Share

บทที่ 3

Author: เจียว่าง
“คุณลุงคะ หนูขอยกเลิกสัญญาหมั้นค่ะ” เสิ่นซวงเหมียนยืนอยู่กลางห้องรับแขก น้ำเสียงหนักแน่นไม่สั่นคลอน

พ่อหยานหยุ่นโจวชะงักไปเล็กน้อย “ทำไมจู่ ๆ… งานแต่งก็ใกล้จะถึงอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”

เธอก้มหน้างับกลบความขมขื่นในดวงตา “หนูกับหยานหยุ่นโจวไม่ได้รักกันจริง ๆ ค่ะ ไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้ อีกไม่นานแม่หนูก็จะพ้นโทษ หนูอยากพาแม่ไปจากที่นี่ และอยู่ดูแลแม่ให้ดีค่ะ”

เมื่อเห็นว่าเธอยืนกราน พ่อหยานหยุ่นโจวก็ทำได้แค่ตอบตกลง “ก็ได้ เรื่องตั๋วเครื่องบินเดี๋ยวลุงจัดการให้ อีกครึ่งเดือนแม่เธอออกมา ก็ไปได้เลย…”

จู่ ๆ ด้านหลัง ก็มีเสียงของหยานหยุ่นโจวดังขึ้น “ใครจะไป?”

เสิ่นซวงเหมียนตัวแข็งทื่อ เธอรีบแทรกขึ้นก่อนที่ พ่อหยานหยุ่นโจวจะพูดว่า “ไม่มีใครหรอกค่ะ คุณกลับมาได้ยังไงคะ?”

หยานหยุ่นโจวไม่ได้ซักไซ้อะไรต่อ “ผมได้ยินว่าคุณกลับมา ก็เลยมารับ”

หลังจากนั้นพ่อหยานหยุ่นโจวก็ชวนให้ทั้งคู่ทานข้าวก่อนค่อยกลับ

บนโต๊ะอาหาร หยานหยุ่นโจวตักกับให้เธอตามความเคยชิน เรื่องพวกนี้เขาไม่เคยทำพลาดไม่ว่าจะรับเธอกลับบ้าน หรือตักกับข้าวให้ นั่นแหละคือเหตุผลที่ทำให้เธอเข้าใจผิด ว่าเขารักเธอจริง ๆ

กินไปได้ครึ่งหนึ่ง หยานหยุ่นโจวก็พูดถึงงานแต่ง “พ่อครับ งานแต่งอีกครึ่งเดือนจัดตามเดิมนะครับ อย่าลืมแจ้งแขกด้วยนะครับ”

พ่อหยานหยุ่นโจวชะงักมองทั้งสองคน “เสิ่นซวงเหมียนยังไม่บอกแกเหรอ? ไม่ใช่ว่าจะถอนหมั้นกันแล้วหรือ?”

เสียงของเขาถูกกลบด้วยเสียงโทรศัพท์ หยานหยุ่นโจวรับสาย ส่วนซวงเหมียนที่นั่งข้าง ๆ ก็ได้ยินทุกคำได้อย่างชัดเจน

“อาจารย์หมอคะ เซี่ยหร่านหร่านมีไข้ค่ะ แต่ก็ยังไม่ยอมเลิกงาน อาจารย์หมอรีบมาช่วยพูดเกลี้ยกล่อมเธอหน่อยค่ะ!”

เขากำโทรศัพท์แน่น และพูดด้วยน้ำเสียงเสียงรีบร้อน “คอยดูเธอไว้ก่อน เดี๋ยวผมไปทันที”

พอวางสาย เขาถามพ่อทันที “พ่อ เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะครับ?”

ไม่รอให้พ่อตอบ เขาพูดต่อเอง “เอาไว้ค่อยคุยละกันครับ ผมมีเรื่องด่วน ต้องไปก่อน”

พูดจบเขาก็ละทิ้งมารยาทที่เคยมีมาตลอด ลุกขึ้นจนเก้าอี้มีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดบาดหู และก้าวเดินออกไปทางประตูอย่างรวดเร็ว

เมื่อมองแผ่นหลังเขา หัวใจเธอกลับเหมือนถูกมือใหญ่บีบแน่น เจ็บแน่นจนหายใจลำบาก

ออกจากคฤหาสน์ตระกูลหยานแล้ว เสิ่นซวงเหมียนก็ตรงไปยังเรือนจำ

เธอถือโทรศัพท์ที่คุยกับผู้ต้องขัง มองหน้าแม่ที่ด้านหลังแผ่นกระจกที่ดูซูบผอมลง จมูกแดงอดกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมา

แม่เสิ่นซวงเหมียนมองเธอด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความตื้นตัน มือทั้งสองกำโทรศัพท์ไว้แน่น “เสิ่นซวงเหมียน ตลอดหลายปีนี้ ตระกูลของหยานดูแลลูกดีไหม?”

เธอดึงแขนเสื้อให้คลุมรอยแผล แล้วยิ้มตอบ “ดีมากเลยค่ะแม่ แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ”

แม่เสิ่นซวงเหมียนถอนหายใจโล่งอก “งานแต่งของลูกใกล้แล้วใช่ไหม? เสียดายจัง แม่ไปไม่ได้”

“เราไม่แต่งแล้วค่ะ เขาไม่ได้ชอบหนู” เสิ่นซวงเหมียนพยายามทำหน้าให้ดูสบายใจ “แม่คะ พอแม่ออกจากเรือนจำแล้วเราไปจากที่นี่ด้วยกันนะคะ ต่อไปหนูจะอยู่กับแม่ แค่สองคนแม่ลูก”

แม่เสิ่นซวงเหมียนมองลูกสาวด้วยความปวดใจ น้ำตาคลอขอบตา “ได้ แม่จะฟังหนู ฟังทุกอย่างที่หนูต้องการ”

เธอขึ้นไปเก็บข้าวของของตัวเอง ส่วนของที่เป็นของหยานหยุ่นโจวและคนในตระกูลหยานที่เคยให้เธอ เธอวางทิ้งไว้ทั้งหมด ของพวกนั้นไม่เคยเป็นของเธอจริง ๆ และเธอก็ไม่มีสิทธิ์จะเอาไป

คืนนั้นหยานหยุ่นโจวไม่กลับบ้านทั้งคืน กว่าจะกลับมาก็ช่วงบ่ายของวันถัดมา

เขากลับมาพร้อมสไตลิสต์และช่างแต่งหน้า “คืนนี้มีงานกาลาทางการแพทย์ ผมจะพาคุณไปพบคนสำคัญหน่อย”

หยานหยุ่นโจวไม่เคยปฏิเสธสถานะ ว่าที่ลูกสะใภ้ตระกูลหยานของเธอในที่สาธารณะ แต่ทั้งหมดนั้นก็เพียงเพราะเขามองเธอเป็น หน้าที่ เท่านั้น

พอทุกอย่างพร้อมแล้ว เธอเดินไปจะเปิดประตูหน้าข้างคนขับ แต่พบว่าประตูล็อก เปิดไม่ได้

ตอนนั้นหยานหยุ่นโจวที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยก็เอ่ยขึ้นว่า “เดี๋ยวต้องไปรับเซี่ยหร่านหร่าน เธอเมารถน่ะ คุณไปนั่งข้างหลังนะ”

มือที่จับอยู่ที่ประตูของเสิ่นซวงเหมียนกระชับแน่นขึ้น เขาลืมไปหรือว่า เธอเองก็เมารถเหมือนกัน?

เธอก้มหน้าพร้อมรอยยิ้มเยาะตัวเองนิด ๆ ไม่พูดอะไร แล้วเดินไปเปิดประตูด้านหลังแทน

หลังรับเซี่ยหร่านหร่านขึ้นรถ ประโยคแรกของอีกฝ่ายคือ “เมื่อวานนี้ขอบคุณอาจารย์หมอที่อยู่เฝ้าหนูทั้งคืนนะคะ ไม่งั้นอาการคงไม่ดีเร็วแบบนี้”

ในสายตาของหยานหยุ่นโจวมีแต่ความเอ็นดู เขาลูบหัวเธอเบา ๆ “หายก็ดีแล้ว ร่างกายอ่อนแอแบบนี้ ต่อไปต้องดูแลตัวเองมากกว่านี้นะ”

ฉากนี้บาดลึกเข้าตาเสิ่นซวงเหมียน และในเวลานั้นเซี่ยหร่านหร่านก็พูดขึ้นอย่างประหลาดใจราวกับเพิ่งสังเกตเห็นเธอ “อ้าว คุณเสิ่นก็อยู่ด้วยเหรอคะ? งั้นฉันไม่ควรนั่งตรงนี้สิ ฉันไปนั่งข้างหลังดีกว่า”

หยานหยุ่นโจวสตาร์ทรถและตอบไปด้วย “ไม่เป็นไร คุณนั่งตรงนั้นแหละ”

เสิ่นซวงเมียนเมารถอย่างหนัก และเริ่มกลืนน้ำลายเปรี้ยวๆ ตั้งแต่กลางทาง แต่ก็โชคดีที่มาถึงสถานที่จัดงานก่อนที่จะเมารถอย่างเต็มที่

เธอคล้องแขน หยานหยุ่นโจวเดินเข้างาน ขณะที่เซี่ยหร่านหร่านเดินตามติดอยู่ข้างเขา

ตลอดงานเลี้ยงทางการแพทย์ทั้งหมด เขาก็พาเธอไปพบคนมากมายจริง แต่ก็เพียงแค่พาไปแนะนำตัวเท่านั้น หลังจากนั้นเขาก็ให้ความสนใจกับการแนะนำเซี่ยหร่านหร่านให้กับผู้ใหญ่ในวงการแพทย์ ซึ่งเธอกลายเป็นเพียงตัวประกอบไปโดยปริยาย

อาการเมารถยังหลงเหลืออยู่ เธอไม่อยากฝืนจึงบอกหยานหยุ่นโจวแล้วเดินไปทางห้องน้ำ

เธอพักอยู่นอกงานครึ่งชั่วโมง ก่อนจะสูดหายใจลึกแล้วเดินกลับเข้าไปอีกครั้ง

แต่พอถึงหน้าประตู เธอกลับเห็นหยานหยุ่นโจวประคองเซี่ยหร่านหร่านที่อ่อนแรงขึ้นไปชั้นบน ใบหน้าของเธอแดงก่ำ หายใจถี่และผิดปกติ

เสียงของเขาแหบแห้งเหมือนพยายามอดทนต่อบางสิ่งบางอย่าง “เซี่ยหร่านหร่าน อดทนอีกนิดนะ เดี๋ยวก็ถึงแล้ว”

หัวใจของเสิ่นซวงเหมียนสั่นสะท้าน เธอตามพวกเขาไปจนถึงบริเวณห้องพักชั้นบน และมองดูพวกเขาเดินเข้าไปในห้องพักห้องหนึ่งต่อหน้าต่อตา
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คลื่นรักซัดรอยฝัน   บทที่ 20

    ตอนที่เธอประคองพ่อเขาลงมาชั้นล่าง หยานหยุ่นโจวก็เดินเข้ามาในสภาพทุลักทุเล แล้วยืนมองเธออยู่ด้านล่างอย่างเหม่อลอยภาพเช่นนี้ช่างคุ้นเคยเหลือเกิน ก่อนหน้านี้เสิ่นซวงเหมียนก็เคยประคองพ่อของเขาลงมานับครั้งไม่ถ้วน ในความรู้สึกพร่าเลือน เขานึกไปเองว่าเธอได้กลับมาแล้ว เรื่องเหล่านั้นไม่เคยเกิดขึ้น และพวกเขายังมีอนาคตร่วมกันถ้าเป็นเมื่อก่อน เธอจะต้องมองเขาเป็นคนแรก แล้วยิ้มให้เขา พูดคุยด้วยความอ่อนโยน แต่ตอนนี้ไม่ว่าเขาจะมองเธอแรงแค่ไหน เสิ่นซวงเหมียนก็ทำเหมือนเขาเป็นเพียงธาตุอากาศทุกสิ่งที่เกิดขึ้นยังเป็นความจริงเธอจะไม่ย้อนกลับมา และพวกเขาก็ไม่มีวันข้างหน้าอีกแล้วความจริงข้อนั้นเหมือนใบมีดที่มองไม่เห็นแทงเข้ากลางอกของหยานหยุ่นโจว ทุกครั้งที่หายใจเจ็บแสบเหมือนหัวใจถูกฉีกออกทีละชิ้นในมื้ออาหารเย็น หยานหยุ่นโจวนั่งอยู่ตรงข้ามกับเสิ่นซวงเหมียน ดวงตาจับจ้องเธออย่างร้อนรน และคอยตักกับข้าวที่เธอชอบให้เป็นระยะแต่เธอไม่แม้แต่จะเงยหน้ามอง แต่กลับสนทนากับพ่อของเขาอย่างตั้งใจ อาหารที่เขาตักให้ เธอก็เลือกคีบออกไปใส่จานใส่เศษอาหารอย่างไม่ไยดีหลังอาหารเย็น เธอคุยกับพ่อเขาต่ออีกสักพักก่อนล่ำลา

  • คลื่นรักซัดรอยฝัน   บทที่ 19

    เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เห่อซิงเยว่ขับรถมาส่งเธอถึงหน้าบ้าน แต่คราวนี้เธอกลับรู้สึกว่าอะไรบางอย่างมันต่างออกไปตอนลงจากรถ เขายื่นกล่องของขวัญให้เธอ “ของขวัญวันเกิดครับ”ระยะทางจากประตูทางเข้าโครงการไปจนถึงชั้นล่างของอาคาร เธอเดินเร็วกว่าปกติเล็กน้อย เพราะอยากกลับบ้านไปแกะของขวัญเมื่อเดินไปถึงชั้นล่าง และเห็นหยานหยุ่นโจว เธอก็หยุดฝีเท้าลงทันทีเธอยืนอยู่ที่เดิมมองดูเขาอยู่ห่างๆ หยานหยุ่นโจวถือเค้กและของขวัญชิ้นหนึ่ง เดินตรงเข้ามาหาเธอเขายื่นของขวัญมาให้เธอด้วยท่าทีตื่นเต้น แล้วพูดเสียงแหบพร่าว่า “สุขสันต์วันเกิดนะ เสิ่นซวงเหมียน ผมเคยพูดไว้ ว่าวันเกิดของคุณทุกปี ผมจะอยู่ด้วยทุกครั้ง ดีนะที่ปีนี้ผมไม่พลาด”จริงอยู่ที่วันเกิดของเธอทุกครั้งในอดีต หยานหยุ่นโจวไม่เคยขาดแม้แต่ครั้งเดียว แม้จะยุ่งจนมีคิวผ่าตัดทั้งวัน เขาก็จะเจียดเวลามาฉลองวันเกิดให้เธอ แม้จะต้องแลกกับการผ่าตัดโต้รุ่งก็ตาม เขาก็ไม่เคยขาดแต่ทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องในอดีตไปแล้ว เสิ่นซวงเหมียนรับของขวัญมาตรงหน้า ก่อนที่หยานหยุ่นโจวจะได้แสดงความยินดี เธอก็โยนมันทิ้งลงในถังขยะข้างๆ อย่างไม่ไยดีสีหน้าของเขาซีดลงทันที หัวใจเห

  • คลื่นรักซัดรอยฝัน   บทที่ 18

    หลังจากไปส่งเห่อหลานกลับบ้านแล้ว เสิ่นซวงเหมียนก็เพิ่งได้กลับบ้านหลังจากอาบน้ำล้างหน้าเสร็จ เธอนอนลงบนเตียง พอนึกถึงคำว่ารักที่หยานหยุ่นโจวพูดออกมา เธอก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอีกครั้งการที่หยานหยุ่นโจวพูดคำว่ารักกับเธอนั้น ช่างเป็นการดูถูกคำๆ นี้เสียจริงวันรุ่งขึ้น ไม่มีตารางการแสดง และกำหนดการฝึกซ้อมเดิมก็ถูกยกเลิกไปด้วย เสิ่นซวงเหมียนอ่านประกาศในกลุ่ม แล้วโยนโทรศัพท์ไว้ข้างตัว มองเพดาน เธอพบว่าตัวเองไม่มีอะไรทำเลยนอกจากการฝึกซ้อมเพื่อการแสดงความว่างเปล่าเพิ่งโผล่ขึ้นมาไม่ทันไร เห่อซิงเยว่ก็โทรเข้ามา “วันนี้ไม่มีซ้อมใช่ไหมครับ เดี๋ยวผมไปรับนะ จะพาคุณออกไปเดินเล่นหน่อย”เสิ่นซวงเหมียนคิดว่าก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว จึงตกลง ลุกจากเตียงค่อย ๆ เตรียมตัว พอลงมาก็เห็นเห่อซิงเยว่รออยู่ด้านล่างเรียบร้อยเธอชะงักไปนิด แล้วรีบเดินไปนั่งเบาะข้างคนขับ “รอนานไหมคะ? ฉันน่าจะเร็วกว่านี้”เห่อซิงเยว่สตาร์ทรถอย่างไม่ใส่ใจแล้วพูดกลับว่า “สำหรับคุณ ผมมีความอดทนมาก จะลงมาเมื่อไหร่ก็ได้”ช่วงนี้เขามักพูดจาแบบมีนัยแบบนี้อยู่บ่อย ๆ เสิ่นซวงเหมียนก็เริ่มชินแล้ว เธอยิ้ม “ได้ค่ะ งั้นครั้งหน้าฉันนอนอ

  • คลื่นรักซัดรอยฝัน   บทที่ 17

    เสิ่นซวงเหมียนหยุดยืน หันกลับมา แล้วพูดเสียงเย็นชาว่า “พ่อคุณให้คุณมาตามฉันเหรอ?”เพราะนอกจากเหตุผลนี้ เธอก็นึกเหตุผลอื่นไม่ออกแล้วหยานหยุ่นโจวได้ยินดังนั้นก็ตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนรีบอธิบายอย่างเร็วว่า “ไม่ใช่ ผมมาตามคุณเอง” “คุณต้องการอะไร?” เสิ่นซวงเหมียนถอยหลังไปก้าวหนึ่ง แล้วพูดเสียงแข็งเมื่อเห็นท่าทีห่างเหินและระแวดระวังของเธอ ใจเขาเจ็บราวถูกมีดเฉือน ความขมขื่นเอ่อล้นไม่หยุดแววตาเขาเต็มไปด้วยความเศร้าและคำวิงวอน “เสิ่นซวงเหมียน กลับไปกับผมเถอะ ผม…”“ยังอยากตอบแทนบุญคุณอีกเหรอคะ?” เสิ่นซวงเหมียนมองเขาด้วยสายตาเย็นชา และพูดต่อ “ไม่จำเป็นแล้วค่ะ บุญคุณนั้นพวกคุณตอบแทนหมดแล้ว คุณไปเถอะ เราไม่ติดหนี้กันอีกต่อไป”พูดจบ เธอก็ก้าวผ่านเขาไป แต่กลับถูกมือใหญ่คว้าไว้“ไม่ใช่เรื่องตอบแทนบุญคุณ” เขารีบจับเธอไว้ราวกลัวจะหลุดหาย “ผมแค่อยากให้คุณกลับมา ผมมันโง่เอง จนเสียคุณไปถึงได้รู้ว่าความรู้สึกของตัวเองคืออะไร”เสิ่นซวงเหมียนฟังแล้วก็ขมวดคิ้วแน่น สัมผัสที่มือทำให้เธอรู้สึกไม่สบาย จึงใช้กำลังเล็กน้อยสะบัดออกหยานหยุ่นโจวรู้สึกฝ่ามือว่างเปล่า หัวใจเหมือนยุบลงไปกลางอก เจ็บราวถูกเข็มนับ

  • คลื่นรักซัดรอยฝัน   บทที่ 16

    เนื่องจากคนเยอะเกินไป จึงต้องแบ่งออกเป็นรถสองคันเสิ่นซวงเหมียนกับเห่อหลานนั่งรถของเห่อซิงเยว่ ส่วนคนอื่นก็เรียกแท็กซี่กันไปและเนื่องจากเธอเมารถเลยมานั่งเบาะข้างคนขับ ส่วนเห่อหลานที่อยู่เบาะหลังยังคงมองออกไปนอกหน้าต่าง แล้วพลางพูดว่า “ผู้ชายคนเมื่อกี้หล่อจังเลยค่ะ ถึงแม้จะดูซูบผอมไปบ้าง แต่ก็ปิดบังความหล่อไว้ไม่มิดเลย อยากได้ช่องทางติดต่อจังเลยค่ะเสิ่นซวงเหมียนไม่พูดอะไรสักคำ แต่เห่อซิงเยว่ที่สังเกตเห็นความเงียบของเธอ จึงหันไปพูดกับคนนั่งหลังว่า “เธอหุบปากไปเลย ผู้ชายที่เธอบอกว่าหล่อถ้าไม่ถึงร้อยคนก็คงเก้าสิบคนแล้วมั้ง? ไม่รู้ว่าตาเธอมองยังไง”ทันใดนั้นความสนใจของเห่อหลานก็ถูกดึงไปทันที ลืมเรื่องหยานหยุ่นโจวไปเลย แล้วก็หันมาปะทะปากกับเห่อซิงเยว่แทนเสิ่นซวงเหมียนมองเงาต้นไม้ที่ไหลผ่านอย่างรวดเร็วข้างนอกหน้าต่าง ใจของเธอเอาแต่คิดถึงเสียงเรียกของหยานหยุ่นโจวเมื่อครู่ในน้ำเสียงเขาไม่มีความตกใจเลย นั่นแปลว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แล้วเขามาตามหาเธอทำไมกันแน่?ตอนนี้เวลาผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว เขากับเซี่ยหร่านหร่านก็น่าจะแต่งงานกันแล้วสิ ถ้าอย่างนั้นก็ยิ่งไม่ควรมาตามหาเธอเลยด้วยซ้ำคิด

  • คลื่นรักซัดรอยฝัน   บทที่ 15

    หลังผ่าตัดเสร็จ เสิ่นซวงเหมียนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลอยู่ไม่กี่วันก็ออกได้แล้ว เสียงของกลับมาเป็นเหมือนปกติเหมือนเดิมด้วยโอกาสที่บังเอิญ เธอได้เข้าร่วมวงดนตรีวงหนึ่ง ซึ่งมีน้องสาวคนหนึ่งชื่อ เห่อหลาน ที่ชอบเกาะติดเธอมาก และเป็นคนชักชวนเธอเข้าวงด้วยเพราะเธอมีประสบการณ์อยู่แล้ว ไม่นานก็มีงานแสดงเล็ก ๆ ในบาร์เข้ามาหลังจากห่างหายเวทีไปหนึ่งปี การได้ขึ้นเวทีอีกครั้งทำให้เสิ่นซวงเหมียนรู้สึกราวกับว่าได้พบตัวเองกลับคืนมา รอยยิ้มของเธอก็เพิ่มขึ้นมามากหลังการแสดงจบ เธอยังเหมือนหลุดออกจากบรรยากาศนั้นไม่หมด เดินไปหลังเวทีแล้วก็ได้ยินเห่อหลานที่อยู่ข้าง ๆ ร้องเสียงดังว่า “พี่?! ทำไมมาที่นี่ล่ะคะ พี่ไม่เคยมาดูหนูเล่นเลยนี่?”เสิ่นซวงเหมียนมองพื้นตรงหน้าอย่างตั้งใจ ไม่ได้เงยหน้า จนกระทั่งได้ยินเสียงคุ้นเคยเอ่ยขึ้นว่า“สบายใจได้ ไม่ได้มาดูเธอหรอก”เธอชะงักไป ก่อนเงยหน้าขึ้น เห็นว่าเป็นเห่อซิงเยว่ยืนล้วงกระเป๋าอยู่ที่ทางเดิน หลังเอ่ยประโยคเมื่อครู่ ดวงตาที่งดงามของเขาก็เลื่อนไปหยุดที่เสิ่นซวงเหมียนเขาตอบกลับว่า “พี่มาดูสิว่าคนไข้ของพี่ฟื้นตัวเป็นยังไงบ้าง” และยิ้มมุมปากอย่างนุ่มนวลเห่อหลา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status