การข่มขู่ของเขามันเหมือนกับลมหายใจที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งพุ่งเข้าหาชาร์ล็อต ชาร์ล็อตนึกถึงการลงโทษของแซคคารีที่ทำกับวิกเตอร์ทันที ใบหน้าของเธอซีดเผือด “ฟะ ฟังฉันนะ… ฉะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉะ ฉันกำลังเดินละเมอ… ใช่แล้ว! ฉันอาจจะเดินละเมอ ถามพ่อของฉันได้เลย ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันกำลังนอนหลับและฝันว่ากำลังเดินอยู่!” ขณะที่เธอพูด เธอสังเกตเห็นมุมปากของแซคคารียกขึ้น แม้แต่ริมฝีปากที่โค้งงอแบบสบาย ๆ ก็ทำให้ชายผู้หล่อเหลาคนนี้ดูสมบูรณ์แบบอย่างที่สุด 'เขายิ้มหรือเปล่านะ?' ยังไงก็เถอะ ไม่นานชาร์ล็อตก็ตระหนักได้ว่า ความคิดนั้นมันโง่แค่ไหน แซคคารีจะยิ้มได้ยังไงล่ะ? เห็นได้ชัดว่าเขาโกรธจนปากสั่น! “เธอหมายความว่า ฉันดูโง่สำหรับเธองั้นเหรอ?” ริมฝีปากที่เย็นเยือกของแซคคารีผุดขึ้น เขาเน้นทุกคำ และทุกพยางค์มันเคลือบด้วยน้ำค้างแข็งที่สามารถเจาะทะลุกระดูกได้เลย ชาร์ล็อตรู้สึกราวกับว่าเธอกลายเป็นน้ำแข็ง แซคคารีปล่อยเธอ เขาเอามือที่จับเธอออก และมันก็ทำให้เธอล้มลงกับพื้นจนเกิดเสียงสนั่นหวั่นไหว “ฉันจะขังเธอไว้” เขาละสายตาที่เย็นชาและหงุดหงิดออกจากเธอ เขามองตรงไปข้างหน้า “ต่อไปนี้ บ้
แซคคารีเดินออกจากห้องนอนทันทีขณะที่เขาพูด ชาร์ล็อตใกล้จะเสียสติ และดวงตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตาที่อ้างว้าง “นายบอกว่า นายจะขังฉัน นายจะขังฉันไว้นานแค่ไหน?” “นั่นมันจะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของเธอ” แซคคารีตอบ “อาจเป็นสัปดาห์ 1 เดือน 1 ปี… หรืออาจอยู่ไปจนวันตายก็ได้” ขาของชาร์ล็อตหมดแรง และเธอก็ทรุดลงกับพื้น แซคคารีหันกลับมาด้วยการแสดงออกที่เย็นชาและน่ากลัว “ลืมอะไรไปรึเปล่า เธอมีเวลา 10 วินาทีที่จะออกไปจากห้องของฉัน ถ้าเกินมาแค่ 1 วินาที ฉันจะขังเธอเพิ่มไปอีก 1 ปี” ชาร์ล็อตถึงกับพูดไม่ออก ใบหน้าของเธอกระตุก เธอลุกขึ้นยืนในวินาทีต่อมาและรีบพุ่งออกจากห้องของแซคคารี เธอล็อกประตูห้องนอน และขึ้นไปนั่งบนเตียง เธอคว้าตุ๊กตาหมีซึ่งวางอยู่ข้างหัวเตียงอย่างไม่พอใจ จากนั้นเธอก็ใช้นิ้วจิ้มจมูกของตุ๊กตาหมีอย่างแรง “แซคคารี ไอ้คนบ้า! นายมันเป็นคนสุดแสนงี่เง่า! นายมัน ไร้เหตุผล!" … แซคคารีเดินเข้าไปในห้องน้ำ ชุดนอนหลวม ๆ ขนาดใหญ่ของเขาร่อนลงบนพื้นอย่างนุ่มนวล เผยให้เห็นเรือนร่างที่ผอมเพรียว ล่ำสันอย่างกับนายแบบ เขาเปิดฝักบัว ปล่อยหยดน้ำผลึกละเอียดอ่อนลงบนร่างกาย และปล่อยให้ไหลลงมาตามผิวห
เมื่อชาร์ล็อตมาถึงห้องนั่งเล่นที่ชั้นหนึ่ง แซคคารีนั่งอยู่บนโซฟา อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเธอกำลังรีบไปพบพ่อของเธอ เธอจึงไม่ได้สังเกตเห็นเขาตอนที่เธอวิ่งผ่านเขาไป ทั้ง ๆ ที่เขานั่งอยู่ตรงนั้นแท้ ๆ เธอช้าลงเล็กน้อย แต่เธอยังคงเดินไปที่ประตู “พ่อของฉันฟื้นแล้ว ฉันต้องไปโรงพยาบาลเพื่อเจอเขาตอนนี้” แซคคารีตอบอย่างไร้ความรู้สึก เมื่อได้ยินคำพูดของเธอว่า “เธอลืมไปแล้วเหรอ ว่าเธอโดนขังอยู่?” ชาร์ล็อตหยุดทันที เธอตกใจกับคำพูดของเขา ใบหน้าของเธอซีดเผือด และดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ เธอหันศีรษะไปรอบ ๆ และมองแซคคารีราวกับว่าเธอกำลังจ้องมองปีศาจ “ฟังนะ ถ้านายกำลังพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ฉันยอมรับว่าฉันเป็นคนปีนขึ้นไปบนเตียงของนาย และฉันไม่ได้ตั้งใจจะคัดค้านการตัดสินใจของนายที่จะกักขังฉันเพราะสิ่งที่ฉันทำ แต่วันนี้มันไม่ใช่ พ่อของฉันฟื้นแล้ว ฉันต้องไปหาเขา นายปัดความรับผิดชอบของฉันในฐานะลูกสาวไม่ได้หรอกนะ และนายก็ห้ามไม่ให้ฉันไปเยี่ยมเขาไม่ได้!” “แล้วจะบอกว่าเป็นความผิดของฉันงั้นเหรอ?” ชายคนนั้นตอบขณะที่ค่อย ๆ ลุกขึ้นจากโซฟา ร่างสูงของเขาปรากฏ
ชาร์ล็อตส่ายหัวแล้วตอบว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะพ่อ” “จะไม่ให้เป็นห่วงได้ยังไงล่ะ ลูกเป็นลูกสาวของพ่อ และพ่อก็รู้จักลูกดีที่สุด ทุกคนคิดว่าลูกสวยและฉลาด แต่ไม่มีใครรู้ว่านั่นเป็นเพียงหน้ากากที่ลูกสวมใส่ เพื่อปกปิดตัวตนที่แท้จริง ลูกเป็นผู้หญิงหัวแข็งและดื้อรั้น ลูกไม่ยอมจำนนต่อใครทั้งนั้น และถ้าใครพยายามจะควบคุมลูก ลูกจะต้องตอบโต้กลับอย่างแน่นอน แต่ยังไงก็เถอะ ฟังพ่อนะ คาร์ลี่ ลูกต้องลดทิฐิลงบ้าง ตอนนี้ลูกเป็นภรรยาของใครสักคนแล้ว ลูกอย่าตอบโต้กับแซคคารีและ...” “เดี๋ยวก่อนค่ะ เดี๋ยวก่อน! พ่ออย่าบ่นสิ ขอร้อง หนูรู้ว่าหนูกำลังทำอะไรอยู่” ชาร์ล็อตพูดแทรก เธอหัวเราะทั้งน้ำตา เธอคุยกับพ่อของเธอผ่านวิดีโอเป็นเวลาเกือบ 1 ชั่วโมง เธอได้รู้จากพ่อของเธอว่า ไม่เพียงแต่เขาทำให้วิกเตอร์ รัทเทอร์ฟอร์ดถอนฟ้องพ่อเท่านั้น แต่เขายังคืนสิทธิ์การจัดการของบริษัทซิมม่อนส์ให้กับพ่อของเธอด้วย หลังจากที่พ่อของเธอหายดีและออกจากโรงพยาบาลแล้ว เขาจะได้กลับไปดำรงตำแหน่งประธานบริษัทซิมม่อนส์ได้อีกครั้ง ก่อนหน้านี้ พ่อของเธอล้มป่วยลงจากการทรยศของไบรสันและวิกเตอร์ เมื่อเขารู้ว่าแซคคารีช่วยเขาจัดการทุกอย่าง ทันท
แซคคารีกล่าวว่า "ไม่ต้อง" จากนั้นเขาก็จ้องมองชาร์ล็อตอย่างมีนัยสำคัญ เขาบอกเธออย่างชัดเจนว่า “ฉันมีเรื่องส่วนตัวจะคุยกับลูคัส เธอออกไปได้แล้ว...” ชาร์ล็อตไม่ได้อ่อนต่อโลกขนาดจนเธอจะไม่เข้าใจว่าหมายมันถึงอะไร นอกจากนี้ เธอก็ไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของแซคคารีอยู่แล้ว ดังนั้น เธอจึงส่ายหัวและออกจากห้องนั่งเล่นทันที ลูคัสพูดต่อหลังจากที่ชาร์ล็อตเดินออกไป “เหตุการณ์นั้นถูกวางแผนไว้อย่างรอบคอบ และจุดประสงค์ของเขาคือให้คุณไปนอนกับผู้หญิงคนนั้น หลังจากการสืบสวนอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง ในที่สุดผมก็พบว่าคนที่วางยาคุณในคืนนั้นเป็นหนึ่งในคนของลุงของคุณ กล่าวอีกนัยหนึ่งว่า คนที่คิดแผนทั้งหมดเพื่อต่อต้านคุณอยู่เบื้องหลัง ไม่ใช่ใครอื่น น่าจะเป็นลุงของคุณมากที่สุดครับ!” แซคคารีหรี่ตาลง ด้วยคำว่า “ลุง” มันทำให้รู้สึกเหมือนมีคนเอาเกลือมาถูแผลตรงหัวใจของเขา “เฮ้อ… นายท่านรอง ทั้งหมดมันเป็นอดีตไปแล้ว คุณไม่ได้มีความสัมพันธ์ใหม่แล้วหรอกเหรอ? ลืมอดีตแล้วก้าวต่อไปเถอะนะครับ” ลูคัสปลอบโยนแซคคารีอย่างลำบากใจ ลุงของแซคคารีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่ลาร์สันและแซคคารีต้องแยกทางกัน ดัง
'อะไรกันเนี่ย?' ชาร์ล็อตเคาะประตูถึง 9 ครั้งจนนิ้วจะหักอยู่แล้ว เธอเพิ่งเปิดประตูและเข้ามาในห้อง เพราะแซคคารีไม่ตอบ โอเค? ชาร์ล็อตที่เดินเข้าไปในห้อง เห็นแซคคารีจ้องมองล็อกเก็ตมรกตอย่างงุนงง เธอไม่ต้องการรบกวนเขา ดังนั้นเธอจึงพยายามเขย่งเท้ากลับไปที่ห้องนอนโดยไม่ส่งเสียงดัง แต่เธอถูกจับได้ซะก่อนที่เธอจะเคลื่อนไหว เมื่อเห็นว่าแซคคารีดูค่อนข้างไม่พอใจ ชาร์ล็อตจึงไม่อยากเถียงกับเขา เธอจึงยิ้ม “โอเค ฉันผิดเอง ต่อไปฉันจะเคาะประตูแล้วกันนะ ไม่รบกวนนายละ นายตกอยู่ในภวังค์ของนายต่อแล้วกัน” แซคคารีอ้าปาก แต่ก่อนที่เขาจะมีเวลาพูด ชาร์ล็อตก็เดินเข้าไปในห้องนอนของเธอ และปิดประตูอย่างแรง แซคคารีขมวดคิ้วที่งดงามของเขา 'ชาร์ล็อต ซิมม่อนส์! นี่เธอต่อต้านฉันงั้นเหรอ?’ ... ชาร์ล็อตซึ่งกลับมาที่ห้องนอนของเธออย่างสงบสุข เธอถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก ถ้าเธอออกจากห้องไม่ทันเวลา เธอก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรให้เธอลำบากขนาดไหน เมื่อนึกถึงแซคคารี เธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงล็อกเก็ตมรกตที่เขาจ้องมองอย่างว่างเปล่า เพราะเธอเคยเป็นเจ้าของมัน... 4 ปีที่แล้ว หลังจากที่เธอกับไบรสันได้ประกาศความสัมพันธ์อย่
มันมีกลิ่นมิ้นต์ที่เย็นและสดชื่นมาจากเขา มันเลือนรางแต่ช่างมีความพิเศษจนไม่สามารถละเลยได้ มันน่าเสพติดอย่างกับยาเสพติด ภาพในหัวของชาร์ล็อตคือเธอได้ตกลงไปในสวนที่บานสะพรั่ง และลืมไปเสียสนิทเลยว่าแซคคารีกำลังจูบเธออยู่... คนที่กำลังจูบเธอคือแซคคารี! หลังจากที่ริมฝีปากของเขากระตุกและแยกออกจากเธอ ชาร์ล็อตก็ค่อย ๆ ฟื้นความมีเหตุมีผลของเธอ ทันทีที่เธอกลับมามีสติอีกครั้ง ความสับสน ตกใจ และตื่นตระหนกก็เข้าครอบงำเธอในทันที “แซคคารี คอนเนอร์ ทำไมนาย.. จูบฉัน” แซคคารียังคงกอดเธอแน่น ความอบอุ่นที่มาจากลมหายใจและหน้าอกของเขาที่ร้อนผ่าวราวกับไฟในทุ่งหญ้า ทุกวินาทีในอ้อมแขนของเขามันช่างพิเศษ เขาทำให้เธอสูญเสียความสามารถในการให้เหตุผลไปทีละน้อย “อย่าทิ้งฉันนะ ได้โปรด...” ริมฝีปากเรียวบางแสนอบอุ่นของชายคนนั้น กดลงตรงระหว่างคิ้วของเธอ และเขายังกระซิบอีกว่า “ฉันรักเธอ” ชาร์ล็อตสะดุ้ง “นาย... นายพูดอะไร?” "ฉันรักเธอ" เขากอดเธอแน่นขึ้นในอ้อมแขนอันทรงพลังของเขา ราวกับว่าเขากำลังกอดสมบัติอันล้ำค่าที่มีความสำคัญมากกว่าชีวิตของเขาเองเสียอีก เขาต้องการที่จะโอบกอดเธอไปตลอดชีวิตที่เหลือของเขา และจ
ชาร์ล็อตกลับไปที่ห้องนอนของเธอ แต่หัวใจของเธอยังคงเต้นแรง ขณะที่เธอมองเข้าไปในกระจก ริมฝีปากของเธอก็แดงก่ำราวกับว่ามีเลือดออก ปากของเธอก็เต็มไปด้วยรสหวานของเลือดที่ค้างอยู่ในคอ ราวกับว่าจูบอันเร่าร้อนของแซคคารียังคงติดอยู่ที่ริมฝีปากของเธอ... เมื่อใดก็ตามที่แซคคารีเข้ามาหาเธอ เธอจะรู้สึกตื่นตระหนกและหวาดกลัวอยู่เสมอ เธอยังมีภาพหลอนว่าเธอได้กลับไปสู่คืนที่คนแปลกหน้าคนนั้นทำให้เธอเปื้อนมลทินเมื่อ 10 เดือนก่อน ครั้งนี้เป็นเพราะแซคคารีเข้าใจผิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่เขารักเหรอ? จูบของเขาช่างหอมหวานเสียจนชาร์ล็อตสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น "ฮึ!" ชาร์ล็อตชูนิ้วกลางสะท้อนเงาในกระจก เพื่อแสดงถึงการดูถูกและบ่นพึมพำเพื่อปลอบโยนตัวเอง “ชาร์ล็อต ซิมม่อนส์ เธอไม่ได้เป็นอะไร เธอไม่ได้ผิดปกติ ไม่มีผู้หญิงคนไหนต้านทานเสน่ห์อันน่าสะพรึงนั้นได้หรอก” … ขณะที่ชาร์ล็อตกำลังนอนอยู่บนเตียงและลูบท้องของเธอ เธอก็นึกถึงเด็กที่เธอให้กำเนิด เด็กถูกพรากไปทันทีที่เขาเกิด เธอไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าเด็กเลยด้วยซ้ำ เธอรู้เพียงว่าเขาเป็นเด็กผู้ชาย เขางดงามและน่ารัก เธอเคยใช้ชีวิตอยู่ในคำโกหกของไบรสันมาก่อน โดยคิดว่า