LOGINหลายวันต่อมา_
กระทั่งวันงานเปิดรั้วมหาลัยมาถึง ผู้คนให้ความสนใจกันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะสื่อข่าวและบุคคลภายนอก รอชมนิทรรศการแสงสีคนรุ่นใหม่ คณะศิลปกรรมศาสตร์ร่วมกับคณะบริหารจัดทำเวทีประกวด กว่าพิธีทุกอย่างจะดำเนินไป ก็เลยล่วงเวลาเกือบบ่ายของวัน "คัสตรงนี้ยังหลวมอยู่ไหม" น้ำเสียงของนักดีไซน์เนอร์มือฝึกหัด เอ่ยถามอย่างตื่นเต้นเปิดเผยผ่านดวงตา เธอนำชุดที่ตัดเย็บเองจากมือ ช่วยกับช่างแต่งหน้าจัดชิ้นงานผ่านร่างนายแบบ แต่ดูเหมือนลูคัสค่อนข้างฟิตหุ่นหนักเกินไป ไซส์เสื้อผ้าเลยคลาดเคลื่อนเล็กน้อย บรรยากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าว พื้นที่จัดงานอยู่กลางสนามใหญ่ เหงื่อเม็ดใสเต็มกรอบหน้าสวย แต่มารีนก็ไม่หวั่น เพราะทุกอย่างวันนี้เธอตั้งใจลงทุนลงแรงเต็มที่ "ไม่ค่อยแล้ว รีนเหนื่อยแล้วแหละมาตั้งแต่กลางดึกนี่" นายแบบหนุ่มตอบ พยามจะยกมือปัดไรผมที่ปกคลุมใบหน้าหญิงสาว แต่ก็ต้องชะงักกลับกระทันหัน เมื่อฮาเกนมาคู่กับซายน์หยุดยืนอยู่ข้างหลังบาง นัยน์ตาพร้อมมีเรื่องปะทะราวครั้งก่อน ช่วงนั้นเขาต้องแอบเข้าโรงพยาบาลรักษาอาการบอบช้ำ เกรงว่าเกิดข่าวใหญ่โตกระทบชื่อเสียง ที่สำคัญก็กลัวอีกฝ่ายหึกเหิม ตอนรู้ว่าเขาเจ็บหนัก "ไม่ไปเตรียมงานคณะตัวเองเล่า" มารีนเอี้ยวหลังมองตามสายตาคนเบื้องหน้า คณะอื่นต่างจัดงานใหญ่โตประชัน รวมถึงของน้องชายและมาเฟียหนุ่ม "ม๊าให้มาดูพี่อะดิ เห็นลูกน้องบอกว่าไม่กลับคอนโดตั้งแต่เมื่อคืน แถมโทรเท่าไหร่ก็ไม่รับอีก" ฮาเกนร่ายคำถามยาว เหลือบสายตาหารุ่นพี่พร้อมเหล่มองคู่อริ "กระเป๋าอยู่ในรถ คนมันวุ่นวายเลยไม่ได้พกอะไร" ก็แล้วทำไมซายน์ถึงไม่บอกกับน้องชายเธอไปเสียเลยว่า เขานั่นแหละอาสามาส่งช่วงเช้าตรู่จากบ้านตัวเอง "ถ้าไม่ติดงานพี่กู จะยำหน้าแมร่งให้" แต่แล้วเขาไม่ได้สนใจคำตอบพี่สาวตัวเองเท่าไหร่ นอกจากสบถถ้อยคำเหน็บฝ่ายตรงข้าม "ไปๆฉันยุ่งน่า" มารีนยังหยิบเข็มกับด้ายเตรียมร้อยเย็บเนื้อผ้าส่วนเกิน จัดการให้เรียบเพื่อชื่อเสียงในอนาคต ห้องเสื้อชื่อดังคงไม่พ้นเป็นแน่ "ตรงนี้สิรีน ไม่ต้องกลัวเราโดนเข็มหรอก รีนมือเบาจะตาย" นายแบบรีบชี้จุดข้างลำตัว ยิ้มเยาะเย้ยกลุ่มชายด้านหลังบาง"เดี๋ยวก็ได้ตายสมปากมึงหรอก!" ทว่าซายน์ดันดึงท่อนแขนเรียวประชิดลำตัวกำยำ เขาแทบสะกดกลั้นตัวเองไม่อยู่ตอนเห็นลูคัสจะแตะใบหน้าสวย โชคดีที่ฮาเกนมีงานคณะรัดตัว รีบเดินดิ่งกลับจนลืมเหลียวมองคนมาด้วยกัน "ให้คนอื่นทำแทน ไม่งั้นฉันเอาเธอตายคาเตียงของจริง!" คนตัวสูงก้มกระซิบบอกใกล้กกหูบาง ชนิดจริงจังที่เธอไม่เคยได้ยิน คว้าเอาหนังยางมัดผมตรงกระเป๋าช่างแต่งหน้า จับผมสลวยรวบตึงให้ศรีษะเล็ก ท่ามกลางทุกสายตาจับจ้องความสัมพันธ์นี้ "มึงอยากให้รีนเสียงาน?" ลูคัสเลิกคิ้วเชิงถาม "ใช่!เสียงานทุกอย่างที่มีมึงเกี่ยวข้อง" "โอเคๆ ยัยเยลมาแล้ววานเย็บตรงนี้ทีนะ" มารีนรีบเพื่อนสาวคนสนิทตัดบทสนทนา เอียงหน้าสบตาคนตัวสูงเล็กน้อย แล้วส่งอุปกรณ์ให้เยลลี่แทน "แกกับเขา?" เพื่อนสาวไม่เคยปริปากเล่าเรื่องชายหนุ่ม สร้างความงุงงนแก่เธออย่างมาก พอเห็นใบหน้าสากเพ่งผิดปกติ เยลลี่รีบสนใจสิ่งของในมือรวดเร็ว "เดินเสร็จไปรอฉันที่คณะ" แค่หญิงสาวส่งนายแบบขึ้นเวทีทุกอย่างเป็นพอ เพราะคะแนนรับรางวัลจะประกาศพร้อมกันทุกคณะในช่วงเย็น ซึ่งอาจเลยถึงเวลาค่ำได้ "สั่งไม่เลิกไม่ลา" น้ำเสียงหวานพึมพำ จังหวะเพื่อนสาวหง่วนเย็บชุด ร่างสูงยังไม่ทันก้าวขาหนีทันได้ยินชัดจบประโยค "อยากตาย?" ใบหน้าสากเขยิบมาใกล้ข้างแก้มเนียน บีบเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว "ช่วยไม่ได้เหงื่อไหล ไม่มีผ้าเช็ดหน้าอะซายน์" นิสัยอยากเอาชนะไม่ต่างกัน คว้าเอาปกเสื้อช็อปปาดเม็ดเหงื่อใสๆ รูดรอบขึ้นขมับเล็ก ดีที่วันนี้เธอเติมแต่งเครื่องสำอางค์เบาบาง เลยไม่ทิ้งคราบอะไรไว้ "ทำไมเสียงนี้มันน่าจังว่ะ" "ไม่เอานะ...อากาศร้อนแล้ว ใจอย่าร้อนตามสิ" เรียวปากบางยกยิ้มพอใจ ดูก็รู้คนตรงหน้าไม่ชอบเด็กปีนเกลียว แต่ยังไงได้ในเมื่อเขาเองหยอกแกล้งเธอก่อน "งั้นเอาไปเลย รีบไปคืนด้วยฉันต้องใช้" เจ้าตัวดันถอดให้จริงๆ ยัดเหยียดใส่แขนเรียว ประมาณยังไงก็ต้องไปเหยียบที่นั่น เพราะอ้างความจำเป็นไปแล้ว@ คณะวิศวกรรมศาสตร์
"นั่นไง หัวหน้างานพวกเรามาได้สักที" เสียงคิริวพูดขึ้น ชวนทุกคนหันมองตามทางเดินเข้าตึก นักศึกษาร่างสูงเกินร้อยแปดสิบ ลุคคาสโนว่าตัวร้าย ดึงดูดสายตาเหล่าสตรี "แค่เหลือให้มึงทาสีป้าย มันยากหรอว่ะ" ซายน์บ่นแสดงอาการเบื่อหน่าย นอกจากรับผิดชอบงานกลุ่มทำแทบคนเดียว เขายังต้องตามเก็บส่วนเล็กน้อยพานให้ฉุนเฉียว แย่งแปรงทาสีในมือรุ่นน้องบรรเลงเอง "โทษทีว่ะ น้องชะเอมชวนกูไปดูหลีด ไอพวกนี้ก็ตามไปกันจัง" ต้าแกล้งหัวเราะกลบเกลื่อน ลากรถเข็นที่มีป้ายขนาดใหญ่มากมาย รวบรวมงานกองจุดเดียวกัน "น้องบีชฝากบอกว่าคิดถึงมึงด้วยไอซายน์" คิริวพูด "อืม" "แล้วช่วงนี้เสือไม่คิดจะกินเหยื่อบ้างหรอว่ะ มีแต่เหยื่อเด็ดๆทั้งนั้น" คิริวยังเสริมต่อ หากพาเพื่อนชายคนนี้ไปไหนด้วย พวกเขามักได้คู่ควงกลับบ้านเสมอ "หรือว่าเสือจะวางมือ เจอของจริงแล้ว?" ต้ารีบวางอุปกรณ์พ่นสี พุ่งเข้าข้างร่างกำยำ "เสือก็เสือดิว่ะ พวกมึงนี่มันไม่ได้เรื่องของจริง" ซายน์ตอบผ่าน เขารำคาญเต็มทน เวลาจริงจังไม่ชอบพูดเล่น แต่ยังสงวนภาพลักษณ์ตัวเอง ถ้าไม่ติดว่ารุ่นน้องจะไม่เคารพ คงยกขาถีบรอบข้างล้มคะมำ "เสือตัวนี้จะกินเหยื่อแบบเนยไหมน่ะ" แล้วเสียงหวานออดอ้อนแทรกบทสนทนา ดึงผู้ชายโดยรอบเหลียวดู หญิงสาวรุ่นน้องพ่วงดีกรีดาวต่างคณะ เคยเป็นคู่นอนกันรอบนึงชนิดผ่านๆ ถือถุงน้ำหลากสียื่นให้ ฉีกยิ้มหวานแฉ่งยั่วยวน "เป็นใครจะพลาดได้ล่ะเนอะ" เพื่อนชายดันตอบกลับคนแรก ใช้ข้อศอกสกิดพ่อเสือ ซึ่งเดาว่าคงไม่พ้นห้องไหนในตึกนี้แน่ "นั่นสิ จะพลาดทำไม"......................................
"ไม่!!!ได้โปรดนะรีนนะ ข้าวจะไม่ยุ่งอะไรกับรีนอีกเลย""ใช่ๆพวกเราจะไม่ยุ่งอะไรกับรีนอีกเลย ปล่อยเราไปเถอะนะ" สองเสียงร้องประสาน หวาดกลัวจนเนื้อตัวสั่นระริก บอดี้การ์ดชุดดำเข้าควบคุมล็อคตัวแน่นติดพนักเก้าอี้ เมื่อหญิงสาวตรงหน้ารับอาวุธมีดจากชายหนุ่มร่างสง่า นำมาถือควงเล่นเป็นภาพชวนหวาดเสียว ทุกคนพอทราบดีว่าเธอคือทายาทมาเฟียรุ่นใหญ่ แต่ใครจะนึกว่าภาพลักษณ์สาวนักดีไซเนอร์ ดันดึงพันธุกรรมถ่ายทอดเสมือนทั้งหมด"ฉันปล่อยไปอยู่แล้วไม่ต้องห่วงนะแต่...." มารีนลากเสียงยาว ชวนคนฟังหัวใจแทบหยุดเต้น ลุ้นความคิดของเธอปานเสี่ยงทาย อยากได้หนทางที่ดีกระทั่งลืมผลการกระทำตัวเอง"แต่อะไรรีนว่ามาเลย" ข้าวฟ่างฉีกยิ้มกว้าง ในตอนมีหนทางเอาชีวิตรอดออกไป พยักหน้าให้เพื่อนสาวประเภทสองอดทนรอ"นั่นสิว่ามาเลย เราทำได้ทุกอย่าง" ปริ่มช่วยพูดตามกัน พยามหว่านล้อมขอเมตตา แล้วเป็นจังหวะเดียวกับชายชุดดำช่วยกันยกโต๊ะ นำมาวางไว้ตรงหน้าแก่ผู้ร้ายทั้งสอง ซายน์กระตุกยิ้มมุมปาก มองดูลูกกระต่ายตัวน้อยเลียนแบบสัญชาตญาณของราชสีห์ ทิ้งกายตรงที่นั่งมุมมืดเผยแสงไฟปลายมวนบุหรี่สลัว"อยากรู้ใช่ไหมล่ะว่าแต่อะไร" น้ำเสียงหวานบอกราบ
ผับSK"พวกไอคินไปไหน" ซายน์เอ่ยถามทันที เมื่อมาถึงโซนวีไอพีกลับไม่มีใครนอกจากฮาเกนเท่านั้น ค่ำคืนนี้ใบหน้าเขาดูจริงจัง ราวโกรธแค้นยามพี่สาวถูกรังแก ยิ่งต้องเก็บกลั้นอารมณ์ไม่อยากแพร่งพรายให้บุพการีรู้ บนโต๊ะมีเพียงขวดเหล้าคู่น้ำแข็งเปล่าเท่านั้น บ่งบอกสถานะการณ์ตึงเครียดมากกว่าผ่อนคลาย ร่างสูงรีบนั่งฝั่งตรงข้าม เทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กระดกเพรียว ปลดกระดุมเสื้อต่ำราวกล้ามท้อง"อุ้มสำเร็จแล้วใช่ไหม" คำถามราบเรียบฉายแวงอำมหิตผ่านน้ำเสียงขุ่น ซายน์รีบหนีแอบออกจากบ้าน หลังหญิงสาวรับประทานยาแก้อักเสบ พ่วงฤทธิ์นอนหลับสนิท มีบอดี้การ์ดร่ายล้อมสถานที่พักอาศัย"อยู่หลังบ่อน ไม่ให้ผมปิดปากมันซะเลยล่ะ" ตอนลูกน้องส่งผู้ที่ทำร้ายพี่สาวเข้าโกดังลับ คนอย่างเขาย่อมจัดบทลงโทษสถานแรกให้ผู้เยือน ฮาเกนกระตุกยิ้มเยือกเย็น พลางนึกถึงสาวประเภทสองกรีดร้องปางตาย โดนทรมานมัดลำตัวติดชะงักเก้าอี้เก่าๆ ส่วนนางแบบสาวหวาดกลัวจนสลบแน่นิ่ง "ตายเร็วจะไปสนุกอะไร เหล้าแมร่งรสชาติดีนะ" ระหว่างรุ่นพี่กระดกแก้วดื่ม เขาไม่มีทางรู้ตัวเลยว่าได้เปิดเผยร่องรอยพิษสวาทตรงบ่ากว้าง อีกฝ่ายต่างเก็บรายละเอียดดีเยี่ยม รวมถึงสัดส
@ บ้านซายน์ หลังบังคับคนตัวสูงด้วยการอยากกลับบ้านพักผ่อน ทั้งที่เขาจะตามเอาเรื่องพวกคนร้าย ยังไม่ทันเห็นหน้าในภาพวงจรปิดสักเสี้ยวเดียว คนตัวเล็กรีบชิ่งขึ้นรถโบกไล่ยามผู้หวังดี"ถามจริงๆเหอะ แทนที่จะทำแผลก่อน นี่เธอดันกลัวหน้าไม่สวยเนี้ยนะ" เขาก็ตกใจอยู่เหมือนกัน ตอนมาถึงบ้าน สิ่งแรกที่คนบาดเจ็บถามหานั่นคือกระเป๋าครีมบำรุงในรถตัวเอง เขาเร่งจัดการใช้วินลูกน้องคนสนิทเตรียมสถานที่ส่วนตัว ให้เธอมีหน้าที่แค่ขึ้นบ้านไปอาบน้ำ รอทานข้าวมื้อค่ำพร้อมอุปกรณ์ทำแผลเท่านั้น"ตากแดดทั้งวันหน้าไม่ดำก็ให้รู้ไปสิ" ร่างอรชรในชุดนักศึกษาก้าวเท้าขึ้นบรรไดอ้อยอิ่ง ชะโงกหาสัตว์สี่เท้า แทบเป็นเพื่อนคนนึงยามเหงา เวลาเจ้าของบ้านไม่อยู่"เธอจะเอาอะไร" เขาไม่ใช่พระเอกดั่งในละคร ถึงเดาความประสงค์นางเอกทุกบทบาทได้ดี"ไลล่าลูกสาวฉันล่ะ" "ทีงี้เรียกลูกสาวได้เต็มปาก""คนถามดีๆนะซายน์!""ลูกน้องฉันพามันไปเดินเล่นอยู่ หัดใจเย็นหน่อยดิ" พอเข้าห้องพื้นที่ส่วนตัวได้ ร่างอรชรล้มนอนแผ่หราบนเตียงกว้าง สูดกลิ่นน้ำหอมชายติดผ้าปู ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าไร้กังวล ชนิดดั่งสารเสพติดคุ้นเคย พลางหยิบโทรศัพท์มือถือกดต่อสายหาบุ
"เจอสักทีนะอีรีน!" ข้าวฟ่างรีบออกจากมุมมืด ใช้เพื่อนสาวประเภทสองวิ่งดักหน้าไม่ให้มีหนทางหลบหนี"ก็ฉันไง ตาฟาดเห็นเป็นตานีเหรอ" ปากจัดแจ่มแจ้งไม่ได้เกรงกลัวอะไร มารีนกดดีดกุญแจรถหรูหวังว่าปลายแหลมพอช่วยเป็นอาวุธ เผื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายกระทันหัน "ปากดีอย่างนี้ โดนกรีดหน่อยเป็นไง" ปริ่มเพื่อนสนิทข้าวฟ่าง ชูมีดคัตเตอร์สะท้อนความคมกริบ ผ่านแสงไฟสปอร์ตไลท์ คาดว่าแค่ผ่านสัมผัสคงบาดลึกถึงชั้นเนื้อเยื่อผิว"อย่าหมาหมู่ดิ...อีควาย!" นอกจากกุญแจรถในมือ เธอยังมองหาสิ่งของรอบตัว รวบรวมสติของการฝึกป้องกันตัวชั้นสูง เพ่งเล็งคู่กรณีไม่ยอมความให้เสียศักดิ์ศรีหญิงมาดมั่น"เอามันเลยปริ่ม มันกล้าด่าปริ่มก่อน" ข้าวฟ่างเริ่มส่งเสียงยัวยุ กลางมือต้อนให้มารีนก้าวถอยหลัง"อยากโง่โดนอีข้าวเน่าหรอกใช้ก็เข้ามาอีโง่!""มึงเละแน่อีรีน!" ปริ่มวิ่งเข้ากระชากผมยาวสลวย แรงมหาศาลทำเธอเชิดตามกักเก็บอาการเจ็บ แต่สองมือบางรั้งข้อมือถือมีดไว้ พลางจับปลายกุญแจกระแทกใส่ลูกกระเดือกอีกฝ่าย"อึก!!!" ถึงแรงไม่มากไปกว่าปริ่ม แต่ก็กระทบลึกหลอดลม เขารีบกุมลำคอคล้ายหายใจติดขัด ปล่อยมีคัตเตอร์ล่วงหล่นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้"อีรีน!กล้
"แหละแล้วก็ถึงแก่เวลาที่เหมาะสม กรรมการจะเริ่มประกาศคะแนนนับบัดนี้" พิธีกรบนเวทีพูดใส่ไมค์โครโฟน ดึงความเงียบเพื่อให้ทุกคนรับฟัง เฝ้ารอใจจดใจจ่อ ระหว่างนั้นดวงตากลมเหลือบเห็น พื้นที่ติดขอบเวทีมีข้าวฟ่างส่งดอกไม้ให้นายแบบ ประมาณประกาศสถานะตัวเอง ท่ามกลางแฟนคลับคนอื่นเบะปากราวหมั่นไส้"รางวัลรองชนะเลิศอับดับที่สองของความคิดสร้างสรรค์คือ...คณะสื่อสารมวลชนครับ" แล้วเสียงตบมือก็ดังลั่น ตามด้วยเหล่านักศึกษากรีดร้อง แม้แต่ผู้เข้าแข่งขันคณะอื่นยังตบมือยินดีชื่นชม"ยัยรีนใจฉันเต้นแรงมากเลย เราจะได้รางวัลไหมอะแก" เยลลี่บีบมือเพื่อนสาวแน่นตึง ค่อนข้างลุ้นคะแนนกันหนักหน่วง เสียงลมใจแทบหยุดตามจังหวะพิธีกรป่าวประกาศ"ได้ไม่ได้ก็เอาสักอย่างแหละ ตอนนี้ใครจะกล้าขึ้นไปรับรางวัลก่อน" ถึงเธอจะเป็นตัวเกร็งในคณะ หากได้รับรางวัลต้องขึ้นบนเวที ใครจะกล้ายืนข้างกรรมการใบหน้าราวเฒ่าหัวงูผ่านชุดเครื่องแบบจัดเต็ม ยิ่งใหญ่กว่าอธิบดีมหาวิทยาลัย"กลัวคนเยอะน่ะสิไม่ว่า" ซายน์พูดเชิงท้าทาย นัยน์ตาคมสะท้อนเปลวไฟ ยามกระทบแสงอ่อนช่วงเย็น ยิ่งผู้คนเยอะยิ่งเบียดเสียดร่างอรชร ใช้ลิ้นสากดุนกระพุ้งแก้มข่มขู่"นายท้าผิดคนแล
"นั่นสิจะพลาดทำไม" ไม่ใช่เสียงของบุคคลแถวนี้ ทว่าเป็นของผู้มาเยือนตึกคณะคนใหม่ นั่นคือมารีนเอง มือบางยังกำเสื้อช็อปสีเลือดหมูแน่น ช่วงอากาศร้อนๆไม่แพ้ข้างในใจระอุกว่า พอชายหนุ่มบอกว่าต้องรีบใช้ เธอก็วานช่างแต่งกายบวกกับเพื่อนสาวดูแลงานต่อ หากอาจารย์คณะเขาเอ็ดดุ จะได้ไม่เสียเวลาอธิบาย แม้รู้ทั้งรู้มหาวิทยาลัยเกือบทั้งหมดจะเกรงใจตระกูลมาเฟียก็ตาม"อ้าว...น้องรีนเอง แล้วนั่นเสื้อช็อปใครว่ะ" คิริวที่เล็งเธอดั่งเป้าหมาย ส่งขนมจีบตั้งแต่สมัยปีหนึ่ง รีบจ้ำอ้าวมาระยะใกล้ ก้มหมายสำรวจป้ายชื่อบุคคลต้องสงสัย"ฝากไปให้เพื่อนด้วย เสียเวลาชะมัด" แต่เธอดันโยนให้อีกฝ่ายรับเสียก่อนทักทาย ชายหนุ่มถือวิสาสะจับเสื้ออ่านชื่อเอา หน้าสวยหงุดหงิดเห็นได้ชัด หมุนตัวเตรียมเดินกลับไปลานเวทีหมับ!!!"รีบกลับไปหาไอเวรเหรอ มานี่สิช่วยดูป้ายหน่อยไหนว่าเก่งออกแบบ" ซายน์ไม่รีรอคว้าข้อมือเล็ก พร้อมดึงเสื้อชอปในมือเพื่อน นัยน์ตาคมกึ่งบังคับสั่งเธอนั่งลงเก้าอี้ตรงกองป้ายมหึมา แล้วนำผ้าบางๆไว้ตกแต่งประดับซุ้ม ปิดชายกระโปรงตัวสั้นร่นขึ้นดูขัดใจ ส่วนเนยถอยหลังเล็กน้อย ส่งสายตาขอความเห็นให้ต้ากับคิริวช่วยชี้แจง ผู้หญิง

![นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)





