แชร์

ภัยแร้ง

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-26 21:12:00

บรรยากาศระหว่างคนทั้งสามตึงเครียดราวกับสายธนูที่ถูกน้าวสุดแรง ไป๋เฟิงมองเหม่ยหลินและคุณหมอชลธีสลับไปมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม เหม่ยหลินรู้สึกเหมือนถูกบีบรัดด้วยความลับที่ปกปิดมานานหลายปี เธอรู้ว่าไม่อาจหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าในครั้งนี้ได้อีกต่อไป

"ไป๋เฟิง" เหม่ยหลินเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเธอสั่นเครือแต่แฝงด้วยความเด็ดเดี่ยว "ข้าจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ท่านฟัง แต่ท่านต้องให้สัญญากับข้าว่า ท่านจะไม่ตัดสินข้า และจะเชื่อในสิ่งที่ข้าพูด"

ไป๋เฟิงพยักหน้าอย่างช้าๆ "ข้าให้สัญญาขอรับ"

เหม่ยหลินจึงเริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมด ตั้งแต่วันที่เธอเป็นเชฟในโรงพยาบาลในโลกที่เธอจากมา เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันที่ทำให้เธอหลุดข้ามมิติมายังโลกนี้ การได้พบกับครอบครัวของเจียงเหวิน และการใช้ความรู้จากโลกเดิมเพื่อเอาชีวิตรอดและสร้างชีวิตใหม่ เธอไม่ได้ละเว้นแม้แต่เรื่องราวที่เธอเคยบอกไปแล้วอย่างเรื่องการทำอาหารจากวัตถุดิบประหลาด หรือเรื่องราวของโลกที่เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าไปไกลกว่าโลกนี้มาก

ไป๋เฟิงฟังอย่างเงียบสงบ สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนจากความสงสัยเป็นความเข้าใจและตกตะลึง ในขณะที่คุณหมอชลธีก็เสริมข้อมูลบางอย่างที่เหม่ยหลินไม่รู้ในมุมของเขาในฐานะแพทย์

"และคุณหมอชลธี...เขาก็คือคนจากโลกเดิมของข้าเพคะ" เหม่ยหลินกล่าวในตอนท้าย "เราถูกพามาที่นี่ด้วยกันโดยพลังงานบางอย่างที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก และตอนนี้...มันกำลังตามหาพวกเรา เพื่อที่จะดึงเรากลับไปเพคะ"

ไป๋เฟิงถอนหายใจยาว เขานั่งลงบนพื้นหินอย่างช้าๆ ราวกับแบกรับน้ำหนักของความจริงอันยิ่งใหญ่เอาไว้ "เรื่องราวของท่าน...ราวกับเทพนิยายที่ข้าเคยอ่าน" เขาเงยหน้าขึ้นมองเหม่ยหลินด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน "ข้าเชื่อท่าน...ข้าเชื่อในทุกสิ่งที่ท่านพูดขอรับ"

เหม่ยหลินรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก การได้รับการยอมรับจากไป๋เฟิงทำให้เธอรู้สึกราวกับได้ปลดเปลื้องภาระหนักอึ้งในใจไปได้ครึ่งหนึ่ง

"แล้วท่านจะทำอย่างไรต่อไปขอรับ" ไป๋เฟิงถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ท่านจะกลับไปที่โลกนั้นหรือไม่"

คำถามของไป๋เฟิงทำให้เหม่ยหลินชะงัก เธอไม่เคยตอบคำถามนี้กับตัวเองอย่างจริงจังเลยตั้งแต่มาอยู่ที่นี่

"ข้าไม่รู้เพคะ" เหม่ยหลินตอบอย่างตรงไปตรงมา "ข้ามีความสุขอยู่ที่นี่ มีครอบครัว มีทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้าปรารถนา แต่ถ้าสิ่งที่พวกมันตามหาคือพวกเราจริงๆ...ข้าก็ไม่อยากให้มันมาสร้างปัญหาให้กับแคว้นที่ข้ารักเพคะ"

"ถ้าอย่างนั้น...ข้าจะช่วยท่าน" ไป๋เฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ข้าไม่รู้ว่าพลังงานที่ท่านพูดถึงคืออะไร แต่ข้าเชื่อว่าด้วยความรู้และไหวพริบของพวกเรา เราจะสามารถต่อสู้กับมันได้"

มิตรภาพและความไว้วางใจระหว่างทั้งสามคนยิ่งแน่นแฟ้นขึ้นในคืนนั้น คุณหมอชลธีตกลงที่จะมาพักอยู่ที่วังหลวง เพื่อร่วมมือกับเหม่ยหลินในการศึกษาเรื่อง "พลังงาน" ที่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ

เมฆฝนที่หายไปและสัญญาณแห่งภัยแล้ง

ชีวิตในวังหลวงกลับคืนสู่ความสงบสุขได้ไม่นาน วิกฤตการณ์ใหม่ ก็เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ และเงียบเชียบ ฤดูร้อนปีนั้นมาถึงเร็วกว่าปกติ และท้องฟ้าก็ไร้ซึ่งเมฆฝน ไม่ว่าชาวบ้านจะทำพิธีขอฝนอย่างไร ก็ไม่มีฝนแม้แต่หยดเดียวตกลงมา

ความแห้งแล้งเริ่มคืบคลานไปทั่วทั้งแคว้น แหล่งน้ำธรรมชาติเริ่มแห้งขอด แผ่นดินแตกระแหง พืชผลที่เคยอุดมสมบูรณ์ในแปลงนาเริ่มเหี่ยวเฉา และความร้อนระอุของอากาศก็สร้างความทุกข์ทรมานให้กับผู้คน

"ฝ่าบาท! แม่น้ำสายหลักของเราแห้งขอดแล้วพะย่ะค่ะ!" ท่านราชครูจ้าวรายงานด้วยความวิตกอย่างยิ่ง "หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป...แคว้นของเราจะเผชิญกับภัยแล้งครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์พะย่ะค่ะ!"

องค์จักรพรรดิทรงลุกขึ้นจากบัลลังก์ พระพักตร์ของพระองค์ซีดเซียวด้วยความกังวลยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ภัยแล้งไม่ใช่ศัตรูที่สามารถใช้กำลังทหารเข้าต่อสู้ได้ มันคือหายนะจากธรรมชาติที่อยู่เหนือการควบคุมของมนุษย์

"แล้วเราจะทำอย่างไรกันดี!" องค์จักรพรรดิรับสั่งด้วยน้ำเสียงสิ้นหวัง "เราเพิ่งฟื้นตัวจากพายุหิมะ! เราจะรับมือกับภัยแล้งครั้งนี้ได้อย่างไร!"

แผนรับมือจากปัญญาที่ถูกทิ้งร้าง

ในขณะที่ขุนนางทุกคนกำลังสิ้นหวัง เหม่ยหลินก็ก้าวออกมาข้างหน้าพร้อมกับคุณหมอชลธีและไป๋เฟิง

"ฝ่าบาทเพคะ หม่อมฉันมีแผนที่อาจจะสามารถช่วยได้เพคะ" เหม่ยหลินกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

เธอเริ่มอธิบายแผนการที่ดูแปลกประหลาด แต่มาจากความรู้ที่ล้ำหน้ากว่ายุคสมัยหลายพันปี

1. กลยุทธ์ "การใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ": เหม่ยหลินเสนอให้สร้าง "ระบบคลองชลประทานใต้ดิน" โดยใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ที่เธอเรียนรู้จากโลกเดิม เพื่อนำน้ำจากแหล่งน้ำที่ยังเหลืออยู่ไปหล่อเลี้ยงพื้นที่เพาะปลูกอย่างทั่วถึง โดยลดการระเหยของน้ำจากแสงแดด นอกจากนี้เธอยังเสนอให้ใช้ "ระบบน้ำหยด" โดยใช้ภาชนะดินเผาเล็กๆ ฝังไว้ใกล้รากพืช เพื่อให้น้ำซึมลงไปหล่อเลี้ยงรากพืชโดยตรงอย่างช้าๆ ซึ่งเป็นการประหยัดน้ำอย่างมหาศาล

2. กลยุทธ์ "พืชทนแล้ง": คุณหมอชลธีเสริมว่าในโลกเดิมของพวกเขามีพืชบางชนิดที่สามารถทนต่อสภาพอากาศที่แห้งแล้งได้ดีเยี่ยม เขาเชื่อว่าในโลกนี้ก็ต้องมีพืชเช่นนั้นอยู่เช่นกัน เขาเสนอให้ไป๋เฟิงนำทีมออกสำรวจพื้นที่แห้งแล้งที่สุดในแคว้น เพื่อค้นหาพืชชนิดใหม่ที่สามารถนำมาเพาะปลูกได้

3. กลยุทธ์ "การกักเก็บน้ำในยามวิกฤต": เหม่ยหลินเสนอให้มีการขุดบ่อน้ำขนาดใหญ่และสร้างอ่างเก็บน้ำในทุกหมู่บ้าน เพื่อกักเก็บน้ำจากฝนในยามที่ฝนตก รวมถึงการนำน้ำจากแม่น้ำสายหลักที่ยังคงมีน้ำอยู่มาเก็บไว้ในอ่างเก็บน้ำเหล่านี้

4. กลยุทธ์ "อาหารแปรรูปเพื่อการอยู่รอด": ในขณะที่รอการฟื้นฟู เหม่ยหลินได้ใช้ความรู้เรื่องการถนอมอาหารในการแปรรูปอาหารที่ยังมีเหลืออยู่ ให้สามารถเก็บไว้กินได้นานขึ้น เช่น การทำผักดอง เนื้อตากแห้ง และขนมปังแข็ง เพื่อให้ประชาชนมีอาหารกินอย่างต่อเนื่องในช่วงวิกฤต

"แผนการของท่านช่าง...เหลือเชื่อนัก" ท่านราชครูจ้าวอุทานด้วยความทึ่ง

"แต่มันเป็นไปได้เพคะ" เหม่ยหลินตอบ "เราแค่ต้องเชื่อในวิทยาศาสตร์และพลังแห่งปัญญาที่ถูกทิ้งร้างไว้ในอดีต"

องค์จักรพรรดิทรงตรัสด้วยพระสุรเสียงหนักแน่น "ข้าเชื่อในตัวท่านแม่เจียง! และข้าขอให้ทุกคนร่วมมือกันอย่างเต็มที่ในภารกิจนี้!"

ภารกิจค้นหาแหล่งน้ำและพืชทนแล้ง

ไป๋เฟิงและคุณหมอชลธีนำทีมออกสำรวจแหล่งน้ำที่ยังคงเหลืออยู่ในพื้นที่ห่างไกล พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความร้อนระอุของแสงแดดที่แผดเผา และความเหนื่อยล้าจากการเดินทางในสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย

"ดูสิไป๋เฟิง! นี่คือ 'บัวดินทะเลทราย'!" คุณหมอชลธีอุทานด้วยความตื่นเต้น เมื่อพบพืชชนิดหนึ่งที่ยังมีชีวิตอยู่ในแผ่นดินที่แห้งแล้ง "มันสามารถเก็บน้ำไว้ในลำต้นได้! และรากของมันก็ยาวมาก! มันอาจจะช่วยให้เราค้นพบแหล่งน้ำใต้ดินได้!"

ในขณะที่พวกเขากำลังสำรวจอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงปริศนาดังขึ้นจากด้านหลัง!

"ฮ่าฮ่าฮ่า! พวกเจ้ากำลังหาแหล่งน้ำกันอยู่รึ!"

ชายร่างกำยำผู้มีผิวหนังคล้ำเสียจากการตากแดด ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยสักแปลกประหลาด และมีแววตาที่เต็มไปด้วยความโลภ ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง

"ข้าคือ หัวหน้าหินทมิฬ! และพื้นที่นี้...เป็นของข้า!" หัวหน้าหินทมิฬคำราม "ถ้าพวกเจ้าอยากได้น้ำ...พวกเจ้าจะต้องจ่ายให้ข้าด้วยทองคำมหาศาล!"

ไป๋เฟิงและคุณหมอชลธีเตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคามใหม่ พวกเขารู้ว่ากลุ่มหินทมิฬเป็นชนเผ่าที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายที่ห่างไกล พวกเขาหวงแหนแหล่งน้ำของตนเองมาก และขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยม

"เราไม่ได้มาหาเรื่องท่าน!" ไป๋เฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบ "เราแค่ต้องการจะช่วยเหลือผู้คนที่กำลังเดือดร้อนจากภัยแล้ง!"

"ฮึ! คำพูดสวยหรูนัก!" หัวหน้าหินทมิฬเยาะเย้ย "ข้าไม่เชื่อคำพูดพวกเจ้าหรอก! พวกเจ้าคิดจะมาแย่งน้ำจากพวกข้า! จงกลับไปซะ! ไม่เช่นนั้นพวกเจ้าจะต้องตายอยู่ที่นี่!"

การเผชิญหน้าระหว่างสองกลุ่มอยู่ในภาวะตึงเครียด ไป๋เฟิงรู้ว่าถ้าสู้กันตอนนี้ พวกเขาจะเสียเปรียบอย่างมาก

"ท่านหัวหน้าหินทมิฬ" คุณหมอชลธีกล่าวขึ้น "เราไม่ได้มาแย่งน้ำจากพวกท่าน เราแค่ต้องการนำปัญญาและเทคโนโลยีมาแบ่งปันให้กับพวกท่าน เพื่อให้พวกท่านสามารถอยู่รอดได้ในยามวิกฤต"

หัวหน้าหินทมิฬหัวเราะเยาะ "เทคโนโลยีอะไรกัน! ข้าไม่เชื่อในสิ่งที่พวกเจ้าพูด! จงกลับไปซะ!"

ในขณะที่การเจรจาดูเหมือนจะล้มเหลวไปเสียแล้ว เหม่ยหลินก็ได้เดินทางมาถึงยังสถานที่นั้นพอดี เธอเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า และตัดสินใจที่จะก้าวออกมาข้างหน้า

"ท่านหัวหน้าหินทมิฬเพคะ" เหม่ยหลินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลและเป็นมิตร "ท่านเคยได้ยินเรื่อง 'ซุปแห่งชีวิตอมตะ' หรือไม่เพคะ?"

คำถามของเหม่ยหลินทำให้หัวหน้าหินทมิฬชะงักไป ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความสงสัย

"เจ้า...เจ้าเป็นใครกันแน่!" หัวหน้าหินทมิฬถาม

"ข้าคือเชฟหลวงแห่งแคว้น และข้าก็คือผู้ที่ปรุงซุปนั้นขึ้นมาเพคะ" เหม่ยหลินตอบ "ข้าไม่ได้ต้องการน้ำจากท่าน แต่ข้าจะนำความรู้เรื่องอาหารมามอบให้ท่าน! ข้าจะสอนให้ท่านสามารถใช้พืชพรรณและสัตว์ที่อยู่ในทะเลทราย เพื่อปรุงอาหารที่จะช่วยให้ท่านมีชีวิตรอดได้ในยามวิกฤต! และช่วยให้ท่านแข็งแกร่งกว่าเดิม!"

คำกล่าวของเหม่ยหลินทำให้หัวหน้าหินทมิฬลังเล เขาได้ยินชื่อเสียงของเชฟหลวงผู้นี้มานาน แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้มาเจอตัวจริง และข้อเสนอของเธอก็ดูน่าสนใจเกินกว่าจะปฏิเสธได้

"งั้นข้าจะให้โอกาสเจ้า!" หัวหน้าหินทมิฬกล่าว "จงปรุงอาหารวิเศษของเจ้าให้ข้าได้ลิ้มลอง! หากมันไม่วิเศษจริง...พวกเจ้าทุกคนจะต้องกลายเป็นอาหารให้พวกข้ากิน!"

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   ภัยแร้ง

    บรรยากาศระหว่างคนทั้งสามตึงเครียดราวกับสายธนูที่ถูกน้าวสุดแรง ไป๋เฟิงมองเหม่ยหลินและคุณหมอชลธีสลับไปมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม เหม่ยหลินรู้สึกเหมือนถูกบีบรัดด้วยความลับที่ปกปิดมานานหลายปี เธอรู้ว่าไม่อาจหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าในครั้งนี้ได้อีกต่อไป"ไป๋เฟิง" เหม่ยหลินเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเธอสั่นเครือแต่แฝงด้วยความเด็ดเดี่ยว "ข้าจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ท่านฟัง แต่ท่านต้องให้สัญญากับข้าว่า ท่านจะไม่ตัดสินข้า และจะเชื่อในสิ่งที่ข้าพูด"ไป๋เฟิงพยักหน้าอย่างช้าๆ "ข้าให้สัญญาขอรับ"เหม่ยหลินจึงเริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมด ตั้งแต่วันที่เธอเป็นเชฟในโรงพยาบาลในโลกที่เธอจากมา เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันที่ทำให้เธอหลุดข้ามมิติมายังโลกนี้ การได้พบกับครอบครัวของเจียงเหวิน และการใช้ความรู้จากโลกเดิมเพื่อเอาชีวิตรอดและสร้างชีวิตใหม่ เธอไม่ได้ละเว้นแม้แต่เรื่องราวที่เธอเคยบอกไปแล้วอย่างเรื่องการทำอาหารจากวัตถุดิบประหลาด หรือเรื่องราวของโลกที่เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าไปไกลกว่าโลกนี้มากไป๋เฟิงฟังอย่างเงียบสงบ สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนจากความสงสัยเป็นความเข้าใจและตกตะลึง ในขณะที่คุณหมอชลธีก็เสริมข้อมูลบางอย่างที่เหม่ยห

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   กองโจรกับการหลับมา

    หลายปีผ่านไปนับตั้งแต่เหตุการณ์โจรสลัดหมาป่าทมิฬ ทุกมุมของแคว้นได้ฟื้นคืนชีวิตชีวาอย่างเต็มที่ภายใต้การนำอันชาญฉลาดของเหม่ยหลินและองค์จักรพรรดิ ตระกูลหลี่ได้กลายเป็นตระกูลที่มีเกียรติยศสูงสุดในแผ่นดิน หลี่เฟยหลงก้าวขึ้นเป็นแม่ทัพใหญ่ผู้แข็งแกร่งและซื่อสัตย์ ชิวลี่ฮวาเป็นที่รู้จักในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านพืชพรรณและศิลปะในวัง ส่วนหลี่เฟยหานก็เติบโตเป็นข้าราชการหนุ่มผู้ซื่อตรงและเปี่ยมด้วยความสามารถ หลี่เฟยหยาง น้องสุดท้องก็เป็นหนุ่มน้อยผู้ร่าเริง มีสติปัญญา และมักจะสร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคนในวังเสมอมิตรภาพระหว่างแคว้นของเหม่ยหลินกับแคว้นเยว่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กกล้า ไป๋เฟิงยังคงเป็นราชทูตผู้ทรงอิทธิพล และมักจะเดินทางมาเยี่ยมเยียนเหม่ยหลินและครอบครัวอยู่เสมอ ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเหม่ยหลินนั้นลึกซึ้งเกินกว่าคำว่ามิตร และเป็นที่รับรู้กันในหมู่คนใกล้ชิดว่าไป๋เฟิงมีใจให้กับเชฟหลวงผู้นี้อย่างสุดซึ้ง แต่ความแตกต่างของสถานะและแคว้นทำให้เรื่องนี้ยังคงเป็นเพียงความรู้สึกที่งดงามในใจเท่านั้นแม้ทุกสิ่งจะดูสมบูรณ์แบบ แต่บางครั้ง เงาจากอดีต ก็มักจะคืบคลานกลับมาทักทาย โดยเฉพาะอดีตที่เ

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   โจร

    ความรุ่งเรืองของแคว้นที่ฟื้นคืนชีพจากวิกฤตภัยธรรมชาติ เป็นดั่งแสงสว่างที่ดึงดูดสายตาจากทุกทิศทุกทาง ชื่อเสียงของ "ซุปแห่งชีวิตอมตะ" และความอุดมสมบูรณ์ที่กลับคืนมาอย่างรวดเร็วภายใต้การนำของ เชฟหลวงเหม่ยหลิน ไม่ได้สร้างความชื่นชมยินดีไปทั่วทุกสารทิศเสมอไป ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป ความโลภ กำลังเริ่มคืบคลานเข้าปกคลุมจิตใจของผู้คนบางกลุ่ม เสียงกระซิบของความมั่งคั่งและแผนการร้ายจากแดนเถื่อน ทางทิศตะวันออกไกลโพ้นจากแคว้นที่กำลังฟื้นฟู มีกลุ่มโจรขนาดใหญ่ที่เรียกตัวเองว่า "หมาป่าทมิฬ" อาศัยอยู่ พวกมันเป็นที่หวาดกลัวของผู้คนในแถบนั้น ด้วยความโหดเหี้ยม ป่าเถื่อน และความสามารถในการปล้นสะดมอย่างรวดเร็วราวกับฝูงหมาป่าที่หิวโหย หัวหน้ากลุ่ม คือชายร่างยักษ์ผู้มีใบหน้าดุร้ายและรอยแผลเป็นพาดผ่านดวงตา "ไคเฟิง" เขาได้ยินข่าวลือเรื่องความมั่งคั่งของแคว้นที่ฟื้นคืนชีพ รวมถึงเรื่องอาหารวิเศษที่ทำให้ผู้คนมีพละกำลังและสุขภาพดี "พวกแกได้ยินข่าวลือเรื่องแคว้นทางตะวันตกนั่นรึไม่!" ไคเฟิงคำรามเสียงดังในค่ายโจรที่เต็มไปด้วยกองไฟและเสียงเอะอะโวยวาย "มันว่ากันว่าแคว้นนั้นมีอาหารวิเศษที่ทำให้คนไม่เจ็บไม่ป่วย!

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   การฟื้นฟู

    เสียงโห่ร้องยินดีดังกึกก้องไปทั่วลานประลอง เมื่อขันทีหลงและผู้นำพรรคอัคคีทมิฬถูกคุมตัวออกไป ภาพของประชาชนที่ดื่มด่ำ "ซุปแห่งแสงตะวัน" และฟื้นคืนพลังขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ ได้สยบทุกความแคลงใจ ทุกเสียงกระซิบกระซาบของความไม่พอใจมลายหายไปสิ้น แทนที่ด้วยประกายแห่งความหวังและความเชื่อมั่นที่กลับคืนมาองค์จักรพรรดิทรงเดินลงจากบัลลังก์ มาประทับยืนข้างเหม่ยหลิน พระหัตถ์ของพระองค์วางลงบนบ่าของเธอด้วยความเมตตาและภาคภูมิใจ"ประชาชนของข้า!" องค์จักรพรรดิรับสั่งด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมด้วยพลัง "วันนี้! พวกเจ้าได้เห็นแล้วถึงความจริงใจของวังหลวง! พวกเจ้าได้ลิ้มรสแล้วถึงความเมตตาของสวรรค์! และพวกเจ้าได้ประจักษ์แล้วถึงพลังแห่งความสามัคคี! เราจะร่วมกันฟื้นฟูแคว้นของเราให้กลับมารุ่งเรืองยิ่งกว่าเดิม!"เสียงกู่ก้อง "ทรงพระเจริญ!" ดังกึกก้องไปทั่วทั้งลานประลอง ประชาชนต่างคุกเข่าลงด้วยความเคารพและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแผนฟื้นฟูแผ่นดิน: เมล็ดพันธุ์แห่งความหวังหลังเหตุการณ์จลาจล องค์จักรพรรดิได้เรียกประชุมเหล่าขุนนางและผู้เชี่ยวชาญทุกสาขา เพื่อวางแผนฟื้นฟูแคว้นครั้งใหญ่ เหม่ยหลิน ไป๋เฟิง

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   แผลจากภัยธรรมชาติ

    พายุหิมะมหาวินาศได้พัดผ่านไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงความเสียหายและรอยแผลลึกไปทั่วทั้งแคว้น แสงแดดอันอบอุ่นเริ่มสาดส่องลงมาละลายผืนหิมะที่ปกคลุมอยู่ แต่สิ่งที่ปรากฏเบื้องล่างนั้น คือภาพของความเสียหายอันใหญ่หลวง พืชผลทางการเกษตรที่เคยเขียวขจี บัดนี้เน่าเปื่อยและแข็งตายอยู่ในแปลงนา หมู่บ้านหลายแห่งถูกตัดขาดจากโลกภายนอก สะพานและถนนหนทางพังทลายลง การคมนาคมขนส่งยังคงเป็นอัมพาตแม้จะรอดพ้นจากความอดอยากด้วยอาหารจากผักหิมะสวรรค์และเห็ดน้ำแข็งที่เหม่ยหลินค้นพบ แต่ความยากลำบากก็ยังคงเป็นเงาตามติดชีวิตประชาชน ความหนาวเย็นที่กัดกินจิตใจ อาหารที่เริ่มจำเจ และความไม่แน่นอนของอนาคต ทำให้ความไม่พอใจเริ่มก่อตัวขึ้นในหมู่ประชาชนบางส่วน โดยเฉพาะกลุ่มชนชั้นล่างและเกษตรกรที่สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างความตึงเครียดในเมืองหลวงและเสียงกระซิบแห่งความไม่พอใจในเมืองหลวง บรรยากาศไม่ได้สงบสุขอย่างที่ใครคิด การจัดสรรอาหารและทรัพยากรกลายเป็นปัญหาใหญ่ แม้ทางวังหลวงจะพยายามแจกจ่ายอย่างเท่าเทียม แต่ด้วยจำนวนประชากรที่มาก และความเสียหายที่รุนแรง ทำให้การช่วยเหลือไม่ทั่วถึง"ท่านแม่เจียง! พวกเราอดอยากกันจะแย่แล้วขอรับ!" ชาวบ้านคนห

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   ฝ่าฝัน

    การต่อสู้เกิดขึ้นอย่างดุเดือดท่ามกลางพายุหิมะ มนุษย์น้ำแข็งมีจำนวนมากกว่า และพวกเขาแข็งแกร่งเกินคาด หลี่เฟยหลงและหัวหน้าหมาต่อสู้อย่างเต็มกำลัง แต่ก็เริ่มเสียเปรียบเหม่ยหลินพยายามหาทางหนี เธอรู้ว่าการต่อสู้ในสภาพอากาศเช่นนี้ไม่เป็นผลดีต่อพวกเขาเลยในขณะที่สถานการณ์กำลังเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ จู่ๆ ก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง!"หยุดเดี๋ยวนี้!"เงาร่างของ ไป๋เฟิง ปรากฏขึ้น! เขาสวมเสื้อคลุมหนาเช่นกัน แต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เขาไม่ได้มาคนเดียว แต่มาพร้อมกับ กองกำลังเสริมจากแคว้นเยว่!"องค์ชายไป๋เฟิง!" มนุษย์น้ำแข็งคนหนึ่งอุทานด้วยความตกใจไป๋เฟิงพุ่งเข้าสู่การต่อสู้ทันที เขามีฝีมือการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม และสามารถจัดการกับมนุษย์น้ำแข็งได้อย่างง่ายดาย กองกำลังเสริมจากแคว้นเยว่ก็เข้าช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ทำให้สถานการณ์พลิกผัน มนุษย์น้ำแข็งเริ่มล่าถอยไปอย่างรวดเร็ว"ไป๋เฟิง! ท่านมาได้อย่างไร!?" เหม่ยหลินถามด้วยความประหลาดใจปนดีใจ"ข้าได้รับรายงานจากราชทูตของข้าว่ามีพายุหิมะถล่มแคว้นของท่าน" ไป๋เฟิงตอบ "ข้าจึงรีบนำกองกำลังมาช่วยเหลือในทันที!

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status