FAZER LOGINจ้าวเฟยเฟยเดินหนีไปไกล นางไปที่ลำธารเด็กสองคนนั่นกินหมั่นโถวลูกนั้นไปแล้วตอนนี้นางก็หิวเช่นกัน เฉินมู่หยางเดินมาหานางพร้อมกับคว้าลำแขนที่แห้งแกรนเอาไว้ก่อนจะเอ่ย
"เจ้าบอกว่ามีของจะซื้อ บอกมาเถอะต้องซื้ออะไรบ้าง"
"ไม่จำเป็น ข้าหาเงินได้จะไปซื้อเองเจ้ายุ่งเรื่องของลูกเจ้าก็พอ ข้าไม่อยากก้าวก่าย อย่ามายุ่งกับข้า"
"ข้าจะไปเช่าบ้านท่านปู่หลี่เจิ้ง ที่บ้านนอนไม่ได้เพราะฝนรั่ว อีกสองวันข้าจะซ่อมแซมเจ้าเตรียมของเถอะรอข้ากลับมา"
จ้าวเฟยเฟยไม่เอ่ยตอบ นางเดินไปหาริมลำธารก็เห็นมันเทศกอใหญ่ นางเดินกลับไปหยิบมีดมาก่อนจะลงมือขุด เฉินมู่หยางเห็นนางเงียบไม่ตอบเขาก็ถอนหายใจ ในเมื่อไม่รับความหวังดีก็ช่างนางเถอะ จากนั้นเขาก็เข็นรถไปขายสัตว์ที่ล่ามาได้ เขาเหลือไก่และเป็ดป่าเอาไว้ตามที่นางบอกจ้าวเฟยเฟยไม่สนใจนางขุดมันเทศมาล้างวก่อนจะข้ามลำธารไปหาฟืนเพื่อมาสุมไปเผามันเทศกินนางหิวจะตายแล้ว
เฉินโม่หวายจับมือน้องสาวก่อนจะเอ่ยขอโทษนาง เฉินผิงผิงยิ้มให้พี่ชาย เด็กทั้งสองคนนั่งมองจ้าวเฟยเฟยที่เดินกลับมาจากอีกฝั่งของลำธาร นางได้ฟืนมามัดใหญ่จากนั้นก็ใช้หินจุดไฟแทนเพราะไม่มีชุดไฟ สักพักก็จุดติดก่อนจะเติมฟืนลงไปรอกระทั่งไปอ่อนลงนางจึงเขี่ยให้เป็นถ่านร้อนๆแดงๆจากนั้นก็นำมันเทศสี่หัววางลงไปแล้วกลบไฟทับ
จ้าวเฟยเฟยหยิบเลื่อยออกมา นี่คือเครื่องมือของบิดาตาเฒ่าเฉินมู่หยาง บ้านนอนไม่ได้จริงๆนั่นแหละแต่นางสามารถสร้างที่พักเองได้ ลำธารลึกเกือบหนึ่งเมตรหากทำแพน่าจะอยู่ได้ เพิ่งเข้าหน้าฝนได้ไม่ถึงเดือน ซ่อมแซมบ้านต้องรอเวลา อีกไม่นานตาเฒ่านั่นต้องไปทหารแล้วหากยังไม่ซ่อมอีกนางกับเด็กๆจะใช้ชีวิตลำบาก โดยเฉพาะญาติตัวดีของเขา เฉินผิงผิงเดินมาหามารดาก่อนจะเอ่ยถาม
"ท่านแม่...ท่านแม่ทำอะไรอยู่เจ้าคะ"
"แม่กำลังทำที่พักอยู่ คืนนี้ฝนคงตกอีก บ้านอยู่ไม่ได้แล้วไม่มีที่ให้หลบฝน"
จ้าวเฟยเฟยตัดไม้ไผ่มาทำราวตากผ้า ก่อนจะขนที่นอนที่เปียกฝนเมื่อคืนนี้มาตาก แดดกำลังแรง แต่แดดแบบนี้แหละหากถึงเวลาที่ฝนตกนั้นหนักหนาเชียวล่ะ เมื่อตากผ้าเรียบร้อยก็เริ่มเลื่อยต้นไผ่นางคำนวณความกว้างและความลึกของลำธาร
"ลำธารน่าจะกว้างถึงยี่สิบเมตร สร้างแพยาวสักสิบเมตรกว้างแปดเมตร หัวท้ายเหลือพื้นที่สักข้างละสามเมตร ข้างๆสามารถเดินได้รอบๆกว้างสักเมตรครึ่งน่าจะใช้เวลาไม่นาน หลังคาก็ใช้หญ้าคาที่เกี่ยวตากไว้นั่นก่อนแล้วกัน ผนังใช้ไม้ไผ่สับฟากเอาชั่วคราวก่อน อย่างน้อยก็มีผ้านวมที่ไปเอาคืนมาสามผืน ผ้าหยาบอีกสามม้วน ฝนตกก็คงไม่หนาวมากนัก ฝั่งนั้นมีเถาวัลย์เยอะเอามาแทนเชือกก่อนเถาวัลย์เหนียวกว่าเชือกอีกด้วย สร้างแพนี่แหละไม่ต้องขุดดินลงเสาให้ลำบาก"
เมื่อคำนวณเสร็จสรรพจ้าวเฟยเฟยก็เดินไปตัดใบบัวมาสามใบก่อนจะเขี่ยมันเทศออกจากกองไฟ นางขูดผิวด้านนอกที่เปื้อนขี้เถ้าออกจากนั้นก็ลอกเปลือกเรียบร้อยจึงเรียกเฉินผิงผิง
"ผิงผิง ลูกมากินมันเทศก่อน กว่าท่านพ่อของลูกจะกลับคงอีกสองชั่วยาม"
อำเภอห่างจากหมู่บ้านยี่สิบลี้ เฉินมู่หยางเดินเข็นรถที่มีหมูป่าสามตัวกับกวางอีกหนึ่งตัวหนักใช่น้อยอย่างน้อยๆที่คำนวนจากสายตาก็เกือบหนึ่งพันชั่งละมั้ง ฝนตกอย่างนี้ราคาคงดีเพราะหลายๆคนไม่ขึ้นเขาล่าสัตว์
เด็กน้อยที่ได้ยินมารดาเรียกก็รีบวิ่งมาหาทันที จ้าวเฟยเฟยอุ้มนางมานั่งตักก่อนจะบิมันเทศแล้วเป่าจนเย็นค่อยๆป้อนนาง
เฉินโม่หวายเห็นน้องสาวกินมันเทศเผาก็กลืนน้ำลาย ปกติเขาและชาวบ้านจะสับให้หมูไม่เคยคิดว่ามันกินได้มาก่อน อีกทั้งเมื่อเผาแล้วยังหอมอีกด้วย เฉินผิงผิงเห็นพี่ชายมองตาละห้อยก็เอ่ยขึ้น
"ท่านแม่ พี่ชายผิดไปแล้ว ท่านแม่ให้อภัยพี่ชายได้หรือไม่เจ้าคะ"
"มีมือก็หยิบกินเองจะมาให้ใครโอ๋กัน ผิงผิงเด็กดีค่อยๆกินนะแม่จะไปตัดไม้ก่อน หากเสร็จไม่ทันมืดเราจะไม่มีที่นอน"
เด็กน้อยพยักหน้า จ้าวเฟยเฟยไปเลื่อยต้นไผ่สร้างบ้านแพ เรื่องพวกนี้นางถนัดอยู่แล้วเพราะชาติก่อนนางชอบที่จะทำเครื่องเรือนและงานไม้ด้วยตัวเอง แม้จะเป็นนักธุรกิจก็ตาม
จ้าวเฟยเฟยเลือกต้นไผ่ขนาดเท่ากันทุกต้นเพื่อความสมดุลของฐาน นางใช้ต้นไผ่ที่เส้นผ่าศูนย์กลางขนาดสิบชุ่น ไผ่โบราณลำต้นใหญ่มากอีกทั้งตั้งตรง จ้าวเฟยเฟยตัดหวายมาทำแทนเชือก นางนำต้นไผ่มาทำลูกบวบเป็นฐานชั้นล่างเพื่อรองรับน้ำหนัก ฐานใช้ต้นไผ่มัดรวมกันแปดต้นเพื่อทำลูกบวบ
หมู่บ้านอวี๋หยางจ้าวเฟยเฟยหยิบจดหมายของสามีมาอ่านอีกรอบเขาส่งมาเดือนก่อน("เสี่ยวเฟย..พี่คิดถึงเจ้ากับลูกๆ ยิ่งนัก เดือนหน้าจะครบรอบวันจากไปของท่านพ่อและท่านแม่ เจ้าบอกว่าจะไปเซ่นไหว้พวกท่านแทนพี่เรื่องนี้ต้องขอบใจเจ้ามากนัก เจ้ากำลังตั้งครรภ์จงดูแลตัวเองดีๆ เงินทองพี่มีมากพอที่จะเลี้ยงดูเจ้ากับลูกให้อดอยากยากจน จงอย่าหักโหมทำงานมากเกินไปนัก ขาดเหลือสิ่งใด กลับไปพี่จะชดเชยให้เจ้าทุกอย่าง พี่อยากกลับไปอยู่เคียงข้างเจ้ายามที่คลอดลูกของเรา แต่ชายแดนยังต้องจัดการกับกลุ่มก้อนที่ไม่ยอมสวามิภักดิ์ ให้สัญญากับเจ้าเมื่อสงครามจบจะรีบกลับไปหาเจ้ากับลูกของเราโดยไว รักเจ้าเสมอคนดี เฉินมู่หยาง")นางจะเป็นตัวแทนของเขาไปไหว้สุสานของบิดามารดาของเขาแทน ซึ่งนางกำลังเตรียมข้าวของอยู่ จ้าวเฟยเฟยเปิดร้านใบชาเพิ่มอีกหนึ่งร้าน นางกำลังได้คู่ค้ารายใหม่เฉินโม่หวายเขียนใบรายการสินค้าให้มารดา ส่วนเฉินเหว่ยออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้พี่สะใภ้ ทั้งสองคนมีค่าแรงเป็นเงินเดือนๆละสองตำลึง เฉินผิงผิงเองก็มีหน้าที่ต้อนรับลูกค้าที่มาซื้อของ เพราะท่านแม่เปิดร้านขนมอบเจ้าตัวน้อยชอบกินขนมและไป้เหฟยียนเองก้มักจะทำบ่อยๆ จ้าวเฟยเฟยเลย
หุบเขาไป๋ฮวาเฉินมู่หยางกำลังเดินทางกลับหมู่บ้านกับไป่เซิง ทั้งสองคนแยกตัวจากกลุ่มของสำนักคุ้มภัย พวกเขาหยุดงานแต่ว่าเฉินมู่หยางได้ยินว่าท่านพ่อป่วยจำต้องใช้เงินตำลึง เขาแค่แปลกใจเงินทองที่ให้บิดามารดาก็ไม่น้อยเหตุใดกลับไม่มีรักษาตัวสักอีแปะ หรือว่าท่านย่ากับท่านปู่นจะรีดไถไปจนหมดอีกแล้วทั้งสองคนเดินมาเรื่อยๆ ค่ำก็นอนบนคบไม้เพื่อกันถูกสัตว์ป่าที่ออกหากินกลางคืนทำร้ายเอาได้ ขณะกำลังเดินมาเพื่อจะผ่านทางหุบเขาก็ได้ยินเสียงโลหะกระทบกัน เป็นเสียงกระบี่กระทบกันมีคนกำลังสู้รบ ทั้งสองคนไม่อยากจะเอาปัญหามาให้ตัวเองจึงจะเดินเลี่ยงไปทางอื่น แต่เฉินมู่หยางต้องหยุดเพราะมีมือยื่นออกมาจากพงหญ้าคว้าเท้าเขาเอาไว้ เมื่อเขามองลงมาก็เห็นเป็นมือขาวซีดของสตรี นางเอ่ยอย่างอ่อนแรง"ได้โปรด...ช่วยข้าด้วยเถอะ"เสียงสู้รบเงียบไปแล้วได้ยินแต่เสียงตะโกนดังมา"พี่ใหญ่ นายจ้างต้องการหัวของสตรีคนนั้นพร้อมกับร่างที่มีเด็กอยู่ในท้อง""ไปตามหานางให้เจอ ต้องเอาตัวมาให้ได้ แค่หญิงท้องแก่คนหนึ่งไปไหนได้ไม่ไกลหรอก ฆ่านางแล้วเอาศพไปรับเงิน""เฮๆๆๆๆ ฆ่านาง ฆ่านาง ฆ่านาง"เสียงกลุ่มนักฆ่าร้องโห่เรียกกำลังใจก่อนจะพากันออกตามห
ค่ายทหารในแคว้นเหลียวไป่เซิ'มาหาเฉินมู่หยางเพราะท่านแม่ทัพใหญ่มีเรื่องจะคุยกับเขา"ท่านแม่ทัพ แม่ทัพใหญ่ต้องการคุยบางอย่างกับท่านน่ะขอรับ""น่าจะเป็นเรื่องเหยื่อตัวโตที่ถูกขังเอาไว้ ป่านนี้คงผอมแล้วกระมัง รองแม่ทัพไป๋ท่านช่วยส่งจดหมายให้ข้าสักหน่อย ส่งไปจวนเจ้าเมืองหาใต้เท้าจิน""ขอรับ"ไป๋เซิงรับคำสั่ง ยามนี้เขาเป็นรองแม่ทัพตะวันออกติดตามแม่ทัพเฉินและเฝ้ารักษาปกครองเมืองเหลียว พรุ่งนี้จะเข้าไปอยู่ในวังหลวง องค์หญิงและเชื้อพระวงศ์แคว้นเหลียวต่างเสนอตนเองเป็นบรรณาการให้กับเขาและแม่ทัพใหญ่ แต่ทว่าเฉินมู่หยางมิได้สนใจร่างสูงเดินออกมาจากเรือนพัก ทหารที่ยึดเมืองเข้าพักยังอาคารและตำหนักต่างๆ เกณฑ์เชื้อพระวงศ์ไปอยู่ที่ตำหนักเย็นทั้งหมด เฉินมู่หยางเดินมากำลังจะถึงก็มีสตรีนางหนึ่งพรวดพราดออกมา เพื่อต้องการล้มในอ้อมกอดของเขา แต่กลับถูกซ่งเทียนอี้สะบัดมือใส่จนนางล้มลง"ไม่เจียมตัว ข้าเกลียดที่สุดก็คือสตรีที่เสแสร้งทำตัวอ่อนแอให้บุรุษปกป้อง""ไอ้เด็กบ้า...อย่างไรข้าก็เป็นถึงองค์หญิงนะเจ้ากล้าทำเช่นนี้กับข้าหรือ""องค์หญิง เหอะจะถูกส่งไปขุดเหมืองอีกไม่กี่วันยังจะปากดี จะบอกให้นะ แม่ทัพของพวกเราม
ยามนี้จ้าวเฟยเฟยนั่งพิงเก้าอี้ไม้เพื่อรอฟังคนตรงหน้าอธิบาย มู่หยวนเดินมาหาจับมือบางขึ้นมาเอ่ยด้วยน้ำเสียงอบอุ่น"เฟยเอ๋อร์ หลานคือหลานของตา มีบางอย่างที่ทำให้พวกเราต้องพัดพรากจากกัน""เถ้าแก่มู่ ท่านช่วยบอกข้าสักหน่อยว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่"นางชักมือออกก่อนจะเสียงแข็งใส่ชายสูงวัยตรงหน้า มู่หยวนนั่งลงและเริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมด เมื่อเอ่ยจบเขาก็รอฟังว่าหลานสาวจะเอ่ยอะไร ส่วนจ้าวเฟยเฟยนั้นได้แต่สงสารร่างเดิม หากพวกเขาตามหานางเร็วกว่านี้ร่างเดิมคงไม่ต้องตายอย่างน่าสงสาร จ้าวเฟยเฟยพยักหน้าให้ก่อนจะเอ่ยกับพวกเขา"พวกท่านรอจนเกือบสี่สิบปีถึงมาตามหา ช่างเถอะข้าไม่อยากถือสาเรื่องที่ผ่านไปแล้ว แต่ว่าที่ข้าอยากรู้คนเหล่านั้นเป็นใครทำไมพุ่งเป้ามาที่ข้ากัน"มู่หย่งอันถอนหายใจเอ่ยกับเหลนสาวของตัวเอง"สี่สิบปีก่อนยังมีอีกคนที่หายสาบสูญ""มีอีกคนหรือ...ใคร?"จ้าวเฟยเฟยเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ คนโบราณนี่พลัดพรากเก่งจริงๆ เหมือนนางกำลังอยู่ในซีรีส์สักเรื่องที่พล็อตละครน้ำเน่า มูหย่งอันสบตาหลานสาวก่อนจะเอ่ยปากเล่า"ครั้งนั้นไหวอ๋องปราบปรามกบฏ ที่แย่งชิงบัลลังก์จากอดีตฮ่องเต้ เมื่อเสร็จสิ้นยังไม่ทันได้
นางกำลังทำงานคนงานก็มาบอกว่ามีคนงานมาหานางบอกว่ามีคนมาจากต่างเมืองพูดคุยเรื่องใบชา จึงลุกออกไปคนงานจากร้านมาหานางบอกว่ามีลูกค้าต้องการติดต่อค้าขายใบชา จ้าวเฟยเฟยพยักหน้าก่อนจะบอกหลินเซียงเหมยดูแลทางนี้ นางค่อยๆลุกขึ้นเพื่อจะไปหาคู่ค้าใหม่ที่จะมาติดต่อ ก่อนจะนึกได้ว่าหากมาติดต่อนาง ต้องนัดหมายมาทางด้านหลินอ้าวก่อน อยู่ๆมาหานางโดยตรงนั้นมันผิดปกตินึกถึงคำของมู่หยวนเมื่อก่อนเดินทางไปนางยิ่งวิเคราะห์ความไม่สมเหตุสมผล นางจึงหยุดเดิน ก่อนที่คนงานจะหันกลับมาแล้วเอ่ยถามนางว่าเหตุใดถึงหยุดเดิน"เถ้าแก่ ...ท่านหยุดเดินทำไมลูกค้าคนนั้นรอท่านอยู่ ที่สำคัญเงินมากขนาดนั้นท่านไม่ต้องการหรือ""วาจาก้าวร้าว ท่าทางข่มขู่คุกคาม สายตาล่อกแล่ก รีบร้อนจนดูผิดปกติ ที่ง่ามมือมีรอยด้านหากเป็นกรรมกรจะไม่ด้านแค่ตรงนั้นเป็นพิเศษ มือนี้ปกติจับอาวุธ ไม่ใช่คนงานที่จ้างมาทำงานแน่นอน ทุกคนข้ารู้จักหมด เจ้าเป็นใครมาจากไหนกันแน่ เอาเถอะข้าเองก็อยากรู้"จ้าวเฟยเฟยคิดในใจจากนั้นก็เอ่ยกับคนงานชายที่เดินนำหน้า"พอดีข้าลืมหนังสือสัญญาน่ะ ข้ากลับไปเอาก่อนเจ้ารอที่นี่""ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวข้าไปเอาให้ท่านเองท่านวางไว้ที่ใด"จ้
ยามนี้จ้าวเฟยเฟยตั้งครรภ์ได้แปดเดือนแล้วนางได้ยินว่าชายแดนยึดต้าเหลียวได้ถึงเจ็ดเมือง อีกไม่นานก็จะเข้ายึดเมืองหลวงข่าวดีกว่านั้นคือเฉินมู่หยางสังหารแม่ทัพศัตรูไปสามคนยามนี้เขาได้ตำแหน่งแม่ทัพตะวันออกเรียบร้อยแล้ว ส่วนฮั่วป๋ายจะกลับเมืองหลวงเป็นรองเจ้ากรมกลาโหมคนต่อไปทางด้านจ้าวเฟยเฟยอยู่ทางนี้นางสร้างอาชีพใหม่ให้กับชาวบ้านโดยการให้พวกเขาปรับปรุงบ้านเป็นที่พัก ถนนจากท่าเรือมายังท้ายหมู่บ้านนั้นยาวเพียงสองลี้ ใช้เวลาไม่นานก็มาถึง อีกทั้งนางยังให้ทำที่จอดรถม้าอีกด้วยยามนี้ร่างอุ้ยอ้ายกำลังนั่งคิดเงินค่าแรงคนงานอยู่ แม้ว่าร้านปิ้งย่างของนางจะมีลูกค้ามากมายมาจากทุกทิศแต่ว่าสิ่งที่ทำเงินให้นางมากที่สุดก็ยังเป็นชาอยู่ดี นางได้ชาอู่หลงมาจากในมิติครั้งละหนึ่งร้อยห่อ ห่อละหนึ่งร้อยกรัม จ้าวเฟยเฟยขายมันห่อละสามสิบตำลึง คนในยุคนี้อวดรวยกันที่ว่าใครมีใบชาชั้นดีไว้ในครอบครองชาดอกกุหลาบและชาดอกเก๊กฮวยนางขายห่อละสามตำลึงแต่ทว่าหากร้านรับซื้อในราคาส่งนางขายพ่อค้าคนกลางห่อละสองตำลึง นางให้กำไรพวกเขามากหน่อยเพราะการขนส่งในยุคนี้แม้ว่าไม่มีต้นทุนน้ำมันแต่กลับเสียเวลาและใช้กำลังคนเฉินโม่หวายถือถาดไม







