และแล้วงานหมั้นระหว่างพัสกรและปุยนุ่นก็เดินทางมาถึง ซึ่งถูกจัดขึ้นที่บ้านของอดีตซุปตาร์อย่างนรวิชญ์ เป็นบ้านของทางฝ่ายหญิงนั้นเอง ซึ้งเป็นงานที่จัดขึ้นตามความต้องการของทั้งสองฝ่าย และได้มีการเชิญนักข่าวมากันหลายสำนักเพื่อทำสื่อ
“พวกเราว่า งานนี้คุณชีโน่จะมาไหม” นักข่าวสาวคนหนึ่งพูดขึ้น เมื่อแขกเหรื่อ กำลังทยอยกันเข้ามา แต่ยังคงไร้วี่แวว อดีตดาราหนุ่มในสังกัด
“แต่คุณชีโน่ หมดสัญญากับทางช่องแล้วน่ะ แถมไม่ต่อสัญญาอีกด้วย” นักข่าวคนหนึ่งเอ่ยเสริม
“เกี่ยวอะไรกันกับต่อสัญญาไม่ต่อสัญญาด้วย” นักข่าวคนแรกพูดขึ้นมาอีก
“ไม่รู้สิ รู้สึกว่ามันแปลกๆยังไงก็ไม่รู้ จู่ๆ คนที่รักในการแสดงอย่างคุณชีโน่ จะไม่ต่อสัญญา และหายหน้าเงียบจากจอไปเลย มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอ”
“พวกเราก็ต้องรอลุ้นว่างานนี้...คุณชีโน่จะมากันไหม”
เสียงซุบซิบพูดคุยกันอย่างเจือแจวของกลุ่มนักข่าว ที่รอการทำสื่ออยู่ที่บริเวณทางด้านนอก และแล้ว ก็มีรถซุปเปอร์คาร์คันหรูแล่นเข้ามาภายในบริเวณนั้นพอดี ทำให้เสียงพูดคุยกันเงียบลง
ท้าวยาวก้าวลงมาจากรถฝั่งคนขับ และรีบเดินไปเปิดประตูให้แก่หญิงสาวที่นั่งมาด้วยอย่างรู้หน้าที่ของตนเอง
เท้าเรียวของหญิงสาว ที่สวมเพียงรองเท้าหุ้มส้นพื้นต่ำ พร้อมกับชุดเดรสสีหวาน ที่เข้ากับตรีมในการจัดงาน ชายหนุ่มยืนตรง พร้อมกับยกแขนขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้หญิงสาวคล้องควง แล้วเดินเข้าไปภายด้านในพร้อมๆกัน
“ไม่ต้องตื่นเต้นครับ...” เสียงนุ่มเอ่ยให้กำลังใจแก่หญิงสาว
“ทำไมนักข่าวเยอะกันจังเลยค่ะ” หญิงสาวเอ่ยถาม เพราะตั้งแต่ที่เธอก้าวขาลงมาจากรถ ทั้งคู่ก็ตกเป็นเป้าสาวตาของผู้คนในงาน และนักข่าวอีกมากหน้าหลายตา พร้อมกับเสียงกดชัตเตอร์ดังขึ้นมา
“ทำใจสบายครับ ไม่ต้องเกร็ง พร้อมน่ะครับ”
“พร้อมค่ะ”
ทั้งคู่เดินเคียงข้างกันไป แต่ไม่ทันที่จะถึงหน้าประตู กลุ่มนักข่าวที่รออยู่ในงาน ก็กรู่กันเข้ามาล้อมรอบ พร้อมกับไมค์ที่จ่อปากของชายหนุ่มทันที
“ขออนุญาตค่ะ...ขอสัมภาษณ์คุณชีโน่ได้ไหมค่ะ” นักข่าวท่านหนึ่งเอ่ยขออนุญาตขอ
“เอ่อ...คือว่าตอนนี้อาจจะไม่ค่อยสะดวกน่ะครับ” ชีโน่เอ่ยตอบนักข่าว พร้อมกับพยายามเอาตัวขวางหญิงสาวจากนักข่าวที่จู่โจมกันเข้ามาสัมภาษณ์แบบไม่ทันได้ตั้งตัว
“ถ้าอย่างนั้น พวกเราก็ถามคำถามหนึ่งน่ะค่ะ คุณผู้หญิงท่านนี้เป็นใครค่ะ ใช่แฟนของคุณชีโน่หรือเปล่าค่ะ”
“ผมขอไม่ตอบ หรือให้สัมภาษณ์ใดๆตอนนี้ครับ พวกคุณช่วยให้เกียรติของเจ้าของงานที่เชิญพวกคุณมาทำข่าวด้วยน่ะครับ ส่วนเรื่องของผม วันนี้อาจจะไม่สะดวกตอบน่ะครับ เพราะว่าวันนี้เป็นงานมงคลของพี่ชายที่เคารพนับถือของผม ผมขอร้องอีกครั้งน่ะครับ โปรดอย่าพึ่งถามอะไรผมตอนนี้ และพวกคุณช่วยให้เกียรติแก่เจ้าของงานด้วย ขอบคุณครับ” ชีโน่ร่ายยาวขึ้นมาทันที พร้อมกับหันไปหาหญิงสาว แล้วกุมมือของหญิงสาวไว้ แล้วพยักหน้าให้แก่เธอเพื่อเป็นกำลังใจให้แก่กัน
“ไปกันเถอะครับ...” เสียงนุ่มเอ่ยเบาๆกับหญิงสาว
“ผมขอตัวก่อนน่ะครับ...ขอทางด้วยครับ” เสียงเข้มพูดขึ้นมาต่อหน้านักข่าว
กว่าร่างสูงพาหญิงสาวเข้ามาในงานได้ ก็ทำให้หญิงสาวลมแทบจับ เพราะข้างนอกอากาศค่อนข้างร้อน และอบอ้าวมาก
“ไหวไหมครับ...” เสียงนุ่มเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง และช่วยพยุงร่างหญิงสาวไปนั่งที่เก้าอี้
“ลินไหวค่ะ...”
และเวลาก็ล่วงเลยมาจวบจนถึงพิธีการต่างๆ ตามขนบธรรมเนียม จนมาถึงพิธีการสุดท้าย คือร่วมแสดงความยินดีกับทั้งคู่ และเก็บภาพต่างๆ
“โอ้ยยย...” เสียงร้องของต้นข้าว หญิงสาวร่างอุ้ยอ้ายดังขึ้นมา
“อ้วนเป็นไรครับ...” เสียงนุ่มเอ่ยถาม พร้อมกับสายตาของทุกคนที่ได้ยินหันมาทางที่ต้นข้าวเป็นตาเดียวกัน
“ข้าวรู้สึกเหมือน...โอ้ยยย”
“หนูข้าวปวดท้องหรือเปล่าลูก...” เป็นณัฐณิชาที่เดินเข้าถามด้วยความเป็นห่วง
“ข้าวว่าน่าจะน่ะค่ะคุณแม่...ข้าวไม่แน่ใจ” ต้นข้าวเอ่ยตอบแม่สามีไป พร้อมกับกุมท้องของตัวเองไว้
“อ้วน...จะคลอดเหรอ แล้วเมฆต้องทำยังไงครับคุณแม่” ปุยเมฆออกอาการลนลานขึ้นมา เพราะไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อน บวกกับอาการตื่นเต้นที่จะได้เจอหน้าลูก
“ใครก็ได้ช่วยเรียกรถพยาบาลให้ทีครับ...” เสียงเข้มของนรวิชญ์พูดขึ้นมา เมื่อเห็นอาการของลูกชายที่เริ่มทำตัวไม่ถูก
เพียงไม่นานรถพยาบาลก็แล่นเข้ามาภายในตัวบ้านของนรวิชญ์ ต้นข้าวถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยเร่งด่วน จากการประสานงานของ หมอโปรด คือลุงหมอของเขานั้นเอง
“นุ่นตื่นเต้นจังเลยค่ะพี่พัด...หลานจะคลอดแล้ว” ปุยนุ่นพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ดีใจ เมื่องานจบลง แขกเหรื่อก็ทยอยกันกลับไป เหลือเพียงครอบครัวของทั้งสองฝ่าย และญาติสนิทที่ตอนนี้รอลุ้นเด็กน้อยที่จะลืมตาขึ้นมาดูโลกต่อจากนี้
“นุ่น...อลินยินดีกับนุ่นด้วยน่ะ ที่นุ่นมีวันนี้ อุตส่าห์เชียร์นาคินมาตั้งนาน” เสียงเอ่ยแสดงความยินดี และเอ่ยแซวเพื่อนสาวของอลินดังขึ้นมา
“เรา...ก็ต้องยินดีกับอลินด้วยเหมือนกันน่ะ มีเบบี๋ และจะได้เป็นคุณแม่แล้ว” ปุยนุ่นเอ่ยแสดงความยินดีกลับมาบ้าง
“ขอโทษน่ะ...ที่อลินไม่ได้บอกนุ่นเป็นคนแรก แถมยังให้นุ่นรู้จากปากของคนอื่นอีก” อลินรีบเอ่ยขอโทษหญิงสาวทันที เพราะตั้งแต่ที่หนีไปเที่ยวกันวันนั้น จนเกิดเรื่อง ทั้งคู่ก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกันเลย
“เราไม่โกรธอลินหรอก...อลินคือเพื่อนของเรานี้ เพื่อนที่อยู่ในทุกช่วงเวลาของเราเลย” ปุยนุ่นเอ่ยบอกอย่างภาคภูมิใจในตัวเพื่อนสาว
“เรื่องนาคิน...อลินขอโทษนุ่นอีกครั้งน่ะ” อลินรู้สึกผิดกับเรื่องนี้อยู่ไม่หาย ได้แต่ขอโทษปุยนุ่นตลอด
“ไม่เป็นไรเลยอลิน...ก็อลินไม่รู้นี้เนอะ คิก คิก” ปุยนุ่นเอ่ยปลอบเพื่อน พร้อมกับเสียงหัวเราะที่ดังขึ้นมา เมื่อปรับความเข้าใจ
“ว่าแต่นุ่นไม่อยากมีน้องเหรอ...” อลินถามขึ้นอย่างรู้สึกสงสัยในตัวเพื่อนขึ้นมา
“เราก็อยากมีน่ะอลิน...แต่เขาไม่ยอมมาเลย เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำยังไงดี” เสียงเอ่ยบอกอย่างหมดหวังของปุยนุ่นดังขึ้นมา ที่พอจะทำให้ชีโน่ และพัสกรที่นั่งอยู่อีกฝั่งได้ยิน
“ทำการบ้านขาดตกบกพร่องหรือเปล่าครับพี่พัด...เมียถึงไม่ท้องสักที อย่างว่าล่ะน่ะอายุก็ปูนี้แล้ว...” เสียงเอ่ยแซวของชีโน่ดังขึ้นมาทันที
“โน่...หุบปากบ้างก็ดีน่ะค่ะ” อลินหันไปดูชีโน่ทันที
“ขอโทษครับ...” ชีโน่เอ่ยขอโทษ พร้อมกับใช้น้ำเสียงที่อ้อนเหมือนเด็ก
“ว่าแต่น้องลิน...ได้ผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะครับ” พัสกรหันมาถามทางอลิน
“ยังไม่รู้เพศเลยค่ะ...” อลินเอ่ยตอบ
“แต่ได้สองเด้งเลยพี่พัด” ชีโน่พูดสวนขึ้นมาอย่างภาคภูมิใจ
“สองเด้งอะไร...” พัสกรถามต่อ เพราะไม่เข้าใจในความหมายที่ชีโน่พยายามจะสื่อ
“แฝดครับ...” ชีโน่เอ่ยบอกอย่างโอ้อวดทันที และอวยด้วยน้ำเสียงที่ดูภูมิใจ
“จริงเหรออลิน...เรายินดีด้วยน่ะ” ปุยนุ่นตาลุกวาวขึ้นมาทันที
“ขอบคุณนุ่นอีกครั้งน่ะ”
“ก็อย่างว่าล่ะแหล่ะ ผมมันมีดี ปล่อยทีเดียวได้มาสองเลย ไม่เชื่อก็ลองถามลินสิ ว่าผมระดับไหน” ชีโน่พูดโอ้อวดขึ้นมาอีกครั้ง
“โน่...” อลินตวัดเสียงใส่ พร้อมกับหน้าที่เริ่มเปลี่ยนสี เพราะความเขินอาย
“ไอ้หื่น...สมแล้วที่ได้แฝด ว่าแต่ท่าไหนว่ะถึงได้มาสอง” พัสกรพ่นคำด่าออกมา แต่แอบกระซิบถามชีโน่ต่อ
“พี่พัด” ปุยนุ่นที่ได้ยินหยิกเข้าไปที่แขนแกร่งของพัสกรทันที
“ไม่รู้ว่าท่าไหนน่ะพี่ จำไม่ได้ รู้แค่ว่า แทงไม่ยั้งก็แค่นั้นเอง บางทีเราเป็นผู้ให้ เราก็ลองเปลี่ยนมาเป็นผู้รับบ้างก็ดี โอ้ย...ที่รัก” ชีโน่พูดออกไปอย่างไม่รู้สึกอายอะไรเลย แต่ก็โดนอลินบิดเข้าไปที่หูหนึ่งที โทษฐานที่พูดไม่หยุด
“ฮ่า ฮ่า สมน้ำหน้า” เสียงหัวเราะดังขึ้น เป็นเสียงเดียวกัน ที่คอยสมน้ำหน้าชายหนุ่มอย่างยอกล้อ
บทส่งท้าย(ตอบจบ)สามเดือนต่อมาวันนี้ครบกำหนดที่เจ้าแฝดจะได้ออกมาลืมตาดูโลกแล้ว ชีโร่พาภรรยาสุดสวยมานอนรอทำการผ่าคลอด เพราะหญิงสาวมีความเสี่ยงในหลายๆอย่าง หมอจึงลงความเห็นให้ใช้วิธีคลอดแบบผ่าเอา“ตื่นเต้นไหมครับ” เสียงนุ่มเอ่ยถาม พร้อมกับไม่ยอมอยู่ห่าง และละมือออกจากมือของหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย เมื่อทั้งคู่อยู่ในห้องที่อลินนอนรออยู่บนเตียงแล้ว“...” อลินได้แต่พยักหน้ารับ โดยไม่ได้ตอบอะไร“ไม่ต้องกลัวน่ะ เค้าจะอยู่กับลิน และรอดูลูกออกมาพร้อมๆกันกับลินครับ” เสียงนุ่มเอ่ยปลอบพร้อมกับลูบศรีษะเธอเบาๆ แล้วก้มลงจุ๊บหน้าผากมนเพื่อเป็นการให้กำลังใจกันใช้เวลาเพียงไม่นาน เจ้าเด็กแฝดก็ได้ออกมาทั้งสองอย่างปลอดภัย น้ำตาแห่งความยินดีของทั้งคู่ไหลออกมาพร้อมกันทันที เมื่อได้ยินแค่เสียงร้อง อุแว้ ดังขึ้นมา ชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างปลื้มปริ่ม พร้อมกับยกมือข้างที่ว่างขึ้นมาปัดคราบน้ำตาที่หางตาของหญิงสาวให้ด้วยความอ่อนโยนอย่างเบาๆ“ลูกเราออกมาแล้วครับ...ขอบคุณน่ะครับ ที่อดทนยอมเจ็บเพื่อลูก เค้ารักลินมากน่ะครับที่รัก จุ๊บ” เสียงนุ่มเอ่ยขอบคุณ แล้วก้มลงจุ๊บหน้าผากมนของหญิงสาวอีกครั้งภาพเหตุการณ์ในห้องคลอดเหล่า
จัดการเองNCสัปดาห์ต่อมาวันนี้ถึงวันที่ปุยนุ่นจะต้องมาถ่ายแบบโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่ทางปุยเมฆได้จัดการเตรียมเอาไว้ให้แล้ว“หาคนอื่นแทนไม่ได้เหรอ...นุ่นท้องอยู่น่ะ” พัสกรเอ่ยถามปุยเมฆขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อนั่งอยู่ที่สตูดิโอกันเพียงสองคน เพราะรอปุยนุ่นได้แต่งตัวก่อน“ไม่ได้แล้วครับพี่...และอีกอย่าง เมียพี่พึ่งจะท้องได้แค่สองเดือนเอง ท้องยังไม่โตเลย หุ่นกำลังดีครับ”“เมฆ...นั้นพี่สาวนายน่ะ นายไม่คิดจะห่วงบ้างเลยหรือไง”“เรื่องห่วงก็ส่วนเรื่องห่วงครับ...เรื่องงานก็ส่วนเรื่องงานครับ พี่ช่วยแยกแยะหน่อยนะครับ”ร่างบางเดินออกจากห้อแต่ตัว ด้วยเสื้อคลุมไว้ เพราะด้านในมีเพียงกางเกงจีสตริง และชั้นในปิดแค่เพียงจุกอวบเท่านั้น“เปิดเสื้อให้พี่ดูหน่อยครับ...” พัสกรพูดขึ้น พร้อมกับจับหญิงสาวหันหน้ามาทางเขา แล้วเปิดเสื้อดูสำรวจก่อนที่จะถ่ายจริง“พี่พัด” ปุยนุ่นเอ่ยเรียกคนตรงหน้าที่ตอนนี้ มอมาที่เธอตาค้างมันวาวอยู่ แถมไม่พูดอะไรออกมา พร้อมกับกลืนน้ำลายฝืดลงคออีก“ไอ้เมฆ...สั่งทุกคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปจากห้องนี้ให้หมด รวมถึงนายด้วย แล้วสั่งปิดกล้องวงจรที่ห้องนี้ทุกตัวทิ้ง ส่วนตากล้องพี่ถ่ายเอง” พัสกรหันมาสั่งท
สำเร็จ สายของวันสองร่างเปลือยเปล่านอนกอดกันกลมเกลียว ที่ยังหลับสนิทอยู่บนที่นอนกว้าง ร่างสูงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก่อน เพราะเสียงกดออดที่หน้าห้องดังขึ้นมา ร่างสูงขยับลุกขึ้นมาแต่งตัว แล้วเดินออกไปข้างนอกโดยไม่ลืมที่จะเก็บของนอกห้องไว้เป็นที่ เป็นทางเสียก่อน จึงค่อยเดินไปเปิดประตูให้แก่คนที่มากดออกอ๊อด อ๊อด อ๊อด“พี่ก็นึกว่าใครที่ไหนมากดออดอยู่หน้าห้องพี่” เสียงเข้มพูดขึ้นมาทันที ที่เปิดประตูออก“แหม่...ถ้าพี่ไม่ปิดมือถือ ผมก็คงไม่ต้องถ่อมาหาพี่ถึงที่นี่หรอกครับ พอๆกันเลยทั้งผัวทั้งเมีย” ปุยเมฆพูดขึ้น เพราะว่าไม่สามารถติดต่อพัสกรได้ จึงได้มาหาที่คอนโดแทน เพราะรู้ว่าชายหนุ่มพาพี่สาวมาค้างที่นี่อยู่แล้ว“มีเรื่องอะไร หรือเปล่า” พัสกรเอ่ยถามด้วยสีหน้ามีึนงง“เรื่องที่บริษัทมีปัญหานิดหน่อยครับ โฆษณาที่เราถ่ายเมื่ออาทิตย์ก่อน ทางนั้นจะขอส่วนแบ่งเรื่องค่าตัวพรีเซนเตอร์ครับ ผมตัดสินใจเองไม่ได้เลยต้องมาปรึกษาพี่ ว่าจะเอายังไงต่อ ส่วนตัวผมคิดว่าผมหาคนมาแทนได้ครับ แต่อยากมาถามความเห็นพี่ก่อน” ปุยเมฆเอ่ยบอกไป ถึงเขาจะมีสิทธิ์ในการตัดสินใจในทุกเรื่องของบริษัท แต่ชายหนุ่มก็ยังให้เกียรติพัสกรอยู่ดี
วันไข่ตกNCคอนโดหรูของพัสกรพัสกรพาหญิงสาวกลับมาที่คอนโดของเขา แทนที่จะไปที่บ้านของหญิงสาว เพราะว่าวันนี้ปุยเมฆและต้นข้าวเอาปุยฝ้ายไปฝากไว้ให้อยู่ที่บ้านกับพ่อแม่อีก และทั้งคู่ก็หน้าจะกลับไปค้างที่บ้านหลังนั้นด้วยเลย พัสกรจึงตัดสินใจพาปุยนุ่นมาที่คอนโดเขาแทน เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนคนอื่น และไม่ให้ใครมารบกวนพวกเขาด้วย“ทำไมเราไม่กลับ ไปที่บ้านกันล่ะค่ะ พี่พัด” ปุยนุ่นเอ่ยถามไปด้วยใบหน้างงๆ เพราะร้อยวันพันปี พัสกรไม่เคยพาเธอมาค้างที่นี่เลย เพราะส่วนใหญ่จะค้างที่บ้านกันมากกว่า“จะกลับไปรบกวนคนที่บ้านทำไมกันครับ...ที่บ้านคนเยอะจะตาย คืนนี้เป็นเวลาของเราน่ะ โทรบอกคนที่บ้านด้วยครับ แล้วก็ปิดเครื่องห้ามใครรบกวน” เสียงนุ่มของพัสกรเอ่ยสั่งร่างบางขึ้นมาทันที พร้อมกับสวมกอดหญิงสาวท จากทางด้านหลังเอาไว้ปุยนุ่นทำตามที่พัสกรบอกอย่างว่าง่าย และปิดทุกอย่างตามที่ชายหนุ่มบอก แล้วก็วางทุกอย่างลงที่โชฟาตัวยาวข้างตัวที่เธอยืนอยู่ร่างสูงพุ่งเข้าไปชิงจูบอย่างดุดันทันที เมื่อหญิงสาววางทุกอย่างลง และทำตามที่เขาบอก โดยไม่อาจทนรออีกต่อไปได้ และจัดการถอดเสื้อผ้าของหญิงสาวออกจนหมดอย่างไม่รีรอ ตามด้วยเสื้อผ้าของ
ประธานบริษัทฯคนใหม่หนึ่งเดือนต่อมาวันนี้เป็นวันที่ธนาจะทำการเปิดตัวประธานคนใหม่ของบริษัทฯ ซึ่งบริษัทของเขาเป็นบริษัทที่ผลิตเกี่ยวกับเครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งส่งออกไปยังประเทศต่างๆ และตามโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งธนาเองก็เคยมีเพื่อนฝูงมากมาย และหุ้นส่วนกันกับโรงพยาบาลต่างๆ และเคยมีธุรกิจสีเทามาก่อนตอนสมัยที่ยังหนุ่มๆ หรือที่เรียกง่ายๆก็คือ เคยเป็นมาเฟียเก่ามาก่อนนั้นเอง“ขอบคุณทุกท่านมากน่ะครับที่วันนี้ ให้เกียรติมาร่วมแสดงความยินดี เปิดตัวประธานคนใหม่ของผม” ธนาพูดขึ้นมา เมื่ออยู่บนเวที“วันนี้เป็นวันที่ผมในนามประธานบริษัท ขอเปิดตัวประธานคนใหม่ ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของผมเองครับ ชีโน่ ชิษณุพงศ์ ปัญญาพิวัฒน์” ธนาเอ่ยแนะนำตัว พร้อมพรีเซนต์ตัวลูกชายไปพร้อมๆกัน“พร้อมน่ะครับ...ไปครับ” เสียงนุ่มเอ่ยกับอลินหญิงสาวข้างกาย ที่วันนี้พามาเปิดตัวพร้อมกันด้วยเลยเสียงปรบมือดังขึ้นมาพร้อมเพรียงกัน เมื่อทั้งคู่เดินขึ้นมาบนเวทีพร้อมกัน และที่ต้องทำให้ทุกคนตกใจนั้นก็คือ อลินพนักสาวของบริษัท ที่พึ่งจะเจ้ามาทำงานได้ไม่นาน และตอนนี้หญิงสาวกำลังตั้งท้องอยู่ แต่ไม่มีใครทราบว่าเธอคือใคร บวกกับเดียน่าที่ไม่ยอมปริปาก
เยี่ยมหลานสาวหนึ่งเดือนต่อมาหลังจากที่งานพัสกรและปุยนุ่นในวันนั้น ผ่านมาเพียงแค่สองสัปดาห์ งานวิวาห์ของชีโน่ และอลิน ก็ถูกจัดขึ้นมาอย่างเร่งด่วน และความเรียบง่าย มีแค่เพียงคนสนิท และญาติพี่น้อง ซึ่งจัดแค่พอเป็นพิธี ไม่ได้มีการเชิญนักข่าวมาทำสื่อแต่อย่างใด ตามความต้องการของบ่าว-สาว เพราะชีโน่ตั้งใจไว้แล้ว ว่าจะจัดงานสองครั้ง เพื่อเป็นการให้เกียรติภรรยา และแม่ของลูกอลินที่ตอนนี้ท้องเริ่มโตแล้ว เพราะท้องลูกแฝด วันนี้ก็ครบหนึ่งเดือนแล้ว ที่ต้นข้าวได้ให้กำเนิดลูกสาว ซึ่งตรงกับวันหมั้นของพัสกรและปุยนุ่นพอดี แล้ววันนั้นทั้งปุยนุ่นและอลิน จึงนัดกันมาผูกขวัญหลานที่บ้านของนพคุณณ บ้านอัศวโสภณ“มากันแล้วเหรอ” ปุยเมฆเอ่ยถามเมื่อคนทั้งสี่ เดินเข้ามาพร้อมหน้ากันที่ห้องรับแขก และสัมภาระของรับขวัญหลานต่างๆ เต็มไม้ เต็มมือไปหมด“นี่...พากันซื้ออะไรมาตั้งเยอะแยะ ผมบอกแล้วไงครับ ว่าไม่ต้องซื้ออะไรมา” ปุยเมฆพูดขึ้นมาอีกครั้ง ที่เห็นของเต็มไปหมด ที่ทั้งสี่มอบให้“นุ่นก็อยากซื้อมาฝากหลานนี้เมฆ” ปุยนุ่นพูดขึ้นมา เพราะเธออยากมีเป็นของตัวเอง แต่จนป่านนี้แล้วเธอก็ยังไม่ตั้งท้องสักที“ทุกคนตามสบายเลยน่ะครับ