แชร์

2.สงบเงียบ

ผู้เขียน: จินต์พิชา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-11 13:14:55

เมคินออกเดินทางตั้งแต่เช้าเขาเลือกใช้เส้นทางสระบุรี -หล่มสัก ระหว่างทางก็แวะทานอาหารที่ปั๊มน้ำมันก่อนจะขับยาวไปถึงตัวอำเภอเขาค้อก็เวลาบ่าย ชายหนุ่มจอดรถที่ร้าน อาหารพื้นเมืองแห่งหนึ่ง ก่อนจะตรงไปยังที่พักทันที

เขาเลือกพักที่รีสอร์ตเล็กๆ แห่งหนึ่งในหมูบ้านชาวม้งเข็กน้อย บรรยากาศที่พักอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เพียงแค่จอดรถก็สัมผัสได้ถึงความร่มรื่น อากาศเย็นจนเขาต้องห่อไหล่

พนักงานต้อนรับในชุดพื้นเมืองรับกระเป๋าจากชายหนุ่มแล้วตรงไปยังเคาน์เตอร์เช็กอิน พอกรอกรายละเอียดเสร็จแล้วก็เดินนำเขาไปยังห้องพักห้องริมสุดทางเดิน ลักษณะเหมือนยื่นออกมาจากพื้นราบ

“อาหารเช้าและเย็นเป็นแบบบุปเฟ่ต์จัดห้องอาหารด้านบนที่ชั้นสามนะคะ แต่ถ้าคุณจะสั่งอาหารมาทานที่ห้องพักก็ตามเบอร์ที่วางไว้ในห้อง ครัวของเราเปิดหกโมงเช้าปิดสามทุ่ม ขอให้มีความสุขกับการพักผ่อนนะคะ

พนักงานหญิงคนหนึ่งอายุไม่น่าจะเกิน 20 ปีแนะนำด้วยภาษากลางติดสำเนียงท้องถิ่นเล็กน้อย ฟังแล้วเพราะจนเขาอดชื่นชมไม่ได้ ชายหนุ่มหยิบธนบัตรใบละหนึ่งร้อยขึ้นมาสองใบส่งให้เด็กทั้งสอง

“ขอบคุณค่ะ” ทั้งสองคนยกมือไหว้ขอบคุณแล้วก็เดินกลับ

เมคินวางกระเป๋าลงบนเก้าอี้ที่มุมห้อง เขาเดินไปยังระเบียงด้านหน้า พอเปิดออกก็ได้ยินเสียงน้ำตก เขายื่นหน้าออกไปมองก็เห็นน้ำตกสายเล็กๆ อยู่ไม่ไกล

เพราะห้องพักอยู่ลึกและไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวคนมาพักจึงไม่มากเท่าไหร่ ชายหนุ่มรู้สึกชอบที่นี่มากกว่าโรงแรมหรูๆ ที่เขามักเข้าพักเป็นประจำ

ระยะทางจากกรุงเทพมาถึงเข็กน้อยใช่เวลาไปหลายชั่วโมงวันนี้เขาจึงนอนพักก่อนที่จะเข้าไปคุยกับชาวบ้านในวันรุ่งขึ้น

ด้วยบรรยากาศอันเงียบสงบ มีเพียงเสียงนกร้องและเสียงน้ำตก บวกกับอากาศเย็นค่อนข้างเย็นทำให้เมคินหลับลึก พอรู้ตัวอีกทีท้องฟ้าด้านนอกก็มืดสนิท มีเพียงแสงไฟจากระเบียงที่รอดผ่านมาตรงรอยแยกของผ้าม่านเท่านั้น

เมคินมองเวลาที่หน้าจอสมาร์ทโฟนแล้วรีบลุกไปล้างหน้าล้างตาก่อนจะออกไปทานอาหารเย็นที่ทางรีสอร์ตจัดไว้

เพราะมาช้าจึงไม่มีโต๊ะตัวไหนว่าง เขาหยิบบาร์บีคิวใส่จานแล้วเดินไปยังโต๊ะตัวในสุด ซึ่งยังมีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ ชายคนนี้ดูแล้วคงไม่ใช่คนไทย อาจจะเป็นลูกครึ่งเขาจึงทักทายเป็นภาษาอังกฤษออกไป

“Excuse me,Cound you mind if I sit here?” เมคินถามผู้ชายผิวขาวที่นั่งอยู่คนเดียว

“เชิญนั่งครับ” ชายหนุ่มผิวขาวตอบกลับด้วยภาษาไทยที่ชัดแจ๋ว

“ขอโทษนะครับ ผมไม่คิดว่าคุณจะพูดไทยได้แถมยังชัดขนาดนี้” เขาตอบไปตามจริง แม้จะรู้สึกหน้าแตกอยู่บ้างแต่ก็ยังดีที่ผู้ชายคนนี้ไม่ให้เขาปล่อยไก่ไปมากกว่านี้

“ไม่เป็นไรครับ ผมชินแล้ว” คนตอบใบหน้าเรียบเฉย

“มาเที่ยวคนเดียวเหรอครับ” เมคินถามออกไปอย่างไม่รู้ตัว ปกติแล้วเขาเป็นคนพูดน้อยและยิ่งไม่ได้รู้จักกันมาก่อนก็แทบจะไม่ชวนใครคุยก่อนอยู่แล้ว

“ครับ คุณล่ะ” อีกคนถามกลับ

“ผมมาทำธุระครับ”

“อ๋อ”

ชายหนุ่มรูปร่างสมส่วนผมสีน้ำตาลเข้มใบหน้าหล่อราวกับพระเอกเกาหลี ดูจากลักษณะแล้วคงเป็นคนทำงานออฟฟิศหรือไม่ก็อาจจะยังเรียนไม่จบ เขาสวมเสื้อยืดเชิ้ตสีขาวพับแขนขึ้นมาเล็กน้อยกางเกงผ้าขาสั้นแค่เข่าดูสบายๆ เหมาะกับการมาท่องเที่ยว เมคินเผลอสำรวจผู้ชายตรงหน้าโดยไม่รู้ตัว ในขณะที่อีกคนนั่งทานอย่างเงียบๆ ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง พอทานเสร็จเขาก็ยกจานไปเก็บแล้วขอตัวกลับห้องพักโดยเมคินไม่ทันได้ถามชื่อ

ปกติแล้วเมคินไม่ค่อยชอบยุ่งเรื่องคนอื่น แต่กับผู้ชายคนนี้เขาเห็นแววตาเศร้าๆ นั้นแล้วรู้สึกเห็นใจและอยากทำความรู้จักมากว่าปกติ แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่ค่อยอยากผูกมิตรกับเขาสักเท่าไหร่

ทานอาหารเสร็จชายหนุ่มก็กลับมาห้องพัก หยิบเบียร์ในตู้เย็นออกมานั่งดื่มที่ริมระเบียง มองออกไปข้างหน้ามีแต่ความมืด บรรยากาศเงียบสงบจนได้ยินเสียงถอดหายใจมาจากระเบียงห้องพักที่อยู่ถัดไป

พอหันไปมองผ่านระเบียงซึ่งเป็นเพียงระแนงไม้กั้นอยู่ ก็เห็นผู้ชายนัยน์ตาเศร้านั่งดื่มเบียร์อยู่คนเดียว ไม่รู้ว่ามีความทุกข์อะไรหนักหนาถึงได้เอาแต่นั่งดื่มคนเดียวอย่างนั้น แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องใส่ใจ พอกระดกเบียร์ในกระป๋องหมดแล้วเขาก็กลับเข้าห้องอาบน้ำเตรียมเข้านอน

พอหัวถึงหมอนก็เผลอคิดไปว่าอีกคนที่อยู่ผนังห้องติดกันยังนั่งดื่มอยู่หรือเปล่า เขาเปิดประตูระเบียงออกไปดูอีกครั้งก็ไม่เห็นชายคนนั้นแล้ว เมคินจึงกลับมานอน

เป็นคืนแรกเลยก็ว่าได้ที่ชายหนุ่มนอนในห้องที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ แต่มันกลับทำให้เขานอนหลับยาวจนรู้ตัวตื่นอีกทีเพราะแสงอาทิตย์ส่องเข้ามาตรงระเบียง

เมคินเริ่มต้นวันใหม่อย่างไม่รีบร้อนเพราะหมู่บ้านที่เขาจะไปห่างจากที่นี่เพียงนิดเดียว

จุดรับประทานอาหารเป็นพื้นที่เปิดโล่งรับลมทุกทิศทาง ชายหนุ่มรินกาแฟในเหยือกใส่แก้ว หยิบขนมปังใส่เครื่อง แล้วยืนจิบกาแฟ ทอดสายตาไปข้างหน้า แม้จะสายมากแล้วแต่ก็ยังมีหมอกจางๆ กระจายอยู่รอบๆ

พอขนมปังได้ที่เขาก็หยิบมาวางบนจานก่อนไปหาที่นั่ง ตอนนี้คนอื่นคงออกไปเที่ยวกันหมดแล้วเพราะมองไปยังลานจอดรถก็เห็นแค่รถของตัวเองจอดอยู่แค่คันเดียวเท่านั้น

เมคินได้พูดคุยกับผู้ใหญ่บ้านเรื่องที่เขาอยากให้ชาวบ้านส่งผลผลิตให้กับเขาโดยจะให้ราคาดีกว่าท้องตลาด แต่ผู้ใหญ่บ้านยังไม่ตัดสินใจในตอนนี้เพราะยังเหลือสัญญาเดิมอยู่อีกครึ่งปี แต่เพราะปีนี้ผลผลิตออกมากกว่าทุกปีจึงมีบางส่วนที่ชาวบ้านเอาไปขายกันเองในตลาด หรือบางคนก็ขายให้กับพ่อค้าคนกลางซึ่งกดราคาต่ำกว่าท้องตลาดอย่างมาก อีกปัญหาหนึ่งก็คือเรื่องการขนส่งเพราะชาวบ้านไม่มีรถ จึงจำเป็นต้องขายในราคาถูก เมคินรับฟังปัญหา พร้อมกับบอกว่าผลผลิตที่เกินมาเขาจะรับซื้อทั้งหมดในราคาที่ทุกคนรับได้ พร้อมทั้งจะให้รถของบริษัทมารับถึงที่ เมคินกับผู้ใหญ่บ้านแลกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์กันแล้วชายหนุ่มก็ขอตัวกลับ

พอจัดการธุระเสร็จเขาก็ถือโอกาสไปไหว้พระที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วซึ่งวันนี้มีคนมาเที่ยวสักการะเป็นจำนวนมาก เขาเลยไม่ได้ชื่นชมบรรยากาศอย่างที่คิดไว้ พอไหว้พระเสร็จเมคินเลยตัดสินใจขับรถกลับกรุงเทพเพราะทันที

ชายหนุ่มแวะเติมน้ำมันและเข้าไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อ ขณะกำลังหาขนมขบเคี้ยวเพื่อนไปทานบนรถก็เจอกับผู้ชายนัยน์ตาเศร้าคนเดิม

“กลับแล้วเหรอครับ” ไม่รู้อะไรดลใจให้ถามออกไปแบบนั้น

“ครับ คุณก็คงเหมือนกัน โชคดีนะครับ”

“ครับ”

เมคินขับรถตามเส้นทางเดิมอย่างไม่เร่งรีบเพราะยังมีเวลาพักพรุ่งนี้อีกหนึ่งวัน เขาขับเลนซ้ายมาตลอดแล้วแล้วก็เห็นรถคันหนึ่งจอดเสียอยู่ที่ไหล่ทาง แต่เขาก็ไม่ได้สนใจจะจอดช่วยเหลือ แต่พอขับผ่านความคิดก็ต้องเปลี่ยน

ชายหนุ่มขับเลยไปแล้วก็วนรถกลับมาอีกครั้ง ก่อนจะจอดหลังรถคันเดิม แล้วเดินลงมาหา พอยืนเทียบกันแล้วเมคินรู้สึกเลยว่าตัวโตกว่าอีกคนเยอะพอสมควร วัดจากความสูงคนชายคนนั้นน่าจะสูงไม่เกิน 170 เพราะ ต่างจากเขาที่สูงถึง 185 ซม.แต่ก็นับว่าสูงกว่าผู้ชายอีกหลายคน

“ความร้อนขึ้นคิดว่าน่าจะเป็นหม้อน้ำรั่วครับ”

“ขับต่อไหวไหม” เขาถามอย่างคนไม่มีความรู้

“คงไม่ครับ ผมตามช่างแล้ว”

“อีกนานไหมกว่าช่างจะมา คุณไปรอในรถผมก่อนก็ได้ รอตรงนี้เดี๋ยวได้เป็นลมกันพอดี”

“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่รบกวนคุณดีกว่า”

“เอาน่าคุณ ผมไม่ได้รีบไปไหน แล้วถ้าเกิดรถคุณซ่อมไม่เสร็จจะทำยังไง จะโบกรถเข้ากรุงเทพเหรอ คุณคิดว่าคนอื่นจะไว้ใจให้คุณ นั่งรถไปด้วยเหรอ”

“แล้วผมไว้ใจคุณได้ใช่ไหม”

“โธ่คุณ เราเคยเจอกันมาแล้วตั้งหลายครั้ง ถ้าไม่ไว้ใจผมแล้วคุณจะหาคนไว้ใจจากไหนได้” เมคินไม่เคยต้องง้อใครแบบนี้มาก่อน แต่กับผู้ชายคนนี้กลับไม่เป็นอย่างนั้น

“แล้วคุณไว้ใจผมเหรอ”

“อืม ผมคิดว่าคุณไว้ใจได้ ไปนั่งรอในรถเถอะ ผมร้อน”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   60.ท่ามกลางหมู่ดาว nc25+++ (ตอนจบ)

    “พี่คิน เราจะเป็นไข้เลือดออกกันไหมครับ เราไม่มียากันยุง”“เดี๋ยวพี่โทรไปขอทางรีสอร์ตให้ อย่าเพิ่งออกไปนะเดี๋ยวโดนยุงกัดตัวลายขึ้นมาผิวสวยจะเสียหมด”รอไม่นานพนักงานของรีสอร์ตก็เอายากันยุงกับไฟแช็กมาให้ เมคินรับมาพร้อมกับมอบเงินให้เล็กน้อยค่าเสียเวลาเขาเดินออกไปจุดยากันยุงไว้หลายจุดเพราะกลัวว่ายุงจะมากัดผิวสวยๆ ของคุณเลขา“รอสักพักค่อยออกไปนะครับ พี่ขอล้างมือก่อน”“ครับ” เสียงทิวาขานรับขณะที่กำลังนอนกลิ้งอยู่บนเตียงพอเมคินเดินออกมาจากห้องน้ำทั้งสองก็หอบหมอนและผ้าห่มเดินออกไปบริเวณสระว่ายน้ำซึ่งมีเตียงอาบแดดอยู่ด้านริม“พี่คินว่าเราจะเห็นดาวตกไหม”“ก็น่าจะเห็นอยู่นะ” เมคินไม่ได้สนใจฝนดาวตก แต่เพราะอีกคนอยากเห็นก็เลยต้องออกมานอนตากน้ำค้างอย่างนี้ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมู่ดาวก็จริง แต่ทุกดวงยังคงประดับอยู่บนท้องฟ้า“ทิวครับ ง่วงหรือเปล่า”“นิดหน่อยครับ”“ถ้าไม่ไหวก็อย่าฝืนนะ”“ยังไหวครับพี่ แต่ถ้าผมเผลอหลับพี่คินอย่าทิ้งผมไว้ตรงนี้คนเดียวนะ”“ใครจะทิ้งได้ลงล่ะครับ” เมคินหันมาบอกคนรักที่อยู่เตียงใกล้ๆ กันตาคู่สวยของเลขาคู่ใจยังคงจ้องไปบนท้องฟ้า ส่วนส

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   59.ผมขอเลขาคืนนะครับ

    ตลอดสองเดือนที่คุณจางหยวนเข้ามาในชีวิตของทิวา เมคินต้องใช้ความอดทนอย่างมาก เพราะรู้สึกเห็นใจที่เขากับลูกเพิ่งจะได้เจอกัน แต่พอเวลาผ่านไปเขาเองก็เริ่มทนความรู้สึกนี้ไม่ได้ และตอนนี้เขากำลังยืนอยู่หน้าห้องทำงานของคุณจางหยวน“สวัสดีครับคุณเมคิน ไม่คิดเลยว่าบริษัทผมจะมีโอกาสต้อนรับคุณ”“สวัสดีครับคุณจาง ผมมาหาทิวาครับ”“อ้อ มาหาลูกชายผมนั้นเอง เดี๋ยวผมเรียกให้นะ”“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมไปหาเองได้ ผมแค่แวะมาทักทายและจะมาบอกว่าต่อนี้ไปผมจะไม่ให้ทิวามาทำงานกับคุณอีกแล้ว”“ทำไมละครับ เขาเป็นลูกผมอีกหน่อยเข้าต้องมาทำงานแทนผม”“แต่มันยังไม่ถึงเวลาครับ คุณยังแข็งแรงอยู่เลยแล้วอีกอย่างคุณก็รู้ว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน”“ใช่ผมรู้และก็ไม่ได้กีดกันสักหน่อย”“ไม่ได้กีดกันครับ แต่ช่วงนี้คุณแทบจะไม่ปล่อยให้เข้าไปทำงานกันผมเลย ผมแค่มาทวงเลขาคืน”“ตายจริง ผมคงลืมไปว่าเขาเป็นเลขาของคุณด้วย คิดแต่ว่าเป็นคนรักกัน”“ทิวเป็นทั้งสองอย่างนั่นแหละครับ”“ผมชอบที่คุณพูดตรงๆ กับผมนะ เอาล่ะ ตอนนี้ทิวาก็เรียนรู้งานมากแล้ว ที่ผมยอมให้เขากลับไปก็เพราะว่างานที่นี่มันค่อนข้างลงตัวแล้ว เขาแค่อาจต้องเข้ามาประชุมบ้างก็เท่านั้น

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   58.เผชิญหน้า

    หลังจากที่ผลตรวจดีเอ็นเอคุณจางหยวนก็ดีใจมาก เขาอยากให้ครอบครัวได้อยู่กันพร้อมหน้า ครอบครัวที่คิดว่าเสียไปแล้วเมื่อยี่สิยกว่าปีก่อน แล้ววันนี้ได้มาเจอกันอีกครั้งอย่างพร้อมหน้า พ่อ แม่ ชายวันห้าสิบกว่าก็ออกอาการดีใจเหมือนกับเด็กๆ ที่ได้ของเล่นเลยทีเดียวเขาพูดจาหว่านล้อมจนคุณลักษิกายอมขึ้นมากรุงเทพ แม้เธอจะยังจำเรื่องในอดีตได้แต่ก็ยอมเดินทางมาเพราะอยากจะเจอกับทิวาอีกครั้งครั้ง ตอนนี้นอกจากรูปถ่ายใบนั้นแล้วคุณจางหยวนยังมีรูปที่ทั้งสองคนถ่ายด้วยกันที่โรงเรียน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอกับเธอ และยังมีรูปถ่ายอีกหลายรูปที่ลูกชายและลูกสาวบุญธรรมส่งมาให้ทางอีเมล ลักษิกาเลยเริ่มเปิดใจยอมรับเขาทีละนิด เพราะทุกรูปที่เขามีนั้นดูเหมือนว่าทั้งสองคนเป็นคู่รักกันจริงๆวันนี้ทิวาเลยนัดทั้งสองคนให้มาที่บ้านของเมคิน เพราะทุกคนที่นี่ก็คือครอบครัวของเขา“พอครับ แม่ครบ นี่คุณจางหยวนกับคุณลักษิกาครับ” เขาเรียกคุณเมฆาและคุณจีรญาว่าพ่อและแม่อย่างเต็มปากในขณะที่เรียกพ่อแม่แท้ๆ ว่าคุณ ทำให้เมฆารู้ในทันทีว่าทิวายังไม่เปิดใจยอมรับทั้งสองมากนัก“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณจางหยวนคุณลักษิกา” เมฆากล่าวทักทาย“ยินดีท

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   57.ยอมรับแค่ผล

    เมคินเลขาคู่ใจกลับมาทำงานกันตามปกติ ส่วนคุณจางหยวนนั้นยังขออยู่ที่เชียงใหม่ต่อ ทิวาโล่งใจที่เขาไม่กลับมาด้วยเพราะตัวเองยังคงสับสนกับทุกเรื่อง“บอสครับบ่ายนี้มีประชุมกับฝ่ายวางแผนกลยุทธ์นะครับ แล้วตอนเย็นก็ต้องมีงานเลี้ยงรุ่นนะครับ” ทิวาเดินถือกาแฟมาให้กับเจ้านายพร้อมบอกตารางการทำงานของบ่ายวันนี้อย่างเคย“ลืมไปสนิทเลย ทิวเปลี่ยนใจไปกับพี่ไหม” เมคินรั้งให้คนรักมานั่งบนตัก กดจมูกไปยังแก้มเนียนชายหนุ่มมักจะฉวยโอกาสอย่างนี้ทุกครั้งที่ทิวาเอากาแฟเข้ามาให้“ไม่ดีกว่าครับ ผมไม่ไปด้วยพี่จะได้สนุกเต็มที่”“ไม่กลัวพี่ไปเจอคนอื่นเหรอ”“คนเขารู้กันทั้งเมืองว่าพี่มีเจ้าของแล้ว ผมอยากจะรู้จังว่าใครมันจะกล้าเข้ามาหาพี่”“ไม่แน่นะทิว คนเราบางทีก็อยากท้าทาย”“ก็จริงนะครับ แต่ตบมือข้างเดียวมันคงไม่ดังหรอก”“แสดงว่าเชื่อใจพี่”“แน่นอนครับ ผมเชื่อว่าพี่จะไม่มีคนอื่น เพราะฉะนั้นพี่อย่าทำลายความเชื่อใจของผม”“ใครจะทำอย่างนั้น”“ผมต้องออกไปแล้วหายเข้ามานานเดี๋ยวคุณวีณาสงสัย”“คนรักกันจะอยู่ด้วยกันนานหน่อยไม่น่ามีปัญหานะ ทิวย้ายเข้ามานั่งทำงานในห้องดีไหม”“อย่าเลยครับ ผมกลัวพี่เห็นหน้าผมทั้งกลางวันกลางคืนแล้ว

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   56.ความจริงที่ไม่อาจเลี่ยง

    ทิวากลับมายังคอนโดด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง เขาไม่อยากจะเชื่อเรื่องที่ได้ยินมาจากปากของชายคนที่มาอ้างตัวว่าเป็นพ่อ แต่พอเห็นรูปถ่ายที่ชายคนนั้นเอามาให้ดูแล้วก็เริ่มไม่มั่นใจ ผู้หญิงในรูปถ่ายหน้าตาเหมือนเขาราวกับเป็นฝาแฝดถ้าเขาใสวิกผมยาวก็คงแทบจะกลายเป็นคนเดียวกัน“อย่าเพิ่งคิดมาเลยทิว รอผล DNA ก่อนดีกว่า”“มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าผมเป็นลูกเขาจริงๆ”“ถ้าให้ตอบในมุมมองของพี่นะ มันก็ดีที่เรารู้ว่าพ่อเราเป็นใคร และเท่าที่ฟังคุณจางหยวนก็ไม่ได้ทิ้งทิวไป แต่มันเรื่องราวหลายอย่างเกิดขึ้น คนที่จะให้คำตอบได้ก็คือแม่ของทิว ถ้าท่านยังมีชีวิตอยู่ท่านก็คงจะเห็นทิวผ่านตามสื่อบ้างแล้ว”“พี่หมายความว่าแม่ผมอาจตายไปแล้วใช่ไหมครับ” เสียงของทิวาสั่นเครือ แม้ที่ผ่านมาจะอยู่มาได้โดยไม่มีพ่อและแม่ แต่พอมาได้ยินเรื่องราววันนี้ก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกอยากเจอผู้ให้กำเนิด อยากรู้ว่าท่านอยู่สุขสบายดีไหม“พี่ขอโทษ” พอพูดออกไปแล้วก็รู้สึกผิด เขาไม่น่าไปตั้งข้อสงสัยแบบนั้นเลยจริงๆ“ถ้าแม่ยังอยู่ก็คงเห็นผม ขนาดแม่ครูที่ไม่ค่อยมีเวลาดูทีวียังเคยเห็นเลย”“จริงสิ เราลองถามแม่ครูดูไหมบางทีอาจมีเบาะแส”“อย่าเลยครับพี่คิน เอาเรื่องคุ

  • ขอโทษทีเลขาคนนี้ผมจอง   55.ชายแปลกหน้าจากปักกิ่ง

    ในแต่ละวันเมคินและทิวาก็ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ ทุกอย่างกำลังเป็นได้ด้วยดี ทั้งเรื่องงานและเรื่องของความรัก ยิ่งได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทั้งสองก็ยิ่งรักและเข้าใจกันมากขึ้นชีวิตที่กำลังลงตัวของทิวากำลังจะเปลี่ยนไปเมื่ออยู่ๆ ชายชาวจีนคนหนึ่งก็บอกว่าอยากเจอเขา โดยชายคนนั้นติดต่อผ่านทางบริษัทโฆษณาของเมลดาทิวาไม่เคยมีคนรู้จักอยู่ที่นั่น และก็ไม่รู้ว่าชายคนนั้นอยากเจอตนเองด้วยเรื่องอะไร แต่เพราะอีกฝ่ายยินดีที่จะบินมาที่เมืองไทย ชายหนุ่มก็เลยตอบตกลงที่จะให้เขาเข้ามาพบวันนี้ชายคนนั้นเดินทางมาจากปักกิ่งเพื่อขอพอกับทิวา โดยนัดกันที่ห้องอาหารของโรงแรมแห่งหนึ่งเมคินและทิวามาถึงโรงแรมตรงเวลานัดพอดี แต่เขาคนนั้นนั่งรออยู่ก่อนแล้ว“สวัสดีครับ คุณทิวา ผมชื่อจางหยวน” เขากล่าวทักทายด้วยภาษาไทยที่ชัดแจ๋ว“สวัสดีครับผมทิวา คุณคงรู้อยู่แล้วและนี่เมคินคนรักของผมครับ” ทิวาแนะนำตัวเองและคนรักให้กับชายแปลกหน้าด้วยสถานะที่ทั้งสองไม่เคยปิดบัง“ครับ เชิญนั่งก่อน ผมสั่งอาหารแล้ว เราทานไปด้วยคุยไปด้วยก็ได้”“ผมว่าคุยรีบคุยธุระของคุณดีกว่าครับ เราสองคนยังไม่หิว”“ผมอยากคุยกับคุณตามลำพังมากกว่า”“เสียใจครับ ผมคงให้คุ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status