Se connecter“นี่อย่ามาว่าพี่ตั้มนะ! ก็แล้วไงถ้าฉันกับพี่ตั้มจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน เพราะกีก็กีของฉัน ถ้าฉันอยากให้พี่หมอกระแทกแล้วมันจะทำไมห๊ะ?” พริบพราวตอบโต้ฝีปากกับวาโยเป็นอย่างดุเดือด เธอก็แค่อยากลองศึกษาใครสักคน เพราะชีวิตที่ผ่านมาเธอก็นกมาโดยตลอด
“อะไรกันพราว สรุปแกจะไปออกเดตกับพี่ตั้มเหรอ” มิลินที่เดินตามเข้ามาที่หลังพอจะทันได้ยินพริบพราวกับวาโยทะเลาะกัน
“อะ...เอ่อ..ใช่...ก็พี่เขาชวนไปกินข้าวน่ะ”
“แกนี้ไม่เข็ดเลยนะ เช็คประวัติพี่เขาดีหรือยัง ครั้งที่แล้วแกก็เกือบโดนแฟนพี่จัสตินตบเลยนะ” มิลินกล่าวเตือนเพื่อนรักที่ไม่ค่อยรอบคอบกับความรักสักเท่าไหร่
“ก็ครั้งที่แล้วมันพลาดนี่...ฉันดันเชื่อคำของพี่เขาสนิทใจเลยอะ แต่รอบนี้ฉันตรวจสอบประวัติพี่เขาเรียบร้อยแล้วนะ พี่ตั้มเขาเป็นคนดีมาก เรียนก็เก่งด้วยอะ”
“มึงมันโง่อีพราว สมองมึงเทียบเท่ากับเด็กห้าขวบอ่ะ”วาโย
“นี่! หยุดด่าฉันเลยนะ อะ...ไอ้...”
“นี่พราวป่วยเหรอทำไมปากซีดเชียว” ไม่ทันที่พริบพราวจะพูดจบ คิวก็เอ่ยแทรกถามเธอด้วยความเป็นห่วงเป็นใหญ่
“ฮ่าๆ ฮ่าๆ” วาโยระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดัง เมื่อคิวเพื่อนชายของเข้าอีกคนเดินเข้ามาทักพริบพราวด้วยแววตาที่ใสซื่อ ต่างจากคนฟังอย่างพริบพราวที่อยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ
“คิว!ฉันไม่ได้ป่วย ฉันแค่ไม่ได้ทาลิปสีแดง”
“อ้าวเหรอ...ขอโทษทีนะ คิวนึกว่าพราวป่วยจริงๆ”
“ฮ่าๆ ฮ่าๆ” / “คิก..คิก...”
“ไอ้บ้าวาโย หยุดขำเดี๋ยวนี้นะ / นี่ยัยลินแกก็เอากับเขาด้วยเหรอห๊ะ”
“ขอโทษทีแก ฮ่าๆ แต่พอแกไม่ทาปากแดงก็ดูป่วยขึ้นมาจริงๆ” มิลิน
“ฮ่าฮ่าฮ่าโคตรขยี้ ฮ่าๆๆๆๆๆ” วาโย
“ไอ้บ้าวะ..วา...”
“น้องพราวครับ”
“อุ๊บ!” มือบางรีบตะครุบปากตัวเองทันที เมื่อได้ยินเสียงชายหนุ่มที่นัดหมายเธอไว้ เมื่อกี้เธอเกือบหลุดคำหยาบออกมา
“สวัสดีค่ะ..พี่ตั้ม” พริบพราวค่อยๆหมุนตัวกลับมาอย่างช้าๆ บีบเสียงเล็กเสียงน้อยพร้อมพนมมือไหว้ทาบอกอย่างจริตแบบนางสาวไทย ตั้งใจโชว์มารยาทอันดีงามของเธอให้ชายหนุ่มตรงหน้าได้รู้
“สวัสดีครับน้องพริบพราว พี่ขอโทษด้วยครับ ที่มารับน้องพราวช้า” ตั้มชายหนุ่มนักศึกษาแพทย์ปีสี่ หนุ่มผู้หน้าตาดีดีกรีเป็นถึงเดือดคณะ
“ไม่เป็นไรเลยค่ะ” มือเล็กยกขึ้นมาจับปอยผมทัดหูอย่างเหนียมอายตามสไตล์กุลสตรีไทย
“ฮ่าฮ่าฮ่า กูชอบพราวเวอร์ชันนี้” วาโยมองภาพตรงหน้าอย่างขบขัน หัวเราะดังลั่นไม่หยุด
“เพื่อนโยอย่าหัวเราะเสียงดังสิคะ กรุณาช่วยปิดปากด้วยค่ะ เดี๋ยวเชื้อโรคจะกระเด็นออกมา” พริบพราวพยายามกัดฟันพูดอย่างข่มอารมณ์ สายตาสวยจ้องมองเพื่อนชายอย่าคาดโทษ
“ได้ครับ คุณเพื่อนพริบพราว” วาโย
“น้องพราวไปกันเถอะครับ เดี๋ยวรถจะติด” ตั้มเอ่ยขึ้นแทรกพลางมองดูนาฬิกาเครื่องหรู
“ค..คะ....”
“เดี๋ยว!” เสียงวาโยพูดแทรกขึ้นมา เมื่อพริบพราวกำลังจะตอบลงไปนักศึกษาแพทย์หนุ่มไป
“อะ..อะไร ตกใจหมดเลย”
“อีพราว ถ้ามึงไปกินข้าวกับไอ้หมอนี่ แล้ว...มีอะไรผิดปกติ มึงโทรหากูได้ตลอดเลยนะ และทางที่ดีมึงช่วยส่งโลเคชั่นที่มึงไปกินข้าวกับมันมาให้กูด้วย...เผื่อมีอะไรกูจะได้ช่วยมึงได้ทัน”
“โอ้ว..เพื่อนโย พูดอะไรออกมาแกนี่เล่นตลกใหญ่แล้ว ฮ่าๆ” พริบพราวหัวเราะกลบเกลื่อนพยายามแก้สถานการณ์ตรงหน้า เธอรู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่วาโยแสดงอาการจริงจังแบบนี้ออกมา
“น้องพราวไม่ต้องไปกินข้าวกับพี่ก็ได้นะครับ ถ้าเพื่อนน้อง...จะไม่สนิทใจแบบนี้”
“พี่ตั้มใจเย็นๆนะคะ วาโยมันก็แค่พูดเล่นค่ะ เอ่อ...เราไปกันเถอะนะคะพี่ตั้ม”
ทันทีที่พูดจบพริบพราวรีบจูงมือตั้มนักศึกษาแพทย์หนุ่มออกมาจากตรงนั้น ก่อนจะหันกลับไปมองวาโยเพื่อส่งซิก ‘เดี๋ยวส่งไลน์’ พริบพราวขยับปากแบบไม่มีเสียง สำหรับเธอแล้วถึงวาโยจะเป็นคนปากร้ายมาก แต่จริงๆแล้วเพื่อนคนนี้ก็คอยเป็นห่วงเป็นใยเธอมากเช่นเดียวกัน
@คอนโดตั้ม
“ไหนว่าเราจะไปกินข้าวที่ร้านGGไงคะ” พริบพราวเอ่ยถามขึ้นทันทีที่รถยนต์จอดสนิทใต้คอนโดหรู พลางสวยสอดส่ายสายตาไปนอกกระจกอย่างสงสัย
“พี่ลืมบอกพราวไปเลย ว่าพี่ดันจองโต๊ะร้านนี้ไว้ไม่ทัน เลยคิดว่าจะสั่งอาหารมากินที่ห้องดีกว่า”
“...เหรอคะ แล้ว...ห้องพี่ตั้มใหญ่ไหม”
“ใหญ่ซิครับ”
“อ่อ....คอนโดนี้แพงมากเลย พี่ตั้มอยู่ชั้นไหนเหรอคะ ห้องเบอร์อะไรใช่เลขตองด้วยรึเปล่า”
“ห้องพี่อยู่ชั้น31 ห้อง 3107ครับ...”
“อ๋า...สูงจังเลยนะคะ”
“ป่ะ..ไปเถอะไปกินข้าวกัน พี่เตรียมสั่งอาหารไว้แล้ว”
“อ่อ...ค่ะ” พริบพราวตอบผู้ชายข้างกายออกไป ก่อนที่เธอจะมองตั้มเดินออกไปจากรถ พริบพราวใช้จังหวะนี้รีบกดแชร์โลเคชั่นตำแหน่งที่ตั้งของตัวเองเข้าไปในกลุ่มไลน์เพื่อนทันที
‘ตำแหน่งที่ตั้ง....’
‘ชั้น 31 ห้อง 3107’
พริบพราวรีบกดส่งที่อยู่และพิมพ์ข้อความไว้แค่นั้น เมื่อตั้มกำลังจะเปิดประตูรถให้กับเธอ
“เชิญครับน้องพราว”
“ขอบคุณค่ะ”
พริบพราวฉีกยิ้มหวานตอบกลับชายหนุ่มที่ส่งรอยยิ้มเป็นมิตรมาให้กับเธอ หญิงสาวลงมาจากรถและเดินตามหนุ่มศึกษาแพทย์เข้าไปยังคอนโดหรูอย่างว่าง่าย เธอสอดส่ายสายตามองด้วยความแปลกใจ ว่าทำไมที่นี่ถึงดูเงียบผิดปกติแบบนี้
“ไปครับ” พริบพราวเดินตรงเข้าไปในลิฟต์ตามคำเชิญของตั้ม ก่อนที่เขาจะกดเลข 31 ชั้นที่พักของตัวเอง..
ติ้ง....
เสียงประตูลิฟต์เปิดออกเมื่อมาถึงชั้นเป้าหมาย พริบพราวตั้งท่าที่จะเดินออกไปแต่ทว่า..
“เดี๋ยวครับน้องพราว” ตั้มคว้าเข้าที่แขนเล็กเรียกพริบพราวที่กำลังก้าวเท้าเดินออกไปจนหญิงสาวต้องหยุดชะงัก
“ทำไมคะ?” พริบพราวหันกลับมามองตั้มด้วยความมึนงง
“พี่เบลอน่ะ ดันกดชั้นห้องตัวเองผิด”
“คะ? ชั้นผิด?”
“ครับ...จริงๆ...มันต้องชั้น35” ตั้มออกแรงกระชากแขนเล็กให้เข้ามายืนข้างกายทันทีที่พูดจบประโยค ซึ่งมันยิ่งให้พริบพราวไม่พอใจ
“เอ๊ะ ไหนพี่ตั้มบอกว่าชั้น31ไงคะ” พริบพราวโวยวายเสียงดัง เมื่อมือหนาเอื้อมไปกดเข้าที่เลข35ใหม่
“อ้าวเหรอ? พี่บอกเราว่าพี่อยู่ชั้น31ด้วยใช่ไหม โทษทีพี่บอกเราผิดไป”
“.....” พริบพราวไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เธอเพียงจ้องไปหน้าชายหนุ่มอย่างโกรธเคือง
“มีอะไรรึเปล่าครับน้องพราว ทำไมมองพี่อย่างนั้น”
“พี่ตั้มนั่นแหละค่ะ มีอะไรจะบอกพราวรึเปล่า”
“ฮ่าๆ พี่ยังจะไม่บอกน้องพราวตอนนี้ครับ...พี่อยากจะให้เราเซอร์ไพรซ์...”
“พราวจะกลับ พราวไม่กินข้าวแล้วค่ะ”
“หืม...”
ติ้ง! ‘ชั้น35’
หลายวันต่อมา...@07.30น.พริบพราวที่อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วยืนมองดูมาเฟียหนุ่มสองคนที่ยังคงนอนหลับใหลบนเตียงนอนใหญ่ ซึ่งเวลาพวกเขาหลับเธอมองว่าพวกเขาเหมือนกับเด็กหนุ่มหล่อที่ไม่มีพิษมีภัยอะไรเลย แต่เพียงแค่พวกเขาลืมตาขึ้นมาร่างของเด็กหนุ่มน้อยก็กลายเป็นปีศาจตัวใหญ่ได้เลยจุ๊บ..จุ๊บ..“กู๊ดมอร์นิ่ง คิสค่ะ” หญิงสาวก้าวขึ้นไปบนเตียงนอนประทับริมฝีปากเล็กที่ปากหยักของไบรอันต์และเซนสลับไปมาจุ๊บ..จุ๊บ.. จุ๊บ..จุ๊บ..“ตื่นได้แล้วนะคะ” เมื่อไม่ได้รับเสียงตอบรับเธอจึงก้มลงไปจูบซ้ำๆ อีกหลายครั้ง อย่างต้องการรบกวนการนอนของทั้งสองคน“อือ....กวนอะไรแต่เช้า” ไบรอันต์“คิก...คิก...”“อารมณ์ไหนเนี่ยที่รัก ปกติไม่ตื่นเช้าขนาดนี้นะ” เซนลืมตามองสำรวจเรือนร่างของหญิงสาวที่แต่งหน้าและอยู่ในชุดสวยพร้อมออกไปข้างนอก“ตอนนี้น้ำฉันหมดตัวแล้วนะ ถ้าจะเอาต่อก็ไปขอไอ้เซนแล้วกัน” ไบรอันต์พูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆอย่างต้องการพักผ่อน“งื้ออ อะไรกันคะเฮีย พราวไม่ได้จะปลุกมาทำเรื่องอย่างว่าสักหน่อย”“หรืออยากได้ของอะไรอีก เฮียบอกแล้วไงว่าใช้บัตรไปรูดได้เลย” เซน“งื้ออออ อันนี้ก็ไม่ใช่อีกค่ะ วันนี้...พราวจะไปร่วมบริจาค
ไบรอันต์ประทับริมฝีปาก ครอบลงที่ช่องทางรักให้พอดี ก่อนสูบลมดูดน้ำแข็งออกมาแรงๆ จนน้ำแข็งหลุดเข้าปากของเขา“อึก...อ๊า!!!” หญิงสาวสั่นสะท้านเพราะแรงดูดของไบรอันต์ทำให้กลีบกุหลาบของเธอแทบหลุดติดปากมาเฟียหนุ่มไปด้วย จนมือบางเผลอยกขึ้นมาจับเส้นผมสีเทาสว่างไว้ด้วยความเสียวซ่าน“เสียวใช่ไหม...” ไบรอันต์เอ่ยถามพลางเขี้ยวน้ำแข็งโชว์หญิงสาวที่ตอนนี้ใบหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย“สะ..เสียวค่ะ และยะ..เย็นด้วย”“ขอกินน้ำแข็งอีกก้อนนะ”พรวด....สูดดดด!! บ๊อกก!!“อึก!!! อ๊า!!!” เสียงหวานครวญครางสุดเสียง มือเล็กกำเส้นผมลงแน่นขึ้น เมื่อไบรอันต์ดูดร่องหลืบของเธอเต็มแรง และแยงลิ้นแข็งไปในรูของเธอ ซึ่งนี่เป็นความเสียวแปลกใหม่ที่เธอพึ่งเคยได้รับตั่บ!!!!“กรี๊ดดดดดดด!” ไม่ทันที่พริบพราวจะพักเสียงเธอก็ต้องร้องออกมาอีกครั้งเมื่อไบรอันต์ กระโดดขึ้นมาบนโซฟาและกระแทกท่อนเอ็นใหญ่เข้ามาในร่องสาวอย่างแรง จนท่อนเอ็นแทบจะแทรกเข้าไปเป็นเนื้อเดียวกับร่องหลืบของหญิงสาว ทำให้โซฟาตัวใหญ่แทบเลื่อนถไหลแต่โชคดีที่มีร่างหนาของเซนนั่นยืนค้ำไว้ให้“อ้าส์!!”ตั่บ!! ตั่บ!! ตั่บ!!ไบรอันต์นั่งยองยกดอกไม้งามให้แอ่นขึ้นมาเพื่อความถนั
หลายเดือนต่อมา....@โกดังลับ“เฮียว่าพราวจะเรียนจบไหมคะ” พริบพราวที่อยู่ในชุดนักศึกษาซบอกแกร่งของเซนอย่างออดอ้อนหวังเอาใจชายหนุ่ม“ถ้าเฮียเซ็นเอกสารฝึกงานของพราวผ่าน มันก็ต้องจบสิ”“งื้ออออ แล้วเฮีย...จะเซ็นให้พราวจบไหมคะ” นิ้วเล็กไล่ไต่ขึ้นลงบนอกแกร่งอย่างยั่วยวน เพราะช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา เธอได้เข้ามาฝึกงานที่บริษัทฯยาของเซนอย่างที่เขาเคยชวนเธอไว้“เฮียไม่อยากเซนให้หนูผ่านเลย ยังอยากให้หนูมาฝึกงานกับเฮียต่อ เฮียจะได้จับหนูกระแทกที่ห้องทำงานได้ทุกวัน...”“งื้อออ...ให้น้องน้อยของพราวพักบ้างเถอะค่ะ”“หึๆ” เซนหัวเราะในลำคอ เมื่อคำพูดและแววตาของหญิงสาวมันสวนทางกัน“ว๊ายยยย” พริบพราวส่งเสียงร้องตกใจเมื่ออยู่ๆ ร่างของเธอก็ถูกอุ้มให้ขึ้นไปนั่งบนตักแกร่งของคนขี้อิจฉาอีกคนหนึ่ง“ฉันก็เซ็นผ่านฝึกงานให้เธอเรียนจบได้เหมือนกันนะ” ไบรอันต์“จริงเหรอคะ เฮียไบร์ท...อย่าหลอกพราวนะคะ” พริบพราวคล้องแขนเล็กไว้ที่ลำคอหนาพลางมองตาแป๋วราวกับลูกแมวน้อย“จริงสิ...แต่มันก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนิดหน่อยนะ”“เอ๊ะ..อะไรเหรอคะ อะไรเอ่ยข้อแลกเปลี่ยน พราวรู้สึกลุ้นจังเลยค่ะ” พริบพราวเหยียดยิ้มมุมปากสีแดงสดอย่างมีจร
เช้าวันต่อมา....@บ้านอำนาจการจัดงานหมั้นที่เรียบหรู ทุกอย่างถูกเนรมิตในช่วงข้ามคืน ตอนนี้พริบพราวกำลังนั่งลงที่พื้นเช่นเดียวกับไบรอันต์และเซน ท่ามกลางพ่อแม่ของทั้งสามคนเพื่อทำพิธีการสู่ขอให้สมบูรณ์แบบ ซึ่งวันนี้มีแค่คนสำคัญและเพื่อนสนิทของทั้งสองฝ่ายเท่านั้นที่ได้มาร่วมงานเป็นสักขีพยานในวันนี้ด้วยทุกอย่างดำเนินไปอย่างเลื่อนๆจนทั้งสามคนได้แลกและแหวนหมั้นที่จัดทำขึ้นไว้เมื่อวานเป็นการเสร็จเรียบร้อย ใบหน้าสวยเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุขไม่ต่างจากทั้งสองมาเฟียหนุ่มที่มีความสุขเช่นเดียวกัน“ขอบคุณ คุณอำนาจมากนะคะ ที่ยอมยกลูกสาวให้ลูกของดิฉัน” ดาราริน แม่ของเซนเอ่ยขึ้นหลังจากที่จบพิธีที่สำคัญ และร่วมถ่ายรูปรวมกันแล้วเรียบร้อย“ผมขอฝากลูกสาวคนเดียวของของผมไว้ด้วยนะครับ อาจจะแสบซนไปบ้างต้องขอโทษล่วงหน้าไว้ก่อนเลย” อำนาจ“ยินดีมากค่ะคุณอำนาจ หนูพราวน่ารักและสวยมากเลยนะคะ แสบๆแบบนี้นี่แหละคะถึงจะเอาลูกชายที่บ้านอยู่ ” ไพลิน แม่ของไบรอันต์ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มหวานพลางหันมามองใบหน้าลูกสะใภ้ของตัวเองด้วยความภูมิใจ“ขอบคุณนะคะคุณแม่ ที่เอ็นดูหนู ”"แม่อยากได้ลูกสาวน่ารักๆแบบนี้มานานมากแล้ว ม
@บ้านอำนาจ “ฮัลโหล...แม่....คุณแม่อยู่ไหมคะ คุณแม๊!” พริบพราวเดินตรงเข้าในบ้านทันทีที่จองรถเสร็จ ตอนแรกคนสวนไม่ยอมเปิดประตูรั้วให้เธอ เพราะวันนี้เธอดันขับรถยนต์คันใหม่มา“อะ..คุณหนู กลับมาบ้านไม่บอกกันเลยนะคะ”“ป้าอุ่น คุณแม่อยู่ไหม”“อยู่ค่ ตะ..ตอน..น”“มีอะไรกัน...เสียงแกนี้ร้องโหยหวนร้องเรียกหาฉันอะไรขนาดนั้น” ผกาเดินออกมาจากห้องครัวหลังได้ยินเสียตะโกนโหวกเหวกของลูกสาว“แม่! พราวมีเรื่องมาบอกแล้วคุณพ่อล่ะคะ”“นี่แกเรียกฉันมาเพื่อมาถามถึงพ่อแกหรอกเหรอ พ่อแกอยู่ในห้องทำงาน”“ก็พราวอยากเล่าให้พ่อกับแม่ฟังพร้อมกันนี่คะ”“แกเป็นอะไร ทำไมดูร้อนรนรีบๆ ยังไงก็ไม่รู้” ผกาสังเกตอาการของลูกสาวตัวเองที่ดูผิดแปลกไปจากทุกวัน“ไปหาพ่อกันค่ะ”“รอก่อนคุณพ่อแกพึ่งเข้าห้องไป อย่างพึ่งไปกวนคุณพ่อกำลังงานยุ่ง มีอะไรแกก็เล่าให้ฉันฟังก่อนแล้วกัน” ผกาจูงมือลูกสาวตัวเองไปนั่งที่โซฟาหรูพลางถอดผ้ากันเปื้อนออกให้อุ่นคนรับใช้ภายในบ้านพริบพราวTalk…ฉันลังเลอยู่นิดก่อนจะตัดสินใจ บอกความจริงกับท่านก่อน ซึ่งคิดไปคิดมามันก็ดีนะบอกแม่ก่อน เพื่อท่านจะได้ช่วยคิดช่วยพูดกับพ่ออีกที“แม่ค่ะ จะมีมาเฟียมาขอหนูหมั้นพรุ่งน
“ก็ได้ค่ะเฮีย...” พริบพราววางแหวนเพชรในมือข้างซ้ายลง และกำลังจะสวมแหวนที่อยู่ในมือขวาของเธอลงบนนิ้วกลางข้างซ้าย แต่ทว่ากลับมีมือหนายกขึ้นมาจับมือของเธอไว้ราวกับไม่พอใจอะไรบางอย่าง“ไม่ใช่นิ้วนี้” ไบรอันต์จับมือหญิงสาวขึ้น พลางหยิบแหวนเพชรออกจากมือของหญิงสาวมาไว้ที่มือหนาของตัวเองพริบพราวถึงกับเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อของไบรอันต์ เพราะตำแหน่งในการใส่แหวนที่เขาต้องการคือนิ้วนางข้างซ้าย...“เฮียไบร์ท...คะ...คือมัน...”“ถูกแล้วต้องสวมข้างซ้ายสิ” เซนเอ่ยสบทบไบรอันต์ทันทีดวงตาสวยมองผู้ชายตรงหน้าทั้งสองคนด้วยแววตาที่สั่นระริก ยิ่งเห็นเซนหยิบแหวนเพชรอีกวงขึ้นมาสวมเตรียมสวมใส่ให้เธอ เธอก็รู้ได้ในทันทีว่าพวกเขากำลังจะตีตราจองชีวิตและหัวใจของเธอ“นี่มันคือแหวนและตัวแทนของเฮีย” ไบรอันต์“และนี่ก็แหวนของเฮีย ชีวิตของเฮียมันฝากกับพราวนะ” เซนน้ำตาแห่งความสุขมันเอ่อล้นขึ้นมาดื้อๆ เธอมองดูแหวนเพชรทีละวงค่อยๆ สวมเข้าไปที่นิ้วนางข้างซ้ายอย่างช้าๆ ก่อนที่สัมผัสอันอบอุ่นจะเกิดขึ้นบนมือของเธอ...เซนจูบหลังมือของหญิงสาวข้างกายอย่างนุ่มนวลแล้วเงยหน้ามองเธอพร้อมส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจ ส่วนไบร์อันต์ก็ไม่น้อยหน้าตา







