ในเวลาเดียวกันขวัญรดาที่ตื่นนอนแต่เช้า ก็กำลังนั่งอยู่บนแคร่หน้าบ้านทำทีเป็นช่วยอาม่าเด็ดใบตำลึงแต่ในใจกลับร้อนรนกระสับกระส่ายอย่างที่สุด
สายตาของเธอมักจะมองไปทางหน้าบ้านเป็นระยะ ๆ เพื่อรอคอยการกลับมาของป๊าและรอฟังรายงานจากสหายตัวน้อยแสนวิเศษ
และแล้วการรอคอยของเธอก็ดูเหมือนจะสิ้นสุด เมื่อเด็กหญิงเห็นร่างวิญญาณของเจ้าทองลอยมาด้วยรอยยิ้มกว้าง 'พี่สาว สำเร็จแล้วป๊าของพี่กำลังจะถึงบ้านแล้วจ้ะ' เจ้าตัวน้อยรายงานด้วยความตื่นเต้น
และยังไม่ทันที่ขวัญรดาจะแสดงอาการอะไรออกมา เธอก็เห็นร่างสูงใหญ่ที่คุ้นเคยของป๊าเดินโซซัดโซเซกลับมาถึงบ้าน เขาดูเหนื่อยอ่อนและอิดโรยมากกว่าทุกวัน หลังจากผ่านคืนทำงานอันหนักหน่วง
ชายหนุ่มไม่ได้พูดคุยกับใคร เจ้าตัวทำเพียงเดินตรงเข้าไปยังห้องนอนกลางบ้าน และถอดกางเกงขายาวตัวที่ใส่ออกไปข้างนอกเหลือเพียงกางเกงขาสั้นด้านใน ก่อนจะแขวนกางเกงตัวนั้นไว้บนตะปูที่ตอกไว้ข้างฝาผนัง และล้มตัวลงนอนบนเสื่อแล้วผล็อยหลับไปแทบจะในทันที
ซึ่งในตอนนี้ ขวัญรดากำลังรู้สึกลิงโลดอยู่ในใจ'โอกาสมาแล้ว!' เธอคิด แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ผลีผลาม จนกระทั่งเห็นว่าแม่กับอาม่าเริ่มง่วนอยู่กับการเตรียมมื้อเช้าที่หลังบ้าน และมนัสน้องชายของเธอก็กำลังนั่งเล่นดินอยู่คนเดียวอย่างมีความสุข
(ตอนนี้แหละ!) เมื่อเห็นว่าสบโอกาสที่เธอจะลงมือทำแผนการใหญ่ เด็กหญิงจึงได้ส่งกระแสจิตเรียกผู้ช่วยของตน
'เจ้าทอง...ถึงเวลาแล้ว'
'รับทราบพี่สาว!' กุมารน้อยที่ลอยตัวอยู่ไม่ไกล ตอบรับทันที
'เธอช่วยไปดูลาดเลาที่หลังบ้านให้หน่อย...ถ้าเห็นแม่กับอาม่ากำลังจะเดินกลับมาทางนี้ รีบส่งสัญญาณให้ฉันรู้ทันทีเลยนะ'
'ได้เลยจ้ะ!' เจ้าทองกล่าวอย่างมั่นใจ ก่อนจะยกมือตบอกของตนพูดออกมาอีกเป็นการยืนยัน 'เรื่องแค่นี้ พี่สาววางใจหนูได้เลย!' เมื่อพูดจบเจ้าตัวน้อยร่างโปร่งแสงก็ลอยทะลุฝาบ้านหายไปทางหลังบ้านอย่างรวดเร็ว
ขวัญรดามองตามด้วยรอยยิ้มอย่างเอ็นดู และเมื่อมีคนคอยดูต้นทางให้แล้วเด็กหญิงก็สูดหายใจเข้าปอดลึกเพื่อรวบรวมความกล้า เธอเริ่มแผนแรกด้วยการหยิบตุ๊กตาไม้ตัวเล็กของน้องชายขึ้นมาถือไว้ เผื่อว่าถ้ามีใครมาเห็นจะได้ใช้เป็นข้ออ้างว่าเธอนำของเล่นมาให้น้องนั่นเอง
เด็กหญิงค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้นก้าวเท้าเปล่าเล็ก ๆ ของตนลงบนพื้นไม้กระดานอย่างแผ่วเบาราวกับแมวที่กำลังย่องเข้าหาเหยื่อ ปลายเท้าของขวัญรดาเขย่งขึ้นสูงเล็กน้อยและค่อย ๆ ย่องเข้าไปในห้องนอนกลางบ้านอย่างเชื่องช้า...หัวใจของเด็กหญิงเต้นแรงจนเสียงดังตึกตักอยู่ในหู
ภายในห้องค่อนข้างสลัว มีเพียงแสงแดดยามเช้าที่ส่องลอดเข้ามาเป็นลำ เคล้าคลอด้วยเสียงกรนที่ดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอของป๊าเท่านั้นที่ดังอยู่ในความเงียบ ขวัญรดาค่อย ๆ ก้าวไปทีละนิด...ทีละนิด
เอี๊ยด... แต่แล้วเสียงไม้กระดานแผ่นหนึ่งก็ได้ลั่นขึ้นเบา ๆ และเสียงนี้ก็ได้ทำให้ร่างทั้งร่างของเด็กหญิงแข็งทื่อ เธอหยุดนิ่งกลั้นหายใจ พร้อมกับมองไปยังร่างของป๊าที่นอนหลับอยู่บนเสื่อ...โชคดีที่เขาเพียงแค่ขยับตัวเล็กน้อยแล้วก็กรนต่อไป
ขวัญรดาถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา ก่อนที่เธอจะเริ่มย่องปลายเท้าของตนต่อไปจนกระทั่งมาหยุดยืนอยู่หน้ากางเกงทำงานตัวเก่าที่แขวนอยู่บนตะปูข้างฝาผนัง ซึ่งมันแขวนอยู่สูงเกินกว่าที่เด็กห้าขวบจะเอื้อมมือถึงได้โดยง่าย
จึงทำให้เธอต้องเขย่งปลายเท้าจนสุด พร้อมกับเหยียดแขนเล็ก ๆ ของตนขึ้นไปจนเกินเอื้อม...และแล้วความพยายามของเด็กหญิงดูเหมือนว่าจะได้ผลเมื่อปลายนิ้วของเธอค่อย ๆ สัมผัสกับขอบกระเป๋ากางเกงที่หยาบและชื้นเหงื่อ
จากนั้นเธอก็ค่อย ๆ ล้วงมือเข้าไปอย่างช้า ๆ จนสัมผัสได้ถึงเศษเหรียญไม่กี่เหรียญ...เศษด้าย...และแล้วปลายนิ้วของเธอก็สัมผัสเข้ากับกระดาษที่พับไว้ใบหนึ่ง
ในจังหวะที่เธอกำลังจะดึงมันออกมานั่นเอง...
"อือ..."
เสียงครางในลำคอของป๊าที่พลิกตัว ทำให้ขวัญรดาสะดุ้งสุดตัวและชักมือกลับออกมาโดยอัตโนมัติ! หัวใจของเธอแทบจะหยุดเต้น เธอยืนตัวแข็งทื่อไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ เด็กหญิงได้แต่ยืนตัวลีบรออยู่หลายวินาทีจนกระทั่งเสียงกรนของป๊าดังขึ้นเป็นปกติอีกครั้ง
'พี่สาว! อาม่ากำลังล้างมือ! เหมือนจะเดินมาทางนี้แล้ว!' เสียงของเจ้าทองดังขึ้นในหัวอย่างร้อนรน
ซึ่งตอนนี้เธอไม่มีเวลาให้ลังเลแล้ว! ขวัญรดารวบรวมความกล้าทั้งหมดเป็นครั้งสุดท้าย เธอเอื้อมมือขึ้นไปอีกครั้ง คราวนี้เธอคว้าสลากใบนั้นออกมาอย่างรวดเร็วแล้วกำมันเอาไว้ในอุ้งมือแน่น ก่อนจะรีบย่องหันหลังกลับออกจากห้องนอนกลางบ้านไปทันที
และในตอนที่เดินออกมาเจ้าตัวก็สวนกับอาม่าที่กำลังเดินออกมาจากหลังบ้านพอดี หญิงชรามองหลานสาวแวบหนึ่งแต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะเห็นว่าในมือของเธอมีตุ๊กตาไม้ของน้องชายอยู่
ขวัญรดาจึงเดินตัวลีบกลับมานั่งที่แคร่ไม้หน้าบ้านตามเดิม หัวใจของเธอยังคงเต้นระรัวไม่หยุด เด็กหญิงค่อย ๆ แบมือที่กำแน่นจนชื้นเหงื่อออก...
และเธอก็ได้เห็นสลากกินแบ่งรัฐบาลใบเล็กที่พับไว้อย่างลวก ๆ นอนนิ่งอยู่ในอุ้งมือของตัวเอง และเพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งที่เธอหยิบออกมานั้นคือสลากกินแบ่งรัฐบาลของจริง
แต่ว่ายังไม่ทันที่เธอจะได้ตรวจสอบให้แน่ชัด ร่างโปร่งแสงของเจ้าทองก็ได้ลอยเข้ามาใกล้ ๆ ด้วยท่าทีตื่นเต้นเสียก่อน
"เป็นยังไงจ๊ะพี่สาว! สำเร็จไหม!" กุมารน้อยกระซิบถามในห้วงความคิด
ขวัญรดาที่ยังคงเหนื่อยหอบจนพูดไม่ออก ทำได้เพียงพยักหน้าลงหนึ่งครั้งเป็นการยืนยัน ดวงตาของเธอยังคงเบิกกว้างจากความตื่นเต้นไม่หาย
"เย้! พี่สาวเก่งมากเลย" เจ้าทองดีใจจนทำท่าตีลังกากลางอากาศ จึงทำให้ขวัญรดาอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
และในตอนนี้แม้ว่าเธอจะโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง แต่จิตวิญญาณของหญิงชราในร่างเด็กก็ยังคงไม่วางใจทั้งหมด
'สลากใบนี้จะเป็นใบที่ถูกรางวัลหรือเปล่านะ' เจ้าตัวครุ่นคิดเนื่องจากความผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อยคือสิ่งที่เธอไม่อาจยอมรับได้ ในแผนการที่เดิมพันด้วยอนาคตของครอบครัว
หลังจากนั้น ด้วยความที่เธอต้องการความมั่นใจ เด็กหญิงจึงได้แสร้งทำเป็นหลับตาลงทำทีเป็นพักผ่อน แต่ในใจของเธอกำลังตั้งสมาธิเพื่อสื่อสารกับระบบแมวกวัก
'ระบบ...ช่วยตรวจสอบวัตถุในมือของฉันที ว่าใช่สลากที่จะถูกรางวัลในงวดหน้าหรือไม่'
ติ๊ง!
หน้าต่างแสงสีทองปรากฏขึ้นในม่านตาของเธออย่างรวดเร็ว
[รับคำสั่ง... เริ่มกระบวนการสแกนวัตถุ วัตถุ: สลากกินแบ่งรัฐบาล ฉบับลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2526 กำลังตรวจสอบข้อมูล...เปรียบเทียบกับเส้นทางโชคชะตาในอนาคตดั้งเดิม...การเปรียบเทียบเสร็จสิ้น...]
ขวัญรดากลั้นหายใจ...
[ผลการวิเคราะห์: ยืนยัน! สลากใบนี้ตรงกับสลากที่ถูกรางวัลที่ห้า มูลค่า 10,000 บาท ในเส้นทางโชคชะตาเดิม 100%!]
สิ้นคำยืนยันจากระบบ ขวัญรดาก็แทบจะหมดแรง ร่างเล็กของเธออ่อนยวบลง เพราะมันคือความโล่งใจอย่างที่สุด... และแผนการหยิบยืมของเธอก็ได้สำเร็จแล้วจริง ๆ
ก่อนที่เด็กหญิงจะก้มลงมองสลากในมืออีกครั้งหลังลืมตาบัดนี้มันไม่ใช่แค่กระดาษอีกต่อไป แต่มันคือเงินทุน คืออนาคต คืออิสรภาพของครอบครัวที่อยู่ในกำมือเล็ก ๆ ของ เธอเอง
เด็กหญิงพับสลากใบนั้นอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนจะซ่อนมันไว้ในชายขอบกางเกงที่ม้วนทับกันอย่างแน่นหนา...เพื่อรอคอยเวลาที่จะส่งมอบสมบัติชิ้นนี้ให้กับผู้ที่เหมาะสมมากที่สุด...ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากแม่ช่อฟ้าของเธอเอง