เช้าวันนั้น เสี่ยวเหอดูแลป้อนอาหารให้ชิงถิง เช็ดตัว คอยดูให้เขาดื่มยา แต่ไม่ยอมพูดคุยกับเขา รองแม่ทัพก็ทำหน้าบึ้งตึงโกรธนางเช่นกัน แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังยอมกินยา ปล่อยให้นางดูแลเพราะเป็นห่วงนางเช่นกัน
ตกบ่ายเสี่ยวเหอง่วงนอนมาก แต่ยังคงพยายามไม่นอน จึงไปอาบน้ำล้างตัวใหม่อีกครั้ง เมื่อเสี่ยวเหอกลับเข้ามาในห้อง เขานั่งอยู่บนเตียง มองภรรยาเดินเข้ามาใกล้ เขาได้กลิ่นหอมจากนาง กลิ่นที่คุ้นเคย กลิ่นที่เขาชอบ ทำให้ชิงถิงใจอ่อน ยอมพูดคุยกับนางก่อน
“ข้าขอโทษ ข้าผิดเองที่ไม่ฟังเจ้า เราคุยกันดีๆ ได้หรือไม่” เขาพูดเสียงอ่อน
เสี่ยวเหอได้ยินก็ร้องไห้ วิ่งเข้าไปกอดเขา
“ข้ากลัวมากเพียงใด เจ้ารู้บ้างหรือไม่ ภาพที่เจ้า..ถูกแทง..และข้าต้องทนเห็น..ร่างของเจ้าลอยตามน้ำไป ข้าหวาดกลัวมาก..ข้า.. ไม่อาจทำใจได้อีกครั้ง..ข้าเสียเจ้าไปไม่ได้ เจ้าเข้าใจหรือไม่ ฮือ ๆ ๆ ๆ
ชิงชิง ในเวลานั้น ข้ารู้สึกว่าบางสิ่งในอกถูกแทงไปพร้อมกับเจ้า ราวหัวใจของข้าเป็นของเจ้าไปพร้อมกัน เหมือนข้าได้ตายไปพร้อมกับเจ้า ฮือ ๆ ๆ ข้าเสียเจ้าไปอีกครั้งไม่ได้”
ชิงถิงใช้มือข้างที่ไม่เจ็บจับและอุ้มตัวภรรยาให้มานั่งบนตักของเขา หันหน้าเข้าหากัน เขาค่อยๆ ก้มหน้าเอาจมูกไปชนกับจมูกของเสี่ยวเหอ ก่อนจะจับมือนางเอามาวางตรงแผล
เสี่ยวเหอกลัวว่าจะทำเขาเจ็บ รีบชักมือกลับ แต่เขาก็จับมือของนางไว้แน่น
“ข้าให้สัญญาว่าแผลแค่นี้จะไม่ทำให้ข้าตาย ไม่ว่าเจ้าจะเดินทางข้ามเวลาไปที่ใด ตัวข้าจะไปอยู่ที่นั่นรอเจ้า หากเจ้าไม่มา ข้าจะเป็นคนไปตามหาเจ้าเอง เช่นนี้ดีหรือไม่”
เสี่ยวเหอน้ำตาไหลริน นางรู้สึกซาบซึ้งอบอุ่นใจมาก ยกสองแขนกอดคอเขาไว้ สะอื้นไห้ราวเด็กสาวไร้เดียงสา นางรู้ว่าเขาจะรักษาสัญญา นางดีใจที่เขาไม่ปล่อยให้นางกระโดดข้ามเวลาไปมาอย่างเดียวดาย
เสี่ยวเหอกอดชิงถิงในร่างสามีไปสักพักก็เริ่มเอานิ้วจิ้มไปตามกระดูกไหปลาร้าของเขาเล่น เขาก็ปล่อยให้นางเล่นไป อยู่เช่นนี้เดี๋ยวนางก็คงหลับ ถึงทุกที่ที่มือของนางแตะจะทำให้ช่วงล่างของชิงถิงแตกตื่น แต่เขาก็ทนไว้
เสี่ยวเหอไล้มือไปตามเส้นเลือดตรงแขนของเขาอย่างหลงใหล ก่อนจะไล่ไปที่คอ เห็นเขากลืนน้ำลายก็รู้สึกว่าตัวเองคอแห้งเช่นกัน อยากจูบเขาก็ไม่กล้าลงมือ เพราะท่าทางที่นั่งคร่อมอยู่บนตักของเขาเช่นนี้ หากแค่ขยับเข้าไปอีกนิด ริมฝีปากของนางก็จะแตะโดนตรงคอของเขาแล้ว
หญิงสาวนึกถึงวันเข้าหอที่เขาพรมจูบไปทั่วลำคอของตัวเอง ในใจสั่นรัว ตัดสินใจแสร้งทำเป็นซบลงตรงไหล่ของเขาเสียเลย นางรู้สึกว่าไม่ได้รับความยุติธรรมที่เขาทำได้ แต่ตัวเองทำไม่ได้
'ชิงชิงของข้าไหล่กว้างขึ้นมาก' นางแอบคิด เพราะรู้สึกว่าชิงถิงแม้อายุมากขึ้นก็ยังคงดูดี
เพียงคิดริมฝีปากที่แตะผิวของเขาอยู่ก็รู้สึกร้อนผ่าว เสี่ยวเหอจึงลองขยับปากบางเบา
จู่ๆ นางก็รู้สึกราวกับเป็นชายแก่ที่พยายามแอบกินเต้าหู้สาวน้อย จึงเงยหน้าขึ้นเพราะรู้สึกผิด แต่กลับเห็นสายตาที่แทบเผาไหม้ของชิงถิงมองตรงมา ร้อนแรงดังเช่นปกติที่เขาเป็น
“เด็กเลว” เขาตำหนิ แต่สายตากลับรอคอย
‘สามีภรรยากัน แค่นี้ไม่เรียกกินเต้าหู้หรอกกระมัง’ เสี่ยวเหอนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ทั้งสองคนแต่งงานกันแล้วนางจึงคิดเข้าข้างตัวเองเพื่อจะได้ทำเรื่องน่าอายได้อย่างสบายใจ
นางจึงใจกล้าเข้าไปจูบปากเขาเสียเลย ชิงถิงคล้ายรออยู่แล้ว เขาตอบรับจูบเด็กน้อยอย่างหิวกระหาย จูบไปจูบมาเสี่ยวเหอก็รู้สึกคล้ายจะขยับไม่ทันเขา จึงใช้สองมือคล้องคอเขาเอาไว้เสียเลย ถึงแม้ส่วนใหญ่จะเป็นเขาที่ดูดกลืนลิ้นของนางก็ตาม
จุมพิตเล่นลิ้นไปสักพัก เสี่ยวเหอก็รู้สึกถึงมือของเขาที่เลื้อยไปมาตามแผ่นหลังของนาง ฝ่ามือร้อนนั้นทำให้นางตัวสั่นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง สุดท้ายก็จูบสู้เขาไม่ได้และรู้สึกเริ่มจะหมดลม
เสี่ยวเหอแอบพักด้วยการซุกหน้าตรงคอของเขา แต่ก็รู้สึกเสียศักดิ์ศรี ที่สู้เขาไม่ได้ เพราะสามีของนางคล้ายรู้ว่านางจุมพิตไม่ไหว ทั้งยังลูบหลังราวกับกำลังปลอบประโลมเด็กน้อย
‘อะไรกันตัวเองแอบกินเต้าหู้เขาชัดๆ ยังจะต้องให้เขาปลอบ ใช้ไม่ได้’
นางจึงเริ่มจูบไปตามคอของเขาเพื่อศักดิ์ศรีของคนที่แอบกินเต้าหู้ผู้อื่น นางอยากทำให้เขารู้ว่าไม่จำเป็นต้องปลอบ นางสามารถทำให้เขาหายใจจนแทบหมดแรงได้ เหมือนที่เขาทำกับนางยามเข้าหอกันครั้งแรก
“อือ..” เสียงครางสั่นๆ ของเขา ช่างไพเราะยิ่ง
กลิ่นหอมเฉพาะตัวของชิงถิง เส้นเลือดที่แสนจะเย้ายวนตรงคอของเขา ลูกกระเดือกที่ขึ้นลงเพราะจูบของนาง ล้วนทำให้เสี่ยวเหอรู้สึกว่าแค่เพียงจูบไม่เพียงพอ
นางอยากจะดูดกินเพิ่มอีก จึงเริ่มใช้ลิ้นสำรวจชิมรสชาติ ราวกับจะหาว่าตรงที่ใดบนร่างกายของเขาจะเป็นส่วนที่หวานที่สุด หญิงสาวเลียไปเรื่อยๆ วนไปมา พบส่วนที่หวานถูกใจ เสี่ยวเหอตัดสินใจดูดแรงๆ ก่อนจะขบกัดเผื่อจะมีน้ำหวานออกมา
“อื้ออ..” เขาครางเสียงแหบพร่าออกมาเพราะไม่ทันตั้งตัว
เด็กสาวตกใจนึกว่าทำให้เขาเจ็บ เสี่ยวเหอหยุด และรีบเงยหน้าขึ้น เห็นชิงถิงหน้าแดงก่ำสายตาพร่ามัวราวกับกำลังเมาสุรา เขาหลับตาและพยายามดันนางมาจูบที่คอของเขาอีกครั้ง
“เจ้าหยุดทำไมกัน” เสียงแหบพร่าเย้ายวนถาม
“ข้ากลัวว่าจะทำให้ชิงชิงเจ็บ” เสียงของเสี่ยวเหอก็แหบพร่าไม่ต่างกัน
ชิงถิงรู้สึกขัดใจ ดันหลังของนางให้มาใกล้อีกและก้มลงไปดูดคอนางแรงๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะพรมจูบไปทั่วคอระหงของนาง ดูดขบทุกที่ที่อยากทำ สั่งสอนภรรยาให้รู้ว่าการกินเต้าหู้ต้องทำเช่นไร
แม้เสี่ยวเหอจะชื่นชอบหลงใหลกับสิ่งที่เขาปรนเปรอ แต่ก็เป็นห่วงว่าบาดแผลของเขาอาจฉีกขาด จึงพยายามผลักชิงถิงออก
“ไม่ได้นะ ท่านหมอห้ามไม่ให้เจ้าขยับตัวมาก”
รองแม่ทัพชิงถิงได้แต่ขมวดคิ้วมุ่นไม่รู้จะทำอย่างไรดี ท่อนล่างของเขาร้อนจนใกล้จะแผดเผาไปทั่วร่างได้แล้ว แต่เด็กสาวตัวน้อยของเขากลับกลัวว่าเขาจะเจ็บ ทั้งๆ ที่เขาอยากให้นางทำให้เขาเจ็บแทบตายอยู่แล้ว
เสี่ยวเหอเห็นชิงถิงทำหน้าตาทนทุกข์ทรมาน จึงขยับเข้าไปกอด คราแรกตั้งใจว่าจะเพียงกอดเขาเพื่อปลอบประโลม แต่กลับรู้สึกถึงท่อนเอ็นของเขาที่แทบจะทะลุกางเกงออกมา
“ข้าแน่ใจ คนผู้นั้นเป็นนายหญิงใหญ่ของตระกูลหยวน ตระกูลหยวนเป็นพ่อค้าขายเกลือที่ได้รับสัมปทานโดยตรงของอำเภอนี้” พี่สาวอธิบาย“ขะ..ข้าไปรู้จักครอบครัวนั้นได้อย่างไรกัน” เสี่ยวเหอกลัดกลุ้ม ไม่ใช่นางเคยบอกท่านแม่ไปแล้วหรือว่าตัวเองมีคนที่อยากแต่งด้วยแล้ว เหตุใดจึงเกิดเรื่องพวกนี้ขึ้นอีก“ก็..เมื่อเดือนที่แล้วเจ้ายังไปเที่ยวดูโคมมังกรในเทศกาลซีซีกับคุณชายตระกูลหยวนอยู่เลยไม่ใช่หรือ จะมาตกใจอะไรตอนนี้” เสียงที่ตอบมาไม่ใช่พี่สาว แต่เป็นเสียงของชิงถิง!!!!!เสี่ยวเหอและหลันเหมยหันไปดูพร้อมกัน ชิงถิงกำลังขนตะกร้าใส่ไข่สองใบใหญ่มา เขาวางตะกร้าไข่ไว้ที่พื้นเบาๆ“ให้เอาไปไว้ทางใด” ชิงถิงถามพี่หลันเหมย โดยไม่หันมามองเสี่ยวเหอเลยสักนิด พี่หลันเหมยหันมามองน้องสาวตัวเองที่แข็งค้างไปแล้วอย่างกังวล“ทางนี้” พี่สาวบอกชิงถิง ก่อนพาไปวางไข่ไว้บนชั้นวางและหยิบเงินให้เขาไปถุงหนึ่ง“ขอบใจเจ้ามากต้าจื่อ ขนมพวกนี้ฝากไปให้ท่านแม่ของเจ้าด้วย ตอบแทนที่คัดไข่ใบใหญ่ๆ มาให้ข้าเสมอ”ในขณะที่เสี่ยวเหอมองชิงถิงและพี่สาวเดินไปเดินมา ตัวเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ในหัวมีแต่คำที่เขาว่านางไปเดินเล่นดูโคมไฟมังกรกับคุณชายตระกูลหย
“ไม่เป็นไร แค่พี่หลันเหมยมีความสุข พบคนดี ข้าก็ดีใจแล้ว อย่างน้อยข้าอีกคนก็ได้เข้าร่วมงานแต่งอวยพรให้นาง แต่ข้าเห็นว่าเจ้าก็คงไม่ได้ไปงานแต่งของพี่หลันเหมยใช่หรือไม่ ข้าจึงไม่ได้ไปที่นั่น เพราะเจ้าคนเดียว ฮึ” เขาหัวเราะเบาๆ กับท่าทางย่นปากน่ารักเช่นนั้น“ข้าเป็นทหารอยู่ในกองทัพ ไม่สามารถลาไปงานแต่งของคนที่ไม่ใช่ญาติพี่น้องได้ แต่ได้ส่งของไปร่วมแสดงความยินดีแล้ว เจ้าไม่ต้องห่วง” “ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้านั่นแหละ” “ได้ๆ เพราะข้าเอง” เขายอมให้ ในใจเสี่ยวเหอเมื่อนึกย้อนถึงโลกก่อน พี่สาวตายทั้งที่อยู่ในชุดแดง การแต่งงานเช่นนี้ ช่างเป็นวาสนาที่ดีกับพี่หลันเหมยมาก นางรู้สึกดีใจมากๆ จากใจจริง คืนวันนั้นชิงถิงก็พร่ำพลอดบอกรักกับนางเช่นเคย แม้จะไม่ได้ส่งเสียงดังเท่ายามแก่ เพราะกลัวท่านพ่อท่านแม่ข้างบ้านได้ยิน ในขณะที่ยามเป็นรองแม่ทัพไม่ต้องสนใจสายตาใครแล้วแต่เขายามนี้ก็ยังคงกระซิบกระซาบบอกรักมากมาย บอกว่าคิดถึงนางมากเพียงใด เสร็จไปศึกหนึ่ง ก็ต่ออีกศึกหนึ่ง เขาทำเช่นนั้นหลายครั้งจนใกล้จะรุ่งเช้า เสี่ยวเหอง่วงนอนใกล้จะหลับเขาก็ไม่ยอม ชิงถิงพยายามปลุกนางให้ตื่นอยู่ตลอดเวลาเพื่อจะได้กรำศึกไปพร้
“ไม่ได้!!!” เสี่ยวเหอปฏิเสธทันทีโดยไม่ต้องคิด“ชิงชิงเป็นของข้าคนเดียว” นางโกรธมากชิงถิงยิ้มมุมปากอย่างไม่อาจควบคุม เขามองเสี่ยวเหออย่างรักใคร่ ตัวเขาคิดเสมอว่าเสี่ยวเหอเป็นคนอ่อนหวาน แต่ไม่เคยรู้เลยยามนางหึงหวงจะกลายเป็นนางเสือน่ากลัวได้ด้วยทางหนึ่งชิงถิงก็รู้สึกพึงพอใจ ให้นางได้ลิ้มรสความทรมานในการหึงหวงบ้างก็ดี นางจะได้รู้ว่าเขาต้องทุกข์ทรมานเช่นนี้หลายปีมันไม่ใช่เรื่องรื่นรมย์อะไร เขาอยากให้นางหวงแหนเขาจนแทบขาดใจ“ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าเพียงทดสอบท่านว่าจริงใจหรือไม่ ในเมื่อท่านจริงใจกับข้า ข้าก็จะจริงใจกับท่าน ตัวข้าจะหายไป ขอเวลาไม่นานเกินเดือน” อนุจินยืนขึ้น ด้วยความหยิ่งทะนงในตนเอง“นี่....นี่เจ้า..เจ้าไม่ต้องรับอนุแล้วใช่หรือไม่?” เสี่ยวเหอหันมาถามชิงถิง“นั่นสิ เจ้าคิดว่าอย่างไร ข้ายังต้องรับนางเป็นอนุอีกเดือนหนึ่งหรือไม่นะ แล้วข้าต้องเข้าหอตามธรรมเนียมด้วยหรือไม่ ทำเช่นไรดี” เขายิ้มน้อยๆ ลูบหัวเสี่ยวเหอของเขาอย่างรักใคร่“...” เขาหยอกนางอีกแล้ว เสี่ยวเหอไม่เข้าใจเลยว่า เหตุใดเขามักจะชอบทำให้นางสับสน! เท่านี้นางก็หึงหวงเขาจนเจ็บปวดไปทั้งใจแล้ว เขาชอบให้นางทรมานเพราะหึงหวงเขาหร
นางเดินทางข้ามเวลาทุกวันเช่นนี้ จะเอากำลังที่ใดไปสู้รบกับเหล่าอนุที่ฮ่องเต้ประทานให้สามีของนางอย่างไร นางเคยได้ยินว่า สตรีพวกนั้นล้วนงดงามมีความสามารถ พร้อมทำทุกวิธีเพื่อจะปีนขึ้นเตียงของบุรุษ“เจ้าปฏิเสธไม่รับอนุไม่ได้หรือ ให้คนอื่นๆ รับแทนก็ได้ รองแม่ทัพมีเจ้าเพียงผู้เดียวหรือ” เสี่ยวเหอน้อยใจ“ข้าทำเช่นนั้นไม่ได้ เพราะติดหนี้บุญคุณของท่านแม่ทัพอยู่ จำเป็นต้องตอบแทนคุณ แต่ข้ารับรอง ข้ามีแค่เจ้า เชื่อข้าได้หรือไม่” เขาแก้ตัว ดึงนางมากอดปลอบ น้ำเสียงฟังคล้ายอ้อนวอนแปดส่วน หวาดหวั่นอีกสองส่วนเสี่ยวเหอเห็นท่าทางร้อนรนของเขา ท่าทางเอาอกเอาใจนาง แม้จะเป็นชิงถิงที่อายุมากแล้ว มีหนวดเคราเต็มหน้า แต่อย่างไรก็ยังน่ารักในสายตานาง นางกอดเขาตอบ ลูบหลังปลอบโยนราวกับกำลังปลอบเด็กน้อยชิงชิง“ไม่เป็นไร ข้าเข้าใจ แต่ข้าไม่ยอมรับ หากเจ้ารับอนุ ข้าจะรับลูกบุญธรรม!!” นางอยากให้เขาเอาใจ“เจ้ามีลูกของตัวเองแล้วนะ” ชิงถิงผลักนางออกเล็กน้อยเพื่อมองหน้าเสี่ยวเหอ ท่าทางตกใจไม่น้อยเสี่ยวเหอยิ่งทำหน้าตกใจไปใหญ่ นางเพิ่งเข้าหอกับเขาไม่กี่ครั้ง ไม่เคยอุ้มท้อง แต่เขากลับบอกว่านางมีลูกกับเขาแล้วเช่นนั้นหรือ!!ชิง
ชิงถิงกอดนางครู่หนึ่งก็ปล่อยนางลงพื้น“ข้ากำลังจะไปเมืองหลวง เจ้าอยากไปด้วยกันหรือไม่?”เสี่ยวเหออยากนอนอยู่ที่จวนของเขาและตื่นขึ้นมาที่จวนของเขา แต่นางก็อยากลองไปเมืองหลวงสักครั้ง“หากพรุ่งนี้ยังไม่ถึงเมืองหลวง แล้วข้าไม่ได้ตื่นขึ้นมาจะทำเช่นไร” นางกังวลเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว“แต่วันนี้ เราสองคนได้อยู่ด้วยกัน สิ่งนี้สำคัญกว่า” เขาปลอบ“..แต่” เสี่ยวเหอไม่ชอบความไม่แน่นอน“พรุ่งนี้เจ้าตื่นมา ไม่ว่าที่ใดก็ต้องพบกับข้าอยู่แล้วไม่ใช่หรือ” เขาเสริม“..ได้ เช่นนั้นข้าไป” นางพยักหน้า นัยน์ตาส่องประกายอย่างมีความสุข แม้จะกังวล แต่หากมีเขา ไม่ว่าที่ใดนางก็ยินดีชิงถิงสั่งให้รีบเตรียมเสื้อผ้าของฮูหยินเล็กน้อยอย่างรวดเร็วและเตรียมรถม้า ก่อนเดินทางเขาเข้าไปนั่งในรถม้ากับฮูหยินของเขาด้วย ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาตั้งใจจะขี่ม้าไปเพื่อจะได้ย่นระยะเวลาระหว่างเดินทาง ไม่มีทหารม้าคนใดกล้าเข้าใกล้รถม้าของท่านรองแม่ทัพ มีเพียงคนขับรถม้าที่ต้องทนรับกรรม ต้องทนรับฟังท่านรองแม่ทัพพร่ำเพ้อ พูดมาก ด้วยการบอกรักฮูหยินเสียงแหบพร่า ครั้งแล้วครั้งเล่าจนบางครั้งรถม้าก็สั่นสะเทือนไปหมด คนขับรถม้าได้แต่เก็บความ
เสี่ยวเหอตัดสินใจครั้งสำคัญ คิดว่าถูกผิดอย่างไรก็ช่าง เพราะไม่มีทางเลือก ทางนี้เท่านั้นที่จะทำให้เขาคลั่งไคล้นางไม่เลิก ไหนๆ ก็เคยจูบมาแล้วตอนอายุสิบเจ็ด ทำอีกสักครั้งคงไม่เป็นไรไป นางคิดแล้วจึงยกมือเกาะคอเขา“อะไร” เขาเลิกคิ้วถาม แต่ก็ไม่ได้ถอยหนีหรือยืดตัวขึ้นเสี่ยวเหอชิงจูบเขาอย่างรวดเร็ว พยายามทำให้เร่าร้อนมากที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้ ดุนดันลิ้นเข้าไปในปากของเขาเพื่อควานหาลิ้นนุ่ม เมื่อเขายอมเปิดปากให้นางสำรวจลิ้นของเขา นางก็รีบโลมเลียลิ้นนั้นเล่น ขบกัดปลายลิ้นไม่ต่างจากที่เขาเคยชอบทำชิงถิงแม้จะตกใจเล็กน้อยกับการกระทำอันอุกอาจของหญิงสาวคนรัก แต่ก็รู้สึกว่านางช่างน่ารัก จึงปล่อยให้นางทำต่อไป ทั้งยังรู้สึกหอมหวานในใจอย่างบอกไม่ถูกเสี่ยวเหอกลืนกินริมฝีปากและลิ้นของเขาอยู่นาน เรียวลิ้นพันกันจนยุ่งเหยิง สุดท้ายนางก็แอบขบริมฝีปากของเขาแรงๆ กัดไม่ปล่อยจนนางมั่นใจว่าสามารถสร้างบาดแผลที่ริมฝีปากล่างเขาได้แน่แล้ว จึงยอมถอนจุมพิตในที่สุด“อือ..เจ็บนะ” เขาตำหนิ แต่น้ำเสียงแล้วรู้ว่าพึงพอใจมาก“ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะคิดอย่างไร แต่ชีวิตนี้ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าแต่งกับผู้ใด นอกจากข้าเท่านั้น” เสี่ย