“อืม...นั่นแหละๆ มันใช้ดีมากเลยนะ ทาก่อนนอน ตอนตื่นขึ้นมายังรู้สึกได้ว่าผิวนุ่มเนียนกว่าเดิมมาก”
“เฮ้อ...ของดีเช่นนั้นมีเพียงเจ้าเท่านั้นที่เห็นค่า”
“สหายรักเจ้าอย่าเพิ่งน้อยใจไป เอาแบบนี้ดีหรือไม่? ข้าสรรหาวัตถุดิบวนเจ้าคิดค้นและผลิตเครื่องประทินโฉมสมุนไพรเพื่อสุขภาพและความงามล้ำเลิศออกมา ส่วนข้าจะช่วยทดลองใช้ เพื่อคัดอีกทีว่าสิ่งใดใช้ได้ไม่ได้ ตัวไหนดีหรือไม่ดี ชนิดใดใช้แล้วผิวเกิดแพ้มีผดผื่นขึ้นมา”
“อืม...ตกลงตามนี้” สักพักติงยวี่เริ่มเครียดอีก “อา..ข้าสามารถคิดค้นและทำออกมาได้หลากหลายก็จริง แต่จำนวนอาจได้ไม่เยอะ เงินทุนน้อยนิด จะเพียงพอวางขายหน้าร้านรึ?”
“ไม่เป็นไร เจ้าทำออกมาแค่แบบละอันสองอันเป็นตัวอย่างก็พอ”
“อ้อ สั่งผลิตตามออเดอร์ อืม แล้วมีโปรโมชั่นไหม? จัดให้มีเซตด้วยเป็นอย่างไร?”
มีคำแปลกๆ อีกล่ะ หลินซิงเยียนขมวดคิ้วนิ่วหน้า พยายามทำความเข้าใจวาจาพิลึกพิลั่นนั้นของสหาย
ติงยวี่ถิงซึ่งลืมตัวพูดภาษาต่างโลกอีกแล้วรีบอธิบายอย่างลุแก่โทษ “เจ้าอย่าเพิ่งท้อแท้ที่มีข้าเป็นสหายเชียว! คืออย่างนี้ ข้าหมายถึงหากใครสนใจก็แค่ทำสินค้าออกมาตามรายนามที่สั่งจองไว้ โปรโมชั่นคือราคาพิเศษ ส่วนลด แล้วก็ เซต คือการจัดสินค้าที่เป็นชุดๆ”
หลินซิงเยียนทำความเข้าใจได้ง่ายดาย
“อืม… ข้าชอบความคิดเจ้า เอาสินค้าสี่ฤดูขายแยกและรวมชุด ย่อมทำยอดได้เพิ่มขึ้นแบบหลากหลาย ส่วนราคาพิเศษมีก็ดี เช่นนี้พอมีคนติดใจหาซื้อใช้เพิ่ม เดี๋ยวค่อยขึ้นราคาทีหลัง เอาแบบกินกำไรระยะยาวดีไหม? เฮ้อ...ดีนะที่ข้าฉลาดมาก มิเช่นนั้นพวกเราคงคุยกันไม่รู้เรื่อง แต่เจ้าไปเอาคำพวกนี้จากที่ใดหรือ? มีหนังสือกับตำราสอนกระมัง? ข้าเรียนบ้างได้หรือไม่?”
ติงยวี่ถิงพยักหน้าถี่รัว สหายช่างฉลาดปราดเปรื่อง ชอบเรียนรู้และมีใจเปิดกว้าง
อีกฝ่ายว่าอีก “อ้อ...ข้าช่วยออกแบบตลับได้ด้วยนะ ข้อมือข้าแข็งแรงมาก สลักลวดลายบนเนื้อไม้บนเนื้อหยกได้ รับรองว่าพอนำเครื่องประทินโฉมใส่ลงไป สินค้าย่อมงดงามน่าซื้อ แม้เงินทุนเราน้อย แต่อาจเพิ่มมูลค่าสินค้าได้”
ติงยวี่ถิงดีใจแทบหลั่งน้ำตา “ดีเหลือเกินซิงเยียน ข้าอยากทำมาตั้งนานแล้ว ติดตรงที่ไม่มีเงินและไม่มีคู่คิดแบบหัวก้าวหน้า สวรรค์! เจ้ามาอยู่เมืองหลวงใกล้ข้าเสียที เจ้าว่าอย่างไร ข้าว่าตามอย่างนั้น ผู้มีพระคุณของข้า...”
“ใครคือผู้มีพระคุณกันแน่ ตอนนั้นข้าปางตาย หากไม่ได้เจ้าช่วยแก้พิษให้ทันท่วงที ข้าคงไม่รอดแล้ว เจ้าเคี่ยวกลางป่า ความสามารถของเจ้าน่าทึ่งเป็นที่สุด”
หลังจากนางได้เข้าร่วมงานเลี้ยงพระสนมเหลียนเฟยพร้อมสหาย อีกฝ่ายพลันกลายเป็นคู่หมั้นขององค์ชายสี่เจิ้งจื่อหมิง พระองค์ทรงร่วมลงทุนเพื่อเอาใจหลินซิงเยียน ผลพวงที่ได้ก็คือโรงยาเจี้ยนคังก็ค่อยๆ เติบโตราวกับพลิกฟ้า
หลังจากจัดท่าให้คุณหนูเว่ยลงนอนบนตั่งตัวยาวและเริ่มต้นขั้นตอนการดูแลผิวพรรณอย่างนุ่มนวลเอาใจใส่ ตั้งแต่ทำความสะอาด ขัด พอก ประคบร้อนและเย็นต่างๆ ระหว่างนวดกดจุดเรียกเลือดลม ระบายความอัดอั้นภายใน ติงยวี่ถิงอธิบายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนไปด้วย นางบอกถึงสิ่งที่ต้องทา ต้องหมั่นบำรุงเพิ่มเติม และสิ่งที่ต้องใช้ประกอบการนวด เสริมด้วยยาสมุนไพรตัวใดเพื่อให้ผิวกลับมาเนียนนุ่มชุ่มชื่น แต่แทนที่คุณหนูเว่ยจะชอบใจกลับเอ่ยเสียงเย็นชายืดยาว“ข้าไม่ได้อยากสะสวยปานนั้น ทางที่ดีเจ้าช่วยทำให้ข้าขี้ริ้วขี้เหร่ไปเลยก็ได้ อุตส่าห์เดินตากแดดตั้งหลายวัน สุดท้ายท่านแม่ก็เชิญเจ้ามาดูแล ข้าเบื่อจะแย่ ถูกบังคับให้งดงามเพื่อเอาใจบุรุษ ท้ายที่สุดก็คงถูกบังคับแต่งงานกับใครไม่รู้ คนเราต้องได้แต่งกับคนที่รักสิถึงจะถูก” พูดพลางปรายตามองเหยียด “เจ้าเอง ข้ายังได้ยินข่าวลือ เพราะไปบีบเค้นเขาจนได้แต่งงานนี่ แล้วเป็นอย่างไรเล่าตอนนี้ ถูกหย่าร้างกลายเป็นหญิงหม้าย ข้าไม่อยากเป็นเช่นเจ้าหรอกนะ”การเป็นหญิงหม้ายให้รู้สึกเหมือนเป็นดาราท่านหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงโด่งดังขจรไกล ใครๆ ล้วนรู้จัก รู้กระทั่งประวัติ ประหนึ่งเป็นคนรู้จักชิดใกล้
โรงยาเจี้ยนคังติงยวี่ถิงกำลังคัดแยกสมุนไพรอยู่ตรงตั่งหลังร้าน จังหวะนั้นเจียวมิ่งเดินเข้ามา “มีเทียบเชิญถึงนายหญิงเจ้าค่ะ”ติงยวี่ถิงวางงานในมือรับกระดาษแผ่นน้อยมาเปิดออกอ่าน ใจความว่าสกุลเว่ยกำลังจะจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้คุณหนูใหญ่เว่ยหนิง ขอเชิญเถ้าแก่เนี้ยโรงยาเจี้ยนคังไปให้ความดูแลผิวพรรณและบำรุงความงาม เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับงานเลี้ยงที่กำลังจะเกิดขึ้นย่อมเป็นการทำสปาผิวเดลิเวอร์รี่นั่นเองการรับงานนอกเช่นนี้เป็นแผนการตลาดแบบใหม่สำหรับที่นี่ซึ่งได้ผลตอบรับดีเยี่ยมจากเดิมร้านขายยาทั่วไปมีเพียงคนป่วยเข้ามาซื้อหาสมุนไพร แต่ตอนนี้ร้านขายยาของนางนอกจากคนป่วยยังมีคนสวยเต็มไปหมด และเมื่อก่อนมีเพียงการเชิญท่านหมอไปดูอาการคนป่วยถึงในจวน แต่ยามนี้เชิญคนขายยาเช่นนางเข้าไปดูแลบำรุงความงามแทน “เตรียมรถม้าเลย ข้าจัดของสักครู่” ติงยวี่ถิงสั่งการ“เจ้าค่ะ” เจียวมิ่งวิ่งออกไปบอกสารถีทันที เสี่ยวจิงรีบเข้ามาช่วยนายหญิงจัดของอย่างขยันขันแข็ง สิ่งของที่ต้องนำไปใช้ล้วนเป็นเครื่องบำรุงผิวชั้นเลิศที่ติงยวี่ถิงคิดค้นขึ้นให้เหมาะกับสภาพอากาศและสตรีที่นี่ นับเป็นการบริการพิเศษทำเงินได้มากกว่าเด
นางหรือก็เห็นว่าเขาหย่าแล้ว พวกเรากำลังจะได้แต่งงานกันในไม่ช้า ตั้งใจจะทอดกายให้คืนนี้เลยเพราะเขาบังเอิญเจออดีตภรรยาสินะ!หญิงสาวกระทืบเท้าขัดใจ สะบัดหน้าเดินออกจากห้องของเซียวหงเย่ไปอย่างหงุดหงิด คิดแล้วก็ได้แต่เกลียดนังติงยวี่ถิงยิ่งนัก!อีกฝั่งของห้องพัก เซียวหงเย่ไม่สนใจเหวินฟางอีก เพียงเดินเข้าห้องอาบน้ำ เปลื้องผ้าออก ค่อยเดินโทงเทงไปนั่งลงถังไม้ที่มีน้ำอุ่นเติมไว้จนเต็มระหว่างแช่น้ำอย่างต้องการสงบสติอารมณ์ขุ่นมัว เขายังไม่ลืมสำรวจเรือนร่างอันสง่างามสมบูรณ์แบบของตน ความทรงจำของร่างเก่ายังคงพร่างพรูไม่หยุดชายหนุ่มพอจำได้เลือนรางว่าครั้งหนึ่งเคยถูกสาดน้ำจากบนชั้นสองของโรงน้ำชาเช่นกันและยังคงเป็นฝีมือของอดีตภรรยาผู้นั้นเหมือนเดิม เพียงแต่เรื่องราวกลับแตกต่างไป วันนี้นางไม่ได้มานอนข้างกายเขาเหมือนเก่าตอนนั้นชาวบ้านคนหนึ่งบังเอิญเดินมาเห็นเขาที่เปียกปอนจึงแสดงน้ำใจพาเขาเข้าไปเปลี่ยนผ้าที่โรงเตี๊ยม ขณะผลัดผ้าคนเดียวในห้องจู่ๆ รู้สึกง่วง แล้วเขาก็สลบไป ตื่นมาอีกทีพลันพบว่านอนเปลือยเปล่าอยู่กับติงยวี่ถิง แล้วพวกเราก็จำต้องแต่งงานกันเซียวหงเย่หลับตาอิงแผ่นหลังกว้างกับถังอาบน้ำน
โรงเตี๊ยมยู๋อี้บุรุษหนุ่มหล่อเหลาพาร่างสูงที่อาภรณ์เปื้อนเลือดไก่เดินเข้ามาในห้องพักชั่วคราว เพื่ออาบน้ำชำระล้างร่างกาย โดยมีหญิงงามเดินตามเข้ามาไม่ห่าง แววตานางจับจ้องที่เสื้อผ้าแนบกายจนเผยมัดกล้ามเล็กๆอันงามสง่าสมเป็นบุรุษเพศน่าหลงใหลบุรุษเปี่ยมเสน่ห์ผู้นี้นางปรารถนาชิดใกล้ตลอดเวลา“ท่านพี่หงเย่ อดีตภรรยาของท่านผู้นั้นไฉนยังทำตัวเลวร้ายเช่นนี้ ข้าได้ข่าวว่านางตกอับกระทั่งร้านค้าของสกุลที่ร่ำรวยในจินโจวยังรักษาไว้มิได้สักร้าน ต้องระหกหระเหินขอทานไปทั่ว ยังทำตัวเป็นหมอยาหลอกขายสมุนไพรประทังชีวิต พอหลอกคนในเมืองจินโจวไม่ได้ก็มาเมืองหลวง ที่นี่มีผู้คนมากหน้าหลายตาถูกนางหลอกก็แล้วไปเถิด แต่ท่านอย่าเข้าใกล้นางอีกเชียว นางอาจจะใช้เล่ห์เหลี่ยมเข้าหาท่านเอาได้ อันตรายอย่างยิ่งเจ้าค่ะ ท่านเคยพลาดมาแล้วครั้งหนึ่งนะเจ้าคะ ข้าเป็นห่วงเหลือเกิน” เหวินฟางกล่าววาจายาวเหยียดอย่างเป็นกังวลแต่เซียวหงเย่ไม่เอ่ยต่อคำใดเพียงหันมาเอ่ยเสียงต่ำ “คุณหนูเหวิน ห้องพักของเจ้าอยู่ทางนั้น” ว่าพลางปรายตามองไปทางห้องฝั่งตรงข้าม นับเป็นการไล่อย่างเย็นชา ทว่าเหวินฟางกะพริบตามองเขาอย่างใสซื่อ ไม่เข้าใจ “ท่านพี่หง
ช่วงนี้โรงยาเจี้ยนคังต้องเร่งผลิตสินค้าเติมคลังตามคำสั่งซื้อที่รับมาจากงานเลี้ยงในวังติงยวี่ถิงจึงต้องรับคนงานเข้ามาเพิ่มอีกหลายสิบคน พวกเขาขยันแข็งยิ่งถึงขั้นทำงานหามรุ่งหามค่ำไม่ยอมพัก นางจึงต้องดูแลเรื่องอาหารการกินอย่างดีเยี่ยม ถึงขั้นลงมือเข้าครัวทำอาหารด้วยตัวเองเสียเลยหญิงสาวมีเสน่ห์ปลายจวักติดมาจากชาติภพที่แล้ว จึงมีลักษณะของความแปลกประหลาดของอาหารอยู่มาก ทำเอาสาวใช้ทั้งสองสนเท่ห์ยกใหญ่ พวกนางตั้งหน้าตั้งตารอกินอาหารฝีมือนางเหมือนเด็กๆ ทุกวัน“ข้าสั่งคนงานที่ตลาดเข็นผักและแล่เนื้อมาส่งแล้ว ข้าจะไปหาซื้อเพิ่มแค่เล็กน้อย พวกเจ้าทำงานอยู่ที่นี่แหละ ไม่ต้องตามมา”“เจ้าค่ะ” เสี่ยวจิงกับเจียวมิ่งรับคำขณะทำงานมือเป็นระวิง แม้ไม่รู้และไม่คาดคิดว่าเจ้านายของตนจะทำร้านยาได้ก็ตามติงยวี่ถิงมองสาวใช้อย่างพึงพอใจ พวกนางสมองไว สามารถจดจำและเรียนรู้สิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนได้รวดเร็ว เจ้าของร่างเก่าผู้นั้นได้ครอบครองอัญมณีล้ำค่าโดยแท้ เพียงแต่ใช้งานผิดประเภทมาหลายปี ช่างน่าเสียดายเพราะนางรู้ซึ้งเช่นนี้จึงพยายามเก็บเงินให้มากที่สุดและใช้ไปกับการไถ่ตัวทั้งสองกลับมาดูแลกันและกัน เพื่อชดเชยความ
สาวใช้ทั้งสองพากันตำหนิด่าทอจนพอใจจึงหันมาถามนายหญิงของตนด้วยอารมณ์ขึงขัง สีหน้าจริงจังอย่างต้องการไปทำชั่วจนตัวสั่น“นายหญิง สั่งการมาเลยเจ้าค่ะ” ติงยวี่ถิงพอคาดเดาได้ว่าคนที่ทำให้น้ำเย็นสงบนิ่งของสองสาวใช้กลายเป็นน้ำร้อนเดือดปุดๆ นั้น เป็นใคร?อดีตสามีของติงยวี่ถิงคนเก่ากับสตรีคนใหม่ของเขา“ท่านไม่โกรธหรือเจ้าคะ? บ่าวยังโกรธแทบตาย” เสี่ยวจิงโมโหจนหน้าแดงก่ำ “พวกเขาทำกับท่านขนาดนั้น”“ใช่” เจียวมิ่งพยักหน้ากล่าวเสริม “เขาได้มีโอกาสหาภรรยาคนใหม่ที่พึงใจอย่างแท้จริง ในขณะที่ท่าน...เฮ้อ!”พูดไปพูดมาก็พากันร้องไห้ตามประสาบ่าวผู้ภักดีที่ต้องทนเห็นนายหญิงของตนไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเหตุหย่าร้างติงยวี่ถิงถอนหายใจและไว้อาลัยให้กับสังคมโบราณ ในยุคสมัยนี้สตรีของที่นี่ใช้ชีวิตลำบากกว่ายุคสมัยที่จากมา ประเพณีต้าเจิ้งแห่งนี้บุรุษสามารถแต่งงานได้หลายครั้ง ในขณะที่สตรีหม้ายหมดโอกาสแต่งสามีใหม่หากไม่ผูกคอตายเพื่อล้างอายให้ครอบครัวบ้านเดิมย่อมต้องโกนหัวบวชชี หรือไม่ก็เร้นกายหายไปตลอดชีวิตนี่แหละที่นางรู้สึกเสียดายเอามากๆ ชาติก่อนตายโดยที่ยังไม่ทันมีแฟน พอมาชาตินี้กลับหมดสิทธิ์หาแฟน เฮ้อ! คิดดูเถ