พอลงจากรถ ดาวทำท่าจะเอาของตัวเองไปเก็บที่ห้องแต่เดชรีบกุลีกุจออาสาเอาของชอปปิงไปเก็บให้แทน
ส่วนดาวถูกคู่แฝดสั่งห้ามอย่าเพิ่งไปไหน ทำเอาเขางงหนักที่ทั้งคู่มาแปลกจนชวนสับสน
แล้วหนุ่มโอเมก้าก็นึกประเด็นที่สงสัยได้จึงเอ่ยปากถาม
“นี่...คุณจางฉวน คุณจางหมิง”
“หือ”
“ผมมีเรื่องถาม”
“ว่ามาสิ”
“คืนนั้นพวกคุณนอนอาบไฟสีรุ้ง ๆ ที่ผมทำหลอดไฟแตก...”
“อื้อ แล้วไง”
“คุณนอนอาบแสงไปเพื่ออะไรครับ”
สองแฝดนิ่งไป ก่อนจางฉวนจะตอบว่า
“พวกเราก็ไม่รู้เหมือนกัน
“อ้าว” ดาวไม่คิดว่าคำตอบจะเป็นอย่างนี้
“รู้แค่แสงของมันช่วยทำให้ร่างกายของอัลฟ่าแข็งแรงขึ้นได้”
ดาวไม่เห็นด้วย “ฮึ แต่พวกคุณก็แข็งอย่างกับหมีอยู่แล้วนะ อุ๊บ ขอโทษครับ”
สองคนนั้นรู้ดีว่าหนุ่มของเล่นจิกกัดความแข็งแรงในแง่ไหนของพวกเขา เลยส่งเสียง “หึ” กับกระตุกมุมปากคล้ายรอยยิ้ม
จางหมิงยอมบอกในที่สุด ซึ่งที่จริงเขาไม่จำเป็นต้องบอกก็ได้ เพราะเป็นการพูดถึงจุดด้อยของตนซึ่งฟังแล้วคงไม่ค่อยดีสักเท่าไร “พวกเรามีอาการวิงเวียนไม่ค่อยมีแรงช่วงรัทน่ะ”
จางฉวนเสริม “เพิ่งเริ่มมีอาการอย่างนี้ตั้งแต่อายุย่างสามสิบเป็นต้นมา”
ดาวถึงกับอ้าปากค้างอย่างตะลึง เขารู้มาว่าสองคนนี้เพิ่งเลยสามสิบมาได้สองสามปี ในขณะที่พี่ชายใหญ่อายุสามสิบห้า นั่นก็แปลว่าทั้งสามต้องทนทุกข์กับอาการเช่นนี้มาพอสมควร หนึ่งปีมีสิบสองเดือนคูณด้วยห้าเท่ากับ…
ข้อมูลนั่นจึงทำให้โอเมก้ารู้สึกผิดขึ้นมา “อ้อ ผมว่ามันต้องแย่มากเลยกับอาการไม่สบายที่เป็นทุกเดือนอย่างนั้น”
คลื่นความรู้สึกเห็นอกเห็นใจส่งออกจากดวงตาของดาวิชและทำให้คนเห็นรับรู้ได้
สองแฝดจึงมองภรรยาที่กลายเป็นของเล่นด้วยแววตาที่อ่อนแสงลง
และในตอนนั้นทั้งสามคนรู้สึกราวกับมีลมโชยเย็นพัดผ่านชวนให้สบายผ่านผิวในวันที่อากาศร้อนอ้าว
ดาวพูดต่อ “งั้นแปลว่าหลอดไฟนั่นก็สำคัญกับพวกคุณมาก ผมขอโทษจริง ๆ นะที่ทำมันพัง”
สองคนพยักหน้าเข้าใจ แต่ยังอยากแกล้งดาวตามนิสัยเดิม หนึ่งในนั้นจึงพูดว่า
“ของชิ้นนั้นมีแพงมากนะรู้ไหม!”
“ฉันจะหักจากเงินของเธอด้วย!”
ดาวหน้าเสีย เขาไม่กล้าคิดเลยว่าหลอดไฟประหลาดนั่นจะมีราคาสักเท่าไร หลักหมื่น แสน หรือกระทั่งล้าน
“อา แล้วถ้ามันเกินกว่าเงินที่คุณจะให้ผมล่ะ งั้นผมผ่อนจ่ายได้ไหม”
ด้วยความซื่อของดาวที่ยอมรับในความผิดของตนทำให้สองแฝดหัวเราะ
“จะบ้าเหรอ เราไม่ใช่สถาบันการเงินที่ให้เธอผ่อนจ่ายศูนย์เปอร์เซ็นต์สิบเดือนได้นะเฟ้ย”
จางหมิงพูดไปด้วยยื่นมือมาเขกหัวคนตัวเล็กอย่างไม่เอาจริงไปด้วย แต่ลงเอยด้วยการขยี้เส้นผมอ่อนนุ่มเล่นเสียอย่างนั้น
และสัมผัสนั่นทำให้ดาวรู้สึกดีไม่ใช่น้อย
จางฉวนพูดอย่างคุณชายสายเปย์ที่เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องใหญ่ “ช่างมันเหอะก็แค่หลอดไฟ ซื้อใหม่ก็ได้” ตามมาด้วยการยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ
จางหมิงยังเอามือวางกลางกระหม่อมของดาวแล้วแกล้งขมวดคิ้ว รอยแผลเป็นตรงหว่างคิ้วทำให้ดูร่องกดลึกกว่าที่เป็นจริง “ยัยตัวแสบ รู้อะไรไหม”
“คะ…ครับ”
“พวกเรามีอะไรจะให้เธอด้วย”
และหนึ่งในนั้นยื่นบัตรพลาสติกสีดำให้
“รับไปสิ”
“คืออะไรครับ”
“บัตรเครดิตไง ไม่รู้จักรึ”
“โอ้ผมรับไม่ได้หรอก บัตรของคุณคุณก็ต้องใช้เองสิ จะให้คนอื่นใช้แทนได้ยังไง”
“มีคนให้ก็รับ ๆ ไปเถอะน่า อย่าทำเรื่องเยอะ”
จางฉวนชูนิ้วขึ้นอย่างคาดโทษ “แล้วอย่าตะบี้ตะบันใช้เกินไปล่ะ เพราะบัตรนี้มีวงเงินไม่จำกัดนะ”
จางหมิงเอามือตบบ่าคู่แฝด “เฮ้ย มึงก็พูดเกินไป”
ดาวพลิกมองบัตรหน้าหลังด้วยสายตางุนงง “ให้ผมเอาไปซื้อของเนี่ยนะ ผมไม่ได้จำเป็นต้องซื้ออะไรมากมายขนาดนั้น” หนุ่มโอเมก้าคิดว่าขนาดออกข้างนอกยังไม่ค่อยได้ไปเลย แล้วเขาจะเอาบัตรเครดิตไปซื้ออะไร
“คิดซะว่าเป็นของกำนัลเพิ่มเติมสิ”
“ที่เธอมาเป็นของเล่นของพวกเราไง”
“และตอนนี้ก็ได้เวลาแล้ว” หนึ่งในนั้นพลิกดูนาฬิกาข้อมือ
“เราสองคนน่ะอยากตั้งแต่เดินอยู่ในมอลล์แล้วรู้ไหม”
ดาวอ้าปากค้าง ไม่อยากเชื่อเลยว่าหลังจากเหตุบังเอิญในคืนนั้นที่หลอดไฟแตก สองคนนี้จะอยากมีเซ็กซ์กับเขาอีกในเร็ววัน
+++++
ทั้งสามย้ายตัวเองมาอยู่ในห้องส่วนตัวของหนึ่งในแฝด
ดาวมองว่าห้องนี้ช่างเป็นห้องนอนที่กว้างใหญ่ หรูหรา และมีบรรยากาศบางอย่างที่สัมผัสได้ว่ามันให้ความรู้สึกอีโรติกอยู่เล็กน้อย
สองคนนั่งบนเก้าอี้นวมคนละตัว ในมือถือแก้วทัมเบลอร์ที่มีวิสกี้สีทองติดก้นแก้ว
เมื่อกี้สองคนเพิ่งจิบเหล้าเข้าปาก ดาวเห็นแล้วสงสัยว่าพวกคนรวยนี่ดื่มกันตังแต่หัววันเลยรึ
ของเล่นชิ้นสวยถูกบอกให้มายืนอยู่ต่อหน้าสองคุณชายที่มีใบหน้าเหมือนกัน คนถูกมองถึงกับเขินหน้าแดงเมื่อทั้งคู่ส่งแววตาหื่นกระหายมาอย่างไม่ปิดบัง
และหนึ่งในนั้นออกคำสั่ง
“ถอดเสื้อออก กางเกงด้วย”
“อึก คะ…ครับ” ดาวทำตามแต่โดยดี เสื้อเชิ้ตถูกปลดออก เขามีท่าทีลังเลนิดหน่อยตอนรูดกางเกงขายาวลงจนเหลือแต่กางเกงใน
หนึ่งในนั้นสั่งอีก “หมุนตัวหน่อยสิ”
“หา”
“ให้พวกเราเห็นของเล่นชิ้นนี้ชัด ๆ หน่อย”
ดาวกัดปาก แต่ก็นึกได้ว่าครั้งก่อนพวกเขาอยู่ในห้องที่มีแสงไฟสลัว นั่นเลยเป็นเหตุผลที่สองแฝดอาจอยากเห็นเขาชัด ๆ ก็ได้
‘เอาวะยอมตามใจหน่อยก็ได้’
พอดาวทำตามทั้งสองก็เป่าปากเปี๊ยว “โห รูปร่างโคตรดี ผิวก็ซ้วยสวย”
คำเยินยอแบบซึ่ง ๆ หน้าเล่นเอาหนุ่มโอเมก้าที่ทั้งชีวิตไม่เคยแก้ผ้าให้ใครนั่งดูถึงกับอายม้วน
ทั้งสองวางแก้วลงกับโต๊ะด้านหน้า ก่อนจะเดินมาหา วนเวียนรอบของเล่นชิ้นนี้ ส่งนิ้วลูบไล้ไปตามลำคอเรียว หน้าอกเนียนขาวจัดจนเห็นเส้นเลือดสีน้ำเงินใต้ผิวบาง หน้าท้องแข็งเรียบสะอาดสะอ้าน หลุมสะดือขนาดกำลังดีน่ารัก
“อึก”
ดาวหวาดเสียวแทบแย่เมื่อหนึ่งในมือของแฝดคนหนึ่งลูบไล้วนไปมาแถวท้องน้อย ทำท่าราวกับอยากล้วงนิ้วเข้าไปแถวเป้ากางเกง
แต่คนทำกลับเลื่อนมือขึ้น แล้วนิ้วมือซุกซนก็ย้ายมาบีบเล่นที่เม็ดเนื้อยอดอกแทน พลางทำเสียงพร่ากระซิบข้างหู
“เราเพิ่งได้เห็นชัดๆ วันนี้เองว่าผิวตัวของเธอเนียนจัง”
“ต้นขาของเธอก็สวยมาก
“ข้อมือก็บอบบางน่ารัก”
ไม่ใช่แค่พูดแต่ฝ่ามือใหญ่ที่มีหนังด้านนิดหน่อยก็ลูบไล้ไปยังจุดที่กล่าวถึงทุกจุด
ดาวิชรู้สึกเกินกลั้น เขาเชิดหน้าสูงแล้วเผยอปาก
“หือ แล้วนี่อะไรเนี่ยเปียก ๆ” หนึ่งในสองแฝดถามอย่างสงสัย
โอเมก้าหน้าร้อนวาบ เจ้าของร่างกายรู้ดี ก็สองคนเล่นนี้เล่นเล้าโลมเขาด้วยคำพูดและสัมผัส อย่างนี้ใครจะทนไหว “อ๊ะ คือว่า…”
สองคนนั้นยกนิ้วที่เปียกขึ้นมาดมของเหลวใสเหนียวลื่น สูดจมูดฟุดฟิด
ตามมด้วยการหลับตา แพขนตาของสองแฝดหลุบลงเหนือโหนกแก้ม คิ้วเรียวดกเซ็กซี่ขมวดนิด ๆ
แล้วทั้งคู่เผยอปาก แลบลิ้นออกมาเลียนิ้วมือตัวเอง
ดาวที่เห็นภาพหนุ่มหล่อหน้าเหมือนกันทำท่าเย้ายวนแบบนั้นแล้วอยากเป็นลมเสียให้ได้
จางฉวนกะพริบตาที่แพขนตาหนาเกินผู้ชายไปหน่อย ดูคล้ายปีกผีเสื้อสีดำขยับไปมา “ร่างกายโอเมก้ามันอ่อนไหวง่ายอย่างนี้เองเหรอเนี่ย”
จางหมิงสั่งอย่างทนไม่ไหวอีกแล้วว่า “ไหนเดินไปที่เตียง แล้วนอนลงไปสิ”
ดาวทำตามอย่างว่าง่าย เขานอนแผ่ อย่างน้อยยังรู้สึกดีที่ยังสวมกางเกงในอยู่
สองคนมองร่างเปลือยตาไม่กะพริบ พวกเขาคืบคลานขึ้นมาบนเตียงจากแถวปลายเตียง
“พวกคุณจะทำอะไรผม”
“อย่าถามเยอะน่า แค่นอนเฉย ๆ ก็พอ”
“เราอยากศึกษาเนื้อของตัวโอเมก้าให้ละเอียดมานานแล้ว”
พูดจบสองคนก็ตะกายขึ้นบนมาจากแถวขาของดาว ก่อนจะเข้ามานอนขนาบอยู่คนละข้าง ทั้งคู่ยังใส่เสื้อผ้าเต็มยศแท้ ๆ แต่สิ่งที่ทำสร้างความตื่นเร้าให้หนุ่มโอเมก้าจนแทบเป็นบ้า
‘มีผู้ชายหน้าเหมือนกันมารุมให้ความสนใจตัวเรา ถ้าไม่เจอกับตัวเองไม่มีทางรู้เลยว่า มันให้ความรู้สึกดีแบบ…แปลก ๆ อธิบายไม่ถูกจริง ๆ’
สองหนุ่มหน้าเหมือนกันส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะก้มหน้าลงมาแล้วริมฝีปากอุ่นและนุ่มของพวกเขาก็วนเวียนอยู่แถวเม็ดเนื้อยอดอกที่แข็งเป็นไตของดาว
ที่ห้องส่วนตัวของดาว หนุ่มโอเมก้าเดินกลับมาหาสามอัลฟ่าคุณชายที่แทบนั่งไม่ติดด้วยความกระวนกระวายพอเห็นหน้าเจ้าของห้องก็รีบถามทันที“เป็นไง เธอเข้าใจพวกเราแล้วใช่ไหม”ดาวพยักหน้าเร็ว ๆ “ครับ”ภรรยาเดินมานั่งเก้าอี้ที่หนึ่งในแฝดรีบสละให้ทันที พอนั่งลงดาวเขาก็ยังก้มหน้านิ่ง ไร้คำพูดคำจาสามคุณชายทนไม่ไหว รีบผลัดกันถามภรรยาของพวกเขา“เป็นยังไงบ้างล่ะดาว ท่านปู่ว่าอย่างไรบ้าง”“เธอรู้เรื่องราวทั้งหมดจากปากคุณปู่แล้วใช่ไหม”“ถ้าเธอได้รู้จะได้เข้าใจที่มาที่ไปของพวกเราทั้งหมด…ว่าทำไมเราถึงไม่ชอบเธอในตอนแรก”เมียที่กลายเป็นของเล่นตอบแต่ไม่เงยหน้า “สำหรับเรื่องนั้นท่านปู่จางอี้เทาเล่าให้ผมฟังแล้วเหมือนกันครับ”ดาวทราบแล้วและเข้าใจเหตุผลว่าทำไมทั้งสามถึงอาละวาดและตามมาข่มเหงเขาแทบแย่เมื่อรู้ว่าเมียแต่งของพวกตนเป็นโอเมก้า แต่ถ้าพูดอย่างยุติธรรม การกลั่นแกล้งก็คือการกลั่นแกล้ง ไม่อาจซักฟอกให้เป็นสิ่งถูกต้องได้นั่นคือสิ่งที่ดาวคิด แต่แล้วก็ถอ
สามคุณชายยอมให้ดาวใช้เวลาส่วนตัวคุยกับท่านปู่จางอี้เทาโดยพวกเขาไม่เข้ามารบกวนสองแฝดออกตัวว่า‘เผื่อเมียของเราอาจมีเรื่องลับ ๆ อยากคุยกับท่านปู่’‘หรือในทางกลับกันท่านปู่ก็อาจมีอะไรลับ ๆ อยากบอกหลานสะใภ้ก็ได้’‘เอ๊ะ คุณสองคนพูดอย่างนี้แปลว่าอะไรแน่!’ ดาวทำเสียงดุใส่ เขาแปลกใจตัวเองเหมือนกันที่สถานะระหว่างเขากับสามคุณชายดูจะสลับบทกันอย่างไรบอกไม่ถูกส่วนเจียเหาได้แต่ยิ้มบาง ๆ ก้มหน้าแล้วกอดไหล่น้องชายแฝดเดินหลบมุมไปเงียบ ๆดาวรู้ว่า ก่อนหน้านั้นคุณชายใหญ่เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้อี้เทาฟังคร่าว ๆ แล้วว่า ที่คฤหาสน์หลานสะใภ้ได้ยินเรื่องที่ปู่เล่าให้พวกหลาน ๆ ฟัง และไม่พอใจอย่างรุนแรงจนหนีกลับบ้านดาวได้ยินแล้วทำท่าขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน อยากชูกำปั้นใส่ด้วยที่คุณชายยังใช้คำว่าหนีกลับบ้านไม่เลิก มันฟังเหมือนดาวเป็นแค่เด็กเอาแต่ใจไม่มีผิดตอนนี้ในโทรศัพท์ของเจียเหามีหน้าคุณปู่อยู่ในนั้น ใบหน้าของท่านยังใจดีอย่างเคย[หนูดาวสบายดีไหม][สบายดีครับ แล้วท่านปู่ละครับ]หนุ่มน้อยโอเมก้าว่าที
สามคุณชายเอ่ยเสียงลั่นเกือบพร้อมกันว่า “แล้วเราต้องขอโทษยังไงเธอถึงจะเชื่อล่ะ”แล้ว ณ ตอนนั้นสะใภ้จากสงขลาไม่รู้นึกอย่างไร เขาสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วโพล่งไปว่า“ตามธรรมเนียมคนบ้านผม ถ้าเราอยากให้คนที่เราตั้งใจขอโทษรู้ว่าเราสำนึกผิดจริง ๆ จากใจ ไม่มีทางอื่นเว้นแต่เราต้องกราบขอโทษแทบเท้าคนสำคัญของเขา”สามอัลฟ่าได้ยินแล้วถึงกับทำตาเบิกโพลง “ฮะ?! นั่นหมายถึง…”ดาวิชพยักหน้าแล้วเม้มปากล่าง “หมายถึงเท้าพ่อกับแม่ของผม”คราวนี้ถึงตาสามคุณชายไฮโซถึงกับอึ้งไปนานเลยแต่แล้วก็มีเสียงขัดจังหวะ เมื่อพ่อกับแม่ร้องบอกอย่างร่าเริงว่า“อาหารเย็นพร้อมแล้วมากินข้าวกันเถอะ”+++++อีกไม่นานอาหารง่าย ๆ ข้าวสวยร้อน ๆ น้ำพริกกับผัก และกับข้าวอีกสามสี่จาน–ยำกุ้งหวาน ปลาเล็กปลาน้อยทอดกรอบ กับไข่เจียวใบโหระพาฟูนุ่มก็พร้อมเสิร์ฟ“กินสิขรับคุณ ๆ อาจไม่ถูกปากนัก เพราะของสดที่เอามาทำก็ของพื้น ๆ ชาวประมงแถวนี้ พวกเราจับเอง เหลือก็เอาแบ่งกันกิน
ดาวกลับมาอยู่ที่อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา บ้านเกิดของเขาได้เกือบหนึ่งเดือนแล้วการตัดสินใจแค่ไม่กี่นาทีส่งผลให้ชีวิตของดาวเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ความเป็นอยู่ที่นี่สงบเงียบเรียบร้อย จนหนุ่มโอเมก้าไม่อยากเชื่อเลยว่านี่คือชีวิตเดียวกับตอนที่เป็นของเล่นของสามคุณชายที่คฤหาสน์และวันธรรมดาวันหนึ่ง ระหว่างที่พ่อกับแม่นั่งกินข้าวกลางวัน ส่วนดาวล้างจาน พ่อกับแม่ถามคำถามกับลูกเพราะเพิ่งนึกได้“ดาวเอ๊ย ตกลงแกไม่ได้ทำงานที่กรุงเทพฯ แล้วเหรอ”ลูกชายหรี่ก๊อกน้ำแล้วหันมาตอบ “เปล่าแล้วจ้ะแม่”พ่อกับแม่มองด้วยสีหน้านิ่งอย่างสงสัย แต่ไม่ถามอะไรที่กดดันอย่างเช่น ‘แล้วจะทำอะไรต่อ’ ทั้งคู่รู้ดีกว่าลูกชายของพวกตนไม่ใช่คนหลักลอยเหลวไหลคราวนี้เป็นตาพ่อถามบ้าง “เอ้อ พ่อว่าจะถามเรื่องค่ารักษาของพ่อ หนูไปเอาเงินมาจากไหน”“อ๋อ” ดาวชะงัก แต่ก็รีบแก้ตัวว่า “หนูไปคุยกับหมอและเจ้าหน้าที่ที่โรงพยาบาลมาแล้วจ้ะ ใช้สิทธิบัตรทองได้ ของแม่ก็เหมือนกันนะ ไม่ต้องกังวล”พ่อกับแม่กลืนอาหา
“นั่นเลยเป็นที่มาตั้งแต่ก่อนพ่อแกจะตาย เราถึงเฝ้าเพียรพยายามหาคนที่ใช่ และมันไม่ง่ายเลย เราใช้เวลานานหลายปี หลายคนที่คุณสมบัติใช่แต่เขาไม่ร้อนเงิน ไม่มีเหตุผลที่จะยอมลำบากมาแต่งงานเป็นสะใภ้ตระกูลจาง มีหนูดาวนี่ละลงตัวที่สุด เป็นดอกบัวขาวอย่างที่เรามองหา แถมฐานะที่บ้านยังขัดสน”ชายชราเว้นช่วงเพื่อให้ความจริงตกตะกอนในสมองทึบ ๆ ของสามหลายชาย ก่อนจะย้ำด้วยประโยคอันเด็ดขาดและเสียงดังว่า“แกคิดว่าจะหาโอเมก้าคุณสมบัติเพียบพร้อมอย่างนี้ได้ง่าย ๆ หรือไง!”สามคุณชายพูดอุบอิบ รู้สึกผิดหวังอะไรสักอย่างกับตัวผู้ให้กำเนิด “แล้วทำไมพ่อกับแม่ไม่เคยบอกพวกเราเรื่องนี้เลย”“พ่อแกเคยมาปรึกษาฉัน แล้วเราก็ตกลงว่า จะดีกว่าถ้าปล่อยให้เรื่องนี้เป็นความลับ”สามคนถามโดยพร้อมเพรียง “ทำไมล่ะครับ”“การรู้จุดด้อยของตัวเองเร็วเกินไปส่งผลไม่ดีต่อความมั่นใจ โดยเฉพาะในช่วงที่แกเปลี่ยนจากวัยรุ่นกลายเป็นวัยผู้ใหญ่เต็มตัว พ่อแกรู้ว่าสักวันตำแหน่งหลงโถวของเขาจะต้องถูกส่งต่อให้พวกแกคนใดคนหนึ่ง ดังนั้นย่อมไม่ดีแน่ถ้า
เจียเหาในฐานะพี่ใหญ่รวบรวมความกล้าเอ่ยถามท่านปู่ตรง ๆ“ดะ…ดาวเอาเรื่องนี้มาบอกคุณปู่เหรอครับ”“เปล่า ฉันรู้เอง ดังนั้นพวกแกอย่าเอาเรื่องนี้ไปโทษเขาล่ะ เขาไม่ได้เอามาฟ้องฉัน”ตอนแรกอี้เทากระหยิ่มในใจ แผนการโยนหินถามทางกับสามคุณชายปากแข็งน่าจะสำเร็จ ชายชราแค่ลองปะติดปะต่อเรื่องเอาเองแล้วเอ่ยโพล่งออกไป ซึ่งพอเห็นปฏิกิริยาของสามคุณชายเลยฟันธงว่าน่าจะเข้าใจถูกในประเด็นที่ทั้งสามคงตกลงอะไรบางอย่างกับดาวเกี่ยวกับสถานะความเป็นเมียแต่อี้เทาเป็นคนยุติธรรม เขาอยากให้ทั้งสามคุณชายเป็นผู้ใหญ่ เป็นลูกผู้ชายตัวจริงที่กล้ายอมรับเองว่าพวกตนทำอะไรไว้ทั้งสามนั่งตัวลีบแต่ยังปากแข็งไม่ยอมรับเวลาผ่านไป เข็มนาฬิกาของนาฬิกาคุณปู่ หรือนาฬิกาโบราณตั้งพื้นเรือนใหญ่ดังติ๊ก ๆ อย่างต่อเนื่องขนาดอี้เทาเป็นคนอารมณ์เย็นยังหมดความอดทน“ไอ้พวกหลานโง่ นี่ฉันทนพวกแกไม่ไหวแล้วนะ!”สามคนทำหน้าซีด แต่ยังปากแข็งไม่ยอมพูดสักคำท่านปู่จางอี้เทาทนไม่ไหวอีกจึงกระชากเสียงถามหลานชายจอมมึน“แกรู้ไหมว่า