เครื่องบินลำใหญ่แตะที่พื้นรันเวย์ของสนามบินชางงีประเทศสิงคโปร์ได้สักพัก
หญิงสาวคนหนึ่งลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สีเหลืองสดออกมาจากสนามบิน
ตากลมโตมองหาป้ายที่บอกทางไปยังสถานีรถไฟฟ้าตามที่อ่านมาจากรีวิวในเพจยอดฮิต เธอลากกระเป๋าไปตามทางเดินอย่างคล่องแคล่ว ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงท่าเรือ Mariner of the sea
เรือขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าทำมนิษารู้สึกตื่นเต้นจนแทบจะทนรอไม่ไหว ขณะกำลังต่อแถวที่จุดเช็กอินเพื่อขึ้นเรือเธอก็มองไปรอบๆ เท่าที่มองด้วยสายตาทริปนี้แทบไม่มีคนไทยเลย หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็ตรงมายังห้องพักที่จองไว้ ซึ่งมีสองเตียงแต่น่าเสียดายที่หญิงสาวต้องนอนตามลำพังเพียงคนเดียว
ห้องที่เธอเลือกเป็นห้องที่มีมองเห็นวิวทะเล ด้านนอกระเบียงมีเตียงสำหรับนอนเล่น เป็นมุมพักผ่อนที่ดูแล้วคงสบายไม่น้อย และถ้าได้นอนอ่านหนังสือเล่มโปรดพร้อมกับมองทะเลไปด้วยคงมีความสุขไม่น้อย
เพราะเดินทางตั้งแต่เช้าเธอเลยยังไม่ได้ทานอะไร หญิงสาวตรงไปยังห้องอาหารบนเรือที่เปิดให้ทานให้ฟรีอยู่หลายห้อง พอทานจนอิ่มก็เดินสำรวจเรือเพื่อย่อยอาหาร
เดินมาถึงโซนสระว่ายน้ำที่อนุญาตให้แต่ผู้ใหญ่เข้ามาใช้บริการเธอก็นั่งลงพักขา บริเวณนี้ค่อนข้างเงียบ มีนักท่องเที่ยวเล่นน้ำอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น
ระหว่างที่กำลังมองอะไรเพลินก็ได้ยินเสียงคนทะเลาะกันเป็นภาษาไทย
“ผมอยากพักผ่อนบ้างนะครับพี่”
“นายจะทิ้งงานมาแบบนี้ไม่ได้นะ”
“ทิ้งงานที่ไหนผมเคลียร์ทุกอย่างหมดแล้วนะครับ”
“มันมีอะไรมากกว่ามาพักผ่อนใช่ไหม บอกฉันมาตรงๆ นะ”
“ไม่มีอะไรทั้งนั้น บอกว่าอยากก็คืออยากพัก ผมทำงานติดๆ กันมากันมาเป็นปีแล้วนะครับ ของพักแค่ไม่กี่วันไม่ได้เหรอครับ”
“ฉันยอมให้นายพักผ่อนก็ได้ แต่ถ้าฉันโทรมานายต้องรับสายทุกครั้ง ถ้าไม่อยากนั้นฉันมาลากนายกลับแน่”
คนที่ดูอายุมากกว่าพูดด้วยสีหน้าและท่าทางจริงจังจนคนนอกอย่างมนิษาที่บังเอิญอยู่ใกล้ที่สุดรู้สึกขนลุกซู่
“ไม่ต้องมาขู่เลย กลับไปได้แล้วเดี๋ยวเรือก็จะออก”
“กลับจากเที่ยวครั้งนี้นายต้องรับไปหาฉันทันทีที่ลงจากเรือเข้าใจไหม”
“รู้แล้วน่า” คนตัวสูงกว่าท่าทางหัวเสียและเดินตรงมายังบริเวณที่เธอนั่งอยู่
เขาล้มตัวลงนอนบนเตียงที่อยู่ถัดไปอีกสองเตียงพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่
“คนอะไร ใจร้ายชะมัด ขอเที่ยวแค่ไม่กี่วันยังมาตาม” เขาบนไปเรื่อย ก่อนจะรู้สึกตัวว่าตอนนี้มีสายตาอีกคู่กำลังมองอยู่
ราฟาเอลหันมามองแล้วเขาก็ตกใจจนทำอะไรแทบไม่ถูก ไม่คิดว่าจะเจอคนที่ตั้งใจมาตามหาตั้งแต่เรือยังไม่ทันออกจากท่า
“ขอโทษครับที่ผมเสียงดังไปหน่อย” เขารีบกล่าวขอโทษ อันที่จริงก็อยากจะชวนเธอคุยนั่นแหละ
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“ผมโมโหไปหน่อยครับ แค่อยากมาเที่ยวแต่เข้าก็ไม่เข้าใจ”
“เจ้านายเหรอคะ” เธอถามกลับเพราะอย่างน้อยเขาก็พูดภาษาเดียวกับตัวเอง
แต่พอหันมามองหน้าเขาให้ชัด ก็ต้องแปลกใจเพราะดูแล้วเขามาเหมือนคนไทยเลยสักนิด ใบหน้าหล่อคม ผิวสีขาวแต่ไม่ถึงกับซีด คิ้วเข้มพาดเฉียง ดวงตาสีนิลดูมีเสน่ห์จนเธอเผลอจ้องอยู่นาน
“ครับ”
พอเธอหันมาสบตาแบบนี้ราฟาเอลก็รู้สึกใจเต้นแรง คืนนั้นเขามองเห็นเธอไกลๆ ก็หลงเสน่ห์เรือนร่างของเธอไปแล้ว แต่พอได้มองใกล้ เขาก็ยิ่งหลงมากขึ้นอีก ผู้หญิงคนนี้ผิวขาวราวกับน้ำนม เรียวปากบางเล็กสีหวาน ใบหน้าเรียวรูปไข่รับกับจมูกโด่งพองาม ดวงตากลมโตขนตาเป็นแพและดูเหมือนว่าวันนี้เธอจะไม่ได้แต่งหน้าเลยสักนิดแต่มันสวยกว่าใครหลายคนที่เขาเคยควงด้วย ผมสีดำยิ่งทำให้ใบหน้าของเธอดูเด่นขึ้นจนสะกดสายตาเขาได้เป็นอย่างดี
“ปกติเข้าใจร้ายแบบนี้ไหมคะ” มนิษาถามด้วยความสงสัยเพราะดูแล้วเขาคนนั้นจะโหดเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
“ไม่เท่าไหร่ครับ แต่ครั้งนี้ผมขอมาลงเรือมันหลายวันก็เลยเป็นอย่างที่เห็น”
“น่าเห็นใจนะคะ เราเป็นลูกน้องบางครั้งก็ต้องตามอารมณ์เจ้านาย”
“คุณก็หนีเจ้านายมาเที่ยวเหรอครับ”
“ฉันยังไม่ทำงานก็เลยยังไม่มีเจ้านายค่ะ แต่กลับไปก็จะเริ่มงานแล้ว”
“เพิ่งเรียนจบเหรอครับ”
“ค่ะ”
“ผมถามได้ไหมว่าคุณเรียนจบอะไรมา”
“การโรงแรมค่ะ” เพราะเห็นว่าอีกคนดูท่าทางเป็นมิตรเธอจึงตอบเขาไปตามความจริง
“มาเที่ยวแบบนี้ก็ถือเป็นการหาประสบการณ์นะครับ งานบริการบนเรือก็ไม่ต่างจากงานโรงแรมเลย”
“ฉันก็คิดแบบนั้นค่ะ เลยตัดสินใจมาเที่ยวครั้งนี้”
“มาคนเดียวเหรอครับ” เขาถามทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเธอมาคนเดียว
“ค่ะ คุณล่ะคะ”
“คนเดียวเหมือนกันครับ ผมขอตัวก่อนนะครับไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อนของคุณ”
“ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”
“เช่นกันครับ แต่ผมยังไม่รู้ชื่อคุณเลย”
“ฉันชื่อมะนาวค่ะ เรียกนาวก็ได้”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณนาว ผมชื่อราฟครับ”
“เช่นกันค่ะคุณราฟ”
ราฟาเอลเดินออกมาจากโซนสระว่ายน้ำก็กลับไปยังห้องของตนเองซึ่งเป็นห้องพักแบบแกรนด์สวีตซึ่งเป็นห้องขนาดใหญ่ที่สุดบนเรือลำนี้
เขามาลงเรือโดยที่ไม่ได้วางแผนมาก่อนแต่ก็โชคดีที่ทางเรือสำรองห้องพักไว้หนึ่งห้องสำหรับแขกวีไอพีหรือคนในครอบครัวซึ่งตอนนี้เขาก็เป็นหนึ่งในนั้น เพราะเรือลำนี้เป็นธุรกิจของบิดาที่ทำร่วมกับเพื่อนซึ่งแต่ก่อนเขาไม่เคยคิดที่จะสนใจทางด้านนี้เลยสักนิด
แต่เมื่อสองคืนก่อนพอได้ยินว่าคนที่ตัวเองสนใจจะมาล่องเรือเขาจึงไม่รอช้าที่จะตามเธอมาด้วยโดยไม่ต้องใช้เวลาคิดมากเลย เพราะนานแล้วที่เขาไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนถึงขั้นอยากทำความรู้จักเหมือนกับเธอมาก่อน
และพอได้อยู่ใกล้ได้พูดคุย ราฟาเอลก็รู้ได้ทันทีว่าเธอคนนี้คือ love at first sight เขาจะใช้เวลาที่อยู่บนเรือทำความรู้จักกับเธอให้มากขึ้น ทั้งสถานที่และบรรยากาศคงจะช่วยให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาวางแผนไว้
แม้ว่าเรือจะกว้างและมีคนลงเรือมามากแค่ไหน แต่เขาไม่หวั่นใจเลยว่าจะหาเธอไม่เจอ เขารู้ว่าเธอพักห้องไหน จากการดูกล้องวงจรปิดที่จุดเช็กอิน
จากนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปเพราะเธอทุกสถานที่และทุกห้องอาหารจะมีการจองล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน เขาจึงรู้ตารางของเธอได้อย่างง่ายดาย
เหตุการณ์เมื่อครู่ที่เขากับเจโรมคุยกันไม่ได้อยู่ในแผนเลยสักนิด เขาไม่คิดว่าจะเจอเธอที่นั่นและทำให้เธอเข้าใจผิดว่าเขากำลังหนีงานมาเที่ยว แต่ราฟาเอลก็ไม่คิดจะแก้ไขความเข้าใจผิด เขาอยากรู้เหมือนกันว่าถ้าเขาไม่ใช่ราฟาเอลผู้ร่ำรวยจะมีผู้หญิงคนไหนสนใจเขาหรือเปล่า
ที่ผ่านมานั้นผู้หญิงส่วนใหญ่จะเข้าหาเขาเพื่อหวังผลประโยชน์กันทั้งนั้น บางคนขอแค่ได้ควงและเป็นข่าว บางคนถึงขั้นอยากมาเป็นนายหญิง แต่ยังไม่มีใครใกล้เคียงกับคำว่านายหญิงเลยสักคน เขารู้ว่าผู้หญิงส่วนใหญ่เข้ามาหาเขาก็เพราะหวังในทรัพย์สมบัติกันทั้งนั้น
ราฟาเอลเป็นคนเจ้าชู้หาตัวจับยาก ควงผู้หญิงแทบไม่ซ้ำหน้า แต่มันก็แค่ความสนุกและความสุขชั่วคราวเท่านั้น ยังไม่เคยมีใครทำให้เขาใจเต้นแรงและอยากเข้าไปทำความรู้จักเท่ากับผู้หญิงที่ชื่อมะนาวมาก่อนเลยในชีวิต
อีกสองชั่วโมงเรือลำนี้ก็จะออกจากฝั่ง เขามีอีกหลายวันที่จะทำความรู้จักกับเธอและก็หวังว่าจะไม่เสียเวลาเปล่า เพราะเท่าที่ได้คุยกันแค่เล็กน้อยเขาก็พอมองออกว่าเธอไม่เหมือนคนอื่นที่เขาเคยเจอมาก่อนเลย
เรือสำราญลำใหญ่ออกจากท่าเรือ Mariner of the sea ในเวลา 17.00 น. คู่ฮันนีมูนเดินจูงมือกันมายังชั้นบนสุดของเรือ สายตามองไปยังผืนแผ่นดินใหญ่ ดึกสูงระฟ้ากำลังเล็กลงทีละนิดตามระยะทางที่เรือเคลื่อนออกจากฝั่ง“พี่ราฟ คิดไหมว่าเราจะได้แต่งงานกัน”“คิดสิครับ แล้วนาวล่ะ”“ไม่เลยค่ะ เพราะตอนนั้นที่อยู่บนเรือครั้งก่อนนาวไม่รู้ว่าคนที่จะแต่งงานด้วยคือพี่”“แล้วถ้าพี่บอกนาวตอนนั้นล่ะครับ มันจะเป็นยังไง”“นางก็คงขอร้องให้พี่เปลี่ยนใจ”“คิดเหรอครับว่าคนอย่างพี่จะยอมเปลี่ยนใจอะไรง่าย ๆ”“นาวไม่รู้หรอกค่ะ ว่าพี่จะเป็นคนแบบไหนรู้แค่ตอนนั้นไม่อยากแต่ง ไม่อยากโดนบังคับ”“แต่ตอนนี้เราก็แต่งแล้วและกำลังอยู่บนเรือลำเดิมที่พวกเราได้คุยกันครั้งแรก”“ขอบคุณนะคะที่พานาวที่นี่อีกครั้ง”“นาวจำได้ไหม วันนั้นตอนที่เรากำลังนั่งดูเด็กเล่นต่อแถวเล่น Sky pad นาวบอกว่าถ้านาวมีลูกนาวจะพาพวกเขามาล่องเรือ”“จำได้ค่ะ วันนั้นมีแต่เด็ก ๆ น่ารักทั้งนั้นเลย”“แล้วนาวไม่อยากมีลูกกับพี่บ้างเหรอครับ” เพราะที่ผ่านมาทั้งสองคนไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้กันมาก่อนเลย ราฟาเอลไม่แน่ใจว่ามนิษาอยากมีลูกกับเขาหรือเปล่า ถ้าเธอไม่อยากมีเขาก็ไม่บังคั
“นาวพี่ขอโทษ” นี่คือประโยคแรกที่ราฟาเอลพูดกับภรรยาหลังจากทั้งสองตื่นนอนในเวลาเที่ยง“ขอโทษเรื่องอะไรคะ”“ก็เรื่องที่พี่กับเพื่อนนาวรวมถึงคุณเดซี่ ช่วยกันเตรียมงานแต่ง”“นาวไม่โกรธพี่หรอกค่ะ นาวรู้ว่าพี่หวังดี” ตอนแรกที่รู้ว่าโดนหลอกมนิษาทั้งโกรธและอาย แต่เอริญาและลดากาญจน์ก็ช่วยพูดจนเธอเข้าใจถึงเหตุผลที่เขาทำไปทั้งหมด“แน่นะครับ”“ค่ะ หรืออยากให้โกรธล่ะคะ”“ไม่ดีกว่า บอกได้ไหมว่าทำไมถึงไม่โกรธ”“นาวจะโกรธลงได้ยังไงในเมื่อพี่ทำทุกอย่างก็เพื่อให้เราได้แต่งงานกันอย่างถูกต้อง นาวดีใจมากกว่าที่คุณตากับคุณยายได้ร่วมแสดงความยินดีกับนาวด้วย”“พี่ดีใจที่นาวเข้าใจ”“อันที่จริงพี่ก็น่าจะบอกนาวสักนิด นาวจะได้เตรียมตัว ดีนะคะที่ไม่ตากแดดจนหน้าดำ”“พี่ถึงให้แอนนิต้าส่งครีมมาให้นาวไงล่ะ”“วางแผนกันเก่งนะคะ”“ก็อยากให้นาวเซอร์ไพรส์ไงครับ ถ้าบอกนาวก่อนว่า จะจัดงานแล้วไปชวนคุณตาคุณยายมาไม่ได้ พี่กลัวนาวจะเสียใจ”“แล้วที่บอกว่างานหนักนั่นจริงไหมคะ”“นั่นเรื่องจริงครับ เพราะหลังจากวันแต่งงานพี่ว่าจะพานาวไปเที่ยวสักเดือน”“ลืมไปหรือเปล่าคะ ว่านาวยังต้องทำงาน”“พี่ลางานให้แล้ว คุณเดซี่อนุญาตแล้วด้วยครับ”“
“วันนี้คุณสวยมากสวยเหมือนเจ้าหญิง” ราฟาเอลเอ่ยชมและมองคนรักด้วยสายตาหวานเชื่อมหลังจากญาติผู้ใหญ่ออกไปจากห้องหอแล้ว“คุณก็หล่อมาก”“ผมสัญญานะครับว่าจะเป็นสามีที่ดีของคุณจะทำให้คุณเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก ผมรักคุณนะครับ”“นาวก็รักคุณค่ะ และก็ขอบคุณที่คุณจัดงานแต่งงานในแบบที่นาวฝันไว้”“ผมดีใจที่นาวชอบนะครับ เราไม่เจอกันนานแค่ไหนแล้ว นาวของผมผอมไปหรือเปล่า”“ไม่หรอกค่ะ นาวก็ตัวเท่าเดิม เวลาที่ไม่เจอกันคุณคิดถึงนาวไหมคะ”“คิดถึงสิครับ คิดถึงมากที่สุด”“คิดถึงนาวหรือคิดถึงอะไรกันแน่คะ”“นาวก็รู้”“ไม่เหนื่อยเหรอคะ เอาไว้วันหลังก็ได้”“ไม่เหนื่อยเลย คืนนี้เป็นคืนเข้าหอ ถ้าเจ้าบ่าวไม่ทำหน้าที่รู้ไปถึงไหนอายถึงนั้น”“แค่ทำตามหน้าที่เหรอคะ”“ทำตามหัวใจต่างหากล่ะ หันหลังมาครับผมจะช่วยถอดชุดให้”“นาวถอดเองได้ค่ะ”“ผมถอดให้นาวแล้วนาวถอดให้ผมนะดีไหม”มนิษาเอื้อมมือมาคลายปมเนกไทออกจากนั้นมือเล็กแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ด ฝ่ามือลูบไล้กล้ามท้องอย่างแผ่วเบา“นาวชอบกล้ามท้องของคุณนะคะ มันเซ็กซี่มาก ต่อไปนี้ห้ามถอดเสื้อให้ใครเห็นอีกเด็ดขาดนอกจากนาวคนเดียว”“ผมไม่มีทางทำแบบนั้น ผมมีนาวคนเดี
มนิษาเดินสำรวจความเรียบร้อยของสถานที่จัดงานอีกครั้ง ตอนนี้รีสอร์ตตกแต่งด้วยดอกไม้นานาชนิดในโทนสีชมพูและสีขาวเหมาะกับบรรยากาศแต่งงานริมทะเลที่เธอเคยใฝ่ฝัน“พี่เดซี่คะ งานแต่งมีวันนี้แน่ใช่ไหมคะทำไมยังไม่มีใครมาเลย”“ใจร้อนจริงนะ เดี๋ยวก็คงมากันแล้วรถของรีสอร์ตไปรับแล้วล่ะ เดี๋ยวก็คงมาถึง”“นาวตื่นเต้นจังเลยค่ะ ไม่รู้ว่าเขาจะชอบไหม”“แล้วนาวชอบไหมล่ะ”“ชอบมากค่ะ ถ้านาวแต่งงานก็อยากได้แบบนี้”“แต่แขกที่มาร่วมงานมีแค่ยี่สิบกว่าคนเอง นาวว่ามันไม่เล็กไปเหรอ”“ไม่หรอกค่ะ งานเล็ก แต่แขกทุกคนเป็นคนในครอบครัวหรือเพื่อนสนิทแค่นี้ก็พอแล้วค่ะ แล้วพี่เดซี่ล่ะคะ”“ของพี่ของแค่มีเจ้าบ่าวมาคนเดียวก็พอค่ะ”“นั่นสิคะ ขอแค่มีเจ้าบ่าวงานแต่งก็สมบูรณ์แล้ว”“มากันแล้ว” เดซี่มองไปยังทางเข้ารีสอร์ตที่รถตู้กำลังขับเข้ามาแขกชุดแรกที่ลงจากรถเป็นแขกทางฝั่งเจ้าบ่าวมีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ มนิษารีบเข้าไปต้อนรับ ก่อนจะพาแขกทั้งหมดไปยังห้องพักที่เตรียมไว้ เพราะอีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาจัดงาน“พักผ่อนตามสบายนะคะ ถ้ามีอะไรจะเรียกใช้พนักงานก็โทรไปตามที่ล็อบบีได้เลยค่ะ ส่วนอาหารกลางวันถ้าไม่สะดวกไปทานที่ห้องอาหารก็สา
มนิษากลับทำงานบนเกาะสมุยได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว ช่วงนี้มีแขกเข้าพักเป็นจำนวนมาก เธอสนุกกับงานทุกวันจนเหนื่อย พอกลับไปที่บ้านพักก็แทบหมดแรงแต่เธอก็ไม่เลยลืมโทรหาคนรัก มนิษากับราฟาเอลคุยกันก่อนนอนทุกคืนมันเป็นเหมือนการเติมพลังให้แก่กันและกัน“ช่วงนี้นาวยุ่งมาก แขกพักเต็มทุกวันเลยค่ะ คุณราฟล่ะคะ”“ผมก็ค่อนข้างยุ่งครับ คงไปหาคุณเร็วๆ นี้ไม่ได้ สัปดาห์หน้าอาจจะยุ่งหน่อย ถ้าวันไหนผมไม่โทรไปนาวอย่างโกรธนะครับ”“ไม่หรอกค่ะนาวเข้าใจดี คุณคงเหนื่อยมาก”“เหนื่อยแค่ไหนได้ยินเสียงคุณเห็นหน้าคุณผมก็หายเหนื่อย คุณดูผอมไปหรือเปล่าครับ” ราฟาเอลมองคนรักผ่านกล้องจากโปรแกรมสนทนาก็ถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง”“นิดหน่อยค่ะ พี่เดซี่รับจัดงานแต่งเป็นครั้งแรก พวกเราเลยวุ่นกันนิดหน่อย อยากให้งานออกมาดีและประทับใจแขก”“ยุ่งแค่ไหนก็ควรหาเวลาดูแลตัวเองนะครับ แอนนิต้าบอกว่าส่งครีมบำรุงกับพวกครีมกันแดดให้คุณแล้ว”“ค่ะส่งมาแล้ว นาวเพิ่งเริ่มใช้ค่ะ”“ครับ ถ้าหมดก็บอกนะครับ ผมจะให้เธอจัดการให้”“ไม่เป็นไรค่ะ นาวเกรงใจเธอ”“จะเกรงใจทำไม เธอเป็นแม่สามีคุณนะ คุณมีอะไรหรืออยากได้อะไรก็บอกเธอได้ เรื่องผู้หญิงผมก็ไม่ค่อยถนัด”“อย่
ประตูห้องสวีทปิดลงราฟาเอลก็กระโจนเข้าหาคนรักราวกับสัตว์ป่า เพียงแค่คิดว่าจะต้องจากกันอีกนานหลายวันเขาก็แทบไม่อยากเสียเวลาเลยแม้แต่วินาทีเดียวปากหยักได้รูปกดจูบลงมาอย่างหนักหน่วง สองแขนช้อนใต้สะโพกคนตัวเล็กก็ยกขาเรียวเกี่ยวสะโพกสอบอย่างรู้งานราฟาเอลอุ้มคนรักเข้ามาในห้องนอนกว้าง ปากยังคงไม่ยอมผละออกจากความหวาน ที่ผสมกลิ่นแอลกอฮอล์ในโพรงปากนุ่ม สองลิ้นตวัดหยอกล้อพันเกี่ยวกันอย่างเร่าร้อนเดรสสีสวยถูกกระชากออกโยนไปตกทุ่มห้องจากนั้นชั้นในราคาแพงก็ถูกโยนตามลงมาราฟาเอลไล้มือไปตามร่างกายเปลือยเปล่าอย่างหลงใหลฝ่ามือร้อนกอบกุมทรวงอกอวบ คลึงเคล้นหนักเบา ปลายนิ้วหยอกเย้าบนปลายถันสีสวยร่างกายของมนิษาเริ่มบิดเร่าไปมา ความเสียวซ่านลุกลามไปทั่ว ทุกจุดที่ฝ่ามือร้อนเลื่อนผ่านจมูกโด่งสูดดมความหอมไปตามพวงแก้มและซอกคอขาว ปากร้อนขบเม้มติ่งหูแผ่วเบา แล้วเรื่อยมาจนถึงลำคอระหง ก่อนจะถอยเลื่อนตัวต่ำลงไปถึงเนินอก สูดดมความหอมจากเนินอกคู่อวบจน เรียวปากร้อนกลืนกินปลายถันเข้าโพรงปากอย่างเมามัน ปลายลิ้นดุนดันเร่งเร้าหญิงสาวดิ้นพล่าน เสียวไปทั่วบริเวณท้องน้อย ร่างกายเบียดเข้าหาคนรักอย่างเชื้อเชิญเสียงหวานคราง