เฉินมู่หยางเข็นรถเข็นตามจ้าวเฟยเฟยกลับบ้าน นางยังถือว่าพอรู้ความไม่ด่าเขาเสียหายต่อหน้าคนอื่น อีกอย่างนางพูดถูกเขาพยายามเลี้ยงเด็กสองคนให้เติบใหญ่ ตั้งแต่ท่านแม่และท่านพ่อจากไปเพราะป่วยและไม่มีเงินรักษาเด็กทั้งสองก็ขาดคนเหลียวแล
เพื่อให้ท่านปู่และท่านย่าเมตตาต่อเด็กทั้งสองเขาจำต้องให้เงินแก่บ้านใหญ่ มิใช่ว่าเขาโง่เขลาอย่างที่นางเข้าใจ เขาเองก็มีเงินที่เก็ยเอาไว้เพียงแต่เด้กทั้งสองยังเล้กนักไม่อาจดูแลเงินเหล่านี้ได้จึงได้แต่ฝากไว้ที่ร้านฝากเงินในอำเภอ
จ้าวเฟยเฟยเดินออกหน้านางเห็นมีผักตีนเป็ดขึ้นตามข้างทางก็ยิ้มด้วยความยินดี นางรีบไปเก็บเอามาเฉินมู่หยางไม่เข้าใจนางจะเก็บหญ้าเหล่านี้ไปทำอะไร ไม่นานทั้งคู่ก็มาถึงบ้าน เฉินโม่หวายรีบวิ่งมาก่อนจะร้องไห้
"ฮือๆท่านพ่อน้องเล็กนางฮือๆนาง"
"โม่หวายเกิดอะไรขึ้น"
"ท่านพ่อน้องปวดท้องร้องจนสลบไปแล้วขอรับ"
จ้าวเฟยเฟยรีบวิ่งไปดูก่อนจะเขย่าร่างเล็ก นางรับรู้แล้วว่าเด็กคนนี้ห้าขวบแต่ตัวเล็กราวกับเด็กสามขวบก็ไม่ปาน ดูแล้วนางคงจะหิวจนเป็นลม จ้าวเฟยเฟยจำได้ลางๆว่าร่างเดิมแอบซ่อนหมั่นโถวเอาไว้หนึ่งก้อนก่อนจะหันไปบอกเฉินมู่หยาง
"ตาเฒ่าท่านไปต้มน้ำร้อนที นางคงหิวมากเกินไปจนเป็นลมเร็วๆเข้า ท่านมีน้ำตาลทรายกับเกลือหรือไม่"
"ไม่มี บ้านท่านปู่หลี้เจิงน่าจะมีขาย"
"งั้นท่านไปซื้อข้าก่อไฟเอง ท่านบอกเขาว่าท่านไปขายสัตว์ป่าและจะมาจ่ายทีหลัง เงินที่ขายจะไม่ให้บ้านใหญ่แล้ว"
เฉินมู่หยางมีเงินเก็บ ที่นางพูดเช่นนี้คงกลัวว่าท่านปู่หลี่เจิ้งจะไม่นอมขายเพราะว่าเขาไม่มีเงิน ร่างสูงรีบสาวเท้าไปที่บ้านเฉินกั่วต้งเพื่อซื้อน้ำตาลและเกลือ ทางด้านจ้าวเฟยเฟยติดเตาต้มน้ำร้อนแต่เนื่อจากฝนตกจนทำให้พืนชื้นจึงจุดติดยาก เมื่อติดแล้วควันก็คลุ้งเต็มครัว นางเอาหม้อมาจากรถเข็นจากนั้นก็เดินไปลำธารเพื่อตักน้ำ ก่อนจะเอามาต้มจนเดือด
เฉินมู่หยางกลับมาแล้วได้ของที่นางต้องการมาด้วย เมื่อน้ำเดือดนางใส่น้ำตาลลงไปคนจนละลายก่อนจะยกลงมาเติมเกลือนิดหน่อย จ้าวเฟยเฟยเห็นว่าเด็กสองคนขาดน้ำและหิวจึงทำเกลือแร่แบบง่ายๆให้ดื่ม
"ท่านเอาให้บุตรชายท่านเถอะ ผิงผิงข้าป้อนเอง"
จ้าวเฟยเฟยเอาแป้งหมั่นโถวที่แข็งเป็นหินมาอังปากหม้อต้มน้ำ ไม่นานไอน้ำก็ทำให้มันนิ่มลง ผิงผิงที่ได้น้ำเกลือแร่เข้าไปก็ค่อยๆลืมตาเอ่ยเรียกนางด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง
"ท่านแม่ ท่านกลับมาแล้ว"
"เด็กดี กินหมั่นโถวก่อนนะ เดี๋ยวแม่จะไปจับปลาในแม่น้ำให้กินดีไหม"
"ไม่เป็นไรเจ้าคะ น้ำเย็นเกินไปท่านจะป่วยแล้วจากไปเหมือนกับท่านแม่ของพวกเราอีก"
จ้าวเฟยเฟยน้ำตาซึมเด็กคนนี้ช่างจิตใจอ่อนโยนเหลือเกิน จากนั้นนางก็แบ่งบิหมั่นโถวเป็นสองก้อน ส่งให้เฉินมู่หยางครึ่งหนึ่งส่วนอีกครึ่งนางค่อยๆบิป้อนเฉินผิงผิงคำเล็กๆกระทั่งนางกินไปได้สิบกว่าคำจ้าวเฟยเฟยจึงหยุดก่อนจะเอ่ย
"ท้องของลูกไม่มีอะไร น้ำย่อยอกมาย่อยกระเพาะจึงทำให้ปวดท้อง หากกินอิ่มทีเดียวจะปวดท้องอีก แม่จะไปดูว่าที่ลำธารมีอะไรบ้าง ส่วนท่านตาเฒ่าไก่กับกระต่ายเก็บเอาไว้ หมูป่าเอาไปขายในเมือง ชาวบ้านที่นี่เอาเปรียบเกินไปอยากซื้อของถูกพวกเขาเห็นท่านใจดีชอบกดราคา"
"แต่ว่า"
"ไม่มีแต่เฉินมู่หยาง ลูกๆเจ้าห้าขวบแล้วแต่ดูสิตัวแคระแกรนราวกับเด็กสามขวบ ข้าจะจดของที่ต้องซื้อด้วยเอาเท่าที่พอมีก่อน นี่ปิ่นกับกำไลเอาไปขายซื้อเสบียงมา ในเมื่อแยกบ้านกันแล้วเงินที่ขายได้ควรเลี้ยงครอบครัวตนเอง ข้าหมายถึงลูกๆของเจ้า ตาเฒ่ายายเฒ่านั่นเป็นหน้าที่ลุงใหญ่ท่านซึ่งเป็นลูกคนโต ไม่ใช่หน้าที่หลานชายเช่นเจ้า ลูกชายเจ้าต่างหากคือคนที่ต้องเลี้ยงดูเจ้าในอนาคต"
เฉินมูหยางไม่รับปิ่นเงินกับกำไลของนาง นั่นเป็นสิ่งที่นางมี เขาเป็นหัวหน้าครอบครัวจะเอาของภรรยามาเลี้ยงดูตนเองได้อย่างไร เมื่อเฉินผิงผิงดีขึ้นจ้าวเฟยเฟยก็หันมาหาเฉินโม่หวายก่อนจะเอ่ยเสียงเข้ม
"เฉินโม่หวาย...เจ้าอยากเป็นลูกรักของบิดาเจ้าคนเดียวถึงขนาดวางแผนฆ่าน้องสาวเชียวหรือ"
"ฮือๆๆๆๆ ข้าเปล่านะเจ้าๆๆ สตรีแพศยาเจ้า..เจ้าใส่ร้ายข้าฮือออๆๆๆ"
แม้คำพูดของนางจะรุนแรงแต่ไอ้เด็กนี่ต้องใช้วิธีนี้แหละถึงจะได้ผล เฉินโม่หวายร้อยไห้เสียงดังจนเฉินโม่หยางที่กำลังขนของลงมาเพื่อจะเอารถเข็นใส่สัตว์ไปขายถึงกับวิ่งมาดู เห็นบุตรชายนั่งร้องไห้ปาดน้ำตาจึงเอ่ยต่อว่าจ้าวเฟยเฟย
"จ้าวเฟยเฟยเจ้าทำอะไรบุตรชายข้า โม่หวายมาหาพ่อ"
จ้าวเฟยเฟยลุกขึ้นเท้าเอวมองหน้าพ่อลูกสลับกันก่อนจะเอ่ยออกมา
"บุตรชายเจ้าอยากได้ความรักจากเจ้าจนถึงขั้นคิดฆ่าน้องสาวตนเอง"
"ท่านพ่อข้าเปล่า ข้าไม่ได้ทำขอรับ"
"จ้าวเฟยเฟย โม่หวายเพิ่งจะห้าขวบเด็กอายุเพียงนี้จะไปมีจิตใจเช่นนั้นได้อย่างไรกัน"
"เฉินผิงผิงลุกขึ้นและจับมือท่านแม่ก่อนจะเอ่ย
"ท่านแม่ พี่ชายเป็นคนดีเขาไม่ฆ่าผิงผิงหรอกเจ้าค่ะ"
จ้าวเฟยเฟยมองหน้าเด็กน้อยที่เอาแต่ร้องไห้ก็ถอนหายใจก่อนจะเอ่ย
"ตาเฒ่า...เมื่อวานข้ากำลังจะเชือดไก่ ไหนๆก็แยกบ้านมาแล้วข้าคิดว่าคงไม่มีใครมาแย่งเรากินอีก แต่ใครจะรู้ว่าบุตรชายเจ้ากลับวิ่งแจ้นไปฟ้องป้าสะใภ้ใหญ่เจ้าว่าที่บ้านมีเนื้อ เขากลัวว่าข้าจะกินเองจนหมดหวังจะให้ยายแก่นั่นมาทุบตีข้า สุดท้ายเนื้อก็ไม่ได้กินแถมยังถูกพวกเขาทุบตี ข้าถูกยายแก่สองคนนั่นรุมทุบจนสลบก็เพราะบุตรชายเจ้า ลูกสาวเจ้าตั้งแต่เมื่อวานยังไม่ได้กินอะไรเลยถึงได้ปวดท้องจนสลบไป"
เฉินโม่หวายร้องไห้หนักกว่าเดิมก่อนจะเอ่ยกับบิดา
"ฮือๆๆๆ ท่านพ่อข้าไม่ได้อยากทำร้ายน้องสาว ข้าแค่กลัวว่านางจะเอาไว้กินคนเดียว หากท่านย่าใหญ่รู้และมาแย่งนางไปอย่างน้อยก็อาจจะแบ่งเนื้อให้ข้ากับน้องบ้างขอรับ"
เฉินมู่หยางมองหน้าบุตรชายก่อนจะถอนหายใจ จ้าวเฟยเฟยหวงของกินเพียงใด นางเอาแต่ใจและร้ายกาจเพียงใดทำไมเขาจะไม่รู้ บุตรชายเขาจะระแวงก็ไม่แปลกหรอกก่อนจะเอ่ย
"ที่ผ่านมาเจ้าทำเกินไปหลายครั้ง โม่หวายจะระแวงเจ้าก็ไม่ผิด"
เจ้าเฟยเฟยพ่นลมออกปากก่อนจะพยักหน้าสามที นางชี้นิ้วไปยังเด็กน้อยก่อนจะเอ่ย
"ได้ๆๆ เฉินมู่หยางจากนี้ไปบุตรชายของเจ้าข้าไม่ยุ่งอีก อย่างสั่งสอนกันเช่นไรก็เชิญ เจ้าไม่อยู่ข้าบอกก่อนนะนอกจากให้ข้าวให้น้ำให้มีชีวิตอยู่รอเจ้ากลับมาเท่านั้น เรื่องอื่นข้าจะไม่ยุ่ง ในเมื่อเขาไม่เคารพข้าๆก็ไม่จำเป็นต้องเมตตา หากไม่พอใจเจ้าก็เขียนใบหย่ามา"
เด็กทั้งสองเคี้ยวอาหารจนหมดปากจึงเอ่ยกับบิดา คู่แฝดเอ่ยชมอาหารที่จ้าวเฟยเฟยทำไม่ขาดปาก เฉินมู่หยางคิดว่าการค้าครั้งนี้เมียเขาคงได้แล้ว หากเป็นหลินอ้าวเขาเชื่อใจที่จะให้ติดต่อค้าขายกับภรรยามากกว่าคนอื่น บิดาที่รักบุตรเช่นนี้ไม่สนใจสตรีอื่นให้ปวดหัวแน่นอนเสียงด้านนอกมีคนมา ไม่นานสตรีใบหน้างดงามก็เดินมาหลังร้านก่อนจะเอ่ยเรียกหลินอ้าว"เถ้าแก่หลิน ข้านำมื้อเช้ามาฝากเด็กๆเจ้าค่ะ"เซียวฮวนฮวนเอ่ยน้ำเสียงอ่อนหวานแก่หลินอ้าว เด็กทั้งคู่หันไปหานางก่อนจะลุกมาหาเรียกนางว่าท่านแม่"ท่านแม่มาแล้วหรือเจ้าคะ ท่านแม่มาทานข้าวกับซินซินสิเจ้าคะ ท่านอามู่หยางนำของอร่อยมาให้ตั้งมากมาย"เซียวฮวนฮวนหน้าแดง หลินอ้าวสู่ขอนางเมื่อหลายวันก่อน จากนั้นเขาก็บอกเด็กทั้งคู่ว่านางจะมาเป็นท่านแม่ เด็กๆดีใจที่จะมีท่านแม่ ยามใดที่เซียวฮวนฮวนมาหาจะดีใจกันมากนัก เฉินมู่หยางเอ่ยทักทายนางก่อน"คุณหนูเซียวพบกันอีกแล้ว""คุณชายเฉิน...ไม่เจอเสียนานเลยเชียวท่านสบายดีหรือไม่ ท่านพ่อมิได้ออกกองคาราวานแล้วข้าจึงไม่ได้พบท่านอีก""สบายดีขอรับ เราพบกันเมื่อหลายวันก่อนท่านคงจำข้าไม่ได้""เขาคือหลานชายเฉินหยวน
เฉินมู่หยางขับเกวียนมาจนถึงประตูเมืองเขาจ่ายค่าเข้าให้กับไป๋เซิงและบิดาก่อนจะนัดมาเจอกันอีกที เกวียนวัวผูกไว้ยังที่รับฝากจอด เฉินมู่หยางถือตะกร้าที่คลุมด้วยผ้าฝ้ายขาวสะอาดตา เดินไปทางร้านขายยาก่อนจะนำใบรายการสมุนไพรที่เมียเขียนให้มาส่งให้คนดูแลร้านพร้อมกับบอกรายละเอียด"หลงจู๊..รบกวนท่านจัดตามรายการนี้ อันไหนที่บอกให้บดเป็นผงก็รบกวนท่านช่วยบดให้ด้วย จัดเตรียมเรือบดยาให้ข้าสามอัน นี่เป็นเงินมัดจำ อีกหนึ่งชั่วยามข้าจะกลับมาเอาขอรับ""เอ่อ..นายพรานเฉิน แม้ว่ายาเหล่านี้จะราคาไม่แพง แต่บางอย่างไม่สามารถใช้ด้วยกันได้นะ""ภรรยาของข้านางจะเอาไปดับกลิ่นคาวของเนื้อน่ะ ข้าเองก็ไม่รู้หรอก นางเป็นแม่บ้านนางเข้าครัวมากว่าข้าเสียอีกขอรับ""อ้อ..เช่นนั้นข้าจะจัดการให้ แต่อย่างละสิบชั่งนี่มันไม่เยอะเกินไปหรือ""ข้าเองก็ถามนางแล้ว นางบอกว่าไม่พอด้วยซ้ำท่านจัดการตามที่นางสั่งเถอะขอรับเดี๋ยวข้าไปธุระก่อน"จากนั้นเขาก็เดินไปทางตรอกของร้านขายของชำของเถ้าแก่หลิน ร้านตรงข้ามที่มีปัญหากันยังไม่เปิดร้าน แต่หบินอ้าวเปิดแล้ว ร่างสูงของหลินอ้าวกำลังจัดร้านเปิดแต่เช้าเชียว เฉินมู่หยางมาถึงก็เอ่
ถังจื่อหยวนอุ้มร่างบางเดินไปทางลำธารสายเล็กที่ทางด้านนั้นไม่มีใครเดินผ่านก่อนจะวางร่างบางลง ไป๋เหยียนรู้สึกว่าคนตรงน่าเวลานี้นากลัวยิ่งนัก นางพยายาออกจากอ้อมกอดของเขาแต่ถังจื่อหยวนกลับโอบเอวนางเอาไว้ มืออีกข้างจับปลายคางนางไม่ให้ดิ้นหนี ก่อนจะแนบริมฝีปากตนเองลงไปหา ไป๋เหยียนเม้มปากแน่น แต่เขามีวิธีให้นางยอมเปิดปาก"ต่อต้านหรือ เจ้าแน่ใจนะหากพี่ไป๋เซิงรู้ว่าครึ่งเดือนก่อนเจ้าเอาไป๋ฮวาไปเที่ยวแล้วยังพานางไปเล่นพนันกัดจิ้งหรีดอีกด้วย เจ้าว่าพี่ชายเจ้าจะว่าอย่างไรกัน แม่ตัวแสบ"ไป๋เหยียนตาโตเขารู้ได้อย่างไรกัน วันนั้นนางพาหลานสาวไปเที่ยวหมู่บ้านข้างเคียงเพราะตามท่านพ่อไปซื้อยาให้ท่านแม่ แค่แวะวงพนันแป๊บเดียวยังไม่ได้ลงเล่นเลย ก่อนจะเอ่ยเสียงอ่อย"ท่านต้องการอะไรถ้าไม่พูดเรื่องนี้""เปิดปากเจ้าออก อย่าต่อต้านทำได้ไหม"ไป๋เหยียนกลืนน้ำลายก่อนจะพยักหน้าแล้วทำตาม ถังจื่อหยวนจูบนางอย่างนุ่มนวล ลิ้นร้อนชื้นเกี่ยวลิ้นเล็กควานหาความหวาน มือบางยกขึ้นโอบรอบท้ายทอยหน้า กลิ่นบุรุษเพศที่นางเพิ่งได้ใกล้ชิดเป็นครั้งแรกทำเอาท้องไส้ปั่นป่วน กระทั่งเขาถอนริมฝีปากออกมาสบตานางแล้วเอ่ย
จ้าวเฟยเฟยไปเก็บผลซานจามาทำถังหูหลู่แจกเด็กๆและชาวบ้าน หากอยากค้าขายต้องมีสินค้าทดลองก่อน ในยุคที่ไม่มีสื่อโซเชี่ยลปากต่อปากคือการประชาสัมพันธ์ที่ดีที่สุด เด็กๆต่างรู้ดีว่าเดินตามท่านป้าจ้าวย่อมมีของอร่อยให้กิน ไป๋ฮวารีบปล่อยมืออาหญิงทันทีที่เห็นหลินเฉินอี้ นางวิ่งมาหากางแขนให้อุ้ม"พี่เฉินอี้ อุ้มฮวาฮวาด้วยเจ้าค่ะ"เด็กหนุ่มก้มลงอุ้มแม่หนูน้อยขึ้นมาก่อนจะยิ้มให้ ไป๋ฮวากอดคอเขาใบหน้าเล็กๆซุกซอกคอพี่ชายอย่างออดอ้อน หลินเฉินอี้อมยิ้มกับท่าทางของแม่ตัวเล็กที่เชื่องเหมือนลูกแมวตัวน้อย (ที่ในอนาคตนางจะเปลี่ยนจากลูกแมวน้อยเป็นแม่เสือหากนางบอกไปทางซ้ายเขาก็ไม่กล้าก้าวเท้าขวา) ส่วนเฉินผิงผิงมารดาอุ้มนางเองท่านอาไปเรียนหนังสือกับพี่ชายแล้ว ไม่นานก็ถึงบริเวณที่มีต้นซานจาขึ้นอยู่หลายต้น ทุกคนช่วยกันเก็บแต่จ้าวเฟยเฟยเอ่ยออกมาก่อน"วันนี้ที่มาเก็บข้าจะทำขนมให้พวกเจ้ากิน แต่ไม่ได้รับซื้อเหมือนลูกท้อเช่นคราวก่อนนะเข้าใจไหม""ขอรับท่านป้าจ้าว""เจ้าค่ะท่านป้าจ้าว"จ้าวเฟยเฟยกลอกตามองบนก่อนจะเอ่ยเสียงเข้ม"ใครเรียกป้าอีกวันนี้อดกินถังหูหลู่""ขอรับพี่สาว""เจ้าค่ะพี่สาว""น่าร้ากกก เอาล่
ปลายยามโหย่วแล้วเฉินมู่หยางอาบน้ำให้บุตรชายเรียบร้อยแล้ว ส่วนเฉินผิงผิงท่านแม่อาบให้ตั้งแต่ยามเซินจากนั้นก็ล้อมวงกันกินมื้อค่ำ เฉินโม่หวานกำลังคีบเห็ดโคนยำขึ้นมาก่อนมองมันแล้วก้มมองเป้ากางเกงของตัวเอง แล้วเขาก็วางลงไม่แตะมันเลย แต่เฉินผิงผิงกับเฉินเหว่ยต่างก็ไม่วางตะเกียบ กระทั่งใกล้หมดเจ้าตัวแสบอยากลองแต่กินได้สามคำก็ไม่มีแล้ว"ท่านแม่ เห็ดนี่เรียกเห็ดอะไรหรือขอรับ""เรียกว่าเห็ดโคนน่ะ อร่อยหรือไม่ เอาไว้ถ้าฝนตกแม่จะไปเก็บมาอีก""ลูกไปช่วยนะขอรับ มันอร่อยมากเหนียวๆหนึบๆเหมือนกินเนื้อไก่เลยขอรับ""ได้..ลูกรู้ไหมเห็ดมีประโยชน์มากนัก แม้ว่าไม่ใช่เนื้อสัตว์แต่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากว่าเนื้อสัตว์เสียอีก ในเมื่ออร่อยทำไมทีแรกลูกไม่ยอมกินเล่า"เด็กน้อยหน้าแดง แต่เฉินมู่หยางกลับคีบดอกใหญ่ที่สุดในจานขึ้นมาก่อนจะบอกนางว่า"พี่ไม่โกหกนะใหญ่กว่านี้หลายสิบเท่า พิสูจน์ได้นะเมียข้า""ท่านพี่เดี๋ยวเถอะ กินๆไปเลยนะไม่เช่นนั้นพรุ่งนี้จะต้มผักป่าใส่เกลือให้ท่านกินแทนคนบ้า"เด็กๆ ไม่รู้ว่าท่านแม่เป็นอะไรได้แต่มองหน้ากัน ส่วนคนตัวโตหลังจากแหย่เมียสำเร็จก็เคี้ยวข้าวตุ้ยๆ เมื่อมื้อค่ำเรียบร้อยเฉินม
เฉินมู่หยางอุ้มบุตรสาวเอาไว้ ชาวบ้านไปตามหลี่เจิ้งมาแล้ว พวกเขาอยากจัดการสามคนนี้แต่ก็ไม่อาจยื่นมือเพราะเป็นดองของเฉินมู่หยาง กระทั่งเฉินกั่วต้งมาถึงเห็นสภาพหัวแตกหน้าบวมของจ้าวคังกับจูไห่หรงก็ถอนหายใจก่อนจะเอ่ย"นี่จ้าวคัง นางจู ตอนนั้นพวกเจ้ายกเสี่ยวเฟยให้กับมู่หยางพวกเจ้าลั่นวาจาว่าจากนี้ไปไม่เกี่ยวข้องกันอีก ห้ามนางกลับไปขอความช่วยเหลือใดๆ ห้ามนางเหยียบบ้านเดิม แล้วยามนี้พวกเจ้าทำไมพวกเจ้าเป็นฝ่ายผิดสัญญาเสียเล่า"ท่านผู้นำ ข้าเป็นพ่อมันนะ มันกล้าฟ้องร้องข้าเอาสมบัติมาหมด มันกะจะให้พวกเราอดตายมันยังเป็นคนหรือไม่""ใช่เจ้าค่ะ ตอนนี้พวกเราแทบไม่มีข้าวสารกรอกหม้อแล้ว เงินที่เคยมีก็ถูกนางคนอกตัญญูนี่เอาไปหมด"สองผัวเมียชิงฟ้องเพื่อให้ชาวบ้านที่นี่รังเกียจและต้องการให้เฉินมู่หยางเห็นความเลวของนางจะได้ขอหย่า แต่กลับเป็นเสียงของเฉินมู่หยางที่ดังมาแทน"เดิมทีข้าอยากเรียกเจ้าว่าท่านพ่อตาสักหน่อย แต่ดูเหมือนเจ้าจะปฏิบัติกับเมียข้าเหมือนกับนางมิใช่สายเลือด เช่นนั้นข้าก็จะไม่เกรงใจอีกแล้ว ต่อไปหากมาหาเรื่องเมียข้าอีกข้าจะทำให้เจ้าหายสาบสูญไปจากหมู่บ้านเถาฮวาเสีย จ้าวคัง จ