แชร์

สนใจ

ผู้เขียน: นิยายของเนม
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-13 15:18:23

แกร็ก~

"เกิดอะไรขึ้นครับนาย!" เสียงของอาชาดังขึ้นทันทีที่ประตูห้องนอนถูกผลักเข้ามาอย่างแรง

ฮันนี่ดึงชายกระโปรงปกปิดช่วงล่างพร้อมทั้งยกแขนขึ้นบดบังท่อนบนสลับกับการเร่งรีบปกปิดเรือนร่างให้พ้นจากสายตาคนแปลกหน้า

มาเฟียหนุ่มตวัดสายตาไปมองลูกน้องคนสนิทอย่างหัวเสียเมื่อเห็นกับตาว่าหญิงสาวตรงหน้าไม่ได้เปลือยโป๊จนเกินไป ตามด้วยการเก็บกางเกงยีนส์ตัวเดิมขึ้นมาสวมใส่แบบลวกๆ

"ขอโทษครับ ผมได้ยินเสียงเหมือนคนโดนทำร้าย ผมเลยกลัวว่า..."

"มึงคิดว่าผู้หญิงตัวเล็กแค่นี้จะทำอะไรกูได้" ออสตินหมุนตัวกลับไปเท้าสะเอวมองหน้า อาชาก้มหน้างุด คนสนิทของมาเฟียแทบไม่กล้าหันไปมองหญิงสาวเบื้องหลังของผู้เป็นนาย

"แต่บนตัวนายมีรอยแดงเหมือนโดนทำร้ายนะครับ" มาเฟียหนุ่มกดปลายลิ้นที่มุมปาก ดวงตาคมกริบลดมองรอยแดงบนอกแกร่ง เป็นจังหวะที่ผู้หญิงในห้องลนลานเอาตัวรอด พยายามจะผละห่างหากไม่ติดที่ว่ามาเฟียหนุ่มรั้งตัวได้ทัน

"จะไปไหน"

"ปล่อยฉันนะไอ้ผู้ชายเฮงซวย อย่ามาแตะต้องตัวฉัน"

เพี๊ยะ!

ฝ่ามือเล็กตวัดตบเข้าที่เสี้ยวใบหน้ากระทั่งใบหน้าหล่อเหลาหันไปตามแรงมือ

อาชากลืนน้ำลายเหนียวลงคออึกใหญ่ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าทำแบบนี้กับเจ้านายของเขา

เป็นไปได้ว่าเธออาจจะโดนสั่งฆ่า ลงโทษที่บังอาจแตะต้องคนที่ไม่ควรแตะ

"คิดจะออกไปด้วยสภาพแบบนี้รึไง!" อาชาหรี่ตามองผู้เป็นนายทันที

น่าแปลกที่ความห่วงใยที่อาจจะมีเพียงน้อยนิดหลุดออกมาจากปากของออสติน

"อย่ามายุ่งกับฉัน อย่าให้ฉันต้องใช้แจกันฟาดหน้าหล่อๆ ของนาย"

"เหอะ..." ออสตินเค้นเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ

ยอมรับว่าเรื่องเซอร์ไพรส์ที่เขาบังเอิญพบเข้ามันทำให้เขายังไม่อยากปล่อยเธอไป

"ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า อาชาจะเป็นคนไปส่งเธอที่บ้านเอง" ฮันนี่ไม่อยากเชื่อ ดวงตากลมสวยที่มีหยาดน้ำตาหล่อเลี้ยงอยู่ในนั้นกลอกกลิ้งไปมา มาเฟียหนุ่มจึงเลือกที่จะปล่อยมือ

"ห้องน้ำอยู่ฝั่งโน้น จัดการตัวเองให้เรียบร้อยแล้วค่อยออกไป ส่วนมึง...ออกไปรอข้างนอก"

"ครับ" อาชาขานรับแล้วผละตัวออกจากห้องทันที

ราวยี่สิบนาทีให้หลังที่ประตูห้องนอนถูกเปิดออก มาเฟียหนุ่มที่นั่งสูบบุหรี่ที่ริมระเบียงหันกลับมามองร่างเล็กที่เริ่มเคลื่อนไหว

ฮันนี่ออกมาจากห้องพร้อมเสื้อเชิ้ตของเขาที่อยู่บนลำตัวของเธอ

เธอไม่ได้อยากมองหน้าไอ้ผู้ชายเฮงซวยเจ้าของเสื้อเลยแม้แต่นิดเดียว

"ฉันไม่ได้อยากหยิบเสื้อของใครมาใส่ แต่แกนั่นแหละที่ทำให้ฉันใส่ชุดเดิมต่อไม่ได้" คนฟังเคาะบุหรี่อย่างใจเย็น ควันขาวคลุ้งที่ลอยอบอวลอยู่ในอากาศส่งผลให้หญิงสาวเบือนหน้าหนี

"หวังว่าต่อจากนี้เราจะไม่พบกันอีก อย่ามายุ่งกับฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งความ"

"นามบัตรของฉันอยู่ในกระเป๋าของเธอ เผื่อว่าเรามีเรื่องต้องตกลงกัน" ฮันนี่ชะงัก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขายุ่งวุ่นวายกับกระเป๋าสะพายของเธอ

"เหอะ!" หญิงสาวเค้นเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะเริ่มสาวเท้า ข่มความเจ็บปวดเดินผ่านหน้าปีศาจตัวร้ายที่เกือบขย้ำเธอให้แหลกคาเตียงออกมาอย่างรวดเร็ว

อย่าฝันว่าเธอจะมาตกลงอะไรกับคนอย่างเขา ทันทีที่พ้นจากที่นี่ เธอจะขย้ำนามบัตรใบนั้นให้แหลกคามือ!

เสียงเปิดกระเป๋าในตอนที่ลงมาถึงชั้นจอดรถส่งผลให้อาชาหันกลับไปมองหญิงสาวที่เป็นต้นเหตุให้เขาต้องรับหน้าที่พลขับในยามวิกาล

คนสนิทของมาเฟียขมวดคิ้วยุ่งในตอนที่พบว่าคนตัวเล็กล้วงนามบัตรออกมาจากกระเป๋า ขย้ำจนยับคามือก่อนจะทิ้งขว้างออกไปอีกทาง

"นั่นนามบัตรของนาย?"

"ฉันไม่ได้ต้องการ"

"..."

"ฉันจะบอกอีกครั้งนะ ฉันไม่รู้จักผู้ชายคนนั้น ฉันไม่รู้จักเจ้านายของคุณ ที่วันนี้พบกันมันก็เป็นเพราะฉันรับงานเพราะอยากได้เงินก็เท่านั้น ฝากบอกเขาด้วยว่าต่อไปนี้ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน ฉันจำหน้าเขาได้ หน้าคุณฉันก็จำแม่น อย่าให้ฉันได้ร้าย ฉันเอาพวกคุณติดคุกหัวโตแน่!" คนสนิทของมาเฟียยิ้มมุมปาก ไม่มีคำพูดใดเล็ดลอดออกมาจากปากของอาชา

เพนต์เฮาส์ของออสติน

"เธอชื่อฮันนี่ครับ นักศึกษาปีสี่ของมหา'ลัยชื่อดัง แม่ของเธอเป็นแม่ค้า เปิดร้านขายอาหารตามสั่ง"

"ยัยนั่นเป็นลูกแม่ค้าขายอาหารตามสั่ง?"

"ครับ...เธอสวยมากเลยใช่ไหมครับ" อาชาหรี่ตามองผู้เป็นนายอย่างจับผิด สุดท้ายก็ประสานสายตาเข้ากับดวงตาคมกริบที่มองมาอย่างไม่พอใจ

"ที่คุณฮันนี่เธอดูดีผิดหูผิดตา เพราะเธอเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างดูแลตัวเองครับ เธอฉีดวิตามินผิวทุกสามเดือน ทั้งหน้า ผม แม้แต่เล็บก็ยังมีการดูแลอยู่เสมอ เธอต้องดูดีเพราะอยากทำงานที่มันได้เงินเยอะๆ เธอไม่อยากให้แม่ของเธอลำบากครับ"

"หึ จะใช้ความสวยเป็นตัวเบิกทางสินะ"

"ผมว่า คุณฮันนี่กับผู้หญิงของคุณซานย์...เป็นคนละคนกันนะครับ"

"ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร กูอยากได้ พวกมึงไปสืบมา!"

"สืบ? สิ่งที่ผมรายงานนายไปเมื่อสักครู่มัน..."

"ต้องลึกกว่านี้ นอกจากจะเป็นใครมาจากไหน ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและผู้ชายที่เธอสั่งให้มึงกระทืบมันเป็นยังไง รู้จักกี่วัน คบหามากี่เดือน ไปสืบมา"

"ให้ผมไปสืบเรื่องของเธอกับผู้ชายคนนั้น แล้วเรื่องของคุณซานย์ล่ะครับ" มาเฟียหนุ่มทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่าง แว๊บหนึ่งที่มุมปากหนาผุดรอยยิ้มบางๆ

"แค่ทำตามคำสั่งเท่านั้นก็พอ"

"ครับ" อาชาพินิจผู้เป็นนายในระยะเวลาสั้นๆ จากนั้นก็เลือกที่จะถอยกลับที่เดิม

อีกด้าน

"...ฮันนี่ วันนี้กลับบ้านเหรอลูก" มาลีเอ่ยถามบุตรสาวเพียงคนเดียวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเฉกเช่นทุกครั้ง

ส่วนคนที่แอบร้องไห้ เพียงเพราะนึกถึงชะตากรรมที่เธอเพิ่งเผชิญมาหมาดๆ ก็ได้แต่กรีดยิ้มกลับไป

"อยากกินไข่เจียวกรอบๆ ฝีมือแม่ค่ะ ขอจานฟูๆ หนึ่งจานด่วนเลยได้ไหมคะ"

"มาถึงก็อ้อนแม่เลยนะ ว่าแต่..ทำไมแต่งตัวแบบนี้ล่ะลูก" ฮันนี่แอบชะงักไป กว่าจะมาคิดได้ว่าเธอไม่ควรสวมใส่เสื้อผู้ชายคนนั้นกลับมาที่บ้าน

สุดท้ายแล้วความรู้สึกแย่ๆ ที่ประเดประดังเข้าใส่มันก็ทำให้เธออยากกลับมาเห็นหน้าผู้เป็นแม่ให้เร็วที่สุด ไม่อยากปล่อยตัวเองให้จมอยู่กับความรู้สึกแย่ๆ ไปมากกว่านี้

"อ๋อ มันเป็นคอนเซ็ปต์งานค่ะแม่ คนอื่นเขาก็ใส่แบบนี้กันนั่นแหละ"

"เหรอ...แม่ว่ามันดูแปลกๆ นะ แต่ว่าลูกสาวแม่สวย ไม่ว่าจะใส่อะไรก็ดูสวยหมดนั่นแหละ"

"จะสวยเหมือนใครล่ะคะ ก็ต้องเหมือนแม่น่ะสิ" ฮันนี่คลี่รอยยิ้มก่อนจะรีบเดินเร็วๆ เข้าไปหาผู้เป็นแม่ สอดแขนเข้าไปโอบกอดท่านเอาไว้ พยายามอย่างยิ่งที่จะเรียกเรี่ยวแรงและกำลังใจของเธอให้มันกลับคืนมา

"หืม มากอดอะไรแม่ตอนนี้ล่ะ แม่ทำกับข้าวทั้งวัน เหม็นกลิ่นอาหารกลิ่นควันนะลูก"

"หนูรักแม่นะคะ สักวันหนูจะทำให้แม่สบาย แม่จะไม่ลำบากแบบนี้ ไว้หนูหาตังค์ได้เยอะๆ แล้วเราไปซื้อบ้านกันนะคะ" มาลียังยิ้มได้ทุกครั้งเวลาที่บุตรสาวกล่าวถึงอนาคต

มือแม่ลูบเบาๆ ที่ศีรษะทุยเล็ก ตั้งแต่วันที่พ่อของลูกเฉลยความจริงว่ามีภรรยาอยู่แล้วและเธอเป็นคนที่มาทีหลัง กำลังใจเพียงหนึ่งเดียวและคนเพียงคนเดียวที่อยู่เคียงข้างก็คือฮันนี่ไปโดยปริยาย

"เรียนจบก่อนก็ได้นะลูก เรียนไปทำงานไปแม่กลัวหนูไม่ไหว แม่ไม่อยากให้หนูเหนื่อยเกินไป แม่ขายของส่งหนูเรียนได้"

หากจะให้เธออยู่อย่างสุขสบาย แล้วปล่อยให้ผู้เป็นแม่จับตะหลิวทำอาหารทั้งวันจนข้อมือเคล็ด เธอยอมเรียนไปทำงานไปดีกว่า

"อ๋อ อาร์ตโทรหาแม่ถามถึงฮันนี่ด้วยนะลูก ทะเลาะอะไรกันหรือเปล่า น้ำเสียงของเขาไม่ค่อยดีเลย"

"อาร์ต..."

"หืม?" มาลีหรี่ตามองคนในอ้อมกอดน้อยๆ พอฮันนี่รู้ตัวว่าเธอลืมใช้สรรพนามเหมือนที่เคยใช้ ก็จำเป็นต้องรีบปรับเปลี่ยนคำพูดโดยไว

"พี่อาร์ตโทรหาแม่ตอนไหนคะ"

"ราวชั่วโมงก่อนเห็นจะได้ ฝากบอกแม่ไว้ว่าหากหนูกลับมาให้หนูติดต่อกลับไปหาพี่เขาทันที ไม่อย่างนั้นเขาจะตามมานั่งเฝ้าลูกแม่ที่นี่นะ ลูกคนนี้นี่ เสน่ห์แรงจริงๆ เลย" น้ำเสียงของมาลียังเจือไปด้วยความอบอุ่นเช่นเดิม

แฟนหนุ่มของบุตรสาว คือคนที่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อน รู้หรอกว่าลูกสาวตัวน้อยๆ เสน่ห์แรงใช่ย่อยเลย

ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใจคนฟังตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม อาร์ตคงไม่ปล่อยเธอให้เป็นอิสระแบบที่เธอต้องการ

------

ฝากน้องฮันนี่ไว้ในอ้อมกอดของทุกคนด้วยนะคะ 🥰

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
สิบเก้ากันยายน ใหม่ไงจะใครล่ะ
มีผีตามติดซะแล้วฮันนี่
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • ขย้ำรักมาเฟีย   อาชา -64- บทส่งท้าย

    @หนึ่งเดือนต่อมา “ยัยดี!” ทับทิมโบกไม้โบกมือทักทายเพื่อนสาวที่โดดเด่นตั้งแต่ตอนก้าวขาเข้ามาในร้านนั่งชิลที่ทับทิมเป็นคนนัดหมาย สายตาหลายต่อหลายคู่หันมามองที่ซีดีด้วยความสนใจ แม้สถานที่จะไม่ใช่ผับที่คนจะเยอะมาก แต่ด้วยความที่ร้านมีดีเรื่องอาหารอร่อย บรรยากาศได้ แม้จะเป็นแค่ร้านนั่งชิลคนก็เยอะไม่ต่างกัน “ไม่ได้เจอกันในรอบเดือน เพื่อนฉันสวยขึ้นมากจ้า” ทับทิมจีบปากจีบคอชมเพื่อน ถึงจะไม่ได้เจอกันแต่เธอกับซีดีพูดคุยกันตลอด รู้ข่าวคราวของเพื่อนรักตลอด รู้ว่าตอนนี้ซีดีมีรักที่ดี เป็นรักที่สวยงามที่ควรค่าแก่การรักษาเป็นที่สุดเลย “แกก็ว่าเกินไป ฉันก็เหมือนเดิมไหม” นิ้วเรียวเกี่ยวเส้นผมไปทัดที่ใบหูเล็กก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งบนที่นั่งตรงข้ามกัน “ดื่มอะไรดี วันนี้ผัวแกมีงานนี่?” “อือ เห็นว่าสองสามวันนี้งานจะยุ่งหน่อย ทำงานให้เจ้านายน่ะ” “แล้วมาเที่ยวกับฉันนี่คือบอกผัวปะ?” “บอกว่ามากินข้าวกัน แล้วฉันก็จะสั่งข้าวจริงๆ” ซีดีหันไปโบกมือเรียกพนักงานให้เข้ามารับออเดอร์ สั่งเมนูอาหารจานเดียวง่ายๆ ทำคนที่ชวนเพื่อนเพราะความเหงามองตามตาเป็นประกาย“มาร้านนั่งชิลคือแกจะมาทานข้าว?”“อือ แกเอาด้วยไหมล่ะ”“

  • ขย้ำรักมาเฟีย   อาชา -63- ขอพร

    “เวลาแบบนี้คือมันต้องมืดมากแล้วนะคะ แต่ทำไมในความมืดมันถึงมีความสว่างอยู่ล่ะ” ซีดีกวาดสายตามองออกไปรอบๆ ตัวเองที่ถูกปกคลุมด้วยเสียงธรรมชาติ มีลมพัดเบาๆ ในขณะที่แสงจันทร์บนฟ้าทำหน้าที่ให้ความสว่างแม้จะเป็นเวลากลางคืนก็ตาม “นานเหมือนกันที่ฉันไม่ได้อยู่กับบรรยากาศแบบนี้ อยู่ที่กรุงเทพนานเกินไป” “สรุปอยากกลับมาอยู่ที่นี่แบบจริงจังแล้วใช่ไหมคะ” “ก็อยากนะ อยากใช้เวลาชีวิตบ้าง อยากมีความรักมีความสุขแบบที่คนอื่นเขามี” “ไม่นึกเลยค่ะว่าจะเห็นคุณในมุมแบบนี้” แว๊บหนึ่งที่ซีดีลอบมองเสี้ยวใบหน้าคม แม้จะเห็นไม่ชัดมากแต่ตลอดเวลาที่คุยกันก็สัมผัสได้ถึงความสุขผ่านน้ำเสียงจริงๆ “ขอโทษนะ…” ตากลมสวยที่กวาดมองออกไปรอบๆ และจมูกเชิดรั้นที่สูดรับอากาศบริสุทธิ์หยุดชะงักก่อนจะตวัดสายตาไปหาอาชาทันที “ขอโทษเรื่องอะไรคะ” “ขอโทษที่ก่อนหน้านี้ฉันเคยคิดหักห้ามใจตัวเอง พยายามที่จะไม่รู้สึกอะไรกับเธอ ไหนจะใช้คำพูดแบบไม่แคร์เธออีก ทุกอย่างมันก็เป็นเพราะฉันหากฉันไม่คิดและทำแบบนั้นเรื่องระหว่างเรามันอาจจะเดินเร็วกว่านี้ก็ได้” “แต่สุดท้ายมันก็ทำให้เรายอมรับหัวใจตัวเองไม่ใช่เหรอคะ อย่างน้อยการที่คุณทำแบบนั้น มันก็ทำ

  • ขย้ำรักมาเฟีย   อาชา -62- มุมที่มีความสุข

    “ให้ฉันได้ดูแลเธอนะ ซีดี” คนถูกขอน้ำตาคลอเบ้า ข้าวปลายังไม่ตกถึงท้องด้วยซ้ำแต่กลับรู้สึกอิ่มเอมขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก “เธอเข้าใจที่ฉันพูด รับรู้ในสิ่งที่ฉันต้องการอธิบายใช่ไหม” คนที่เม้มริมฝีปากกดใบหน้ารับ ไม่กลัวแล้วไม่ว่าจะอุปสรรคหรือใครหน้าไหนที่เคยคิดร้ายกับเธอ ความรู้สึกเหล่านั้นไม่มีเหลือ แค่มีเขาเธอก็รู้สึกปลอดภัย “พ่อกับแม่ไม่มีปัญหาและไม่ติดขัดอะไรอยู่แล้ว ลูกชายมีความรับผิดชอบชาวบ้านเขาก็จะว่าพ่อแม่สอนมาดี แต่อย่าลืมสิ ว่าบ้านเรามันยังมีประเพณีที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานนะ” “ประเพณีเหรอครับ?” อาชาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่ผู้เป็นแม่เองก็ชักสงสัยไม่ต่างกัน“ประเพณีอะไรเหรอพ่อ” “ก็ประเพณีที่ลูกสะใภ้ต้องบอกความรู้สึกและความในใจที่มีต่อลูกชายเราไง จำไม่ได้เหรอว่าตอนที่แม่เข้ามาเป็นสะใภ้บ้านพ่อ แม่ก็เคยผ่านประเพณีนี้มาเหมือนกัน” หางคิ้วของอาชากระตุกตอบรับ ประเพนงประเพณีอะไรไม่เคยได้ยินทั้งนั้น แต่สถานการณ์มันกำลังบ่งบอกว่าพ่อกำลังช่วยลูกชัดๆ พ่อคงเห็นว่าลูกชายรักเขามาก รักจนพร้อมยกทุกอย่างให้เขานั่นแหละ ถึงยอมออกแรงช่วยขึ้นมา “แม่ ยังไม่แก่เท่าไหร่เลยมาทำเป็นหลงเป็นลืมดูทำเข้

  • ขย้ำรักมาเฟีย   อาชา -61- มอบความสุข

    “ครับ เมีย!” เสียงตอบรับที่ชัดถ้อยชัดคำส่งผลให้คนเป็นพ่อแม่หันมองหน้ากันแทบจะทันที เรื่องนี้มันอาจจะเป็นไปได้ เกิดขึ้นได้ แต่มันแปลกตรงที่เด็กคนนี้พิเศษแบบไหนถึงทำให้ลูกชายของพวกเขาหลงรักได้ “อึ้งกันเลยเหรอครับ ลูกสะใภ้ของพ่อน่ารักไหมครับ” “เรื่องน่ารักมันก็น่ารัก แต่ไปรักกันตอนไหนก่อน”“ตอนไหนไม่สำคัญ แต่ตอนนี้รักกันแล้วโอเคไหมครับ” ไม่ว่าเปล่า อาชาตวัดแขนขึ้นโอบบ่าของคนตัวเล็กประกอบคำพูด ใบหน้าคมคายผุดรอยยิ้มจางๆ ถึงจะเป็นภาพที่ค่อนข้างแปลกตาแต่ว่าคนเป็นพ่อแม่ค่อนข้างถูกใจ “หน้าบ้านยุงเยอะ พ่อว่าเราเข้าบ้านกันดีไหม” “ไปๆ เข้าบ้านกันลูก” ผู้เป็นแม่ยิ้มหวานให้คนรักของบุตรชาย จากนั้นก็ปล่อยให้พวกผู้ชายลากกระเป๋าเข้าบ้าน คนเป็นแม่ทำหน้าที่จูงมือสะใภ้สาวเข้าบ้านพร้อมกัน “บ้านพ่อกับแม่เก่าหน่อยนะ เราอยู่กันแบบบ้านๆ ไม่ค่อยจะเหมือนคนกรุงเทพหรอก หนูอยู่ที่กรุงเทพใช่ไหมลูก” “ใช่ค่ะ” ซีดียิ้มรับก่อนจะกวาดสายตามองออกไปรอบๆ บ้าน ยอมรับว่าทุกมุมภายในบ้านแตกต่างจากคอนโดมิเนียมของอาชามาก แต่ทุกมุมบ้านกลับสะอาดสะอ้านเช่นกัน “นั่งก่อนลูก มุมนี้พ่อกับแม่ชอบใช้นั่งๆ นอนๆ ดูทีวีจ้ะ” คนเป็นแม่ดึง

  • ขย้ำรักมาเฟีย   อาชา -60- พาเมียเข้าบ้าน

    “ไม่มีวันเลิกอยู่แล้ว” “ตอนนี้คุณก็พูดได้สิ คำตอบของเขามันไม่ใช่อุปสรรคนี่คะ” “เราไม่ควรมานั่งโกรธกันนะ ที่ฉันไปดูเพราะอยากรู้เผื่อมีสิ่งที่ต้องแก้ไข ทำขนาดนี้แล้วคงรู้ใช่ไหมว่าฉันรักมากแค่ไหน” มือหนาเลื่อนเข้ามาประคองแก้มนิ่ม ส่วนคนที่กำลังหงุดหงิดอยู่ได้แต่ปัดมือนั้นออกห่างทันที “หนูอยากกลับแล้วค่ะ” “แต่ฉันยังมีอีกที่ที่อยากพาเธอไป” “จะพาหนูไปดูดวงที่สำนักไหนอีกหนูไม่อยากไปแล้ว หนูเหนื่อยมาก อยากนอน อยาก…” “ฉันจะพาเธอไปที่บ้านของฉัน” คำตอบที่ดังแทรกขึ้นทั้งที่ซีดียังไม่ทันจบประโยคส่งผลให้เธอชะงัก ตากลมสวยกระพริบถี่ๆ ถึงมันจะตรงต่อใจแต่เธอก็ผิดหวังไปแล้วเช่นกัน“อะไรนะคะ” “ฉันจะพาเธอไปที่บ้านของฉัน ไปรู้จักกับพ่อแม่ของฉันให้เป็นเรื่องเป็นราว” เสียงยืนยันกระตุ้นให้ซีดีลอบกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอด้วยความยากลำบาก มือเรียวยกขึ้นมาลูบใบหน้าของตัวเองเบาๆ ถึงกับไปไม่เป็นเลย“พ่อแม่ของฉันมีลูกแค่คนเดียว เดี๋ยวพาเธอไปฝากเป็นลูกสาวอีกคนดีไหม” “ไม่ได้จะพาไปเพราะหนูกำลังโกรธคุณใช่ไหม”“ตั้งใจจะพาไปอยู่แล้ว ถือโอกาสไปเยี่ยมบ้านด้วยเลย” “แล้วบ้านคุณอยู่ที่ไหนคะ ต้องนั่งรถไกลไหม ต้องเตรียมตั

  • ขย้ำรักมาเฟีย   อาชา -59- เพื่อความมั่นใจ

    “นี่มันวิสัยของคนแก่มีเมียเด็กค่ะ” “แก่แล้วไง มีหัวใจเหมือนกัน” ซีดีคลี่ยิ้มตอบรับคนที่หาเรื่องเถียงแบบข้างๆ คูๆ “เอาเป็นว่าหนูตามใจคุณก็ได้ค่ะ ท้องตอนไหนก็ตอนนั้นโอเคนะคะ” อาชาเคาะปลายนิ้วกับหน้าขาของตัวเองอย่างคนที่กำลังใช้ความคิด แว๊บหนึ่งที่อยู่ดีๆ หนึ่งเหตุการณ์ที่มันเคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ประเดประดังเข้ามาในหัว เอาวะ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องเอาด้วยคาถา ไอ้อาชาสู้ตาย! “อิ่มมาก หนูบอกแล้วว่าขนมจีนร้านนี้อร่อยและได้เยอะมาก ไว้วันหลังเรามาทานกันอีกนะคะ” “สั่งห่อกลับบ้านขนาดนี้ฉันคิดว่าเธอจะอิ่มอีกหลายวันเลยนะ เพิ่งกินมาหมาดๆ ความอยากไม่หายเลย?” “แฮ่ๆ ของชอบนี่คะ” ซีดียิ้มกว้างอวดลักยิ้มเล็กๆ บนแก้ม ตาเป็นประกายเมื่อเห็นขนมจีนน้ำยาอีกชุดที่อยู่ในมือ “เธออยากไปที่ไหนต่อหรือเปล่า” “หนูไม่มีธุระที่ไหนต่อแล้วค่ะ คุณมีงานเหรอคะ” “ไม่เชิงกับว่ามีงาน เอาเป็นว่าถ้าไม่ได้ไปที่ไหนต่อฉันมีที่ที่หนึ่งที่อยากพาเธอไป” “ที่ไหนคะ” ตากลมสวยตวัดมองคนรักด้วยความอยากรู้อยากเห็นก่อนหน้านี้คุยกันเรื่องทายาทสืบสกุล อย่าบอกนะว่าเขาจะพาเธอไปเจอคนที่บ้าน พ่อเขาแม่เขา ญาติพ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status