Share

อาเม่ยเป็นสาวแล้ว

last update Last Updated: 2025-07-01 20:38:26

“ไม่มีนี่เจ้าคะ ข้ามิได้เจ็บตรงขาแต่ข้าปวดท้องน้อยมากเลยเจ้าค่ะ ก่อนหน้านี้ข้าก็ปวดท้องน้อยมาสองวันแล้วเจ้าค่ะแต่ไม่มากเท่าตอนนี้ คงมิใช่ว่าข้าตกเลือดหรอกนะเจ้าคะ ข้าเคยเห็นคนตกเลือดจนตาย ข้าจะตายมั้ยเจ้าคะพี่ตั่วเอ๋อ” สีหน้าท่าทางที่อาเม่ยแสดงออกช่างน่าสงสารยิ่งนักแต่จากคำบอกเล่นของนางทำให้ฮัวตั่วเอ๋อนึกอะไรขึ้นมาได้

“เจ้าบอกพี่ว่าเจ้าปวดท้องน้อยมาสองวัน แล้วเจ้ามีอาการแบบนี้ร่วมด้วยหรือไม่ ปวดหลังด้านหลัง คลื่นไส้อาเจียน เหงื่อออก ท้องเสียหรือท้องผูก ท้องอืด เวียนศีรษะและปวดศีรษะ” ฮัวตั่วเอ๋อรีบซักอาการพร้อมสบตาสหายอย่างมีเลศนัย

“ข้าปวดหลัง แล้วก็ท้องอืดเจ้าค่ะพี่ตั่วเอ๋อ ท่านรู้ใช่ไหมเจ้าคะว่าข้าเป็นอะไร” อาเม่ยกล่าวหลังจากค่อยๆ นั่งลงที่เก้าอี้ไม้ข้างเตียงแทนที่จะนั่งลงบนเตียงดังเดิม

“ฮ่าฮ่าฮ่า” พี่สาวทั้งสองสบตากันหัวเราะร่วนจนอาเม่ยแปลกใจ ได้แต่หันมองทั้งสองทีละคนพร้อมทำตาปริบๆ

“ไม่ต้องแปลกใจไปอาเม่ย เจ้าแค่เป็นสาวแล้วน่ะ” ฮัวตั่วเอ๋อตอบท่าทีสงสัยของอาเม่ยด้วยคำที่กำกวม

“ข้าเพิ่งอายุ 12 ปี ยังไม่ได้เข้าพิธีปักปิ่นด้วยซ้ำจะเป็นสาว1 ได้เยี่ยงไรเจ้าคะพี่ตั่วเอ๋อ”

“เจ้าแต่งเข้าจวนองค์ชายรองแล้ว จะยังพิธีปักปิ่นอันใดอีก” ตู้จินจินกล่าวด้วยความสงสาร เด็กน้อยดีๆ คนหนึ่ง หากเป็นภพเดิมของนางยังไม่ขึ้นมัธยมต้นด้วยซ้ำ

“พี่ตั่วเอ๋อของเจ้าหมายถึงมีระดูน่ะ แม่นมคงเคยสอนเจ้ามาบ้าง เจ้าไปอาบน้ำก่อนเถิด ที่ห้องน้ำของพี่นี่แหละ เดี๋ยวพี่จะสอนเจ้าดูแลตัวเอง แล้วจะให้สาวใช้ของเจ้ากลับไปเอาเครื่องแต่งกายมาให้” ตู้จินจินดันอาเม่ยไปทางห้องอาบน้ำของนางพร้อมพยักหน้าให้เจียวหลิน สาวใช้คนหนึ่งที่เพิ่งเดินกลับมาจากห้องครัวพร้อมกับเจียวหลานคู่แฝดของนางและปี้หรูกับเสี่ยวม่าน

“ถ้าอย่างนั้นบ่าวจะกลับไปเอาชุดคุณหนูเองเจ้าค่ะ” เจียวหลานกล่าวอย่างรู้งานแล้วขอตัวกลับไปเรือนโม่ลี่

“จะว่าไปนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ข้าอยากปรึกษาเจ้าตั่วเอ๋อ เรื่องระดูตั้งแต่ข้ามาอยู่ที่นี่ก็มิได้มีมาอีกเลย แถมข้าก็มิได้เตรียมผ้าซับระดูมาด้วย ไม่รู้ว่าที่นี่จะมีผ้าซับระดูแบบที่บ้านเดิมข้าหรือไม่”

ฮัวตั่วเอ๋อสะดุดใจกับคำว่าบ้านเดิม เหตุใดอาจินจึงไม่กล่าวว่าแคว้นสู่ หรือนางจะน้อยใจพระบิดาที่ส่งนางมาเป็นค่าปฏิกรรมสงคราม หากจะซักถามก็เกรงว่าจะทำร้ายจิตใจสหาย

“พระชายาเพคะ เอ่อ มิทราบว่าท่านพอจะมีผ้าซับระดูให้อนุของบ่าวได้ยืมใช้บ้างหรือไม่เพคะ” เจียวหลินโผล่มาจากห้องอาบน้ำพร้อมคำถามกระท่อนกระแท่น

ตู้จินจินกำลังจะให้ปี้หรูไปหาของนางหรือเสี่ยวมี่มาให้ใช้แก้ขัดไปก่อนเพราะตนเองก็ไม่ได้มีประจำเดือนมาตั้งนานและยังไม่ได้เตรียมไว้ด้วยซ้ำ

“ข้าไปดูเอง เสี่ยวม่านเอาถุงผ้าของข้ามา” ตั่วเอ๋อว่าแล้วก็รับถุงผ้าเล็ก ๆ จากสาวใช้แล้วเดินตามเจียวหลินเข้าห้องอาบน้ไป

“พี่ตั่วเอ๋อท่านเข้ามาได้อย่างไรเจ้าคะ ให้เจียวหลินสอนข้าก็ได้พวกนางเคยใช้” อาเม่ยพูดไม่จบประโยคด้วยความกระดากอาย เพราะนางเพิ่งมีระดูครั้งแรกก็ถูกพี่สาวทั้งสองพบเห็น จะว่าขายหน้าก็รู้สึกขายหน้า แต่ก็รู้สึกอบอุ่นยิ่งนักที่พี่สาวทั้งสองมิได้มีอาการรังเกียจและรู้สึกว่านางนั้นสกปรก

“เจ้าไม่ต้องอาย พี่มีผ้าซับระดูแบบใหม่ สาวใช้ของเจ้าอาจมิเคยเห็น พี่เลยจะมาสอนเจ้าใช้ด้วยตัวเอง มานี่พี่จะสอน มิต้องอายไป พี่สาวเจ้าคนนี้เป็นหมอมิได้คิดทะลึ่งลามก เจ้าด้วยมาศึกษาไว้เสียเผื่อจะได้ช่วยคุณหนูของเจ้าในครั้งต่อไป” พูดเสร็จฮัวตั่วเอ๋อก็ดึงแถบผ้าผืนหนึ่งที่ปลายทั้งสองด้านป้านออก ด้านหนึ่งใหญ่กว่าอีกด้านหนึ่ง แต่ช่วงกลางนั้นมีลักษณะคล้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้าแต่มีความหนาคล้ายผ้าซับระดูที่พวกนางเคยใช้ เพียงแต่ของเดิมนั้นจะใช้กาบมะพร้าวแช่น้ำแล้วทุบให้นิ่มแล้วยัดเข้าไปในถุงผ้า จากนั้นมัดกับผ้าคาดเอวคล้ายการนั่งทับอานม้าจึงเรียกว่า “ขี่ม้า”

“นี่เรียกว่ากางเกงอนามัย หันด้านป้านที่มีขนาดเล็กนี่ไว้ด้านหน้า จะมีสายเชือกยาวประมาณหนึ่งคืบนี้ เจ้าดึงเชือกจากด้านหลังมาถูกกันที่ข้างเอว ทำทั้งด้านซ้ายและขวา ปรับความแน่นให้พอดีกับตัวเอง หนึ่งผืนใช้ได้ประมาน 1 – 2 ชั่วยามแล้วแต่ปริมาณเลือดของเจ้า หากรู้สึกเฉอะแฉะรำคาญตัวหรือมีเลือดล้นออกมาจนเปียกตัวกางเกงให้เปลี่ยนกางเกงตัวใหม่ จากนั้นดึงเอาถุงซับเลือดออก คล้ายๆ กับการขี่ม้าแบบเดิมแต่ให้เอาทิ้งไปได้เลย จะขุดหลุมฝังหรือเผาทิ้งรวมกับขยะก็ได้ วันนี้ข้าจะให้เจ้าไว้สักสองตัวกับแผ่นซับระดูห้าผืนก่อน เพราะข้าเตรียมมาเผื่อฉุกเฉินเท่านั้นจึงมีติดมาไม่มาก อ้อ คืนนี้เจ้าเอาแผ่นซับระดูสำหรับกลางคืนไปด้วย เอาไว้ใส่ในผ้าด้านป้านอันใหญ่ที่รองรับช่วงสะโพก ยามนอนกลางคืนจะได้มิต้องกังวลว่าจะเปรอะเปื้อนที่นอน”

พูดพร้อมแสดงการเปลี่ยนแผ่นซับระดูที่คล้ายกับผ้าอนามัยในภพก่อนเพียงแต่ไม่มีแถบกาวโดยสอดเข้าไปในช่องระหว่างผ้าที่เย็บเป็นกางเกงคล้ายบิกินี่ในภพก่อนเช่นกัน นางเองก็สงสัยยิ่งนักว่าเจ้าของร้านผู้นี้จะเป็นคนจากภพเดียวกับนางหรือไม่ แต่ก็ไม่สามารถสืบหาตัวเจ้าของผู้นี้ได้เลย

“เสร็จแล้วเจ้าค่ะพี่ตั่วเอ๋อ” หลังจากหลบไปผูกกางเกงอนามัยให้เข้าที่เข้าทางหลังฉากกั้นอาเม่ยก็ออกมาพร้อมเครื่องแต่งกายครบถ้วน

“ออกไปกันเถิด ป่านนี้พี่อาจินของเจ้าเป็นห่วงแย่แล้ว”

สองพี่น้องที่เพิ่งได้พบกันวันนี้แต่กลับสนิทสนมกันยิ่งนักจูงมือกันเดินออกมาจากห้องอาบน้ำ ตามมาด้วยเจียวหลินที่หมายมั่นปั้นมือว่าจะชวนเจียวหลานน้องสาวของนางไปหาซื้อกางเกงอนามัยมาใช้ให้จงได้ เพราะมันน่าจะสะดวกสบายยิ่งนัก

“หายไปกันพักใหญ่เชียวนะ ถ้าข้าไม่รู้ก่อนคงคิดว่าเจ้าตามไปช่วยอาบน้ำให้น้องตัวน้อยซะแล้ว”

สหายทั้งสองมองตากันแล้วปิดปากกลั้นขำ

“เจ้ามีอารมณ์ขันเช่นนี้ข้าก็สบายใจได้แล้ว อาจิน อีกสักพักระดูของเจ้าก็คงมาเป็นปกติ ถึงวันนั้นอย่าลืมให้น้องอาเม่ยแนะนำของดีให้เจ้าเล่า” ฮัวตั่วเอ๋อหยอกเย้าสหายและน้องสาวไปพร้อมๆ กัน

“ฮึ ทำเป็นมีความลับกับข้านะ กลับไปได้แล้วทั้งคู่เลย ข้าไม่ชวนพวกเจ้ารับมื้อกลางวันด้วยกันแล้ว กลับไปกันให้หมดเลยข้างอน” กล่าวพร้อมสะบัดหน้าให้ทั้งสอง

“ฮ่าฮ่าฮ่า ดูพี่สาวพระชายาเจ้าสิอาเม่ย หากข้าไม่รู้มาก่อนข้าคงคิดว่าเจ้าอายุเท่านาง” ฮัวตั่วเอ๋อหัวเราะเสียงดังพร้อมบุ้ยใบ้ให้อาเม่ยดูท่าทางแง่งอนของสหาย

“พี่ตั่วเอ๋ออย่าล้อนางเลย เดี๋ยวข้าจะอดกินของอร่อยเสียเปล่า แต่วันนี้ข้าได้ของกินแล้วก็ยังมิหายปวดท้อง มิมีอารมณ์จะหยอกเย้าพี่อาจินแล้วเจ้าค่ะ” แม้จะยังทะเล้นตามวัยแต่ก็อดหน้ามุ่ยเพราะยังปวดประจำเดือนอยู่

“เอ้า เจ้าอาเทียบยาไปจัดยาที่ศาลาไร้ทุกข์มาสักสามชุด ยาตัวนี้ข้ายังไม่ได้ออกเป็นลูกกลอน ว่าแล้วก็จดเทียบยาซึ่งประกอบด้วยยาบำรุงโลหิตอาทิเส็กตี่อึ้ง, ตังกุย, ห่อซิวโอว, แปะเจียก, กาวหนังลา ยื่นให้เจียวหลินสาวใช้คนหนึ่งของกงซุนเสี่ยวเม่ย

“อย่าลืมรีบแข็งแรงไวๆ เล่าจะได้ออกไปเที่ยวนอกจวน แคว้นต้าจินยังมีสิ่งแปลกใหม่ที่น่าสนใจยิ่งนัก” พูดพร้อมพยักหน้าให้เสี่ยวม่านหยิบล่วมยาและถุงผ้าลุกขึ้นตามกลับจวน

“เช่นนั้นข้าก็ขอตัวลาท่านพี่ทั้งสองเจ้าค่ะ” อาเม่ยย่อกายคารวะพี่สาวทั้งสอง

“เจ้าอย่าลืมให้สาวใช้ต้มน้ำใส่ถุงหนังแล้วเอามากอดนอนเล่า จะได้ช่วยบรรเทาอาการปวด หากยังไม่ดีขึ้นส่งคนไปตามข้าที่ศาลาไร้ทุกข์ได้” เมื่อแยกจากกันที่เรือนเรือนริมบึงฮัวตั่วเอ๋อมิลืมกล่าวเตือนอาเม่ย ก่อนขึ้นรถที่หวังซีฉวนเตรียมมารอพร้อมแล้ว

 1 เป็นสาว คำแสลงหมายถึงมีประจำเดือน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้ามภพมาเป็นเมียหลวงยืนหนึ่ง   ตอนพิเศษ

    เพื่อนร่วมรุ่นม.ต้นที่สนิทสนมและรักกันมาก จำนวน 4 คนพร้อมทั้งน้องสาวของเพื่อนอีกหนึ่งคนในกลุ่มที่อายุไล่เลี่ยกันทำให้พลอยสนิมสนมกับเพื่อนๆ ของพี่สาวไปด้วย ทั้ง 5 คนมีจุดร่วมกันอีกอย่างที่คนภายนอกไม่ทราบนั่นก็คือความความเคารพนับถือในท่านเทพไฉ่ซิงเอี๊ยะเทพเจ้าแห่งโชคลาภนั่นเองวันนี้ห้าสาวนัดรวมกันไปกินข้าวกลางวันที่ห้างดังแห่งหนึ่งในอำเภอเมือง หนุงหนิงที่พาอุ๊งอิ๊งลูกสาวจินไปประชุมผู้ปกครองที่โรงเรียนประจำจังหวัดแทนจินที่ติดประชุมผู้ถือหุ้นก่อนจะมารวมตัวกับทุกคน เป็นเหตุให้ได้เห็นนายเจนภพสามีจอมเจ้าชู้ของจินที่อ้างว่าป่วยต้องไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลพากิ๊กและลูกติดไปประชุม บังเอิญว่าลูกติดของผู้หญิงคนนั้นเป็นเพื่อนห้องเดียวกับน้องอุ๊งอิ๊งลูกสาวของจิน เธอเลยให้อุ๊งอิ๊งทำทีถามทางไปบ้านของเด็กคนนั้นและเอามาบอกให้จินฟังหลังทานข้าวเสร็จ เพราะกลัวเพื่อนจะไม่ได้กินข้าวกินปลา แต่กระนั้นจินก็รีบร้อนออกไปหาเจนภพตามที่อยู่นั้นทันทีที่หนุงหนิงเล่าจบเนื่องจากเธออนุญาตให้เจนภพสามีจอมเจ้าชู้มีภรรยาน้อยได้ตลอดขอเพียงให้บอกเธอ เธอจะได้พาเจ้าหล่อนไปตรวจร่างกายเพื่อหลีกเลี่ยงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และได้จ

  • ข้ามภพมาเป็นเมียหลวงยืนหนึ่ง   มัลติเวิร์ส (Multiverse) ของอาจิน

    “ตั้งแต่วันที่ข้าฟื้นขึ้นมาก็พบว่ารอบๆ ตัวของข้าเปลี่ยนไป ข้าต้องใช้ชีวิตในร่างของใครอีกคนหนึ่ง ดีที่ได้รับการช่วยเหลือจากท่านเทพไฉ่ซิงเอี๊ยะที่ข้านับถือ และยังได้พบเจอสหายดีๆ ที่ช่วยฟื้นฟูสุขภาพกายและใจให้ข้าเช่นฮัวตั่วเอ๋อ และไป๋เหลียนฮวาที่ปรึกษาในการใช้ชีวิต รวมถึงหวงเฟิ่งและจินหลิงหลิง ทั้งสี่นางทำให้ข้าคิดถึงสหายสนิททั้งสี่ในภพเดิม และต้องไม่ลืมกล่าวถึงอาเม่ยที่ทำให้ข้าหายคิดถึงอุ๊งอิ๊งลูกสาวข้าที่มีวัยใกล้เคียงกับนาง ท่านตาบอกข้าว่าคำอธิฐานของข้าทำให้ข้าได้ย้อนกลับมาแก้ไขชะตาของตนเอง ข้าจึงมิได้เสียใจนักที่ตู้จินจินคนเดิมตายไปเพราะนางก็คือข้าและข้าก็คือนาง เพียงแต่นี่คงจะเรียกว่าว่า ‘อดีตชาติ’ คงมิได้ แต่มันน่าจะเรียกว่า มัลติเวิร์ส1 ที่มีตัวตนของเราอีกคนหนึ่ง ในโลกอีกใบหนึ่ง ซึ่งมีจุดกำเนิด แนวคิด วีถีชีวิต และจุดจบแต่งต่างกันไป และมิจำเป็นว่าต้องมีแค่หนึ่งหรือสองตัวตนเท่านั้น และแม้ว่าแต่ละตัวตนในแต่ละโลกจะต่างฝ่ายต่างดำรงชีวิตกันไปโดยไร้ซึ่งความเกี่ยวข้องซึ่งกันและกัน แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นในภพใดภพหนึ่งอาจส่งกระทบถึงภพอื่นๆ ไปด้วยได้เช่นกัน” หลังจากที่เล่าเรื่องราวโดยละเ

  • ข้ามภพมาเป็นเมียหลวงยืนหนึ่ง   ความลับของตู้จินจิน (2)

    “นังหนู นังหนูจิน อย่ามัวแต่นอนอยู่เลย สงสารสวามีเจ้าบ้างเถิด เคราะห์ครั้งสุดท้ายของเจ้าผ่านไปแล้ว” เสียงอ่อนโยนของเทพชราปลุกให้จินมีสติขึ้นมาในความฝัน “ท่านตาเจ้าขา ท่านตาช่วยหลานไว้ใช่ไหมเจ้าคะ หลานกราบขอบคุณเจ้าค่ะ” พร้อมคำพูดร่างแน่งน้อยกุลีกุจอลุกขึ้นยอบกายลงกราบแทบเท้าท่านเทพที่นางเคารพยิ่ง “คราวนี้นับว่าเป็นกุศลที่เจ้าช่วยหลีกเลี่ยงสงครามครั้งใหญ่ทำให้ผู้คนมากมายรักษาชีวิตไว้ได้ เรียกว่าเป็น ‘บุญรักษา’ อย่างแท้จริงก็ว่าได้” “เป็นเช่นนี้เอง ว่าแต่นี่หลานเข้ามาในมิติได้แถมยังพาสวามีมาได้อีกด้วย เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้เจ้าคะ ท่านตาเคยบอกหลานว่ามีเพียงหลานเองที่สามารถเข้าออกมิติแห่งนี้ได้” แม้ว่าจะดีใจที่พาสวามีหลบภัยเข้ามามิติได้แต่ก็ยังไม่วายสงสัยจนต้องตั้งคำถาม “ในภพเดิมของเจ้าก็มีคำกล่าวว่า ‘สามี-ภรรยา เหมือนดั่งคนคนเดียวกัน’ มิใช่รึ” เสียงตอบเรียบๆจากท่านเทพชราพาให้จินคิดตามและเมื่อคิดได้ว่า นางและเขาได้ผ่านการเข้าหอซึ่งถือว่าเป็นสามี-ภรรยากันแล้ว ใบหน้าเรียวพลันขึ้นสีแดงด้วยความขวยเขิน “ข้ามิได้หมายถึงเรื่องนั้น แต่หมายถึงการที่

  • ข้ามภพมาเป็นเมียหลวงยืนหนึ่ง   ความลับของตู้จินจิน (1)

    หลังสรุปผลการชิงธง และรับประทานมื้อเช้าอันอุดมสมบูรณ์ที่พระชายาตู้สั่งมาจากภัตตาคารชิมเมฆา แม้กับข้าวจะมีเพียงต้มจืดซี่โครงหมูกับผักกาดดองไว้ซดให้คล่องคอ และผัดกะเพราหมูสับไข่ดาวที่เติมได้ไม่อั้นครานี้การพรางตัวเป็นไปอย่างง่ายดายเพราะองครักษ์เงานั้นมีการฝึกแปลงโฉมกันอยู่ก่อนแล้ว ตู้จินจินให้ช่างแต่งหน้าจากคณะละครของไป๋เหลียนฮวามาสอนเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยก็เรียกได้ว่าไร้ที่ติ เป้สัมภาระถูกซุกซ่อนในหีบเสื้อผ้า อาหารแห้งปะปนกันทั้งจริงและหลอก อาหารทะเลตากแห้งและเกลือในปริมาณตามที่ได้รับอนุญาตถูกบรรจุไว้ในถังไม้ หรือแม้กระทั่งห่อกระดาษน้ำมันที่ตีตราว่าเป็นใบชา ด้านในกลับเป็นเกาเฟยคั่วบดในซองผ้ากับน้ำตาลอ้อยชนิดผงกองกำลังถูกแบ่งกลุ่มและพรางตัวเพื่อออกเดินทางแล้วแยกย้ายกันไปในรูปลักษณ์ต่างๆ โดยแบ่งกำลังออกเป็น 5 กลุ่ม ทำทีเป็นพ่อค้าบ้าง เป็นคณะละครที่กลับจากแคว้นต้าจินบ้าง ทุกกลุ่มเดินทางทั้งกลางวันกลางคืน เมื่อถึงเมืองชายแดนหลังออกเดินทาง 3 วัน จึงตั้งค่ายพักผ่อนให้เต็มที่ 2 วัน จากนั้นจึงเดินทางเข้าประชิดเป้าหมายคือค่ายโจรเผ่าปาสู่แผนการรบถูกวางและซักซ้อมกันไปแล้วในการฝึกพิเศษ ตู้จินจินถ

  • ข้ามภพมาเป็นเมียหลวงยืนหนึ่ง   ชิงธง (2)

    เมื่อทุกคนตื่นมารับประทานอาหารเย็นในยามโหย่ว เหตุการณ์ที่พวกเขารับรู้ได้ก็ยังไร้วี่แววการบุกหรือถูกบุกจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยสิ้นเชิง ดีที่มื้อเย็นวันนี้เป็นอาหารปิ้งย่างที่ตู้จินจินให้ทางภัตตาคารชิมเมฆาส่งเนื้อสัตว์เสียบไม้สลับกับผักและผลไม้และมีน้ำหมักที่เอาไว้ทาไปย่างไปมาอีก 2 แบบ คือแบบเผ็ดมากและเผ็ดน้อย ส่วนคนที่ไม่เผ็ดนั้นคือเนื้อสัตว์แต่ละชนิดก่อนจะนำมาเสียบสลับกับผักผลไม้ที่ถูกหมักกับน้ำมันงาและเหล้าอย่างดีมาก่อนแล้ว “เจ้าว่าพวกเขาจะเริ่มบุกกันเมื่อใดหรือ” ฮัวตั่วเอ๋อที่ไม่ได้พักผ่อนยามบ่ายเอ่ยถามขึ้น และอีกหลายคนก็ยังจัดการงานในมือมิแล้วเสร็จ “หลังกลางยามโฉ่วไปแล้วกระมัง หากให้คำนวณตามหลักการของคนปกติ ช่วงนี้จะเป็นเวลาที่กำลังหลับลึกที่สุด แต่ว่าข้าก็มิอาจยืนยันได้เพราะพวกเขาผ่านการฝึกให้ต่างจากคนทั่วไป หากใครต้องการพักผ่อนก็ตามสบาย หากมีความเคลื่อนไหวข้าจะให้คนไปปลุกพวกท่านเอง” ตู้จินจินเองก็เพิ่งพักสายตาไปไม่นานเพราะมัวแต่ถูกก่อกวนจากพระสวามีก็รู้สึกง่วงอยู่ไม่น้อย แม้ว่าจะไม่ได้มีอะไรเกินเลยเพราะต่างก็เกรงใจดวงตะวันที่ยังไม่ตกดิน ทั้งยังมิได้พักอยู่ในจวน

  • ข้ามภพมาเป็นเมียหลวงยืนหนึ่ง   ชิงธง (1)

    “กลุ่มเลขคี่ประชุมด่วน” เสียงเรียกประชุมดังขึ้นกลางสวนผลไม้ในชมเมฆา แต่กลับไร้วี่แววของกำลังพลกลุ่มเลขคี่ที่ควรจะมารวมตัวกันเพื่อรับฟังการประชุม องค์ชายรองและพระชายามองหน้ากัน ในสายตามีรอยยิ้มน้อยๆ จนเมื่อหยางต้าซานหยิบนกหวีดทองเหลืองออกมาเป่าเป็นจังหวะสั้นยาวสลับกันสามครั้งจึงเริ่มมีกำลังพลทยอยกันมารวมกลุ่มจนครบทุกนายภายในเวลาเพียงชั่วอึดใจ แสดงให้เห็นได้ชัดถึงระเบียบวินัยและความมั่นคงในจิตใจของกำลังพลที่มิเชื่อคำสั่งของผู้ใดโดยง่าย “ทุกคนพรางตัวได้ดีมาก เรื่องบทลงโทษจึงละเว้นให้ แต่อย่าลืมว่าในยามศึกการลงโทษคือชีวิต คืนนี้ฝ่ายเลขคี่เลือกเป็นฝ่ายบุก ดังนั้นภารกิจที่พวกเจ้าได้รับคือ บุกไปชิงธงสัญลักษณ์ของฝ่ายเลขคู่มาให้ได้ก่อนฟ้าสาง โดยที่ต้องรักษาธงสัญลักษณ์ของฝ่ายตนเองเอาไว้ให้ได้ด้วย โดยทั้งสองฝ่ายต้องสร้างหอธงขึ้นมาในส่วนใดก็ได้ของค่ายพัก และภารกิจจะเริ่มเมื่อตะวันตกดิน นี่คือพลุสีเหลือง พวกเจ้าติดตัวไว้คนละ 1 ดอก หากชิงธงมาได้แล้วให้จุดพลุขึ้นทันทีแล้วภารกิจจะเป็นอันเสร็จสิ้น ส่วนแผนการทั้งหมดให้พวกเจ้าหารือกันเอง ครูฝึกและพวกข้าจะคอยสังเกตการณ์ ห้ามมิให้ถึงแก่ชีวิตและห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status