่อต้องอยากให้หนูรีบมีครอบครัวด้วย” ชินานางขัดใจเหลือเกินที่ไม่สามารถปฏิเสธบิดาได้อย่างเด็ดขาดเมื่อท่านยกเอาพี่สาวขึ้นมาอ้าง ทำให้เธอต้องยกเหตุผลร้อยแปดมาโน้มน้าวจิตใจบิดาให้เปลี่ยนความคิดนั้นซะ“พ่อมีเหตุผลนะพระนาง ลูกมีหน้าที่ทำตามคำสั่งของพ่อเท่านั้น”นายจรัญเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากห้องทำงานของบุตรสาว ทิ้งความขัดอกขัดใจไว้กับชินานาง จนเธอไม่สามารถทนนั่งทำงานต่อได้อีกต่อไป สมาธิของเธอถูกกระชากไปพร้อมกับเรื่องหนักใจที่สุมเข้ามาแทนที่ ความสนใจของเธอจึงไม่ได้อยู่ที่งานซึ่งกองอยู่ตรงหน้าอีกต่อไป หญิงสาวรู้ดีว่าไม่สามารถขัดคำสั่งของบิดาในครั้งนี้ได้ ความอึดอัดขัดข้องทำให้คิ้วคู่สวยขมวดมุ่น ใบหน้าหวานดูกังวลอย่างคนที่ยังหาทางออกให้กับปัญหารุมเร้าของตัวเองบ้านจตุรกรในปีพ.ศ.2505ดวงจันทร์สาดลำแสงตกกระทบหลังคาคฤหาสน์ใหญ่ที่สมัยหนึ่งเคยสวยและหรูหราที่สุดในย่านนี้ ตึกเก่าสไตล์ยุโรปแบบชนชั้นสูงในอดีตซึ่งมักปลูกสร้างกันตามสมัยนิยมตกทอดมาสู่รุ่นลูกรุ่นหลานในวันนี้ซึ่งคืน
ชินานางละสายตาจากเอกสารกองโตบนโต๊ะเพื่อมองสบสายตาบิดาอย่างตกใจทันทีที่ได้ยินคำสั่งแกมขอร้องให้เธอแต่งงานตามความประสงค์ ไม่สิ...ต้องเรียกว่าเข้าพิธีเสกสมรสกับหม่อมเจ้าหนุ่มรูปงามซึ่งเป็น ที่หมายปองของสาวๆ ทั่วราชอาณาจักรอย่างหม่อมเจ้านคเรศ วิษณุรังสรรค์นายจรัญ บิดาของเธอเป็นพระสหายคนสนิทในพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าธรเทวัญ วิษณุรังสรรค์และยังเป็นพระสหายที่มีทรัพย์สมบัติมากพอจะให้ความช่วยเหลือราชสกุล วิษณุรังสรรค์ เพื่อหยิบยืมเงินจำนวนมหาศาลไปเป็นเวลานานนับสิบปี กลายเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของวิษณุรังสรรค์ซึ่งหากนับกันตามจริงแล้วน่าจะเป็นเงินจำนวนกว่าสามร้อยล้านบาท แต่นายจรัญรักและศรัทธาในพระองค์เจ้าธรเทวัญมากจึงไม่เคยทวงถาม ตราบกระทั่งพระองค์ท่านสิ้นพระชนม์และมีการเปิดพินัยกรรม หม่อมเจ้านคเรศ วิษณุรังสรรค์ พระโอรสองค์โตจึงเพิ่งทรงทราบว่าท่านจำต้องเสกสมรสกับชินานางบุตรสาวคนเล็กของนายจรัญเพื่อชดใช้หนี้สินจำนวนมหาศาลของวิษณุรังสรรค์ตามพินัยกรรมซึ่งหญิงผู้โชคร้ายคนนั้นคือเธอ...ชินานางตกใจสุดขีด ชั่วชีวิตของเธอไม่เคยคิดว่าต้องแต่งงานกับราชนิกุลสูงศักดิ์อย่างท่านชายนคเรศมาก่อน ท่านกับเธอต่างกัน