คนที่พูดคือหญิงหม้ายของหมู่บ้านอวี๋หยางนางหลี่ซื่อเหม่ย จ้าวเฟยเฟยเดินไปหาหลี่ซื่อเหม่ยกระชากเอาปิ่นเงินกับกำไลเงินคืนมาจากนาง หลี่ซื่อเหม่ยโวยวายเงื้อมือแต่จ้าวเฟยเฟยไวกว่า มือบางกระทบใบหน้าหลี่ซื่อเหม่ยอย่างจังจนนางล้มลงไป
เพี๊ยะ!!! จ้าวลี่เฟยมองหน้าแม่หม้ายหลี่กับลุงใหญ่ของสามีก่อนจะเอ่ยเสียงดัง
"ปิ่นเงินนี้กับกำไรนี้เป็นของสามีข้าเจ้ามีสิทธิ์อันใดมายึดครอง"
ชาวบ้านหันมาหาเฉินมู่หยางทันทีจนเขาต้องเข้ามาก่อนจะเอ่ยกับนางเสียงดัง
"จ้าวเฟยเฟยเจ้าพูดอะไร ข้าเป็นบุรุษจะทำเรื่องผิดศิลธรรมเช่นนั้นได้อย่างไรกัน"
"สามีข้าพูดเรื่องจริง กำไลคู่นี้กับปิ่นเงินนี้เป็นของท่าน"
"เมียเสี่ยวหยาง เจ้าอย่าเอ่ยโดยไร้เหตุผลเช่นนี้ สามีเจ้าจะเสียหายได้นะ"
"ท่านปู่หลี่เจิ้ง กำไลนี้กับปิ่นเงินนี้เป็นเงินที่สามีข้าล่าสัตว์ด้วยความยากลำบาก แต่ลุงใหญ่ของเขาโกหกท่านย่าว่าต้องเอาเงินไปจ่ายค่าเรียนของเจ้าอ้วนบุตรชาย สุดท้ายกลับเอาไปซื้อเครื่องประดับเอาใจแม่หม้ายหลี่ หากพวกท่านไม่เชื่อไปถามที่ร้านเครื่องประดับก็ได้ ตอนนั้นเขาไม่รู้จักข้าเพราะว่าข้ายังไม่ได้แต่งเข้ามาสกุลเฉินเจ้าค่ะ"
ชาวบ้านฮือฮา อะไรนะซื้อเครื่องประดับให้แม่หม้ายงั้นหรือ นางหวังที่ได้ยินก็ตรงเข้าไปกระชากผมหลี่ซื่อเหม่ยทันทีก่อนจะตะลุมบอนกับนาง จ้าวเฟยเฟยยืนกอดอกมองดูหมากัดกัน มีอีกคนที่ปล่อยไปไม่ได้ จ้าวเฟยเฟยมองไปยังที่หญิงวัยกลางคนกับสตรีหน้าตาดียืนอยู่ก่อนจะร้องไห้ออกมา
"ฮือๆๆ นั่นมิใช่แม่สื่อเหอหรอกหรือ ท่านบอกข้าว่าสกุลเฉินเป็นสกุลที่ดี แล้วนี่อะไรท่านดูสิ ข้าแต่งมาไม่ถึงเดือนทั้งสินเดิม ทั้งของดูต่างหน้ามารดาก็ถูกปล้นไป คุณหนูท่านนั้นท่านเปิดตามองเถิด หากท่านได้แต่งเข้ามายังหมู่บ้านนี้ชีวิตของพวกท่านจะเป็นเช่นไร ฮือๆๆๆ คุณชายบนรถม้าท่านนั้น สตรีในหมู่บ้านนี้ท่านก็เห็นแล้ว ยังอยากได้เป็นแม่ของลูกอีกหรือ"
จ้าวเฟยเฟยนั่งลงทุบหน้าขาตนเองเลียนแบบแม่เฒ่าเฉินที่คร่ำครวญ ทุกคนหันไปทางที่จ้าวเฟยเฟยมอง นั่นมันแม่สื่อเหอ ส่วนอีกคนที่ยืนเงียบไม่เอ่ยนางคือแม่บ้านใหญ่ของสกุลเซียวในอำเภอ เฉินเหม่ยลี่เองก็รีบลุกจัดผมเผ้า นางจำได้นั่นรถม้าคุณชายหลิน ก่อนจะได้ยินเสียงดังมาจากรถม้า
"แม่สื่อเหอ คืนเงินข้ามา สตรีหมู่บ้านนี้ข้าหลินอ้าวไม่แต่งแล้ว"
"คืนเงินข้าด้วย เฉินเหยาของสกุลเฉินข้าเซียวฮวนฮวนก็ไม่แต่งแล้ว"
สตรีใบหน้าหวานกำลังจะจากไป จ้าวเฟยเฟยเอ่ยลอยๆ
"คุณหนูเซียวจิตใจงดงามอุปการะเด็กที่พ่อแม่ไม่มีเอาไว้หลายคน นางเป็นแม่พระจริงๆ ชายใดได้แต่งนางไปชายนั้นย่อมโชคดี"
เสียงดังออกมาจากรถม้าทำให้เซียวฮวนฮวนหน้าแดง
"อาซ้อเฉินความหมายของท่านข้าเข้าใจแล้ว ขอบคุณที่ชี้แนะ"
จ้าวเฟยเฟยหันมาชาวบ้านก็มองนางด้วยสายตาโกรธแค้น
"ฮือๆๆลูกหลานของข้า ต่อไปจะหาคู่ครองดีๆได้ที่ไหนกัน จ้าวเฟยเฟยนางอสรพิษ"
"ใช่ๆ เจ้ากล้าด่าแม่สื่อ แล้วต่อไปใครจะช่วยพวกเรากัน"
ชาวบ้านคร่ำครวญ เช่นนี้บุตรหลานพวกเขาจะหาคู่ครองเช่นไรกัน จ้าวเฟยเฟยไม่สนใจบอกแล้วอย่ามาแหยมกับแม่นะ จะเอาให้ไปไม่เป็นเลย ก่อนจะหันไปหาเฉินเหม่ยลี่แล้วคว้าข้อมือนางบีบอย่างแรง
"มือข้างไหนของเจ้าที่ตบหน้าผิงผิงของข้าส่วนเจ้านางหวังซื่อหากข้าเห็นเจ้าตีโม่หวายของข้าอีกข้าจะมือหักขาเจ้าเสีย สามีกลับกันเถอะลูกๆคงหิวแล้ว ท่านปู่หลี่เจิ้งวันนี้รบกวนท่านเสียนานขออภัยด้วยนะเจ้าคะ หากมีอะไรที่ข้าพอจะตอบแทนท่านไดในภายหน้าขอท่านอย่าได้เกรงใจก็เอ่ยเถอะเจ้าค่ะ วันนี้ขอตัวก่อนเล้ว สามีกลับบ้าน"
นางเสียงอ่อนเสียงหวานกับเฉินกั่วต้งหลี่เจิ้งของหมู่บ้าน แต่หันมาเสียงเข้มใส่เฉินมู่หยาง เข้าจึงเดินเข็นรถตามนางไป วันนี้นางแปลกไปนางเรียกลูกๆของเขาว่าผิงผิงของข้า โม่หวายของข้า หรือนางกลัวว่าเขาจะขายนางจริงๆ คงเป็นเช่นนั้นแหละไม่เช่นนั้นสตรีร้ายกาจเช่นนางจะเปลี่ยนไปได้อย่างไร
ตั้งแต่บ้านใหม่เสร็จเรียบร้อยนี่เป็นครั้งแรกที่เลี้ยงอาหาร เฉินกั่วต้งกับท่านย่าใหญ่ภรรยาของเขาก็ได้รับเชิญมาด้วยในวันนี้ สตรีนั่งอีกโต๊ะกับเด็กๆ บุรุษนั่งแยกเสียงพูดคุยกันถึงเรื่องการเดินทางในวันพรุ่งนี้ เฉินกั่วต้งเอ่ยออกมา"มู่หยางเอ๊ย....พรุ่งนี้ยามซื่อใต้เท้าฮั่วจะมารับคนที่หมู่บ้านเราเป็นหมู่บ้านสุดท้ายพวกเจ้าเตรียมตัวดีหรือยัง""ท่านปู่ใหญ่อย่ากังวลเลยขอรับ เสี่ยวเฟยนางเตรียมเสบียงให้พวกเรากว่าสามเกวียน อาหารมีพอจนไปถึงชายแดนแน่ขอรับ""อืม...นางช่างเป็นภรรยาที่ดีเจ้าแต่งนางมาไม่ผิดเลย แล้วพวกเจ้าเล่าบิดามารดานั้นพูดใครสั่งความกันเรียบร้อยหรือยัง จื่อหยวนเจ้ามีไป๋เหยียน คอยดูแลมารดาของเจ้า ส่วนเจ้าฟางฉายอย่ากังวลเลย พวกเจ้าคือวีรบุรุษของหมู่บ้านเรา มารดาเจ้าก็เหมือนกับมารดาคนในหมู่บ้าน พวกเราจะดูแลนางเอง"ฟางฉายคีบขาหมูใส่ในถ้วยของผู้นำหมู่บ้านก่อนจะเอ่ยขอบคุณ"ขอบพระคุณท่านผู้นำขอรับ หมู่บ้านเราโชคดีที่ได้ท่านปกครอง"ไป๋เซิงที่มีน้องสาวคอยดูแลบิดากับมารดาและบุตรสาวก็ไม่กังวลเท่าไหร่ มีเพียงหลิวเยี่ยนฉางที่พี่สาวอยู่ไกล แต่ว่าอาซ้อรับปากแล้วว่าจะดูแลให้เขา
ทั้งสองเดินลงจากเขามาถึงบ้านก็ปลายยามเซินพอดี เฉินมู่หยางอุ้มจ้าวเฟยเฟยเดินข้ามก้อนหินมาตามลำธาร จางซือเหยียนที่อาสาเลี้ยงเด็กๆถึงกับส่ายหน้า หลงพระชายาเพียงนี้หากไม่ติด/ไปชายแดนคงหัวปีท้ายปีกระมัง ก่อนจะเอ่ยกระเซ้าทั้งคู่"มิใช่ไปเก็บเห็ด ไปเก็บบ่อยๆไม่เคยจะเห็นเพลียสักนิด พอมีคนไปด้วยทำเป็นหมดแรง"จ้าวเฟยเฟยนับหนึ่งถึงสิบในใจ ตาเฒ่านี่ต้องโดนสักทีสิน่า ถ้าไม่ติดว่าพรุ่งนี้เดินทางนะ แม่จะใส่ยาถ่ายให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ใบหน้าหวานที่ซุกอยู่กับอกสามีก็เงยหน้าสบตาหวานฉ่ำเอ่ยออดอ้อนกับเขา"ท่านพี่..เสียงแมลงหวี่แมลงวันน่ารำคาญนัก ท่านช่วยไปหายาไล่แมลงให้ข้าทีนะเจ้าคะ"เฉินมู่หยางสบตาเมียก่อนจะพยักหน้า เขาไม่อาจตอบได้คนหนึ่งก็อาจารย์ที่เคารพ อีกคนก็เมียสุดที่รัก จางซือเหยียนหนวดกระดิกเมื่อได้ยินวาจาของนาง หึ ท่านอ๋องและองค์ชายทั้งหลายยังต้องเกรงใจเขา แต่นี่ท่านอ๋องน้อยที่ยังไม่รู้แม้แต่สถานะตนเองกลับเอาแต่เข้าข้างพระชายาของตน ก่อนจะมองหน้าคนในอ้อมกอดเฉินมู่หยาง เขามองเห็นใบหน้าของนางทับซ้อนกับอีกคนที่อยู่ในวัง"สมกับที่เป็นสายเลือดตาแก่มู่ ตาหลานมิต่างกันจริงพวกปากค
เฉินมู่หยางสอบเอวหนาช้าๆ คนใต้ร่างกอดแผ่นหลังเขาแนบแน่น ไม่ว่าเขาจะจูงไปที่ใดนางก็พร้อมเดินตาม ร่างสูงสอบเอวหนาไม่หยุด เรียกเสียงครางจากเมียสาวดังลั่นห้อง เตียงนี้เด้งจริงๆอย่างที่เมียบอก "อ๊า..ท่านพี่ เร่งอีก ไม่ไหวแล้ว""เสี่ยวเฟยจ๋า เจ้าอย่ารัดพี่แน่นพี่จะไม่ไหว""ท่านพี่ เร่งเถอะ เฉินมู่หยางได้โปรด อ๊ายยย"เฉินมู่หยางเร่งความเร็วสาวเอวถี่ ร่างงามกระตุกเกร็ง กายสาวแอ่นโค้งขึ้น มือบางขยำผ้าปูเตียงเอาไว้ เหงื่อเม็ดเล็กๆซึมใบหน้าของนาง ผมเปียกชื้นแนบไปกับใบหน้าและลำคอ มันเย้ายวนในสายตาเฉินมู่หยางยิ่งนัก เขาส่งนางไปสวรรค์ถึงสามครั้งแล้ว ครั้งนี้เขาจะไปพร้อมกับนาง"อ่าห์ เสี่ยวเฟยพร้อมกันอีกครั้งนะคนดี""อื้อ ท่านพี่เร่งเลย ข้าไม่ไหว อ๊า จะถึงแล้ว ท่านพี่ได้โปรดแรงอีก อื้อ""เสี่ยวเฟยจ๋า อ่าห์มาแล้วพร้อมกันนะ""อ๊าคคค /อ๊ายยย"ทั้งคู่ปลดปล่อยพร้อมกัน สองร่างหอบหายใจอย่างแรง เฉินมู่หยางซบลงกับซอกคอหอมกรุ่น ในขณะที่นางเอกก็กอดตอบเขาแนบแน่น จนทั้งคู่ผ่อนคลายร่างสูงจึงยอมถอยออกมาให้นางได้พัก สายตาเขามองไปยังกลางกายสาวที่มีจุดสีแดงก็ยิ้มภูมิใจก่อนจะเอ่ยกับค
เฉินมู่หยางคลายอ้อมกอดก่อนจะเชยคางนางขึ้น จ้าวเฟยเฟยยิ้มตอบและใช้สองมือคล้องท้ายทอยหนาไว้ สัมผัสอุ่นร้อนจากริมฝีปากหนาแนบลงมายังเรียวปากอวบอิ่มของนางอย่างแผ่วเบา ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นจูบที่ร้อนแรงและดูดดื่ม"ท่านพี่.. ตอนปลดอาภรณ์ของข้าวันนี้ท่านห้ามใช้มือช่วยนะ""ลองภูมิพี่หรือคนดี""ท่านทำได้หรือไม่เล่า หากทำได้กลับไปคืนนี้จะให้ต่อ คิกๆๆ"เสียงหัวเราะยั่วยวนมาจากนาง สายตาซุกซนมองหน้าเขา เฉินมู่หยางจูบนางอีกครั้ง จากนั้นก็ละจากริมฝีปากพรมจูบไต่ลงมา เขาดูดเลียใบหูเล็กจนจ้าวเฟยเฟยสยิวครางกระเส่ามือบางของนางเลื่อนจากท้ายทอยหนาของเขามาด้านหน้า กรีดไล้นิ้วเรียวไปตามลำคอแกร่ง ก่อนจะหยุดที่ปมสายรัดเอวแล้วค่อยๆ คลายออก สองมือผลักเสื้อตัวนอกของเขาออกไปอย่างเชื่องช้าเฉินมู่หยางละจากริมฝีปากนุ่ม พรมจูบไล่ลงมาตามลำคอระหง กดย้ำเบาๆ ให้เป็นรอยประทับ เสียงครางแผ่วหวานของนางดังแว่วในลำคอ เมื่อเขาใช้ปากงับสายเสื้อนอนให้หลุดจากไหล่ทีละข้าง จนลงมากองอยู่ที่เอวบางนางเอ่ยนยั่วยวนสามีน้ำเสียงกระเส่ารัญจวน“ท่านพี่...หนาวยิ่งนัก ขนลุกไปหมดแล้วเจ้าค่ะ” จ้าวเฟยเฟยเอ่ยเสียงกระซิบ ขณะที่นิ้วเรียวของนางกรีดไ
ยามซวีจางซือเหยียนก็มาหาลูกศิษย์ของตนก่อนจะเรียกเฉินมู่หยางออกไปคุย ร่างสูงเดินมาหาชายชราที่ยืนรออยู่ เขามอบจดหมายสองฉบับให้กับเขาจากนั้นก็เอ่ยกำชับ"ต้องส่งมอบด้วยตนเอง และที่สำคัญห้ามให้ใครรู้หาโอกาสที่ปลอดคนเพื่อส่งมอบ แม้แต่สหายของเจ้าทุกคนด้วย""ขอรับท่านอาจารย์ ว่าแต่อาจารย์จะแยกทางกับข้าเลยหรือขอรับ""อืม..ใช่แล้วข้ามีงานต้องไปทำ เสียเวลามามากแล้ว""มิใช่ท่านบอกว่ามาตามหาคนหรอกหรือ เช่นนั้นท่านตามหาคนเจอแล้วหรือขอรับ""ได้ข่าวแล้วจึงต้องรีบไปพบ เจ้าไปพักผ่อนเถอะ มีอะไรก้พูดคุยกันเสียให้เรียบร้อย วันมะรืนต้องเดินทางแล้ว""ขอรับ อาจารย์ท่านก็รีบพักผ่อนเถอะขอรับค่ำมากแล้ว"เฉินมู่หยางหันหลังกลับ แต่หูเขาได้ยินอาจารย์เอ่ยตามมาเบาๆ"ท่านอ๋องน้อย ทรงระวังตัวด้วยนะพ่ะย่ะค่ะ"ร่างสูงหันกลับมาก็เห็นชายชราดีดตัวไปทางหมู่บ้านเรียบร้อยแล้ว เมื่อสักครู่อาจารย์เรียกผู้ใดกัน ท่านอ๋องน้อยเช่นนั้นหรือหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้นอกจากองค์ชายแปดคนนั้นยังมีใครอีก จางนั้นเขาก็สะบัดศีรษะและเลิกสนใจ ไม่ว่าจะเป็นท่านอ๋องหรือองค์ชายก็ไม่เกี่ยวกับเขา ขอเพียงลูกเมียมีความสุขกินอิ่มนอนหลับ
บ้านเฉินมู่หยางจ้าวเฟยเฟยกำลังจัดเสื้อผ้าใส่ห่อให้สามีอยู่ เฉินมู่หยางที่วางข้าวของเรียบร้อยก็ตรงมาหานางสวมกอดจากด้านหลัง มือบางกุมหลังมือของเขาก่อนะเอี้ยวตัวกลับมา ชายหนุ่มกำลังจะจุมพิตเมียตัวเองเสียงเล็กๆก็ดังมา"ท่านพ่อ...ท่านแก่ป่านนี้แล้วเหตุใดยังอ้อนท่านแม่อีกขอรับ ข้าห้าขวบยังไม่ทำตัวเช่นท่านเลย"เฉินมู่หยางหันขวับไปทันที ไอ้ตัวแสบนี่ ตั้งแต่เข้ากันได้ดีกับมารดาก็กีดกันเขายึดเอาท่านแม่ไว้คนเดียว มันน่านักเจ้าลูกชายข้าจะส่งเจ้าไปสำนักศึกษาประจำเสียเลย ก่อนจะเอ่ยยียวน"พ่อจะไปทัพแล้ว ต้องคิดถึงท่านแม่เจ้าเป็นธรรมดา กอดนางนิดหน่อยจะเป็นไรไป"ร่างเล็กเดินตรงมา มือข้างหนึ่งยกขึ้นมาไว้ด้านหน้าระดับเอว อีกข้างไพล่หลังกำเอาไว้ หลังตั้งตรง วางท่าราวกับบัณฑิตผู้เคร่งขรึม ก่อนจะเอ่ยกับเขา"คุณชายเฉิน ท่านจะโอบกอดสตรีในที่สาธารณะนั้นไม่ได้ ต่อให้สตรีนั้นแม้เป็นภรรยาตนก็ย่อมต้องให้เกียรติ ท่านเองเคยเป็นบัณฑิตเรื่องแค่นี้มิเข้าใจหรอกหรือ"เฉินมู่หยาง"............"คิกๆๆๆ จ้าวเฟยเฟยหัวเราะเขา ในที่สุดก็ถูกบุตรชายสั่งสอน เฉินมู่หยางมองบุตรชายตาเขียวก่อนจะเอ่ยกับเมียร