Share

สร้างที่พัก2

last update Last Updated: 2025-06-27 17:06:57

จ้าวเฟยเฟยทำลูกบวบจำนวนแปดลูกจากนั้นก็ตัดไม้ไผ่ยาวเก้าเมตรมาวางขวางและผูกด้วยเถาวัลย์ยึดกับลูกบวบทีละต้นจนเต็มเป็นแพขนาดใหญ่  เฉินผิงผิงเห็นก็ตาโต  ท่านแม่ร้ายกาจยิ่งนักนางสร้างบ้านในน้ำได้ด้วย   จ้าวเฟยเฟยวางขวางเรียบร้อยเพื่อกันน้ำในลำธารกระฉอกขึ้นมาเปียกนางจึงวางเรียงแนวยาวอีกหนึ่งชั้น  กว่าหนึ่งชั่วยามนางจึงได้แพสูงประมาณสามฉื่อ  ก่อนจะสับฟากไม้ไผ่มาปูทำพื้นให้เรียบเฉินผิงผิงหยิบกระบอกน้ำมาส่งให้แต่ท่านแม่ของนางอยู่ในลำธารเด็กน้อยลงไปไม่ได้

"ท่านแม่  ดื่มน้ำเจ้าคะ  ท่านแช่น้ำนานแล้วหนาวหรือไม่เจ้าคะ"

"อย่ามาใกล้ลำธารมันลื่นเพราะเมื่อคืนฝนตก    แม่จะเดินไปเอาเองลูกวางไว้ตรงนั้นแหละ"

เฉินผิงผิงวางกระบอกไม้ไผ่เอาไว้ให้ท่านแม่ของนาง  ยามนี้ทานแม่ไม่ดุแล้วอีกทั้งยังป้อนมันเทศและกอดนางด้วย  เฉินโม่หวายไม่วางใจสายตายังคงจ้องจ้าวเฟยเฟยอยู่  แต่ด้วยความหิวและกลิ่นหอมเดิมเขาคิดว่าจะไม่กินของสตรีใจร้ายคนนั้น  แต่ตอนนี้เขากำลังนั่งเคี้ยวมันเทศอย่างอร่อย

จ้าวเฟยเฟยที่เดิมจะใช้ไม้ไผ่ทำหลังคา  แต่นางเดินไปเจอหญ้าคาตอนที่ตัดไม้ไผ่จึงเกี่ยวแล้วผึ่งแดดเอาไว้ก่อน   นางเริ่มขึ้นเสาโดยนางวางเสาแปดต้น  จากนั้นก็ทำคานใช้ไม้ไผ่มาวางตรงกลาง  ก่อนจะเอาไม้ไผ่วางตั้งขึ้นพิงกับคานและปีนขึ้นไป  ลมพัดมาทำให้แพกระเพื่อมนางเกือบจะตกจากหลังคา  มือคว้าเอาไว้ข้างเดียว  แต่กลับรู้สึกว่ามีมือมาโอบเอวนางเอาไว้  เมื่อมองดูก็เห็นเป็นเฉินมู่หยางที่กึ่งอุ้มนาง

"ขอบคุณ"

"ไม่เป็นไร  เจ้าทำอะไรข้าบอกจะเช่าบ้านท่านหลี่เจิ้งมิใช่หรือ"

"เจ้าอยากไปเช่าก็ไป  ข้าจะสร้างที่พักเอง  ไม่อยากให้ญาติเจ้ามาวุ่นวายอีก"

"เอ่อ  ข้าไม่ได้ให้เงินพวกเขาวันนี้ข้าขายให้เถ้าแก่สามเจ้าพวกเขาไม่มีเนื้อพอดี  เขาซื้อเหมาตัวละสามสิบตำลึง  กวางข้าขายได้ยี่สิบตำลึง  ข้าเอาเขากวางไปขายร้านยาตามที่เจ้าบอกได้มาหนึ่งร้อยตำลึง  เอ่อเงินข้าให้เจ้าเก็บดีหรือไม่"

เฉินมู่หยางเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องบอกนางทั้งที่เมื่อก่อนเขาคร้านจะพูดกับนางด้วยซ้ำ  จ้าวเฟยเฟยแค่พยักหน้าก่อนจะทำงานตรงหน้าต่อ   เฉินมู่หยางบอกว่าเขาจะขึ้นไปเอง  จากนั้นก็ปีนขึ้นไป  จ้าวเฟยเฟยไม่พูดมากหากฝนตกจะลำบากนางส่งท่อนไม้ให้กับเขา  ไม้ไผ่ซีกถูกมัดขวางไม้ท่อนเป็นเหมือนตารางก่อนที่จ้าวเฟยเฟยจะมัดหญ้าฟางเป็นกำเล็กๆจากนั้นก็ขัดจากด้านล่างสลับหว่างขึ้นไปจนถึงด้านบน

สองคนใช้เวลาสามชั่วยามก็ทำหลังคาเรียบร้อย  จ้าวเฟยเฟยหยิบคบเพลิงที่นางทำไว้ก่อนหน้าออกมาแล้วจุด  เฉินมู่หยางสับฟากต้นไผ่ก่อนที่จ้าวเฟยเฟยจะนำมาขัดเป็นตารางสลับกันจากนั้นก็นำไปมัดติดกับเสาที่ทำรอเอาไว้   ผนังเรียบร้อยก็เข้ายามซวีพอดี   เฉินมู่หยางซื้อซาลาเปามายี่สิบลูกมื้อเย็นจึงไม่ต้องทำ   

จ้าวเฟยเฟยตั้งเสาสูงประมาณสี่ฉื่อรอบๆแพเรียบร้อยแล้วเหลือเพียงแค่ใช้ไม้ไผ่ที่นางผ่าซีกมาขัดก็จะได้ราวกั้นแพเพื่อกันเด็กๆตกลงไป   ด้านหน้าด้านหลังมีพื้นที่ใช้สอยพอควร   รอบๆแพสามารถเดินได้  มองลงไปที่ลำธารไม่ว่านำจะขึ้นสูงเพียงใดแพก็ไม่จมและน้ำไม่อาจเข้ามาถึงด้านบน  เฉินมู่หยางทึ่งในฝีมือสร้างแพของนางจริงๆ  เขาเองแม้จะเป็นนายพรานบิดาเป็นช่างไม้ก็ไม่อาจสร้างออกมาได้เช่นนี้

"ตาเฒ่า  ท่านทำสะพานสักอันข้ามจากตลิ่งมาแพ  เอาให้กว้างหน่อย  ข้าจะไปขนเสื้อผ้ากับเครื่องเรือนมาไว้ในนี้"

"เราไม่เอาติดริมฝั่งหรือ"

"ข้าจะถ่อแพไปกลางลำธารยามค่ำคืน  แม้น้ำจะไม่ลึกเท่าไหร่แต่คงไม่มีใครว่ายน้ำข้ามมาแย่งเสบียงข้าแน่ๆ"

จากนั้นนางก็เดินไปยังบ้านดินที่โดนฝนเมื่อคืนตอนนี้สภาพไม่ต่างกับเศษดินเท่าไหร่   

จ้าวเฟยเฟยสร้างแพเล็กๆไว้สำหรับลากขนของหนึ่งแพ  นางนำข้าวของใส่แพก่อนจะเข็นไปยังแพใหญ่   เฉินมู่หยางที่สร้างสะพานเสร็จแล้วมองคนตัวเล็กที่กำลังโยนข้าวของจากแพเล็กไปยังแพหลักก็ลุยน้ำมาหานางก่อนจะเอ่ย

"เจ้าแช่น้ำทั้งวันแล้วจะป่วยเอาได้  มาเถอะปล่อยให้ข้าจัดการเอง"

"อืม"

จ้าวเฟยเฟยแบกกระบะดินสองใบที่นางทำไว้สำหรับจุดไฟขึ้นบ้านแพอย่างระมัดระวัง แม้เพียงอุปกรณ์ง่าย ๆ แต่ก็สำคัญยิ่งยามฝนพรำเช่นนี้  เมื่อวางเรียบร้อย นางยกชายกระโปรงเปียกน้ำขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะก้าวขึ้นสะพานไม้ที่เพิ่งสร้างเสร็จ ทว่าความเย็นจากลำธารที่แช่อยู่นาน ทำให้ร่างกายเริ่มสั่นน้อย ๆ

ไม่ทันเอ่ยปาก เฉินมู่หยางก็ก้าวเข้ามา อุ้มร่างบางขึ้นแนบอก ก่อนจะวางนางลงอย่างเบาที่สุดบนสะพาน

“ขอบคุณ” 

จ้าวเฟยเฟยพยักหน้าสั้น ๆ ด้วยความเคยชิน แล้วหมุนตัวเดินเข้าห้องพักเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า

เสียงฟ้าร้องคำรามมาแต่ไกล ลมเริ่มพัดใบไม้ปลิวกระจายโชคดีที่วันนี้นางเก็บลูกสนมาได้หลายตะกร้าในตอนข้ามฝั่งไปสำรวจ ลูกสนแห้งไวกว่าฟืนไม้ และหากพรุ่งนี้ฝนตก อย่างน้อยก็พอใช้ได้สักสามสี่คืน

ภายในห้องพักเล็ก ๆ จ้าวเฟยเฟยเปลี่ยนชุดที่เปียกเป็นเสื้อผ้าสะอาด จากนั้นก็นำชุดเดิมไปตากบนราวไม้ด้านข้างที่หันหน้าสู่ลม

กระบะดินถูกวางอย่างมั่นคงบนก้อนหินจากลำธาร นางเตรียมจุดไฟเพื่อให้ความอบอุ่นในคืนนี้ ไฟจากลูกสนเมื่อจุดแล้วจะมีเสียงเปาะแปะ และส่งกลิ่นหอมบาง ๆ

เด็กทั้งสองเดินจูงมือบิดาเพราะแสงสว่างหมดไปแล้ว  จะเข้ายามห้ายแล้วท่านพ่อกับท่านแม่เพิ่งจะสร้างที่พักเสร็จ  หลังจากข้ามมาเฉินมู่หยางก็เก็บสะพานขึ้น    เมื่อเข้ามาข้างในก็เห็นท่านแม่ปูผ้านวมหนาวสองชั้น  วันนี้ท่านพ่อซื้อผ้านวมกลับมาสี่ผืนอีกด้วย  จ้าวเฟยเฟยกำลังนำผ้าหยาบมากางปิดกำแพงเพื่อไม่ให้ลมลอดเข้ามาได้  เฉินมู่หยางเอ่ยถามนาง

"นั่นเป็นสินเดิมเจ้าเอามาทำเช่นนี้จะดีหรือ"

"สินเดิมแล้วอย่างไร  ข้าไม่อยากหนาวตาย  หากมีชีวิตรอดก็หาเงินซื้อใหม่ได้  ข้ากินมันเทศอิ่มแล้ว  ซาลาเปาพวกเจ้ากินกันเองเถอะ"

จ้าวเฟยเฟยปูที่นอนให้กับเด็กๆโดยใช้ผ้านวมผืนเก่าของนางสองผืนส่วนผ้าห่มก็ใช้ของพวกเขา  นางเหลือเพียงผ้านวมผืนเก่าหลือสองผืนที่ยายแม่เลี้ยงให้มาเป็นสินเดิมแม้จะเก่าแต่ก็ยังดีกว่าหนาวตาย  ร่างบางกระเถิบไปนอนอีกด้านไม่นอนกับสามพ่อลูกแต่อย่างใด  

นางจงใจทำตัวห่างเหินเขาอย่างเห็นได้ชัด  นางตั้งใจทิ้งระยะห่างหรือว่านางยังคิดถึงคู่หมั้นเก่าคนนั้นกัน   จ้าวเฟยเฟยที่แช่ฝนทั้งคืนแถมวันนี้ยังแช่น้ำทั้งวันเพื่อสร้างที่พักเริ่มมีไข้จึงไม่สนใจใครอีกไม่ใช่ว่านางทำตัวแปลกแยกแต่นางรู้สึกไม่ดีหากเด็กสองคนติดไข้จะยุ่งไปกันใหญ่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้ามภพมาเป็นมารดาเลี้ยงแสนร้ายกาจ   มาเจรจาการค้าครั้งแรก 2

    เด็กทั้งสองเคี้ยวอาหารจนหมดปากจึงเอ่ยกับบิดา คู่แฝดเอ่ยชมอาหารที่จ้าวเฟยเฟยทำไม่ขาดปาก เฉินมู่หยางคิดว่าการค้าครั้งนี้เมียเขาคงได้แล้ว หากเป็นหลินอ้าวเขาเชื่อใจที่จะให้ติดต่อค้าขายกับภรรยามากกว่าคนอื่น บิดาที่รักบุตรเช่นนี้ไม่สนใจสตรีอื่นให้ปวดหัวแน่นอนเสียงด้านนอกมีคนมา ไม่นานสตรีใบหน้างดงามก็เดินมาหลังร้านก่อนจะเอ่ยเรียกหลินอ้าว"เถ้าแก่หลิน ข้านำมื้อเช้ามาฝากเด็กๆเจ้าค่ะ"เซียวฮวนฮวนเอ่ยน้ำเสียงอ่อนหวานแก่หลินอ้าว เด็กทั้งคู่หันไปหานางก่อนจะลุกมาหาเรียกนางว่าท่านแม่"ท่านแม่มาแล้วหรือเจ้าคะ ท่านแม่มาทานข้าวกับซินซินสิเจ้าคะ ท่านอามู่หยางนำของอร่อยมาให้ตั้งมากมาย"เซียวฮวนฮวนหน้าแดง หลินอ้าวสู่ขอนางเมื่อหลายวันก่อน จากนั้นเขาก็บอกเด็กทั้งคู่ว่านางจะมาเป็นท่านแม่ เด็กๆดีใจที่จะมีท่านแม่ ยามใดที่เซียวฮวนฮวนมาหาจะดีใจกันมากนัก เฉินมู่หยางเอ่ยทักทายนางก่อน"คุณหนูเซียวพบกันอีกแล้ว""คุณชายเฉิน...ไม่เจอเสียนานเลยเชียวท่านสบายดีหรือไม่ ท่านพ่อมิได้ออกกองคาราวานแล้วข้าจึงไม่ได้พบท่านอีก""สบายดีขอรับ เราพบกันเมื่อหลายวันก่อนท่านคงจำข้าไม่ได้""เขาคือหลานชายเฉินหยวน

  • ข้ามภพมาเป็นมารดาเลี้ยงแสนร้ายกาจ   มาเจรจาการค้าครั้งแรก 1

    เฉินมู่หยางขับเกวียนมาจนถึงประตูเมืองเขาจ่ายค่าเข้าให้กับไป๋เซิงและบิดาก่อนจะนัดมาเจอกันอีกที เกวียนวัวผูกไว้ยังที่รับฝากจอด เฉินมู่หยางถือตะกร้าที่คลุมด้วยผ้าฝ้ายขาวสะอาดตา เดินไปทางร้านขายยาก่อนจะนำใบรายการสมุนไพรที่เมียเขียนให้มาส่งให้คนดูแลร้านพร้อมกับบอกรายละเอียด"หลงจู๊..รบกวนท่านจัดตามรายการนี้ อันไหนที่บอกให้บดเป็นผงก็รบกวนท่านช่วยบดให้ด้วย จัดเตรียมเรือบดยาให้ข้าสามอัน นี่เป็นเงินมัดจำ อีกหนึ่งชั่วยามข้าจะกลับมาเอาขอรับ""เอ่อ..นายพรานเฉิน แม้ว่ายาเหล่านี้จะราคาไม่แพง แต่บางอย่างไม่สามารถใช้ด้วยกันได้นะ""ภรรยาของข้านางจะเอาไปดับกลิ่นคาวของเนื้อน่ะ ข้าเองก็ไม่รู้หรอก นางเป็นแม่บ้านนางเข้าครัวมากว่าข้าเสียอีกขอรับ""อ้อ..เช่นนั้นข้าจะจัดการให้ แต่อย่างละสิบชั่งนี่มันไม่เยอะเกินไปหรือ""ข้าเองก็ถามนางแล้ว นางบอกว่าไม่พอด้วยซ้ำท่านจัดการตามที่นางสั่งเถอะขอรับเดี๋ยวข้าไปธุระก่อน"จากนั้นเขาก็เดินไปทางตรอกของร้านขายของชำของเถ้าแก่หลิน ร้านตรงข้ามที่มีปัญหากันยังไม่เปิดร้าน แต่หบินอ้าวเปิดแล้ว ร่างสูงของหลินอ้าวกำลังจัดร้านเปิดแต่เช้าเชียว เฉินมู่หยางมาถึงก็เอ่

  • ข้ามภพมาเป็นมารดาเลี้ยงแสนร้ายกาจ   เจ้ายินดีแต่งงานกับข้าหรือไม่

    ถังจื่อหยวนอุ้มร่างบางเดินไปทางลำธารสายเล็กที่ทางด้านนั้นไม่มีใครเดินผ่านก่อนจะวางร่างบางลง ไป๋เหยียนรู้สึกว่าคนตรงน่าเวลานี้นากลัวยิ่งนัก นางพยายาออกจากอ้อมกอดของเขาแต่ถังจื่อหยวนกลับโอบเอวนางเอาไว้ มืออีกข้างจับปลายคางนางไม่ให้ดิ้นหนี ก่อนจะแนบริมฝีปากตนเองลงไปหา ไป๋เหยียนเม้มปากแน่น แต่เขามีวิธีให้นางยอมเปิดปาก"ต่อต้านหรือ เจ้าแน่ใจนะหากพี่ไป๋เซิงรู้ว่าครึ่งเดือนก่อนเจ้าเอาไป๋ฮวาไปเที่ยวแล้วยังพานางไปเล่นพนันกัดจิ้งหรีดอีกด้วย เจ้าว่าพี่ชายเจ้าจะว่าอย่างไรกัน แม่ตัวแสบ"ไป๋เหยียนตาโตเขารู้ได้อย่างไรกัน วันนั้นนางพาหลานสาวไปเที่ยวหมู่บ้านข้างเคียงเพราะตามท่านพ่อไปซื้อยาให้ท่านแม่ แค่แวะวงพนันแป๊บเดียวยังไม่ได้ลงเล่นเลย ก่อนจะเอ่ยเสียงอ่อย"ท่านต้องการอะไรถ้าไม่พูดเรื่องนี้""เปิดปากเจ้าออก อย่าต่อต้านทำได้ไหม"ไป๋เหยียนกลืนน้ำลายก่อนจะพยักหน้าแล้วทำตาม ถังจื่อหยวนจูบนางอย่างนุ่มนวล ลิ้นร้อนชื้นเกี่ยวลิ้นเล็กควานหาความหวาน มือบางยกขึ้นโอบรอบท้ายทอยหน้า กลิ่นบุรุษเพศที่นางเพิ่งได้ใกล้ชิดเป็นครั้งแรกทำเอาท้องไส้ปั่นป่วน กระทั่งเขาถอนริมฝีปากออกมาสบตานางแล้วเอ่ย

  • ข้ามภพมาเป็นมารดาเลี้ยงแสนร้ายกาจ   ข้าจะสอนความเป็นสตรีให้กับเจ้า

    จ้าวเฟยเฟยไปเก็บผลซานจามาทำถังหูหลู่แจกเด็กๆและชาวบ้าน หากอยากค้าขายต้องมีสินค้าทดลองก่อน ในยุคที่ไม่มีสื่อโซเชี่ยลปากต่อปากคือการประชาสัมพันธ์ที่ดีที่สุด เด็กๆต่างรู้ดีว่าเดินตามท่านป้าจ้าวย่อมมีของอร่อยให้กิน ไป๋ฮวารีบปล่อยมืออาหญิงทันทีที่เห็นหลินเฉินอี้ นางวิ่งมาหากางแขนให้อุ้ม"พี่เฉินอี้ อุ้มฮวาฮวาด้วยเจ้าค่ะ"เด็กหนุ่มก้มลงอุ้มแม่หนูน้อยขึ้นมาก่อนจะยิ้มให้ ไป๋ฮวากอดคอเขาใบหน้าเล็กๆซุกซอกคอพี่ชายอย่างออดอ้อน หลินเฉินอี้อมยิ้มกับท่าทางของแม่ตัวเล็กที่เชื่องเหมือนลูกแมวตัวน้อย (ที่ในอนาคตนางจะเปลี่ยนจากลูกแมวน้อยเป็นแม่เสือหากนางบอกไปทางซ้ายเขาก็ไม่กล้าก้าวเท้าขวา) ส่วนเฉินผิงผิงมารดาอุ้มนางเองท่านอาไปเรียนหนังสือกับพี่ชายแล้ว ไม่นานก็ถึงบริเวณที่มีต้นซานจาขึ้นอยู่หลายต้น ทุกคนช่วยกันเก็บแต่จ้าวเฟยเฟยเอ่ยออกมาก่อน"วันนี้ที่มาเก็บข้าจะทำขนมให้พวกเจ้ากิน แต่ไม่ได้รับซื้อเหมือนลูกท้อเช่นคราวก่อนนะเข้าใจไหม""ขอรับท่านป้าจ้าว""เจ้าค่ะท่านป้าจ้าว"จ้าวเฟยเฟยกลอกตามองบนก่อนจะเอ่ยเสียงเข้ม"ใครเรียกป้าอีกวันนี้อดกินถังหูหลู่""ขอรับพี่สาว""เจ้าค่ะพี่สาว""น่าร้ากกก เอาล่

  • ข้ามภพมาเป็นมารดาเลี้ยงแสนร้ายกาจ   ข้าต้องการให้ชาวบ้านมีรายได้

    ปลายยามโหย่วแล้วเฉินมู่หยางอาบน้ำให้บุตรชายเรียบร้อยแล้ว ส่วนเฉินผิงผิงท่านแม่อาบให้ตั้งแต่ยามเซินจากนั้นก็ล้อมวงกันกินมื้อค่ำ เฉินโม่หวานกำลังคีบเห็ดโคนยำขึ้นมาก่อนมองมันแล้วก้มมองเป้ากางเกงของตัวเอง แล้วเขาก็วางลงไม่แตะมันเลย แต่เฉินผิงผิงกับเฉินเหว่ยต่างก็ไม่วางตะเกียบ กระทั่งใกล้หมดเจ้าตัวแสบอยากลองแต่กินได้สามคำก็ไม่มีแล้ว"ท่านแม่ เห็ดนี่เรียกเห็ดอะไรหรือขอรับ""เรียกว่าเห็ดโคนน่ะ อร่อยหรือไม่ เอาไว้ถ้าฝนตกแม่จะไปเก็บมาอีก""ลูกไปช่วยนะขอรับ มันอร่อยมากเหนียวๆหนึบๆเหมือนกินเนื้อไก่เลยขอรับ""ได้..ลูกรู้ไหมเห็ดมีประโยชน์มากนัก แม้ว่าไม่ใช่เนื้อสัตว์แต่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากว่าเนื้อสัตว์เสียอีก ในเมื่ออร่อยทำไมทีแรกลูกไม่ยอมกินเล่า"เด็กน้อยหน้าแดง แต่เฉินมู่หยางกลับคีบดอกใหญ่ที่สุดในจานขึ้นมาก่อนจะบอกนางว่า"พี่ไม่โกหกนะใหญ่กว่านี้หลายสิบเท่า พิสูจน์ได้นะเมียข้า""ท่านพี่เดี๋ยวเถอะ กินๆไปเลยนะไม่เช่นนั้นพรุ่งนี้จะต้มผักป่าใส่เกลือให้ท่านกินแทนคนบ้า"เด็กๆ ไม่รู้ว่าท่านแม่เป็นอะไรได้แต่มองหน้ากัน ส่วนคนตัวโตหลังจากแหย่เมียสำเร็จก็เคี้ยวข้าวตุ้ยๆ เมื่อมื้อค่ำเรียบร้อยเฉินม

  • ข้ามภพมาเป็นมารดาเลี้ยงแสนร้ายกาจ   ที่แท้นางชื่อจ้าวเหลียนเฟย

    เฉินมู่หยางอุ้มบุตรสาวเอาไว้ ชาวบ้านไปตามหลี่เจิ้งมาแล้ว พวกเขาอยากจัดการสามคนนี้แต่ก็ไม่อาจยื่นมือเพราะเป็นดองของเฉินมู่หยาง กระทั่งเฉินกั่วต้งมาถึงเห็นสภาพหัวแตกหน้าบวมของจ้าวคังกับจูไห่หรงก็ถอนหายใจก่อนจะเอ่ย"นี่จ้าวคัง นางจู ตอนนั้นพวกเจ้ายกเสี่ยวเฟยให้กับมู่หยางพวกเจ้าลั่นวาจาว่าจากนี้ไปไม่เกี่ยวข้องกันอีก ห้ามนางกลับไปขอความช่วยเหลือใดๆ ห้ามนางเหยียบบ้านเดิม แล้วยามนี้พวกเจ้าทำไมพวกเจ้าเป็นฝ่ายผิดสัญญาเสียเล่า"ท่านผู้นำ ข้าเป็นพ่อมันนะ มันกล้าฟ้องร้องข้าเอาสมบัติมาหมด มันกะจะให้พวกเราอดตายมันยังเป็นคนหรือไม่""ใช่เจ้าค่ะ ตอนนี้พวกเราแทบไม่มีข้าวสารกรอกหม้อแล้ว เงินที่เคยมีก็ถูกนางคนอกตัญญูนี่เอาไปหมด"สองผัวเมียชิงฟ้องเพื่อให้ชาวบ้านที่นี่รังเกียจและต้องการให้เฉินมู่หยางเห็นความเลวของนางจะได้ขอหย่า แต่กลับเป็นเสียงของเฉินมู่หยางที่ดังมาแทน"เดิมทีข้าอยากเรียกเจ้าว่าท่านพ่อตาสักหน่อย แต่ดูเหมือนเจ้าจะปฏิบัติกับเมียข้าเหมือนกับนางมิใช่สายเลือด เช่นนั้นข้าก็จะไม่เกรงใจอีกแล้ว ต่อไปหากมาหาเรื่องเมียข้าอีกข้าจะทำให้เจ้าหายสาบสูญไปจากหมู่บ้านเถาฮวาเสีย จ้าวคัง จ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status