“หนูไม่เข้าใจว่าทำไม พ่อถึงต้องอยากให้หนูเป็นหม่อมของท่านนัก ทั้งที่หนูเพิ่งจะอายุ 25 เองนะคะ ทำไมพ่อต้องอยากให้หนูรีบมีครอบครัวด้วย” ชินานางขัดใจเหลือเกินที่ไม่สามารถปฏิเสธบิดาได้อย่างเด็ดขาดเมื่อท่านยกเอาพี่สาวขึ้นมาอ้าง ทำให้เธอต้องยกเหตุผลร้อยแปดมาโน้มน้าวจิตใจบิดาให้เปลี่ยนความคิดนั้นซะ
“พ่อมีเหตุผลนะพระนาง ลูกมีหน้าที่ทำตามคำสั่งของพ่อเท่านั้น”
นายจรัญเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากห้องทำงานของบุตรสาว ทิ้งความขัดอกขัดใจไว้กับชินานาง จนเธอไม่สามารถทนนั่งทำงานต่อได้อีกต่อไป สมาธิของเธอถูกกระชากไปพร้อมกับเรื่องหนักใจที่สุมเข้ามาแทนที่ ความสนใจของเธอจึงไม่ได้อยู่ที่งานซึ่งกองอยู่ตรงหน้าอีกต่อไป หญิงสาวรู้ดีว่าไม่สามารถขัดคำสั่งของบิดาในครั้งนี้ได้ ความอึดอัดขัดข้องทำให้คิ้วคู่สวยขมวดมุ่น ใบหน้าหวานดูกังวลอย่างคนที่ยังหาทางออกให้กับปัญหารุมเร้าของตัวเอง
บ้านจตุรกรในปีพ.ศ.2505
ดวงจันทร์สาดลำแสงตกกระทบหลังคาคฤหาสน์ใหญ่ที่สมัยหนึ่งเคยสวยและหรูหราที่สุดในย่านนี้ ตึกเก่าสไตล์ยุโรปแบบชนชั้นสูงในอดีตซึ่งมักปลูกสร้างกันตามสมัยนิยมตกทอดมาสู่รุ่นลูกรุ่นหลานในวันนี้ซึ่งคืนวันที่ผ่านไปทำให้ตึกรูปทรงสวยที่เคยหรูหราเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพเวลาอันเนื่องมาจากลูกหลานไม่มีปัญญาที่จะรักษาทำนุบำรุงเอาไว้ได้ เพราะสภาพคล่องทางการเงิน เนื่องจากสภาพตึกเก่าแก่เช่นนี้ต้องใช้เงินจำนวนมากในการทำนุบำรุงให้ดูสวยงามเหมือนอดีตเมื่อการเงินไม่เอื้ออำนวยจึงจำใจปล่อยให้บ้านทรุดโทรมไปตามเวลา รักษาได้เพียงแค่การซ่อมแซมพื้นที่เล็ก ๆ น้อย ๆ เท่าที่จำเป็นอย่างเช่นในส่วนที่พักอาศัยของเจ้าของบ้านและลูกหลานเท่านั้น
คฤหาสน์หลังนี้เป็นของนายนคร จตุรกร บิดาของนาถนารี บุรุษที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นหนุ่มสังคมที่หรูหราและร่ำรวยมากที่สุดคนหนึ่งเมื่อสมัยหนุ่ม ในเวลาที่กิจการครอบครัวจตุรกรยังรุ่งเรือง นายนครนั้นไม่เคยคิดจะเรียนรู้วิธีการรักษาทรัพย์สมบัติไว้จึงไม่เคยศึกษาเรื่องการบริหารธุรกิจ เมื่อบิดามารดาของเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุไปอย่างกะทันหัน นายนครจึงเข้ามาบริหารงานแทน แต่ความไม่เชี่ยวชาญทำให้ไม่สามารถนำพาธุรกิจของครอบครัวให้เจริญรุ่งเรื่องต่อไปได้ ตระกูลเก่าแก่อย่างจตุรกร จึงแทบไม่เหลืออะไรอีกแล้วในรุ่นของนาถนารี
จตุรกรถือได้ว่าเป็นตระกลูที่สืบเชื้อสายมาจากชนชั้นสูงสมัยก่อน เรียกว่าผู้ดีตกยากก็คงไม่ผิดนัก น่าเสียดายที่ฐานะด้อยลงเป็นเหตุให้ความเป็นผู้ดีของคนในครอบครัวลดลงตามไปด้วย หากสิ่งหนึ่งที่ยังคงไว้ในสายเลือดผู้ดีเก่าของนาถนารี ก็คือความอวดดี ยกตนข่มท่าน เพราะถือว่าตัวเองมาจากตระกูลผู้ดีเก่า จึงมองคนอื่นต้อยต่ำกว่าตน กอปรกับความสวยของเธอทำให้ใคร ๆ พากันชื่นชมแต่แรกพบ นาถนารีจึงแทบจะมองข้ามหัวคนอื่นไปจนหมด
นาถนารีเป็นผู้หญิงที่สวยหาใครเทียบได้ยากและเป็นคนที่รู้จักใช้ความสวยของตนหาผลประโยชน์จากชายหนุ่มที่เข้ามาพัวพันประกอบกับที่รู้จักแต่งตัว รู้วิธีปกปกปิดจุดบกพร่องของตนด้วยการแต่งหน้าอย่างประณีตทำให้เธอดูเด่นสะดุดตาอยู่เสมอ ถือว่าเป็นผู้หญิงที่มีความเป็นผู้หญิงอย่างแท้จริงคือมีทั้งความรักสวยรักงาม รู้จักสร้างเสริมเติมแต่ง มีจริตมารยาของผู้หญิงครบถ้วน แต่สิ่งเดียวที่เธอขาดก็คือความคิดดี ๆ แบบคนดี ๆ ซึ่งหาได้ยากในตัวของนาถนรี
เธอสามารถหว่านเสน่ห์ใส่ผู้ชายได้ด้วยมาดอย่างกุลสตรีอ่อนหวาน อาจเป็นเพราะวงหน้าเรียวรูปไข่รับกับริมฝีปากอิ่มสีกลีบกุหลาบและจมูกเล็กขึ้นสันที่ไม่ต้องเสริมเติมก็งดงามได้รูปประกอบเข้ากับดวงตายาวรีสุกใสเสริมให้วงหน้าของเธอโดดเด่นดึงดูดสายตาหนุ่ม ๆ และที่สำคัญเธอเป็นผู้หญิงที่รู้จักใช้มายาหญิงได้อย่างเป็นธรรมชาติ หลอกสายตาของบรรดาชายหนุ่มที่หมายปองได้อย่างแนบเนียน
เธอกำลังบรรจงแต่งตัวอย่างประณีตเป็นพิเศษอยู่หน้ากระจกภายในห้องนอนเนื่องจากมีนัดกับชายคนรักที่เป็นถึงหม่อมเจ้าสายเลือดขัตติยะซึ่งเธอมั่นใจว่าตนสามารถกำพระทัยของท่านชายนคเรศ วิษณุรังสรรค์ไว้ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกันตั้งแต่ตอนที่ท่านชายเสด็จไปศึกษาภาคฤดูร้อนที่สหรัฐอเมริกา โดยปกติท่านชายนคเรศนั้นจะถูกสาว ๆ หมายปองเป็นนิจ ต่างก็พร้อมจะทอดสะพานให้ทรงก้าวข้ามอยู่ดังนั้นในคราวแรกที่มีโอกาสได้พบท่าน เธอจึงะแสร้งทำเป็นไม่สนใจท่านเลย หญิงสาวที่ดูอ่อนหวานและรักนวลสงวนตัว กิริยาสงบเสงี่ยมเรียบร้อยดึงดูดพระทัยหม่อมเจ้าหนุ่มให้ทรงสนพระทัยและทึ่งที่มีผู้หญิงไม่ใส่ใจในฐานันดรของท่านอย่างนาถนารี
เสียงนมแจ่ม แม่นมที่เป็นคนเลี้ยงโชติรสและเธอในวัยเยาว์ตั้งแต่ครั้งมารดาของพวกเธอยังมีชีวิต ซึ่งทั้งเธอและพี่สาวให้ความนับถือและรักนมแจ่มรองมาจากบิดาของพวกเธอเอง“ยังค่ะนม สักครู่นะคะ พระนางขอเวลาแต่งตัวเดี๋ยวค่ะ”ชินานางร้องตอบพร้อมกับรีบจัดแจงข้าวของที่รื้อค้นไว้จนกระจัดกระจายรอบห้องเข้าที่อย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันกลับมามองอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าทุกอย่างถูกจัดเก็บไว้พ้นสายตานมแจ่มดีแล้วจึงเดินมาเปิดประตูรับหญิงชราที่ยืนรออยู่หน้าห้อง“ทำอะไรอยู่คะ นมรออยู่นานแล้ว”นมแจ่มถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนยามก้าวเข้ามาในห้องของคุณหนูที่เธอเลี้ยงมาแต่เล็กแต่น้อยพร้อมกับทอดสายตาเอ็นดูมองชินานางด้วยความรักใคร่“นางเพิ่งอาบน้ำเมื่อสักครู่ค่ะ แต่งตัวเรียบร้อยก็รีบเปิดประตูให้นมนี่ไงคะ” ชินานางกอดเอวแม่นมพร้อมยิ้มประจบ“คุณหนูสบายใจขึ้นบ้างหรือยังคะเรื่องท่านชายนคเรศ” นมแจ่มทอดน้ำเสียงถามอย่างอ่อนโยนพร้อมกับโอบกอดคุณหนูที่นางรักไม่ต่างกับเลือดในอก“นมจะให้นางสบายใจได้ยังไงคะ ในเมื่อมันเป็นความสุขของนางทั้งชีวิตเลยนะคะ” ใบหน้านวลหมองลงทันที ดวงตาคู่งามแสดงความไม่สบายใจผ่านออกมาให้ได้เห็นอย่างช่วยไม่ได้“ม
นาถนารีทราบว่าท่านชายนคเรศทรงหยิ่งในเกียรติยศและศักดิ์ศรีขององค์เองมากแค่ไหน และแน่นอนว่าท่านชายของเธอจะต้องไม่มีวันยอมให้หม่อมกดขี่ท่านด้วยอำนาจเงินเด็ดขาด เธอเชื่อว่าถึงจะทรงเษกสมรสไปแล้วท่านชายก็ไม่มีทางทอดทิ้งเธออย่างแน่นอนและนั่นคงเป็นเรื่องดีที่ท่านจะเสกสมรสกับหญิงสาวที่ร่ำรวยเงินทอง เพราะหมายถึงเงินทองเหล่านั้นจะส่งผ่านมาจนถึงมือของเธออีกทอดหนึ่งนั่นเองความจริงท่านชายยังมีพระอนุชาฝาแฝดอีกองค์หนึ่ง ที่ใคร ๆ ต่างเรียกท่านว่าท่านชายธัญ หรือ หม่อมเจ้าธเนศวร วิษณุรังสรรค์ พระอนุชานั้นถึงแม้จะมีพระพักตร์ไม่ผิดเพี้ยนกับพระเชษฐาแต่กลับแตกต่างกันไปเกือบทุกเรื่อง ท่านธัญถือได้ว่าเป็นเพลย์บอยขนานแท้ ทรงมีคู่ควงมากมายแต่ที่ทำให้นาถนารีรู้สึกเจ็บใจก็คือท่านชายธัญไม่เคยชอบเธอเลย แม้หน้าของเธอท่านชายพระอนุชาก็ยังไม่เคยเหลียวแลด้วยซ้ำทั้งที่พระเชษฐาทั้งหลงและรักเธอจนไม่เหลือพระเนตรไว้ชำเลืองแลสาวใด สองพระองค์ช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงวังวิษณุรังสรรค์พระตำหนักวิษณุรังสรรค์ปลูกสร้างแบบเก่า ฐานเป็นอิฐถือปูนแบ่งเป็นสองชั้นสร้างจากไม้สักทั้งหลังบนเนื้อที่หลายสิบไร่ที่ปลูกทั้งไม้ดอกไม้ประดับและไ
เธอใช้เวลาเพียงเดือนเดียวก็สามารถทำให้ท่านชายติดบ่วงเสน่หาของเธอได้ เธอสามารถทำให้ทรงตัดสินพระทัยขอคบหาดูใจกับตนเองได้สำเร็จ นาถนารีเป็นผู้หญิงที่รู้จักวางตัวได้ดีเมื่ออยู่ต่อหน้า พระพักตร์ การวางตัวอย่างเหมาะสมทำให้ทรงเข้าพระทัยว่าเธอเป็น กุลสตรีที่น่ารัก เมื่อต้องเสด็จกลับเมืองไทย ท่านชายจึงมาขอพบเธอถึงที่พัก ในวันนั้นเธอทำทีอาวรณ์ในตัวท่านมากจนทำให้ราชนิกุลหนุ่มยิ่งทรงปลาบปลื้มพระทัยเมื่อทรงทราบว่าเธอเองก็รู้สึกไม่ต่างกับที่ทรงรู้สึกต่อเธอเช่นกันท่านชายทรงประทานจุมพิตเธอเป็นครั้งแรกในคืนนั้นพร้อมคำสารภาพรักอันอ่อนหวานที่เธอยังจำได้ไม่มีวันลืมถึงความรู้สึกตื่นเต้นในครั้งนั้น ความปีตีภูมิใจในชัยชนะของตนเองที่สามารถกุมพระหทัยหม่อมเจ้าผู้มีศิริโฉมไว้ในมือสำเร็จ แม้จะทราบว่าฐานะของราชสกุลวิษณุรังสรรค์ไม่ได้มั่นคงเท่าไรนัก แต่เธอก็ยังเข้าใจว่าท่านคงมีทรัพย์สินมากพอที่จะเลี้ยงครอบครัวได้แบบสบาย ๆ ในขณะที่ท่านชายก็ทรงทราบอยู่แล้วว่าฐานะทางบ้านของเธอไม่สู้จะดีนักแต่ไม่ทรงสนพระทัย ยังทรงรักและให้คำมั่นสัญญาว่าจะแต่งงานกับเธอ ซึ่งนาถนารีจำคำสัญญานั้นได้เป็นอย่างดีเสียงฝีเท้าเบา ๆ
“หนูไม่เข้าใจว่าทำไม พ่อถึงต้องอยากให้หนูเป็นหม่อมของท่านนัก ทั้งที่หนูเพิ่งจะอายุ 25 เองนะคะ ทำไมพ่อต้องอยากให้หนูรีบมีครอบครัวด้วย” ชินานางขัดใจเหลือเกินที่ไม่สามารถปฏิเสธบิดาได้อย่างเด็ดขาดเมื่อท่านยกเอาพี่สาวขึ้นมาอ้าง ทำให้เธอต้องยกเหตุผลร้อยแปดมาโน้มน้าวจิตใจบิดาให้เปลี่ยนความคิดนั้นซะ“พ่อมีเหตุผลนะพระนาง ลูกมีหน้าที่ทำตามคำสั่งของพ่อเท่านั้น”นายจรัญเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากห้องทำงานของบุตรสาว ทิ้งความขัดอกขัดใจไว้กับชินานาง จนเธอไม่สามารถทนนั่งทำงานต่อได้อีกต่อไป สมาธิของเธอถูกกระชากไปพร้อมกับเรื่องหนักใจที่สุมเข้ามาแทนที่ ความสนใจของเธอจึงไม่ได้อยู่ที่งานซึ่งกองอยู่ตรงหน้าอีกต่อไป หญิงสาวรู้ดีว่าไม่สามารถขัดคำสั่งของบิดาในครั้งนี้ได้ ความอึดอัดขัดข้องทำให้คิ้วคู่สวยขมวดมุ่น ใบหน้าหวานดูกังวลอย่างคนที่ยังหาทางออกให้กับปัญหารุมเร้าของตัวเองบ้านจตุรกรในปีพ.ศ.2505ดวงจันทร์สาดลำแสงตกกระทบหลังคาคฤหาสน์ใหญ่ที่สมัยหนึ่งเคยสวยและหรูหราที่สุดในย่านนี้ ตึกเก่าสไตล์ยุโรปแบบชนชั้นสูงในอดีตซึ่งมักปลูกสร้างกันตามสมัยนิยมตกทอดมาสู่รุ่นลูกรุ่นหลานในวันนี้ซึ่งคืน
ชินานางละสายตาจากเอกสารกองโตบนโต๊ะเพื่อมองสบสายตาบิดาอย่างตกใจทันทีที่ได้ยินคำสั่งแกมขอร้องให้เธอแต่งงานตามความประสงค์ ไม่สิ...ต้องเรียกว่าเข้าพิธีเสกสมรสกับหม่อมเจ้าหนุ่มรูปงามซึ่งเป็น ที่หมายปองของสาวๆ ทั่วราชอาณาจักรอย่างหม่อมเจ้านคเรศ วิษณุรังสรรค์นายจรัญ บิดาของเธอเป็นพระสหายคนสนิทในพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าธรเทวัญ วิษณุรังสรรค์และยังเป็นพระสหายที่มีทรัพย์สมบัติมากพอจะให้ความช่วยเหลือราชสกุล วิษณุรังสรรค์ เพื่อหยิบยืมเงินจำนวนมหาศาลไปเป็นเวลานานนับสิบปี กลายเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของวิษณุรังสรรค์ซึ่งหากนับกันตามจริงแล้วน่าจะเป็นเงินจำนวนกว่าสามร้อยล้านบาท แต่นายจรัญรักและศรัทธาในพระองค์เจ้าธรเทวัญมากจึงไม่เคยทวงถาม ตราบกระทั่งพระองค์ท่านสิ้นพระชนม์และมีการเปิดพินัยกรรม หม่อมเจ้านคเรศ วิษณุรังสรรค์ พระโอรสองค์โตจึงเพิ่งทรงทราบว่าท่านจำต้องเสกสมรสกับชินานางบุตรสาวคนเล็กของนายจรัญเพื่อชดใช้หนี้สินจำนวนมหาศาลของวิษณุรังสรรค์ตามพินัยกรรมซึ่งหญิงผู้โชคร้ายคนนั้นคือเธอ...ชินานางตกใจสุดขีด ชั่วชีวิตของเธอไม่เคยคิดว่าต้องแต่งงานกับราชนิกุลสูงศักดิ์อย่างท่านชายนคเรศมาก่อน ท่านกับเธอต่างกัน