Home / รักโบราณ / ข้ามภพมาเป็นมารดาเลี้ยงแสนร้ายกาจ / เจ้าอยากเป็นลูกรักถึงเพียงนี้

Share

เจ้าอยากเป็นลูกรักถึงเพียงนี้

last update Huling Na-update: 2025-06-27 17:03:46

เฉินมู่หยางเข็นรถเข็นตามจ้าวเฟยเฟยกลับบ้าน  นางยังถือว่าพอรู้ความไม่ด่าเขาเสียหายต่อหน้าคนอื่น  อีกอย่างนางพูดถูกเขาพยายามเลี้ยงเด็กสองคนให้เติบใหญ่  ตั้งแต่ท่านแม่และท่านพ่อจากไปเพราะป่วยและไม่มีเงินรักษาเด็กทั้งสองก็ขาดคนเหลียวแล

 เพื่อให้ท่านปู่และท่านย่าเมตตาต่อเด็กทั้งสองเขาจำต้องให้เงินแก่บ้านใหญ่  มิใช่ว่าเขาโง่เขลาอย่างที่นางเข้าใจ  เขาเองก็มีเงินที่เก็ยเอาไว้เพียงแต่เด้กทั้งสองยังเล้กนักไม่อาจดูแลเงินเหล่านี้ได้จึงได้แต่ฝากไว้ที่ร้านฝากเงินในอำเภอ

จ้าวเฟยเฟยเดินออกหน้านางเห็นมีผักตีนเป็ดขึ้นตามข้างทางก็ยิ้มด้วยความยินดี  นางรีบไปเก็บเอามาเฉินมู่หยางไม่เข้าใจนางจะเก็บหญ้าเหล่านี้ไปทำอะไร  ไม่นานทั้งคู่ก็มาถึงบ้าน  เฉินโม่หวายรีบวิ่งมาก่อนจะร้องไห้

"ฮือๆท่านพ่อน้องเล็กนางฮือๆนาง"

"โม่หวายเกิดอะไรขึ้น"

"ท่านพ่อน้องปวดท้องร้องจนสลบไปแล้วขอรับ"

จ้าวเฟยเฟยรีบวิ่งไปดูก่อนจะเขย่าร่างเล็ก  นางรับรู้แล้วว่าเด็กคนนี้ห้าขวบแต่ตัวเล็กราวกับเด็กสามขวบก็ไม่ปาน  ดูแล้วนางคงจะหิวจนเป็นลม  จ้าวเฟยเฟยจำได้ลางๆว่าร่างเดิมแอบซ่อนหมั่นโถวเอาไว้หนึ่งก้อนก่อนจะหันไปบอกเฉินมู่หยาง

"ตาเฒ่าท่านไปต้มน้ำร้อนที  นางคงหิวมากเกินไปจนเป็นลมเร็วๆเข้า  ท่านมีน้ำตาลทรายกับเกลือหรือไม่"

"ไม่มี  บ้านท่านปู่หลี้เจิงน่าจะมีขาย"

"งั้นท่านไปซื้อข้าก่อไฟเอง    ท่านบอกเขาว่าท่านไปขายสัตว์ป่าและจะมาจ่ายทีหลัง   เงินที่ขายจะไม่ให้บ้านใหญ่แล้ว"

เฉินมู่หยางมีเงินเก็บ  ที่นางพูดเช่นนี้คงกลัวว่าท่านปู่หลี่เจิ้งจะไม่นอมขายเพราะว่าเขาไม่มีเงิน    ร่างสูงรีบสาวเท้าไปที่บ้านเฉินกั่วต้งเพื่อซื้อน้ำตาลและเกลือ  ทางด้านจ้าวเฟยเฟยติดเตาต้มน้ำร้อนแต่เนื่อจากฝนตกจนทำให้พืนชื้นจึงจุดติดยาก  เมื่อติดแล้วควันก็คลุ้งเต็มครัว  นางเอาหม้อมาจากรถเข็นจากนั้นก็เดินไปลำธารเพื่อตักน้ำ  ก่อนจะเอามาต้มจนเดือด

เฉินมู่หยางกลับมาแล้วได้ของที่นางต้องการมาด้วย  เมื่อน้ำเดือดนางใส่น้ำตาลลงไปคนจนละลายก่อนจะยกลงมาเติมเกลือนิดหน่อย  จ้าวเฟยเฟยเห็นว่าเด็กสองคนขาดน้ำและหิวจึงทำเกลือแร่แบบง่ายๆให้ดื่ม

"ท่านเอาให้บุตรชายท่านเถอะ  ผิงผิงข้าป้อนเอง"

จ้าวเฟยเฟยเอาแป้งหมั่นโถวที่แข็งเป็นหินมาอังปากหม้อต้มน้ำ  ไม่นานไอน้ำก็ทำให้มันนิ่มลง  ผิงผิงที่ได้น้ำเกลือแร่เข้าไปก็ค่อยๆลืมตาเอ่ยเรียกนางด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง

"ท่านแม่  ท่านกลับมาแล้ว"

"เด็กดี  กินหมั่นโถวก่อนนะ  เดี๋ยวแม่จะไปจับปลาในแม่น้ำให้กินดีไหม"

"ไม่เป็นไรเจ้าคะ  น้ำเย็นเกินไปท่านจะป่วยแล้วจากไปเหมือนกับท่านแม่ของพวกเราอีก"

จ้าวเฟยเฟยน้ำตาซึมเด็กคนนี้ช่างจิตใจอ่อนโยนเหลือเกิน  จากนั้นนางก็แบ่งบิหมั่นโถวเป็นสองก้อน   ส่งให้เฉินมู่หยางครึ่งหนึ่งส่วนอีกครึ่งนางค่อยๆบิป้อนเฉินผิงผิงคำเล็กๆกระทั่งนางกินไปได้สิบกว่าคำจ้าวเฟยเฟยจึงหยุดก่อนจะเอ่ย

"ท้องของลูกไม่มีอะไร  น้ำย่อยอกมาย่อยกระเพาะจึงทำให้ปวดท้อง  หากกินอิ่มทีเดียวจะปวดท้องอีก  แม่จะไปดูว่าที่ลำธารมีอะไรบ้าง   ส่วนท่านตาเฒ่าไก่กับกระต่ายเก็บเอาไว้  หมูป่าเอาไปขายในเมือง  ชาวบ้านที่นี่เอาเปรียบเกินไปอยากซื้อของถูกพวกเขาเห็นท่านใจดีชอบกดราคา"

"แต่ว่า"

"ไม่มีแต่เฉินมู่หยาง  ลูกๆเจ้าห้าขวบแล้วแต่ดูสิตัวแคระแกรนราวกับเด็กสามขวบ  ข้าจะจดของที่ต้องซื้อด้วยเอาเท่าที่พอมีก่อน  นี่ปิ่นกับกำไลเอาไปขายซื้อเสบียงมา   ในเมื่อแยกบ้านกันแล้วเงินที่ขายได้ควรเลี้ยงครอบครัวตนเอง  ข้าหมายถึงลูกๆของเจ้า  ตาเฒ่ายายเฒ่านั่นเป็นหน้าที่ลุงใหญ่ท่านซึ่งเป็นลูกคนโต  ไม่ใช่หน้าที่หลานชายเช่นเจ้า  ลูกชายเจ้าต่างหากคือคนที่ต้องเลี้ยงดูเจ้าในอนาคต"

เฉินมูหยางไม่รับปิ่นเงินกับกำไลของนาง  นั่นเป็นสิ่งที่นางมี  เขาเป็นหัวหน้าครอบครัวจะเอาของภรรยามาเลี้ยงดูตนเองได้อย่างไร  เมื่อเฉินผิงผิงดีขึ้นจ้าวเฟยเฟยก็หันมาหาเฉินโม่หวายก่อนจะเอ่ยเสียงเข้ม

"เฉินโม่หวาย...เจ้าอยากเป็นลูกรักของบิดาเจ้าคนเดียวถึงขนาดวางแผนฆ่าน้องสาวเชียวหรือ"

"ฮือๆๆๆๆ  ข้าเปล่านะเจ้าๆๆ  สตรีแพศยาเจ้า..เจ้าใส่ร้ายข้าฮือออๆๆๆ"

แม้คำพูดของนางจะรุนแรงแต่ไอ้เด็กนี่ต้องใช้วิธีนี้แหละถึงจะได้ผล  เฉินโม่หวายร้อยไห้เสียงดังจนเฉินโม่หยางที่กำลังขนของลงมาเพื่อจะเอารถเข็นใส่สัตว์ไปขายถึงกับวิ่งมาดู  เห็นบุตรชายนั่งร้องไห้ปาดน้ำตาจึงเอ่ยต่อว่าจ้าวเฟยเฟย

"จ้าวเฟยเฟยเจ้าทำอะไรบุตรชายข้า  โม่หวายมาหาพ่อ"

จ้าวเฟยเฟยลุกขึ้นเท้าเอวมองหน้าพ่อลูกสลับกันก่อนจะเอ่ยออกมา

"บุตรชายเจ้าอยากได้ความรักจากเจ้าจนถึงขั้นคิดฆ่าน้องสาวตนเอง"

"ท่านพ่อข้าเปล่า  ข้าไม่ได้ทำขอรับ"

"จ้าวเฟยเฟย   โม่หวายเพิ่งจะห้าขวบเด็กอายุเพียงนี้จะไปมีจิตใจเช่นนั้นได้อย่างไรกัน"

"เฉินผิงผิงลุกขึ้นและจับมือท่านแม่ก่อนจะเอ่ย

"ท่านแม่  พี่ชายเป็นคนดีเขาไม่ฆ่าผิงผิงหรอกเจ้าค่ะ"

จ้าวเฟยเฟยมองหน้าเด็กน้อยที่เอาแต่ร้องไห้ก็ถอนหายใจก่อนจะเอ่ย

"ตาเฒ่า...เมื่อวานข้ากำลังจะเชือดไก่  ไหนๆก็แยกบ้านมาแล้วข้าคิดว่าคงไม่มีใครมาแย่งเรากินอีก  แต่ใครจะรู้ว่าบุตรชายเจ้ากลับวิ่งแจ้นไปฟ้องป้าสะใภ้ใหญ่เจ้าว่าที่บ้านมีเนื้อ  เขากลัวว่าข้าจะกินเองจนหมดหวังจะให้ยายแก่นั่นมาทุบตีข้า  สุดท้ายเนื้อก็ไม่ได้กินแถมยังถูกพวกเขาทุบตี  ข้าถูกยายแก่สองคนนั่นรุมทุบจนสลบก็เพราะบุตรชายเจ้า  ลูกสาวเจ้าตั้งแต่เมื่อวานยังไม่ได้กินอะไรเลยถึงได้ปวดท้องจนสลบไป"

เฉินโม่หวายร้องไห้หนักกว่าเดิมก่อนจะเอ่ยกับบิดา

"ฮือๆๆๆ    ท่านพ่อข้าไม่ได้อยากทำร้ายน้องสาว  ข้าแค่กลัวว่านางจะเอาไว้กินคนเดียว  หากท่านย่าใหญ่รู้และมาแย่งนางไปอย่างน้อยก็อาจจะแบ่งเนื้อให้ข้ากับน้องบ้างขอรับ"

เฉินมู่หยางมองหน้าบุตรชายก่อนจะถอนหายใจ  จ้าวเฟยเฟยหวงของกินเพียงใด  นางเอาแต่ใจและร้ายกาจเพียงใดทำไมเขาจะไม่รู้  บุตรชายเขาจะระแวงก็ไม่แปลกหรอกก่อนจะเอ่ย

"ที่ผ่านมาเจ้าทำเกินไปหลายครั้ง  โม่หวายจะระแวงเจ้าก็ไม่ผิด"

เจ้าเฟยเฟยพ่นลมออกปากก่อนจะพยักหน้าสามที  นางชี้นิ้วไปยังเด็กน้อยก่อนจะเอ่ย

"ได้ๆๆ  เฉินมู่หยางจากนี้ไปบุตรชายของเจ้าข้าไม่ยุ่งอีก  อย่างสั่งสอนกันเช่นไรก็เชิญ  เจ้าไม่อยู่ข้าบอกก่อนนะนอกจากให้ข้าวให้น้ำให้มีชีวิตอยู่รอเจ้ากลับมาเท่านั้น  เรื่องอื่นข้าจะไม่ยุ่ง  ในเมื่อเขาไม่เคารพข้าๆก็ไม่จำเป็นต้องเมตตา   หากไม่พอใจเจ้าก็เขียนใบหย่ามา"

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ข้ามภพมาเป็นมารดาเลี้ยงแสนร้ายกาจ   ข้าไม่อยากให้ท่านไป

    ตั้งแต่บ้านใหม่เสร็จเรียบร้อยนี่เป็นครั้งแรกที่เลี้ยงอาหาร เฉินกั่วต้งกับท่านย่าใหญ่ภรรยาของเขาก็ได้รับเชิญมาด้วยในวันนี้ สตรีนั่งอีกโต๊ะกับเด็กๆ บุรุษนั่งแยกเสียงพูดคุยกันถึงเรื่องการเดินทางในวันพรุ่งนี้ เฉินกั่วต้งเอ่ยออกมา"มู่หยางเอ๊ย....พรุ่งนี้ยามซื่อใต้เท้าฮั่วจะมารับคนที่หมู่บ้านเราเป็นหมู่บ้านสุดท้ายพวกเจ้าเตรียมตัวดีหรือยัง""ท่านปู่ใหญ่อย่ากังวลเลยขอรับ เสี่ยวเฟยนางเตรียมเสบียงให้พวกเรากว่าสามเกวียน อาหารมีพอจนไปถึงชายแดนแน่ขอรับ""อืม...นางช่างเป็นภรรยาที่ดีเจ้าแต่งนางมาไม่ผิดเลย แล้วพวกเจ้าเล่าบิดามารดานั้นพูดใครสั่งความกันเรียบร้อยหรือยัง จื่อหยวนเจ้ามีไป๋เหยียน คอยดูแลมารดาของเจ้า ส่วนเจ้าฟางฉายอย่ากังวลเลย พวกเจ้าคือวีรบุรุษของหมู่บ้านเรา มารดาเจ้าก็เหมือนกับมารดาคนในหมู่บ้าน พวกเราจะดูแลนางเอง"ฟางฉายคีบขาหมูใส่ในถ้วยของผู้นำหมู่บ้านก่อนจะเอ่ยขอบคุณ"ขอบพระคุณท่านผู้นำขอรับ หมู่บ้านเราโชคดีที่ได้ท่านปกครอง"ไป๋เซิงที่มีน้องสาวคอยดูแลบิดากับมารดาและบุตรสาวก็ไม่กังวลเท่าไหร่ มีเพียงหลิวเยี่ยนฉางที่พี่สาวอยู่ไกล แต่ว่าอาซ้อรับปากแล้วว่าจะดูแลให้เขา

  • ข้ามภพมาเป็นมารดาเลี้ยงแสนร้ายกาจ   นิสัยเอาแต่ใจช่างเหมือนกัน

    ทั้งสองเดินลงจากเขามาถึงบ้านก็ปลายยามเซินพอดี เฉินมู่หยางอุ้มจ้าวเฟยเฟยเดินข้ามก้อนหินมาตามลำธาร จางซือเหยียนที่อาสาเลี้ยงเด็กๆถึงกับส่ายหน้า หลงพระชายาเพียงนี้หากไม่ติด/ไปชายแดนคงหัวปีท้ายปีกระมัง ก่อนจะเอ่ยกระเซ้าทั้งคู่"มิใช่ไปเก็บเห็ด ไปเก็บบ่อยๆไม่เคยจะเห็นเพลียสักนิด พอมีคนไปด้วยทำเป็นหมดแรง"จ้าวเฟยเฟยนับหนึ่งถึงสิบในใจ ตาเฒ่านี่ต้องโดนสักทีสิน่า ถ้าไม่ติดว่าพรุ่งนี้เดินทางนะ แม่จะใส่ยาถ่ายให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ใบหน้าหวานที่ซุกอยู่กับอกสามีก็เงยหน้าสบตาหวานฉ่ำเอ่ยออดอ้อนกับเขา"ท่านพี่..เสียงแมลงหวี่แมลงวันน่ารำคาญนัก ท่านช่วยไปหายาไล่แมลงให้ข้าทีนะเจ้าคะ"เฉินมู่หยางสบตาเมียก่อนจะพยักหน้า เขาไม่อาจตอบได้คนหนึ่งก็อาจารย์ที่เคารพ อีกคนก็เมียสุดที่รัก จางซือเหยียนหนวดกระดิกเมื่อได้ยินวาจาของนาง หึ ท่านอ๋องและองค์ชายทั้งหลายยังต้องเกรงใจเขา แต่นี่ท่านอ๋องน้อยที่ยังไม่รู้แม้แต่สถานะตนเองกลับเอาแต่เข้าข้างพระชายาของตน ก่อนจะมองหน้าคนในอ้อมกอดเฉินมู่หยาง เขามองเห็นใบหน้าของนางทับซ้อนกับอีกคนที่อยู่ในวัง"สมกับที่เป็นสายเลือดตาแก่มู่ ตาหลานมิต่างกันจริงพวกปากค

  • ข้ามภพมาเป็นมารดาเลี้ยงแสนร้ายกาจ   ข้าคิดดีแล้ว

    เฉินมู่หยางสอบเอวหนาช้าๆ คนใต้ร่างกอดแผ่นหลังเขาแนบแน่น ไม่ว่าเขาจะจูงไปที่ใดนางก็พร้อมเดินตาม ร่างสูงสอบเอวหนาไม่หยุด เรียกเสียงครางจากเมียสาวดังลั่นห้อง เตียงนี้เด้งจริงๆอย่างที่เมียบอก "อ๊า..ท่านพี่ เร่งอีก ไม่ไหวแล้ว""เสี่ยวเฟยจ๋า เจ้าอย่ารัดพี่แน่นพี่จะไม่ไหว""ท่านพี่ เร่งเถอะ เฉินมู่หยางได้โปรด อ๊ายยย"เฉินมู่หยางเร่งความเร็วสาวเอวถี่ ร่างงามกระตุกเกร็ง กายสาวแอ่นโค้งขึ้น มือบางขยำผ้าปูเตียงเอาไว้ เหงื่อเม็ดเล็กๆซึมใบหน้าของนาง ผมเปียกชื้นแนบไปกับใบหน้าและลำคอ มันเย้ายวนในสายตาเฉินมู่หยางยิ่งนัก เขาส่งนางไปสวรรค์ถึงสามครั้งแล้ว ครั้งนี้เขาจะไปพร้อมกับนาง"อ่าห์ เสี่ยวเฟยพร้อมกันอีกครั้งนะคนดี""อื้อ ท่านพี่เร่งเลย ข้าไม่ไหว อ๊า จะถึงแล้ว ท่านพี่ได้โปรดแรงอีก อื้อ""เสี่ยวเฟยจ๋า อ่าห์มาแล้วพร้อมกันนะ""อ๊าคคค /อ๊ายยย"ทั้งคู่ปลดปล่อยพร้อมกัน สองร่างหอบหายใจอย่างแรง เฉินมู่หยางซบลงกับซอกคอหอมกรุ่น ในขณะที่นางเอกก็กอดตอบเขาแนบแน่น จนทั้งคู่ผ่อนคลายร่างสูงจึงยอมถอยออกมาให้นางได้พัก สายตาเขามองไปยังกลางกายสาวที่มีจุดสีแดงก็ยิ้มภูมิใจก่อนจะเอ่ยกับค

  • ข้ามภพมาเป็นมารดาเลี้ยงแสนร้ายกาจ   ยอมให้เขาเข้าหอ

    เฉินมู่หยางคลายอ้อมกอดก่อนจะเชยคางนางขึ้น จ้าวเฟยเฟยยิ้มตอบและใช้สองมือคล้องท้ายทอยหนาไว้ สัมผัสอุ่นร้อนจากริมฝีปากหนาแนบลงมายังเรียวปากอวบอิ่มของนางอย่างแผ่วเบา ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นจูบที่ร้อนแรงและดูดดื่ม"ท่านพี่.. ตอนปลดอาภรณ์ของข้าวันนี้ท่านห้ามใช้มือช่วยนะ""ลองภูมิพี่หรือคนดี""ท่านทำได้หรือไม่เล่า หากทำได้กลับไปคืนนี้จะให้ต่อ คิกๆๆ"เสียงหัวเราะยั่วยวนมาจากนาง สายตาซุกซนมองหน้าเขา เฉินมู่หยางจูบนางอีกครั้ง จากนั้นก็ละจากริมฝีปากพรมจูบไต่ลงมา เขาดูดเลียใบหูเล็กจนจ้าวเฟยเฟยสยิวครางกระเส่ามือบางของนางเลื่อนจากท้ายทอยหนาของเขามาด้านหน้า กรีดไล้นิ้วเรียวไปตามลำคอแกร่ง ก่อนจะหยุดที่ปมสายรัดเอวแล้วค่อยๆ คลายออก สองมือผลักเสื้อตัวนอกของเขาออกไปอย่างเชื่องช้าเฉินมู่หยางละจากริมฝีปากนุ่ม พรมจูบไล่ลงมาตามลำคอระหง กดย้ำเบาๆ ให้เป็นรอยประทับ เสียงครางแผ่วหวานของนางดังแว่วในลำคอ เมื่อเขาใช้ปากงับสายเสื้อนอนให้หลุดจากไหล่ทีละข้าง จนลงมากองอยู่ที่เอวบางนางเอ่ยนยั่วยวนสามีน้ำเสียงกระเส่ารัญจวน“ท่านพี่...หนาวยิ่งนัก ขนลุกไปหมดแล้วเจ้าค่ะ” จ้าวเฟยเฟยเอ่ยเสียงกระซิบ ขณะที่นิ้วเรียวของนางกรีดไ

  • ข้ามภพมาเป็นมารดาเลี้ยงแสนร้ายกาจ   ต่างเปิดเผยความลับของกันและกัน

    ยามซวีจางซือเหยียนก็มาหาลูกศิษย์ของตนก่อนจะเรียกเฉินมู่หยางออกไปคุย ร่างสูงเดินมาหาชายชราที่ยืนรออยู่ เขามอบจดหมายสองฉบับให้กับเขาจากนั้นก็เอ่ยกำชับ"ต้องส่งมอบด้วยตนเอง และที่สำคัญห้ามให้ใครรู้หาโอกาสที่ปลอดคนเพื่อส่งมอบ แม้แต่สหายของเจ้าทุกคนด้วย""ขอรับท่านอาจารย์ ว่าแต่อาจารย์จะแยกทางกับข้าเลยหรือขอรับ""อืม..ใช่แล้วข้ามีงานต้องไปทำ เสียเวลามามากแล้ว""มิใช่ท่านบอกว่ามาตามหาคนหรอกหรือ เช่นนั้นท่านตามหาคนเจอแล้วหรือขอรับ""ได้ข่าวแล้วจึงต้องรีบไปพบ เจ้าไปพักผ่อนเถอะ มีอะไรก้พูดคุยกันเสียให้เรียบร้อย วันมะรืนต้องเดินทางแล้ว""ขอรับ อาจารย์ท่านก็รีบพักผ่อนเถอะขอรับค่ำมากแล้ว"เฉินมู่หยางหันหลังกลับ แต่หูเขาได้ยินอาจารย์เอ่ยตามมาเบาๆ"ท่านอ๋องน้อย ทรงระวังตัวด้วยนะพ่ะย่ะค่ะ"ร่างสูงหันกลับมาก็เห็นชายชราดีดตัวไปทางหมู่บ้านเรียบร้อยแล้ว เมื่อสักครู่อาจารย์เรียกผู้ใดกัน ท่านอ๋องน้อยเช่นนั้นหรือหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้นอกจากองค์ชายแปดคนนั้นยังมีใครอีก จางนั้นเขาก็สะบัดศีรษะและเลิกสนใจ ไม่ว่าจะเป็นท่านอ๋องหรือองค์ชายก็ไม่เกี่ยวกับเขา ขอเพียงลูกเมียมีความสุขกินอิ่มนอนหลับ

  • ข้ามภพมาเป็นมารดาเลี้ยงแสนร้ายกาจ   ขายน้ำตาลทรายขาว

    บ้านเฉินมู่หยางจ้าวเฟยเฟยกำลังจัดเสื้อผ้าใส่ห่อให้สามีอยู่ เฉินมู่หยางที่วางข้าวของเรียบร้อยก็ตรงมาหานางสวมกอดจากด้านหลัง มือบางกุมหลังมือของเขาก่อนะเอี้ยวตัวกลับมา ชายหนุ่มกำลังจะจุมพิตเมียตัวเองเสียงเล็กๆก็ดังมา"ท่านพ่อ...ท่านแก่ป่านนี้แล้วเหตุใดยังอ้อนท่านแม่อีกขอรับ ข้าห้าขวบยังไม่ทำตัวเช่นท่านเลย"เฉินมู่หยางหันขวับไปทันที ไอ้ตัวแสบนี่ ตั้งแต่เข้ากันได้ดีกับมารดาก็กีดกันเขายึดเอาท่านแม่ไว้คนเดียว มันน่านักเจ้าลูกชายข้าจะส่งเจ้าไปสำนักศึกษาประจำเสียเลย ก่อนจะเอ่ยยียวน"พ่อจะไปทัพแล้ว ต้องคิดถึงท่านแม่เจ้าเป็นธรรมดา กอดนางนิดหน่อยจะเป็นไรไป"ร่างเล็กเดินตรงมา มือข้างหนึ่งยกขึ้นมาไว้ด้านหน้าระดับเอว อีกข้างไพล่หลังกำเอาไว้ หลังตั้งตรง วางท่าราวกับบัณฑิตผู้เคร่งขรึม ก่อนจะเอ่ยกับเขา"คุณชายเฉิน ท่านจะโอบกอดสตรีในที่สาธารณะนั้นไม่ได้ ต่อให้สตรีนั้นแม้เป็นภรรยาตนก็ย่อมต้องให้เกียรติ ท่านเองเคยเป็นบัณฑิตเรื่องแค่นี้มิเข้าใจหรอกหรือ"เฉินมู่หยาง"............"คิกๆๆๆ จ้าวเฟยเฟยหัวเราะเขา ในที่สุดก็ถูกบุตรชายสั่งสอน เฉินมู่หยางมองบุตรชายตาเขียวก่อนจะเอ่ยกับเมียร

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status