Home / แฟนตาซี / ข้ามมิติมารวย / ตอนที่ 9 พูดคุยเรื่องธุรกิจและสานสัมพันธ์

Share

ตอนที่ 9 พูดคุยเรื่องธุรกิจและสานสัมพันธ์

last update Last Updated: 2025-11-30 16:15:57

เมื่อจินม่ายเห็นว่าห่าวเยว่และหนิงเฉินไม่โต้แย้งคำกล่าวของเธอ ก็คิดว่าทั้งสองยอมรับมันแต่โดยดีแล้วจึงไม่ได้เอ่ยอะไรขึ้นมาอีกแต่เป็นหลี่จวินที่ชวนหนิงเฉินพูดคุยต่อ

“เฉินเอ๋อ..ถ้าคุณอยากหารายได้พิเศษมาทำงานกับผมก็ได้นะ รับรองว่าผมจะพิจารณาค่าจ้างคุณให้คุ้มค่าเลยทีเดียว” หลี่จวินเสนอตัวช่วยเหลือ

"พี่หลี่จวินนี่เป็นคนดีจริงๆเลยค่ะ หนิงเฉินเธอก็รีบขอบคุณพี่เขาเสียสิ พี่เขาอุตส่าห์มีน้ำใจ” จินม่ายกล่าว

“ขอบคุณค่ะพี่หลี่จวิน แต่ฉันไม่รบกวนดีกว่า เพราะฉันลองคำนวณดูแล้วเงินที่ฉันหาเพิ่มเติมมาได้ก็น่าจะพอ อีกอย่างเหลือเวลาอีกเกือบปีกว่าฉันจะเรียนจบมีเวลาเก็บเงินก่อนเข้ามหาลัยนานพอค่ะ” หนิงเฉินกล่าวอย่างมั่นใจ

‘เพียงเงินที่เธอหามาได้ตอนนี้ก็มากพอค่าเรียนแล้วล่ะ เพียงแต่เธอต้องหาเงินเผื่อเอาไว้เยอะๆเพื่อเป็นค่าปลูกสร้างโรงเพาะชำต้นกล้า ปลูกพืชที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษแล้วไหนจะโครงการพัฒนาผลผลิตของครอบครัวให้ออกผลงามสมบูรณ์ แล้วยังมีโครงการผักผลไม้ใหม่ๆที่เธอคิดจะปลูกเพิ่มกับโครงการปลูกผักใต้หิมะที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อนอีก ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนไม่น้อย’ หนิงเฉินคิดแผนการหาเงินของเธอเอาไว้หมดแล้ว

‘ความจริงเธอยังมีแผนซื้อห้องชุดหรือบ้านเอาไว้ในเมืองตอนเธอมาเรียนที่นี่ด้วยจะได้ไม่ต้องเสียค่าเช่ารายเดือนทุกเดือน สู้สะสมเงินมาซื้อเลยทีเดียวจะคุ้มกว่า หากเธอนำสมุนไพรล้ำค่าไปขายอีกสักหลายรอบ เว้นระยะเวลากันสักหน่อยก็พอจะมีเงินมากพอแล้ว’ หนิงเฉินคิดอย่างรอบคอบ

"หนิงเฉิน..เธอนี่มั่นใจในตัวเองดีเหลือเกินนะ พี่หลี่จวินอุตส่าห์ยื่นมือเข้ามาช่วยด้วยความเห็นใจ เธอก็ยังจะเล่นตัวไม่รับน้ำใจเอาไว้อีก เอาเถอะฉันจะคอยดูแล้วกันว่าเธอจะมีปัญญาทำตามความต้องการได้จริงหรือเปล่า” จินม่ายยังคงไม่เชื่อถือในคำพูดและความสามารถของหนิงเฉิน

“เชิญตามสบายเลยค่ะ” หนิงเฉินตอบรับพร้อมยิ้มให้จินม่ายอย่างสบายอารมณ์ไม่คิดใส่ใจในคำพูดของเธอ ซึ่งหลี่จวินมองว่าหนิงเฉินมีความคิดและวุฒิภาวะทางอารมณ์พอๆกับผู้ใหญ่ที่ผ่านโลกมาแล้วในระดับหนึ่งแทนที่จะเป็นเด็กสาวอายุเพียงแค่ 17 ปี ที่ดึงดูดความสนใจจากเขาได้โดยไม่ต้องพยายามเลยสักนิด

สกุลซูและสกุลโจวต่างฝ่ายต่างชักชวนกันพูดคุยอยู่สักพักใหญ่ ครู่หนึ่งหลี่จวินก็เริ่มเอ่ยเรื่องการซื้อขายผลผลิตทางการเกษตรจากสกุลซูซึ่งทางครอบครัวเขารับซื้อต่อเนื่องกันมายาวนานหลายปีแล้ว หากแต่ยามนี้ถึงเวลาที่เขาจะเปลี่ยนแปลงหรือพูดถึงความจริงที่ต้องการจากการซื้อขายที่เหมาะสมเสียที

“คุณปู่คุณอาซูครับ นับเป็นโอกาสดีจริงๆที่ผมได้มาพบพวกท่านในวันนี้ ดังนั้นแล้วผมจึงอยากจะขอคำชี้แนะอะไรจากพวกท่านเสียหน่อยน่ะครับ” หลี่จวินเอ่ยขึ้น

“ได้สิหลานชายมีอะไรก็พูดมาได้เลย พวกเราล้วนเป็นคนกันเองทั้งนั้น” คุณปู่ซูเอ่ยอย่างอารมณ์ดี

“เรื่องผลผลิตของสวนสกุลซูน่ะครับ ผมอยากจะทราบว่าทางคุณปู่กับคุณอาพอจะเพิ่มจำนวนการผลิตพืชผักผลไม้รวมทั้งคุณภาพให้ดีขึ้นได้ไหมครับ คือตอนนี้ทางผมมีเกษตรกรรายเล็กหลายใหญ่ไม่น้อยมาเสนอขายสินค้าให้มากมายทั้งยังมีปริมาณและคุณภาพที่ดีกว่า หากผมเลือกซื้อขายกับพวกเขาแล้วคงต้องลดกำลังการซื้อจากสกุลซูลง แต่เห็นแก่ว่าเราเป็นคู่ค่าเก่าแก่กันมาจึงอยากจะลองปรึกษาหารือกับพวกท่านดูก่อนน่ะครับ” หลี่จวินเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา

“นี่เสี่ยวจวิน มาพูดเรื่องธุรกิจซื้อขายอะไรกันตอนนี้น่ะ ไม่ได้เรื่องจริงๆ วันนี้เป็นวันที่ปู่นัดสังสรรค์กับเพื่อนรักนะ แกอย่ามาทำให้เสียบรรยากาศได้หรือเปล่า” คุณปู่โจวรีบขัดขึ้นทันที

“ไม่เป็นไรหรอกอู่จิ้ง หลานของนายคงมีเรื่องต้องตัดสินใจเร่งด่วนจริงๆน่ะแหละ เอาล่ะหลานชายขอบใจนะที่พูดออกมาตรงๆแบบนี้ ให้สกุลซูได้มีโอกาสทำตามเงื่อนไขเพื่อดำเนินธุรกิจต่อไปได้” คุณปู่ซูเอ่ยอย่างเข้าใจดีและไม่ได้คิดโกรธเคืองอะไรกับคำพูดตรงไปตรงมาของหลี่จวิน

“ขอบคุณครับคุณปู่ซูที่เข้าใจ” หลี่จวินกล่าวขอบคุณอย่างนอบน้อม

“ตอนนี้ทางเราเองก็มีโครงการขยายเพิ่มเติมและพัฒนาคุณภาพของผลผลิตอยู่เช่นกัน คิดว่าน่าจะพอเหมาะพอดีกับความต้องการของหลานชายได้ล่ะนะ”

“งั้นหรือครับ..ไม่คิดว่าคุณปู่กับคุณอาจะมีหัวคิดก้าวไกลไปกว่าที่ผมคาดเอาไว้เสียอีก เช่นนั้นก็น่ายินดีมากเลยจริงๆเห็นทีผมคงต้องหาโอกาสไปเยี่ยมชมสวนของสกุลซูเสียหน่อยแล้ว”

“ตามสบายเถอะหลานชาย สกุลซูเรายินดีต้องรับเสมอ ส่วนเรื่องโครงการพวกนี้ความจริงก็ไม่ได้มีต้นคิดมาจากปู่แล้วก็อี้เฉินลูกชายปู่หรอกนะ แต่มันเป็นความคิดของเฉินเอ๋อต่างหากล่ะ” คุณปู่ซูบอกตามความจริง เพราะหลานสาวของเขาอยู่ๆก็มาพูดคุยเรื่องขยายและพัฒนาผลผลิตให้เขาฟังได้พักใหญ่แล้ว ที่สำคัญยามนี้เธอก็เริ่มนำปุ๋ยที่บอกว่าได้มาจากเพื่อนที่ไปค้าขายด้วยกันมาใช้ในสวน คาดว่าจะช่วยให้ผลผลิตออกดอกออกผลได้อย่างงดงามเลยทีเดียว

“เป็นเฉินเอ๋องั้นหรือครับ อืมไม่นึกเลยนะครับว่าเด็กสาวอย่างเฉินเอ๋อจะมีความคิดความสามารถมากมายขนาดนี้” หลี่จวินเอ่ยอย่างชื่นชม ทุกคนในที่นั้นก็เช่นกัน ยกเว้นก็แต่สองแม่ลูกบ้านบุตรชายคนโตของสกุลซูนั่นแหละที่ลอบสบตากันและทำหน้าเบ้ปากอย่างอดหมั่นไส้ไม่ได้

“ดูเหมือนหนิงเฉินจะทำอะไรเยอะแยะเกินตัวไปหมดเลยนะคะ คิดเยอะทำเยอะขนาดนี้ไม่ต้องเรียนต่อแล้วล่ะ จบมัธยมปลายมาก็ทำสวนทำไร่ต่อเถอะดูท่าจะเหมาะกว่า อย่าเสียเวลาเก็บเงินร่ำเรียนสูงๆอยู่เลย” คุณนายใหญ่ซูเอ่ยขึ้น

“นั่นสิคะคุณแม่ ฉันก็เตือนแล้วนะว่าหนิงเฉินน่ะอย่าหาเรื่องให้ตัวเองต้องลำบากนักเลย แล้วเที่ยวไปประกาศให้ใครต่อใครรู้ว่าตัวเองจะทำอะไรบ้าง สุดท้ายทำไม่ได้ขึ้นมาระวังจะโดนคนอื่นเขาหัวเราะซ้ำเติมเอาได้นะ” จินม่ายเอ่ยซ้ำ

“พอเถอะเจียหลิน จินม่าย เฉินเอ๋อมีความตั้งใจดีก็ดีมากแล้วอย่าได้พูดเรื่องบั่นทอนกำลังใจกันออกมาแบบนี้อีก” อี้ไห่คุณลุงของหนิงเฉินเอ่ยปรามภรรยาและบุตรสาว

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณลุง ไม่แปลกที่คนซึ่งไม่เคยลงมือทำอะไรด้วยตัวเองจะไม่เข้าใจ สำหรับหนูแล้วการได้ริเริ่มลงมือทำในสิ่งที่ตั้งใจเอาไว้ก็นับว่าประสบความสำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้วล่ะค่ะ ส่วนผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรก็ต้องมารอดูกัน บางทีมันอาจจะไม่ได้ดั่งที่หวังอย่างที่คุณป้ากับพี่จินม่ายพูดก็ได้ค่ะ” หนิงเฉินตอกกลับสองแม่ลูกเล็กน้อยอย่างสุภาพ

พอสองแม่ลูกจะอ้าปากสวนกลับแต่เจอประโยคท้ายที่สนับสนุนความคิดของตัวเองเข้าบวกกับเจอสายตาปรามของอี้ไห่ เลยไม่คิดต่อความอีก เรียกว่าเป็นวิธีตบหัวแล้วลูบหลังอย่างมีศิลปะพร้อมทั้งอาศัยบารมีของคนอื่นมาช่วยเอาคืนเล็กๆน้อยๆได้ดีทีเดียว

“งั้นเห็นทีว่าผมคงต้องติดต่อประสานงานกับหนิงเฉินเพื่อให้รู้ความคืบหน้าของโครงการ รวมทั้งไปเยี่ยมชมแหล่งผลิตเพื่อพิจารณาดูเสียหน่อยแล้วล่ะครับ” หลี่จวินเอ่ยพร้อมส่งยิ้มกว้างให้กับหนิงเฉิน

“เชิญเลยเสี่ยวจวิน..อาจะให้เฉินเอ๋อช่วยดูแลประสานงานกับเธอเป็นอย่างดี” อี้เฉินบอกหลี่จวิ้น

“เฉินเอ๋อ งั้นพ่อก็ฝากลูกดูในส่วนนี้ด้วยนะ” จากนั้นอี้เฉินก็หันไปกำชับหนิงเฉินอีกครั้ง

“ได้ค่ะพ่อ” หนิงเฉินรับคำ ทำให้จินม่ายยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ที่หนิงเฉินมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับหลี่จวินผู้ชายที่ดีพร้อมทั้งรูปร่างหน้าตา ความรู้และฐานะ แต่เธอเองกลับทำอะไรไม่ได้เลย

‘แต่ก็นะ ผู้ชายที่ดีพร้อมดูเลิศไปซะทุกอย่างแบบหลี่จวินคงไม่สนใจเด็กบ้านนอกกะโปโลอย่างหนิงเฉินหรอก คงได้แค่ติดต่อกันเรื่องไร่เรื่องสวนเท่านั้นแหละ ใครจะมาเทียบหญิงสาวสังคมที่สวยและมีสง่าราศีแบบเธอได้กัน’ จินม่ายคิดเข้าข้างตัวเองเต็มที่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้ามมิติมารวย   ตอนพิเศษ 4 : ค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลอง

    หนิงเฉินนิ่งคิดอยู่พักใหญ่หลังจากได้ฟังคำขอให้ช่วยพิจารณาอี้เหรินมากกว่าความเป็นเพื่อน ซึ่งความจริงแล้วใจเธอตอบตกลงไปแล้วล่ะ สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจตอบออกไปตามใจปรารถนา “ได้ค่ะ ฉันเองก็ยอมรับว่าฉันรู้สึกดีกับคุณไม่น้อย คุณเองก็เป็นคนดีคนหนึ่งอีกทั้งยังตรงไปตรงมา คิดอะไรอยากได้อะไรก็มุ่งตรงไปที่เป้าหมายอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด ขนาดรีสอร์ตนี้ที่ทำสำเร็จได้ก็เพราะคุณวางแผนเอาไว้นานหลายปีแล้วนี่คะ ถ้างั้นฉันจะลองเชื่อคุณดูแล้วก็ขอให้คุณพิจารณาฉันให้ดีด้วยเช่นกันเพราะถึงอย่างไรก็ต้องยอมรับว่าระยะเวลาที่เราได้เจอและรู้จักกันนั้นมันสั้นเกินไปจริงๆเพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น เผื่อนานไปคุณได้รู้จักฉันมากขึ้นคุณเองอาจจะเป็นฝ่ายเปลี่ยนใจก็ได้”หนิงเฉินเอ่ยอย่างตรงไปตรงมาและใจกว้างเป็นที่สุด ทำให้อี้เฉินยิ้มออกมาด้วยความพอใจมากทีเดียว “งั้นถือว่าเราเริ่มคบหาเพื่อศึกษานิสัยใจคอกันเรียนรู้กันตั้งแต่วันนี้เลยก็แล้วกันนะครับ”

  • ข้ามมิติมารวย   ตอนพิเศษ 3 : มีคนขอให้พิจารณาเพิ่มอีกคน

    วันนี้อี้เหรินมารับหนิงเฉินเพื่อพาไปชมรีสอร์ตของเขาตั้งแต่แปดโมงเช้า เมื่อมาถึงเขาก็พาเธอไปชมห้องครัวของรีสอร์ตพร้อมแนะนำพนักงานรวมทั้งพ่อครัวให้เธอรู้จักเป็นอันดับแรกตามความต้องการของหนิงเฉิน “เป็นยังไงบ้านครับห้องครัวของรีสอร์ตเรามีอะไรขาดเหลือบ้างหรือเปล่า” อี้เหรินเอ่ยถามขณะพาหนิงเฉินมาสำรวจห้องครัวที่จะใช้ทำอาหารต้อนรับแขก “ดูโดยรวมแล้วก็ครบครันอยู่นะคะ ขนาดเตาอบยังมีพร้อมเลยแบบนี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ถ้าอย่างงั้นคุณลองดูรายการอาหารที่ฉันเตรียมมาให้เลือกก่อนก็แล้วกันค่ะว่าอยากจัดให้มีอะไรบ้าง จากนั้นฉันค่อยจัดเตรียมวัตถุดิบแล้วมาทำให้พวกคุณลองชิมดูก่อนที่ครัวนี้ หากขาดเหลืออะไรจะได้จัดเตรียมให้พร้อม” หนิงเฉินกล่าวอย่างมืออาชีพจนอี้เหรินอดยิ้มพอใจไม่ได้ที่หญิงสาวอายุน้อยอย่างเธอกลับเป็นคนรอบคอบยิ่งนัก ที่สำคัญเธอยังสวยมากอีกด้วย “

  • ข้ามมิติมารวย   ตอนพิเศษ 2 : ชายหนุ่มผู้หล่อเหลาของป้าเสิ่น

    หลังหนิงเฉินนำขนมที่ร้านซูฮ่าวซือบางส่วนไปขายที่ตลาดมืดเสร็จแล้วเธอก็แยกย้ายกับป้าลู่ก่อนกลับมาดูที่ร้านซูฮ่าวซืออีกครั้ง โดยนำวัตถุดิบชั้นเลิศซึ่งได้มาจากตลาดมืดติดมือมาด้วยเป็นปูขนชั้นดีจากมณฑลเจียงซูที่เป็นแหล่งผลิตปูขนแหล่งใหญ่ในประเทศ เมื่อเธอกลับมาถึงร้านห่าวเยว่ก็กลับบ้านไปแล้วเพราะได้เวลาที่เขานัดหมายกับห่าวหมิงเอาไว้ว่าจะช่วยควบคุมดูแลคนงานที่จ้างมาเก็บผลผลิตด้วยกัน จากนั้นเมื่อถึงเวลาทุ่มตรงก็ได้เวลาปิดร้าน เหล่าพนักงานของเธอก็ช่วยกันเก็บกวาดเช็ดถูทำความสะอาดร้านก่อนจะพากันลากลับไปราวสองทุ่ม เหลือเพียงหนิงเฉินที่ตั้งใจจะทำอะไรทานและคิดรายการอาหารเมนูใหม่อยู่เพียงลำพังที่ร้าน ในขณะที่เธอกำลังจะปิดประตูหน้าร้านเพื่อไปหยิบป้ายที่ลืมเอาไว้มาแขวนตรงหน้าประตูว่าร้านปิด จู่ๆกลับมีคนมาดึงประตูร้านอีกด้านหนึ่งเพื่อที่จะเข้ามาด้านใน เสียงกระดิ่งดังกรุ๊งกริ๊งพร้อมกับหนิงเฉินที่ตกใจเล็กน้อยเพราะคาดไม่ถึงว่าดึกป่านนี้แล้วยังจะมีแขกมาเยือนร้

  • ข้ามมิติมารวย   ตอนพิเศษ 1 : เรื่องราวของชายหนุ่มแปลกหน้า

    ตอนนี้ร้านซูฮ่าวซือก็เปิดกิจการมาได้ปีกว่าแล้วโดยกิจการค้าขายของหนิงเฉินเป็นไปได้ด้วยดีมากเลยทีเดียว ซึ่งลูกค้าที่มาใช้บริการในร้านมักจะเป็นผู้หญิงซะส่วนใหญ่เนื่องจากพวกเธอสนใจอาหารที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะขนมของร้านนี้ที่มากมายหลากหลายให้เลือกตั้งแต่เค้กผลไม้รวม เค้กส้ม เค้กลูกพลัม เค้กสตรอว์เบอร์รี่เค้กมะม่วง เค้กกล้วยหอม เค้กลิ้นจี่เป็นต้น ส่วนพวกพายก็มีพายแอปเปิล พายสับปะรด พายมะนาว พายฟักทอง พายสตรอว์เบอร์รี่พายเห็ด พายวอลนัตหรือผลเฮอเถา พายผักโขมและอื่นๆ อีกทั้งยังมีคุกกี้แสนอร่อยอย่างคุกกี้เนยถั่ว คุกกี้วอลนัต คุกกี้ข้าวโพด คุกกี้พุทรา คุกกี้หยางเหมยคุกกี้ส้มและคุกกี้ผลไม้ชนิดอื่นๆอีก ทางด้านเครื่องดื่มก็มีน้ำผลไม้ปั่นหลากชนิด รวมทั้งเอามาปั่นอย่างเดียวหรือผสมกับผักผลไม้ต่างชนิดกัน ไม่ก็นำมาคั้นเป็นน้ำผักผลไม้สด ดื่มดับกระหายได้สุขภาพคุณประโยชน์มากมาย โดยหนิงเฉินคิดสูตรใหม่ๆขึ้นมาตลอด เป็นที่ถูกอกถูกใจผ

  • ข้ามมิติมารวย   ตอนที่ 27 เปิดกิจการร้านซูฮ่าวซือ

    หลังเรียนจบหนิงเฉินก็มาบริหารร้านซูฮ่าวซือเต็มตัว โดยวันเปิดร้านมีครอบครัวสกุลซู สกุลโจว สกุลลู่ รวมทั้งสหายในหมู่บ้านซินหยางและเพื่อนฝูงมากมายของสกุลซูมาร่วมแสดงความยินดีด้วยอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาเลยทีเดียว “เฉินเอ๋อ..อาหารอร่อยทุกอย่างเลย” เหล่าบรรดาเพื่อนมหาลัยที่มาร่วมแสดงความยินดีกับงานเปิดร้านซูฮ่าวซือเอ่ยอย่างชื่นชมหลังจากได้ทานอาหารสดอร่อยจากพืชผักผลไม้สกุลซูซึ่งมีสลัดผักผลไม้โรยด้วยวอลนัตบุบกับน้ำสลัดรสเปรี้ยวอมหวานปรุงพิเศษจากส้มสดๆจากไร่รสหวานอมเปรี้ยวหอมสดชื่นในตัวมันเอง นอกนั้นยังมีบะหมี่ผักที่ทำจากผักสดรสชาติไม่ขมแต่หอมอร่อยเฉพาะตัว นำมาปรุงบะหมี่น้ำ บะหมี่แห้ง บะหมี่ยำกับผักหลากชนิดและเนื้อสัตว์ประเภทต่างๆทั้งหมู ไก่ กุ้ง ปลา มีเกี๊ยวไส้ผักกับหมูสับหมักเครื่องเทศต้มหรือทอดพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด เปาะเปี๊ยะสดไส้หัวไชเท้าขูดเป็นเส้นผัดกับหมูสับใส่กุ้งต้มถั่วลิสงคั่วบด ผักกาดหอม ถั่วงอกทานกับน้ำซอสรสเค็มเผ็ดเปรี้ย

  • ข้ามมิติมารวย   ตอนที่ 26 ถึงเวลาของความรักบ้าง

    หลังจากตอบเหล่าบรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ที่ต่างก็อยากจะจับคู่ให้เธอกับบุตรหลานของพวกเขาเสร็จแล้ว หนิงเฉินก็ขอตัวไปนำของหวานมาให้ทุกคน โดยแน่นอนว่ามีหลี่จวินกับลี่หยางอาสาตามไปช่วยเธอทั้งคู่ “ความจริงพวกพี่สองคนไม่ต้องมาช่วยก็ได้นะคะ แค่เสี่ยวเยว่กับฉันก็พอแล้วล่ะ” หนิงเฉินบอกทั้งสองหนุ่ม “ไม่เป็นไรหรอก พี่นั่งทานอาหารนานแล้ว ได้ลุกมายืดเส้นสายช่วยด้วยก็ดีไม่ใช่เหรอ” ลี่หยางกล่าว “พี่อยากมาช่วยเธอ พร้อมหลบเสียงจอแจด้านนอกสักพักน่ะ” หลี่จวินตอบอีกคน “พี่หนิงเฉิน ในเมื่อพี่มีพี่หลี่จวินกับพี่ลี่หยางมาช่วยเตรียมของว่างแล้ว งั้นผมขอตัวไปกินต่อก่อนนะ รบกวนพี่ทั้งสองคนด้วยนะครับ” เสี่ยวเยว่บอกกับทุกคนก่อนจะรีบวิ่งกลับไปหาอาหารแสนอร่อยด้านนอกทันที ทิ้งให้หนิง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status