เสียงนมแจ่ม แม่นมที่เป็นคนเลี้ยงโชติรสและเธอในวัยเยาว์ตั้งแต่ครั้งมารดาของพวกเธอยังมีชีวิต ซึ่งทั้งเธอและพี่สาวให้ความนับถือและรักนมแจ่มรองมาจากบิดาของพวกเธอเอง
“ยังค่ะนม สักครู่นะคะ พระนางขอเวลาแต่งตัวเดี๋ยวค่ะ”
ชินานางร้องตอบพร้อมกับรีบจัดแจงข้าวของที่รื้อค้นไว้จนกระจัดกระจายรอบห้องเข้าที่อย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันกลับมามองอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าทุกอย่างถูกจัดเก็บไว้พ้นสายตานมแจ่มดีแล้วจึงเดินมาเปิดประตูรับหญิงชราที่ยืนรออยู่หน้าห้อง
“ทำอะไรอยู่คะ นมรออยู่นานแล้ว”
นมแจ่มถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนยามก้าวเข้ามาในห้องของคุณหนูที่เธอเลี้ยงมาแต่เล็กแต่น้อยพร้อมกับทอดสายตาเอ็นดูมองชินานางด้วยความรักใคร่
“นางเพิ่งอาบน้ำเมื่อสักครู่ค่ะ แต่งตัวเรียบร้อยก็รีบเปิดประตูให้นมนี่ไงคะ” ชินานางกอดเอวแม่นมพร้อมยิ้มประจบ
“คุณหนูสบายใจขึ้นบ้างหรือยังคะเรื่องท่านชายนคเรศ” นมแจ่มทอดน้ำเสียงถามอย่างอ่อนโยนพร้อมกับโอบกอดคุณหนูที่นางรักไม่ต่างกับเลือดในอก
“นมจะให้นางสบายใจได้ยังไงคะ ในเมื่อมันเป็นความสุขของนางทั้งชีวิตเลยนะคะ” ใบหน้านวลหมองลงทันที ดวงตาคู่งามแสดงความไม่สบายใจผ่านออกมาให้ได้เห็นอย่างช่วยไม่ได้
“มีแต่สาว ๆ อยากที่จะได้เป็นหม่อมของท่านกันทั้งเมือง ทำไมคุณหนูของนมต้องคิดมากในเมื่อท่านชายทรงเลือกคุณหนูของนม”นมแจ่มถอนหายใจ
“ทรงเลือกนางเพราะอะไรล่ะคะนม คนเราไม่เคยแม้แต่เห็นหน้า หรือรู้จักนิสัยใจคอกันมาก่อน แต่ต้องแต่งงานกัน ถึงเขาจะมีฐานันดรสูงส่งแค่ไหนก็ตามแต่นั่นไม่ได้หมายความว่ายศถาบรรดาศักดิ์พวกนั้นจะทำให้นางมีความสุขได้จริง ๆ นี่คะ”
“ถ้าคุณพระพายอยู่ด้วยก็คงจะดีนะคะ นมว่าคุณพระพายคงช่วยให้คุณพระนางเลิกคิดมากได้แน่ ๆ” นมแจ่มระบายลมหายใจแรงคิดถึงคุณหนูอีกคนของนางขึ้นมาจับใจ
“พี่พายก็คงไม่อยากให้นางแต่งงานกับท่านนคเรศแน่ ๆ ค่ะ”
“เอาเถอะค่ะ นมว่าคุณหนูอย่างคิดมากเลยนะคะ เพราะถึงยังไงคุณหนูของนมก็ต้องแต่งงานกับท่านชายอยู่ดีเลิกคิดเรื่องอื่น ๆ ดีกว่านะคะ” นางลูบผมหญิงสาวเบา ๆ ด้วยความเห็นใจแต่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ซ้ำยังแอบมั่นใจลึก ๆ ว่าคุณหนูของนางจะเอาชนะพระทัยท่านชายผู้เพียบพร้อมองค์นั้นได้อย่างแน่นอน
“ถ้าเลือกได้นางไม่มีทางยอมแต่งกับท่านชายแน่ ๆ ค่ะนม” ชินานางถอนหายใจทั้งที่ยังไม่คลายอ้อมแขนจากเอวแม่นมของเธอ
เสียงกริ่งโทรศัพท์ดังกังวานขึ้นตั้งแต่เช้ามืด ปลุกให้ร่างโปร่งระหงบนเตียงใหญ่ของโชติรสต้องลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับเหลือบตามองนาฬิกาเรือนเล็กที่วางอยู่บนหัวเตียง เธอขยับตัวลุกขึ้นด้วยท่าทางที่ยังงัวเงียเมื่อหย่อนปลายเท้าลงจากเตียงนอนในอพาร์ทเม้นท์ส่วนตัวซึ่งถือได้ว่าหรูหราสมกับที่เป็นห้องพักของบุตรสาวคนโตนักธุรกิจใหญ่ชาวไทยที่มีบุตรสาวเพียงสองคน คือเธอและน้องสาว ชินานาง
“Hello. Chotiros speaking.” โชติรส หรือ คุณหนูพระพาย แห่งบ้านอัครเกตุยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหูก่อนจะส่งเสียงทักทาย
“พี่พายคะ นี่นางเองนะคะ” ชินานางกล่าว
“อ้าวพระนาง โทร.มาแต่เช้ามีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ” โชติรสเหลือบมองนาฬิกาที่หัวเตียงอีกครั้ง
“เพราะมีเรื่องสิคะพี่พาย น้องกลุ้มใจจะแย่อยู่แล้วค่ะ” ชินานางถอนหายใจแรง
“ค่อย ๆ เล่าให้พี่ฟังสิจ๊ะพระนาง” โชติรสหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ
“คุณพ่อจะให้น้องแต่งงานกับท่านชายนคเรศ แต่น้องไม่อยากแต่งนี่คะพี่พระพาย”
“แต่งงาน!!” โชติรสทวนคำอย่างแปลกใจ
“ค่ะ น้องจะทำยังไงดีคะ” ชินานางถามพี่สาวด้วยความร้อนใจ
“พี่เคยได้ข่าวว่าท่านชายองค์นี้ทรงเจ้าชู้นักไม่ใช่เหรอพระนาง” โชติรสถามน้องสาว
“ไม่ทราบสิคะ น้องเองก็ไม่เคยรู้จักกับท่านมาก่อน ได้ยินแต่ข่าวว่าท่านรักอยู่กับเพื่อนเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของน้อง” ชินานางตอบ
“ก็ในเมื่อท่านมีคู่รักอยู่แล้ว ๆ ทำไมคุณพ่อถึงยังอยากจะให้พระนางแต่งกับท่านอีกล่ะ” โชติรสทำหน้ายุ่งไม่เข้าใจบิดาในเรื่องนี้นัก
“น้องก็ไม่ทราบค่ะ คุณพ่อบอกกับน้องว่าท่านชายต้องเลือกเสกสมรสน้องแทนคู่รักของท่านอยู่แล้ว”
“แล้วทำไมพระนางไม่ปฏิเสธคุณพ่อให้เด็ดขาดไปเลยล่ะ”โชติรสถามด้วยความสงสัยเพราะปกติน้องสาวของเธอดื้อและไม่ยอมลงให้บิดาง่าย ๆ มิหนำซ้ำยังกล้าขัดคำสั่งของบิดาออกบ่อย ๆ
“คุณพ่อขู่น้องว่าถ้าน้องไม่ยอมทำตามคำสั่งของท่าน คุณพ่อจะให้พี่พระพายกลับมาทำหน้าที่นี้แทนน้อง”
“อ๋อ...อย่างนี้นี่เองหรอกเหรอ”โชติรสทำหน้าครุ่นคิดสักครู่
เสียงนมแจ่ม แม่นมที่เป็นคนเลี้ยงโชติรสและเธอในวัยเยาว์ตั้งแต่ครั้งมารดาของพวกเธอยังมีชีวิต ซึ่งทั้งเธอและพี่สาวให้ความนับถือและรักนมแจ่มรองมาจากบิดาของพวกเธอเอง“ยังค่ะนม สักครู่นะคะ พระนางขอเวลาแต่งตัวเดี๋ยวค่ะ”ชินานางร้องตอบพร้อมกับรีบจัดแจงข้าวของที่รื้อค้นไว้จนกระจัดกระจายรอบห้องเข้าที่อย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันกลับมามองอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าทุกอย่างถูกจัดเก็บไว้พ้นสายตานมแจ่มดีแล้วจึงเดินมาเปิดประตูรับหญิงชราที่ยืนรออยู่หน้าห้อง“ทำอะไรอยู่คะ นมรออยู่นานแล้ว”นมแจ่มถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนยามก้าวเข้ามาในห้องของคุณหนูที่เธอเลี้ยงมาแต่เล็กแต่น้อยพร้อมกับทอดสายตาเอ็นดูมองชินานางด้วยความรักใคร่“นางเพิ่งอาบน้ำเมื่อสักครู่ค่ะ แต่งตัวเรียบร้อยก็รีบเปิดประตูให้นมนี่ไงคะ” ชินานางกอดเอวแม่นมพร้อมยิ้มประจบ“คุณหนูสบายใจขึ้นบ้างหรือยังคะเรื่องท่านชายนคเรศ” นมแจ่มทอดน้ำเสียงถามอย่างอ่อนโยนพร้อมกับโอบกอดคุณหนูที่นางรักไม่ต่างกับเลือดในอก“นมจะให้นางสบายใจได้ยังไงคะ ในเมื่อมันเป็นความสุขของนางทั้งชีวิตเลยนะคะ” ใบหน้านวลหมองลงทันที ดวงตาคู่งามแสดงความไม่สบายใจผ่านออกมาให้ได้เห็นอย่างช่วยไม่ได้“ม
นาถนารีทราบว่าท่านชายนคเรศทรงหยิ่งในเกียรติยศและศักดิ์ศรีขององค์เองมากแค่ไหน และแน่นอนว่าท่านชายของเธอจะต้องไม่มีวันยอมให้หม่อมกดขี่ท่านด้วยอำนาจเงินเด็ดขาด เธอเชื่อว่าถึงจะทรงเษกสมรสไปแล้วท่านชายก็ไม่มีทางทอดทิ้งเธออย่างแน่นอนและนั่นคงเป็นเรื่องดีที่ท่านจะเสกสมรสกับหญิงสาวที่ร่ำรวยเงินทอง เพราะหมายถึงเงินทองเหล่านั้นจะส่งผ่านมาจนถึงมือของเธออีกทอดหนึ่งนั่นเองความจริงท่านชายยังมีพระอนุชาฝาแฝดอีกองค์หนึ่ง ที่ใคร ๆ ต่างเรียกท่านว่าท่านชายธัญ หรือ หม่อมเจ้าธเนศวร วิษณุรังสรรค์ พระอนุชานั้นถึงแม้จะมีพระพักตร์ไม่ผิดเพี้ยนกับพระเชษฐาแต่กลับแตกต่างกันไปเกือบทุกเรื่อง ท่านธัญถือได้ว่าเป็นเพลย์บอยขนานแท้ ทรงมีคู่ควงมากมายแต่ที่ทำให้นาถนารีรู้สึกเจ็บใจก็คือท่านชายธัญไม่เคยชอบเธอเลย แม้หน้าของเธอท่านชายพระอนุชาก็ยังไม่เคยเหลียวแลด้วยซ้ำทั้งที่พระเชษฐาทั้งหลงและรักเธอจนไม่เหลือพระเนตรไว้ชำเลืองแลสาวใด สองพระองค์ช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงวังวิษณุรังสรรค์พระตำหนักวิษณุรังสรรค์ปลูกสร้างแบบเก่า ฐานเป็นอิฐถือปูนแบ่งเป็นสองชั้นสร้างจากไม้สักทั้งหลังบนเนื้อที่หลายสิบไร่ที่ปลูกทั้งไม้ดอกไม้ประดับและไ
เธอใช้เวลาเพียงเดือนเดียวก็สามารถทำให้ท่านชายติดบ่วงเสน่หาของเธอได้ เธอสามารถทำให้ทรงตัดสินพระทัยขอคบหาดูใจกับตนเองได้สำเร็จ นาถนารีเป็นผู้หญิงที่รู้จักวางตัวได้ดีเมื่ออยู่ต่อหน้า พระพักตร์ การวางตัวอย่างเหมาะสมทำให้ทรงเข้าพระทัยว่าเธอเป็น กุลสตรีที่น่ารัก เมื่อต้องเสด็จกลับเมืองไทย ท่านชายจึงมาขอพบเธอถึงที่พัก ในวันนั้นเธอทำทีอาวรณ์ในตัวท่านมากจนทำให้ราชนิกุลหนุ่มยิ่งทรงปลาบปลื้มพระทัยเมื่อทรงทราบว่าเธอเองก็รู้สึกไม่ต่างกับที่ทรงรู้สึกต่อเธอเช่นกันท่านชายทรงประทานจุมพิตเธอเป็นครั้งแรกในคืนนั้นพร้อมคำสารภาพรักอันอ่อนหวานที่เธอยังจำได้ไม่มีวันลืมถึงความรู้สึกตื่นเต้นในครั้งนั้น ความปีตีภูมิใจในชัยชนะของตนเองที่สามารถกุมพระหทัยหม่อมเจ้าผู้มีศิริโฉมไว้ในมือสำเร็จ แม้จะทราบว่าฐานะของราชสกุลวิษณุรังสรรค์ไม่ได้มั่นคงเท่าไรนัก แต่เธอก็ยังเข้าใจว่าท่านคงมีทรัพย์สินมากพอที่จะเลี้ยงครอบครัวได้แบบสบาย ๆ ในขณะที่ท่านชายก็ทรงทราบอยู่แล้วว่าฐานะทางบ้านของเธอไม่สู้จะดีนักแต่ไม่ทรงสนพระทัย ยังทรงรักและให้คำมั่นสัญญาว่าจะแต่งงานกับเธอ ซึ่งนาถนารีจำคำสัญญานั้นได้เป็นอย่างดีเสียงฝีเท้าเบา ๆ
“หนูไม่เข้าใจว่าทำไม พ่อถึงต้องอยากให้หนูเป็นหม่อมของท่านนัก ทั้งที่หนูเพิ่งจะอายุ 25 เองนะคะ ทำไมพ่อต้องอยากให้หนูรีบมีครอบครัวด้วย” ชินานางขัดใจเหลือเกินที่ไม่สามารถปฏิเสธบิดาได้อย่างเด็ดขาดเมื่อท่านยกเอาพี่สาวขึ้นมาอ้าง ทำให้เธอต้องยกเหตุผลร้อยแปดมาโน้มน้าวจิตใจบิดาให้เปลี่ยนความคิดนั้นซะ“พ่อมีเหตุผลนะพระนาง ลูกมีหน้าที่ทำตามคำสั่งของพ่อเท่านั้น”นายจรัญเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากห้องทำงานของบุตรสาว ทิ้งความขัดอกขัดใจไว้กับชินานาง จนเธอไม่สามารถทนนั่งทำงานต่อได้อีกต่อไป สมาธิของเธอถูกกระชากไปพร้อมกับเรื่องหนักใจที่สุมเข้ามาแทนที่ ความสนใจของเธอจึงไม่ได้อยู่ที่งานซึ่งกองอยู่ตรงหน้าอีกต่อไป หญิงสาวรู้ดีว่าไม่สามารถขัดคำสั่งของบิดาในครั้งนี้ได้ ความอึดอัดขัดข้องทำให้คิ้วคู่สวยขมวดมุ่น ใบหน้าหวานดูกังวลอย่างคนที่ยังหาทางออกให้กับปัญหารุมเร้าของตัวเองบ้านจตุรกรในปีพ.ศ.2505ดวงจันทร์สาดลำแสงตกกระทบหลังคาคฤหาสน์ใหญ่ที่สมัยหนึ่งเคยสวยและหรูหราที่สุดในย่านนี้ ตึกเก่าสไตล์ยุโรปแบบชนชั้นสูงในอดีตซึ่งมักปลูกสร้างกันตามสมัยนิยมตกทอดมาสู่รุ่นลูกรุ่นหลานในวันนี้ซึ่งคืน
ชินานางละสายตาจากเอกสารกองโตบนโต๊ะเพื่อมองสบสายตาบิดาอย่างตกใจทันทีที่ได้ยินคำสั่งแกมขอร้องให้เธอแต่งงานตามความประสงค์ ไม่สิ...ต้องเรียกว่าเข้าพิธีเสกสมรสกับหม่อมเจ้าหนุ่มรูปงามซึ่งเป็น ที่หมายปองของสาวๆ ทั่วราชอาณาจักรอย่างหม่อมเจ้านคเรศ วิษณุรังสรรค์นายจรัญ บิดาของเธอเป็นพระสหายคนสนิทในพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าธรเทวัญ วิษณุรังสรรค์และยังเป็นพระสหายที่มีทรัพย์สมบัติมากพอจะให้ความช่วยเหลือราชสกุล วิษณุรังสรรค์ เพื่อหยิบยืมเงินจำนวนมหาศาลไปเป็นเวลานานนับสิบปี กลายเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของวิษณุรังสรรค์ซึ่งหากนับกันตามจริงแล้วน่าจะเป็นเงินจำนวนกว่าสามร้อยล้านบาท แต่นายจรัญรักและศรัทธาในพระองค์เจ้าธรเทวัญมากจึงไม่เคยทวงถาม ตราบกระทั่งพระองค์ท่านสิ้นพระชนม์และมีการเปิดพินัยกรรม หม่อมเจ้านคเรศ วิษณุรังสรรค์ พระโอรสองค์โตจึงเพิ่งทรงทราบว่าท่านจำต้องเสกสมรสกับชินานางบุตรสาวคนเล็กของนายจรัญเพื่อชดใช้หนี้สินจำนวนมหาศาลของวิษณุรังสรรค์ตามพินัยกรรมซึ่งหญิงผู้โชคร้ายคนนั้นคือเธอ...ชินานางตกใจสุดขีด ชั่วชีวิตของเธอไม่เคยคิดว่าต้องแต่งงานกับราชนิกุลสูงศักดิ์อย่างท่านชายนคเรศมาก่อน ท่านกับเธอต่างกัน