ชายหนุ่มส่ายหน้าเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเอาแต่เดินเข้าไปหลบที่หลังม่านที่อยู่ใกล้บานหน้าต่างใหญ่ที่มองลงไปด้านล่างได้ถนัด เขาคิดว่าหล่อนคงไม่ก้าวเข้ามาก็ต่อเมื่อตนนั้นก้าวเข้าไปเอง จึงตัดสินใจขยับรองเท้าหนังจระเข้มันวาวเข้าใกล้หล่อนที่อยู่หลังผ้าม่าน
“เฮือก!” เจ้าตัวเล็กสะดุ้งโหยง เอาหน้ามุดผ้าม่านหนาที่แทบจะปิดตัวเองไม่มิด จนโดนฝ่ามือหนาของสามก๊กดึงมันออก ปรากฏความงดงามเต็มตา ท่ามกลางแสงแดดจ้าที่สาดส่องเข้ามาผ่านบานหน้าต่าง
เด็กสาวนั้นสวยจนแทบปฏิเสธไม่ได้ว่ากระตุ้นโสตประสาทความรับรู้ทางเรื่องเพศให้ตื่นได้ดี เธอในชุดสายเดี่ยวคอเสื้อแหวกต่ำ ผ่าหน้าผ่าหลัง ผ่าขานั้นสวยจนไม่มีที่ติ พาลทำให้กายแกร่งของสามก๊กนั้นเกร็งเครียด
การถุกกระตุ้นโดยที่รู้ตัวว่ามันจะไม่สำเร็จดั่งใจหวัง มันช่างทรมานเหลือเกิน
ปึง!
“อ๊ะ!” เสียงหวานหวีดร้องในลำคอเมื่อคนตัวใหญ่กว่ายันและดันเธอจนไปชิดกับบานหน้าต่างใหญ่ดังปึง แดดร้อนลามไล้แผ่นหลังนวลเนียนจนเธอหยีตา คุณสามหรี่ตาลงมองใบหน้าของหล่อนที่แต่งเติมเมคอัพไปเพียงน้อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังดูสวยพิฆาตสิ้นดี
“อย่ามาว่ากูโหดร้ายแล้วกัน ในเมื่อเธอยั่วยวนกูก่อน” ริมฝีปากหยักลึกขยับพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงแหบต่ำเย้ายวน ใบหน้าของเด็กสาวเหรอหราและขึ้นสีเลือดฝาด ยิ่งเขาขยับใบหน้าเข้ามาใกล้ในขณะที่เธอจนมุมอยู่แบบนี้ สาวเจ้ายิ่งหลับตาปี๋ด้วยความกลัว
ตึกตัก ตึกตัก
ริมฝีปากนั้นอยู่เพียงเอื้อม ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดใบหน้าของหล่อนอย่างตั้งใจ ออพิมแก้วนั้นแสนตื่นตะลึง เพราะนี้เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่อยู่ใกล้ชิดกับบุรุษได้ถึงขนาดนี้โดยไม่มีเจ้าคุณพ่อมายืนคุมเชิง
กะ... ใกล้จักได้จุมพิตกันแล้ว
ก็อกๆ!
“นายครับ คุณเอมมิกามาขอพบครับ”
ทว่า
เสียงเคาะประตูอย่างมีมารยาทที่มาพร้อมกับทุ้มต่ำของลูกน้องที่ขัดขึ้นกะทันหันระหว่างที่ปากใกล้จรดเด็กสาวอายุสิบแปดปี ก็ทำให้คุณสามผละออกจากเธอทันควัน การหักห้ามใจกับความทรมานที่แสนหอมหวานนี้ทำให้มาเฟียหนุ่มรู้สึกโล่งใจที่ไม่ได้จูบเด็กสาวตรงหน้าไปจริงๆ
เธอยังคงเผยอปากค้าง มองคุณสามที่ขยี้ผมของตนเองจนยุ่งเหยิงจากที่เซ็ตมาจนเนี๊ยบอย่างหัวเสีย
แกรก
“เอ่อ... คุณเอมมิกามาขอพบครับนาย” ลูกน้องอ้ำอึ้งไปเมื่อเห็นว่าทันที่ที่นายของเขาเปิดประตูออก สภาพของคนข้างในทั้งสองดูแปลกนัก เหมือนเพิ่งผ่านอะไรชวนจั๊กจี้ใจมาก็ไม่ปาน
สามก๊กนวดหัวคิ้วตัวเองพลางตบบ่าเขาเบาๆ
“ขอบใจมาก”
ขอบใจ... เรื่องอะไรครับคุณสาม!
ลูกน้องหน้าเหี้ยมคนนั้นที่เผลอมาขัดจังหวะคิดไปไกลแสนไกลเสียแล้ว
“บอกเธอให้รอฉันสวดมนต์ก่อน”
สามก๊กพูดกับเมดสาวให้ไปบอกหญิงสาวผู้มาใหม่คนนั้น ก่อนที่จะผละไปเข้าห้องพระอย่างไม่ใยดี
เพราะ ‘เอมมิกา’ คือชื่อของเมียคนแรกของเขาที่มีลูกด้วยกัน แต่ลูกสาวนั้นถูกทำแท้งตั้งแต่ยังไม่คลอดด้วยซ้ำ เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นสาวสังคมสมัยใหม่ พอเห็นผู้ชายคนไหนดีกว่า ก็พร้อมแจ้นไปหา โดยทิ้งให้เขาที่เต็มไปด้วยความหวังว่าจะได้มีลูกกับคนที่รัก จมอยู่กับความทุกข์ทรมานที่เสียลูกสาวคนแรกในชีวิตมานานนับปี
อดีตของเธอน่ะ ไม่น่าจดจำนักหรอก ที่มาหาครั้งนี้ ก็คงเพราะตอนนี้ธุรกิจของเขากำลังไปได้ดี และเธอก็ถูกผู้ชายคนนั้นทิ้งมาแล้ว ซึ่งไม่รู้ว่ารอบที่เท่าไหร่ที่เป็นแบบนี้ โดยที่เธอจะเลือกมาหาเขาเป็นที่พึ่งสุดท้ายเสมอ
ราวกับของตาย
เพราะฉะนั้นจึงไม่อยากไว้หน้าสักเท่าไหร่น่ะสิ
ถึงจะเจ็บปวด เคียดแค้นกับสิ่งที่เอมมิกาทำกับเขาไว้มาก แต่เพราะสามก๊กนั้นเป็นผู้ชายที่ยึดติดกับอดีต กลายเป็นว่าเขาเองนี่แหละที่ชอบทำตัวเหมือนของตายให้เธอมาย่ำยีจิตใจไม่เว้นแต่ละวัน
ทางฝ่ายเอมมิกานั้นก็ไม่พอใจอย่างแรงที่ชายคนนั้นหยามหน้าเธอขนาดนี้ อุตส่าห์มารอเพื่อมาคุยเรื่องความสัมพันธ์ที่คาราคาซังกันเนิ่นนาน (หลังจากทิ้งเขาไปหาเศรษฐีคราวพ่อที่รวยกว่า แถมยังจับแต่งานสะอาดผิดกับสาม) เธอไม่มีทางเลือกมากนัก นอกจากอาละวาดจนกว่าสามจะลงมา
“แกไปตามสามมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ จะสวดมนต์หรืออะไรฉันไม่สน บอกสามด้วยว่าอย่าเล่นลิ้น ฉันต้องการเจอเขาเดี๋ยวนี้!!”
เอมมิกาเป็นสาวสังคมระดับสูงที่ชุบตัวมาจากเด็กเสี่ยในอดีต เธอมีความทะเยอทะยานสูง อาชีพเด็กเสี่ยไม่มีใครผิด ทุกคนต้องการหาความสะดวกสบายให้ชีวิตตัวเอง หากแต่เอมมิกานั้นกลับเปลี่ยนผู้ชายไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ถูกขัดใจ สามก๊กคืออดีตเพื่อนของเธอก่อนที่จะกลายเป็นสามีเก่าที่เคยมีลูกด้วยกันเอมมิกาทำแท้งเนื่องจากเธอไม่อยากมีลูก แต่พอพลาดท้องกับสามก๊ก เธอไตร่ตรองแล้วว่าไม่สามารถเป็นแม่คนได้จริงๆ จึงตัดสินใจกินยาขับเลือดตอนตั้งครรภ์ จนสามก๊กที่ถึงกับเล่นใหญ่ซื้อห้องให้ลูกคนแรกของเธอกับเขาถึงกับจมอยู่กับความเจ็บปวด เขาไม่ทำงานทำการและยึดติดกับลูกคนนี้มาก จึงทำให้ชีวิตในช่วงนั้นของสามก๊กตกต่ำ เอมมิกาจึงตีปีกไปจากเขาอย่างรวดเร็วสามก๊กเคยให้สัญญากับเธอว่า ไม่ว่าเธอกับเขาจะตกอยู่ในสถานะแบบไหน ความเป็นเพื่อนก็ยังอยู่เหมือนเดิม เขาเป็นคนที่อบอุ่นกับคนรัก แต่เพราะเธอไม่รู้จักพอ เอมมิกาจึงอยากมาขอโทษแต่เธอใช้วิธีขอโทษที่ผิดไปหน่อย เนื่องจากตัวเองมีความเอาแต่ใจจากการโดนเอาใจสูง ยิ่งกับสามก๊กที่เคยรักเธอแล้วด้วย เธอคิดว่าไม่ต้องทำอะไรมากหรอก แค่เห็นเธอเขาก็คงจะมานอนจูบแทบเท้าเธอแล้วก็สามก๊กน่ะเป็นสุนัขผู้
คราวนี้เอมมิกาหน้าแตกดังเพล้ง ทั้งที่เด็กสาวคนนี้มีดีแค่ความสวยซึ่งอาจไม่มากไปกว่าเธอสักเท่าไหร่ แต่สามก๊กกลับหยามหน้ากันถึงขนาดนี้ ไม่อยากกลับมาควงหล่อนถึงขนาดต้องดึงคนบ้ามามีอะไรด้วย ตั้งตนให้มันแล้วเรียกว่าเมีย ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ“แล้วสามจะต้องเสียใจ ที่คิดหักหน้าเอมด้วยอีเด็กสติไม่ดีนี่” เธอปรามาสอย่างฉุนเฉียว หมดมาดแม่ชีไปไหนทันใด ยิ่งเห็นว่าแม่เด็กสาวคนนั้นทำท่าจะหนีไปแต่กลับถูกสามก๊กรั้งเอวคอดกิ่วกลับมาทันควัน ก็ทำเอาหึงหวงหน้ามืดตามัวแทบควันออกหูทั้งที่สามเป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์ของเธอมาตลอดแท้ๆจำเอาไว้เถอะ นังพิมแก้ว!หลังจากพ้นจากหลังเอมมิกาไป สามก๊กก็ทรุดตัวลงไปนั่งบนโซฟา ทั้งๆ ที่ยังรั้งเอวคอดของพิมแก้วอยู่ จนทั้งคู่ล้มลงไปด้วยกัน“นี่ท่าน!” เธอทำท่าจะปรามาส หากแต่ฝ่ามือที่สั่นเทาของผู้ชายที่ดูเหมือนจะเข้มแข็งและน่ากลัวกลับทำให้เจ้าหล่อนชะงัก “... ท่านมิเป็นกระไรใช่หรือไม่”คำพูดหวังปรามาส จึงแปรเปลี่ยนไปเป็นเนื้อเสียงแห่งความเป็นห่วงแทน“เปล่า” เขาผละฝ่ามือออกจากเธอทันทีที่รู้สึกตัว ค่อยๆ เอื้อมมือขึ้นไปถอดแว่นตาออกอย่างเหนื่อยล้า ตลอดหลายปีที่เอมมิกาตามมารังควานจนนางบ
“เท้าคุณหนูไซส์ 35 หารองเท้าไซส์นี้ยากมากเลยค่ะคุณท่าน”“งั้นไว้ไปซื้อใหม่ ขึ้นมา” เขาหันไปออกคำสั่งกับพิมแก้วด้วยน้ำเสียงห้วนจัดตามนิสัย เด็กสาวเม้มกลีบปาก ก่อนที่จะยืนเหรอหราอยู่ตรงนั้น จนแม็คกี้ต้องเดินไปเปิดประตูรถอีกฝั่งให้“ขึ้นทางนี้ครับคุณหนู” ออพิมแก้วพยักหน้ารับพร้อมกับค่อยๆ เข้าไปในรถอย่างทุลักทุเล ประตูรถถูกปิดลงอย่างเรียบร้อย ในขณะที่สามก๊กเคลื่อนตัวรถออกไปอย่างรวดเร็วไม่นานนักก็มาถึงที่หมาย ทั้งสองคนนั่งไม่พูดไม่จากันตลอดทาง เพราะออพิมมัวแต่สนใจวิวข้างนอกที่แปลกตา ส่วนสามก๊กก็เอาแต่ท้าวคางบังคับพวงมาลัยข้างเดียวเคร่งเครียดอะไรเรื่อยเปื่อยบรรยากาศของคลับในช่วงเย็นนั้นยังคงไม่ค่อยมีใครเข้ามา สามก๊กไม่ได้ต้องการอินบรรยากาศ แค่ปรารถนาจะจิบแอลกอฮอล์ย้อมใจก็เท่านั้น ตรงหน้าคลับของจิณพรต เพื่อนของเขานั้นเต็มไปด้วยการ์ดคุมนับสิบด้านหน้า ซึ่งพอรถของสามก๊กขับมาจอดด้านหน้า พวกเขาก็พร้อมใจกันโค้งคำนับอย่างพร้อมเพรียง“ผมขับให้ครับท่าน” การ์ดคนหนึ่งเข้ามาเคาะกระจกเบาๆ เพื่อจะบริการขับรถไปจอดในที่จอดรถ Vip ให้เขา สามก๊กพยักหน้ารับ กำชับแว่นสายตาตอนที่เปิดประตูรถแหงนขึ้น แล้วการ์ดดำอ
“ไอ้เหี้ยสาม กูรู้ว่ามึงเป็นพ่อพระ แต่ไม่ต้องมาพูดกับกู ถ้าไม่รีบกินก็ยกให้กู กูชอบ กูอยากได้ เท่าไหร่ก็ยอมจ่าย” สีหน้าของจิณพรตมีแววแห่งความหื่นกระหาย กระลิ้มกระเหลี่ยเด็กสาวที่ไม่บรรลุนิติภาวะอย่างออกนอกหน้า ขอถอนคำพูดที่ว่าไม่กินของเพื่อนแล้วกัน ถ้าเพื่อนให้ก็ยินดีเปิดอกรับ ไม่แปลกเพราะในเรื่องผู้หญิงจิณพรตนั้นเลือดเย็นไม่มีความเอ็นดูเมตตาใดๆ เคยถึงขั้นจับไปค้าประเวณีที่ต่างแดน คนที่จับงานพวกนี้ มีแต่คนใจแข็ง ใจเหี้ยมทั้งนั้นคงมีแต่สามก๊ก ที่ยังคงมั่นคงในอุดมการณ์ของตัวเอง ที่อยากจะธุดงค์ในป่า เป็นพระอาจารย์ที่เปี่ยมคุณธรรมเขารู้สึกไม่ชอบสายตาล่วงเกินของอีกฝ่ายที่มองเด็กสาว ไม่รู้เพราะความรู้สึกแบบไหน จึงล้วงปืนในกระเป๋ากางเกง แล้ววางใกล้ๆ มือของตนเองเป็นการขู่ใจ ในขณะที่บาร์เทนดี้หัวเราะคิกคัก ส่งแก้ววิสกี้ให้เขา“จะลองดูก็ได้” ออพิมแก้วไม่ได้รู้เรื่องราวที่ชายกำยำสองคนเขม่นกัน แต่ดูเหมือนว่าจิณพรตก็จะเกรงอกเกรงใจสามก๊กอยู่ในที เพราะถึงมันจะเป็นพ่อพระเข้าเส้น บ้าสวดมนต์จนถึงขนาดสวมสร้อยองค์ท้าวเวสสุวรรณ 100 ปีที่ผ่านพิธีปลุกเสกไปทำงานด้วย แต่เวลาที่ลงโทษหนอนก็โหดเหี้ยมเอาเรื่องเ
ด้วยความเชื่อใจ สามก๊กไม่ได้สนใจตรวจดูว่ามียาปลุกกำหนัดในวิสกี้หรือเปล่า มารู้สึกตัวอีกทีตัวเองก็แทบไปไม่เป็น เมื่อพาสาวเจ้าที่เมามายเข้ามาภายในห้องรับรองที่หรูหรา มาเฟียหนุ่มถึงกับกุมขมับ เมื่อเข้าไปในห้องน้ำภายในตัว วักน้ำสาดหน้าตนเองให้สร่าง แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมองตัวเอง จึงเห็นความหวามไหวในสีหน้าพอก้มลงมองเป้ากางเกง ก็เห็นว่ามันคับเด่นตุงแน่นอย่างชัดเจน“เวร” ชายหนุ่มสบถเสียงพร่า เขาหอบหายใจหนักหน่วง อาการเริ่มชัดเจนหลังจากผ่านมาร่วมหนึ่งชั่วโมง หลังจากให้การ์ดพยุงสาวเจ้าไปนอนบนเตียง เธอครางอ้อแอ้อยู่บนนั้นอยู่สักพัก พร่ำเพ้อละเมอไปเรื่อย ในขณะที่สามก๊กได้แต่นั่งสงบสติอารมณ์ เพื่อตรวจดูความผิดปกติของตัวเองความคับแน่นที่ไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากช่วยตัวเองภายในห้องน้ำกว้าง มาเฟียหนุ่มในชุดสูทที่เริ่มไม่เรียบร้อยเหมือนเก่าถึงกับไปไม่เป็น เมื่อเสร็จไปสามน้ำ แต่กลับไม่ทำให้ความกำหนัดที่แล่นพล่านในกายนั้นลดลงเลย“บ้าเอ้ย ไอ้จิน” เขาสบถชื่อเพื่อนของตนเองออกมา จิณพรตนั้นถูกขนานนามว่าเป็นหมาบ้าแห่งเอเชีย เพราะมันเป็นคนที่มีประวัติดำมืด คาดเดาอารมณ์ไม่ได้ ภายนอกดูเหมือนเป็นมิตรขี้เล่น ใจดี
“อื้อ... นายท่าน” เสียงหวานล้ำหลุดรอดออกมาจากกลีบปากบางที่บัดนี้เปื้อนลิปสติกเป็นปื้นจากการโดนจูบที่รุนแรง ทรวงอกทั้งสองข้างที่หนาวเหน็บถูกครอบครองด้วยริมฝีปากหยักของมาเฟียหนุ่ม สร้างความอบอุ่นและเสียดเสียวให้เด็กสาว แอ่นกายอย่างทรมานเมื่อถูกตรึงข้อมือทั้งสองข้างไม่ให้ดิ้นหนีความเมามาย ส่งผลให้สติสัมปชัญญะของเธอหลุดลอยไป ในเวลานี้เต็มไปด้วยความรู้สึกแปลกๆ สอดแทรกเข้ามาตลอดระยะเท่านั้น“อ๊ะ” เมื่อเรียวขางามถูกเปิดออกกว้าง สาวน้อยก็สะดุ้งโหยง ปลายนิ้วของอีกฝ่ายครอบครองส่วนเกสรดอกลำดวนหวานของเธอ ที่บัดนี้ชุ่มชื้นผ่านชั้นในตัวบาง มันถูกแหวกข้างและปลายนิ้วก็เข้าไปตรวจสอบด้านในที่นุ่มหยุ่น“ไม่ต้องเกร็ง พิมแก้ว” ริมฝีปากที่ครอบครองความอ่อนนุ่มที่แปรเปลี่ยนมาชูชันของเธอผละออกเพื่อประโลมเด็กสาว ที่บัดนี้เมื่อปลายนิ้วใหญ่สอดเข้าไป กลับสร้างความเจ็บให้เธอ จนต้องนอนหลับตาปี๋ตัวเกร็งสั่นอย่างน่าสงสาร“นะ... นายท่าน ทำเราเบาๆ หน่อย เรา... เจ็บ”ความอบอุ่นครอบครองอยู่รอบทรวงอกเล็ก เด็กสาวนอนหอบหายใจ ควานหาออกซิเจนอย่างหนักหน่วง ความอ่อนโยนนุ่มนวลแต่กลับร้อนแรงของมาเฟียหนุ่มกำลังทำให้เธอเป็นบ้า เธอ
แต่จะไปนึกถึงแม่งทำไม นึกให้หงุดหงิดใจเปล่าๆชายร่างใหญ่ทิ้งตัวลงข้างๆ ร่างเล็กที่หอบหายใจยั่วยวน อยากต่ออีกรอบนะแต่ร่างกายเธอคงบอบช้ำแทบตาย เพราะไม่เคยด้วยนี่สิ สามก๊กรวบเธอเข้ามากอดเอาไว้แน่น มือหนากุมฝ่ามือเล็กประสานมืออย่างนุ่มนวลราวกับต้องการปลอบประโลมเป่าความเมื่อยล้าพิมแก้วนั้นสับสนเหลือเกิน ราวกับถูกรังแก แต่เธอไร้สติอีกต่อไป เด็กสาวหลับปุ๋ยไปทันทีด้วยความเหนื่อยอ่อน และโดนตระกองกอดด้วยกายใหญ่ของอีกคนอยู่ตลอดทั้งค่ำคืนเช้าวันต่อมา แสงแดดจากบานหน้าต่างกระจกใสจนเห็นวิวทิวทัศน์ของตึกรามบ้านช่องสาดเข้าตาจนเด็กสาวในเรือนกายเปลือยเปล่าปรือตาขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้นออพิมแก้วหยัดกายลุกขึ้นด้วยความง่วงงุน เธอรู้สึกปวดหน่วงที่ท้องน้อยอยู่นิดหน่อย คิดว่าระดูคงมาแน่ๆ เลยพยายามจะเรียกหาบ่าวไพร่ให้เตรียมของให้สำหรับกันระดู แต่เมื่อเหลียวไปมองข้างๆ ก็เห็นชายตัวใหญ่ที่นอนคว่ำหน้าอยู่ข้างๆ แผ่นหลังกำยำที่มีรอยสักรูปมังกรและปลาคาร์ฟอยู่ด้านหลังทำให้เธอตื่นตะลึงมานั่งทบทวนกับตนเอง ถึงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ตนเองอยู่ที่เมืองอื่นที่ไม่ใช่กรุงศรีอโยธยานี่นาแถม... ตอนนี้เธอเองก็เปลือยเปล่าล่อนจ้
‘ออพิมแก้ว’ กำลังกรองมาลัยอยู่ที่สวนดอกลำดวน บ่าวทั้งสองนำขนมพระพายมาวางบนพานให้นางรับประทาน เนื่องจากคุณพิมแก้วนั้นชอบรับประทานขนมไทยยิ่ง“ขอบใจจ้ะ จิต จวน” เธอพูดกับบ่าวทั้งสองที่คอยเคียงบ่าเคียงไหล่เธออยู่เสมอมา ทั้งสองนั่งพับเพียบอยู่ใต้ถุนศาลา มองแม่นายคนสวยที่กรองมาลัยอย่างกุลสตรีพิมแก้วนั้นเป็นบุตรีเพียงคนเดียวของออกญาชื่อดังในยุคสมัยกรุงศรีอโยธยา นางเป็นกุลสตรีครบทุกส่วน มีแต่บุตรของคนมีอำนาจในยุคนี้มาสนใจใคร่รักในตัวนางออกมาก แลต้องการสู่ขอหลายต่อหลายคน แต่พิมแก้วก็มินึกสนใจในชายใดเป็นพิเศษวันๆ ของเธอคือการนั่งกรองมาลัย ออดอ้อนเจ้าคุณพ่อที่แสนดุแต่อบอุ่นกับลูกสาวเพียงคนเดียว ออกญาศรีภิบาลนั้นขึ้นชื่อเรื่องความโหดแลหวงลูกสาวมาก เนื่องจากภรรยาคนเดียวตายไปตั้งแต่พิมแก้วยังเล็ก ท่านจึงพยายามประคบประหงมบุตรีของตนอย่างดีที่สุด ถ้าไม่มีผู้ใดที่เขามองว่าเหมาะสมกับพิมแก้วลูกรักของเขา ก็จักมิให้ลูกแต่งงานอย่างเด็ดขาดออกญาศรีภิบาลนั้นขึ้นชื่อว่ารักเดียวใจเดียวยิ่ง ทั้งชีวิตนั้นมีเพียงแต่คุณแม่ จนกระทั่งแม่เสียชีวาก็ยังมิมีใครอื่น นั่นยิ่งทำให้พิมแก้วรู้สึกว่า... ถ้าจักหาใครสักคนมาเข้
แต่จะไปนึกถึงแม่งทำไม นึกให้หงุดหงิดใจเปล่าๆชายร่างใหญ่ทิ้งตัวลงข้างๆ ร่างเล็กที่หอบหายใจยั่วยวน อยากต่ออีกรอบนะแต่ร่างกายเธอคงบอบช้ำแทบตาย เพราะไม่เคยด้วยนี่สิ สามก๊กรวบเธอเข้ามากอดเอาไว้แน่น มือหนากุมฝ่ามือเล็กประสานมืออย่างนุ่มนวลราวกับต้องการปลอบประโลมเป่าความเมื่อยล้าพิมแก้วนั้นสับสนเหลือเกิน ราวกับถูกรังแก แต่เธอไร้สติอีกต่อไป เด็กสาวหลับปุ๋ยไปทันทีด้วยความเหนื่อยอ่อน และโดนตระกองกอดด้วยกายใหญ่ของอีกคนอยู่ตลอดทั้งค่ำคืนเช้าวันต่อมา แสงแดดจากบานหน้าต่างกระจกใสจนเห็นวิวทิวทัศน์ของตึกรามบ้านช่องสาดเข้าตาจนเด็กสาวในเรือนกายเปลือยเปล่าปรือตาขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้นออพิมแก้วหยัดกายลุกขึ้นด้วยความง่วงงุน เธอรู้สึกปวดหน่วงที่ท้องน้อยอยู่นิดหน่อย คิดว่าระดูคงมาแน่ๆ เลยพยายามจะเรียกหาบ่าวไพร่ให้เตรียมของให้สำหรับกันระดู แต่เมื่อเหลียวไปมองข้างๆ ก็เห็นชายตัวใหญ่ที่นอนคว่ำหน้าอยู่ข้างๆ แผ่นหลังกำยำที่มีรอยสักรูปมังกรและปลาคาร์ฟอยู่ด้านหลังทำให้เธอตื่นตะลึงมานั่งทบทวนกับตนเอง ถึงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ตนเองอยู่ที่เมืองอื่นที่ไม่ใช่กรุงศรีอโยธยานี่นาแถม... ตอนนี้เธอเองก็เปลือยเปล่าล่อนจ้
“อื้อ... นายท่าน” เสียงหวานล้ำหลุดรอดออกมาจากกลีบปากบางที่บัดนี้เปื้อนลิปสติกเป็นปื้นจากการโดนจูบที่รุนแรง ทรวงอกทั้งสองข้างที่หนาวเหน็บถูกครอบครองด้วยริมฝีปากหยักของมาเฟียหนุ่ม สร้างความอบอุ่นและเสียดเสียวให้เด็กสาว แอ่นกายอย่างทรมานเมื่อถูกตรึงข้อมือทั้งสองข้างไม่ให้ดิ้นหนีความเมามาย ส่งผลให้สติสัมปชัญญะของเธอหลุดลอยไป ในเวลานี้เต็มไปด้วยความรู้สึกแปลกๆ สอดแทรกเข้ามาตลอดระยะเท่านั้น“อ๊ะ” เมื่อเรียวขางามถูกเปิดออกกว้าง สาวน้อยก็สะดุ้งโหยง ปลายนิ้วของอีกฝ่ายครอบครองส่วนเกสรดอกลำดวนหวานของเธอ ที่บัดนี้ชุ่มชื้นผ่านชั้นในตัวบาง มันถูกแหวกข้างและปลายนิ้วก็เข้าไปตรวจสอบด้านในที่นุ่มหยุ่น“ไม่ต้องเกร็ง พิมแก้ว” ริมฝีปากที่ครอบครองความอ่อนนุ่มที่แปรเปลี่ยนมาชูชันของเธอผละออกเพื่อประโลมเด็กสาว ที่บัดนี้เมื่อปลายนิ้วใหญ่สอดเข้าไป กลับสร้างความเจ็บให้เธอ จนต้องนอนหลับตาปี๋ตัวเกร็งสั่นอย่างน่าสงสาร“นะ... นายท่าน ทำเราเบาๆ หน่อย เรา... เจ็บ”ความอบอุ่นครอบครองอยู่รอบทรวงอกเล็ก เด็กสาวนอนหอบหายใจ ควานหาออกซิเจนอย่างหนักหน่วง ความอ่อนโยนนุ่มนวลแต่กลับร้อนแรงของมาเฟียหนุ่มกำลังทำให้เธอเป็นบ้า เธอ
ด้วยความเชื่อใจ สามก๊กไม่ได้สนใจตรวจดูว่ามียาปลุกกำหนัดในวิสกี้หรือเปล่า มารู้สึกตัวอีกทีตัวเองก็แทบไปไม่เป็น เมื่อพาสาวเจ้าที่เมามายเข้ามาภายในห้องรับรองที่หรูหรา มาเฟียหนุ่มถึงกับกุมขมับ เมื่อเข้าไปในห้องน้ำภายในตัว วักน้ำสาดหน้าตนเองให้สร่าง แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมองตัวเอง จึงเห็นความหวามไหวในสีหน้าพอก้มลงมองเป้ากางเกง ก็เห็นว่ามันคับเด่นตุงแน่นอย่างชัดเจน“เวร” ชายหนุ่มสบถเสียงพร่า เขาหอบหายใจหนักหน่วง อาการเริ่มชัดเจนหลังจากผ่านมาร่วมหนึ่งชั่วโมง หลังจากให้การ์ดพยุงสาวเจ้าไปนอนบนเตียง เธอครางอ้อแอ้อยู่บนนั้นอยู่สักพัก พร่ำเพ้อละเมอไปเรื่อย ในขณะที่สามก๊กได้แต่นั่งสงบสติอารมณ์ เพื่อตรวจดูความผิดปกติของตัวเองความคับแน่นที่ไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากช่วยตัวเองภายในห้องน้ำกว้าง มาเฟียหนุ่มในชุดสูทที่เริ่มไม่เรียบร้อยเหมือนเก่าถึงกับไปไม่เป็น เมื่อเสร็จไปสามน้ำ แต่กลับไม่ทำให้ความกำหนัดที่แล่นพล่านในกายนั้นลดลงเลย“บ้าเอ้ย ไอ้จิน” เขาสบถชื่อเพื่อนของตนเองออกมา จิณพรตนั้นถูกขนานนามว่าเป็นหมาบ้าแห่งเอเชีย เพราะมันเป็นคนที่มีประวัติดำมืด คาดเดาอารมณ์ไม่ได้ ภายนอกดูเหมือนเป็นมิตรขี้เล่น ใจดี
“ไอ้เหี้ยสาม กูรู้ว่ามึงเป็นพ่อพระ แต่ไม่ต้องมาพูดกับกู ถ้าไม่รีบกินก็ยกให้กู กูชอบ กูอยากได้ เท่าไหร่ก็ยอมจ่าย” สีหน้าของจิณพรตมีแววแห่งความหื่นกระหาย กระลิ้มกระเหลี่ยเด็กสาวที่ไม่บรรลุนิติภาวะอย่างออกนอกหน้า ขอถอนคำพูดที่ว่าไม่กินของเพื่อนแล้วกัน ถ้าเพื่อนให้ก็ยินดีเปิดอกรับ ไม่แปลกเพราะในเรื่องผู้หญิงจิณพรตนั้นเลือดเย็นไม่มีความเอ็นดูเมตตาใดๆ เคยถึงขั้นจับไปค้าประเวณีที่ต่างแดน คนที่จับงานพวกนี้ มีแต่คนใจแข็ง ใจเหี้ยมทั้งนั้นคงมีแต่สามก๊ก ที่ยังคงมั่นคงในอุดมการณ์ของตัวเอง ที่อยากจะธุดงค์ในป่า เป็นพระอาจารย์ที่เปี่ยมคุณธรรมเขารู้สึกไม่ชอบสายตาล่วงเกินของอีกฝ่ายที่มองเด็กสาว ไม่รู้เพราะความรู้สึกแบบไหน จึงล้วงปืนในกระเป๋ากางเกง แล้ววางใกล้ๆ มือของตนเองเป็นการขู่ใจ ในขณะที่บาร์เทนดี้หัวเราะคิกคัก ส่งแก้ววิสกี้ให้เขา“จะลองดูก็ได้” ออพิมแก้วไม่ได้รู้เรื่องราวที่ชายกำยำสองคนเขม่นกัน แต่ดูเหมือนว่าจิณพรตก็จะเกรงอกเกรงใจสามก๊กอยู่ในที เพราะถึงมันจะเป็นพ่อพระเข้าเส้น บ้าสวดมนต์จนถึงขนาดสวมสร้อยองค์ท้าวเวสสุวรรณ 100 ปีที่ผ่านพิธีปลุกเสกไปทำงานด้วย แต่เวลาที่ลงโทษหนอนก็โหดเหี้ยมเอาเรื่องเ
“เท้าคุณหนูไซส์ 35 หารองเท้าไซส์นี้ยากมากเลยค่ะคุณท่าน”“งั้นไว้ไปซื้อใหม่ ขึ้นมา” เขาหันไปออกคำสั่งกับพิมแก้วด้วยน้ำเสียงห้วนจัดตามนิสัย เด็กสาวเม้มกลีบปาก ก่อนที่จะยืนเหรอหราอยู่ตรงนั้น จนแม็คกี้ต้องเดินไปเปิดประตูรถอีกฝั่งให้“ขึ้นทางนี้ครับคุณหนู” ออพิมแก้วพยักหน้ารับพร้อมกับค่อยๆ เข้าไปในรถอย่างทุลักทุเล ประตูรถถูกปิดลงอย่างเรียบร้อย ในขณะที่สามก๊กเคลื่อนตัวรถออกไปอย่างรวดเร็วไม่นานนักก็มาถึงที่หมาย ทั้งสองคนนั่งไม่พูดไม่จากันตลอดทาง เพราะออพิมมัวแต่สนใจวิวข้างนอกที่แปลกตา ส่วนสามก๊กก็เอาแต่ท้าวคางบังคับพวงมาลัยข้างเดียวเคร่งเครียดอะไรเรื่อยเปื่อยบรรยากาศของคลับในช่วงเย็นนั้นยังคงไม่ค่อยมีใครเข้ามา สามก๊กไม่ได้ต้องการอินบรรยากาศ แค่ปรารถนาจะจิบแอลกอฮอล์ย้อมใจก็เท่านั้น ตรงหน้าคลับของจิณพรต เพื่อนของเขานั้นเต็มไปด้วยการ์ดคุมนับสิบด้านหน้า ซึ่งพอรถของสามก๊กขับมาจอดด้านหน้า พวกเขาก็พร้อมใจกันโค้งคำนับอย่างพร้อมเพรียง“ผมขับให้ครับท่าน” การ์ดคนหนึ่งเข้ามาเคาะกระจกเบาๆ เพื่อจะบริการขับรถไปจอดในที่จอดรถ Vip ให้เขา สามก๊กพยักหน้ารับ กำชับแว่นสายตาตอนที่เปิดประตูรถแหงนขึ้น แล้วการ์ดดำอ
คราวนี้เอมมิกาหน้าแตกดังเพล้ง ทั้งที่เด็กสาวคนนี้มีดีแค่ความสวยซึ่งอาจไม่มากไปกว่าเธอสักเท่าไหร่ แต่สามก๊กกลับหยามหน้ากันถึงขนาดนี้ ไม่อยากกลับมาควงหล่อนถึงขนาดต้องดึงคนบ้ามามีอะไรด้วย ตั้งตนให้มันแล้วเรียกว่าเมีย ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ“แล้วสามจะต้องเสียใจ ที่คิดหักหน้าเอมด้วยอีเด็กสติไม่ดีนี่” เธอปรามาสอย่างฉุนเฉียว หมดมาดแม่ชีไปไหนทันใด ยิ่งเห็นว่าแม่เด็กสาวคนนั้นทำท่าจะหนีไปแต่กลับถูกสามก๊กรั้งเอวคอดกิ่วกลับมาทันควัน ก็ทำเอาหึงหวงหน้ามืดตามัวแทบควันออกหูทั้งที่สามเป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์ของเธอมาตลอดแท้ๆจำเอาไว้เถอะ นังพิมแก้ว!หลังจากพ้นจากหลังเอมมิกาไป สามก๊กก็ทรุดตัวลงไปนั่งบนโซฟา ทั้งๆ ที่ยังรั้งเอวคอดของพิมแก้วอยู่ จนทั้งคู่ล้มลงไปด้วยกัน“นี่ท่าน!” เธอทำท่าจะปรามาส หากแต่ฝ่ามือที่สั่นเทาของผู้ชายที่ดูเหมือนจะเข้มแข็งและน่ากลัวกลับทำให้เจ้าหล่อนชะงัก “... ท่านมิเป็นกระไรใช่หรือไม่”คำพูดหวังปรามาส จึงแปรเปลี่ยนไปเป็นเนื้อเสียงแห่งความเป็นห่วงแทน“เปล่า” เขาผละฝ่ามือออกจากเธอทันทีที่รู้สึกตัว ค่อยๆ เอื้อมมือขึ้นไปถอดแว่นตาออกอย่างเหนื่อยล้า ตลอดหลายปีที่เอมมิกาตามมารังควานจนนางบ
เอมมิกาเป็นสาวสังคมระดับสูงที่ชุบตัวมาจากเด็กเสี่ยในอดีต เธอมีความทะเยอทะยานสูง อาชีพเด็กเสี่ยไม่มีใครผิด ทุกคนต้องการหาความสะดวกสบายให้ชีวิตตัวเอง หากแต่เอมมิกานั้นกลับเปลี่ยนผู้ชายไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ถูกขัดใจ สามก๊กคืออดีตเพื่อนของเธอก่อนที่จะกลายเป็นสามีเก่าที่เคยมีลูกด้วยกันเอมมิกาทำแท้งเนื่องจากเธอไม่อยากมีลูก แต่พอพลาดท้องกับสามก๊ก เธอไตร่ตรองแล้วว่าไม่สามารถเป็นแม่คนได้จริงๆ จึงตัดสินใจกินยาขับเลือดตอนตั้งครรภ์ จนสามก๊กที่ถึงกับเล่นใหญ่ซื้อห้องให้ลูกคนแรกของเธอกับเขาถึงกับจมอยู่กับความเจ็บปวด เขาไม่ทำงานทำการและยึดติดกับลูกคนนี้มาก จึงทำให้ชีวิตในช่วงนั้นของสามก๊กตกต่ำ เอมมิกาจึงตีปีกไปจากเขาอย่างรวดเร็วสามก๊กเคยให้สัญญากับเธอว่า ไม่ว่าเธอกับเขาจะตกอยู่ในสถานะแบบไหน ความเป็นเพื่อนก็ยังอยู่เหมือนเดิม เขาเป็นคนที่อบอุ่นกับคนรัก แต่เพราะเธอไม่รู้จักพอ เอมมิกาจึงอยากมาขอโทษแต่เธอใช้วิธีขอโทษที่ผิดไปหน่อย เนื่องจากตัวเองมีความเอาแต่ใจจากการโดนเอาใจสูง ยิ่งกับสามก๊กที่เคยรักเธอแล้วด้วย เธอคิดว่าไม่ต้องทำอะไรมากหรอก แค่เห็นเธอเขาก็คงจะมานอนจูบแทบเท้าเธอแล้วก็สามก๊กน่ะเป็นสุนัขผู้
ชายหนุ่มส่ายหน้าเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเอาแต่เดินเข้าไปหลบที่หลังม่านที่อยู่ใกล้บานหน้าต่างใหญ่ที่มองลงไปด้านล่างได้ถนัด เขาคิดว่าหล่อนคงไม่ก้าวเข้ามาก็ต่อเมื่อตนนั้นก้าวเข้าไปเอง จึงตัดสินใจขยับรองเท้าหนังจระเข้มันวาวเข้าใกล้หล่อนที่อยู่หลังผ้าม่าน“เฮือก!” เจ้าตัวเล็กสะดุ้งโหยง เอาหน้ามุดผ้าม่านหนาที่แทบจะปิดตัวเองไม่มิด จนโดนฝ่ามือหนาของสามก๊กดึงมันออก ปรากฏความงดงามเต็มตา ท่ามกลางแสงแดดจ้าที่สาดส่องเข้ามาผ่านบานหน้าต่างเด็กสาวนั้นสวยจนแทบปฏิเสธไม่ได้ว่ากระตุ้นโสตประสาทความรับรู้ทางเรื่องเพศให้ตื่นได้ดี เธอในชุดสายเดี่ยวคอเสื้อแหวกต่ำ ผ่าหน้าผ่าหลัง ผ่าขานั้นสวยจนไม่มีที่ติ พาลทำให้กายแกร่งของสามก๊กนั้นเกร็งเครียดการถุกกระตุ้นโดยที่รู้ตัวว่ามันจะไม่สำเร็จดั่งใจหวัง มันช่างทรมานเหลือเกินปึง!“อ๊ะ!” เสียงหวานหวีดร้องในลำคอเมื่อคนตัวใหญ่กว่ายันและดันเธอจนไปชิดกับบานหน้าต่างใหญ่ดังปึง แดดร้อนลามไล้แผ่นหลังนวลเนียนจนเธอหยีตา คุณสามหรี่ตาลงมองใบหน้าของหล่อนที่แต่งเติมเมคอัพไปเพียงน้อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังดูสวยพิฆาตสิ้นดี“อย่ามาว่ากูโหดร้ายแล้วกัน ในเมื่อเธอยั่วยวนกูก่อน” ริมฝีปากหยักลึกข
“สัตตบรรณไม่ต้อนรับมึงอีกต่อไปแล้วพิศุทธิ์” เขาพูดกับชายวัยกลางคนตรงหน้า ที่ถึงจะเคยมีศักดิ์เป็นอดีตคู่ค้าที่แสนดี แต่ถ้าหักหลังกันเมื่อไหร่ ความเป็นมิตรนั้นจะถูกพังทลาย เขาจะทรมานมันทุกทางเท่าที่จะทำได้ฝ่ามือนั้นกดมีดลงพร้อมเสียงกรีดร้องโหยหวนของพิศุทธิ์ แต่ก่อนที่ส่วนแหลมคมของมีดพกจะกดลงที่นิ้วชี้หยาบอ้วนของเขา เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ดังขึ้นรัวๆ สามครั้ง จนสามก๊กต้องหยุดมีดไว้กลางอากาศ โดยที่เกือบจะเฉียดเนื้อของชายผู้นั้นไปแค่เพียงไม่กี่เซน“วิลลี่ โทรศัพท์” เขาหันไปออกคำสั่งกับมือขวา ชายหนุ่มกำยำหัวโล้นส่งสมาร์ทโฟนราคาแพงให้นายตัวเอง ก่อนที่สามก๊กจะเลื่อนสลับหน้าจอทัชสกรีนเป็นรูปหน้ากล่องแชทไลน์แต่ก็แทบจะผงะไป ใจกระตุกอย่างรุนแรงเมื่อเด็กสาวที่หายไปร่วมสิบห้านาที กลับส่งรูปภาพวาบหวิวขยี้ใจมายั่วยวนเขาในเวลาสำคัญเสียนี่!รูปแรก นั้นเป็นรูปที่พอเร่งระดับเลือดลมให้สูบฉีดประมาณหนึ่ง เป็นรูปที่เธอยกกล้องเซลฟี่ถ่ายด้วยมือตัวเอง รอยยิ้มโก๊ะๆ ถูกเผยออกมา พร้อมกับหน้าอกหน้าใจที่ทะลักจากชุดวาบหวิวที่สามก๊กโปรดปรานราวกับจงใจรูปที่สอง เป็นรูปที่ทรวงอกกลมโตหกลงจากขอบเสื้อคอกว้างมากขึ้น ความข