บทที่ 18
“พี่เลิฟคะ พี่เลิฟ!!”
เสียงหวานข้างหูดังขึ้นทำให้เปรมาสะดุ้งสุดตัว เอี้ยวหน้ามองเห็นใบหน้าน้องสาวสุดที่รักยืนยิ้มแป้นแล้นข้างตัว
“เหม่ออะไรคะ ตั้งแต่กลับมาจากภูเก็ตดูใจลอยนะคะ”
ปาริมาเดินอ้อมไปนั่งที่โต๊ะทานข้าวในคอนโดมิเนียมหลังจากแกล้งพี่สาวได้สำเร็จ หน้าหวานทรงผมสีน้ำตาลอ่อนยิ้มกว้างหยอกพี่สาวเล่นพรางพูดเจื้อยแจ้วต่อไป
“พี่เลิฟไปเสียหลายวันและยังปิดโทรศัพท์น้องเลยติดต่อพี่ไม่ได้เลยคะ”
“มีอะไรเหรอ”
เปรมาหาเสียงตัวเองเจอในที่สุด เสียงแหบพร่าจากห้วงอารมณ์เมื่อภาพเหตุการณ์บนเตียงยังแจ่มชัด
“ก็ลิฟจะโทรไปบอกข่าวดีกับพี่เลิฟค่ะ พ่อของแซมตกลงให้เราหมั้นกันแล้วค่ะ ไม่น่าเชื่อใช่ไหมคะ”
“ใช่จ๊ะไม่น่าเชื่อ พี่ยินดีด้วยน้องรัก พี่ดีใจที่น้องสมหวังเสียที”
“อะไรมันก็ไม่แน่ไม่นอนหรอกนะคะพี่เลิฟ แต่ยังไง น้องจะทำให้ดีที่สุดให้การหมั้นดำเนินไปจนกว่าเราจะได้แต่งงานกัน”
“หื้อ?”
“ก็พ่อของแซมบอกว่าขอให้เราหมั้นกันสักสองปีก่อนแล้วถึงจะคิดดูอีกครั้งเรื่องแต่งงาน”
เปรมาจับมือน้องสาวที่วางอยู่บนโต๊ะลูบปลอบใจ
“ลิฟ สองปีน่ะมันเป็นเวลาที่พอเหมาะและน้องอาจทำให้พ่อของแซมเปลี่ยนใจได้ อีกอย่างเมื่อถึงเวลานั้นพวกน้องก็บรรลุนิติภาวะกันแล้วสามารถจดทะเบียนสมรสกันเองได้ อย่าลืมสิ”
ปาริมาพลิกมือขึ้นบีบฝ่ามือพี่สาว เธอสัมผัสมือที่ไม่ได้นุ่มนวลเพราะการทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูเธอมาตลอด
“แต่ยังไงก็ต้องรอให้พ่อของแซมเห็นชอบก่อนค่ะพี่เลิฟ แซมเขารักพ่อเขามาก พ่อเขาทุ่มเททำงานหนักมาตลอด อีกอย่างพี่เลิฟ อีกหน่อยเมื่อแซมเรียนจบต้องไปช่วยงานพ่อ มันหลีกหนีกันไม่ได้หรอกค่ะ”
เปรมาอึ้งไปเมื่อเห็นน้องสาวของเธอโตขึ้นในเวลาไม่นาน เพียงเธอไปภูเก็ตไม่กี่วันจากน้องสาวตัวน้อยที่เธอต้องคอยเอาใจใส่กลับกลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีความคิดความอ่าน
“แล้วนี่ตกลงวันหมั้นกันหรือยัง”
“ค่ะ อาทิตย์หน้าค่ะ รอแม่ของแซมบินมาร่วมงานด้วย”
คิ้วคันศรของเปรมาโก่งขึ้น แม่ของแซม ปาริมาลุกขึ้นเพื่อเก็บจานลงอ่างล้างจานพูดขึ้นขณะที่เปิดก๊อกน้ำล้างจาน
“แซมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมแม่ถึงมา เพราะพวกเขาไม่เคยเจอกันเลยตั้งแต่แซมเป็นเด็กแล้วค่ะ แต่แซมเดาเอาว่าแม่อยากจะเจอพ่อ ก็ดีเหมือนกันนะคะพี่เลิฟ แซมจะได้ไม่กำพร้าแม่อีก ถึงได้แม่คืนเอาตอนโตแล้วก็ไม่เป็นไร พี่เลิฟว่ายังงั้นไหมคะ พี่เลิฟ!”
ปาริมาขมวดคิ้วเมื่อหันกลับมาเจอพี่สาวยังนั่งเหม่อลอยไม่ได้สนใจฟังที่เธอพูด แถมยังยกมือถือช้อนทานข้าวค้างอยู่
“จ๊ะลิฟ กะ ก็ดีจ๊ะ พี่ขอตัวก่อนนะต้องไปร้านแล้ว”
เปรมาผลุนผลันลุกจากโต๊ะทิ้งจานที่ยังทานไม่หมดตรงหน้าไว้กลับเข้าห้องผิดวิสัยแม่บ้าน ปาริมาจ้องตามแผ่นหลังบอบบาง ดูเหมือนพี่สาวของเธอจะผอมลง
“ปัง”
เปรมายืนพิงประตูห้องนอนหลังจากรีบผละมาจากโต๊ะทานข้าว ชีพจรบีบกระชับอยู่ข้างใน เธอกุมท้องนึกไปถึงร่างสูงที่ทำตามคำพูดในอีกห้าวันที่เหลือ
แต่คงเป็นเพราะเธอมีโชคหรือพระจ้ายังเข้าข้างเธอที่เธอไม่ท้องลูกของซาตานคนนั้น ประจำเดือนเธอมาในวันเดินทางกลับจากภูเก็ตพอดี เธอยังจดจำภาพใบหน้าแกร่งบึ้งตึงขึ้นเมื่อรู้ เพราะเธอต้องไปซื้อผ้าอนามัยจากชอปในโรงแรม
ห้าวันที่ไม่ได้ออกจากห้องนอนและเขาทำให้มันกลายเป็นทั้งสวรรค์และนรกจนเธอไม่สามารถแยกแยะได้
ใจบางอ่อนไหวคิดถึงรสสัมผัสที่เขาตราตรึงเธอไว้ เร่าร้อนรุนแรงดั่งไม่รู้จักอิ่มกายสาว เปรมาสลัดความคิดหยิบกระเป๋าสะพาย อย่างไรสะชีวิตเธอยังต้องดำเนินต่อไป
ปาริมาได้โอกาสอีกสองปีที่จะทำให้พ่อของแซมเปลี่ยนใจ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างคืออนาคตที่ยังมาไม่ถึง สิ่งที่เธอและน้องควรทำตอนนี้คือการทำทุกวันนี้ให้ดีที่สุด
“ลิฟ พี่ไปทำงานก่อนนะ”
ปาริมาวิ่งออกมาจากห้องครัวกำลังล้างจาน ร่างบอบบางผิดไปจากคนเป็นพี่จ้องหน้าเปรมานึกสงสัย
“แต่พี่เลิฟคะ ไหนบอกว่าร้านเปิดพรุ่งนี้ไงคะ”
“ก็พี่เป็นเจ้าของร้านต้องไปก่อนสิน้องรัก แล้วเจอกันนะ”
เปรมาปิดประตูตามหลัง ใจหวนคิดเรื่องงานหมั้นอาทิตย์หน้า เธอจะไม่ยอมทำให้น้องสาวเสียหน้าทุกอย่างต้องออกมาดีที่สุด
ดวงหน้าหวานคมค่อยยิ้มออกมา อันดับแรกสุดคือเธอต้องติดต่ออีเว้นท์และห้องเสื้อหรูราคาแพงที่จะทำให้พ่อของแซมได้เห็นว่าน้องสาวและเธอไม่ใช่คนแบบที่เขาคิด ถ้าเขาจะมีสมองคิดสักหน่อยนะ
“กริ๊ง กริ๊ง”
เปรมาละมือจากเตาอบในวันถัดมาเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังบนโต๊ะวางของ เธอวางถาดขนมเค้กที่เพิ่งอบเสร็จใหม่เคาะก้นสองสามครั้งเบาๆ แล้วคว่ำหน้ากับตะแกรงรอเวลาเค้กเซตตัว
ตายยากเสียจริง
“แซมบอกว่าคุณจะจัดงานหมั้นที่โรงแรม”
เสียงทุ้มเข้มดังจนเธอต้องดึงโทรศัพท์ออกห่าง รอยยิ้มหวานประดับบนใบหน้า
“ใช่แล้วค่ะ”
“ไม่ เราจะจัดกันที่อื่น”
“แต่ฉันตกลงกับอีเว้นท์ไปแล้ว”
“คุณควรถามผมก่อนเลิฟ”
“ฮึ ถาม? ทำไมฉันต้องถามในเมื่อมันเป็นส่วนความรับผิดชอบของผู้หญิงอยู่แล้วคุณฮิวส์”
เสียงสูดลมหายใจลึกเมื่อได้ยินเสียงหวานเรียกนามสกุลลากยาวท้าทาย
“คุณจงใจใช่ไหมเลิฟ ต้องการประกาศงานหมั้นให้เอิกเกริก และผมคาดว่าคงมีสำนักพิมพ์มาร่วมงานสักสองสามสำนักพิมพ์ ผมพูดถูกใช่ไหม”
เปรมายิ้มกว้างเสียจนเมื่อยแก้ม เสียงทุ้มต่ำสะกดอารมณ์โกรธทำให้เธอพึงพอใจ
ถือสะว่าเป็นการเอาคืนเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วกันนะคุณพ่อ
“ลิฟเป็นน้องสาวฉันนะคุณฮิวส์ จะหมั้นหมายก็ควรทำให้ถูกต้อง”
ยิ้มหวานโชว์ลักยิ้มกว้างกว่าเดิมเมื่อได้ยินเสียงสบถอีกหลายคำ มีเสียงผู้หญิงแทรกเข้ามาในสายจึงทำให้เธอหุบยิ้มลง เสียงทุ้มดังเข้ามาในโทรศัพท์อย่างไม่ยอมแพ้
“เปลี่ยนไปจัดงานที่บ้านชานเมืองสะเลิฟ แต่ห้ามนักข่าว ส่วนคุณกับน้องสาวจะลงภาพในโซเซียลมีเดียส่วนตัวของพวกคุณย่อมทำได้”
เปรมาวางโทรศัพท์ลงที่เดิม บ้านชานเมือง! แม้เธอจะหวั่นใจที่ต้องเข้าถ้ำเสือ แต่ถ้าเธออยากจะได้ลูกเสือเธอต้องไม่กลัว
บทพิเศษกริ๊งงงง!!เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นยามเช้า แสงอาทิตย์ยังทอแสงรำไรขอบฟ้าของคฤหาสน์ชานเมือง“อืมมมม”ร่างอวบอิ่มบิดกายพลิกหาความอบอุ่นข้างกายทันทีเอื้อมมือออกข้ามลำกายแกร่งไปยังโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างเตียงมือเล็กพยายามควานหาทั้ง ๆ ที่ยังหลับตา ร่างอวบทับบนอกแกร่งตะเกียกตะกายไปมา“เลิฟ”เสียงแหบพร่ากดต่ำดังขึ้นทำให้เปรมาปรือตามองอย่างสงสัย แล้วหยิบนาฬิกาปลุกกดปิดได้ในที่สุด“ขอโทษค่ะ เลิฟตั้งปลุกไว้ต้องรีบกลับคาเฟ่แต่เช้า”“มานี่ก่อน”แซคคว้าร่างอวบไว้ได้ทันก่อนที่เปรมาจะก้าวลงจากเตียงใหญ่ ดึงรั้งกระทั่งล้มลงบนกายแกร่งอีกครั้ง“แซค!! เลิฟกำลังจะสายนะคะ”“สายอะไรกัน วันนี้ผมเหมาร้านคุณให้แล้วกัน อยู่กับผมอีกวัน”เปรมาดันตัวขึ้นมองหน้าคมเข้ม ผมยังยุ่งเหยิง ดวงตาหรี่ปรือเปี่ยมเสน่ห์ทางเพศมองเธออย่างมาดหมาย“อย่านะ! เปรมาชอกช้ำหมดแล้ว”แซคค่อยคลี่ยิ้มมองสีหน้าเง้างอดและทีท่าขืนตัวหนี“ผมยังไม่ทันทำอะไรเลย คิดทะลึ่งไปเองหรือเปล่า”มือแกร่งยังดึงดันพลิกจนร่างเปรมาตวัดกลับไปนอนหงายโดยมีคนร่างโตทาบทับด้านบน แทรกหัวเข่ากลางหว่างขา“แซค! นี่เลิฟพูดจริงนะคะ ต้องกลับแล้วเช้านี้”“ถ้างั้นมีข้อแ
บทที่ 24**จบ“อือม พูดอะไรคนสวย”เขาเลื่อนลงไปจนกระทั่งถึงเนินทรวงอกใช้ลิ้นตวัดปลายยอดถัน เปรมาเบี่ยงตัวหลบ“ขึ้นมานี่เลย พูดกันก่อนนะคะ”“แล้วคุณจะมีรางวัลอะไรให้ผม”แซคครอบปากบนยอดทรวงดูดแรงจนร่างอวบอิ่มสะท้านแอ่นหยัดรับ“อะไรก็ได้ ขึ้นมานี่นะ หยุดก่อน”รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าคมเข้มทำเธอตาพร่าไปพักหนึ่งเมื่อเขาชะโงกเหนือดวงหน้าของเธอ“จะถามอะไรคนสวย”“คุณจะแต่งงานกับฉันทำไม พูดมานะแซค”“ไม่เห็นยากเลยเลิฟ ผมชอบคุณมากน่ะสิ ไม่สิ ผมรักคุณต่างหาก ใช่ มันต้องเป็นเพราะอย่างนี้ล่ะผมถึงอยากจะแต่งงานกับคุณ”เปรมาถอนหายใจโล่งอกเมื่อแซคยอมพูดคำที่เธออยากจะได้ยิน เปิดปากรับลิ้นที่แทรกเข้าโพรงปาก จูบหนักหน่วงดำเนินไปสักพักจนลมหายใจของเปรมาเริ่มกระชั้น“คุณคิดว่ามันเป็นความรักเหรอคะแซค เรารู้จักกันไม่นานอีกอย่างคุณเคยบอกฉันว่ามันเกิดจากฮอร์โมนในร่างกาย”“เลิฟคนดี ผมอายุปูนนี้แล้ว สามสิบเก้า คุณคิดจริง ๆ หรือว่าผมไม่รู้ว่าความรักมันเป็นยังไง”“อือ แล้วคุณไม่ถามฉันเหรอแซค อา อ่า”เขากัดยอดถันเบา ๆ มือกอบดันขึ้นเหลือบตามองเธอ“ไม่หรอก เพราะคุณต้องรักผมอยู่แล้ว ใช่ไหมคนสวย”“ฮ่า ฮ่า คนหลงตัวเอง”“เอาล่ะ
บทที่ 23“ก๊อก ก๊อก พี่เลิฟคะ สายมากแล้วค่า”แซคคลายอ้อมแขนที่เปรมาหนุนนอนมาตลอดคืน เอนกายไปขอบเตียงตวัดขาลงแล้วจึงคว้าเช็ดตัวของเปรมาสีชมพูสวยพันรอบเอว มือสางเสยผมยุ่งเหยิงพอประมาณ“แอ๊ด”ปาริมาสะดุ้งสุดตัวมองพ่อของคู่หมั้นตาค้าง พ่อของแซมนุ่งผ้าเช็ดตัวสีชมพูของพี่เปรมาเดินออกมาเปิดประตูเพียงผืนเดียว ผมเผ้ายุ่งเหยิงเหมือนคนเพิ่งลุกจากเตียงปาริมาแทบหาเสียงของตัวเองไม่เจอเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น“อะ เออ พ่อคะ พะ พี่เลิฟ เออ จะมาเรียกพะ พี่เลิฟทานข้าวค่ะ”แซคก้มมองว่าที่ลูกสะใภ้ใบหน้าซีดเผือด เขายืนเท้าแขนตรงกรอบประตูใช้มือผลักประตูกว้างออกไปแล้วเบี่ยงตัวเล็กน้อยให้ปาริมาเห็นพี่สาว“ยังไม่ตื่น”ปาริมามองเข้าไปยังเตียงนอนเห็นแต่ผมดำยาวสยายปิดใบหน้า สีผิวน้ำผึ้งตัดกับผ้าปูเตียงสีขาวเขามองลำคอระหงของปาริมาขยับกลืนน้ำลายหลายครั้งก่อนจะหน้าแดงซ่านทั่วใบหน้า“งะ งั้นหนูไปก่อนนะคะ”“ปัง”แซคเดินกลับมายังเตียงนอนก่อนจะล้มตัวนอนต่อ เขาขยับเข้าใต้ผ้าห่มโอบวงแขนรอบร่างอวบอิ่มที่ยังสลบไสล ยิ้มมุมปากเมื่อนึกภาพยามเธอตื่นมาแล้วพบว่าเขาเพิ่งจะไล่ว่าที่ลูกสะใภ้ของเขาไป แต่อันที่ก็เป็นว่าที
บทที่ 22***แซคเดินใกล้จนถึงร่างอวบของเธอ โอบแผ่นหลังดึงรูดซิปลง ดวงตาคมไม่ละออกจากดวงหน้า มือร้อนลวกจับสายเสื้อดึงลงต้นแขน ชุดสวยร่วงหล่นกรอมเท้า“ผมขอต่อสัญญาเลิฟ ต่ออีกยาว ๆ”มือใหญ่ปลดตะขอเสื้อชั้นในปล่อยเต้างามให้เป็นอิสระ มือทาบทรวงอกเคล้นคลึงหนักมือ“คุณทำผมแย่ เลิฟ ผมไม่ชอบมันเลยคนสวย ผมไม่ชอบที่มันควบคุมไม่ได้”เปรมายังมองหน้าคมเข้มเมื่อเขาโน้มลงใกล้ ปากหนาครอบครองปากเย้ายวน รสชาติของไวน์คละคลุ้งไปทั้งโพรงปากมือใหญ่ลูบไล้ไปทั่วร่าง เขาดันเธอแนบกายแกร่งโยกตัวให้ท่อนเนื้อสัมผัสเนินสาว แล้วจึงตวัดแขนโอบร่างอุ้มขึ้นจากพื้นเดินไปยังเตียงแซคมองหญิงสาวที่เขาวางลงบนเตียง ความรู้สึกบางอย่างกระแทกเข้าที่ทรวงอกแรงจนเขาสะเทือน เขายืดกายสูดลมหายใจเข้าแล้วดึงกางเกงในของเปรมาออกจากตัว“พระเจ้า คุณแว็กซ์”เปรมาประหม่าเอียงอาย เธอใช้มือปิดของสงวนไว้ไม่กล้าเปิดออกให้แซคเห็น“มันเป็นคอร์สเพื่อนเจ้าสาวน่ะ”“ไม่ เลิฟ ยกมือออก ผมอยากเห็น”เธอค่อยเปิดออก สายตาเข้มข้นมองเธอนิ่ง เขาหน้าแดงก่ำขึ้นทันทีเมื่อเปรมาเริ่มขยับขายกตั้งชัน“วันนี้เราจะไม่เล่นเกมกันอีกใช่ไหมคนสวย คุณยินยอมพร้อมใจที่จะอยู่กับ
บทที่ 21เปรมามองรอบโต๊ะทรงกลมขนาดใหญ่ มื้อเย็นที่มีแต่คนในครอบครัว แต่นั่นจะเรียกว่ามื้อเย็นก็ไม่ถูกนักเพราะตอนนี้สามทุ่มแล้วเพิ่งจะเริ่มยกจานแรกมาเสิร์ฟ“คุณเลิฟพักที่นี่เป็นยังไงบ้างคะ ขาดเหลืออะไรก็บอกได้นะคะ”เสียงแม่ของแซมบาบาร์ร่าทำให้เปรมาละมือออกจากแก้วไวน์ เธอมองบาบาร์ร่าที่ยังสวยแม้อายุเกือบสี่สิบ ผมบลอนด์ยาวจัดแต่งทรงอย่างดี ชุดเรียบหรูสำหรับทานมื้อค่ำส่งให้บาบาร์ร่าโดดเด่น ยิ่งนั่งข้างแซคทำให้เธอเห็นความเหมาะสมกันทุกประการของคนทั้งคู่มือเรียวของบาบาร์ร่ายังจับแขนแซคไว้เบา ๆ ยามเอ่ยพูด เธอมองไล่ไปยังร่างแกร่งที่ถอดชุดสูทออกแล้ว เหลือเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวเดิมเมื่อกลางวันพับแขนเสื้อขึ้นอย่างเคย“ค่ะ ทุกอย่างดีมากค่ะ”“ถ้าแบบนั้น พักเสียหลาย ๆ วันนะคะ ลิฟจะได้มีเพื่อน”“คงไม่ได้หรอกค่ะ ฉันต้องกลับไปเปิดร้านค่ะ”บาบาร์ร่าส่งเสียงพึมพำเบา ๆ รับรู้ ก่อนจะหันไปคุยกับแซคต่อถึงเรื่องคนในครอบครัวเปรมายกแก้วไวน์ขึ้นดื่มอีกครั้ง เธอเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไรและโทษอาหารที่ทานไปเมื่อกลางวันที่ทำให้เธอมวนในท้องและร้อนไปถึงทรวงอกเสียงหัวเราะทุ้มของแซคดังมาเป็นระยะ ๆ ขณะที่คุยกันกับบา
บทที่ 20เปรมาสำลักน้ำทันทีเมื่อได้ยินคำถามจากเสียงทุ้มเมื่อเขานั่งลงข้างเธอ คริสรีบหยิบผ้าเช็ดปากส่งให้หญิงสาวพรางหัวเราะถูกใจ“นี่สงสัยผมพูดแทงใจดำใช่ไหมครับ”“เปล่าคะ ฉันไม่ได้ชอบเขา”เปรมาปฏิเสธพัลวันหน้าแดงก่ำจากการสำลักน้ำ ประสานสายตาไม่หลบเพื่อแสดงความจริงใจ“ผมไม่เชื่อหรอกครับ พี่ผมละสายตาจากคุณไม่ได้ และคุณก็เช่นกัน”เธอยืดกายขึ้น คิ้วโก่งขมวดมุ่น ถ้าเป็นเช่นที่คริสบอกนั่นหมายความทุกคนก็มองเห็นมันเช่นกัน“อย่าไปเชื่อในสิ่งที่เห็นสิคะ มันอาจจะไม่ใช่แบบนั้นก็ได้”“โอ้ งั้นก็ดีสิครับ ถ้าคุณไม่ได้ชอบพี่ชายของผม ผมก็จะได้สบายใจหน่อย ผมก็ขออนุญาตจีบคุณเลยแล้วกัน”“คริส!!”เธอจ้องดวงตาพราวระยับตรงหน้าและรอยยิ้มกว้างจึงได้รู้ว่าเขากำลังหยอกเธอเล่น เปรมาค่อยผ่อนลมหายใจ“คุณหยอกฉัน”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไม่แน่หรอกนะครับเลิฟ”มีเสียงพูดคุยดังขึ้นเมื่อแซมและบาบาร์ร่าเดินนำคู่หมั้นทั้งสองไปที่โต๊ะตัวยาวด้านหน้าน้องสาวของเธอสวยกว่าใครและใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มมีความสุข เธอภาคภูมิใจในตัวน้องสาวและอยากจะเห็นลิฟมีความสุขเช่นนี้ตลอดไป“ดูเจ้าแซมสิ ดูมีความสุข”เปรมาเอี้ยวหน้ามองคริส หน้าหวานคมยังยิ้ม