ชายหญิงทั้งสองคนต่างก็นั่งเงียบไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา เอวาพยายามที่จะไม่ช้อนดวงตาขึ้นไปสบตากับชายหนุ่มเพราะราฟาเอลช่างเป็นคนที่มีเสน่ห์มากยิ่งนัก แล้วเธอก็กลัวว่าตัวเองจะตกหลุมพรางสายตาที่มีเสน่ห์คู่นั้น
เอวาทำแผลให้ชายหนุ่มจนกระทั่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว มือบางเก็บอุปกรณ์ทำแผลเข้าไว้ในถุงเหมือนเดิม ก่อนที่หญิงสาวจะเก็บของทุกอย่างที่ซื้อมาและลุกขึ้นเดินไปในห้องครัว
หลังจากที่เอวาหายเข้าไปในห้องครัวอยู่สักพักหนึ่ง หญิงสาวก็เดินออกมาด้วยใบหน้าที่นิ่งเรียบ จากนั้นเธอก้าวเดินต่อไปและตั้งท่าจะเดินออกไปจากบ้าน
“เธอจะไปไหน” เสียงทุ้มทรงพลังเอ่ยถามหญิงสาวขึ้นมาด้วยความอยากรู้
“ไม่ต้องตาม ฉันจะไปนั่งเงียบๆ คนเดียว” เอวาหันกลับมาตอบกลับชายหนุ่ม ก่อนที่เธอจะเดินออกไปจากบ้านอย่างช้าๆ
ราฟาเอลไม่อยากตามติดหญิงสาวจนเธอรำคาญเขามากเกินไป เขาควรจะปล่อยให้เธอได้มีเวลาคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ บ้าง ดวงตาคมกริบมองตามแผ่นหลังแบบบางจนกระทั่งหญิงสาวเดินออกจากประตูบ้านไป ชายหนุ่มเคลื่อนมือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงและหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูของตัวเองขึ้นมากดโทรออกหาลูกาทันที
“ลูกา มึงหาพ่อครัวไทยเก่งๆ มาที่นี่ให้กูหน่อย เดี๋ยวนี้เลย” ชายหนุ่มยกโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูเอาไว้พลางบอกกล่าวกับปลายสาย ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ราฟาเอลต้องขอความช่วยเหลือคนสนิทเหมือนเช่นเคย
เวลาผ่านพ้นไปเกือบหนึ่งชั่วโมง เอวานั่งครุ่นคิดและรับลมจากธรรมชาติอยู่ตรงศาลาริมแม่น้ำคนเดียว ดวงตากลมโตมองสายน้ำที่เคลื่อนไหวเป็นคลื่นด้วยความคิดที่ยุ่งเหยิงไปหมด จนกระทั่งหญิงสาวเริ่มรู้สึกหิวขึ้นมา เธอจึงลุกขึ้นและเดินตรงกลับมายังตัวบ้านอย่างช้าๆ
“หิวไหม”
เสียงทุ้มทรงพลังเอ่ยถามหญิงสาวขึ้นมาทันที เมื่อเอวาเดินก้าวผ่านพ้นประตูมา ชายหนุ่มกำลังจัดโต๊ะอาหารให้หญิงสาวอยู่ตรงโต๊ะทานอาหารสำหรับสองที่นั่งภายในห้องโถงของบ้าน
เอวามองชายหนุ่มด้วยสายตาที่นิ่งเรียบ กลิ่นอาหารตลบอบอวลไปทั้งบ้านยิ่งเพิ่มความอยากอาหารให้หญิงสาวรู้สึกหิวมากยิ่งขึ้น
“มากินข้าวกัน” ชายหนุ่มบอกกล่าวเธออีกครึ่งหนึ่ง
อดีตสปายสาวค่อยๆ เดินไปที่โต๊ะอาหารอย่างเชื่องช้า ก่อนที่เธอจะมาหยุดอยู่ตรงโต๊ะกินข้าวขนาดเล็กที่มีอาหารวางไทยวางอยู่บนโต๊ะประมาณสี่อย่าง มีทั้งต้มยำกุ้ง แกงมัสมั่นไก่ ผัดผักใส่กุ้งและแกงเขียวหวาน อีกทั้งยังมีข้าวสวยอีกสองจานที่วางอยู่ด้วย
“ฉันซ่อมประตูให้แล้วนะ” ราฟาเอลเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงร่าเริง
เอวาปรายตามองชายหนุ่มเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะเดินไปตรงเก้าอี้และเตรียมตัวจะนั่งลงไป ทว่าจู่ๆ ราฟาเอลก็เดินไปใกล้หญิงสาวเพื่อที่จะเลื่อนเก้าอี้ออกมาให้เธอ
“อย่ามาเข้าใกล้ฉันมาก” แต่เสียงหวานเอ่ยห้ามเอาไว้ก่อน
“ทำไม” ชายหนุ่มชะงักพร้อมกับเอ่ยถามหญิงสาว
“ฉันเหม็นน้ำหอม” เอวาตอบกลับพร้อมกับเลื่อนเก้าอี้ออกมาจากโต๊ะและนั่งลงอย่างช้าๆ
ราฟาเอลก้มลงมามองเสื้อเชิ้ตของตัวเองเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะก้มลงมาดมกลิ่นเสื้อของตัวเอง ชายหนุ่มได้กลิ่นหอมของน้ำหอมราคาแพงของตัวเองที่เขาใช้อยู่เป็นประจำ แต่ทว่าหญิงสาวกลับบอกว่ามันเหม็น
ชายหนุ่มไม่รอช้า เมื่อหญิงสาวบอกว่าเหม็น เขาจึงเลื่อนมือมาปลดกระดุมเสื้อของตัวเองและถอดมันออกจากไหล่แกร่งอย่างรวดเร็ว
“จะถอดทำไม” เอวามองชายหนุ่มที่ท่อนบนเปลือยเปล่าอวดรอยสักรูปงูใหญ่ตรงอกเรียบร้อยแล้ว
“ก็เธอเหม็นน้ำหอม” ชายหนุ่มตอบกลับอย่างตรงไปตรงมา ก่อนที่เขาจะทิ้งเสื้อตัวนั้นลงไปในถังขยะที่อยู่ใกล้ๆ เขาทันที
“แก้ปัญหาได้ตรงจุดมากๆ” เอวากระแทกเสียงประชดประชันใส่ชายหนุ่ม แต่ทว่าราฟาเอลก็ไม่ได้สนใจในสิ่งที่เธอพูดเลยสักนิด ชายหนุ่มยังคงทำตัวหน้ามึนเดินอวดหุ่นกำยำขาวเนียนไปนั่งลงตรงข้ามกับหญิงสาวช้าๆ
“ให้ใครมาทำอาหารให้” เอวาเอ่ยถามขึ้นมา
“ฉันทำเอง” ชายหนุ่มตอบกลับ
“นี่คุณ..คุณคิดว่าฉันจะเชื่อหรือไง คุณไม่เคยทำอาหาร” หญิงสาวพูดอย่างรู้ทันชายหนุ่ม และนั้นก็ทำให้เขาถึงกลับไปไม่เป็นเลย
“แล้วประตูที่ซ่อมแล้วนั่นอีก คุณไปเดินตามฉันเหมือนโรคจิตแบบนั้นแล้วคุณจะเอาเวลาไหนมาซ่อม” เอวาเอ่ยต่อ เธอรู้ทันเขาทุกอย่างนั่นแหละ เพราะเธอเคยรู้จักเขาและอยู่กับเขามาก่อน ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าราฟาเอลทำอะไรได้หรือไม่ได้บ้าง
“ช่างมันเถอะเรื่องพวกนั้น..กินข้าวกันเถอะนะ เจ้าตัวเล็กหิวแล้ว” ชายหนุ่มเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องเพราะเขาไม่รู้จะตอบกลับเธออย่างไร ถึงแม้ว่าที่เธอพูดมามันจะถูกทั้งหมดก็เถอะ
“คุณรู้ได้ไงว่าฉันท้อง” หญิงสาวเอ่ยถามต่อ ทำให้ราฟาเอลชะงักไปเล็กน้อย
“ให้คนสืบเรื่องของฉันใช่ไหม”
“ใช่ ฉันตามหาเธอแทบพลิกแผ่นดินเลยนะอันนา” ชายหนุ่มตอบกลับพลางจ้องมองเข้าไปในดวงตากลมโตเพื่อยืนยันสิ่งที่เขาพูดทางสายตาอีกด้วย และแน่นอนว่าคำตอบกับสายตาของชายหนุ่มก็ทำให้เธอนิ่งเงียบไปเช่นกัน
“อันนา..ฉันขอโทษนะที่เคยทำตัวไม่ดีใส่เธอ พอฉันไม่มีเธออยู่ด้วยแล้ว ชีวิตฉันมันก็เหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง” เสียงทุ้มทรงพลังนุ่มลึกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เอวาลอบกลืนน้ำลายเล็กน้อยกับท่าทีของชายหนุ่มในตอนนี้ ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อเม้มเข้าหากันแน่น เธอไม่อยากจะยอมรับเลยแต่ทว่าในสีหน้าของราฟาเอลในตอนนี้มันช่างมีอิทธิพลกับใจของเธอมากเหลือเกิน
ราฟาเอลลุกขึ้นจากเก้าอี้โดยที่นัยน์ตาสีฟ้าครามยังคงสบตากับดวงตากลมโตอย่างลึกซึ้งอยู่ ชายหนุ่มเดินไปหาหญิงสาวพร้อมกับเอื้อมมือไปเลื่อนเก้าอี้ของเธอให้หันหน้ามาหาเธอ เสียงลากเก้าอี้ไม้ดังลั่นบ้านเนื่องจากพื้นบ้านเองก็เป็นพื้นไม้เช่นกัน
ราฟาเอลใช้สองมือจับเก้าอี้ของหญิงสาวเอาไว้พลางคุกเข่านั่งลงกับพื้นบ้าน สายตาทั้งสองคู่จับจ้องกันอย่างลึกซึ้ง ชายหนุ่มพยายามที่จะให้หญิงสาวเห็นถึงความตั้งใจของเขาในดวงตาคมกริบ
“ฉันขอโอกาสให้ฉันได้ทำเพื่อเธอกับลูกอีกครั้งได้ไหม..ฉันสัญญาว่าครั้งนี้ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้เธอเชื่อมั่นในตัวของฉัน” ราฟาเอลเอื้อมมือมาลูบต้นขาคนตัวเล็กอย่างแผ่วเบา แต่หญิงสาวก็ไม่ได้ตอบกลับอะไรออกมา
“ขอร้องนะอันนา” ชายหนุ่มจึงเว้าวอนอดีตสปายสาวต่อ
เอวาครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่ง เธอรับรู้ได้ถึงความตั้งใจของชายหนุ่มจากแววตาของเขา แต่จะให้เธอให้อภัยเขาง่ายๆ โดยที่เธอไม่ทำอะไรเลยก็คงจะไม่ได้ ราฟาเอลเป็นคนที่อยากได้อะไรก็ต้องได้ จนชายหนุ่มได้อะไรมาง่ายๆ เสมอมา ครั้งนี้เธอต้องทำให้เธอรับรู้ว่ามันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
“ทำให้ฉันเห็นให้ได้ก่อนสิ” หญิงสาวบอกกล่าวกับชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ได้! ฉันทำได้แน่นอน” เมื่อได้ยินดังนั้น ราฟาเอลก็ยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีอกดีใจ แค่หญิงสาวอภัยและยอมเปิดโอกาสให้เขาแค่นั้นก็พอแล้ว เขาเชื่อว่าตัวเองสามารถทำให้หญิงสาวเชื่อมั่นได้อย่างแน่นอน
ราฟาเอลตั้งท่าจะลุกขึ้นมากอดหญิงสาว ทว่ามือเล็กก็ยกขึ้นมาดันอกแกร่งเอาไว้เพื่อไม่ให้ชายหนุ่มกอดเธอได้
“อย่าเข้ามาใกล้” เสียงหวานเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับจมูกเล็กที่ย่นขึ้น ชายหนุ่มจึงรับรู้ได้ทันทีว่าหญิงสาวเหม็นกลิ่นน้ำหอมจากตัวของเขา
“แต่ฉันถอดเสื้อออกไปแล้วนะ”
“น้ำหอมมันติดตัวคุณอยู่”
“งั้นเดี๋ยวกินข้าวเสร็จ ฉันไปอาบน้ำนะ” ราฟาเอลบอกกล่าวหญิงสาว
“จะทำอะไรก็ทำ” มือบางดันชายหนุ่มออกไปให้ไกลเธอมากกว่าเดิม เพราะถ้าเขามาใกล้เธออีกนิดเธอคงจะไม่ได้กินข้าวและอ้วกแตกอย่างแน่นอน
“กินข้าวกันเถอะ” มาเฟียหนุ่มดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันตาเห็น เขาเดินกลับไปทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ของตัวเองตรงข้ามกับหญิงสาว ก่อนที่ชายหนุ่มจะส่งยิ้มมาให้เธอแล้วเริ่มลงมือตักอาหารใส่จานข้าวสวยของเอวาทันที
หญิงสาวไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก เธอนั่งก้มหน้าก้มตากินข้าวไปอย่างช้าๆ โดยมีราฟาเอลคอยตักอาหารใส่จานให้เธออยู่ตลอด จนกระทั่งพวกเขาทั้งสองคนกินอิ่มเรียบร้อยแล้ว เอวาก็เก็บกวาดบนโต๊ะและเอาจานชามไปล้างในห้องครัวทันที
ราฟาเอลไม่ค่อยได้กินอาหารไทยสักเท่าไหร่ นานๆ ทีเขาถึงจะได้มาประเทศไทย แต่ส่วนมากเขาก็จะกินอาหารง่ายๆ เพราะเขารู้สึกว่าอาหารเป็นอาหารที่ใช้เวลาทำนานมากกว่าอาหารที่ประเทศของเขา
“ฉันจะไปนอน ถ้าคุณเบื่อก็กลับไปได้แล้ว” เอวาเดินออกมาจากห้องครัว หลังจากที่เธอล้างจานเสร็จเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวบอกกล่าวกับชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
“ไม่เบื่อ ไม่กลับ” ชายหนุ่มตอบกลับอย่างหนักแน่น
“ก็แล้วแต่คุณ” พูดจบ เอวาก้าวเดินตรงไปยังห้องนอนของตัวเองทันที หญิงสาวปรายตามองประตูที่ถูกซ่อมแซมเรียบร้อยแล้วแต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ก่อนที่ร่างอรชรจะหายเข้าไปในห้องนอนในเวลาต่อมา
หนึ่งปีผ่านไปร่างอรชรของอดีตสปายสาวสวมชุดเดรสสั้นสีครีมสายเดี่ยวกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องโถงใหญ่ ในช่วงเวลาบ่ายกว่าเป็นเวลาที่ลูกชายของเขา โรลองด์ เด็กชายวัยหกเดือนกว่ากำลังหลับใหลอยู่ จึงทำให้ภายในคฤหาสน์ของราฟาเอลเงียบสงัดในช่วงเวลานี้ ในขณะที่เอวากำลังอ่านหนังสืออยู่ พี่เลี้ยงของลูกชายเธอก็ค่อยๆ เดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่อย่างช้าๆ เอวาจึงผละสายตาออกจากหนังสือและช้อนดวงตากลมโตขึ้นไปมองหน้าพี่เลี้ยงอย่างช้าๆ“มาดามค่ะ คุณชายตื่นแล้วค่ะ” พี่เลี้ยงที่ดูอายุประมาณสามสิบนิดๆ เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงนอบน้อม“ฝากไปอุ้มเขามาให้หน่อยได้ไหมคะ” เอวาตอบกลับไปอย่างสุภาพ ต่อให้เธอจะเข้ามาเป็นมาดามในคฤหาสน์หลังนี้ได้เป็นปีแล้ว แต่เธอก็ไม่เคยปฏิบัติกับสาวใช้หรือบอดี้การ์ดไม่ดีเลยสักคน เพราะเธอไม่เคยลืมว่าตัวเองเป็นใครมาก่อน“ค่ะมาดาม” พี่เลี้ยงตอบกลับพลางก้มศีรษะให้มาดามหนึ่งครั้ง ก่อนที่เธอจะหันหลังเดินออกไปจากห้องโถงทันทีหลังจากที่พี่เลี้ยงเดินออกไปจากห้องแล้ว ชายหนุ่มร่างกำยำสง่างามหรือก็คือราฟาเอลนั่นเอง มาเฟียหนุ่มเดินเข้ามาในห้องโถงทันที“กลับมาไวจัง” เอวาเอ่ยถามชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
หลังจากพิธีวิวาห์ของมาเฟียหนุ่มกับอดีตสปายสาวจบลง พวกเขาก็เปลี่ยนชุดและตรงมายังเรือสำราญเพื่อพาหญิงสาวมาฮันนีมูนต่อทันที ราฟาเอลโอบไหล่บางของภรรยาป้ายแดงที่สวมชุดเดรสสั้นสีขาวดูเรียบหรู เขาพาเอวาเดินขึ้นไปยังเรือสำราญส่วนตัวของตัวเองอย่างช้าๆ จนกระทั่งคู่สามีขึ้นมาบนเรือสำราญเรียบร้อยแล้ว เรือสำราญค่อยแล่นออกจากท่าเรือขนาดใหญ่ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ราฟาเอลต้องการความเป็นส่วนตัว ชายหนุ่มจึงให้เหล่าบรรดาบอดี้การ์ดของเขานั่งเรือสำราญอีกลำหนึ่งตามเขามา เพื่อดูแลความปลอดภัยให้เขากับภรรยา“ชอบไหม” ชายหนุ่มพาเอวาเดินมาตรงหัวเรือพลางเอ่ยถามหญิงสาวที่เขากำลังโอบไหล่บางของเธออยู่ “ฉันชอบ” เจ้าสาวป้ายแดงตอบพร้อมกับพยักหน้าให้ชายหนุ่มเบาๆ ลมทะเลพัดผ่านร่างกายพวกเขาไป ยิ่งทำให้คู่บ่าวสาวรู้สึกสดชื่นมากยิ่งขึ้น“ไม่ต้องห่วงเรื่องน้องสาวของเธอนะ ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่เลย” ราฟาเอลหันมาจับไหล่หญิงสาวเอาไว้ทั้งสองข้างและจ้องมองเข้าไปในดวงตากลมโตเพื่อแสดงออกทางสายตาให้เธอได้รับรู้ “ขอบคุณมากๆ เลย ฉันไม่รู้จะขอบคุณยังไงเลย” เอวาส่งยิ้มให้สามี “เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นได้ไหม” ราฟาเอลตอบกลับด้
หนึ่งเดือนต่อมา เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนกระทั่งมาถึงวันที่ราฟาเอลกับเอวาต้องเข้าพิธีวิวาห์ด้วยกัน ทุกอย่างถูกจัดขึ้นมาอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น งานแต่งงานสุดแสนใหญ่โตหรูหราถูกจัดขึ้นภายในสวนของคฤหาสน์ของราฟาเอล ทุกอย่างถูกจัดเตรียมเอาไว้อย่างเรียบร้อย ดอกกุหลาบสีขาวกับสีชมพูประดับไปทุกพื้นที่ของงานในวันนี้ แขกเหรื่อและนักธุรกิจในวงการสีเทาต่างพากันมาแสดงความยินดีกับมาเฟียหนุ่มผู้ยิ่งใหญ่ หญิงสาวภายในงานสวมชุดราตรียาวสีชมพูอ่อนๆ กับผู้ชายที่สวมชุดทักซิโด้หรือชุดสูทสีดำ ราฟาเอลสวมชุดทักซิโด้ดูหล่อเหลาที่สุดในงานวันนี้ เขาทั้งดูสง่างาม สุขุมและน่าหลงใหล ชายหนุ่มยืนอยู่หน้าแท่นพิธีกับบาทหลวงเพื่อรอว่าที่เจ้าสาวของเขา ดวงตาคมกริบดุดันมองไปรอบๆ งานแต่งของตัวเอง เหล่าบรรดากลุ่มเพื่อนกับพ่อแม่ของเขานั่งอยู่แถวหน้าสุดกำลังจ้องมองมาที่ราฟาเอลอยู่มาเฟียหนุ่มยืนรอว่าที่เจ้าสาวของเขาอยู่สักพักหนึ่ง แต่เขากลับรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเหลือเกิน เขาอยากจะเห็นเจ้าสาวแสนสวยของเขาเต็มที่แล้วไม่นานสักเท่าไหร่ ร่างอรชรของอดีตสปายสาวที่สวมชุดสีขาวสะอาดตา ท่อนบนชุดเจ้าสาวเป็นเกาะอกและถูกปร
หลังจากที่ชายหญิงคุยกับเข้าใจเรียบร้อยแล้ว ราฟาเอลพาหญิงสาวกลับขึ้นมายังชั้นแรกของตัวอาคาร และทันทีที่ประตูของลิฟต์เปิดออกมา พวกเขาก็เดินออกมาจากลิฟต์กันอย่างช้าๆ “นายท่านคะ!” ร่างของหญิงสาวชุดดำรัดรูปปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหันพร้อมกับเดินปรี่เข้ามาหาราฟาเอลอย่างรวดเร็ว ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนรู้กันเป็นอย่างดีว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ราฟาเอลมองชาร์ลอตต์สลับกับหันมามองว่าที่เจ้าสาวของเขาที่กำลังมองชาร์ลอตต์ด้วยสายตานิ่งเรียบ แต่ทว่ามันกลัวดูน่ากลัวสำหรับเขายิ่งนัก “ชาร์ลอตต์คิดถึงจังเลยค่ะ นายท่านหายไปตั้งนาน” ไม่พูดเปล่า ชาร์ลอตต์พยายามที่จะเข้ามาคล้องแขนชายหนุ่มเอาไว้ ราฟาเอลจึงถอยหลังหลบเธอไปหนึ่งก้าว “อย่ามาโดนตัวฉัน” เสียงทุ้มของราฟาเอลบอกกล่าวชาร์ลอตต์ด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียมจนสาวชุดดำสัมผัสได้“ทะ..ทำไมล่ะคะ” ยังไม่ทันที่ราฟาเอลจะได้ตอบกลับอะไรออกไป เอวาก็ก้าวเดินออกไปจากตรงนั้นทันที เธอไม่จำเป็นต้องมาทนฟังสองคนนั้นคุยกัน ภาพความทรงจำเก่าๆ ที่ราฟาเอลเคยกอดรัดนัวเนียกับผู้หญิงคนนั้นต่อหน้าของเธอฉายขึ้นมาในสมองของเอวาอีกครั้ง“อันนา! อันนา!” เสียงทุ้มตะโกนเรียกหญิงสาวเอาไว้ แต่อดีตสปา
ผู้ใหญ่ทั้งสามคนนิ่งเงียบและหันมองหน้ากันอยู่สักพักหนึ่ง จนเอวาเริ่มรู้สึกไม่ดีขึ้นมาเรื่อยๆ ใบหน้าสวยคมและมือเล็กของหญิงสาวเริ่มมีเหงื่อผุดขึ้นมาอย่างไม่สามารถห้ามได้ราฟาเอลเหลือบตามามองหญิงสาวข้างกาย เมื่อเห็นว่าใบหน้าหวานเริ่มซีดเผือด มือแกร่งจึงเลื่อนลงไปกอบกุมมือเล็กเอาไว้แน่น เอวาจึงหันมาสบตากับชายหนุ่มทันที นัยน์ตาคมเข้มดุดันจ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมโตเพื่อเป็นการบอกหญิงสาวเป็นนัยว่าเขาอยู่ข้างๆ เธอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะไม่ยอมปล่อยมือเธอเด็ดขาด“ผมไม่ได้มาขออนุญาตหรืออะไรทั้งนั้น ผมแค่พาว่าที่เจ้าสาวของผมมาแนะนำตัวให้ครอบครัวได้รู้จัก” ราฟาเอลหันกลับมามองหน้าพ่อแม่พลางเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงมั่นคงและเด็ดเดี่ยวโรดอลฟ์ผู้อาวุโสที่สุดของบ้านเดินมาหาราฟาเอลกับเอวา ชายแก่หยุดอยู่ตรงหน้าชายหญิงทั้งสองคน ก่อนที่เขาจะมองหน้าราฟาเอลกับเอวาสลับกัน ชายแก่ถอนหายใจออกมาเบาๆ“ไปคุยกันต่อที่ห้องอาหาร” โรดอลฟ์เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบสิ้นเสียงโรดอลฟ์ ชายแก่ก็ปลีกตัวเดินไปยังห้องอาหารก่อนคนอื่นอย่างช้าๆ พ่อกับแม่ของราฟาเอลมองหน้ากันเล็กน้อย ซึ่งชายหนุ่มกับหญิงสาวเองก็เช่นกันราฟาเอลรู้จ
หลังจากที่ราฟาเอลกับเพื่อนๆ ประชุมกันจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว มาเฟียหนุ่มก็รีบกลับมายังคฤหาสน์ของตัวเองทันที ร่างกำยำสมบูรณ์แบบลงมาจากรถยนต์คันหรู และตามมาด้วยลูกาที่ลงจากรถฝั่งคนขับตามราฟาเอลมา ชายหนุ่มกลับมาถึงบ้านในช่วงสี่ทุ่มของวัน“กลับมาแล้วเหรอครับนายท่าน” อองโซที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูทักทายเจ้านายเหมือนดั่งเช่นทุกครั้ง“อันนาล่ะ” ราฟาเอลเอ่ยถามถึงว่าที่เจ้าสาวของเขาทันที “หลับแล้วค่ะท่าน ดิฉันทำอาหารให้ทานเรียบร้อย แล้วมาดามก็ขึ้นไปนอนค่ะ แต่ดูเหมือนอาหารจะไม่ค่อยถูกปากมาดามสักเท่าไหร่นะคะ” เสียงของสาวใช้ที่ยืนอยู่ตรงด้านหลังของอองโซก้าวขามาข้างหน้าพลางตอบกลับเจ้านาย“พรุ่งนี้ให้เชฟไทยที่ฝีมือดีที่สุดมาทำอาหารไทยให้เธอ อันนาชอบทานอาหารไทย” ราฟาเอลบอกกล่าวกับสาวใช้“ได้ค่ะ” สาวใช้ชุดดำก้มศีรษะให้เจ้านายอย่างนอบน้อม ราฟาเอลไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาต่อ เมื่อเขาสั่งสาวใช้เรียบร้อยแล้ว มาเฟียหนุ่มก็ก้าวเดินไปยังในคฤหาสน์และตรงไปยังชั้นสองทันที ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าห้องนอนของตัวเองออกมาอย่างเบามือที่สุดเพราะกลัวว่าหญิงสาวจะหลับอยู่ แล้วเขาจะรบกวนการนอนของเธอ ดวงตาคมกริบมองไปยังบนเตียงใหญ่ เ