“ถ้าคุณให้โอกาสผม รับรองเลยว่าเวลาที่เหลือคุณจะมีความสุขที่สุด” “ตกลงค่ะ 27 วันที่เหลือฉันยกให้คุณ” ********** “ก็คุณมันน่ารังเกียจ” “ผมคุยกับคุณดี ๆ แล้วนะ” “จะดีกว่านี้ถ้าคุณปล่อยให้ฉันกลับไปบ้านพัก” “ถ้าปล่อยคุณก็หนีผมไปอีก อย่าลืมสิตอนนี้ผมเป็นเจ้านายคุณนะ คุณต้องทำหน้าที่ของคุณสิ” “หน้าที่ของฉันคือบัตเลอร์” “ก็ใช่ไง บัตเลอร์บนเตียงคืองานของคุณ”
View Moreเสียงเพลงดังกระหึ่มในผับหรูกลางกรุงทำให้คนที่มาเที่ยวครึกครื้นและสนุกสนานกันอย่างสุดเหวี่ยง รวมไปถึงสามสาวที่กำลังแดนซ์กระจายอยู่กลางฟลอร์
ผ่านมาครึ่งชั่วโมงแล้วที่พวกเธอวาดลวดลายกันอย่างไม่มีใครยอมใครเพราะคืนนี้เธอทั้งสามคนมาฉลองให้กับการจบการศึกษา แม้ผลสอบจะยังไม่ออกแต่ก็มั่นใจว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี
ทั้งท่วงท่าและเสื้อผ้าที่สวมใส่ดึงดูดสายตาผู้ชายเจ้าชู้ได้เป็นอย่างมาก แต่พวกเธอก็ไม่สนใจเลยสักนิด
แต่มีสายตาอยู่หนึ่งคู่ที่มองลงมาจากชั้นสอง มองตั้งแต่พวกเธอเข้ามาเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน
“สนใจคนไหนวะ” เมธัสถามชายอีกคนที่เอาแต่จ้องอยู่อย่างไม่วางตา
“มึงลองทายดูสิ” คนตอบยิ้มเจ้าเล่ห์
“กูว่าคนเสื้อดำชัวร์ งั้นกูจองเสื้อขาวนะส่วนพี่เจฟเอาเสื้อสีครีมไป” เมธัสจับคู่ให้ทุกคนอย่างเสร็จสรรพ
“พวกคุณจะจองคนไหนก็เรื่องของพวกคุณเลยครับ อย่าดึงผมไปเกี่ยวด้วย ผมก็แค่อยากมาฟังเพลง มาดื่ม ไม่ได้มาหาหญิง” คนถูกพาดพิงพูดจบก็ยกแก้วในมือกระดกพรวดเดียวจนหมด
“พี่เจฟ ผมพาพี่มาผ่อนคลายนะครับ พี่ถือศีลหรือไง” ราฟาเอลถามคนที่เป็นทั้งพี่ ทั้งเพื่อนและยังเป็นเลขาของตนเอง
“ผมก็ผ่อนคลายอยู่นี่ไงครับ”
“แต่มันไม่สนุกนะพี่” อีกคนท้วง เขารู้จักกับเจฟหรือโรมมาตั้งแต่ตนเองอายุได้ห้าขวบจนตอนนี้ผ่านมายี่สิบห้าปีแล้ว เขาไม่เคยเห็นอีกคนใช้ชีวิตอย่าสนุกสนานเลยสักครั้ง
“ผมไม่ได้อยากสนุกนี่ครับ คุณราฟกับคุณเมธสนใจคนไหนก็เลือกเลยไม่ต้องเลือกเผื่อผม” เขารินเหล้าลงแก้วตัวเองโดยไม่สนใจตามที่บอก ไม่ใช่เพราะถือศีลอย่างที่ราฟาเอลว่าแต่เพราะเขาไม่อยากปวดหัวมากกว่า ซึ่งต่างจากคนที่เป็นเจ้านายเพราะข้างกายนั้นมีผู้หญิงมากเสียจนเลขาอย่างเขาสับรางให้แทบไม่ทัน
เมื่ออีกคนไม่สนใจราฟาเอลกับเมธัสก็เลยนั่งมองกันต่อ ตอนนี้สามสาวเมื่อครู่กลับไปนั่งที่โต๊ะของตัวเองแล้วโดยมีหนุ่มตามไปนั่งด้วยอีกสามคนครบคู่พอดี
“ช้าไปแล้วเรา” เมธัสพึมพำ
ราฟาเอลมองอย่างไม่ค่อยพอใจ เพราะเขาเล็งหญิงสาวคนหนึ่งในกลุ่มนั้นไว้แล้ว แต่ยังมีคนที่ไวกว่าเขา แล้วชายหนุ่มยิ้มเมื่อเห็นว่าเวลาผ่านไปไม่ถึงห้านาทีหนุ่มทั้งสามคนก็ถูกไล่กลับไปที่โต๊ะของตนเอง
“กูว่าคนเสื้อขาวหุ่นดีมากเลยนะมึง” เมธัสผู้หญิงที่สวมเสื้อสีขาวผมซอยสั้นระต้นคออย่างพอใจ
“อือ แต่กูชอบคนชุดดำว่ะ หุ่นแม่งน่าเอาฉิบหาย” ตาคมมองผู้หญิงตัวเล็กแต่สัดส่วนอย่างอื่นไม่ได้เล็กตามเลยสักนิด หุ่นแบบนี้ถูกใจเขามากที่สุด ตัวเล็ก เอวคอดหน้าอกอวบอิ่มกับสะโพกกลมกลึงนั้นสะกดสายตาจนเขามากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“เอาไหมล่ะ เดี๋ยวกูติดต่อให้” เมธัสรีบเสนอเพราะนานๆ ทีราฟาเอลจะสนใจสาวๆ เนื่องจากปกติมีแต่สาวๆ ที่วิ่งเข้าหา
“ดูไปก่อน ไม่อยากให้ไก่ตื่นว่ะ”
ราฟาเอลไม่รีบร้อนเพราะยังเหลือเวลาอีกนานกว่าผับจะปิด
เสียงเพลงที่ค่อนข้างดังทำให้เอริญาเดินขึ้นมาคุยที่หน้าห้องน้ำชั้นสองเพราะสายเรียกเข้าจากมารดาในเวลาดึกเช่นนี้คงเป็นเรื่องสำคัญ
“อะไรนะคะ ทำไม่เร็วจังคะแม่” เมื่อได้ยินว่ามารดาให้บินกลับญี่ปุ่นหญิงสาวก็ตะโกนถามอย่างไม่แน่ใจ
“หนูนัดกับมะนาวไว้แล้วนะคะ ว่าจะไปล่องเรือด้วยกันตั๋วก็จองแล้วนะคะ วันมะรืนนี้หนูต้องไปขึ้นเรือที่สิงคโปร์นะคะ ถ้าหนูไม่ไปมะนาวต้องไปคนเดียว หนูเป็นห่วงเพื่อน”
“ได้ค่ะ ก็คงต้องเป็นอย่างนั้น ไฟล์ทเที่ยงคืนใช่ไหมคะ” พอได้ยินว่าที่ต้องบินกลับไปก่อนกำหนดเพราะคุณย่าไม่สบายเอริญาก็เลยต้องยอมทำตามนั้น
พอกดวางสายแล้วก็หันหลังกลับ แต่ไม่ทันระวังก็เลยชนเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งอย่างจัง
“อุ๊ย ขอโทษค่ะ”
เอริญาเงยหน้าขึ้นมองก็ต้องตะลึงกับใบหน้าของผู้ชายตัวสูง เขาหล่อและแต่งตัวดูดีจนเธอเผลอจ้องอย่างเสียมารยาท
“ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่คุณขึ้นมาบนนี้ทำไมครับ มาหาใครหรือเปล่า” เพราะบริเวณชั้นสองเป็นโซนของแขกวีไอพีแล้วเขาก็เห็นว่าโต๊ะของเธออยู่ทางด้านล่าง
“ฉันไม่ได้ตั้งใจขึ้นมารบกวนนะคะ ฉันจะคุยโทรศัพท์แต่ข้างล่างเสียงมันดังมาก จะไม่เป็นไรใช่ไหมคะ เดี๋ยวฉันก็กลับลงไปแล้ว” เอริญารีบบอกอย่างรวดเร็วเพราะกลัวว่าคนอื่นจะเห็นว่าตนเองแอบขึ้นมาบนชั้นสอง
“ถ้าการ์ดรู้คงไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะครับ เพราะข้างบนมีแค่สมาชิกเท่านั้นที่จะขึ้นมาได้”
“คุณก็อย่าบอกสิคะ”
“ไม่บอกก็ได้ครับ แต่คุณต้องบอกผมมาก่อนว่าคุณชื่ออะไร และผู้หญิงเสื้อดำที่มากับคุณชื่ออะไร”
“ถ้าฉันไม่บอกล่ะคะ”
“ไม่บอกก็มาเป็นไรครับ เพราะคนที่เดือดร้อนไม่ใช่ผมนี่ครับ” เขาทำทีว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่า
“บอกแค่ชื่อใช่ไหมคะ” เพราะกลัวว่าเรื่องจะไม่จบแค่นี้เธอจึงถามกลับ
“แค่ชื่อก็พอครับ”
“ฉันชื่อเอริ ผู้หญิงเสื้อดำที่คุณถามถึงชื่อมะนาว” เอริญาคิดว่าบอกแค่ชื่อก็คงไม่เป็นอะไรเพราะคนเราชื่อซ้ำกันก็มีอยู่มาก แล้วพวกเธอก็คงไม่มาที่นี่กันอีกแล้ว
“ขอบคุณครับคุณเอริ”
“ฉันไปได้แล้วใช่ไหมคะ”
“ครับ”
ชายหนุ่มเดินไปเข้าห้องน้ำก่อนจะกลับไปยังที่นั่งของตนเองอีกครั้ง
“หายไปนานนึกว่าหนีกลับไปแล้ว”
“กูจะกลับได้ไงมึงดูพี่กูสิ คอพับไปอย่างนั้นขืนทิ้งไวตื่นมาได้โวยวายแน่”
“พี่เจฟแม่งชอบดื่มแต่ก็คออ่อนฉิบเลย”
“อือ เขาเรียกพวกไม่เจียมไง เมาทีไรเดือดร้อนกูทุกที”
ราฟาเอลบ่นอย่างไม่จริงจัง เขานั้นทั้งรักและเคารพเจโรมยิ่งกว่าใครทั้งหมด บางทีอาจจะรักมากกว่าบิดาของตนเองด้วยซ้ำเพราะคนที่อยู่กับเขาทุกช่วงเวลาก็มีแต่เจโรมมาตลอด
“แต่มึงก็พาเขามาตลอด”
“ก็เพราะกูรู้ไงว่าเมาแล้วแม่งเป็นอย่างนี้ ขืนไม่ชวนมาแล้วพี่มันเปรี้ยวปากออกไปดื่มคนเดียว คงได้ถูกหิ้วไปลอกคราบทิ้งไว้ที่ไหนแน่ๆ”
“เอ่อ ว่ะน่าคิด ว่าแต่ทำไมไปนานนักวะ”
“กูเจอสาวของมึงไง”
“เสื้อขาวเหรอ”
“เออ”
“แล้วไงได้เบอร์มาให้กูไหม” เมธัสถามอย่างมีความหวังเพราะเธอคนนั้นถูกใจเขามาก
“โทษทีว่ะ กูลืม แต่รู้ชื่อแล้ว คงหาไม่อยากหรอก”
“มึงจะบ้าเหรอไอ้ราฟ รู้แค่ชื่อแล้วแม่งคนซื้อซ้ำกันมีตั้งเท่าไหร่ กลับไปถามชื่อมาให้กูเลยนะ”
“อย่าเพิ่งโวยวายสิ พรุ่งนี้มึงก็เจอเขาเองแหละ”
“พรุ่งนี้กูไปญี่ปุ่นนะ จะเจอเขาได้ยังไง”
“มึงบินไฟล์ทไหนล่ะ” ราฟาเอลถาม
“ไฟล์ทเที่ยงคืน มีอะไรหรือเปล่า”
“เขาก็จะไปญี่ปุ่นบินไฟล์ทเย็นเหมือนกัน”
“สุดยอด ราฟมึงมันแน่ว่ะ กูขอคาราวะเลย” เมธัสก้มตัวโค้งคำนับเก้าสิบองศาให้เพื่อน
“อย่าเวอร์ให้มาก มาช่วยกูแบกพี่เจฟไปที่รถเลย”
“อ้าว จะรีบกลับทำไม”
“พรุ่งนี้จะรีบเคลียร์งาน”
“ขยันแปลกๆ พรุ่งนี้วันอาทิตย์นะ”
“วันจันทร์กูมีธุระ จะรีบเคลียร์ทุกอย่างให้เสร็จ อยากหาเวลาพักบ้าง”
“หูกูฝาดไหม คนอย่างมึงเนี่ยนะจะพัก”
“อือ กูก็เหนื่อยเป็นนะมึง”
“กูรู้ว่าเหนื่อยเป็นแต่กูไม่เคยเห็นมึงพักเลยขนาดควบสาวทั้งคืนพอเช้าแม่งไปทำงานเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น”
“ก็แข็งแรงไง”
“เออ กูไม่เถียงมึงหรอก”
ทั้งสองคนพาเจโรมมายังรถของราฟาเอลที่จอดอยู่ด้านหลังร้านอย่างทุลักทุเล
“พี่เจฟแม่งตัวหนักฉิบ ถึงคอนโดใครจะช่วยมึงเอาลงจากรถวะ”
“เดี๋ยวอีกชั่วโมงก็ตื่นเองแหละ” เพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่เจโรมเมาจนคอพับแบบนี้ และเขาก็เป็นคนพาชายหนุ่มกลับคอนโดทุกครั้ง
เรือสำราญลำใหญ่ออกจากท่าเรือ Mariner of the sea ในเวลา 17.00 น. คู่ฮันนีมูนเดินจูงมือกันมายังชั้นบนสุดของเรือ สายตามองไปยังผืนแผ่นดินใหญ่ ดึกสูงระฟ้ากำลังเล็กลงทีละนิดตามระยะทางที่เรือเคลื่อนออกจากฝั่ง“พี่ราฟ คิดไหมว่าเราจะได้แต่งงานกัน”“คิดสิครับ แล้วนาวล่ะ”“ไม่เลยค่ะ เพราะตอนนั้นที่อยู่บนเรือครั้งก่อนนาวไม่รู้ว่าคนที่จะแต่งงานด้วยคือพี่”“แล้วถ้าพี่บอกนาวตอนนั้นล่ะครับ มันจะเป็นยังไง”“นางก็คงขอร้องให้พี่เปลี่ยนใจ”“คิดเหรอครับว่าคนอย่างพี่จะยอมเปลี่ยนใจอะไรง่าย ๆ”“นาวไม่รู้หรอกค่ะ ว่าพี่จะเป็นคนแบบไหนรู้แค่ตอนนั้นไม่อยากแต่ง ไม่อยากโดนบังคับ”“แต่ตอนนี้เราก็แต่งแล้วและกำลังอยู่บนเรือลำเดิมที่พวกเราได้คุยกันครั้งแรก”“ขอบคุณนะคะที่พานาวที่นี่อีกครั้ง”“นาวจำได้ไหม วันนั้นตอนที่เรากำลังนั่งดูเด็กเล่นต่อแถวเล่น Sky pad นาวบอกว่าถ้านาวมีลูกนาวจะพาพวกเขามาล่องเรือ”“จำได้ค่ะ วันนั้นมีแต่เด็ก ๆ น่ารักทั้งนั้นเลย”“แล้วนาวไม่อยากมีลูกกับพี่บ้างเหรอครับ” เพราะที่ผ่านมาทั้งสองคนไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้กันมาก่อนเลย ราฟาเอลไม่แน่ใจว่ามนิษาอยากมีลูกกับเขาหรือเปล่า ถ้าเธอไม่อยากมีเขาก็ไม่บังคั
“นาวพี่ขอโทษ” นี่คือประโยคแรกที่ราฟาเอลพูดกับภรรยาหลังจากทั้งสองตื่นนอนในเวลาเที่ยง“ขอโทษเรื่องอะไรคะ”“ก็เรื่องที่พี่กับเพื่อนนาวรวมถึงคุณเดซี่ ช่วยกันเตรียมงานแต่ง”“นาวไม่โกรธพี่หรอกค่ะ นาวรู้ว่าพี่หวังดี” ตอนแรกที่รู้ว่าโดนหลอกมนิษาทั้งโกรธและอาย แต่เอริญาและลดากาญจน์ก็ช่วยพูดจนเธอเข้าใจถึงเหตุผลที่เขาทำไปทั้งหมด“แน่นะครับ”“ค่ะ หรืออยากให้โกรธล่ะคะ”“ไม่ดีกว่า บอกได้ไหมว่าทำไมถึงไม่โกรธ”“นาวจะโกรธลงได้ยังไงในเมื่อพี่ทำทุกอย่างก็เพื่อให้เราได้แต่งงานกันอย่างถูกต้อง นาวดีใจมากกว่าที่คุณตากับคุณยายได้ร่วมแสดงความยินดีกับนาวด้วย”“พี่ดีใจที่นาวเข้าใจ”“อันที่จริงพี่ก็น่าจะบอกนาวสักนิด นาวจะได้เตรียมตัว ดีนะคะที่ไม่ตากแดดจนหน้าดำ”“พี่ถึงให้แอนนิต้าส่งครีมมาให้นาวไงล่ะ”“วางแผนกันเก่งนะคะ”“ก็อยากให้นาวเซอร์ไพรส์ไงครับ ถ้าบอกนาวก่อนว่า จะจัดงานแล้วไปชวนคุณตาคุณยายมาไม่ได้ พี่กลัวนาวจะเสียใจ”“แล้วที่บอกว่างานหนักนั่นจริงไหมคะ”“นั่นเรื่องจริงครับ เพราะหลังจากวันแต่งงานพี่ว่าจะพานาวไปเที่ยวสักเดือน”“ลืมไปหรือเปล่าคะ ว่านาวยังต้องทำงาน”“พี่ลางานให้แล้ว คุณเดซี่อนุญาตแล้วด้วยครับ”“
“วันนี้คุณสวยมากสวยเหมือนเจ้าหญิง” ราฟาเอลเอ่ยชมและมองคนรักด้วยสายตาหวานเชื่อมหลังจากญาติผู้ใหญ่ออกไปจากห้องหอแล้ว“คุณก็หล่อมาก”“ผมสัญญานะครับว่าจะเป็นสามีที่ดีของคุณจะทำให้คุณเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก ผมรักคุณนะครับ”“นาวก็รักคุณค่ะ และก็ขอบคุณที่คุณจัดงานแต่งงานในแบบที่นาวฝันไว้”“ผมดีใจที่นาวชอบนะครับ เราไม่เจอกันนานแค่ไหนแล้ว นาวของผมผอมไปหรือเปล่า”“ไม่หรอกค่ะ นาวก็ตัวเท่าเดิม เวลาที่ไม่เจอกันคุณคิดถึงนาวไหมคะ”“คิดถึงสิครับ คิดถึงมากที่สุด”“คิดถึงนาวหรือคิดถึงอะไรกันแน่คะ”“นาวก็รู้”“ไม่เหนื่อยเหรอคะ เอาไว้วันหลังก็ได้”“ไม่เหนื่อยเลย คืนนี้เป็นคืนเข้าหอ ถ้าเจ้าบ่าวไม่ทำหน้าที่รู้ไปถึงไหนอายถึงนั้น”“แค่ทำตามหน้าที่เหรอคะ”“ทำตามหัวใจต่างหากล่ะ หันหลังมาครับผมจะช่วยถอดชุดให้”“นาวถอดเองได้ค่ะ”“ผมถอดให้นาวแล้วนาวถอดให้ผมนะดีไหม”มนิษาเอื้อมมือมาคลายปมเนกไทออกจากนั้นมือเล็กแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ด ฝ่ามือลูบไล้กล้ามท้องอย่างแผ่วเบา“นาวชอบกล้ามท้องของคุณนะคะ มันเซ็กซี่มาก ต่อไปนี้ห้ามถอดเสื้อให้ใครเห็นอีกเด็ดขาดนอกจากนาวคนเดียว”“ผมไม่มีทางทำแบบนั้น ผมมีนาวคนเดี
มนิษาเดินสำรวจความเรียบร้อยของสถานที่จัดงานอีกครั้ง ตอนนี้รีสอร์ตตกแต่งด้วยดอกไม้นานาชนิดในโทนสีชมพูและสีขาวเหมาะกับบรรยากาศแต่งงานริมทะเลที่เธอเคยใฝ่ฝัน“พี่เดซี่คะ งานแต่งมีวันนี้แน่ใช่ไหมคะทำไมยังไม่มีใครมาเลย”“ใจร้อนจริงนะ เดี๋ยวก็คงมากันแล้วรถของรีสอร์ตไปรับแล้วล่ะ เดี๋ยวก็คงมาถึง”“นาวตื่นเต้นจังเลยค่ะ ไม่รู้ว่าเขาจะชอบไหม”“แล้วนาวชอบไหมล่ะ”“ชอบมากค่ะ ถ้านาวแต่งงานก็อยากได้แบบนี้”“แต่แขกที่มาร่วมงานมีแค่ยี่สิบกว่าคนเอง นาวว่ามันไม่เล็กไปเหรอ”“ไม่หรอกค่ะ งานเล็ก แต่แขกทุกคนเป็นคนในครอบครัวหรือเพื่อนสนิทแค่นี้ก็พอแล้วค่ะ แล้วพี่เดซี่ล่ะคะ”“ของพี่ของแค่มีเจ้าบ่าวมาคนเดียวก็พอค่ะ”“นั่นสิคะ ขอแค่มีเจ้าบ่าวงานแต่งก็สมบูรณ์แล้ว”“มากันแล้ว” เดซี่มองไปยังทางเข้ารีสอร์ตที่รถตู้กำลังขับเข้ามาแขกชุดแรกที่ลงจากรถเป็นแขกทางฝั่งเจ้าบ่าวมีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ มนิษารีบเข้าไปต้อนรับ ก่อนจะพาแขกทั้งหมดไปยังห้องพักที่เตรียมไว้ เพราะอีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาจัดงาน“พักผ่อนตามสบายนะคะ ถ้ามีอะไรจะเรียกใช้พนักงานก็โทรไปตามที่ล็อบบีได้เลยค่ะ ส่วนอาหารกลางวันถ้าไม่สะดวกไปทานที่ห้องอาหารก็สา
มนิษากลับทำงานบนเกาะสมุยได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว ช่วงนี้มีแขกเข้าพักเป็นจำนวนมาก เธอสนุกกับงานทุกวันจนเหนื่อย พอกลับไปที่บ้านพักก็แทบหมดแรงแต่เธอก็ไม่เลยลืมโทรหาคนรัก มนิษากับราฟาเอลคุยกันก่อนนอนทุกคืนมันเป็นเหมือนการเติมพลังให้แก่กันและกัน“ช่วงนี้นาวยุ่งมาก แขกพักเต็มทุกวันเลยค่ะ คุณราฟล่ะคะ”“ผมก็ค่อนข้างยุ่งครับ คงไปหาคุณเร็วๆ นี้ไม่ได้ สัปดาห์หน้าอาจจะยุ่งหน่อย ถ้าวันไหนผมไม่โทรไปนาวอย่างโกรธนะครับ”“ไม่หรอกค่ะนาวเข้าใจดี คุณคงเหนื่อยมาก”“เหนื่อยแค่ไหนได้ยินเสียงคุณเห็นหน้าคุณผมก็หายเหนื่อย คุณดูผอมไปหรือเปล่าครับ” ราฟาเอลมองคนรักผ่านกล้องจากโปรแกรมสนทนาก็ถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง”“นิดหน่อยค่ะ พี่เดซี่รับจัดงานแต่งเป็นครั้งแรก พวกเราเลยวุ่นกันนิดหน่อย อยากให้งานออกมาดีและประทับใจแขก”“ยุ่งแค่ไหนก็ควรหาเวลาดูแลตัวเองนะครับ แอนนิต้าบอกว่าส่งครีมบำรุงกับพวกครีมกันแดดให้คุณแล้ว”“ค่ะส่งมาแล้ว นาวเพิ่งเริ่มใช้ค่ะ”“ครับ ถ้าหมดก็บอกนะครับ ผมจะให้เธอจัดการให้”“ไม่เป็นไรค่ะ นาวเกรงใจเธอ”“จะเกรงใจทำไม เธอเป็นแม่สามีคุณนะ คุณมีอะไรหรืออยากได้อะไรก็บอกเธอได้ เรื่องผู้หญิงผมก็ไม่ค่อยถนัด”“อย่
ประตูห้องสวีทปิดลงราฟาเอลก็กระโจนเข้าหาคนรักราวกับสัตว์ป่า เพียงแค่คิดว่าจะต้องจากกันอีกนานหลายวันเขาก็แทบไม่อยากเสียเวลาเลยแม้แต่วินาทีเดียวปากหยักได้รูปกดจูบลงมาอย่างหนักหน่วง สองแขนช้อนใต้สะโพกคนตัวเล็กก็ยกขาเรียวเกี่ยวสะโพกสอบอย่างรู้งานราฟาเอลอุ้มคนรักเข้ามาในห้องนอนกว้าง ปากยังคงไม่ยอมผละออกจากความหวาน ที่ผสมกลิ่นแอลกอฮอล์ในโพรงปากนุ่ม สองลิ้นตวัดหยอกล้อพันเกี่ยวกันอย่างเร่าร้อนเดรสสีสวยถูกกระชากออกโยนไปตกทุ่มห้องจากนั้นชั้นในราคาแพงก็ถูกโยนตามลงมาราฟาเอลไล้มือไปตามร่างกายเปลือยเปล่าอย่างหลงใหลฝ่ามือร้อนกอบกุมทรวงอกอวบ คลึงเคล้นหนักเบา ปลายนิ้วหยอกเย้าบนปลายถันสีสวยร่างกายของมนิษาเริ่มบิดเร่าไปมา ความเสียวซ่านลุกลามไปทั่ว ทุกจุดที่ฝ่ามือร้อนเลื่อนผ่านจมูกโด่งสูดดมความหอมไปตามพวงแก้มและซอกคอขาว ปากร้อนขบเม้มติ่งหูแผ่วเบา แล้วเรื่อยมาจนถึงลำคอระหง ก่อนจะถอยเลื่อนตัวต่ำลงไปถึงเนินอก สูดดมความหอมจากเนินอกคู่อวบจน เรียวปากร้อนกลืนกินปลายถันเข้าโพรงปากอย่างเมามัน ปลายลิ้นดุนดันเร่งเร้าหญิงสาวดิ้นพล่าน เสียวไปทั่วบริเวณท้องน้อย ร่างกายเบียดเข้าหาคนรักอย่างเชื้อเชิญเสียงหวานคราง
มนิษาและราฟานัดเจอกับเพื่อนที่ผับเดิม ที่ราฟาเอลเจอกับมนิษาครั้งแรกพอบอกข่าวดีแล้วต่างก็พากันนั่งดื่มและพูดคุยกันอย่างสนุกสนานและเป็นกันเองสาว ๆ แยกมานั่งมุมหนึ่ง ส่วนหนุ่มหล่อทั้งสามก็นั่งดื่มไปด้วยคุยไปด้วยอย่างเพลิดเพลิน“นาว เราดีใจด้วยนะ งานแต่งวันไหนอย่าลืมบอกเรากับดาจะไปบินไปร่วมงาน”“แน่นอนยังไงเราก็ต้องบอกเอริกับดาอยู่แล้ว ว่าแต่เอริล่ะ เมื่อไหร่จะมีข่าวดี”“เรายังไม่อยากแต่งงาน อยากเที่ยวด้วยกันก่อน”“ถ้าเอริแต่งไปอีกคนเราคงเหงาแย่เลย”“ก็รีบหาสิจ้ะดา”“พูดอย่างกับมันหากันง่าย ๆ แล้วถึงดาจะหาได้ใครจะผ่านด่านม๊ากับป๊าได้ล่ะ”“นางงว่าแค่ม๊ากับป๊าคงไม่เท่าไหร่ ที่หนักสุดคงจะเป็นพี่ชายมากกว่า”“ใช่เอริเห็นด้วย ถ้าดาจะหาแฟนก็ต้องหาคนที่พี่ดิษเกรงใจ”“เราไม่เห็นพี่ดิษจะเกรงใจใครเลย แล้วลองคิดดูนะพี่ดิษอายุ 28 คนที่พี่ดิษเกรงใจนี้คงจะอายุสามสิบกว่านู่น เราไม่ชอบคนแก่”“ดา ไม่ลองจะรู้เหรอบางทีคนแก่ก็มีอะไรเด็ด ๆ ซ่อนอยู่นะ”“ใครจะเด็ดเท่าคุณเมธัสของเอริล่ะ ดูสิขนาดเรามานั่งคุยกันสามคนเขายังมองเอริไม่กะพริบเลย ถามจริงนะ ไม่อึดอัดเหรอ”“ไม่นะ เราชอบแบนี้ ชอบคนที่แสดงออกอย่างชัดเจน เ
ออกจากบ้านของคุณโชติราฟาเอลก็ตรงยังสำนักงานเขตทันที เพราะเอกสารทุกอย่างเขาเตรียมไว้หมดแล้ว“นาวไม่คิดว่าคุณจะเตรียมพร้อมขนาดนี้”“ผมเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว ถ้าคุณโชติยอมให้เราแต่งงานและจัดงานที่นี่ก็คงจดทะเบียนในวันแต่งงาน แต่ในเมื่อจะไม่มีการจัดงานที่ในเมืองไทยผมก็ต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมายครับ”“นาวนึกว่าคุณจะลำบากใจที่ต้องมาจดทะเบียน”“ไม่มีอะไรจะต้องลำบากใจเลยนี่ครับ เราจะได้เป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว”“คุณตื่นเต้นกว่านาวอีกนะคะ”“พูดผิดแล้วครับ สองคนนั้นต่างหากที่ตื่นเต้นกว่าเรา”พอมนิษาหันไปตามทางที่ราฟาเอลชี้เธอก็แทบกลั้นขำไม่ไหว เพราะตอนนี้คุณอีริคและแอนนิต้านั่งอยู่หน้านายทะเบียนอย่างกับกับว่าทั้งสองเป็นคนมาจดทะเบียนเอง“พ่อครับ ผมว่าที่นั่งตรงนั้นน่าจะเป็นของผมนะครับ”“ชักช้ายืดยาดไม่ทันใจเลย ลูกชายใครเนี่ย”“ใครจะไวเหมือนพ่อละครับ” ราฟาเอลหัวเราะแล้วนั่งลงแทนที่บิดา โดยมีมนิษานั่งลงที่เก้าอี้อีกตัวซึ่งอยู่ติดกันออกจากสำนักงานเขตทั้งสี่คนก็พากันมาฉลองที่โรงแรมก่อนจะแยกย้ายกันไปพักที่ห้องของตัวเองพรุ่งนี้เช้าอีริคกับแอนนิต้าจะพากันไปเที่ยวเชียงใหม่ ส่วนม
มนิษาขอลางานจากพี่เดซี่โดยบอกแค่ว่ามีปัญหาทางบ้านนิดหน่อย เดซี่เห็นว่าตั้งแต่หญิงสาวมาทำงานที่รีสอร์ตก็ยังไม่เคยได้ลาพัก อีกอย่างวันหยุดที่ผ่านมามนิษาก็ถูกโทรตามให้มาทำงานกับราฟาเอลเธอออกเดินทางจากสมุยด้วยเที่ยวบินบ่าย ส่วนราฟาเอลนั้นเดินมาตั้งแต่สองวันก่อนแล้ว และตอนนี้เขาก็มารับเธอที่สนามบิน“ผมลุ้นมากเลยกลัวคุณจะเปลี่ยนใจ” เขาทักทายคนรักพร้อมเข้าไปกอดโดยไม่สนใจสายตาของคนอื่นในสนามบินเลยแม้แต่น้อย“นาวบอกว่าจะมาก็ต้องมาสิคะ คุณว่างเหรอถึงมารับนาวได้”“ไม่ว่างก็ต้องมารับเองครับ คิดถึงมากอยากเจอ”“นาวก็คิดถึงคุณค่ะ แต่ถ้าคราวหน้าถ้ามีงานก็ไม่ต้องมารับนะคะ นาวกลับเองได้”“ก็ผมเป็นห่วงนี่ครับ คิดถึงคุณด้วย แล้วเดินทางเหนื่อยไหม”“ไม่เลยค่ะ บินแค่นี้สบายมาก ว่าแต่เราจะไปไหนกันค่ะ ที่คอนโดคุณใช่ไหม”“ผมว่าเราพักที่โรงแรมดีกว่าครับสะดวกดี”“โรงแรมของคุณน่ะเหรอคะ ฉันจะไม่รบกวนใช่ไหม”“ไม่หรอกครับ ปกติผมก็พักที่โรงแรม นาน ๆ ถึงจะไปค้างที่คอนโด”“ค่ะ” มนิษาเดินตามเขาไปยังรถที่จอดอยู่ไม่ไกล เธอเห็นด้วยกับราฟาเอลเพราะการพักที่โรงแรมจะประหยัดเวลาเดินทางมาทำงานได้ราฟาเอลส่งเธอที่ห้องพักจากนั้นก
Comments