แกร็ก~
"เกิดอะไรขึ้นครับนาย!" เสียงของอาชาดังขึ้นทันทีที่ประตูห้องนอนถูกผลักเข้ามาอย่างแรง ฮันนี่ดึงชายกระโปรงปกปิดช่วงล่างพร้อมทั้งยกแขนขึ้นบดบังท่อนบนสลับกับการเร่งรีบปกปิดเรือนร่างให้พ้นจากสายตาคนแปลกหน้า มาเฟียหนุ่มตวัดสายตาไปมองลูกน้องคนสนิทอย่างหัวเสียเมื่อเห็นกับตาว่าหญิงสาวตรงหน้าไม่ได้เปลือยโป๊จนเกินไป ตามด้วยการเก็บกางเกงยีนส์ตัวเดิมขึ้นมาสวมใส่แบบลวกๆ "ขอโทษครับ ผมได้ยินเสียงเหมือนคนโดนทำร้าย ผมเลยกลัวว่า..." "มึงคิดว่าผู้หญิงตัวเล็กแค่นี้จะทำอะไรกูได้" ออสตินหมุนตัวกลับไปเท้าสะเอวมองหน้า อาชาก้มหน้างุด คนสนิทของมาเฟียแทบไม่กล้าหันไปมองหญิงสาวเบื้องหลังของผู้เป็นนาย "แต่บนตัวนายมีรอยแดงเหมือนโดนทำร้ายนะครับ" มาเฟียหนุ่มกดปลายลิ้นที่มุมปาก ดวงตาคมกริบลดมองรอยแดงบนอกแกร่ง เป็นจังหวะที่ผู้หญิงในห้องลนลานเอาตัวรอด พยายามจะผละห่างหากไม่ติดที่ว่ามาเฟียหนุ่มรั้งตัวได้ทัน "จะไปไหน" "ปล่อยฉันนะไอ้ผู้ชายเฮงซวย อย่ามาแตะต้องตัวฉัน" เพี๊ยะ! ฝ่ามือเล็กตวัดตบเข้าที่เสี้ยวใบหน้ากระทั่งใบหน้าหล่อเหลาหันไปตามแรงมือ อาชากลืนน้ำลายเหนียวลงคออึกใหญ่ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าทำแบบนี้กับเจ้านายของเขา เป็นไปได้ว่าเธออาจจะโดนสั่งฆ่า ลงโทษที่บังอาจแตะต้องคนที่ไม่ควรแตะ "คิดจะออกไปด้วยสภาพแบบนี้รึไง!" อาชาหรี่ตามองผู้เป็นนายทันที น่าแปลกที่ความห่วงใยที่อาจจะมีเพียงน้อยนิดหลุดออกมาจากปากของออสติน "อย่ามายุ่งกับฉัน อย่าให้ฉันต้องใช้แจกันฟาดหน้าหล่อๆ ของนาย" "เหอะ..." ออสตินเค้นเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ ยอมรับว่าเรื่องเซอร์ไพรส์ที่เขาบังเอิญพบเข้ามันทำให้เขายังไม่อยากปล่อยเธอไป "ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า อาชาจะเป็นคนไปส่งเธอที่บ้านเอง" ฮันนี่ไม่อยากเชื่อ ดวงตากลมสวยที่มีหยาดน้ำตาหล่อเลี้ยงอยู่ในนั้นกลอกกลิ้งไปมา มาเฟียหนุ่มจึงเลือกที่จะปล่อยมือ "ห้องน้ำอยู่ฝั่งโน้น จัดการตัวเองให้เรียบร้อยแล้วค่อยออกไป ส่วนมึง...ออกไปรอข้างนอก" "ครับ" อาชาขานรับแล้วผละตัวออกจากห้องทันที ราวยี่สิบนาทีให้หลังที่ประตูห้องนอนถูกเปิดออก มาเฟียหนุ่มที่นั่งสูบบุหรี่ที่ริมระเบียงหันกลับมามองร่างเล็กที่เริ่มเคลื่อนไหว ฮันนี่ออกมาจากห้องพร้อมเสื้อเชิ้ตของเขาที่อยู่บนลำตัวของเธอ เธอไม่ได้อยากมองหน้าไอ้ผู้ชายเฮงซวยเจ้าของเสื้อเลยแม้แต่นิดเดียว "ฉันไม่ได้อยากหยิบเสื้อของใครมาใส่ แต่แกนั่นแหละที่ทำให้ฉันใส่ชุดเดิมต่อไม่ได้" คนฟังเคาะบุหรี่อย่างใจเย็น ควันขาวคลุ้งที่ลอยอบอวลอยู่ในอากาศส่งผลให้หญิงสาวเบือนหน้าหนี "หวังว่าต่อจากนี้เราจะไม่พบกันอีก อย่ามายุ่งกับฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งความ" "นามบัตรของฉันอยู่ในกระเป๋าของเธอ เผื่อว่าเรามีเรื่องต้องตกลงกัน" ฮันนี่ชะงัก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขายุ่งวุ่นวายกับกระเป๋าสะพายของเธอ "เหอะ!" หญิงสาวเค้นเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะเริ่มสาวเท้า ข่มความเจ็บปวดเดินผ่านหน้าปีศาจตัวร้ายที่เกือบขย้ำเธอให้แหลกคาเตียงออกมาอย่างรวดเร็ว อย่าฝันว่าเธอจะมาตกลงอะไรกับคนอย่างเขา ทันทีที่พ้นจากที่นี่ เธอจะขย้ำนามบัตรใบนั้นให้แหลกคามือ! เสียงเปิดกระเป๋าในตอนที่ลงมาถึงชั้นจอดรถส่งผลให้อาชาหันกลับไปมองหญิงสาวที่เป็นต้นเหตุให้เขาต้องรับหน้าที่พลขับในยามวิกาล คนสนิทของมาเฟียขมวดคิ้วยุ่งในตอนที่พบว่าคนตัวเล็กล้วงนามบัตรออกมาจากกระเป๋า ขย้ำจนยับคามือก่อนจะทิ้งขว้างออกไปอีกทาง "นั่นนามบัตรของนาย?" "ฉันไม่ได้ต้องการ" "..." "ฉันจะบอกอีกครั้งนะ ฉันไม่รู้จักผู้ชายคนนั้น ฉันไม่รู้จักเจ้านายของคุณ ที่วันนี้พบกันมันก็เป็นเพราะฉันรับงานเพราะอยากได้เงินก็เท่านั้น ฝากบอกเขาด้วยว่าต่อไปนี้ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน ฉันจำหน้าเขาได้ หน้าคุณฉันก็จำแม่น อย่าให้ฉันได้ร้าย ฉันเอาพวกคุณติดคุกหัวโตแน่!" คนสนิทของมาเฟียยิ้มมุมปาก ไม่มีคำพูดใดเล็ดลอดออกมาจากปากของอาชา เพนต์เฮาส์ของออสติน "เธอชื่อฮันนี่ครับ นักศึกษาปีสี่ของมหา'ลัยชื่อดัง แม่ของเธอเป็นแม่ค้า เปิดร้านขายอาหารตามสั่ง" "ยัยนั่นเป็นลูกแม่ค้าขายอาหารตามสั่ง?" "ครับ...เธอสวยมากเลยใช่ไหมครับ" อาชาหรี่ตามองผู้เป็นนายอย่างจับผิด สุดท้ายก็ประสานสายตาเข้ากับดวงตาคมกริบที่มองมาอย่างไม่พอใจ "ที่คุณฮันนี่เธอดูดีผิดหูผิดตา เพราะเธอเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างดูแลตัวเองครับ เธอฉีดวิตามินผิวทุกสามเดือน ทั้งหน้า ผม แม้แต่เล็บก็ยังมีการดูแลอยู่เสมอ เธอต้องดูดีเพราะอยากทำงานที่มันได้เงินเยอะๆ เธอไม่อยากให้แม่ของเธอลำบากครับ" "หึ จะใช้ความสวยเป็นตัวเบิกทางสินะ" "ผมว่า คุณฮันนี่กับผู้หญิงของคุณซานย์...เป็นคนละคนกันนะครับ" "ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร กูอยากได้ พวกมึงไปสืบมา!" "สืบ? สิ่งที่ผมรายงานนายไปเมื่อสักครู่มัน..." "ต้องลึกกว่านี้ นอกจากจะเป็นใครมาจากไหน ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและผู้ชายที่เธอสั่งให้มึงกระทืบมันเป็นยังไง รู้จักกี่วัน คบหามากี่เดือน ไปสืบมา" "ให้ผมไปสืบเรื่องของเธอกับผู้ชายคนนั้น แล้วเรื่องของคุณซานย์ล่ะครับ" มาเฟียหนุ่มทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่าง แว๊บหนึ่งที่มุมปากหนาผุดรอยยิ้มบางๆ "แค่ทำตามคำสั่งเท่านั้นก็พอ" "ครับ" อาชาพินิจผู้เป็นนายในระยะเวลาสั้นๆ จากนั้นก็เลือกที่จะถอยกลับที่เดิม อีกด้าน "...ฮันนี่ วันนี้กลับบ้านเหรอลูก" มาลีเอ่ยถามบุตรสาวเพียงคนเดียวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเฉกเช่นทุกครั้ง ส่วนคนที่แอบร้องไห้ เพียงเพราะนึกถึงชะตากรรมที่เธอเพิ่งเผชิญมาหมาดๆ ก็ได้แต่กรีดยิ้มกลับไป "อยากกินไข่เจียวกรอบๆ ฝีมือแม่ค่ะ ขอจานฟูๆ หนึ่งจานด่วนเลยได้ไหมคะ" "มาถึงก็อ้อนแม่เลยนะ ว่าแต่..ทำไมแต่งตัวแบบนี้ล่ะลูก" ฮันนี่แอบชะงักไป กว่าจะมาคิดได้ว่าเธอไม่ควรสวมใส่เสื้อผู้ชายคนนั้นกลับมาที่บ้าน สุดท้ายแล้วความรู้สึกแย่ๆ ที่ประเดประดังเข้าใส่มันก็ทำให้เธออยากกลับมาเห็นหน้าผู้เป็นแม่ให้เร็วที่สุด ไม่อยากปล่อยตัวเองให้จมอยู่กับความรู้สึกแย่ๆ ไปมากกว่านี้ "อ๋อ มันเป็นคอนเซ็ปต์งานค่ะแม่ คนอื่นเขาก็ใส่แบบนี้กันนั่นแหละ" "เหรอ...แม่ว่ามันดูแปลกๆ นะ แต่ว่าลูกสาวแม่สวย ไม่ว่าจะใส่อะไรก็ดูสวยหมดนั่นแหละ" "จะสวยเหมือนใครล่ะคะ ก็ต้องเหมือนแม่น่ะสิ" ฮันนี่คลี่รอยยิ้มก่อนจะรีบเดินเร็วๆ เข้าไปหาผู้เป็นแม่ สอดแขนเข้าไปโอบกอดท่านเอาไว้ พยายามอย่างยิ่งที่จะเรียกเรี่ยวแรงและกำลังใจของเธอให้มันกลับคืนมา "หืม มากอดอะไรแม่ตอนนี้ล่ะ แม่ทำกับข้าวทั้งวัน เหม็นกลิ่นอาหารกลิ่นควันนะลูก" "หนูรักแม่นะคะ สักวันหนูจะทำให้แม่สบาย แม่จะไม่ลำบากแบบนี้ ไว้หนูหาตังค์ได้เยอะๆ แล้วเราไปซื้อบ้านกันนะคะ" มาลียังยิ้มได้ทุกครั้งเวลาที่บุตรสาวกล่าวถึงอนาคต มือแม่ลูบเบาๆ ที่ศีรษะทุยเล็ก ตั้งแต่วันที่พ่อของลูกเฉลยความจริงว่ามีภรรยาอยู่แล้วและเธอเป็นคนที่มาทีหลัง กำลังใจเพียงหนึ่งเดียวและคนเพียงคนเดียวที่อยู่เคียงข้างก็คือฮันนี่ไปโดยปริยาย "เรียนจบก่อนก็ได้นะลูก เรียนไปทำงานไปแม่กลัวหนูไม่ไหว แม่ไม่อยากให้หนูเหนื่อยเกินไป แม่ขายของส่งหนูเรียนได้" หากจะให้เธออยู่อย่างสุขสบาย แล้วปล่อยให้ผู้เป็นแม่จับตะหลิวทำอาหารทั้งวันจนข้อมือเคล็ด เธอยอมเรียนไปทำงานไปดีกว่า "อ๋อ อาร์ตโทรหาแม่ถามถึงฮันนี่ด้วยนะลูก ทะเลาะอะไรกันหรือเปล่า น้ำเสียงของเขาไม่ค่อยดีเลย" "อาร์ต..." "หืม?" มาลีหรี่ตามองคนในอ้อมกอดน้อยๆ พอฮันนี่รู้ตัวว่าเธอลืมใช้สรรพนามเหมือนที่เคยใช้ ก็จำเป็นต้องรีบปรับเปลี่ยนคำพูดโดยไว "พี่อาร์ตโทรหาแม่ตอนไหนคะ" "ราวชั่วโมงก่อนเห็นจะได้ ฝากบอกแม่ไว้ว่าหากหนูกลับมาให้หนูติดต่อกลับไปหาพี่เขาทันที ไม่อย่างนั้นเขาจะตามมานั่งเฝ้าลูกแม่ที่นี่นะ ลูกคนนี้นี่ เสน่ห์แรงจริงๆ เลย" น้ำเสียงของมาลียังเจือไปด้วยความอบอุ่นเช่นเดิม แฟนหนุ่มของบุตรสาว คือคนที่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อน รู้หรอกว่าลูกสาวตัวน้อยๆ เสน่ห์แรงใช่ย่อยเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใจคนฟังตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม อาร์ตคงไม่ปล่อยเธอให้เป็นอิสระแบบที่เธอต้องการ ------ ฝากน้องฮันนี่ไว้ในอ้อมกอดของทุกคนด้วยนะคะ 🥰"มันไม่เกินไปเหรอครับ" "มึงไม่เห็นเหรอว่ายัยนั่นปีนเกลียวกับกูแค่ไหน กูนอนด้วย ไม่ได้หมายความว่ากูจะยอมทุกอย่างนะอาชา" "แต่ตอนนี้ฝนแรงมากเลยนะครับ คนมองเยอะอีกต่างหาก" "ใครเข้ามาเสือกมึงก็บีบแตรไล่มัน" อาชาเผลอถอนลมหายใจออกมาอย่างไม่รู้ตัวเขารู้ว่าการปล่อยปละละเลยทุกอย่างมากเกินไป ออสตินจะเสียการควบคุม แต่นี่มันก็เกินไป"ไม่สงสารเธอหน่อยเหรอครับ อย่างน้อยๆ คุณฮันนี่ก็คือสาเหตุที่ทำให้ฝันร้ายของนายหายไป" "ปกติมึงไม่ยุ่งขนาดนี้นะอาชา ยัยนั่นเป็นเมียมึงรึไง!" "ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ เพราะถ้าเป็นผู้หญิงของผม ผมไม่ทำร้ายเธอแน่นอน" "..." "ไม่ใช่แค่กับคุณฮันนี่หรอกนะครับ แต่หมายถึงกับผู้หญิงทุกคน" "..." "รู้แหละครับว่านายไม่จริงจัง แต่ถ้ายังอยากได้จนยอมจ่ายถึงวันละสองหมื่น ดูแลเอาหน่อยครับ เดี๋ยวเธอจะเปลี่ยนใจ" อาชาจี้ได้อย่างถูกจุดมาเฟียหนุ่มไม่ยอมเสี่ยงหรอก เขาไม่ยอมเสี่ยงที่จะปล่อยเธอไปแน่หากยังไม่ได้พิสูจน์ว่าในวันที่ไม่มีผู้หญิงคนนี้จริงๆ ฝันร้ายมันจะยังอยู่หรือเปล่า"เปิดประตู" สุดท้ายออสตินก็เลือกที่จะเอ่ยคำนี้ออกมาคนสนิทของมาเฟียจัดการประตูให้เปิดออกอัตโนมัติ หลังจากนั้นก็
ฮันนี่ก้าวขาออกมาจากห้องน้ำ แต่กลับเจอกับอาชาที่ยืนรออยู่คนตัวเล็กถอนลมหายใจออกมาหนักๆ สุดท้ายก็จำใจถามออกไป"มีอะไรอีก" "นายให้ผมมารับคุณฮันนี่ครับ รถจอดรออยู่ทางด้านโน้น เราไม่ควรปล่อยให้นายรอนาน" คนสนิทของมาเฟียผายมือไปอีกด้าน คิดอยู่แล้วว่าผู้หญิงของเจ้านายคงไม่พอใจแน่"วันนี้ฉันมีเรียน และนี่มันก็มหา'ลัย เขาไม่ล้ำเส้นฉันเกินไปเหรอ?" "ผมเคลียร์กับอาจารย์ให้แล้วครับ รับรองว่าการไปกับนายมันจะไม่มีผลกระทบอะไร" "อ้อ...มีอำนาจเหลือเกินนะ คนอย่างเขาอยากได้อะไรเขาก็จะเอาให้ได้จริงๆ" ฮันนี่ยกมือขึ้นสางเส้นผมของตัวเองอย่างหงุด สุดท้ายก็ยอมเดินไปตามทิศทางที่อาชาบอกแต่โดยดีเครื่องปรับอากาศภายในรถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาชาเคลื่อยรถออกจากมหา'ลัย เป็นจังหวะที่ผู้เป็นเจ้านายของเขาเปิดประเด็นขึ้นมา"ทีหลังอย่าเดินหนีฉันแบบนั้นอีก ฉันไม่ชอบในสิ่งที่เธอทำ" "ฉันเองก็ไม่ชอบสิ่งที่คุณทำเหมือนกัน ฉันควรมีเวลาส่วนตัวของฉันบ้าง ที่นั่นเป็นมหา'ลัย มันไม่ควรมีใครต้องไปยืนทะเลาะกันจริงๆ" "อาชา" "ครับ" "จัดการไอ้เวรนั่นด้วย ทำให้มันหยุด และไม่กล้าเข้ามาทำให้ฉันรำคาญอีก" ฮันนี่ขมวดคิ้วทันที"คุณ
หมับ~ "อย่าเดินหนีฉัน!" ออสตินออกคำสั่งขณะบีบข้อมือเล็กเอาไว้แน่นเขาไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงจะใจอ่อนกับแฟนเก่าแค่ไหน ไม่รู้ว่าเธอจะชอบสิ่งที่ไอ้เวรนี่ทำหรือไม่ และไม่รู้ว่าเธอยังอยากลองกลับไปคบกับมันอีกหรือเปล่า สิ่งเดียวที่เขารู้ ตราบใดที่ฮันนี่ยังเป็นคนของเขา ใครไหนหน้าก็ไม่มีสิทธิ์เข้ามาวุ่นวาย"ฉันอายคน" "เธอไม่..." "ย้ำนะออสติน ฉันอายคนอื่น อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว คุณกลัวว่าคนอื่นจะมายุ่งกับของเล่นของคุณมันไม่ใช่เรื่องผิด แต่ขอร้องเถอะนะ การที่คุณมาประกาศต่อหน้าคนอื่นว่าได้ฉันแล้ว มันทำให้คนอื่นรับรู้และตราหน้าว่าฉันโคตรง่ายเลย" ฮันนี่ปัดมือหนาออกห่างอย่างไม่ใยดีต่อให้จะสำเหนียกสถานะของตัวเองดีแค่ไหน ลึกๆ แล้วมันก็อดเสียใจไม่ได้อยู่ดี"หึ ต่อให้มึงจะได้ตัวเขา มันก็ไม่ได้หมายความว่ามึงรู้จักเขาที่สุด" อาร์ตยิ้มเยาะ เขามั่นใจว่าเขารู้จักฮันนี่ดีในระดับหนึ่ง สีหน้าที่เธอแสดงมันออกมาเมื่อสักครู่บ่งบอกชัดเจนว่าเธอไม่พอใจ"เสือกไรกับกู" น้ำเสียงที่เกรี้ยวกราดและการกัดกรามจนเป็นสันนูน เป็นสัญญาณเตือนที่ทำให้อาชาที่มองเหตุการณ์อยู่ห่างๆ รู้สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตนายขอ
มหาวิทยาลัย"วิดวิ้ว~" เสียงแซวดังมาตามสายลมในยามที่ร่างแบบบางในชุดนักศึกษาที่กระโปรงทรงเอสั้นเพียงต้นขา เสื้อสีขาวสะอาดเรียบกริบพอดีตัวเป๊ะใบหน้าที่สวยเป็นทุนเดิมอยู่แล้วแต่งแต้มด้วยความสำอางบางๆ วันนี้ฮันนี่ดัดผมเป็นลอนในช่วงปลาย ผิวทั้งตัวขาวละเอียดสมกับที่ดูแลตัวเองมาเป็นอย่างดีและเข้าคลินิกเติมวิตามินผิวอยู่สม่ำเสมอ รองเท้าส้นเข็มที่ฮันนี่สวมใส่ส่งผลให้คนตัวเล็กดูเพียวขึ้นกว่าเก่า ไม่แปลกที่อดีตเคยเป็นถึงดาวคณะ"ฮันนี่ ทางนี้" โมจิโบกไม้โบกมือ กระตุ้นให้เพื่อนสาวที่สวยและฮอตมากของเธอดูโดดเด่นมากกว่าเก่า หนึ่งในสายตาหลายต่อหลายคู่มีดวงตากลมสวยของสาวสวยในกลุ่มของเดือนคณะที่มองตาม"วันนี้แกสวยจัง" "อะไรอ่ะ มาไม้ไหนไม่ทราบ" ฮันนี่ปลดกระเป๋าสะพายข้างออกมาบ่า วางลงบนโต๊ะตามด้วยการล้วงโทรศัพท์ออกมา"ความขาวออร่าเจิดจ้ามาตั้งแต่ไกลๆ แบบนี้ไหมนะ พี่แบงค์เจ้าของโชว์รูมรถถึงได้อยากให้โอกาสสาวสวยคนนี้ไปร่วมงาน""หืม? พี่แบงค์ ฉันเสียมารยาททิ้งเขาไว้แบบนั้นเขายังจะให้โอกาสฉันงั้นเหรอ" "ใช่จ้ะ เขายังรอแกอยู่นะ นี่...ถามจริงเถอะ ช่วงนี้แกเช็กดวงรายวันมาบ้างปะ รู้สึกว่าช่วงนี้แกขาขึ้นนะ ดวงดี
"อื้อออ!" ฝ่ามือเล็กขยุ้มผ้าปูที่นอนอย่างแรง พอๆ กับฝ่าเท้าที่จิกเกร็งลงบนบ่ากว้างเรี่ยวแรงของร่างกายดับวูบเมื่อริมฝีปากร้อนฉกชิมเข้ากับใจกลางความเป็นสาวในเวลาอันรวดเร็วนิ้วยาวเหยียดแหวกกลีบสีชมพูเรื่อ ลากปลายลิ้นไปกับเนินสามเหลี่ยมอวบนูนไร้ขนอ่อนตามด้วยการกดปลายนิ้วเข้าหาร่องแคบ กระทั้นเข้าลึกจนสุดความยาวของมันในครั้งเดียว"ออสติน..." เสียงครางเพราะความเสียวซ่านสร้างความพึงพอใจให้กับมาเฟียหนุ่มไม่น้อยดวงตาคมที่ประกายความพอใจตวัดขึ้นมองใบหน้าสะสวย กลีบปากร้อนบดเข้ากับจุดอ่อนไหว ขบเม้มสลับกับการตวัดปลายลิ้นทักทายแรงๆ"อ๊ายยยย!" ฮันนี่ปลดปล่อยมวลน้ำหวานออกมาอย่างสุดจะกลั้น มาเฟียหนุ่มรั้งปลายนิ้วที่ควานเข้ากับผนังอ่อนนุ่มจนกระทั่งเธอสุขสมกลับพลางยกยิ้มที่มุมปากไม่ลืมที่จะสอดปลายนิ้วที่เปรอะธารน้ำหวานเข้ามาในช่องปาก การดูดแรงๆ แล้วกลืนกินทำฮันนี่ตาโตทันที"บ้า คุณมันโรคจิต" "หึ" ออสตินไม่ได้สะทกสะท้านกับคำด่าเท่าไหร่นัก หนุ่มหล่อหยัดตัวลุกจนเต็มความสูง ปลดเข็มขัดหนังพลางถอดกางเกงที่สวมใส่ จ่อความใหญ่โตเข้าหาช่องทางคับแคบ ก่อนจะอัดกระแทกเข้าใส่จนสุดความยาวของมันในครั้งเดียวปึก! "อ
"แม่..." ฮันนี่อมยิ้มให้กับคำพูดที่ไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อนแม้กับอาร์ตแฟนเก่าที่เธอคบหามาเป็นปีๆ แม่ก็ไม่เคยชมจนออกนอกหน้าแบบนี้เหมือนกัน"ฮันนี่ ตักข้าวได้แล้วลูก" "ค่าา รับทราบค่ะ" คนที่ยังอยู่ในชุดนักศึกษาฉีกยิ้มกว้าง ฮันนี่รีบลุกขึ้นตักข้าว การเคลื่อนไหวของเธออยู่ในสายตาของอีกคนตลอดเวลา"แม่ว่าแบบเผ็ดก็อร่อยนะลูก รสจัดจ้าน ทำให้ไม่รู้สึกเลี่ยน""ครับ" "นี่ คุณพูดกับแม่เยอะๆ หน่อยสิ ปกติแม่ไม่ค่อยคุยกับใครแบบนี้เลยนะ" "แม้กับแฟนเก่าเธอ?" ออสตินถามออกมาแบบซึ่งๆ หน้า เลยเป็นฮันนี่ที่เลิ่กลั่กก่อนจะรีบพยักหน้าออกมา"อือ" "หึ..." รอยยิ้มเย้ยหยันบนมุมปาก แสดงออกให้เห็นว่าเขาไม่ได้อยากจะเชื่อเท่าไหร่นักแต่ก็เอาเถอะ เรื่องนั้นค่อยเคลียร์ทีหลังก็แล้วกัน"แม่ขา กินเยอะๆ เลยนะ แม่ทำงานหนักทุกวันเลยอ่ะ" "ลูกคนนี้นี่ ไม่ได้หนักหนาขนาดนั้นสักหน่อย" "ไม่เชื่อหรอกค่ะ ยืนจับตะหลิวจนข้อมือร้าวหมดแล้วมั้ง คอยดูเถอะ วันไหนรวยขึ้นมา จะบังคับให้แม่เลิกขายของทันทีเลย แม่ต้องรับปากหนูด้วยนะ วันไหนรวย เราจะสวยและสบายไปด้วยกัน" "ดูพูดเข้า แม่ไม่เลิกหรอก ให้อยู่เฉยๆ แม่ทำไม่ได้หรอกนะ ลูกสาวแม่ตัวเล