Share

บทที่ 2 นิสัยพลิกกลับ

last update Последнее обновление: 2025-03-07 20:06:27

"ท่านโหว ยามนี้ฮูหยินได้สติแล้วขอรับ"

มือที่จับพู่กันยังคงตวัดเขียนด้วยความใจเย็น เสียงทุ้มตอบกลับแบบขอไปที "อืม รู้แล้ว" 

องครักษ์ทั้งสองต่างเหลือบมองกันหลุกหลิก พวกเขาทราบดีว่านายของตนนั้นแสนชิงชังฮูหยินใหญ่เพียงใด เพราะนางชมชอบเจียงโหวหรือเจียงซื่อจวินจนหน้ามืดตามัว ยามที่ทั้งสองยังไม่ออกเรือนหลิวจือหลินก็ตามราวีโหวหนุ่มไม่ลดละ กระทั่งหลิวจือหลินไม่อาจทนมองท่าทีกระด้างกระเดื่องจากบุรุษที่ตนชมชอบได้ นางจึงตัดสินใจร้องขอบิดาซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงซ่างซูเสิ่ง [1] ทูลขอราชโองการจากฮ่องเต้เพื่อมอบสมรสพระราชทานให้แก่หลิวจือหลินและเจียงซื่อจวินอย่างไม่มีหนังไม่มีหน้า [2]  

บิดาที่เลี้ยงดูบุตรสาวดุจไข่ในหินเช่นใต้เท้าหลิวเฝ้าตามใจนางไปเสียทุกอย่าง ส่งผลให้หลิวจือหลินเติบโตขึ้นมาเป็นสตรีร้ายกาจซ้ำยังนิสัยเสีย หากเป็นสิ่งที่นางต้องการแล้วล่ะก็ ผู้ใดก็อย่ามาขวาง 

หลิวจือหลินคิดเพียงว่าแต่งแล้วอยู่กินกันไปอีกฝ่ายก็ต้องหลงรักตนเข้าสักวัน ไหนเลยจะรู้ว่านางกำลังคิดผิดมหันต์ นับวันโหวหนุ่มก็ยิ่งรังเกียจชิงชังนาง กระทั่งย่างกรายเข้าไปเหยียบเรือนฝั่งตะวันออกสักครั้งก็ไม่เคย

เพราะหลิวตงมีผลงานมากมายเป็นที่ประจักษ์แก่ราชวงศ์และขุนนางทุกลำดับขั้น ซ้ำฮ่องเต้ยังเคยลั่นวาจาจะปูนบำเหน็จให้ตระกูลหลิว ผู้เป็นจักรพรรดิแผ่นดินจึงมิอาจขัดความประสงค์ของอีกฝ่าย การร้องขอสมรสพระราชทานนี้เลยง่ายดายดุจพลิกฝ่ามือ

แม้เจียงซื่อจวินเป็นบุตรบุญธรรมที่ฮ่องเต้รักดั่งลูกในไส้ ทว่ามิอาจมองข้ามผลประโยชน์ของราชวงศ์ เช่นนั้นการที่เขาสามารถเกี่ยวดองกับตระกูลหลิวกลับถือว่าเหมาะสมยิ่งแล้ว

เพราะเหตุนี้ยามที่โหวหนุ่มเข้าเฝ้าฮ่องเต้ เขาจึงมักทำหน้าปั้นยากเสียจนอีกฝ่ายอ่อนใจ ฮ่องเต้คือประมุขแผ่นดิน เป็นโอรสแห่งสวรรค์ คำพูดเปรียบได้ดั่งทอง วาจาเปรียบได้ดั่งหยก จะคืนคำได้เช่นไร

"เอ่อ...ท่านโหวจะไปดูฮูหยินหน่อยหรือไม่ขอรับ" เฉิงซือหานเอ่ยถามด้วยท่าทีประหวั่น 

นัยน์ตาคมช้อนขึ้นแช่มช้า ประกายสังหารพวยพุ่งออกมาเสียจนองครักษ์ทั้งสองขนลุกเกรียว "ไปหาให้นางได้ใจหรือ นางยังไม่ตายก็นับว่าดีแล้วกระมัง ทำตัวเองทั้งนั้น ยามนี้สาวใช้ของนางคงตามหมอแล้ว เจ้าก็จับตาดูนางให้ดี อย่าให้ลุกมาก่อเรื่องวุ่นวายอีก อาละวาดเสียจนจวนข้าวอดไปครึ่งหลังแล้ว" 

"ขอรับ" 

ร่างสูงขององครักษ์หนุ่มถลันออกจากห้องทันควัน เฉิงซือหานได้รับหน้าที่ให้เฝ้าจับตามองการกระทำทุกฝีก้าวของหลิวจือหลิน ทุกครั้งที่นางก่อเรื่องเขาจะเร่งมารายงานเจียงซื่อจวินเสมอ ครั้งล่าสุดหลิวจือหลินช่างทำได้เจ็บแสบยิ่งนัก ขณะที่เจียงโหวเข้าพิธีรับหม่าลี่เจียเป็นอนุ นางถึงขั้นอาละวาดเผาเรือนจนวอดไปเกือบครึ่ง ผู้คนในงานต่างหนีตายกันจ้าละหวั่น 

คนนิสัยหยาบช้าล้วนนับเป็นบาป เพลิงที่อีกฝ่ายจงใจทำลายงานพิธีลุกลามอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ขื่อไม้ท่อนหนึ่งล้มครืนพร้อมเปลวไฟอันโชติช่วง ตวัดผ่านใบหน้าเกลี้ยงเกลาของหลิวจือหลินจนเกิดรอยแผลพุพองไปครึ่งข้างแก้ม โชคยังดีที่เฉิงซือหานช่วยนางไว้ได้ทัน ไม่เช่นนั้นหลิวจือหลินคงต้องถูกไฟคลอกจนสิ้นใจเข้าจริง ๆ 

แม้เจียงซื่อจวินอยากให้นางตายให้พ้นหูพ้นตา ทว่าเขานั้นเป็นบุรุษผู้หนึ่ง ความคิดต่ำทรามเช่นนี้จึงถูกปัดทิ้งไปในที่สุด เรื่องเอาผิดหลิวจือหลินก็ยิ่งนับว่าลำบาก ทุกอย่างต้องคำนึงถึงผลได้ผลเสียที่จะตามมา

ครั้นหวังหย่าร้างกับนาง ความยุ่งยากที่เปรียบชนักติดหลังนี้กลับเป็นสมรสพระราชทานที่มิอาจกระทำได้ตามอำเภอใจ หากนางรู้จักผ่อนปรนสักหน่อย อ่อนข้อและยอมรับผิดเสียบ้าง เขาก็คงไม่ชิงชังนางถึงเพียงนี้กระมัง  

โหวหนุ่มถอนหายใจด้วยความอ่อนล้า ร่างกำยำเอนพิงพนักเก้าอี้ พลางยกมือคลึงหว่างคิ้ว "จินซิน" 

"ขอรับ" 

"แล้วลี่เจี่ยเป็นอย่างไร" 

"อนุหม่าไม่ได้รับบาดเจ็บใดขอรับ มีเพียงอาการอ่อนเพลียเล็กน้อย ท่านโหวอยากไปพบนางหรือ" 

เจียงซื่อจวินระบายลมหายใจอีกครั้ง "ข้าจะไปดูนางสักหน่อย ถึงอย่างไรราชครูก็ฝากฝังนางไว้กับข้าแล้ว ข้าจะละเลยนางได้อย่างไร" 

เพราะราชครูหม่าเฉียงเปรียบดั่งผู้มีพระคุณของเขา ขณะที่อีกฝ่ายต้องจากไปด้วยโรคชรา หลานสาวเพียงคนเดียวเช่นหม่าลี่เจียจึงไม่มีผู้ใดให้พึ่งพิงอีก

ชายชราได้ฝากฝังหลานสาวของตนให้โหวหนุ่มช่วยดูแล ถึงแม้ยามนั้นเขารู้สึกอึดอัดไปบ้างหมายรับนางเป็นน้องสาวบุญธรรม แต่ราชครูต้องการให้นางเป็นอนุของเขา ทั้งที่การเป็นอนุมิได้ดีเด่อันใดเลย เขาไม่เข้าใจจุดประสงค์ราชครูจริง ๆ

เจียงซื่อจวินช่างเป็นชายหนุ่มผู้อาภัพในการเลือกคู่ยิ่ง สตรีทั้งสองที่ตบแต่งล้วนมิได้มาจากความรักใคร่ของตนสักคน ยามนั้นเขาไร้ทางเลือกจึงทำตามอย่างเสียไม่ได้ คาดไม่ถึงว่าวันรับอนุ จวนโหวจะเกิดเรื่องตาลปัตรใหญ่โตเพราะฮูหยินของตนจนเป็นข่าวครึกโครมไปทั่วแคว้น 

.

.

"ฮูหยิน ท่านยังมีอาการวิงเวียนหรือไม่" หมอวัยกลางคนเอ่ยถาม 

ผู้ที่เอนกายอยู่ภายใต้ม่านโปร่งส่ายหน้า มือขาวผ่องยื่นออกมาเพื่อให้อีกฝ่ายตรวจจับชีพจร "ไม่เจ้าค่ะ ข้าดีขึ้นมากแล้ว" 

ผู้เป็นหมอพยักหน้าด้วยความเข้าใจ "เช่นนั้นใบหน้าของท่าน ข้าขอตรวจดูเสียหน่อย" 

"ได้สิ" หลิวจือหลินแง้มผ้าออกแช่มช้า นางค่อย ๆ ปลดผ้าผืนโปร่งผะแผ่ว 

"ฮูหยิน ใบหน้าของท่านอาจรักษายากเสียหน่อยเพราะเกิดจากไฟไหม้ เกรงว่าคงทิ้งร่องรอยเอาไว้" 

หลิวจือหลินหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก เหตุใดนางจึงกลายมาเป็นสตรีจอมวายร้าย หนำซ้ำยังมีใบหน้าอีกครึ่งดุจผีสาง ชาติก่อนช้ำรักถูกหักอกก็ช่างเถิด มาชาตินี้กลับย่ำแย่ยิ่งกว่าเก่า ความทรงจำที่มีอยู่ในมโนสำนึกล้วนบ่งบอกว่าหลิวจือหลินคนเดิมเป็นที่เกลียดชังของสามีเพียงใด หนำซ้ำอีกฝ่ายยังรับอนุเพื่อหยามหน้าตนถึงถิ่น 

แต่ก็เอาเถิด ในเมื่อไม่อาจเลือกวาสนาและโชคชะตาได้ บางทีนางอาจหาวิธีหย่ากับเขา แม้จะเป็นสมรสพระราชทาน การหย่าของสตรีในยุคนี้ล้วนไม่อาจเป็นไปได้ แต่หลิวจือหลินที่มาจากยุคสองพัน มั่นใจว่าต้องมีวิธีเป็นแน่ ขอเพียงเขาชิงชังนางให้มาก ๆ แต่อย่ารังแกกันเกินไปก็พอ หากอนุนางนั้นคือคนรักของโหวหนุ่ม เช่นนั้นแล้วนางก็ยินดีเป็นผู้จากไปเอง 

หมอและสาวใช้ได้ยินเสียงถอนหายใจของนาง เรือนกายก็พานสั่นระริก เพราะเกรงว่าหากเอ่ยสิ่งใดไม่เข้าหู หลิวจือหลินอาจอาละวาดจนได้แผลกลับไปคนละสองสามรอย ยิ่งหลิวจือหลินต้องยอมรับว่าใบหน้าอันเคยสะสวยมิอาจกลับเป็นเช่นเดิม ดูเหมือนครานี้หลังคาคงได้พังครืนเหลือแต่โครงค้ำยัน

"ช่างเถิด ขอแค่หายจากความเจ็บปวด จะหน้าผี หน้าปลวกข้าก็ไม่สน ต่อให้งดงามแล้วอย่างไร สุดท้ายก็มิอาจมัดใจบุรุษไว้ได้อยู่ดี"

สาวใช้ทั้งสองตะลึงงัน หากเป็นหลิวจือหลินในเมื่อก่อนคงอาละวาดขว้างปาข้าวของจนเกิดความเสียหาย ดูเหมือนสมองของนางอาจได้รับความกระทบกระเทือนเข้าจริง ๆ แต่ก็นับเป็นเรื่องดีมิใช่หรือ  

โลกใบเดิมหลิวจือหลินเองก็นับเป็นหญิงสาวที่มีใบหน้าสะสวยพริ้มเพรา ทว่าความงามไม่ได้ช่วยให้ใครสมหวังในความรักหากบุรุษไม่รู้จักพอ

หลิวจือหลินจึงตั้งใจไว้แล้วว่าตนเกิดใหม่ชาตินี้ จะค่อย ๆ ปรับตัว แก้ไขพฤติกรรมอันน่ารังเกียจของหลิวจือหลินคนเดิมเสีย แล้วจึงออกไปใช้ชีวิตให้ห่างจากความวุ่นวาย อาจเปิดร้านตัดเย็บเสื้อผ้าสักร้าน เพราะนางเรียนด้านดีไซเนอร์มา ความสามารถนี้คงช่วยให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นได้แน่ แม้ยามนี้ยังมองไม่เห็นหนทางก็ตาม 

หมอวัยกลางคนเขียนเทียบยาส่งให้บ่าวทั้งสอง และกำชับเรื่องการรักษาเป็นที่เรียบร้อยจึงขอตัวจากไป เจียวเจียวช่วยแง้มผ้าโปร่งออกให้ผู้เป็นนาย เห็นอีกฝ่ายยังนั่งเหม่อลอยก็มิกล้าเอ่ยมากความ กระนั้นปี้อี๋กลับเอ่ยขึ้น 

"ฮูหยินเจ้าคะ ไม่กี่ชั่วยาม บ่าวเห็นท่านโหว...เอ่อ...ไปพบอนุที่ระ..." 

ไม่ทันจบประโยคเจียวเจียวเกิดตื่นตระหนก นางกระทุ้งข้อศอกใส่หน้าท้องปี้อี๋ไปทีหนึ่ง พลางถลึงตากล่าวลอดไรฟัน "เจ้าเอ่ยเรื่องไม่เป็นเรื่องอะไรยามนี้ เห็นหรือไม่ว่าฮูหยิน..." 

"ช่างเถิด" เสียงใสโพล่งตัดบท 

ปี้อี๋หน้าบูดเบี้ยวเพราะรู้สึกจุก ทว่าเมื่อสาวใช้ทั้งสองได้ยินสิ่งที่ผู้เป็นนายกล่าวออกมาก็ล้วนนิ่งค้างไปตาม ๆ กัน

หลิวจือหลินเหลียวหน้ามองพวกนางแช่มช้า จากนั้นคลี่ยิ้มละไม ต่อให้เขาไม่มีอนุ เขาก็ไม่เคยแยแสฮูหยินคนนี้อยู่ดี เขาอยากไปไหนก็แล้วแต่เถิด ยามนี้นางเหมือนคนแปลกหน้าที่มาอาศัยร่างซึ่งเหมือนตนเองในต่างยุคสมัยก็เท่านั้น ผิดก็ตรงใบหน้านี้มีรอยแผลเป็นอย่างน่าอนาถใจ 

"ข้าไม่อยากรู้เรื่องเขาสักนิด ปล่อยไปเช่นนั้นดีแล้ว ยิ่งไม่ต้องพบกันเลยก็ยิ่งดี ต่อให้ข้าตาย พวกเจ้าคิดว่าเขาจะมาเหยียบที่นี่รึ"

"หา!" สาวใช้ทั้งสองปากอ้าตาค้าง 

อย่าว่าแต่พวกนางเลย องครักษ์ที่จับตามองอยู่ในมุมมืดก็ล้วนไม่อยากเชื่อหูเช่นเดียวกัน 

ฮูหยินสมองมีปัญหาแน่แท้!

เชิงอรรถ

^ซ่างซูเสิ่ง คือเสนาบดีสำนักตรวจราชการขุนนางที่มีศักดิ์เสมออัครเสนาบดีมี 2 ตำแหน่ง คือ เสนาบดีสำนักตรวจราชการหรือซ่างซูเสิ่ง (尚書省) กับเสนาบดีสำนักราชเลขานุการหรือจงซูเสิ่ง (中書省)

^ไม่มีหนังไม่มีหน้า หมายถึง หน้าด้าน ไม่รู้จักกอาย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapter

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 3 ฮูหยินเพี้ยนไปแล้ว (1/2)

    เป็นเวลาครึ่งค่อนเดือนที่หลิวจือหลินนั้นใช้ชีวิตในโลกใบใหม่ นางมิได้สนใจหรือใส่ใจเจ้าของเรือนสักนิด กระทั่งอนุที่โหวหนุ่มตบแต่งเข้ามานางก็ยังไม่เคยเห็นหน้า พวกเขาเป็นเพียงภาพเลือนรางในมโนสำนึกของหลิวจือหลินคนเดิมเท่านั้น ทว่าหลิวจือหลินผู้นี้ก็ไม่อยากเห็นคนทั้งสองเท่าใด และไม่อยากรู้ด้วยว่าพวกเขาหน้าตาแบบไหนเจียงซื่อจวินไม่คิดโผล่หน้ามาพบนางก็นับเป็นเรื่องดีมิใช่หรือ หลิวจือหลินจะได้ไม่ต้องรู้สึกอึดอัดเพราะนางไม่ใช่ฮูหยินตัวจริงของเขา เรือนที่นี่ใหญ่โตโอ่โถงประหนึ่งราชวังขนาดย่อม แค่เดินไปหอตำราก็กินเวลาเกือบเป็นชั่วยาม [1] หนำซ้ำต่อให้หลิวจือหลินคนเดิมจะน่ารังเกียจเดียดฉันท์ ทว่านางกลับมีเรือนร่างงดงามประหนึ่งโฉมสะคราญ ที่น่าตื่นตะลึงไปกว่านั้น นางเป็นสาวบริสุทธิ์ที่แต่งงานมานานแล้ว พรหมจรรย์ที่หาได้ยากอย่างนี้กลับทำให้หลิวจือหลินจากยุคสองพันดีใจเป็นล้นพ้นถึงแม้นางคบหากับแฟนหนุ่มมาหลายปีทว่าหลิวจือหลินในโลกอีกด้านก็ไม่เคยเกินเลยกับเขาสักครั้ง อาจมีจับมือ จุมพิต หรือกอดเป็นเรื่องปกติของคนรักกัน นี่คงเป็นเหตุให้อีกฝ่ายคิดนอกใจหลิวจือหลินไปหาหญิงอื่นที่สามารถมอบความสุขก่อนแต่งให้เขาได

    Последнее обновление : 2025-03-07
  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 3 ฮูหยินเพี้ยนไปแล้ว (2/2)

    "เรื่องอื่นเล่า หมดเพียงเท่านี้รึ"เฉิงซือหานเริ่มสับสน อย่างอื่นล้วนไม่มีแล้ว หากเป็นเรื่องกิจวัตรประจำวันของหญิงสาวเขาก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว องครักษ์หนุ่มจึงเหลียวมองหน้าสหายที่ยืนสงบนิ่งประหนึ่งหุ่นขี้ผึ้งแกะสลักเพื่อขอความช่วยเหลือ อีกฝ่ายเขม้นสายตาดั่งต้องการบอกว่า เรื่องท่านโหวเล่า มีหรือไม่เฉิงซือหานจึงเข้าใจในบัดดล เพราะเขาเป็นคนตรง ๆ ได้เห็นมาอย่างไรก็กล่าวเช่นนั้น "หากเป็นเรื่องที่ฮูหยินมักเที่ยวมาอาละวาดหน้าเรือนของท่านเช่นเมื่อก่อน ยามนี้ไม่มีแล้วขอรับ ดูเหมือนข้าไม่เคยได้ยินฮูหยินเอ่ยถึงท่านโหวเลยด้วยซ้ำ"จู่ ๆ ช่ายจินซินก็รู้สึกว่ากำลังจะเกิดพายุลูกใหญ่ เขากระทุ้งข้อศอกไปยังหน้าท้องหนั่นแน่นของสหายเพื่อให้รู้สึกตัว"เอ่อ เอ่อ มีเอ่ยถึงตอนที่บอกว่าไม่อยากทราบเรื่องท่านโหวแล้วขอรับ" เฉิงซือหานเหงื่อซึมแผ่นหลังช่ายจินซินได้ฟังแทบอยากกัดลิ้นตนเพื่อลงไปนอนแดดิ้นเสีย ดูเหมือนเฉิงซือหานยังซื่อบื้อไม่แปรเปลี่ยน เขานั้นอยู่กับเจียงซื่อจวินตลอด ทราบดีว่าจิตใจอีกฝ่ายยามนี้กระวนกระวายเพียงใด เพราะเจียงซื่อจวินทำตัวราวกับว่า ไม่ใกล้สูญเสียก็ไม

    Последнее обновление : 2025-03-08
  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 4 ลืมไปแล้วว่ามีตัวตน (1/2)

    ยามฮ่าย [1] ในคืนเดียวกัน ร่างดำทะมึนขององครักษ์มือซ้ายกระโจนลงจากหลังคาท่ามกลางความอนธการ เขาค้อมศีรษะพลางเอ่ยรายงานนายของตนซึ่งยังง่วนกับกองรายงานม้วนไม้ไผ่แทบไม่ว่างเว้น"ท่านโหว วันพรุ่งฮูหยินบอกว่าจะออกไปข้างนอกขอรับ"สิ่งที่อีกฝ่ายรายงานหาได้สลักสำคัญใด ตั้งแต่เกิดเรื่อง หลิวจือหลินก็ไม่ได้ก้าวออกจากจวนโหวเลย "นางอยากไปก็ไป""แต่...เดิมทีก่อนฮูหยินจะไปที่ใดมักมาแจ้งท่านโหวก่อนเสมอ ครั้งนี้ฮูหยินเอ่ยว่า..." เฉิงซือหานรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก บางทีเขาอาจคิดผิดที่มารายงานเรื่องเล็กน้อยเพียงนี้"หืม..." มือหยาบระคายวางพู่กันหางจิ้งจอกลง เขาทำงานจนลืมดูว่ายามนี้ดึกมากแล้ว คิ้วเข้มเลิกขึ้นด้วยความฉงน "เดี๋ยวนี้เจ้ากลายเป็นประเภทเรรวนไปตั้งแต่เมื่อใด""ขออภัยท่านโหว คือ...ฮูหยินกล่าวว่าเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องรายงานท่านก็ย่อมได้ เพราะท่านโหวคงลืมไปแล้วว่ามีนางอยู่ อีกอย่างฮูหยินเองก็ลืมไปแล้วเช่นกันว่ามีท่านอยู่"ปัง!องครักษ์ซ้ายขวาพร้อมใจสะดุ้งโหยง ช่ายจินซินยกมือกุมขมับ บางทีห

    Последнее обновление : 2025-03-09
  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 4 ลืมไปแล้วว่ามีตัวตน (2/2)

    หลิวจือหลินพิเคราะห์หน้าตาที่มีผ้าแพรปกปิดพลางตบข้างบั้นท้ายตนเปาะหนึ่งเจียวเจียวยกมือทาบอก "…ฮูหยิน ทำเช่นนี้ไม่งามนะเจ้าคะ"หลิวจือหลินเหลียวหน้ามองสาวใช้ พลางหัวเราะขบขัน เปลือกตาบางขยิบหนึ่งฝั่งหยอกล้อ จากนั้นเท้าเรียวเดินบ้างกระโดดบ้างดั่งกระต่ายเริงร่า หลิวจือหลินฮัมเพลงเสียงแผ่ว ไม่ใส่ใจสาวใช้ตนอีกเจียวเจียวแทบเกิดลมจับ เพราะเจียวเจียวมักเคร่งครัดเรื่องความเป็นกุลสตรีเช่นนี้เสมอ ส่วนปี้อี๋ยิ้มขบขันปี้อี๋ "เอาน่าอาเจียว ฮูหยินเป็นเช่นนี้ก็ดีแล้วมิใช่หรือ""แต่…""ไม่ต้องแต่แล้ว เห็นหรือไม่ฮูหยินจะถึงรถม้าแล้ว เจ้าอยากหลังลายรึ"เจียวเจียวพยักหน้าหงึกหงัก พวกนางเร่งถลันกายตามนายหญิงไปทันควันบุรุษร่างสูงผินหน้ามองเรือนตะวันออกด้วยความใคร่รู้ ดูนางไม่แยแสเขาจริงดังว่า คิ้วเข้มเลิกขึ้นด้วยความฉงน แม้นางอยู่ห่างจากเขาจนเห็นไม่ชัด แต่เขารับรู้ได้ถึงกลิ่นอายของหญิงสาวที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหางตาของหลิวจือหลินพลันเหลือบเห็นรถม้าอีกคันจอดไว้ไกลลิบ คงมิใช่ทางฝั่งเรือนหลักกระมัง ช่

    Последнее обновление : 2025-03-10
  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 5 ฮูหยินผู้มีใบหน้าที่แสนอัปลักษณ์ (1/2)

    รถม้าขับเคลื่อนไปเบื้องหน้าอย่างเรียบเรื่อย เสียงจ้อกแจ้กจอแจบ่งบอกว่าพวกนางเดินทางมาถึงตลาดกลางเมืองแล้ว หลิวจือหลินดูตื่นเต้นจนเก็บอาการไม่มิด สาวใช้ทั้งสองเห็นท่าทีประดุจเด็กสามขวบของนายหญิงก็อดยิ้มเป็นมิได้มือเรียวเลิกผ้าคลุมหน้าต่างขึ้นพลางสอดส่ายสายตาเมียงมองร้านรวงสองข้างทาง นางจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร บรรยากาศครึกครื้นเช่นนี้หลิวจือหลินเคยสัมผัสเพียงในซีรีส์เท่านั้น คาดไม่ถึงว่านางได้เข้ามาเยือนดินแดนยุคโบราณอย่างแท้จริง อันเป็นเหตุให้สามารถหลงลืมความทุกข์ระทมที่ตนถูกหักอกไปเสียสนิทใจเกิดใหม่ในร่างโฉมสะคราญ ถึงแม้มีสามีก็เพียงสามีในนามมิใช่หรือ เช่นนั้นหลิวจือหลินควรใช้เรือนร่างสะโอดสะองให้เป็นประโยชน์สูงสุด อย่างเช่น สวมใส่เสื้อผ้างดงามที่ตัดเย็บด้วยตนเอง ผสานกลิ่นอายการออกแบบในยุคสมัยที่จากมาลงไปด้วย ต้องดูแปลกใหม่ไม่ซ้ำใครแน่นอน ตรึกตรองดูแล้วเรื่องวาดฝันเพื่อทำการค้าของหลิวจือหลินก็ดูไม่เลวทีเดียวหากนางสามารถออกมาจากเรือนโอ่อ่าทว่าชวนอึดอัดนั้นได้จริง ต่อให้ต้องถูกตราหน้าว่าเป็นหญิงหม้ายก็ช่างปะไร ในเมื่อหลิวจือหลินมิสนใจธรรมเนียมคร่ำครึนั่นเสียอย่

    Последнее обновление : 2025-03-11
  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 5 ฮูหยินผู้มีใบหน้าที่แสนอัปลักษณ์ (2/2)

    "ขออภัยพี่หญิง ข้ามิได้จงใจแย่งชิงผืนนี้กับท่าน" เสียงใสเอ่ยด้วยความพินอบพิเทา แววตาไหวระริกคล้ายกลัวนางเสียเต็มประดาเดิมทีหม่าลี่เจี่ยพิเคราะห์อยู่นานว่าอีกฝ่ายคือฮูหยินเจียงโหวหรือไม่ เพราะการแต่งกายของนางเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ซ้ำหลิวจือหลินยังปกปิดใบหน้า แต่ทว่านางจำสาวใช้ข้างกายทั้งสองได้ ดูเหมือนใบหน้าที่ถูกปิดบังคงซ่อนความอัปลักษณ์เอาไว้แน่แท้สายตาของคนในร้านนับสิบคู่เริ่มเมียงมองมาที่พวกนางด้วยความใคร่รู้หลิวจือหลินกระซิบแผ่วกับสาวใช้ "นะ...นางคือใคร"เจียวเจียวกะพริบตาถี่ เหลียวมองหน้ากับปี้อี๋เจียวเจียวกระซิบตอบ "ฮูหยิน นี่อนุหม่าอย่างไรเจ้าคะ"ดุจกระแสอสนีบาตฟาดกลางกระหม่อม ร่างระหงแทบล้มทั้งยืน ไฉนใบหน้าของหม่าลี่เจี่ยจึงคล้ายเพื่อนสนิทที่รวมหัวกับแฟนหนุ่มเพื่อหักหลังนางได้ถึงเพียงนี้"พี่หญิงเป็นอันใดไปเจ้าคะ" อีกฝ่ายยังเอ่ยด้วยน้ำเสียงนอบน้อมไร้เดียงสาหลิวจือหลินตั้งสติ ร่างระหงยืดกายตรงแน่ว โลกคงไม่เหวี่ยงคนบัดซบมาให้เจอซ้ำ ๆ กระมัง อาจเป็นคนที่หน้าเหมือนกันในชาตินี้ นางเองยังมีรูปร่างหน้าตาละม้ายเจ้าของร่างเดิ

    Последнее обновление : 2025-03-12
  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 6 บุรุษที่ไม่อยากเจอ (1/2)

    หลิวจือหลินครุ่นคิดถึงความเหมาะสม นัยน์ตากลมโตเหลียวมองสาวใช้ข้างกาย ยามนี้พวกนางมีทีท่าเป็นกังวลอย่างยิ่งยวด ปี้อี๋และเจียวเจียวพร้อมใจส่ายศีรษะ ทว่าเมื่อเหลือบมองบุรุษฝั่งตรงข้ามอีกหนอย่างนึกลังเล ชายหนุ่มก็ยังส่งยิ้มละไมให้นางราวกำลังกดดัน นัยน์ตาคมจดจ้องเพราะคาดหวังในคำตอบนางเป็นสตรีที่ออกเรือนแล้ว การไปทานข้าวกับบุรุษซึ่งมิใช่สามีจะเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์หรือไม่ เมื่อตรึกตรองถึงเรื่องก่อตั้งกิจการในอนาคต หลิวจือหลินจึงเห็นทางสว่างอยู่รำไร หากทำความรู้จักกับเขา ผู้เป็นถึงเจ้าของร้านผ้าอันใหญ่โตโอ่โถง ก็นับว่าได้ประโยชน์ไม่น้อยมิใช่หรือ"ฮูหยินดูลังเลเพียงนี้ คงเป็นกังวลว่าท่านโหวจะโกรธเคืองงั้นหรือ"หลิวจือหลินส่งยิ้มแห้งขอด นางยกมือขึ้นโบกไปมาพัลวัน "เปล่า เปล่า เจ้าค่ะ เดิมทีข้าและท่านโหวไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวกันและกันอยู่แล้ว"เจ้าของใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มกว้าง "เช่นนั้นฮูหยินคงไม่ถือสา ถึงอย่างไรทั้งท่านและข้าล้วนแต่มีผู้ติดตาม หาได้ไปเพียงลำพัง ถือเสียว่าเป็นการทักทายจากสหายที่เพิ่งพานพบ ท่านว่าดีหรือไม่"สาวใช้ทั้งสองหน้าเจื่อน แต่หลิวจือห

    Последнее обновление : 2025-03-13
  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 6 บุรุษที่ไม่อยากเจอ (2/2)

    ชายหนุ่มอมยิ้ม เขามองตามสายตาดุจแมวน้อยหิวโซของหลิวจือหลิน นางยังคงลังเลว่าควรลองชิมอาหารจานใดก่อนตะเกียบในมือชายหนุ่มถูกหยิบขึ้น ฟ่านเทียนเผยคีบอาหารวางลงในถ้วยกระเบื้องเคลือบของหลิวจือหลิน "ซี่โครงหมูเปรี้ยวหวาน เป็นอาหารขึ้นชื่อของที่นี่ ท่านลองชิมว่าชอบหรือไม่"หลิวจือหลินแหงนมองอีกฝ่าย เขาช่างดูเอาใจใส่สหายที่เพิ่งรู้จักกันอยู่ไม่น้อย หากสตรีนางใดเป็นฮูหยินของเขา คงโชคดีมากทีเดียว หลิวจือหลินละเลียดชิมอย่างเกรงใจ เมื่อหมูชิ้นแรกถูกส่งเข้าปาก ความนุ่มละมุนลิ้นผสานรสเปรี้ยวหวานอันเข้ากันอย่างลงตัว เป็นเหตุให้หลิวจือหลินตื่นตาอย่างยิ่ง"อื้อฮือ...อร่อยมากเจ้าค่ะ" มือเรียวยกขึ้นชูนิ้วโป้งม่านตาเบิกกว้างชอบใจริมฝีปากได้รูปจุดรอยยิ้มจาง ๆ "หากไม่พอข้าจะสั่งเพิ่มให้"หลิวจือหลินส่ายศีรษะจนเส้นผมแตกกระเจิง "พอแล้วเจ้าค่ะ มากมายเพียงนี้ ทานเพียงสองคนไม่หมดแน่ สิ้นเปลืองเสียเปล่า"ฟ่านเทียนเผยคีบอาหารอีกหลายอย่างส่งไปยังถ้วยอาหารของหลิวจือหลิน นางก็มิได้ปฏิเสธแต่อย่างใด อาหารสูตรโบราณเหล่านี้อร่อยล้ำถูกปากจริง ๆ หลิวจือหลินนอนป่วยอยู่ในจวนโหวตั

    Последнее обновление : 2025-03-14

Latest chapter

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 33 บุรุษผู้กุมความลับแห่งสวรรค์ (1/2)

    เจียงซื่อจวินหลับใหลไร้สติร่วมเจ็ดวัน หลิวจือหลินดูแลเขาอยู่ไม่ห่าง ทว่านางกลับไม่พบหม่าลี่เจี่ย เหตุใดอนุของเขาจึงมิได้แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนเลย หนำซ้ำเรือนตะวันตกยังดูเงียบเหงาจนผิดปกติอีกด้วยแค่ก! แค่ก!เสียงกระอักไอของใครบางคนทำให้หลิวจือหลินหลุดจากภวังค์"ท่านโหว!"หลิวจือหลินรุดเข้าประคองอีกฝ่ายด้วยความร้อนรนระคนดีใจ"นะ...น้ำ"เจียวเจียวซึ่งยืนรอเป็นลูกมือในทุกวัน ถลันไปรินชาลงถ้วยกระเบื้องเคลือบด้วยมือสั่นเทา นางเห็นหลิวจือหลินดูแลเจียงซื่อจวินจนหน้าซีดขาว ก็อดเป็นห่วงมิได้ ยามนี้เจียงโหวรู้สึกตัวแล้ว หวังว่านายของตนจะหันมาดูแลตัวเองเสียบ้าง"ฮูหยิน น้ำเจ้าค่ะ""ขอบใจนะ" หลิวจือหลินส่งยิ้มให้เจียวเจียว จากนั้นจึงป้อนให้ผู้ป่วยด้านหน้าแค่ก แค่ก"ค่อย ๆ เจ้าค่ะ"เมื่อเห็นว่าเจียงซื่อจวินฟื้นแล้ว ไม่มีสิ่งใดน่าห่วง สาวใช้ทั้งสองรวมถึงองครักษ์ซ้ายขวาจึงพร้อมใจกันออกไปด้านนอก"ยังเจ็บแผลอยู่หรือไม่เจ้าคะ"เจียงซื่อจวินช้อนตามองสตรีเบื้องหน้า นางดูเป็นกังวลอย่างยิ่งยวด ซ้ำใบหน้ายังซีดขาว ขอ

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 32 รู้ตัวเมื่อสาย (2/2)

    หลิวจือหลินเหงื่อกาฬแตกพลั่ก ราวกับว่าตนกำลังถูกผู้ปกครองจับมัดแล้วหวดตีเพราะดื้อรั้น เสียงใสกล่าวอ้อมแอ้ม "เอ่อ...ท่านโหว อย่าเพิ่งดุข้าได้หรือไม่ คือ...ข้าเพียงไม่รู้ว่ายามนี้ราชวังกำลัง... อีกอย่างข้ารอท่านแล้ว แต่ท่านไม่มาพบข้าเลยตั้งหลายวัน"เจียงซื่อจวินอึ้งงั้นไปชั่วขณะ นางบอกว่ารอเขาอยู่อย่างนั้นหรือ นางเฝ้ารอเขาไปพบโดยตลอด แม้จะเพราะต้องการเข้าวังก็ตาม ไฉนจึงรู้สึกดีใจเพียงนี้กัน"ข้าทำงาน ขอโทษเจ้าด้วย ที่ปล่อยให้รอนาน ต่อไปข้าจะไม่หายหน้าแบบนี้อีกแล้ว"หลิวจือหลินกะพริบตาปริบ ๆนี่เขาขอโทษข้างั้นหรือจู่ ๆ ร่างกำยำก็โน้มลงโอบรอบเอวคอดไว้ในอ้อมแขน ใบหน้าหล่อเหลาก่ายเกยบนลาดไหล่แคบ ลมหายใจอุ่นเป่ารดต้นคอเสียจนหลิวจือหลินขนลุกเกรียว"...ท่านโหว เป็นอะไรเจ้าคะ""นิ่ง ๆ ข้าอยากอยู่แบบนี้สักพัก" นัยน์ตาคมหลับลง เขากำลังประมวลความคิดบางอย่าง เมื่อครู่เขาเป็นห่วงนางแทบแย่ เหตุใดนางจึงไม่รู้จักรักตัวกลัวตายเสียบ้าง ไยนางจึงกล้าฝ่าดงกระบี่ ดงเพลิงเพื่อช่วยเหลือเขาหลิวจือหลินหายใจติดขัดด้วยอาการตื่นตร

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 32 รู้ตัวเมื่อสาย (1/2)

    หลิวจือหลินใจกระตุกอย่างรุนแรง เรือนกายของนางชาวาบเมื่อเห็นเปลวเพลิงลุกโชติช่วงเป็นวงกว้างล้อมรอบเจียงซื่อจวินต่อหน้าต่อตา"ท่านโหว!" ช่ายจินซินพยายามบุกทะลวงเพื่อฝ่าอัคคีร้อนเข้าช่วยนายของตน ทว่ายังมิอาจแทรกกายเข้าไปได้เสียงทุ้มตะเบ็งลั่น "ถานอี้! เจ้ามันช่างเนรคุณจริงแท้"ทุกคนต่างผินหน้าตามต้นเสียงโดยพร้อมเพรียง รัชทายาทนำกองกำลังทหารนับพันนายเข้ามาสมทบแล้ว หลิวจือหลินเล็งเห็นจังหวะเหมาะ นัยน์ตากลมโตสำรวจหาสิ่งทุ่นแรง ในที่สุดก็พบม้าตัวโตยืนจังก้าโดดเดี่ยวริมสระน้ำ บริเวณเดียวกันมีผ้าคลุมไหล่ผืนหนาหล่นเกลื่อนพื้นเอาน่าจือหลิน... แม้จะไม่เคยกินเนื้อหมู แต่ก็เคยเห็นหมูวิ่ง [1] มิใช่หรือร่างระหงวิ่งถลาค้อมกายหยิบผ้าคลุมขึ้นทันควัน จากนั้นตวัดจุ่มลงน้ำจนเปียกชุ่ม หลิวจือหลินใช้มันห่อกายตนเอาไว้ แล้วจึงกระโจนขึ้นบนหลังม้าด้วยความรวดเร็วเจียงซื่อจวินซึ่งจับตามองหลิวจือหลินผ่านกลุ่มควันสีหม่น เขาเห็นรำไรว่านางกำลังวิ่งวุ่นกระทำบางสิ่ง

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 31 ขวางหูขวางตา (2/2)

    หลิวจือหลินหมุนเคว้งเป็นลูกข่าง นัยน์ตากลมโตจดจ้องอีกฝ่ายด้วยอาการตะลึงงัน"คุณชายฟ่าน! นะ...นี่ท่านมาได้อย่างไร"ฟ่านเทียนเผยประคองสตรีร่างระหงไว้ในอ้อมแขน ส่วนมืออีกด้านกำลังฟาดฟันกับศัตรูอย่างไม่ย่อหย่อน "ไว้ข้าจะบอกอีกครา" เขาโน้มกระซิบ "กุ้ยเฟยและฮองเฮาเล่า"หลิวจือหลินกระซิบตอบ "หลบในที่ปลอดภัยแล้วเจ้าค่ะ"ชายหนุ่มพยักหน้าด้วยความเข้าใจ หลิวจือหลินรู้สึกว่ายามนี้นางกำลังเป็นภาระของเขา เมื่อเพ่งสายตามองไปด้านนอกธรณีทางเข้า นางก็พบกับองครักษ์ทั้งสองของเจียงซื่อจวิน พวกเขามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อใดเฉิงซือหานซึ่งได้รับหน้าที่ติดตามดูแลหลิวจือหลิน ต้านศึกอยู่ด้านนอกมาโดยตลอด ทว่าสองหมัดยากจะสู้สี่มือ [1] เพราะกองกำลังทหารด้านหน้ามีเพียงหยิบมือ ส่งผลให้เขายื้อเวลาได้ไม่นาน ภายในห้องก็ถูกรุกล้ำเสียแล้ว"คุณชายฟ่าน ท่านปล่อยข้าเถิด ข้าดูแลตัวเองได้""ได้ แต่ฮูหยินอย่าบุ่มบ่ามเช่นเมื่อครู่อีก ข้าตกใจแทบแย่ เช่นนั้นข้าจะให้ผู้ติดตามของข้าพาท่านไปหลบที่ปลอดภัย"นางไม่อยากเป็น

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 31 ขวางหูขวางตา (1/2)

    เสียงโลหะกระทบกันพร้อมเสียงกรีดร้องสะท้อนเข้ามาจากนอกตำหนักฮองเฮาและหลิวจือหลินดีดกายยืนขึ้นโดยพร้อมเพรียงอย่าบอกเชียวที่เขาห้ามข้าไม่ให้เข้าวังเพราะเรื่องนี้"ฮองเฮาเพคะ ในนี้มีห้องลับหรือไม่"หลิวจือหลินเอ่ยถามด้วยความเร่งร้อน พลางประคองสตรีข้างกายเอาไว้ ทว่าอีกฝ่ายกำลังอยู่ในอาการตื่นตะลึง ฮองเฮาทำเพียงพยักหน้าเท่านั้น นางกำนัลคนสนิทของฮองเฮาจึงโพล่งขึ้น"มีเจ้าค่ะฮูหยิน"หลิวจือหลินพยักหน้าเข้าใจ นางเคยดูซีรีส์มาบ้าง โดยปกติในตำหนักเชื้อพระวงศ์มักมีห้องลับด้านในแต่ทว่าพื้นที่คงมิได้กว้างขวางนักเพราะในนี้มีคนอยู่ไม่น้อยเลย มิรอให้นางกำนัลต้องนำทางว่าที่ใด หลิวจือหลินก็มุ่งหน้าไปยังองค์พระขนาดย่อมเสียก่อน นางจูงมือฮองเฮาและกุ้ยเฟยให้เดินตาม"ตรงนี้ใช่หรือไม่" หลิวจือหลินเอ่ยถามนางกำนัล"เจ้าค่ะ"ฮองเฮางุนงง "เจ้ารู้ได้อย่างไร มิใช่ว่าเพิ่งเข้าห้องนี้ครั้งแรกหรือ""หม่อมฉันเดาเพคะ ดูจากรูปแบบการก่อสร้างแล้ว คงต้องใช่แน่นอน"ฮองเฮาพยักหน้า "เช่นนี้เอง เจ้าช่างฉลาดล้ำดีจ

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 30 ก่อกบฏ (2/2)

    "ขอบพระทัยกุ้ยเฟยเพคะ เอ่อ...หม่อมฉันมีข้อสงสัยบางอย่าง มิทราบสามารถเอ่ยถามได้หรือไม่"กุ้ยเฟยตอบยิ้ม ๆ "เอาสิ เจ้าสงสัยสิ่งใดหรือ"หลิวจือหลินเริ่มประหม่า "คือว่า...หยกมณีเพลิงนั่น...""อ่า...หยกนี่หรือ" ซินกุ้ยเฟยยกเครื่องประดับอันงดงามซึ่งแขวนอยู่บนลำคอพลิกมองซ้ายขวา จากนั้นแหงนหน้าประสานสายตากับหลิวจือหลิน เอ่ยต่อว่า "ฝ่าบาทประทานให้ข้าและฮองเฮาคนละอันอย่างไรเล่า"หลิวจือหลินใจเต้นไม่เป็นส่ำ ฟ่านเทียนเผยคงมิได้นำหยกมณีเพลิงปลอมให้ฮองเฮาใช่หรือไม่ แต่นางสำรวจดูแล้ว หยกชิ้นนั้นเป็นของแท้แน่นอนคุณชายฟ่านคงมิได้หาของก็อบเกรดเอมาลวงหลอกใช่ไหมเนี่ยดูเหมือนซินกุ้ยเฟยและฮองเฮารู้ทันความคิดหลิวจือหลินเข้าเสียแล้ว สตรีวัยกลางคนจูงมือหลิวจือหลินให้ยอบกายนั่งขนาบข้างตน"เอ่อ...ฮองเฮาเพคะ หม่อมฉันไม่อาจเอื้อม...""เด็กดี นั่งลงเถิด"หลิวจือหลินเหลียวมองซินกุ้ยเฟยซึ่งนั่งถัดลงไปหนึ่งระดับ อีกฝ่ายยิ้มตอบซ้ำยังพยักหน้าบางเบา นางจึงวางใจหย่อนกายลงตามประสงค์ จากนั้นนางกำนัลก็นำฉลองพระองค์ที่หลิวจือหลินตัดเย

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 30 ก่อกบฏ (1/2)

    ตั้งแต่เจียงซื่อจวินพูดคุยกับหลิวจือหลินวันนั้น เขาก็ไม่โผล่หน้ามายังเรือนตะวันออกเลย ดูเหมือนต้องใช้คำว่าไม่กลับจวนเลยเสียมากกว่า ดูเหมือนงานของเขาหนนี้คงยุ่งจริงจัง หลิวจือหลินนั่งเหม่อมองหยกในมือตาละห้อย"ตาทึ่ม ไม่โผล่หน้ามาเลย ไหนบอกจะพาข้าไปเข้าเฝ้าฮองเฮาอย่างไรเล่า แล้วช่วงนี้หายไปไหนกัน...เฮ้อ"ปี้อี๋ "ฮูหยิน คิดถึงท่านโหวหรือเจ้าคะ"หลิวจือหลินอึกอัก "ซะ...ซี้ซั้ว ใครคิดถึงเขา ข้าอยากไปเข้าเฝ้าฮองเฮาต่างหาก"แม้ปากเอ่ยปฏิเสธทว่าจิตใจของนางกลับระส่ำระสายอย่างยิ่งยวด เขาไม่ว่างกระทั่งโผล่มาหานางสักเสี้ยวเลยงั้นหรือ หลิวจือหลินพยายามสลัดความคิดฟุ้งซ่านนั้นทิ้งไปโหวเผด็จการนั่นไม่อยู่ก็ดีแล้วนี่ จะได้ไม่ต้องมีใครมาบงการหรือบีบบังคับ ซ้ำยังไม่ต้องเจอหน้าที่แสนเกลียดชังนั่นด้วยหลิวจือหลินสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด "ปี้อี๋ เจียวเจียว เตรียมรถม้า""ฮูหยินจะไปที่ใดหรือเจ้าคะ" เจียวเจียวเอ่ยถามด้วยความฉงน"ข้าอยากไปเข้าเฝ้าฮองเฮา ข้าทำอาภรณ์ชุดใหม่ขึ้นมา ต้องการถวายฮองเฮาเพื่อเป็นของกำนัล ยามนั้นชุลมุนเกิน

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 29 ข้าจะรอท่าน (2/2)

    "นั่นเจ้ากำลังทำสิ่งใด" เสียงทุ้มโพล่งจากทางเบื้องหลังหลิวจือหลินสะดุ้งโหยง หลายวันแล้วที่นางนั่ง ๆ นอน ๆ จนรู้สึกเบื่อหน่าย เหตุใดนางมักล้มหมอนนอนเสื่ออยู่เรื่อย หายจากอาการโน้นก็มีเรื่องร้ายแทรกซ้อนเข้ามาไม่หยุดหย่อน"ท่านโหว ข้าเพียงหาอะไรทำเล็กน้อยเท่านั้น ช่วงนี้ร้านฟ่านอินก็ไม่ให้ข้าเฉียดเข้าใกล้ เพราะคุณชายฟ่านเกรงว่าข้าจะทำงานหนัก กระทั่งข้าอยู่เรือนท่านก็ยังจะห้ามข้าไม่ให้ทำอะไรอีกคนหรือ"เจียงซื่อจวินถอนหายใจเบา นางเอาแต่กล่าวถึงบุรุษอื่นอีกแล้ว "ข้ามิได้ห้าม เจ้ายังไม่หายดีจะหักโหมได้อย่างไร"หลิวจือหลินคลี่ยิ้มให้เขา "ข้าหายดีแล้วเจ้าค่ะ ตั้งแต่งานพิธีวันนั้น ข้ายังไม่เห็นฮองเฮาสวมฉลองพระองค์กระจะตาเลย ข้าอยากทำคอลเลคชั่นใหม่ไปถวายฮองเฮาเจ้าค่ะ""คอลเลคชั่นใหม่?" เจียงซื่อจวินเลิกคิ้ว ขบคิดไปพักหนึ่ง จากนั้นเอ่ยต่อ "ตื่นมากี่คราวาจาก็ยังประหลาด""ท่านโหวพาข้าไปเข้าเฝ้าฮองเฮาได้หรือไม่เจ้าคะ ข้ารับรองว่าจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้ท่านต้องลำบากใจ" หลิวจือหลินเว้าวอน เปลือกตาบางกะพริบปริบเจียงซื่อจวินเห็นใบหน้าดั่งแมวน้อยขี้

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 29 ข้าจะรอท่าน (1/2)

    ภายในคุกใต้ดินอันแสนสกปรกและอับชื้น ท่อนขาสูงยาวเยื้องย่างเนิบนาบ ขนาบข้างซ้ายขวาคือแสงรำไรจากเชิงเทียนที่คอยส่องสว่างเป็นแนวทอดยาว ใบหน้าหล่อเหลายามนี้แข็งกระด้างเยือกเย็นเต็มไปด้วยไอสังหารชายฉกรรจ์ที่ลักพาตัวโฮ่วถิงในงานพิธีวันนั้นถูกจับได้ทั้งหมด โชคยังดีที่พวกมันมิได้ปู้ยี่ปู้ยำสตรีแต่อย่างใด เพียงอุ้มไปทิ้งในพื้นที่เปลี่ยวร้าง สิ่งที่น่าตระหนกไปกว่านั้น บรรดาชายเหล่านี้หาใช่มืออาชีพอย่างที่คิด กระทั่งเค้นสอบถาม และทรมานเพียงใดก็มิยอมปริปากว่าผู้ใดคือคนบงการเบื้องหลัง ดูเหมือนจะเป็นผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่เสียด้วย หนำซ้ำยังซื้อตัวพวกเขาได้อย่างเฉียบขาดชายกำยำผู้หนึ่งถูกปลดลงจากขื่อ จากนั้นถูกจับแขนทั้งสองกางออกให้นอนหงายท้อง กระดาษแผ่นแรกวางโป๊ะลงบนใบหน้าคร้ามแดด น้ำสกปรกในถังไม้ถูกเทลงไปแช่มช้าซ่าาาาา...แค่ก แค่ก"จะบอกหรือไม่ ว่าใครส่งพวกเจ้ามา!"มีเพียงเสียงกระอักไอทว่าไร้คำตอบ นักโทษรายอื่น ๆ ต่างมองหน้ากันหลุกหลิก วิธีที่เขาใช้ทรมานนักโทษดูไม่น่ากลัว แท้จริงแล้วช่างเป็นการสอบปากคำอันแสนทรมานอย่างยิ่งยวด ชายที่นอนอยู่ถูกแผ่นกระดาษป

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status