LOGIN"นั่นสิจะพลาดทำไม" ไม่ใช่เสียงของบุคคลแถวนี้ ทว่าเป็นของผู้มาเยือนตึกคณะคนใหม่ นั่นคือมารีนเอง มือบางยังกำเสื้อช็อปสีเลือดหมูแน่น ช่วงอากาศร้อนๆไม่แพ้ข้างในใจระอุกว่า
พอชายหนุ่มบอกว่าต้องรีบใช้ เธอก็วานช่างแต่งกายบวกกับเพื่อนสาวดูแลงานต่อ หากอาจารย์คณะเขาเอ็ดดุ จะได้ไม่เสียเวลาอธิบาย แม้รู้ทั้งรู้มหาวิทยาลัยเกือบทั้งหมดจะเกรงใจตระกูลมาเฟียก็ตาม "อ้าว...น้องรีนเอง แล้วนั่นเสื้อช็อปใครว่ะ" คิริวที่เล็งเธอดั่งเป้าหมาย ส่งขนมจีบตั้งแต่สมัยปีหนึ่ง รีบจ้ำอ้าวมาระยะใกล้ ก้มหมายสำรวจป้ายชื่อบุคคลต้องสงสัย "ฝากไปให้เพื่อนด้วย เสียเวลาชะมัด" แต่เธอดันโยนให้อีกฝ่ายรับเสียก่อนทักทาย ชายหนุ่มถือวิสาสะจับเสื้ออ่านชื่อเอา หน้าสวยหงุดหงิดเห็นได้ชัด หมุนตัวเตรียมเดินกลับไปลานเวทีหมับ!!! "รีบกลับไปหาไอเวรเหรอ มานี่สิช่วยดูป้ายหน่อยไหนว่าเก่งออกแบบ" ซายน์ไม่รีรอคว้าข้อมือเล็ก พร้อมดึงเสื้อชอปในมือเพื่อน นัยน์ตาคมกึ่งบังคับสั่งเธอนั่งลงเก้าอี้ตรงกองป้ายมหึมา แล้วนำผ้าบางๆไว้ตกแต่งประดับซุ้ม ปิดชายกระโปรงตัวสั้นร่นขึ้นดูขัดใจ ส่วนเนยถอยหลังเล็กน้อย ส่งสายตาขอความเห็นให้ต้ากับคิริวช่วยชี้แจง ผู้หญิงด้วยกันย่อมมองออก แต่ยังไม่รู้สถานะอันแท้จริงเท่านั้นเอง "เด็กนายยืนชะเง้อขนาดนั้น จะรออะไรอยู่ล่ะ" ไม่วายน้ำเสียงหวานพูดแขวะ~เหตุใดหัวใจเจ้ากรรมแผงฤทธิ์โวยวายหนักหนา หรือคนตรงหน้ามีผลบางอย่างต่อความรู้สึก~ "สั่งมาสิอยากให้ทำไง แล้วฉันจะไม่ขัด" คนบอกไม่ได้สนใจอะไรต่อ ย่อตัวลงเขยิบใกล้เก้าอี้ร่างบาง วางท่อนแข็งแรงบนหน้าขาขาว แล้วใช้มืออีกข้างจับแปรงทาสี ใบหน้าคมคายยามมองด้านข้าง ช่างดึงดูดเพศตรงข้ามอย่างมาก แม้แต่หญิงสาวข้างกาย "ไปให้เหยื่อโดนเสือกินมั้ง" คนตัวเล็กเอาใหญ่ วางข้อศอกเท้าคางกับบ่ากว้าง เหน็ดเหนื่อยตั้งแต่กลางดึก พึ่งได้พักนั่งก็ตอนนี้ เธออ่านรายละเอียดผ่านกระดาษใบเล็ก เลี่ยงทะเลาะคารมเช่นทุกครั้ง "เสียใจด้วยนะ ฉันมียัยนกแก้วปากแจ๋วแล้ว" แต่แล้วคำพูดยิ่งสะกิดต่อมอารมณ์อยู่เสมอ "มันจิกตายนะเผื่อนายลืม!" "ยอมตายคาเตียงอ่ะเอาไหม" "ทะลึ่ง!!!ส่งแปรงมาเร็ว จะช่วยทาอันนี้คณะของเบลนี่ คิดถึงขึ้นมาเลย" คนถูกสั่งยอมยื่นให้โดยดี เขาเองเลือกแปรงขนาดเล็กกว่าตามเก็บขอบมุมคม ท่ามกลางหลายสายตาสนใจความสัมพันธ์นี้ "พวกเขาคบกันหรอคะ?" เนยหันถามชายหนุ่มสองข้าง เอาถุงน้ำต่างๆยัดใส่มือพานอารมณ์เสีย อดเป็นเหยื่อสาวน้อยร้อยลีลาบนเตียง ให้เสืออย่างเขาจับกินแก้กระหาย "เหมือนพวกเราพลาดอะไรกันไปว่ะ" คิริวพูด หรือเพื่อนสนิทซุ่มคบอดีตดาวคณะ ชิ่งตัดหน้าคนตามจีบอย่างเขา "หรือที่เสือมันเงียบ เพราะมันมีของดีแต่ไม่พูด" ต้ารีบพูดเสริม "จบงานเดี๋ยวพาไปหาเบลกับเฮียไม้เอาไหมล่ะ" พอคนอื่นทำท่าเตรียมเข้าช่วย เพื่อเร่งแข่งกับเวลาของคณะอื่นประกวด ซายน์โบกมือไล่รุ่นน้องออกจากชิ้นงานตรงนั้น กระทั่งเพื่อนสนิทสองคนยังพลอยโดนหางเล่ไปด้วย "เอาสิ ใจดีแบบนี้บ่อยๆหน่อยซายน์" เธอเผลอยิ้มแย้มกว้างเห็นฟันขาวเรียงสวย แต่ยังนิสัยชอบกวนไม่เลิก ยักคิ้วตามหลังสองสามที "ชักจะ...ไม่โอเคล่ะ" "หยอกๆ เหมือนหมาหยอกไก่อ่ะเล่นๆเอง" มือบางทำท่าขยุ้มหมั่นเขี้ยว กลายเป็นอารมณ์ดีผิดเมื่อกี้ "เธอเป็นหมา?" แม้ทั้งคู่จะช่วยกันทาสี คนตัวสูงยังสนใจประโยคสุภาษิตไทย เหลียวหันมองรอคำตอบ "ป่าว...ฉันเป็นไก่ นายเป็นหมาหน่ะ" เธอแทบจะกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ จับแปรงทาสีจ่อใบหน้าสาก ตอนเขาเปลี่ยนอารมณ์กระทันหัน ราวตกใจข้อความเฉลยสุดท้าย "มารีน!!!"สามชั่วโมงถัดมา_
"ใครเอาพวกแมงกระพรุนรนไฟมาเป็นกรรมการว่ะ รุกรี้รุกรนไม่ทำเชี้ยไร" หลังจากผลการตัดสินตั้งนาน แม้ผ่านช่วงเย็นแล้ว ผู้คนยังสนใจยืนข้างเวทีแนบแน่น ฮาเกนเริ่มมีอารมณ์ฉุนเฉียว นายแบบบนเวทีกล้าเหยียดยิ้มใส่ อยากจะขึ้นไปประลองสักตั้ง ถ้าไม่ติดตรงมีกล้องออกสื่อมวลชนพาภาพลักษณ์เสียหาย พี่สาวตัวแสบดันหลอกว่า นางแบบค่ายดังร่วมเดินประกวด มีหรือชายชาตรีจะไม่กระตือรือร้น เฝ้ารอชมจนจบการแข่งขัน "ไม่ติดว่าเป็นงานเธอนะ ล่อหน้าแมร่งกลางเวทีเลย" เขาเองไม่ได้อยากจะมายืนชมอะไรพวกนี้เลย หากมารีนไม่ขู่ว่าจะกลับไปนอนคอนโด คงอยู่ตึกคณะวิศวะเล่นทดลองหุ่นยนต์รอ พ่นลมหายใจหงุดหงิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยืนเท้าเอวสอบจ้องเอาเรื่อง "ว่าแต่เฮียซายน์ทำไมต้องมากับเจ้อะ?" รุ่นน้องนึกสงสัยแบบไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย ทำผู้ถูกเอ่ยชื่อมองเลิกลัก เยลลี่เองยังไม่รู้เรื่องราวของสองคน ยังกระพริบตามปริบไร้คำอธิบายช่วย "เห็นยืนโง่ๆตากแดดเลยทักดู" นิสัยปากเสียมีไหวพริบบอกรวดเร็ว กระตุ้นต่อมโมโหเพียงเสี้ยวนาที ชนิดคนถูกเอ่ยถึงเลือดร้อนขึ้นหน้า เหลียวมองพร้อมกันทั้งหมด "ถ้าจะทักคนอื่นแบบนี้ เอาปากไปคาบเศษขยะเก็บใส่ถังดีกว่าเหอะ" "พอๆ สมมุติถ้าพวกพี่เป็นผัวเมียกัน สงสัยลูกตรอมใจตั้งแต่ในท้องแน่อะ" รุ่นน้องนึกขำๆ ใครหนอใครแอบปล่อยข่าวลือว่าสองคนคบหากัน ช่างพึลึกเกินเรื่องเหลือเชื่อ เขาเพ่งเล็งหุ่นนางแบบต่างคณะ ยกมือชูทักทายกันระยะไกล คาดการณ์จบงานคงได้กินเหยื่อชั้นดี "ฟ้าจะผ่าไอเกน!" ร่างบางเอี้ยวตัวหนีไปด้านซ้าย เบะปากให้ความคิดน้องชาย มีอย่างที่ไหนคนปากเสียกับปากจัดมาเจอกัน วันๆคงประสาทเสียจนระเบิดตัวเองตาย "สยองฉิบหาย!" ส่วนซายน์เอี้ยวตัวหมุนทางขวา แค่คิดว่าลูกตัวเอง จะได้ยินเสียงแหลมแวดๆใส่ในทุกเวลา คงร้องงอแงปฏิเสธหน้าที่บุพการีของจริง ลูกตัวน้อยคงกลั้นใจนอนตายคาอก "ผมก็สยอง ถ้าได้เฮียเป็นพี่เขย"...........................................................
"ไม่!!!ได้โปรดนะรีนนะ ข้าวจะไม่ยุ่งอะไรกับรีนอีกเลย""ใช่ๆพวกเราจะไม่ยุ่งอะไรกับรีนอีกเลย ปล่อยเราไปเถอะนะ" สองเสียงร้องประสาน หวาดกลัวจนเนื้อตัวสั่นระริก บอดี้การ์ดชุดดำเข้าควบคุมล็อคตัวแน่นติดพนักเก้าอี้ เมื่อหญิงสาวตรงหน้ารับอาวุธมีดจากชายหนุ่มร่างสง่า นำมาถือควงเล่นเป็นภาพชวนหวาดเสียว ทุกคนพอทราบดีว่าเธอคือทายาทมาเฟียรุ่นใหญ่ แต่ใครจะนึกว่าภาพลักษณ์สาวนักดีไซเนอร์ ดันดึงพันธุกรรมถ่ายทอดเสมือนทั้งหมด"ฉันปล่อยไปอยู่แล้วไม่ต้องห่วงนะแต่...." มารีนลากเสียงยาว ชวนคนฟังหัวใจแทบหยุดเต้น ลุ้นความคิดของเธอปานเสี่ยงทาย อยากได้หนทางที่ดีกระทั่งลืมผลการกระทำตัวเอง"แต่อะไรรีนว่ามาเลย" ข้าวฟ่างฉีกยิ้มกว้าง ในตอนมีหนทางเอาชีวิตรอดออกไป พยักหน้าให้เพื่อนสาวประเภทสองอดทนรอ"นั่นสิว่ามาเลย เราทำได้ทุกอย่าง" ปริ่มช่วยพูดตามกัน พยามหว่านล้อมขอเมตตา แล้วเป็นจังหวะเดียวกับชายชุดดำช่วยกันยกโต๊ะ นำมาวางไว้ตรงหน้าแก่ผู้ร้ายทั้งสอง ซายน์กระตุกยิ้มมุมปาก มองดูลูกกระต่ายตัวน้อยเลียนแบบสัญชาตญาณของราชสีห์ ทิ้งกายตรงที่นั่งมุมมืดเผยแสงไฟปลายมวนบุหรี่สลัว"อยากรู้ใช่ไหมล่ะว่าแต่อะไร" น้ำเสียงหวานบอกราบ
ผับSK"พวกไอคินไปไหน" ซายน์เอ่ยถามทันที เมื่อมาถึงโซนวีไอพีกลับไม่มีใครนอกจากฮาเกนเท่านั้น ค่ำคืนนี้ใบหน้าเขาดูจริงจัง ราวโกรธแค้นยามพี่สาวถูกรังแก ยิ่งต้องเก็บกลั้นอารมณ์ไม่อยากแพร่งพรายให้บุพการีรู้ บนโต๊ะมีเพียงขวดเหล้าคู่น้ำแข็งเปล่าเท่านั้น บ่งบอกสถานะการณ์ตึงเครียดมากกว่าผ่อนคลาย ร่างสูงรีบนั่งฝั่งตรงข้าม เทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กระดกเพรียว ปลดกระดุมเสื้อต่ำราวกล้ามท้อง"อุ้มสำเร็จแล้วใช่ไหม" คำถามราบเรียบฉายแวงอำมหิตผ่านน้ำเสียงขุ่น ซายน์รีบหนีแอบออกจากบ้าน หลังหญิงสาวรับประทานยาแก้อักเสบ พ่วงฤทธิ์นอนหลับสนิท มีบอดี้การ์ดร่ายล้อมสถานที่พักอาศัย"อยู่หลังบ่อน ไม่ให้ผมปิดปากมันซะเลยล่ะ" ตอนลูกน้องส่งผู้ที่ทำร้ายพี่สาวเข้าโกดังลับ คนอย่างเขาย่อมจัดบทลงโทษสถานแรกให้ผู้เยือน ฮาเกนกระตุกยิ้มเยือกเย็น พลางนึกถึงสาวประเภทสองกรีดร้องปางตาย โดนทรมานมัดลำตัวติดชะงักเก้าอี้เก่าๆ ส่วนนางแบบสาวหวาดกลัวจนสลบแน่นิ่ง "ตายเร็วจะไปสนุกอะไร เหล้าแมร่งรสชาติดีนะ" ระหว่างรุ่นพี่กระดกแก้วดื่ม เขาไม่มีทางรู้ตัวเลยว่าได้เปิดเผยร่องรอยพิษสวาทตรงบ่ากว้าง อีกฝ่ายต่างเก็บรายละเอียดดีเยี่ยม รวมถึงสัดส
@ บ้านซายน์ หลังบังคับคนตัวสูงด้วยการอยากกลับบ้านพักผ่อน ทั้งที่เขาจะตามเอาเรื่องพวกคนร้าย ยังไม่ทันเห็นหน้าในภาพวงจรปิดสักเสี้ยวเดียว คนตัวเล็กรีบชิ่งขึ้นรถโบกไล่ยามผู้หวังดี"ถามจริงๆเหอะ แทนที่จะทำแผลก่อน นี่เธอดันกลัวหน้าไม่สวยเนี้ยนะ" เขาก็ตกใจอยู่เหมือนกัน ตอนมาถึงบ้าน สิ่งแรกที่คนบาดเจ็บถามหานั่นคือกระเป๋าครีมบำรุงในรถตัวเอง เขาเร่งจัดการใช้วินลูกน้องคนสนิทเตรียมสถานที่ส่วนตัว ให้เธอมีหน้าที่แค่ขึ้นบ้านไปอาบน้ำ รอทานข้าวมื้อค่ำพร้อมอุปกรณ์ทำแผลเท่านั้น"ตากแดดทั้งวันหน้าไม่ดำก็ให้รู้ไปสิ" ร่างอรชรในชุดนักศึกษาก้าวเท้าขึ้นบรรไดอ้อยอิ่ง ชะโงกหาสัตว์สี่เท้า แทบเป็นเพื่อนคนนึงยามเหงา เวลาเจ้าของบ้านไม่อยู่"เธอจะเอาอะไร" เขาไม่ใช่พระเอกดั่งในละคร ถึงเดาความประสงค์นางเอกทุกบทบาทได้ดี"ไลล่าลูกสาวฉันล่ะ" "ทีงี้เรียกลูกสาวได้เต็มปาก""คนถามดีๆนะซายน์!""ลูกน้องฉันพามันไปเดินเล่นอยู่ หัดใจเย็นหน่อยดิ" พอเข้าห้องพื้นที่ส่วนตัวได้ ร่างอรชรล้มนอนแผ่หราบนเตียงกว้าง สูดกลิ่นน้ำหอมชายติดผ้าปู ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าไร้กังวล ชนิดดั่งสารเสพติดคุ้นเคย พลางหยิบโทรศัพท์มือถือกดต่อสายหาบุ
"เจอสักทีนะอีรีน!" ข้าวฟ่างรีบออกจากมุมมืด ใช้เพื่อนสาวประเภทสองวิ่งดักหน้าไม่ให้มีหนทางหลบหนี"ก็ฉันไง ตาฟาดเห็นเป็นตานีเหรอ" ปากจัดแจ่มแจ้งไม่ได้เกรงกลัวอะไร มารีนกดดีดกุญแจรถหรูหวังว่าปลายแหลมพอช่วยเป็นอาวุธ เผื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายกระทันหัน "ปากดีอย่างนี้ โดนกรีดหน่อยเป็นไง" ปริ่มเพื่อนสนิทข้าวฟ่าง ชูมีดคัตเตอร์สะท้อนความคมกริบ ผ่านแสงไฟสปอร์ตไลท์ คาดว่าแค่ผ่านสัมผัสคงบาดลึกถึงชั้นเนื้อเยื่อผิว"อย่าหมาหมู่ดิ...อีควาย!" นอกจากกุญแจรถในมือ เธอยังมองหาสิ่งของรอบตัว รวบรวมสติของการฝึกป้องกันตัวชั้นสูง เพ่งเล็งคู่กรณีไม่ยอมความให้เสียศักดิ์ศรีหญิงมาดมั่น"เอามันเลยปริ่ม มันกล้าด่าปริ่มก่อน" ข้าวฟ่างเริ่มส่งเสียงยัวยุ กลางมือต้อนให้มารีนก้าวถอยหลัง"อยากโง่โดนอีข้าวเน่าหรอกใช้ก็เข้ามาอีโง่!""มึงเละแน่อีรีน!" ปริ่มวิ่งเข้ากระชากผมยาวสลวย แรงมหาศาลทำเธอเชิดตามกักเก็บอาการเจ็บ แต่สองมือบางรั้งข้อมือถือมีดไว้ พลางจับปลายกุญแจกระแทกใส่ลูกกระเดือกอีกฝ่าย"อึก!!!" ถึงแรงไม่มากไปกว่าปริ่ม แต่ก็กระทบลึกหลอดลม เขารีบกุมลำคอคล้ายหายใจติดขัด ปล่อยมีคัตเตอร์ล่วงหล่นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้"อีรีน!กล้
"แหละแล้วก็ถึงแก่เวลาที่เหมาะสม กรรมการจะเริ่มประกาศคะแนนนับบัดนี้" พิธีกรบนเวทีพูดใส่ไมค์โครโฟน ดึงความเงียบเพื่อให้ทุกคนรับฟัง เฝ้ารอใจจดใจจ่อ ระหว่างนั้นดวงตากลมเหลือบเห็น พื้นที่ติดขอบเวทีมีข้าวฟ่างส่งดอกไม้ให้นายแบบ ประมาณประกาศสถานะตัวเอง ท่ามกลางแฟนคลับคนอื่นเบะปากราวหมั่นไส้"รางวัลรองชนะเลิศอับดับที่สองของความคิดสร้างสรรค์คือ...คณะสื่อสารมวลชนครับ" แล้วเสียงตบมือก็ดังลั่น ตามด้วยเหล่านักศึกษากรีดร้อง แม้แต่ผู้เข้าแข่งขันคณะอื่นยังตบมือยินดีชื่นชม"ยัยรีนใจฉันเต้นแรงมากเลย เราจะได้รางวัลไหมอะแก" เยลลี่บีบมือเพื่อนสาวแน่นตึง ค่อนข้างลุ้นคะแนนกันหนักหน่วง เสียงลมใจแทบหยุดตามจังหวะพิธีกรป่าวประกาศ"ได้ไม่ได้ก็เอาสักอย่างแหละ ตอนนี้ใครจะกล้าขึ้นไปรับรางวัลก่อน" ถึงเธอจะเป็นตัวเกร็งในคณะ หากได้รับรางวัลต้องขึ้นบนเวที ใครจะกล้ายืนข้างกรรมการใบหน้าราวเฒ่าหัวงูผ่านชุดเครื่องแบบจัดเต็ม ยิ่งใหญ่กว่าอธิบดีมหาวิทยาลัย"กลัวคนเยอะน่ะสิไม่ว่า" ซายน์พูดเชิงท้าทาย นัยน์ตาคมสะท้อนเปลวไฟ ยามกระทบแสงอ่อนช่วงเย็น ยิ่งผู้คนเยอะยิ่งเบียดเสียดร่างอรชร ใช้ลิ้นสากดุนกระพุ้งแก้มข่มขู่"นายท้าผิดคนแล
"นั่นสิจะพลาดทำไม" ไม่ใช่เสียงของบุคคลแถวนี้ ทว่าเป็นของผู้มาเยือนตึกคณะคนใหม่ นั่นคือมารีนเอง มือบางยังกำเสื้อช็อปสีเลือดหมูแน่น ช่วงอากาศร้อนๆไม่แพ้ข้างในใจระอุกว่า พอชายหนุ่มบอกว่าต้องรีบใช้ เธอก็วานช่างแต่งกายบวกกับเพื่อนสาวดูแลงานต่อ หากอาจารย์คณะเขาเอ็ดดุ จะได้ไม่เสียเวลาอธิบาย แม้รู้ทั้งรู้มหาวิทยาลัยเกือบทั้งหมดจะเกรงใจตระกูลมาเฟียก็ตาม"อ้าว...น้องรีนเอง แล้วนั่นเสื้อช็อปใครว่ะ" คิริวที่เล็งเธอดั่งเป้าหมาย ส่งขนมจีบตั้งแต่สมัยปีหนึ่ง รีบจ้ำอ้าวมาระยะใกล้ ก้มหมายสำรวจป้ายชื่อบุคคลต้องสงสัย"ฝากไปให้เพื่อนด้วย เสียเวลาชะมัด" แต่เธอดันโยนให้อีกฝ่ายรับเสียก่อนทักทาย ชายหนุ่มถือวิสาสะจับเสื้ออ่านชื่อเอา หน้าสวยหงุดหงิดเห็นได้ชัด หมุนตัวเตรียมเดินกลับไปลานเวทีหมับ!!!"รีบกลับไปหาไอเวรเหรอ มานี่สิช่วยดูป้ายหน่อยไหนว่าเก่งออกแบบ" ซายน์ไม่รีรอคว้าข้อมือเล็ก พร้อมดึงเสื้อชอปในมือเพื่อน นัยน์ตาคมกึ่งบังคับสั่งเธอนั่งลงเก้าอี้ตรงกองป้ายมหึมา แล้วนำผ้าบางๆไว้ตกแต่งประดับซุ้ม ปิดชายกระโปรงตัวสั้นร่นขึ้นดูขัดใจ ส่วนเนยถอยหลังเล็กน้อย ส่งสายตาขอความเห็นให้ต้ากับคิริวช่วยชี้แจง ผู้หญิง







