บทที่ 5
เปรมาจ้องเขาตรง ๆ เห็นสายตาคมเข้มยังกวาดไล้ไปบนร่างกายของเธอดั่งประเมินตีราคางานที่เขาประมูล และเธอไม่ชอบมันเลยสักนิด
“ผมทำอะไรเลิฟ”
“ก็คุณกำลังกวาดตาประเมินราคาฉันอยู่น่ะสิ แล้วชื่อนั้นมีไว้สำหรับคนที่สนิทเท่านั้น”
แซคยิ้มกว้างจนเปรมาสะอึกสะดุดลมหายใจของตัวเอง เธอคิดว่าเขารู้ตัวดีเลยทีเดียวว่าถ้าเขาทำแบบนี้สาว ๆ ทั้งหลายจะพากันหลอมละลาย
“แต่เรากำลังจะเกี่ยวดองเป็นญาติกัน นั่นยังไม่ถือว่าสนิทกันอีกหรือครับ และผมชอบดูของสวย ๆ งาม ๆ ซึ่งคุณเป็นหนึ่งในนั้น”
บ้าจริง! เปรมาสะบัดหนีดวงตาคมเข้ม เธอรู้สึกว่าเขากำลังเปลื้องผ้าเธอออกทีละชิ้นอย่างช้า ๆ ด้วยสายตา และประเมินว่าเธอเหมาะสมกับครอบครัวของเขาหรือเปล่า
“พูดสิ่งที่คุณคิดดีกว่าคุณฮิวส์”
“สิ่งที่ผมคิดก็คือพวกเขายังเด็กเกินไป”
“พวกเขาไม่เด็กแล้ว ปีหน้าพวกเขาก็อายุยี่สิบซึ่งบรรลุนิติภาวะ”
“นั่นมันเรื่องของปีหน้า แต่ปีนี้พวกเขาเพิ่งสิบเก้าปีเท่านั้น”
“แต่เด็กทั้งสองคนรักกัน และฉันคิดว่าเราควรสนับสนุน”
“เลิฟ พวกเขายังเด็กเกินไป”
แซคเสียงเข้มขึ้นเมื่อพูดถึงเรื่องของลูกชาย เขาเองไม่อยากให้แซมต้องหยุดชีวิตวัยรุ่นเพียงผู้หญิงคนเดียวตั้งแต่อายุยังน้อย แซมควรได้เผชิญโลกกว้างและใช้ชีวิต ทำสิ่งที่ต้องการเพื่อตัวเองก่อนลงหลักปักฐาน
เปรมาหันดวงหน้าคมกลับมา เธอเม้มริมฝีปากเมื่อพยายามพูดลอดไรฟัน
“คุณก็สิบเก้าเมื่อมีแซม คุณฮิวส์”
“บ้าฉิบ! เลิฟ ก็เพราะผมเคยผ่านมันมาก่อนผมถึงรู้ว่าไม่ควรให้พวกเขาแต่งงานกัน”
“อย่ามาสบถใส่ฉัน!”
“งั้นคุณก็อย่าตะวาดผมด้วยเสียง.. เสียงหวาน ๆ ของคุณ”
เปรมาสะบัดหน้าหนีอีกครั้งอย่างเหลืออด เธอมองแก้วกาแฟอเมริกาโน่และเค้กช็อกโกลแลตที่เขาทานเหลือไว้
เขาว่ากันว่าของกินบ่งบอกนิสัย เขาเลือกอเมริกาโน่ก็แสดงว่าเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองมาก กล้าคิดกล้าทำ มีจุดยืนที่หนักแน่นไม่ว่าใครก็ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดได้ ทานคู่กับเค้กช็อกโกแลต หมายถึงเขาเป็นคนโรแมนติกหรือหมายถึงมากรัก พวกเซ็กซ์จัด
แซคมองตามสายตาของเปรมาไปยังแก้วกาแฟและจานเค้กที่เหลือบนโต๊ะ ใคร่สงสัยว่าเธอกำลังคิดอะไรแต่คงไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไรนักถ้าสังเกตจากสายตา
“เอาเป็นว่า ผมไม่ยอมเด็ดขาด”
เปรมาละสายตาจากของบนโต๊ะกลับมาสนใจบทสนทนา พ่อของแซมพูดว่า ไม่ยอมเด็ดขาด! ดวงตาคมรีหรี่ลง
“หมายความว่ายังไงคุณฮิวส์ คำว่าไม่ยอม”
“ผมไม่ยอมให้พวกเขาแต่งงานกันเด็ดขาด และผมจะแน่ใจได้ยังไงว่าพวกคุณเป็นคนยังไง”
เปรมาตกตะลึง เธอเบิกตากว้างจ้องเขา แม้หน้าตาของเขาหล่อเหลาแต่จิตใจช่างสกปรก
“คุณ คุณหมายความว่ายังไงที่บอกว่า ..”
“พี่เลิฟคะ พวกหนูกลับก่อนนะคะ”
เสียงขัดจังหวะแทรกเข้ามา เปรมามองนาฬิกาบนผนังในร้าน จึงตกใจ ไม่น่าเชื่อว่าเวลาผ่านไปเร็วขนาดนี้ เลยเวลาร้านปิดมาสักพักแล้ว
“จ๊ะไปเถอะ ที่เหลือพี่จัดการเอง”
“ค่ะ กลับก่อนนะคะ”
แซคมองตามเปรมาที่ลุกขึ้นจากโต๊ะไปหน้าร้านเพื่อเก็บป้ายและช่วยพนักงานร้านปิดประตูเหล็กลูกกรงแบบเก่าก่อนจะล็อคประตูกระจกด้านใน
ร่างอวบอิ่มเดินกลับมายังแซคที่ลุกขึ้นยืนเต็มตัวแล้ว เขาสูงใหญ่มากทีเดียว ทำให้เธอรีบหยุดเท้าลงเสียก่อนถึงร่างแกร่งพอประมาณ
“เราต้องคุยกันต่อคุณฮิวส์ คุณหมายความยังไงคำว่า พวกคุณเป็นคนยังไง คุณเห็นพวกฉันเป็นคนยังไง”
แซคเริ่มสาวเท้าเข้าใกล้เม่นสาวที่ยืนพองขนอยู่ห่างจากเขา แล้วหยุดลงเมื่อใกล้พอจะกลิ่นของเธอ กลิ่นหอมแปลกประหลาด
“ในชีวิตของผมมีคนหลายจำพวกที่ต้องการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต ซึ่งอาจจะเป็นพวกคุณสองพี่น้อง ฉะนั้นผมแค่ต้องกันไว้ก่อนดีกว่ามานั่งแก้ปัญหาทีหลัง”
เปรมาเบิกตาคมกว้าง สิ่งที่นายแซคกำลังพูดถึงคือพวกเธอสองพี่น้องเป็นพวกนักตกทอง ที่จ้องจับแต่คนรวย ดวงตาคมรีจ้องปากหนาที่ยังพ่นประโยคต่อไป
“โดยเฉพาะแซม เป็นคนหัวอ่อนและเชื่อคนง่าย ผมจะไม่ยอมให้ลูกชายของผมต้องตกเป็นเหยื่อพวกคุณเด็ดขาด”
“คุณมัน มัน เป็นพวกเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ คุณก็เห็นว่าพวกแกรักกันแต่ยังขัดขวาง และพวกฉันก็ไม่เคยคิดต้องการเงินทองของใคร ฉันหาเลี้ยงตัวเองได้”
“รักงั้นเหรอ เลิฟ คุณเคยมีคนรักหรือยังผมถามหน่อย คุณรู้หรือว่ารักน่ะมันเป็นยังไง อีกอย่างคุณอาจเบื่อที่ต้องทำงานหนักมาตลอดเพื่อเลี้ยงดูน้องสาว ใครจะรู้”
เปรมาสะอึก เขาตีเธอตรงจุดแสดงว่าเขาได้สืบข้อมูลของเธอมาอย่างดีก่อนมาหาที่ร้าน
“ฮึ ทำไมเงียบไป คุณไม่รู้หรอกหรือว่าในช่วงวัยรุ่นฮอร์โมนของหนุ่มสาวมันพลุ่งพล่านขนาดไหนเลิฟ”
ร่างอวบอิ่มเริ่มเดินถอยหลังเมื่อแซคก้าวเท้าเข้าใกล้เธออีก จนกระทั่งแผ่นหลังกระทบเคาน์เตอร์จึงทำให้ไม่สามารถถอยได้อีกแล้ว
ร่างสูงใหญ่ย่างเท้าเข้าใกล้โน้มร่างลงใกล้หญิงสาว ใบหน้าแกร่งร้อนชะโงกลงชิดติดแก้มนวลใสจนเธอได้กลิ่นบุหรี่อ่อนจาง
“ความลุ่มหลงเร่าร้อนของฮอร์โมนจะทำให้คนเราตาบอดเห็นผิดเป็นชอบ เห็นสิ่งที่เรียกว่าความใคร่เป็นความรัก แซมกำลังหลั่งเทสโทสเตอโรน และลิฟกำลังมีเอสโตรเจน ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่ทำให้คนทั้งคู่คิดว่าตัวเองกำลังตกหลุมรักกันและกัน”
“คุณมันบ้า!”
เปรมาตะลึงงัน นอกจากหน้าตาดีแล้วพ่อของแซมคงไม่มีอย่างอื่นในตัวให้ชื่นชม อ้อ คงจะเป็นรูปร่างภายนอกอีกอย่างที่พอให้เจริญตา
“คุณมีกลิ่นวนิลาปนอบเชย”
ดวงหน้าหวานคมของเปรมามีสีระเรื่อขึ้นเมื่อจู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนเรื่อง ลมหายใจอุ่นร้อนของแซคยังเป่ารดที่ข้างแก้มนวล แต่แล้วร่างสูงใหญ่พลันยืดกายขึ้นหากแต่ยังใกล้เธอเกินไป
“ผมหิวแล้ว ไปทานข้าวกันแล้วจะได้คุยกันต่อ”
“ไม่ค่ะ เชิญคุณตามสบาย”
“อย่าบอกนะว่าคุณกลัวผม”
เปรมาเบือนหน้าออกจากภาพด้านหน้า แผงอกกว้างอยู่ในระดับสายตาของเธอพอดี กระดุมสามเม็ดที่เขาปลดออกทำให้เห็นขนหน้าอกรำไร
“ฉันไม่ได้กลัวคุณ แต่มันคงไม่เหมาะ เชิญคุณตามสบายเถอะค่ะ”
แซคยังก้มหน้ามองดวงหน้างามที่หันมองทางอื่นที่ไม่ใช่เขา แก้มนวลใสเสียจนเขาอยากใช้นิ้วลูบไล้ เขายิ้มมุมปากก่อนถอยออกเพื่อให้เธอคลายใจ บางครั้งการรุกรวดเร็วในครั้งแรกอาจใช้ไม่ได้ผลกับผู้หญิงบางคน
“ถ้าอย่างนั้น ผมคงพูดให้คุณได้ยินชัดเจนดีแล้ว”
เปรมาหันกลับมาอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด ร่างอวบวิ่งไปหน้าร้านตามชายหนุ่มออกไปหากแต่เจอแต่ความว่างเปล่า
บ้าจริง ทำไมหายไปเร็วขนาดนี้
บทพิเศษกริ๊งงงง!!เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นยามเช้า แสงอาทิตย์ยังทอแสงรำไรขอบฟ้าของคฤหาสน์ชานเมือง“อืมมมม”ร่างอวบอิ่มบิดกายพลิกหาความอบอุ่นข้างกายทันทีเอื้อมมือออกข้ามลำกายแกร่งไปยังโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างเตียงมือเล็กพยายามควานหาทั้ง ๆ ที่ยังหลับตา ร่างอวบทับบนอกแกร่งตะเกียกตะกายไปมา“เลิฟ”เสียงแหบพร่ากดต่ำดังขึ้นทำให้เปรมาปรือตามองอย่างสงสัย แล้วหยิบนาฬิกาปลุกกดปิดได้ในที่สุด“ขอโทษค่ะ เลิฟตั้งปลุกไว้ต้องรีบกลับคาเฟ่แต่เช้า”“มานี่ก่อน”แซคคว้าร่างอวบไว้ได้ทันก่อนที่เปรมาจะก้าวลงจากเตียงใหญ่ ดึงรั้งกระทั่งล้มลงบนกายแกร่งอีกครั้ง“แซค!! เลิฟกำลังจะสายนะคะ”“สายอะไรกัน วันนี้ผมเหมาร้านคุณให้แล้วกัน อยู่กับผมอีกวัน”เปรมาดันตัวขึ้นมองหน้าคมเข้ม ผมยังยุ่งเหยิง ดวงตาหรี่ปรือเปี่ยมเสน่ห์ทางเพศมองเธออย่างมาดหมาย“อย่านะ! เปรมาชอกช้ำหมดแล้ว”แซคค่อยคลี่ยิ้มมองสีหน้าเง้างอดและทีท่าขืนตัวหนี“ผมยังไม่ทันทำอะไรเลย คิดทะลึ่งไปเองหรือเปล่า”มือแกร่งยังดึงดันพลิกจนร่างเปรมาตวัดกลับไปนอนหงายโดยมีคนร่างโตทาบทับด้านบน แทรกหัวเข่ากลางหว่างขา“แซค! นี่เลิฟพูดจริงนะคะ ต้องกลับแล้วเช้านี้”“ถ้างั้นมีข้อแ
บทที่ 24**จบ“อือม พูดอะไรคนสวย”เขาเลื่อนลงไปจนกระทั่งถึงเนินทรวงอกใช้ลิ้นตวัดปลายยอดถัน เปรมาเบี่ยงตัวหลบ“ขึ้นมานี่เลย พูดกันก่อนนะคะ”“แล้วคุณจะมีรางวัลอะไรให้ผม”แซคครอบปากบนยอดทรวงดูดแรงจนร่างอวบอิ่มสะท้านแอ่นหยัดรับ“อะไรก็ได้ ขึ้นมานี่นะ หยุดก่อน”รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าคมเข้มทำเธอตาพร่าไปพักหนึ่งเมื่อเขาชะโงกเหนือดวงหน้าของเธอ“จะถามอะไรคนสวย”“คุณจะแต่งงานกับฉันทำไม พูดมานะแซค”“ไม่เห็นยากเลยเลิฟ ผมชอบคุณมากน่ะสิ ไม่สิ ผมรักคุณต่างหาก ใช่ มันต้องเป็นเพราะอย่างนี้ล่ะผมถึงอยากจะแต่งงานกับคุณ”เปรมาถอนหายใจโล่งอกเมื่อแซคยอมพูดคำที่เธออยากจะได้ยิน เปิดปากรับลิ้นที่แทรกเข้าโพรงปาก จูบหนักหน่วงดำเนินไปสักพักจนลมหายใจของเปรมาเริ่มกระชั้น“คุณคิดว่ามันเป็นความรักเหรอคะแซค เรารู้จักกันไม่นานอีกอย่างคุณเคยบอกฉันว่ามันเกิดจากฮอร์โมนในร่างกาย”“เลิฟคนดี ผมอายุปูนนี้แล้ว สามสิบเก้า คุณคิดจริง ๆ หรือว่าผมไม่รู้ว่าความรักมันเป็นยังไง”“อือ แล้วคุณไม่ถามฉันเหรอแซค อา อ่า”เขากัดยอดถันเบา ๆ มือกอบดันขึ้นเหลือบตามองเธอ“ไม่หรอก เพราะคุณต้องรักผมอยู่แล้ว ใช่ไหมคนสวย”“ฮ่า ฮ่า คนหลงตัวเอง”“เอาล่ะ
บทที่ 23“ก๊อก ก๊อก พี่เลิฟคะ สายมากแล้วค่า”แซคคลายอ้อมแขนที่เปรมาหนุนนอนมาตลอดคืน เอนกายไปขอบเตียงตวัดขาลงแล้วจึงคว้าเช็ดตัวของเปรมาสีชมพูสวยพันรอบเอว มือสางเสยผมยุ่งเหยิงพอประมาณ“แอ๊ด”ปาริมาสะดุ้งสุดตัวมองพ่อของคู่หมั้นตาค้าง พ่อของแซมนุ่งผ้าเช็ดตัวสีชมพูของพี่เปรมาเดินออกมาเปิดประตูเพียงผืนเดียว ผมเผ้ายุ่งเหยิงเหมือนคนเพิ่งลุกจากเตียงปาริมาแทบหาเสียงของตัวเองไม่เจอเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น“อะ เออ พ่อคะ พะ พี่เลิฟ เออ จะมาเรียกพะ พี่เลิฟทานข้าวค่ะ”แซคก้มมองว่าที่ลูกสะใภ้ใบหน้าซีดเผือด เขายืนเท้าแขนตรงกรอบประตูใช้มือผลักประตูกว้างออกไปแล้วเบี่ยงตัวเล็กน้อยให้ปาริมาเห็นพี่สาว“ยังไม่ตื่น”ปาริมามองเข้าไปยังเตียงนอนเห็นแต่ผมดำยาวสยายปิดใบหน้า สีผิวน้ำผึ้งตัดกับผ้าปูเตียงสีขาวเขามองลำคอระหงของปาริมาขยับกลืนน้ำลายหลายครั้งก่อนจะหน้าแดงซ่านทั่วใบหน้า“งะ งั้นหนูไปก่อนนะคะ”“ปัง”แซคเดินกลับมายังเตียงนอนก่อนจะล้มตัวนอนต่อ เขาขยับเข้าใต้ผ้าห่มโอบวงแขนรอบร่างอวบอิ่มที่ยังสลบไสล ยิ้มมุมปากเมื่อนึกภาพยามเธอตื่นมาแล้วพบว่าเขาเพิ่งจะไล่ว่าที่ลูกสะใภ้ของเขาไป แต่อันที่ก็เป็นว่าที
บทที่ 22***แซคเดินใกล้จนถึงร่างอวบของเธอ โอบแผ่นหลังดึงรูดซิปลง ดวงตาคมไม่ละออกจากดวงหน้า มือร้อนลวกจับสายเสื้อดึงลงต้นแขน ชุดสวยร่วงหล่นกรอมเท้า“ผมขอต่อสัญญาเลิฟ ต่ออีกยาว ๆ”มือใหญ่ปลดตะขอเสื้อชั้นในปล่อยเต้างามให้เป็นอิสระ มือทาบทรวงอกเคล้นคลึงหนักมือ“คุณทำผมแย่ เลิฟ ผมไม่ชอบมันเลยคนสวย ผมไม่ชอบที่มันควบคุมไม่ได้”เปรมายังมองหน้าคมเข้มเมื่อเขาโน้มลงใกล้ ปากหนาครอบครองปากเย้ายวน รสชาติของไวน์คละคลุ้งไปทั้งโพรงปากมือใหญ่ลูบไล้ไปทั่วร่าง เขาดันเธอแนบกายแกร่งโยกตัวให้ท่อนเนื้อสัมผัสเนินสาว แล้วจึงตวัดแขนโอบร่างอุ้มขึ้นจากพื้นเดินไปยังเตียงแซคมองหญิงสาวที่เขาวางลงบนเตียง ความรู้สึกบางอย่างกระแทกเข้าที่ทรวงอกแรงจนเขาสะเทือน เขายืดกายสูดลมหายใจเข้าแล้วดึงกางเกงในของเปรมาออกจากตัว“พระเจ้า คุณแว็กซ์”เปรมาประหม่าเอียงอาย เธอใช้มือปิดของสงวนไว้ไม่กล้าเปิดออกให้แซคเห็น“มันเป็นคอร์สเพื่อนเจ้าสาวน่ะ”“ไม่ เลิฟ ยกมือออก ผมอยากเห็น”เธอค่อยเปิดออก สายตาเข้มข้นมองเธอนิ่ง เขาหน้าแดงก่ำขึ้นทันทีเมื่อเปรมาเริ่มขยับขายกตั้งชัน“วันนี้เราจะไม่เล่นเกมกันอีกใช่ไหมคนสวย คุณยินยอมพร้อมใจที่จะอยู่กับ
บทที่ 21เปรมามองรอบโต๊ะทรงกลมขนาดใหญ่ มื้อเย็นที่มีแต่คนในครอบครัว แต่นั่นจะเรียกว่ามื้อเย็นก็ไม่ถูกนักเพราะตอนนี้สามทุ่มแล้วเพิ่งจะเริ่มยกจานแรกมาเสิร์ฟ“คุณเลิฟพักที่นี่เป็นยังไงบ้างคะ ขาดเหลืออะไรก็บอกได้นะคะ”เสียงแม่ของแซมบาบาร์ร่าทำให้เปรมาละมือออกจากแก้วไวน์ เธอมองบาบาร์ร่าที่ยังสวยแม้อายุเกือบสี่สิบ ผมบลอนด์ยาวจัดแต่งทรงอย่างดี ชุดเรียบหรูสำหรับทานมื้อค่ำส่งให้บาบาร์ร่าโดดเด่น ยิ่งนั่งข้างแซคทำให้เธอเห็นความเหมาะสมกันทุกประการของคนทั้งคู่มือเรียวของบาบาร์ร่ายังจับแขนแซคไว้เบา ๆ ยามเอ่ยพูด เธอมองไล่ไปยังร่างแกร่งที่ถอดชุดสูทออกแล้ว เหลือเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวเดิมเมื่อกลางวันพับแขนเสื้อขึ้นอย่างเคย“ค่ะ ทุกอย่างดีมากค่ะ”“ถ้าแบบนั้น พักเสียหลาย ๆ วันนะคะ ลิฟจะได้มีเพื่อน”“คงไม่ได้หรอกค่ะ ฉันต้องกลับไปเปิดร้านค่ะ”บาบาร์ร่าส่งเสียงพึมพำเบา ๆ รับรู้ ก่อนจะหันไปคุยกับแซคต่อถึงเรื่องคนในครอบครัวเปรมายกแก้วไวน์ขึ้นดื่มอีกครั้ง เธอเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไรและโทษอาหารที่ทานไปเมื่อกลางวันที่ทำให้เธอมวนในท้องและร้อนไปถึงทรวงอกเสียงหัวเราะทุ้มของแซคดังมาเป็นระยะ ๆ ขณะที่คุยกันกับบา
บทที่ 20เปรมาสำลักน้ำทันทีเมื่อได้ยินคำถามจากเสียงทุ้มเมื่อเขานั่งลงข้างเธอ คริสรีบหยิบผ้าเช็ดปากส่งให้หญิงสาวพรางหัวเราะถูกใจ“นี่สงสัยผมพูดแทงใจดำใช่ไหมครับ”“เปล่าคะ ฉันไม่ได้ชอบเขา”เปรมาปฏิเสธพัลวันหน้าแดงก่ำจากการสำลักน้ำ ประสานสายตาไม่หลบเพื่อแสดงความจริงใจ“ผมไม่เชื่อหรอกครับ พี่ผมละสายตาจากคุณไม่ได้ และคุณก็เช่นกัน”เธอยืดกายขึ้น คิ้วโก่งขมวดมุ่น ถ้าเป็นเช่นที่คริสบอกนั่นหมายความทุกคนก็มองเห็นมันเช่นกัน“อย่าไปเชื่อในสิ่งที่เห็นสิคะ มันอาจจะไม่ใช่แบบนั้นก็ได้”“โอ้ งั้นก็ดีสิครับ ถ้าคุณไม่ได้ชอบพี่ชายของผม ผมก็จะได้สบายใจหน่อย ผมก็ขออนุญาตจีบคุณเลยแล้วกัน”“คริส!!”เธอจ้องดวงตาพราวระยับตรงหน้าและรอยยิ้มกว้างจึงได้รู้ว่าเขากำลังหยอกเธอเล่น เปรมาค่อยผ่อนลมหายใจ“คุณหยอกฉัน”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไม่แน่หรอกนะครับเลิฟ”มีเสียงพูดคุยดังขึ้นเมื่อแซมและบาบาร์ร่าเดินนำคู่หมั้นทั้งสองไปที่โต๊ะตัวยาวด้านหน้าน้องสาวของเธอสวยกว่าใครและใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มมีความสุข เธอภาคภูมิใจในตัวน้องสาวและอยากจะเห็นลิฟมีความสุขเช่นนี้ตลอดไป“ดูเจ้าแซมสิ ดูมีความสุข”เปรมาเอี้ยวหน้ามองคริส หน้าหวานคมยังยิ้ม