เจคอปปลดกางเกงออกอย่างรวดเร็ว เขาจับร่างบางกระแทกเข้ากับประตูรถโดยไม่สนใจว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บหรือไม่ แต่นาเดียไม่มีเวลาสนใจความเจ็บปวดที่ศีรษะ เธอกำลังตาลุกวาวด้วยความตื่นตระหนก มองท่อนเนื้อขนาดใหญ่ตั้งตระง่านจ่อเข้าหากลางหว่างขา เธอกรีดร้องสุดเสียงอย่างน่าเวทนา เธอกำลังจะถูกเขาข่มขืน!
“ใครก็ได้ช่วยหนูด้วย อย่านะ ผ.อ. อย่า!”
เจคอปดันแก่นกายขนาดมหึมาเสียบเข้าไปในช่องแคบโดยไม่สนใจคำทัดทานของเหยื่อ
“โอ๊ยยยยย”
นาเดียร้องเสียงหลงกับความเจ็บปวดที่กระจุกตัวอยู่ตรงกลางหว่างขา แม้เขาจะทะลวงเข้ามาได้เพียงแค่ส่วนหัว แต่ช่องแคบของเธอก็แทบปริแตก เจคอปไม่รอให้นาเดียมีเวลาบรรเทาความเจ็บ เขาออกแรงดันดุ้นใหญ่เข้าไปอย่างต่อเนื่อง
“กรี๊ดดดดดดดด/อ๊ากกกกกกกก”
ทั้งสองคำรามออกมาพร้อมกับที่อาวุธร้ายทะลุทลวงเข้าไปได้ เลือดสีแดงไหลซึมออกมาตามลำเอ็น นาเดียปล่อยเสียงโฮด้วยความเจ็บปวด แต่เจคอปกลับมองว่ามันเป็นเพียงแค่การแสดง
เลือด ต้องแลกด้วยเลือด...
“ไม่ต้องมาใช้มารยากับฉัน ฉันไม่มีวันหลงกลน้ำตาของผู้หญิงอย่างเธอ” เขาประกบริมฝีปาก ดูดเม้มกลีบปากนุ่มรุนแรง เมื่อเธอไม่อนุญาตให้เขาลุกร้ำ เขาก็ใช้มือบีบบังคับกลีบปากให้อ้าออกจากกัน สอดแทรกลิ้นเข้าไปดูดดื่มความหวานอย่างเร้าร้อน
“อื้อออ ฮึก ฮืออ”
จูบขมขื่นผสมปนเปไปกับหยาดน้ำตามีแต่จะเพิ่มแรงอาฆาตให้กับซาตาน เขารอจนความเจ็บปวดที่แก่นกายทุเลาลง จึงออกแรงดันสะโพกเข้าไปอีกครั้ง
“โอ้วว แน่นฉิบ อ๊ากก”
“โอ๊ยยยย เจ็บบบ ฮืออออ หนูเจ็บบ” นาเดียดิ้นทุรนทุรายหนีจากการคุกคามที่ป่าเถื่อน โชคดีที่ความคับแคบของสถานที่ทำให้เขาเข้ามาในกายเธอได้เพียงแค่ครึ่งเดียว แต่แค่นั้นมันก็สร้างรอยแผลที่เกินจะรับไหวให้ร่างบางแล้ว
“คุณทำแบบนี้กับหนูทำไม ฮึกก หนูเจ็บ เอามันออกไปเถอะนะ หนูขอร้อง ฮืออออ”
“อย่ามาตีหน้าซื่อ ฉันบอกเธอแล้วใช่ไหมว่าเธอหลอกฉันไม่ได้เป็นครั้งที่สอง” เจคอปยังกดสะโพกเข้าใส่ไม่ยั้ง
“หนูไม่เข้าใจว่าคุณพูดเรื่องอะไร โอ๊ยย ยะ อย่า อย่าขยับ อ๊ะ กรี๊ดดด โอ๊ย โอ๊ย โอ๊ย อ๊ะ หนูเจ็บ อ๊าาาส์”
เจคอปกระแทกแก่นกายเข้าใส่ร่องเล็กไม่หยุด เขาเกลียดผู้หญิงตอแหล เกลียดผู้หญิงที่กล้าท้าทายเขา
“ร่านๆอย่างเธอ ต้องเจอกับคนอย่างฉัน รับรองว่าถึงใจเธอแน่นอน” เจคอปบดเบียดร่างกายเข้าไปแนบชิดกับร่างเล็ก เขากระทำการอุกอาจภายในรถที่จอดริมถนน ไม่แคร์สายตาใครหน้าไหนทั้งนั้น หากเขาต้องการ อะไรก็ฉุดเขาไม่อยู่
เจคอปใช้มือรั้งร่างบางให้แอ่นหน้าอกเข้าหาใบหน้า ใช้เพียงปลายนิ้วปลดตะขอยกทรงผ่านเสื้อยืดที่เธอสวมใส่ ใช้มืออีกข้างถลกเสื้อขึ้นจนเต้าอวบสองข้างปรากฏแก่สายตา ไม่รอช้า เขารีบประกบริมฝีปากดูดกินเม็ดถันสีชมพู มืออีกข้างก็บีบเค้นจนเต้าทะลักออกมาตามร่องนิ้ว ช่วงล่างยังคงกระแทกกระทั้นอย่างต่อเนื่อง นาเดียทั้งเจ็บทั้งจุก เธอฝังคมเล็บเข้าที่กลางแผ่นหลังจนเสื้อเชิ้ตเขายับยู่ยี่
“โอ๊ววว นาเดีย เอามันส์มาก ตอดดีฉิบ ซี๊ดดด ตอดแรงๆ อื้มม”
เขาปวดหนึบ ช่องแคบของเธอบีบรัดอาวุธร้ายของเขาจนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เจคอปเร่งความเร็วในการซอยสะโพกขึ้นอีก ใช้ลิ้นช่วยโลมเลียเพื่อให้อาการปวดทุเลาลง แต่เหมือนความซ่านเสียวจะแพ้พ่ายให้กับความเจ็บปวด นาเดียปวดแสบปวดร้อนไปทั้งช่วงล่าง เธอร้องไห้อ้อนวอนจนหมดเรี่ยวแรง
“อ๊ะๆๆ เจ็บ ฮืออ ปล่อยหนู โอ๊ยๆๆ ดะ ได้โปรด ฮืออ ทำแบบนี้ ทะ ทำไม ฮึกๆๆ”
“อ๊าา นาเดียย ซี๊ดดดด มันส์โว๊ยย ตอดแรงๆ แล้วฉันจะให้รางวัลอย่างงาม” เจคอปจูบซับดวงตาบวมช้ำ เขาไม่เคยติดใจรสสวาทของผู้หญิงคนไหนเท่านาเดียมาก่อน เจคอปใช้มือจับสะโพกกลมกลึงกดไว้กับเบาะเพื่อไม่ให้เธอขยับสะโพกหนี เพราะเขากำลังเตรียมตัวจะยิงประตูอย่างต่อเนื่อง เขาไม่อยากพลาดเป้าแม้สักลูกเดียว
“พร้อมนะ หายใจลึกๆ”
นาเดียตาลุกโพลนเมื่อรับรู้ถึงแรงกดล็อคที่สะโพก เธอพยายามจะกรีดร้องห้ามปราม แต่ถูกปากหนาช่วงชิงเข้าปิดปากไว้เสียก่อน ไวเท่าความคิด เจคอปซอยสะโพกเข้าใส่ร่องสวาทที่บวมช้ำถี่ยิบ จนหญิงสาวหูอื้อตาลายไปกับความเจ็บแสบที่แผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่าง
“อื้ออออ อื้อๆๆๆๆ อ๊อยๆๆๆ อื้อออออ”
เสียงร้องครวญครางดังลอดออกมาจากเรียวปาก ในที่สุดนาเดียก็รับรู้ว่าเธอไร้ซึ่งหนทางจะหนีรอดจากชะตากรรมนี้ เธอได้แต่ภาวนาขอให้ทัณฑ์สวาทป่าเถื่อนนี้จบลงเสียที
ความเสียวซ่านก่อตัวขึ้นที่ส่วนโคนดุ้น ก่อนจะค่อยๆเลื่อนตัวมาตามลำเอ็น ไปหาส่วนปลาย “อ๊ากกกกกกกกกกกก”
เขากระตุกปล่อยน้ำเชื้อพันธุ์ดีเข้าใส่เต็มร่องรัก ทันทีที่เขาถอนตัวออก น้ำเมือกและน้ำสีขาวผสมไปกับหยดเลือดก็ทะลักออกมาจนเลอะเบาะ นาเดียหมดเรี่ยวหมดแรง ฟรุบตัวลงกับเบาะ งอเข่าเข้าหาลำตัวเพื่อบรรเทาอาการปวดช้ำด้านล่าง
“ใส่กางเกงซะ ถ้าไม่อยากลงจากรถสภาพนี้”
เขาหันมาสั่งการอย่างไม่ใยดี ก่อนจะออกรถวิ่งฉิวมาจนถึงคอนโด
เสียงบรรเลงบทเพลง Classic จากวง orchestra ชื่อดังระดับโลกกำลังประสานเสียงจากเครื่องดนตรีหลากหลายชนิดขับกล่อมออกมาในบทเพลง 'Four Season'บทเพลงที่มีท่วงทำนองไพเราะที่ฟังกี่ครั้งก็ยังคงตราตรึงหัวใจคนฟัง เหล่าบรรดาคนดังของประเทศอเมริกา ทั้งนายแบบนางแบบชื่อดัง ทั้งเหล่าคณะรัฐมนตรี รวมไปถึงบรรดาไฮโซทั้งหลาย ต่างพร้อมใจกันมารวมตัว ณ Hall ขนาดใหญ่ที่จุคนได้นับหมื่น และหนึ่งในบรรดาคนดังเหล่านั้น ก็รวมถึงศาสตราจารย์ดอกเตอร์นายแพทย์เจคอป บดินพิทักษ์ นายแพทย์ชื่อดังที่พึ่งได้รับการยกย่องจากองกรค์แพทยสภาของอเมริกาให้เป็นนายแพทย์ผู้มากความสามารถซึ่งเป็นแกนนำหลักสำคัญในการพัฒนาวงการแพทย์ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น เพราะในช่วง 15 ปีนับตั้งแต่ที่เขากลับมาดูแลกิจการต่อจากผู้เป็นบิดา เขาก็ค่อยๆขยายสาขาไปจนครอบคลุมทั่วทุกรัฐในอเมริกา ทำให้ชื่อเสียงของเขากลายเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็วในฉายา'อาชาแห่งวงการแพทย์'ทั้งๆที่ได้รับเกียรติจากท่านคณะรัฐมนตรีกลาโหมโดยตรงสำหรับตั๋วที่นั่งชั้นลอยระดับวีไอพี แต่แขกคนสำคัญคนดังกล่าวกลับไม่ได้นั่งอยู่ในที่ที่ถูกจัดไว้ให้หลังม่านพลิ้วไหวบนชั้นลอยระดับวีไอพี ปรากฏร่างของชายหญิง
ตอนพิเศษเล็กๆเจคอปผละออกจากร่างบาง “แต่งตัวสิ”เขาลุกขึ้นจากเตียงพร้อมกับเดินไปหยิบเสื้อผ้าตัวใหม่ที่ดูเป็นทางการออกมาจากตู้เสื้อผ้า“จะไปไหนเหรอคะ” นาเดียเอ่ยถามด้วยความสงสัย มองแผ่นหลังที่กำลังยัดแขนลงไปในเสื้อเชิ้ต“กลับบ้านเดียไง” เขาพูดโดยไม่ได้หันมามองหน้าคนตัวเล็ก จึงไม่เห็นว่าร่างบางมีสีหน้าอึ้งกับคำพูดของเขาแค่ไหน แต่เขาก็พอจะเดาได้ จึงหันกลับมาทั้งที่ยังติดกระดุมไม่เสร็จ “ไปขอลูกสาวจากท่านทั้งสองไง” รอยยิ้มร้ายปรากฏบนใบหน้าคนสูงวัยเขาไม่มีเวลามากพอจะจัดพิธีรีตองอะไรมากมาย เพราะอีกไม่นานก็ต้องกลับอเมริกาแล้ว เขาอดใจรอที่จะบอกข่าวดีให้กับพ่อแม่ที่รออยู่ทางโน้นแทบไม่ไหว อายุจนปูนนี้แล้ว พึ่งจะรู้สึกอยากเลี้ยงลูก“ตอนนี้พี่อายุ 37 คงต้องรีบมีน้องอีกคนไวไวแล้วล่ะ เดี๋ยวแก่เกินจะเดินตามลูกไม่ทัน” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าร่างสูง แต่คนตัวเล็กกลับมีสีหน้าแดงก่ำกับคำพูดชวนทะลึ่ง“บะ บ้าเหรอคะ” นาเดียยิ้มจนแก้มแทบปริ ก่อนร่างกายจะถูกโอบอุ้มจนตัวลอยขึ้นจากพื้น เจคอปถูไถใบหน้ากับหน้าท้องแบนราบ ก่อนจะประทับจูบอย่างแผ่วเบา “ขอให้เป็นลูกสาวทีเถอะ”เจคอปค่อยๆวางคนตัวเล็กลงบนพื้นอย่างท
ย้อนกลับไปเมื่อราวสองเดือนก่อนหน้านี้…เจคอปรับสายจากทางไกล เป็นหมายเลขที่โทรมาจากอเมริกา“ครับป๊า”“ป๊ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับเจค ตอนนี้โรงพยาบาลที่อเมริกากำลังเกิดปัญหาอย่างหนัก ป๊าอยากให้ตาเจมส์หรือเจค เราคนใดคนหนึ่งกลับมาดูแลกิจการที่นี่ แต่ใจป๊าอยากให้ตาเจมส์เป็นคนกลับมา เพราะที่นี่ไม่ได้มีสาขามากมายเหมือนที่ประเทศไทย เจ้าคนเสเพลอย่างตาเจมส์คงจะจัดการได้ไม่เหนือบ่ากว่าแรง” เรื่องสำคัญจากปากคนเป็นพ่อทำให้ผมต้องชะงักฝีเท้าที่กำลังก้าวเดินอยู่ อดนึกถึงน้องชายไม่ได้ จริงอย่างที่พ่อเขาว่า ที่ประเทศไทยมีโรงพยาบาลที่อยู่ใต้อาณัติของครอบครัวเขาอยู่ทั่วเกือบทุกจังหวัด ทำให้ปัญหาและภาระงานที่ต้องรับผิดชอบมีมากมายกว่าที่โน้นมากโข แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า...“แล้วเรื่องงานหมั้นระหว่างหนูมินกับตาเจมส์ไปถึงไหนแล้ว ป๊าอยากให้หมั้นเช้าแล้วก็แต่งเย็นไปเลยทีเดียว ตอนตาเจมส์กลับมาจะได้พาหนูมินกลับมาด้วย ซินดี้เขาคิดถึงหนูมินน่าดู” ในที่สุดคำถามที่ผมกลัวคนเป็นพ่อจะถามก็หลุดออกมาจนได้ ทั้งๆที่งานหมั้นระหว่างตาเจมส์กับยัยมินควรจะเสร็จลุล่วงเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว แต่เพราะปัญหาหลายอย่างที่เกิดขึ้น ทำให้ยังคา
“อ๊ะ พะ... พี่เจค” ไม่ทันที่ร่างบางจะทันได้เอ่ยความใน ปากหนาก็ชิงประกบจาบจ้วงเอาทุกคำที่คิดว่าร่างบางจะเอ่ยคำปฏิเสธออกมา นาเดียเบิกตามองเขาด้วยความตื่นตะลึง เขาหมายความว่าอะไร เขารู้แล้วเหรอว่าเธอท้อง แต่เขาจะรู้ได้ยังไง“อื้มมม อ่ะ...พะ... อื้มมม” ครั้นจะส่งเสียงอะไรก็ตามที่คิดอยากจะพูด เจคอปจะคอยส่งลิ้นเข้าหาเพื่อห้ามปรามเธอเสียทุกครั้งไป จนร่างบางหมดความพยายามที่จะเอ่ยถามข้อสงสัย ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความสุขสมที่เขาปรนเปรอให้ มือเล็กที่เคยดันอยู่ตรงแผงอกเปลี่ยนไปโอบรอบลำคอของเขาเอาไว้ ท่าทางเหมือนจะไม่ได้ปฏิเสธเรื่องลูกของเขาทำให้นาเดียเกิดความหวังเล็กๆขึ้นในใจเจคอปหลับตาแน่นก่อนจะคำรามออกมาเบาๆเมื่อได้ปลดปล่อยน้ำเชื้อพันธุ์ดีเข้าสู่ร่างกายคนตัวเล็กสมดังตั้งใจ เขาแช่ร่างกายค้างไว้ในตัวเธอ หวังให้ลูกๆนับพันล้านตัววิ่งเข้าไปหาไข่ใบเล็กๆเพียงใบเดียวที่อยู่ในร่างกาย เขาตั้งใจจะผูกมัดเธอด้วยวิธีที่เห็นแก่ตัว โดยที่ไม่รู้เลยว่าเขาได้ทำสำเร็จไปตั้งแต่ครั้งแรกที่ตั้งใจแล้ว“ถ้ามีเจคอปน้อยอยู่ในท้องเธอ เธอก็จะหนีพี่ไปไหนไม่ได้อีก” เขากระซิบความในใจแสนชั่วร้ายข้างใบหูคนตัวเล็ก และนั่นทำให้เธ
เปลือกตาปิดสนิทค่อยๆเปิดออก เผยให้เห็นแววตาที่สะท้อนแต่เพียงความเจ็บปวด เขายังไม่ได้หลับ เขาแค่รอดูว่ายัยตัวเล็กกำลังคิดจะทำอะไรกันแน่เขารู้ตัวตั้งแต่ตอนที่เปิดตู้เสื้อผ้าแล้ว มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเสื้อผ้าของนาเดียหายไป เขาเหลือบมองไปยังโต๊ะก็พบว่าข้าวของต่างๆของเธอหายไปด้วย เธอกำลังคิดจะไปจากเขาบางทีการที่ต้องทนอยู่กับผู้ชายอารมณ์ร้อนอย่างเขามันคงทำให้เธอมีแต่ความทุกข์ บางทีสิ่งที่เขาพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองมาตลอดมันคงยังไม่ดีพอสำหรับเธอ บางทีความรักของเขามันคงไม่มีค่าพอจะเหนี่ยวรั้งเธอไว้บางที... เขาคงต้องปล่อยเธอไปเสียทีหัวใจดวงน้อยบีบรัดรุนแรงจนเกิดอาการเจ็บปวดรวดร้าว ภาพที่สะท้อนอยู่ในดวงตาพร่าเบลอเพราะเจ้าของดวงตามองมันผ่านม่านน้ำตาท้วมท้น นาเดียกวาดตามองไปรอบๆ คอนโดขนาดใหญ่ที่สร้างความทรงจำให้กับเธอมากมายทั้งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และคราบน้ำตา...หญิงสาวค่อยๆปิดเปลือกตาลง คล้ายจะเป็นการตัดใจจากผู้ชายอีกคนที่ยังคงนอนหลับสนิทอยู่ในห้อง มือเล็กเอื้อมไปจับลูกบิดประตูก่อนจะคาทิ้งไว้อย่างนั้นประตูบานเดียวกันนี้ที่เธอเคยเปิดมันออกเพื่อพาตัวเองออกไปจากห้องที่ไม่เคยอยากจะทนอยู่แม้
กิจวัตรยามเช้าระหว่างนาเดียกับเจคอปยังคงดำเนินไปตามปกติเหมือนเช่นทุกวัน เพียงแค่ไม่มีการสนทนาระหว่างทั้งคู่ไม่มีการเดินจับมือลงมาจากคอนโดไม่มีการจูบลาก่อนจะแยกกันไปทำงานไม่มีการส่งข้อความหาตลอดทั้งวันและไม่มีเธอหลงเหลืออยู่ในสายตาของเขาอีกแล้วก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำงานของเจคอปดังขึ้น “เข้ามา”คำอนุญาตจากเจ้าของห้องทำให้คนที่อยู่ด้านนอกเปิดประตูเข้าไปด้านใน เจมส์มาร์มองพี่ชายของตัวเองกำลังง่วนอยู่กับเอกสารกองโต เจคอปยังอยู่ในสภาพเดิมเหมือนที่เขาแวะมาเมื่อตอนเช้าก่อนเข้าผ่าตัดไม่มีผิด และสภาพของผู้หญิงอีกคนที่เขาเห็นเมื่อสักครู่ ใบหน้าหมองเศร้าไม่ต่างกันเลย นี่คงจะยังไม่ได้ปรับความเข้าใจกันอีกสินะ“มีธุระอะไร” น้ำเสียงเย็นชาแบบที่อีกฝ่ายมักจะใช้เวลามีเรื่องทุกข์ใจหรืออยากซ่อนความรู้สึก มีหรือที่คนเป็นน้องอย่างเขาจะดูไม่ออก“เมื่อวานพี่คุยกับนาเดียรึยังครับ” เจมส์มาร์เอ่ยถามโดยไม่เกรงใจ เขานั่งลงโดยไม่รอให้คนตรงหน้าอนุญาต อยู่กับเจคอปมาร่วม 30 ปี พึ่งจะเคยเห็นพี่ชายมีความรัก แล้วน้องชายอย่างเขาจะยอมให้มันพังทลายลงเพียงเพราะความเย็นชาของคนตรงหน้าได้อย่างไร“ไม่มีอะไรต